[Update] TOP 5 โรงเรียนนานาชาติน่าเรียนที่สุดในกรุงเทพ ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย | โรงเรียนอินเตอร์ – NATAVIGUIDES

ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศธุรกิจที่ชาวต่างชาติจับตามองและเข้ามาทำงานกันเป็นจำนวนมากประเทศหนึ่ง และเมืองไทยเป็นประเทศที่เปิดกว้างบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใด ศาสนาใด คนไทยก็พร้อมต้อนรับให้เข้ามาเป็นประชาชนของประเทศ จึงเห็นได้ว่ามีชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน หรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ดังนั้น จึงมีสถาบันต่างๆ รองรับชาวต่างชาติเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น

เช่นเดียวกับโรงเรียนนานาชาติ ที่เปิดหลักสูตรภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทั้งเด็กไทยและต่างชาติเข้ามาเรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆ ร่วมกัน บทความนี้จึงมาแนะนำโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุด 5 อันดับ ในกรุงเทพมหานคร ใจกลางเมืองหลวงเพื่อใช้ตัดสินใจสำหรับผู้ที่จะเข้ามาศึกษาในประเทศไทย

อันดับ 1 Bangkok Patana School
โรงเรียนบางกอกพัฒนา เป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษ ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยหลักสูตรวิธีการที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย โรงเรียนบางกอกพัฒนา นำเสนอโปรแกรมที่สร้างสรรค์เชิงโต้ตอบ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดและคุณลักษณะส่วนบุคคลให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมด้วยคณะครูที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น ด้านดนตรี, ศิลปะ, PE, ICT, วัฒนธรรมไทยและภาษาต่างประเทศ มุ่งสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งทางด้านวิชาการและสังคม นักเรียนของเราทุกคนจะต้องสามารถรับมือกับวิชาการต่างๆ ได้ ปรับตัวและยืดหยุนในแนวทางการเรียนรู้ มีไหวพริบสามารถพลิกแพลงความรู้ได้หลายทาง บริหารจัดการเวลาได้ นอกจากนี้ โรงเรียนบางกอกพัฒนาเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่คนดังในประเทศไทยเมื่อตอนยังเด็ก เป็นศิษย์เก่ากันหลายท่าน เช่น อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, หลุยส์ สก๊อต, ทาทา ยัง

ค่าเทอมโรงเรียนบางกอกพัฒนา
ค่าแรกเข้า (สำหรับนักเรียนใหม่เท่านั้น) = 260,000 บาท
ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 = 409, 200 – 641,700 บาท/ปี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 = 659,800 – 796,600 บาท/ปี

เว็บไซต์โรงเรียนบางกอกพัฒนา : https://www.patana.ac.th/

อันดับ 2 Harrow International School Bangkok
โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงเรียนนานาชาติแบบประจำในระบบอังกฤษที่มีอายุยาวนานที่สุดในเอเชีย ที่นางเอกสาวอย่าง ญาญ่า อุรัสยา ก็เคยเป็นนักเรียนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน โดยเปิดรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นสูงสุด (Sixth Form) หรือ อายุ 2-18 ปี มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงเรียนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ ประกอบด้วย โรงยิมขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามกีฬาในที่ร่ม สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส ห้องเรียนที่ทันสมัย
ทางโรงเรียนยังได้สร้างตึกเรียนรู้ ศิลปะ ความสร้างสรรค์ และงานช่าง (Creative Performing Arts Centre) เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และสร้างสรรค์งานศิลปะในแขนงต่าง ๆ ได้รอบด้าน ตลอดจนถึงการออกแบบที่ใช้เทคโนโลยี, STEAM งานศิลปะสาขาการละคร และห้องเรียนดนตรีทีสมบูรณ์แบบ หอพักประจำสำหรับนักเรียนประจำ อยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและปลอดภัยภายในขอบรั้วเดียวกับโรงเรียน อบอุ่นเหมือนบ้านของเด็กๆ ในการอยู่หอพักประจำของโรงเรียน

