6 วิธี ทำรักให้ซาบซ่า (Health plus)

         

ศาสตร์การทำรักแบบตันตระ อาจทำให้คุณนึกถึงการมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนและสามารถร่วมรักได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง แต่อันที่จริงแล้วปรัชญาทั้งหมดของศาสตร์ดังกล่าว มุ่งเน้นการมีความรักที่แนบแน่นและความสุขในชีวิตคู่

         

การมีเซ็กส์ที่ถึงจุดสุดยอดและการร่วมรักได้ยาวนานทั้งคืน เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รับรู้เกี่ยวกับศาสตร์การทำรักแบบตันตระ แต่อย่าเพิ่งตกใจเทคนิคง่าย ๆ ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด นี่เป็นการช่วยจุดไฟรักที่ใกล้จะมอดให้กลับร้อนฉ่าได้อีกครั้ง แถมยังช่วยกระชับความรักของคุณให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก

          “ศาสตร์ตันตระสอนว่า การสัมผัสลูบไล้กันและกันในจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่คุณอยากให้คู่รักของคุณได้สัมผัส จะช่วยเพิ่มอารมณ์รักใคร่และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นซึ่งกันและกัน เป็นการเร่งเร้าอารมณ์พิศวาสให้คุกรุ่น” แคสซานดร้า โลริอัส ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การทำรักแบบตันตระกล่าว

         

“การทำเช่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์รักให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่รักกันซู่ซ่าแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว”

และการถึงจุดสุดยอดเป็นผลพลอยได้ที่สร้างความพึงพอใจ นี่เป็นสุดยอดปรารถนาที่คุณไม่อาจปฏิเสธได้ ต่อไปนี้คือเทคนิคง่าย ๆ จากผู้เชี่ยวชาญของเรา

จัดฉาก

          การสร้างบรรยากาศให้วาบหวามเป็นกุญแจสำคัญของศาสตร์การทำรักแบบตันตระ “ควรจัดห้องนอนให้สวยงาม” ดร.จูดี้ คูเรียนสกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์บำบัดกล่าว “วางเทียนไขรอบ ๆ ห้อง ตกแต่งโคมไฟด้วยผ้าชีฟองหรือผ้าไหม หรือโรยกลีบกุหลาบบนผ้าปูเตียง” การทำเช่นนี้เพื่อสร้างความรู้สึกและบรรยากาศในการร่วมรักให้แตกต่างไปจากที่เคยเป็น ควรเลือกตกแต่งด้วยสีม่วง ว่ากันว่าเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิง

          “การอาบน้ำด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่คุณสองคนได้ชำระล้างร่างกายให้กันด้วยความรัก” เธอกล่าว “ขั้นต่อไปคือการนวด เป็นการสำรวจและสัมผัสร่างกายของกันและกัน ซึ่งไม่ได้มุ่งแต่เรื่องการมีเซ็กส์เพียงอย่างเดียว”

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณชอบโหมโรงก่อนมีเซ็กส์

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอ

หายใจลึก ๆ

          ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การทำรักแบบตันตระยังกล่าวด้วยว่า การหายใจเป็นจังหวะสอดประสานกัน จะช่วยให้คุณกับคู่รักหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน “ท่าร่วมรักที่เหมาะกับการทำเช่นนี้คือท่า spoon” จูดี้แนะ “ผู้ชายนอนอยู่ด้านหลังผู้หญิง ให้คู่รักของคุณวางมือของเขารอบตัวคุณ มือของเขาจะวางอยู่บริเวณทรวงอกหรือบริเวณหน้าท้องคุณก็ได้ เมื่อจัดท่าทางได้เรียบร้อย คุณต้องหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ โดยเขาต้องหายใจตามคุณ หรือจะนั่งหันหน้าเข้าหากันและหายใจเข้าออกในจังหวะเดียวกัน กำหนดลมหายใจระหว่างออแกสซั่ม ขณะจวนถึงจุดสุขสุดยอด หายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนออกอย่างช้า ๆ ทำให้ออแกสซั่มดูเหมือนยืดออกไปอีก 2-3 วินาท”

