Skip to content
Home » [Update] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | สรรพนาม อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | สรรพนาม อังกฤษ – NATAVIGUIDES

สรรพนาม อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

1.5K viewed

Table of Contents

Pronouns  (คำสรรพนาม)

เวลาเราจะเรียกหรือกล่าวถึงคนอื่น เราสามารถเรียกชื่อคนคนนั้นได้โดยตรง แต่หากต้องเรียกซ้ำหรือต้องกล่าวถึงโดยไม่รู้ชื่อหล่ะ จะทำอย่างไร จึงมีสิ่งที่เอาไว้เรียกแทนคน สัตว์ สิ่งของและสถานที่ แล้วเราเรียกสิ่งนี้ว่าคำสรรพนาม (Pronouns) โดย Pronouns ในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้ถึง 7 กลุ่มด้วยกัน

 

Types (ชนิดของคำสรรพนาม)

Pronoun ( คำสรรพนาม )  คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns- equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง   หรือแทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร   คำสรรพนาม  (pronouns ) แยกออกเป็น  7 ชนิด คือ

 

  • 1. Personal Pronoun ( บุรุษสรรพนาม )  เช่น I, you, we, he , she ,it, they
  • 2. Possessive Pronoun ( สรรพนามเจ้าของ ) เช่น mine, yours, his, hers, its,theirs, ours
  • 3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี – self ลงท้าย  เช่น myself, yourself,ourselves
  • 4. Definite Pronoun ( หรือ Demonstrative Pronouns สรรพนามเจาะจง )  เช่น  this, that, these, those, one, such, the same
  • 5. Indefinite Pronoun ( สรรพนามไม่เจาะจง ) เช่น  all, some, any, somebody, something, someone
  • 6. Interrogative Pronoun ( สรรพนามคำถาม ) เช่น Who, Which, What
  • 7. Relative pronoun ( สรรพนามเชื่อมความ ) เช่น  who, which, that

 

 

 

1. Personal Pronouns (บุรุษสรรพนาม)

คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของในการพูดสนทนา มี 3 บุรุษคือ

 

บุรุษที่ 1
ได้แก่ตัวผู้พูด
I, we

บุรุษที่ 2
ได้แก่ผู้ฟัง  
you

บุรุษที่ 3
ได้แก่ผู้ ที่พูดถึง สิ่งที่พูดถึง
 he, she. it , they

 

รูปที่สัมพันธ์กันของคำสรรพนาม

รูปประธาน 

รูปกรรม

Possessive Form

Reflexive Pronoun

Adjective

Pronoun

 I

 me

my

 mine

 myself

we

us

our

ours

ourselves

you

you

your

yours

yourself

he

him

his

his

himself

she

her

her

hers

herself

it

it

its

its

itself

they

them

their

theirs

themselves

 

เช่น
I saw a boy on the bus. He seemed to recognize me.
ฉันเจอเด็กคนหนึ่งบนรถประจำทาง เขาดูเหมือนจะจำฉันได้  ( He ในประโยคที่สองแทน a boy และ me แทน I  ในประโยคที่หนึ่ง )
My friend and her brother like to swim. They swim whenever they can.
เพื่อนฉันและน้องชายของเธอชอบว่ายน้ำ พวกเขาไปว่ายน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส (  they ในประโยคที่สอง แทน My friend และ her brother ในประโยคที่ 1 )

การใช้ Personal Pronouns ที่ทำหน้าที่เป็นประธานและเป็นกรรมมีหลักดังนี้
Personal Pronoun ที่ตามหลังคำกริยาหรือตามหลังบุพบท ( preposition ) ต้องใช้ในรูปกรรม เช่น

Please tell him what you want.   โปรดบอกเขาถึงสิ่งที่คุณต้องการ  ( ตามหลังดำกริยา tell )
Mr. Wilson talked with him about the project. 
คุณวิลสัน พูดกับเขาเกี่ยวกับโครงการ ( ตามหลังบุพบท with )

หมายเหตุ        ถ้ากริยาเป็น verb to be สรรพนามที่ตามหลังจะใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรม ให้พิจารณาดูว่า สรรพนามใน ประโยคนั้นอยู่ในรูปผู้กระทำ หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่น