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์
Pre Nursery : 439,000 – 499,000 บาท/ปี
Nursery : 529,000 – 609,000 บาท/ปี
Reception : 624,500 บาท/ปี
Year 1 – Year 5 = 729,900 บาท/ปี
Year 6 – Year 8 = 813,500 บาท/ปี
Year 9 – Year 11 = 905,500 บาท/ปี
Year 12 – Year 13 = 949,800 บาท/ปี

เว็บไซต์โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ : https://www.harrowschool.ac.th/

อันดับ 3 ISB International School Bangkok

โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ เป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศไทยและเอเชีย โดยเปิดสอนหลักสูตรระบบการสอนตามแบบอเมริกาเหนือ (อเมริกาและแคนาดา) และยึดหลักสูตรแบบ child-centered (ให้เด็กเป็นศูนย์กลางในการเรียนการสอน) ภายใต้บรรยากาศการเรียนที่ท้าทาย สร้างสรรค์และสนุกสนาน โดยหลักสูตรของระดับชั้นประถมนั้น มีวิชาพื้นฐานที่นักเรียนจะได้ศึกษา โดยดาราไทยที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ เช่น เหม่เหม ธัญญวีร์ นักแสดงสาวหน้าใหม่แห่งวงการจอแก้ว

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ
ค่าแรกเข้าสำหรับนักเรียนใหม่เท่านั้น = 276,000 บาท/เทอม
ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 = 850,000 บาท/ปี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 = 1,003,000 บาท/ปี

เว็บไซต์โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ https://www.isb.ac.th/

อันดับ 4 NIST International School Bangkok
โรงเรียนนานาชาตินิสท์ เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนตามหลักสูตร International Baccalaureate หรือ IB ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา (Primary Year Program) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนก่อนก้าวไปสู่ระดับ IB Middle Years (Years 7-11) และ Pre-University Diploma (Years 12-13) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 โรงเรียนในกรุงเทพฯ เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นโรงเรียนที่ได้การยอมรับจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอัตรานักเรียนต่างชาติที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ถึง 75% โรงเรียนนานาชาตินิสท์จึงเป็นโรงเรียนแรกๆ ที่ผู้ปกครองเก็บไว้เป็นตัวเลือก

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาตินิสท์
ค่าแรกเข้าสำหรับนักเรียนใหม่ = 265,500 บาท
ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 = 491,000 – 653,100 บาท/ปี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 = 753,900 – 893,200 บาท/ปี

เว็บไซต์โรงเรียนนานาชาตินิสท์ https://www.nist.ac.th/

อันดับ 5 Shrewsbury International School

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ เป็นโรงเรียนยอดนิยมและดีที่สุดในประเทศ เด็กไทยที่ไปเป็นศิลปินจีน-เกาหลี เตนล์ วง WayV, NCT, Super M ศิลปินจีน-เกาหลี ภายใต้ต้นสังกัด SM Entertainment ก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้เช่นกัน โดยเปิดการเรียนการสอนระดับชั้นประถมศึกษาที่โดยรวมว่า The Junior School โดยหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นเป็นระบบของอังกฤษ (English National Curriculum) The Junior School ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองระดับ คือ the Pre-Prep School (เตรียมประถมศึกษา) เรียกว่า Year 1 – Year 2 นักเรียนอายุ 5 – 7 ปี ระยะเวลาศึกษา 2 ปีและ the Prep School (ประถมศึกษา) เรียกว่า Year 3 – Year 8 นักเรียนอายุ 8-13 ปี ระยะเวลาการศึกษา 6 ปี โดยมีเนื้อหาหลักที่นักเรียนจะได้เรียน คือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปะ และการใช้ชีวิต

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่
ค่าแรกเข้าสำหรับเข้านักเรียนใหม่ 175,000 บาท
ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ที่ประมาณ 516,300 – 700,200 บาท/ปี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประมาณ 615,600 – 927,300 บาท/ปี

เว็บไซต์โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ : https://www.shrewsbury.ac.th/

เขียน/เรียบเรียง : ningchary

Class of 2020

“On the very first day I came to this school, I had no clue that MUIDS would change my life. It gave me numerous opportunities to learn inside and outside my classes. My teachers were supportive and enthusiastic; they always pushed me to reach my full potential in both academics and life skills, guiding me to a path I never knew existed.”