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณกับคู่รักชอบความพร้อมเพรียง

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

ถ้าเริ่มต้นแล้วมีอาการมึนงง ผะอืด ผะอม จงหายใจด้วยจังหวะสม่ำเสมอ

ลืมตา

          เรามักหลับตาขณะมีเซ็กส์ การเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยให้คุณและคู่รักสื่อความรู้สึกถึงกันได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านตันตระเซ็กส์เรียกการกระทำเช่นนี้ว่า “การสบตากัน”

          “หากคุณสองคนต้องการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากขึ้น ให้ลืมตาและสบตากันและกันขณะร่วมรัก” แคสซานดร้ากล่าว “เริ่มจากมองดูกันและกัน อาจพูดถึงสิ่งที่คุณมองเห็นและความรู้สึกที่เกิดขึ้น” อย่าวิตกหากคุณสองคนจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ คิดซะว่าเซ็กส์เป็นเรื่องสนุก

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณต้องการความรู้สึกที่ผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับคู่รัก

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

หากทำให้คุณรู้สึกอึดอัดขณะมีเซ็กส์

เขียนจดหมายรัก

          “เลือกบทกลอนสั้น ๆ คุณอาจแต่งขึ้นเองหรือจะคัดลอกบทกลอนของผู้อื่นก็ได้” อัล ลิงค์ และพาล่า โคปแลนด์ ผู้เขียนเรื่อง Soul Sex : Tantra For Two กล่าว “หรือเขียนข้อความรักแล้วอ่านให้คู่รักของคุณฟัง เพื่อเพิ่มความวาบหวิวและโรแมนซ์ ให้เปลื้องผ้าออกและผลัดกันเขียนข้อความรักบนเรือนร่างของแต่ละฝ่าย พร้อมถ่ายภาพเรือนร่างที่มีข้อความบอกรัก จากนั้นต่างฝ่ายต่างผลัดกันล้างข้อความที่เขียนไว้ออก”

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณอยากลองอะไรใหม่ ๆ และชอบความแปลกใหม่

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

ถ้าคุณรู้สึกแค่ว่าตัวเองเป็นเหมือนฝาผนังที่ถูกขีดเขียนข้อความ

เล่นเกมหยินหยาง

          วิธีนี้คือให้คุณหรือคู่รักคนใดคนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก (หยาง) บอกความปรารถนาของตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายคือฝ่ายรับ (หยิน) ต้องทำหน้าที่เติมเต็มความปรารถนาของอีกฝ่าย งานนี้ไม่มีเรื่องของเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง คุณอาจขอให้เขาปรุงอาหารให้ทาน นวดเท้าให้คุณ หรืออะไรก็ได้ที่คุณชอบ คุณอาจนำสถานการณ์การเป็นฝ่ายรุกของคุณมาใช้ในการร่วมรักด้วยก็ได้ บอกเขาว่าคุณต้องการให้เขาสัมผัสคุณที่ตรงไหน เมื่อไร และอย่างไร “นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองทำสิ่งที่คุณใฝ่ฝันถึงเสมอ” แคสซานดร้า บอก

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณอยากเรียนรู้การเป็นฝ่ายเรียกร้องและพอใจที่ได้รับการตอบสนอง