It was she who came here yesterday.
เธอคนนึ้ ที่มาเมื่อวานนี้  ( ใช้ she เพราะเป็นผู้กระทำ )
It was her whom you met at the party last night.
เธอคนนี้ที่คุณพบที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ (ใช้ her เพราะเป็นกรรมของ   you met )

 

 

 

2. Possessive Pronouns (สรรพนามเจ้าของ) 

คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเมื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่คำต่อไปนี้
      mine,ours, yours, his, hers,its,theirs 

The smallest gift is mine. ของขวัญชิ้นที่เล็กที่สุดเป็นของฉัน
This is yours. อันนี้ของคุณ
His is on the kitchen counter. ของเขาอยู่บนเคาน์เตอร์ในครัว
Theirs will be delivered tomorrow. ของพวกเขาจะเอามาส่งพรุ่งนี้
Ours is the green one on the table . ของพวกเราคืออันสีเขียวที่อยู่บนโต๊ะ

possessive pronouns มึความหมายเหมือน    possessive adjectives แต่หลักการใช้ต่างกัน

This is my book.
นี่คือหนังสือของฉัน ( my ในประโยคนี้เป็น possessive adjective ขยาย book )
This book is mine
หนังสือนี้เป็นของฉัน (  mine ในประโยคนี้เป็น possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ ( complement)  ของคำกริยา is )

 

 

 

3. Reflexive Pronouns (สรรพนามตนเอง)

คือสรรพนามที่แสดงตนเอง แสดงการเน้น ย้ำให้เห็นชัดเจน มักเรียกว่า -self form of pronoun  ได้แก่
    myself. yourself, yourselves, himself, herself, ourselves. themselves, itself  มีหลักการใช้ดังนี้

  • ใช้เพื่อเน้นประธานให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำการนั้นๆ ให้วางไว้หลังประธานนั้น  ถ้าต้องการเน้นกรรม (object ) ให้วางหลังกรรม เช่น

    She

     herself doesn’t think  she’ll get the job.

    The film

     itself wasn’t very good but I like the music.
    I spoke to 

    Mr.Wilson

     himself.

  • วางหลังคำกริยา เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง
    They 

    blamed

     themselves for the accident.
    พวกเขาตำหนิตนเองในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ( ตามหลังกริยา blamed )
    You 

    are

     not yourself today.
    วันนี้คุณไม่เป็นตัวของคุณเอง ( ตามหลังกริยา are )
    I don’t want you to pay for me. I’ll 

    pay

     for myself
    ฉันไม่อยากให้คุณเป็นคนจ่ายเงินให้ ฉันจะจ่ายของฉันเอง
    Julia had a great holiday. She enjoyed herself very much.
    จูเลียมีวันหยุดที่ดี เธอสนุกมาก
    George cut himself while he was shaving this morning.
    จอร์จทำมีดบาดตัวเองขณะทีโกนหนวดเมื่อเช้านี้

หมายเหตุ  ปกติ จะใช้  wash/shave/dress โดยไม่มี myself

  • เมื่อต้องการจะเน้นว่า ประธานเป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นเอง
    Who repaired your bicycle for you? Nobody, I repaired it myself.ใครซ่อมรถจักรยานให้คุณ. ไม่มีใครทำให้ฉันซ่อมเอง
    I’m not going to do it for you. You can do it yourself.
    ฉันจะไม่ทำ( อะไรสักอย่างที่รู้กันอยู่ ) ให้นะ คุณต้องทำเอง

    By myself หมายถึงคนเดียว มีความหมายเหมือน  on my own  เช่นเดียวกับคำต่อไปนี้

    on ( my/your/his/ her/ its/our/their ) own     มีความหมายเหมือนกับ
    by ( myself/yourself ( singular) /himself/ herself/ itself/ ourselves/ yourselves(plural)/ themselves )
    เช่น
    I like living on my own/by myself. ฉันชอบใช้ชีวิตอยู่คนเ้ดียว
    Did you go on holiday on your own/by yourself? เธอไปเที่ยววันหยุดคนเดียวหรือเปล่า
    Learner drivers are not  allowed to drive on their own/ by themselves.
    ผู้ที่เรียนขับรถไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถด้วยตัวเองคนเดียว
    Jack was sitting on his own/by himself in a corner of the cafe.
    แจ๊คนั่งอยู่คนเดียวทีีมุมห้องในคาเฟ

 

 

4. Definite Pronouns หรือ Demonstrative Pronouns (สรรพนามเจาะจง)

คือสรรพนามที่บ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด เช่น
 this, that, these, those, one, ones, such, the same, the former, the latter

That is incredible!    นั่นเหลือเชื่อจริงๆ  (อ้างถึงสิ่งที่เห็น)
I will never forget this.   ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย (อ้างถึงประสบการณ์เมื่อเร็วๆนี้)
Such is my belief.  นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเชื่อ (อ้างถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ )
Grace and Jane ar good girls. The former is more beautiful than the latter.
  เกรซและเจนเป็นเด็กดีทั้งคู่ แต่คนแรก (เกรซ)จะสวยกว่าคนหลัง (เจน)

 

5.Indefinite Pronouns (สรรพนามไม่เจาะจง)

หมายถึงสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป มิได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้น คนนี้ เช่น

everyone
everybody
everything
some
each

someone
somebody
all
any
many

anyone
anybody
anything
either
neither

no one
nobody
nothing
none
one

more
most
enough
few
fewer

little
several
more
much
less

Everybody loves somebody. คนทุกคนย่อมมีความรักกับใครสักคน
Is there anyone here by the name of Smith? มีใครที่นีชื่อสมิธบ้าง
One should always look both ways before crossing the street. ใครก็ตามควรจะมองทั้งสองด้านก่อนข้ามถนน
Nobody will believe him. จะไม่มีใครเชื่อเขา
Little is expected. มีการคาดหวังไว้น้อยมาก

We, you, they ซึ่งปกติเป็น personal pronoun จะนำมาใช้เป็น indefinite pronoun เมื่อไม่เจาะจง  โดยมากใช้ในคำบรรยาย คำปราศัย เช่น

We should prepare ourselves to deal with any emergency. เรา ( โดยทั่วไป) ควรจะเตรียมพร้อมไว้เสมอสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน)
You sometimes don’t know what to say in such a situation. บางครั้งพวกคุณก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น.

 

 

6. Interrogative Pronouns (สรรพนามคำถาม)

เป็นสรรพนามที่แทนนามสำหรับคำถาม ได้แก่  Who, Whom, What, Which  และ Whoever, Whomever,Whatever,Whichever   เช่น

Who want to see the dentist first? ใครอยากจะเข้าไปหาหมอฟันเป็นคนแรก? ( who ในที่นี้เป็นประธาน )
Whom do you think we should invite? เธอคิดว่าเราควรจะัเชิญใคร? (  whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
To whom do to wish to speak ? เธออยากจะพูดกับใคร? (  whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
What did she say?  เธอพูดว่าอะไรนะ? (  what เป็นกรรมของกริยา say )
Which is your cat ? แมวของเธอตัวไหน? ( which เป็นประธาน )
Which of these languages do you speak fluently? ภาษาไหนในบรรดาภาษาเหล่านี้ที่คุณพูดได้คล่อง? ( which เป็นกรรมของ speak )

หมายเหตุ   which และ  what  สามารถใช้เป็น  interrogative adjective   และ who, whom , which  สามารถใช้เป็น relative pronoun  ได้

 

 

7. Relative Pronouns (สรรพนามเชื่อมความ)

คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้วในประโยคข้างหน้า   และพร้อมกันนั้นก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคทั้งสอง ให้เป็นประโยคเดียวกัน   เช่นคำต่อไปนี้  who, whom, which whose ,what, that , และ indefinite relative pronouns เช่น whoever, whomever,whichever, whatever

Children who (that) play with fire are in great danger of harm.
The book that she wrote was the best-seller
He’s the man whose car was stolen last week.
She will tell you what you need to know.
The coach will select whomever he pleases.
Whoever cross this line will win the race.
You may eat whatever you  like at this restaurant.