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

ถ้าคนที่เป็นฝ่ายหยินงีบหลับ

ให้การตอบสนเอง

          คู่รักของคุณอ่านใจคุณไม่ออก ตันตระเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการสื่อสารในทุก ๆ ด้านของความสัมพันธ์ แค่คุณสามารถเอ่ยปากบอกให้อีกฝ่ายทราบถึงความต้องการของคุณ และสามารถแสดงความเห็นต่อสิ่งที่ได้รับ ลองใช้เทคนิคแสดงความเห็นต่อไปนี้ เพื่อให้ตัวคุณได้รับความพึงพอใจ ขณะเดียวกันคู่รักของคุณก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นผลจากสิ่งที่เขากระทำต่อคุณ “เอ่ยปากชมสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ” เช่น ที่รักคะ ฉันชอบสัมผัสแผ่วเบาที่คุณทำกับ…ของฉัน จากนั้นขอร้องให้เขาทำเช่นนี้อีกครั้ง … ทำแบบนี้อีกสิคะ แต่ทำให้เร็วขึ้นอีกนิดนะคะ …  ให้คุณเอ่ยปากบอกความรู้สึก … ใช่ นั่นแหละค่ะ โอ้ว!” ซูซี่อธิบาย

         

วิธีนี้ลอง :

ถ้าคุณต้องการเป็นฝ่ายให้และได้รับความพึงพอใจมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

         

 

ควรหลีกเลี่ยง :

ถ้าคุณได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว

สนุกกับตันตระเซ็กส์

          “ไอเดียเกี่ยวกับตันตระเซ็กส์เป็นเรื่องที่ท้าทายความกล้า ซึ่งคุณต้องค่อย ๆ เรียนรู้ จูเลีย โคล นักบำบัดด้านจิตวิทยาเพศสัมพันธ์ และผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus บอก “วิธีหนึ่งที่น่าลองคือการสวมชุดนอนหรือชุดชั้นในเซ็กซี่ ซึ่งสามารถจุดไฟปรารถนาให้ฝ่ายชายได้ไม่น้อย เขาจะชื่นชมคุณมากขึ้น หากคุณเลือกชุดให้เหมาะกับตัวเอง เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ยามอยู่ต่อหน้าเขา ระหว่างที่บทรักของคุณกำลังดำเนินอยู่ คุณอาจไม่จำเป็นต้องปลดชุดของคุณออกหมดทุกชิ้นก็ได้ วิธีนี้จะทำให้บรรยากาศแห่งรักของคุณน่าตื่นเต้น น่าค้นหา แปลกใหม่ ไม่จำเจ”