 

 

 

เนื้อหาในบทความคำสรรพนามนี้ยาวอีกแล้ว อต่ก็อยากให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และลองอ่านทบทวนหลายๆ รอบ เพื่อทำความเข้าใจดีๆ

 

 

กลับไปหน้า บทเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

[NEW] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | สรรพนาม อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค และชนิตต่างๆ ของ คําสรรพนามถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Pronoun คืออะไร ??

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

ตัวอย่างประโยคการใช้สรรพนาม
*I: I am a teacher. แปลว่า ฉันเป็นครู
*You: You are the teacher. แปลว่า คุณเป็นครู
*She: She is the teacher. แปลว่า หล่อนเป็นครู ใช้ She ทำหน้าที่เป็นประธาน วางไว้หน้าสุดของประโยค ตามด้วยคำกริยา
*It: It’s your turn แปลว่า มันถึงคราวของคุณแล้ว หรือ ถึงตาคุณแล้ว
*We:   We come from Thailand. แปลว่า พวกเรามาจากประเทศไทย 
*They: They have two kids  แปลว่า พวกเขา มี ลูก สองคน  สรรพนาม They/เดย์ ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยควางไว้หน้าคำกริยา

ตัวอย่างความหมายของคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

Pronoun มีอะไรบ้าง??

คําสรรพนาม หรือ Pronoun มี 7 ชนิด ประกอบด้วย

  1. บุรุษสรรพนาม(Personal pronouns)
  2. สรรพนามแสดงตนเอง (Reflexive pronouns)
  3. สรรพนามบ่งชี้  (Demonstrative pronouns)
  4. สรรพนามเจ้าของ(Possessive pronoun)
  5. สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค (Relative pronouns)
  6. สรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronouns)
  7. และ Intensive pronouns

รายละเอียดวิธีการใช้งานของคําสรรพนาม แต่ละชนิดดังต่อไปนี้

1. Personal Pronouns

หรือบุรุษสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนบุคคล ปกติจะได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือเรียกได้ว่า The first person ที่จะอยู่ในรูปแบบของ I (ฉัน, ข้าพเจ้า), We (พวกเรา→หลายคน) สองคือ สรรพนามบุรุษที่ 2 หรือได้เรียกว่า The second person ที่อยู่ในรูปแบบของ You (คุณ, พวกคุณ→หลายคน) ประเภคที่สามคือ สรรพนามบุรุษที่ 3 หรือได้เรียกว่า The third person ที่อยู่ในรูปแบบของ He (เขา→ผู้ชาย), She (เธอ,หล่อน→ผู้หญิง), It (มัน), They (พวกเขา→หลายคน)

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Personal Pronouns สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Personal
pronoun ที่เป็นประธานPersonal
pronoun ที่เป็นกรรมความหมายรายละเอียดการใช้IMeผม, ฉัน, ดิฉันใช้แทนตัวผู้พูดYouYouคุณ, พวกคุณใช้แทนตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHeHimเขาใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายSheHerเธอใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItItมันใช้แทนสัตว์ สิ่งของ สิ่งที่เป็นนามธรรมWeUsพวกเราใช้แทนกลุ่มของผู้พูดTheyThemพวกเขา, พวกมันใช้แทนกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มสิ่งของ กลุ่มของสิ่งที่เป็นนามธรรม

2. Reflexive pronoun

ได้แก่ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves ที่ใช้เพื่อแทนประธานในประโยคหรือวลีเดียวกัน เข้าใจได้ง่ายคือคำว่า reflexive แปลว่า “สะท้อน” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม”

Reflexive pronoun นี้สามารถใช้ในกรณี
1.ใช้เมื่อประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน
2. ใช้ “by + reflexive pronoun” เพื่อสื่อความหมายว่า “คนเดียว”
ตัวอย่างเช่น I did all the housework by myself  แปลว่า ฉันทำงานบ้านทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
3. ใช้เพื่อเน้น เราสามารถใช้ reflexive pronoun เพื่อเน้นว่าใครบางคนได้ทำสิ่งใดด้วยตัวเขาเอง
4. ใช้เพื่อความสุภาพ บางครั้งเราอาจใช้ reflexive pronoun แทน pronoun ที่เป็นกรรม เพื่อให้สุภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น We are grateful for the support of people like yourself แปลว่า พวกเรารู้สึกยินดีกับการสนับสนุนของผู้คนอย่างคุณ

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Reflexive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Subject pronounความหมายReflexive pronounความหมายIฉันMyselfตนเอง, ฉันเองYou (เอกพจน์)คุณYourself (เอกพจน์)คุณเองHeเขาHimselfเขาเองSheเธอHerselfเธอเองItมันItselfมันเองWeพวกเราOurselvesพวกเราเองTheyพวกเขาThemselvesพวกเขาเอง

3. Demonstrative pronouns

คือ สรรพนามชี้เฉพาะ หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม (Noun) เพื่อแสดงการชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน อันไหน หรือว่าคนไหน โดย Demonstrative Pronoun สามารถเป็นได้ทั้งประธานและกรรมของประโยค โดยคำสรรพนามในกลุ่มนี้ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษมักจะพบเห็นบ่อยๆ มี 4 ตัว ได้แก่ this that these those ซึ่งมีการใช้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

Demonstrative pronounความหมายเอกพจน์/พหูพจน์ระยะห่างจากผู้พูดThisนี่เอกพจน์ใกล้Thatนั่นเอกพจน์ไกลTheseนี่
พวกนี้
เหล่านี้พหูพจน์ใกล้Thoseนั่น
พวกนั้น
เหล่านั้นพหูพจน์ไกล

ยกตัวอย่างเช่น
This is my pen. แปลว่า นี่คือปากกาของฉัน
Those are my pens. แปลว่า พวกนั้นคือปากกาของฉัน

4. Possessive pronoun

คือคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหลักๆได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs  possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม เวลาใช้ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Possessive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Possessive adjectivePossessive pronounความหมายความหมายรายละเอียดการใช้MyMineของฉันใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวผู้พูดYourYourของคุณ, ของพวกคุณใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHisHisของเขาใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายHerHerของเธอ
ใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItsItsของมันใช้กับสิ่งที่เป็นของสัตว์หรือสิ่งของOurOurของพวกเราใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มผู้พูดTheirTheirของพวกเขา, ของพวกมันใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ หรือกลุ่มสิ่งของ

ยกตัวอย่างเช่น
These books are mine. แปลว่า หนังสือพวกนี้เป็นของฉัน
My shoes are more dirty than yours.แปลว่า รองเท้าของฉันสกปรกกว่าของคุณ

เรียนรู้วิธีการใช้ Pronoun หรือคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

5. Relative pronouns

ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
who : ใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย) whom: ใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ) whose: ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ) which: ใช้กับสัตว์และสิ่งของ that:ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ) where: ใช้กับสถานที่ when: ใช้กับเวลา why: ใช้กับเหตุผล Relative pronouns  นี้จะเป็นคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ

ตัวอย่างประโยค:
This is Anne, whom you met at the seminar last week. แปลว่านี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อน
This is the same bag that my mom has. แปลว่า นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลย
Do you recognise the girl who sat next to me in cinema yesterday ? แปลว่า คุณจำผู้หญิงที่นั่งข้างฉันในโรงหนังเมื่อวานนี้ได้ไหม?
Did she take my computer which I put on the table ? แปลว่า เธอเอาคอมพิวเตอร์ของฉันที่วางไว้บนโต๊ะหรือเปล่า
I love the kinds of flower that smell gentle. แปลว่า ฉันชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเบาๆ