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

No.47 มกราคม 2553

“ศาสตร์ตันตระสอนว่า การสัมผัสลูบไล้กันและกันในจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่คุณอยากให้คู่รักของคุณได้สัมผัส จะช่วยเพิ่มอารมณ์รักใคร่และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นซึ่งกันและกัน เป็นการเร่งเร้าอารมณ์พิศวาสให้คุกรุ่น” แคสซานดร้า โลริอัส ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การทำรักแบบตันตระกล่าวการสร้างบรรยากาศให้วาบหวามเป็นกุญแจสำคัญของศาสตร์การทำรักแบบตันตระ “ควรจัดห้องนอนให้สวยงาม” ดร.จูดี้ คูเรียนสกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์บำบัดกล่าว “วางเทียนไขรอบ ๆ ห้อง ตกแต่งโคมไฟด้วยผ้าชีฟองหรือผ้าไหม หรือโรยกลีบกุหลาบบนผ้าปูเตียง” การทำเช่นนี้เพื่อสร้างความรู้สึกและบรรยากาศในการร่วมรักให้แตกต่างไปจากที่เคยเป็น ควรเลือกตกแต่งด้วยสีม่วง ว่ากันว่าเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิง”การอาบน้ำด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่คุณสองคนได้ชำระล้างร่างกายให้กันด้วยความรัก” เธอกล่าว “ขั้นต่อไปคือการนวด เป็นการสำรวจและสัมผัสร่างกายของกันและกัน ซึ่งไม่ได้มุ่งแต่เรื่องการมีเซ็กส์เพียงอย่างเดียว”ถ้าคุณชอบโหมโรงก่อนมีเซ็กส์ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การทำรักแบบตันตระยังกล่าวด้วยว่า การหายใจเป็นจังหวะสอดประสานกัน จะช่วยให้คุณกับคู่รักหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน “ท่าร่วมรักที่เหมาะกับการทำเช่นนี้คือท่า spoon” จูดี้แนะ “ผู้ชายนอนอยู่ด้านหลังผู้หญิง ให้คู่รักของคุณวางมือของเขารอบตัวคุณ มือของเขาจะวางอยู่บริเวณทรวงอกหรือบริเวณหน้าท้องคุณก็ได้ เมื่อจัดท่าทางได้เรียบร้อย คุณต้องหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ โดยเขาต้องหายใจตามคุณ หรือจะนั่งหันหน้าเข้าหากันและหายใจเข้าออกในจังหวะเดียวกัน กำหนดลมหายใจระหว่างออแกสซั่ม ขณะจวนถึงจุดสุขสุดยอด หายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนออกอย่างช้า ๆ ทำให้ออแกสซั่มดูเหมือนยืดออกไปอีก 2-3 วินาท”ถ้าคุณกับคู่รักชอบความพร้อมเพรียงถ้าเริ่มต้นแล้วมีอาการมึนงง ผะอืด ผะอม จงหายใจด้วยจังหวะสม่ำเสมอเรามักหลับตาขณะมีเซ็กส์ การเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยให้คุณและคู่รักสื่อความรู้สึกถึงกันได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านตันตระเซ็กส์เรียกการกระทำเช่นนี้ว่า “การสบตากัน””หากคุณสองคนต้องการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากขึ้น ให้ลืมตาและสบตากันและกันขณะร่วมรัก” แคสซานดร้ากล่าว “เริ่มจากมองดูกันและกัน อาจพูดถึงสิ่งที่คุณมองเห็นและความรู้สึกที่เกิดขึ้น” อย่าวิตกหากคุณสองคนจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ คิดซะว่าเซ็กส์เป็นเรื่องสนุกถ้าคุณต้องการความรู้สึกที่ผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับคู่รักหากทำให้คุณรู้สึกอึดอัดขณะมีเซ็กส์”เลือกบทกลอนสั้น