6. Indefinite pronouns

Indefinite แปลว่า “ไม่เจาะจง” ส่วน pronoun แปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามนั่นเองคือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน สิ่งไหน หรือสถานที่ไหน อย่างเช่น anybody, anyone, anything, anywhere, everybody, somebody, both, all, none เป็นต้น
วิธีการใช้งานของ Indefinite pronouns Indefinite ขึ้นอยู่กับสภานณการและยกตัวอย่างให้เห็นภำพง่ายๆ คือ ถ้าจะใช้กล่าวรวมทั้งหมด: Everyone/everybody is checking their phones. แปลว่า ทุกคนกำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเอง
– ใช้กล่าวถึงแค่บางสิ่ง: Someone/somebody is waiting for you. แปลว่า มีใครบางคนรอคุณอยู่
– ใช้สื่อว่าสิ่งใดก็ได้: Anyone/anybody is welcome.แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยินดีต้อนรับ
– ใช้บอกว่าไม่มี: Nobody want to be lonely.แปลว่า ไม่มีใครอยากโดดเดี่ยว

7.Intensive pronouns

คำสรรพนามที่ใช้เมื่อประธานและกรรม เป็นคนเดียวกัน หรือสิ่งเดียวกัน ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves ( รูป –self /-selves ของคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคล)

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม, คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ, คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

–  Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
–  Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
–  Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

ในข้อสอบต่างๆ คุณอาจจะเจอคำถามเกี่ยวกับวิธีการใช้ Pronoun แล้ววิธีที่ช่วยคุณได้คะแนนเต็มสำหรับหัวข้อนั้นก็คือต้องใช้เวลาทำแบบฝึกหัดให้เยอะขึ้น ทำข้อไหนต้องสามารถอธิบายทำไมคุณถึงจะเลือกคำตอบนั้น มันจะช่วยคุณเข้าใจลึกๆ เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและมีความรู้ได้แนน

ว่าอย่างไรคะกับบทความรวบรวม A-Z ความรู้เกี่ยวกับ Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยคและวิธีการใช้งานของ Pronoun นี่เป็นส่วนเนื้อหาที่สำคัญเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้เรียนอย่ามองข้ามส่วนเนื้อหานี้นะคะ เรียนไปแล้วต้องเอามาใช้งานจริงด้วยการทำแบบฝึกหัดหรือตั้งประโยคด้วย จะช่วยให้คุณจำได้นานขึ้นและมีความรู้แน่นขึ้นนะคะ


เพลงสรรเสริญพระบารมี ( Thai Royal Anthem) ver.English (The King of Thailand)


เพลง/Song : สรรเสริญพระบารมี/Sansoen Phra Barami
จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
หากผิดพลาดประการใด กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เพลงสรรเสริญพระบารมี ( Thai Royal Anthem) ver.English  (The King of Thailand)

รู้ 7 คำศัพท์นี้ | จะเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น | Pronoun | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


แก้ไข ฝึกพูดภาษาอังกฤษ เรียนง่ายภาษาอังกฤษ
วีดีโอนี้แก้ไขแล้วจาก วีดีโอก่อนหน้านี้ นะคะ
ผิด1จุดเลยต้องทำให้ถูกต้องนะคะ

คำสรรพนาม หรือ Pronoun
ใช้เรียกแทนชื่อคนสัตว์สิ่งของสถานที่เพื่อมาให้ใช้เรียกชื่อนั้นสำคัญหลายๆครั้ง
มีรูปประธาน I you We they He She it
รูปกรรม me you us them h ih m her it

รู้ 7 คำศัพท์นี้ | จะเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น | Pronoun | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษพื้นฐาน Day 5 | คำสรรพนาม | Pronoun | ฝึกแต่งประโยคเบื้องต้น | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


คลิปนี้เราจะมาเรียนเกี่ยวกับคำสรรพนามหรือคำที่ใช้เรียกแทนชื่อของคนสัตว์สิ่งของและสถานที่เพื่อไม่ให้ใช้เรียกชื่อเดิมเดิมๆซ้ำๆกันหลายๆครั้งจะทำให้เป็นประโยชน์น่าเบื่อน่ารำคาญได้นะคะเป็นส่วนหนึ่งของ Past of speed

ภาษาอังกฤษพื้นฐาน Day 5 | คำสรรพนาม | Pronoun | ฝึกแต่งประโยคเบื้องต้น | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

is am are


งานอนิเมชั่น 2D MV is am are
ผลิตโดย Mushroom TV ที่มี น้านิต ภัทรจารีย์ อัยศิริ (สโมสรผึ้งน้อย) เป็นหัวเรือใหญ่ในตอนนั้น
เนื้อร้องและทำนอง โดยน้านิต เป็นคนแต่ง เพลงออกมาน่ารักและสดใส สมกับเป็นลงานของน้านิตครับ
ส่วนดนตรี น่าจะเป็นคุณ พีรสันติ จวบสมัย เป็นคนเรียบเรียงครับ
Animator \u0026 Editor สฤกษ์ชัย กางธนทรัพย์

is am are

Listening Exercise: Easy English Lesson – Level B


A multiple Choice, Listening Exercise Easy English Lesson

I am a teacher of English at a highly appreciated school and doing the job I love.
Could you please subscribe to my channel for support?
Thanks in advance.
INDEX OF SKILLS (ListeningReading Watching WritingSpeaking)
LISTENING / Level A: https://youtu.be/MOijwxQvsfc?list=PLPA3mn3c0LvDibX0JZT_1PmsV4E_U1CZe
LISTENING / Level B: https://youtu.be/3m3sOhtdkkI?list=PLPA3mn3c0LvCZvVTeFFRrKnBsSVBNQvm
PRONUNCIATION: https://youtu.be/k2G5t0S55Pg?list=PLPA3mn3c0LvCltK7XHJQM8wHTZSQKArkp
READING / Level A: https://youtu.be/jyDLF5DESA?list=PLPA3mn3c0LvCywqc064zIn__ntoXHwbT5
READING / Level B: https://youtu.be/YJYwQxjrKz4?list=PLPA3mn3c0LvDfGGzAwULtjCTiIqEFYH5A
READING / Level C: https://youtu.be/IcByiD6dEWw?list=PLPA3mn3c0LvB3cMzCN5uqMAz0LEfScKUi
SCHOOL SONGS: https://youtu.be/UIAJoY_ueOE?list=PLPA3mn3c0LvDBIkVkaqQ2f4Do65K1wzA
SPEAKING: https://youtu.be/WR4xrDmsnU?list=PLPA3mn3c0LvAxp7UFMGUvl21W4QFiS08p
WATCHING / Level A: https://youtu.be/VwPRjOU0lbE?list=PLPA3mn3c0LvD6vMPECumADnwDTG6WjqBy
WATCHING / Level B: https://youtu.be/KZXfAbN0QcM?list=PLPA3mn3c0LvCEohXZqgtIVNmrSEVw0Hl6
VOCABULARY / Level A: https://youtu.be/9ZelbpCd95U?list=PLPA3mn3c0LvA4wBXNwOSdPIlynApqSdGp
VOCABULARY / Level B: https://youtu.be/Fz5Ljxztkik?list=PLPA3mn3c0LvCxYiIZNDZ4AUa0eHvWgeV8
VOCABULARY / Level C: https://youtu.be/srOZigWIvUQ?list=PLPA3mn3c0LvDssIrkXf3etNuUIdrDlGEB
WRITING / Level AB: https://youtu.be/1Z1Q8fAOclw?list=PLPA3mn3c0LvCA8w76FDkSzl_JCmeQ1lo
INDEX OF ONLY GRAMMAR EXERCISES:
amisare : https://youtu.be/TJe9YlxDkpg?list=PLPA3mn3c0LvAJUIz5shvc7uh5EvyL6E8j
aanthe: https://youtu.be/CvUovAi9eQU?list=PLPA3mn3c0LvAWO3doyXt9pJjmpweIIOrk
CanCan’t: https://youtu.be/ZR3L64YJawg?list=PLPA3mn3c0LvC_CgmxjmjiGs9Q2iR8fE8H
Comparatives Superlatives (goodbetter best): https://youtu.be/PD9k0KXmIHI?list=PLPA3mn3c0LvDy8BXiBkPaX9CnbMHTxJp
Countable Uncountables: https://youtu.be/2nSIPl9xHM?list=PLPA3mn3c0LvDX4yNv9tLTQY6QxChSflng