ๆ คุณอาจแต่งขึ้นเองหรือจะคัดลอกบทกลอนของผู้อื่นก็ได้” อัล ลิงค์ และพาล่า โคปแลนด์ ผู้เขียนเรื่อง Soul Sex : Tantra For Two กล่าว “หรือเขียนข้อความรักแล้วอ่านให้คู่รักของคุณฟัง เพื่อเพิ่มความวาบหวิวและโรแมนซ์ ให้เปลื้องผ้าออกและผลัดกันเขียนข้อความรักบนเรือนร่างของแต่ละฝ่าย พร้อมถ่ายภาพเรือนร่างที่มีข้อความบอกรัก จากนั้นต่างฝ่ายต่างผลัดกันล้างข้อความที่เขียนไว้ออก”ถ้าคุณอยากลองอะไรใหม่ ๆ และชอบความแปลกใหม่ถ้าคุณรู้สึกแค่ว่าตัวเองเป็นเหมือนฝาผนังที่ถูกขีดเขียนข้อความวิธีนี้คือให้คุณหรือคู่รักคนใดคนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก (หยาง) บอกความปรารถนาของตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายคือฝ่ายรับ (หยิน) ต้องทำหน้าที่เติมเต็มความปรารถนาของอีกฝ่าย งานนี้ไม่มีเรื่องของเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง คุณอาจขอให้เขาปรุงอาหารให้ทาน นวดเท้าให้คุณ หรืออะไรก็ได้ที่คุณชอบ คุณอาจนำสถานการณ์การเป็นฝ่ายรุกของคุณมาใช้ในการร่วมรักด้วยก็ได้ บอกเขาว่าคุณต้องการให้เขาสัมผัสคุณที่ตรงไหน เมื่อไร และอย่างไร “นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองทำสิ่งที่คุณใฝ่ฝันถึงเสมอ” แคสซานดร้า บอกถ้าคุณอยากเรียนรู้การเป็นฝ่ายเรียกร้องและพอใจที่ได้รับการตอบสนองถ้าคนที่เป็นฝ่ายหยินงีบหลับคู่รักของคุณอ่านใจคุณไม่ออก ตันตระเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการสื่อสารในทุก ๆ ด้านของความสัมพันธ์ แค่คุณสามารถเอ่ยปากบอกให้อีกฝ่ายทราบถึงความต้องการของคุณ และสามารถแสดงความเห็นต่อสิ่งที่ได้รับ ลองใช้เทคนิคแสดงความเห็นต่อไปนี้ เพื่อให้ตัวคุณได้รับความพึงพอใจ ขณะเดียวกันคู่รักของคุณก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นผลจากสิ่งที่เขากระทำต่อคุณ “เอ่ยปากชมสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ” เช่น ที่รักคะ ฉันชอบสัมผัสแผ่วเบาที่คุณทำกับ…ของฉัน จากนั้นขอร้องให้เขาทำเช่นนี้อีกครั้ง … ทำแบบนี้อีกสิคะ แต่ทำให้เร็วขึ้นอีกนิดนะคะ … ให้คุณเอ่ยปากบอกความรู้สึก … ใช่ นั่นแหละค่ะ โอ้ว!” ซูซี่อธิบายถ้าคุณต้องการเป็นฝ่ายให้และได้รับความพึงพอใจมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ถ้าคุณได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว”ไอเดียเกี่ยวกับตันตระเซ็กส์เป็นเรื่องที่ท้าทายความกล้า ซึ่งคุณต้องค่อย ๆ เรียนรู้ จูเลีย โคล นักบำบัดด้านจิตวิทยาเพศสัมพันธ์ และผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus บอก “วิธีหนึ่งที่น่าลองคือการสวมชุดนอนหรือชุดชั้นในเซ็กซี่ ซึ่งสามารถจุดไฟปรารถนาให้ฝ่ายชายได้ไม่น้อย เขาจะชื่นชมคุณมากขึ้น หากคุณเลือกชุดให้เหมาะกับตัวเอง เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ยามอยู่ต่อหน้าเขา ระหว่างที่บทรักของคุณกำลังดำเนินอยู่ คุณอาจไม่จำเป็นต้องปลดชุดของคุณออกหมดทุกชิ้นก็ได้ วิธีนี้จะทำให้บรรยากาศแห่งรักของคุณน่าตื่นเต้น น่าค้นหา แปลกใหม่ ไม่จำเจ”ขอขอบคุณข้อมูลจากNo.47 มกราคม 2553

10 วิธีรักตัวเอง ให้มากขึ้นกว่าเมื่อวาน

เมื่อรู้สึกซวนเซกับความสัมพันธ์หรือผิดหวังจากความรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป เชื่อว่าทุกคนต้องมีช่วงเวลาเวลาเสียใจให้กับมันมากน้อยแตกต่างกัน แต่พอได้สติแล้วขอให้ลองคิดย้อนกลับไปว่าเราเคยให้ความรักกับใครไปสักคนจนลืมรักตัวเองกันรึเปล่า ตอนนี้คงถึงเวลาที่เราต้องหันกลับมารักตัวเองให้มากขึ้นแล้วล่ะ อย่ามัวปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอดีต ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เราเชื่อว่า 10 วิธีรักตัวเอง ให้มากขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ช่วยคุณได้

1.อ่านหนังสือเล่มโปรด

เตรียมชาถ้วยโปรดพร้อมกองหนังสือตั้งใหญ่ที่คุณยังไม่เคยจับมาอ่านเลยตลอดปี แล้วปลดปล่อยอารมณ์ของคุณไปตามจินตนาการ หรือลองสวมบทบาทเป็นตัวละครสักตัวดูก็ยังได้

2.นัดเจอเพื่อน

กินอาหารกลางวันกับเพื่อนซี้สมัยเด็กหรือรูมเมทตอนเรียนมหาวิทยาลัย คนที่คุณไม่ได้พบเจอกันมานาน แลกเปลี่ยนข้อมูลและอัพเดทชีวิตกันซะหน่อย ได้หัวเราะ ร้องไห้ และขำขันไปกับความทรงจำสมัยก่อนนู้นที่เราเกือบลืมมันไปแล้ว

3.สูดลมหายใจ

ใช้เวลาชั่วขณะหนึ่งเพื่อสูดลมหายใจ เพียงแค่จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกของตัวเอง แล้วอยู่กับช่วงเวลานั้นเพียงครู่เดียว เราจะได้ทั้งความผ่อนคลายและได้จดจ่ออยู่กับตัวเองมากขึ้น

4.ทำสิ่งที่ดีต่อใจ

หากคุณกำลังดิ้นรนอยู่กับความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือความเครียดในชีวิตประจำวัน ให้หยุดพักแล้วหาทางเยียวยาจิตใจและมอบความรักให้ตัวเอง ด้วยการพาตัวเองออกไปหาอะไรที่ดีต่อใจทำ เช่น ตัดผมใหม่ กิจกรรมที่อยากลองทำมานานแล้วแต่ไม่กล้า ฯลฯ อะไรก็ได้ที่ทำให้ “ใจ” คุณมีความสุข

5.เดินค่ะเดิน

ไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรที่หนักหนาสาหัสมา การเดินสามารถช่วยเยียวยาได้อย่างน่าประหลาดใจ เพียงแค่ออกไปเดินใกล้ๆ บ้าน 30 นาที จะช่วยให้หัวคุณโล่งและปัดเป่าสิ่งที่กำลังกังวลอยู่ออกจากใจ แถมได้สุขภาพอีกด้วยนะ

6.จดบันทึกเรื่องดีๆ

เขียนทุกๆ เรื่องที่ทำให้คุณมีความสุข ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหนก็ได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าคุณสามารถมองเห็นทุกสิ่งในชีวิตเป็นเรื่องมหัศจรรย์

7.นั่งลงแล้วทบทวนตัวเอง

ใช้เวลานั่งตามลำพังแล้วปล่อยให้ตัวเองรู้สึกในสิ่งที่ต้องการ โยนความเครียดจากความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบทิ้งไป เลิกคิดว่าโลกนี้ต้องการอะไรจากคุณ และสัมผัสถึงน้ำหนักของความคาดหวังเหล่านั้นว่ากำลังหายไปจากใจ

8.ถอดปลั๊ก

วางทุกอุปกรณ์การสื่อสารและใช้ชีวิตให้ช้าลง คุณไม่เห็นจำเป็นต้องตามโลกในทุกวินาที ลองเลิกสนใจโซเชียลมีเดีย ชีวิตของคนอื่น  ข่าวสารที่ท่วมท้น และเรื่องราวอื่นๆ ที่รบกวนใจ ปล่อยให้ตัวเองได้พักบ้าง

9.ให้อภัยตัวเอง

ถึงจะรู้ว่าเศร้าและแย่แค่ไหน สิ่งแรกที่ควรทำคือการให้อภัยตัวเอง ให้อภัยตัวเองจากเรื่องที่เคยทำผิดพลาดและคนในอดีต ยกโทษให้ตัวเองกับเรื่องที่ควรทำแต่กลับไม่ได้ทำ เลิกทุรนทุรายกับสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว

10.ไม่ต้องเพอร์เฟ็ค

เข้าใจตัวเองว่าเราไม่ได้เพอร์เฟ็คหรือจำเป็นต้องชอบชีวิตของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไม่เห็นจะเป็นไรนี่ ก็ในเมื่อเราเป็นเพียงคนธรรมดาๆ คนนึง

 

แปลจากบทความ 10 Tiny Ways To Love Yourself More Than You Did Yesterday โดย Lauren Jarvis-Gibson

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