Gerunds Infinitives (ingto..): https://youtu.be/xLsODIzAfcI?list=PLPA3mn3c0LvDaZb8XVjbhQ0K0TYFvI64b
Conditionals (if): https://youtu.be/xJX1RsI3H1g?list=PLPA3mn3c0LvCqOBtIdkZhP4lk70bTbaGc
How much How many: https://youtu.be/uFH3hukwycs?list=PLPA3mn3c0LvDPAQ7b6HUKHdQ_vfS63kV
Personal Pronouns (I you we they …) : https://youtu.be/OMzfakpnSBw?list=PLPA3mn3c0LvCuIwCsKhMv2eHJgOctLzkj
Must Mustn’t: https://youtu.be/Y8pHGxtCYqQ?list=PLPA3mn3c0LvAi9yOBGNZCRmIBfRue7b5
MyYourHisHer …: https://youtu.be/C1tu_5wSY?list=PLPA3mn3c0LvADy_jBrpqGQqA1sCb0uDJa
MyselfYourselfHimself …: https://youtu.be/V8tjczMyzeY?list=PLPA3mn3c0LvCU87nNSJ3o5hFDnFgOERrH
Numbers: https://youtu.be/iv64tlQmB2A?list=PLPA3mn3c0LvD9W4Eise8pIScqyGJZGLR
Phrasal Verbs (look afterlook into): https://youtu.be/rz9jPUtuR4Q?list=PLPA3mn3c0LvCWXeWrQjvGrkYcvlIuZ1eN
Prepositions (INONAT … / level A): https://youtu.be/FT2m4KNP0Y?list=PLPA3mn3c0LvAmZiIFSrrnbPHJNEqjfKPh
Prepositions (IN ON AT… – Level B(: : https://youtu.be/Tsl4cLvU6_Y?list=PLPA3mn3c0LvDahgKbmb8W2XLSVLePfTXM
Passive (was doneis being done …) : https://youtu.be/vuMmpLqgCus?list=PLPA3mn3c0LvCLk0VDDKuUESXcNk74tdm
Relatives (whowhichthat): https://youtu.be/mQLPxvQLg7c?list=PLPA3mn3c0LvAEyZFOgCjnYBzRlYQ8F5en
Since For: https://youtu.be/m3p8mrdH2GI?list=PLPA3mn3c0LvAy1Hy7bQzcdJhYOGz67Wht
Singular Plurals (boyboys): https://youtu.be/jpmg3FcJEw0?list=PLPA3mn3c0LvBbk5WhASEEJXMN40BHpRL
Some Any: https://youtu.be/fQiocR7RjTc?list=PLPA3mn3c0LvDCHvDL5S_Iux202xbk2eY
So Such: https://youtu.be/zMlmuoh_Cpc?list=PLPA3mn3c0LvBI7V8xMfLfz1aeyQMuwieR
SomebodySomethingAnybodyAnything …: https://youtu.be/g95WFsIfS40?list=PLPA3mn3c0LvDux18YfBTRuX8O5scDPFW
Tenses (Simple): https://youtu.be/TsUf7wDzBsg?list=PLPA3mn3c0LvBbVuN8DgikBUwicZ65Hspy
Tenses: (Continuous): https://youtu.be/k9ukLTPfDXA?list=PLPA3mn3c0LvAbYntnYRoSGlIesKWdkXCG
Tenses (All mixed): https://youtu.be/J4gemTCJaWg?list=PLPA3mn3c0LvCVOqCl28Qc5VjEnVZ6meA
Test your grammar: https://youtu.be/G9_Hc6LQsA0?list=PLPA3mn3c0LvBd4MEEvMwXAwLspLs_9DVx
Used To: https://youtu.be/szbvRzIr9eU?list=PLPA3mn3c0LvBiqVJY83KPBvbn0zV12Je0
What time is it?: https://youtu.be/IABUhw2m4rg?list=PLPA3mn3c0LvBdRe0dEZ1fphpzev7QW5wY
Mixed Grammar Topics: https://youtu.be/hzv30TesiUo?list=PLPA3mn3c0LvDzIcPWypZJB6Q38JnOGHpP

Listening Exercise: Easy English Lesson - Level B

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ สรรพนาม อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *