Skip to content
Home » [Update] CONDITIONAL SENTENCES | แต่ง ประโยค future simple tense – NATAVIGUIDES

[Update] CONDITIONAL SENTENCES | แต่ง ประโยค future simple tense – NATAVIGUIDES

แต่ง ประโยค future simple tense: คุณกำลังดูกระทู้

CONDITIONAL SENTENCES

Conditional Sentences (if-clause)   หมายถึง ประโยคเงื่อนไข ซึ่งประกอบด้วย
ข้อความ 2 ส่วน คือ if clause และ Main clause

if clause    เป็นประโยคส่วนที่เป็นสาเหตุ หรือต้นเหตุ
Main Clause     เป็นประโยคส่วนที่เป็นผล เช่น
If he comes, I will tell him.
(If clause), (main clause)

Conditional Sentence แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. Future Possible
2. Present Unreal
3. Past Unreal
4. Mixed Type
1. Future Possible
หมายถึง ประโยคที่แสดงถึงความเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้ ประกอบด้วย
if + present simple, future simple
will + V
shall
หรือ
future simple + if present simple
will + V
shall
If he studies hard, he will succeed.
She will stay at home if it rains.
หมายเหตุ
1. กริยาใน main clause อาจจะใช้ may, can, must, (be) going to แทน will, shall ได้
ตัวอย่าง
are going to
If you don’t hurry, you                                      miss the train.
may, can, must
2. บางครั้งกิริยาใน if clause และ main clause ใช้ present simple tense อาจจะใช้ whenever แทน if ได้ เช่น
If (when, wheneven) the weather is good, I play tennis.
If (when, wheneven) the teacher asks, answer her.
3. ถ้า if clause มี should อยู่ด้วยสามารถทำให้เป็น infinitive form ได้ โดยตัด  if   ออกแล้วนำ  should
ขึ้นมาไว้หน้าประธาน เช่น
If she telephones , tell me at once.
หรือ Should she telephone , tell me at once.

2. Present Unreal
หมายถึง ประโยคที่สมมุติว่าเหตุการณ์นั้น เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ความจริงไม่ได้เกิดขึ้น
เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับความเป็นจริง ประกอบด้วย

   if + past simple                                past future simple
verb to be ใช้ were ทุกพจน์           would, should + V
(ใช้ could , might + V ได้)

 

   past future simple                             if + past simple
(could, might, would , should + V) verb to be ใช้
were ทุกพจน์

ตัวอย่าง
If I were rich , I should travel around the world.
(but I am        not rich)
He would meet her if he went to the party.
(but he doesn’t go to the       party)

หมายเหตุ : สำหรับประโยคที่มี were นั้น ทำให้เป็น Inverted Form ได้ด้วยการ
ตัด if ออกใช้ were ขึ้นต้นประโยคแล้วต่อด้วยประธานและส่วนขยายอื่นๆ เช่น
If I were rich, I should travel around the world.
หรือ
Were I rich , I should travel around the world.
แต่ถ้าหากในประโยคเงื่อนไขไม่ม่ were เราก็สามารถจะละ if ได้ แต่ต้อง
เปลี่ยนรูปประโยคดังนี้ คือ
If I had more money , I would buy a new car.
Were I to have more money , I would buy a new car.
If she got a higher marks, her mother would buy her a new dress.
Were she to get a higher marks, her mother would buy her a new                           dress.

3. Past Unreal
หมายถึง ประโยคที่มีสมมุติว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในอดีต แต่ความจริงไม่ได้เกิดขึ้น
เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับความจริง ประกอบด้วย

   if + past perfect tense , past future simple
had + V3 (could , might , would , should + have + V3)
หรือ
past future perfect.             if + past perfect tense
(could , might , would , should + have + V3)       had + V3

ตัวอย่าง
If she had been there , she would have seen the accident. (but she wasn’t there)
He would have given her money if she hadn’t gone out. (but she went out)
หมายเหตุ : สำหรับประโยคที่มี had + V3 ทำให้เป็น Invered Form ได้ด้วยการตัด if ออกใช้
had  ขึ้นต้นประโยคแล้วต่อด้วยประธาน + V3 + ส่วนขยายอื่นๆ เช่น
If she had been there, she would have the accident. หรือ
Had she been there, she would have seen the accident.
He would have give her money if she hadn’t gone out. หรือ
He would have give her money, hadn’t she gone out.
5. Mixed Types
เป็นแบบผสมระหว่าง Past Unreal และ Present Unreal ประกอบด้วย

Past Unreal
Present Unreal

if + past perfect
(had + V3)
past future simple
(would + V)

 

หรือ

Present Unreal
Past Unreal

past future simple
(would + V)
if + past perfect
(had + V3)

ตัวอย่าง
If you had gone to bed early last night, you would be in Chiangmai today.
เมื่อคืนถ้าคุณเข้านอนแต่หัวค่ำ วันนี้คุณก็คงอยู่ที่เชียงใหม่ (ความจริงก็คือ เมื่อคืน
คุณนอนดึกและวันนี้คุณก็ยังอยู่ที่นี่)
You would be in Chiangmai today if you had gone to bed early last night.

จะสังเกตได้ว่าทั้ง 2 ประโยคนี้มีความคล้ายกันคือ เราจะใช้past Perfect กับส่วนที่มีคำบอก
อดีต ซึ่งในที่นี่ก็คือ last night ส่วนอีกส่วนหนึ่งจะมีคำบอกเวลาที่เน้นปัจจุบันนั่นก็คือ today
เราจึงใช้กริยาในรูป Past Simple Tense   ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นรูป
would, should, could + have + V3     ตามกฎของที่ได้เรียนมามากกว่า
หมายเหตุ : สำหรับประโยคที่มี had + V3 ทำให้เป็น Inverted Form ได้ด้วยการตัด   if   ออกใช้
had ขึ้นต้นประโยคแล้วต่อด้วย
ประธาน + V3 + ส่วนขยายอื่น ๆ  เช่น
If you had gone to bed early last night, you would be in Chiangmai today.
หรือ     Had you gone to bed early last night, you would be in Chiangmai today.

You would be in Chiangmai today if you had gone to bed early last night.
หรือ     You would be in Chiangmai today, had you gone to bed early last night.

[NEW] การใช้ Future simple “be going to”ในภาษาอังกฤษ | แต่ง ประโยค future simple tense – NATAVIGUIDES

นอกจากรูปแสดงอนาคตกาลโดยใช้ will หรือ shall ใน future simple แล้ว ยังมีรูป future simple โดยใช้ be going to ด้วยเช่นกัน รูปดังกล่าวนี้มีการใช้บ่อยๆ ในสถานการณ์หรือเหตุการณ่ในอนาคต ฉะนั้นผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเรื่องนี้ โดยละเอียดตามลำดับดังนี้
รูปของ be going to
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูปบอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย
going to เป็นส่วนที่แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำในอนาคต กริยาแท้ช่อง 1 หมายความเช่นเดียวกับ infinitive without to หรือกริยาแท้ช่อง 1 ที่ไม่มี to
ตัวอย่าง
Look at the clouds. It is going to rain soon.
ดูเมฆสิ ฝนจะตกในไม่ช้า
Look out! That boy is going to fall down.
ระวัง เด็กชายคนนั้นจะตกลงมาแล้ว
(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are not + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ is not = isn’t หรือ ’s not
am not = ’m not
are not = aren’t หรือ ’re not
ตัวอย่าง
The machine is quite old. I’m afraid it’s not going to work. เครื่องจักรค่อนข้างเก่า ผมเกรงว่ามันจะไม่ทำงาน
If we hurry, I’m sure we’re not going to miss the train.
ถ้าเรารีบ ผมแน่ใจว่าเราจะไม่พลาดรถไฟ
(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Is/Am/Are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม
หรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
A : Is it going to rain?
B : Yes, if there is no wind.
ก – ฝนจะตกหรือ
ข – ใช่ ถ้าไม่มีลม
A : Are we going to tell him when he asks us?
B : No. We won’t let him know.
ก – เราจะบอกเขาไหมหากเขาถามเรา
ข – ไม่เราจะไม่ให้เขารู้
(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
แต่ถ้าหากใช้คำถาม Who โครงสร้างที่ใช้จะประกอบด้วย
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
Who + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคกรรมของประโยค
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
ตัวอย่าง
A : When are you going to return my book?
B : Tomorrow.
ก – เมื่อไรคุณจะคืนหนังสือของดิฉัน
ข – พรุ่งนี้
A : Where are we going to stay tonight?
B : In a temple, perhaps.
ก – คืนนี้เราจะพักกันที่ไหน
ข – บางทีอาจจะพักที่วัด
John is going to tell Mary the truth.
A : Who is going to tell Mary the truth?
B : John.
ก – ใครจะเล่าความจริงให้แมรี่ฟัง
ข – จอห์น
We are going to give Susan a ring.
A : Who are we going to give a ring?
B : Susan.
ก – เราจะให้แหวนแก่ใคร
ข – ซูซาน
การใช้ be going to
1. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่างใน อนาคตที่มีเหตุบ่งบอกให้เห็นชัดเจนในขณะปัจจุบัน ลักษณะดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกมั่นใจของผู้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา จากสาเหตุปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้
ตัวอย่าง
Look at those black clouds in the sky. It’s going to rain. Those people are going to get wet.
ดูเมฆดำทะมึนในท้องฟ้าเหล่านั้นสิ ฝนกำลังจะตก คนเหล่านั้นกำลังจะเปียก
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง เราคิดหรือเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นในอนาคต ซึ่งภาวะของการเกิดเหตุการณ์ยังห่างไกลกว่าการใช้ be going to
ตัวอย่าง
That boat doesn’t look very safe.
It’ll sink in that heavy sea.
เรือลำนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัย
มันอาจจะจมในทะเลที่คลื่นลมแรง
Look at that boat! It’s going to sink.
มองดูเรือลำนั้นสิ มันกำลังจะจม

future
อธิบายในภาพที่ 1 ชายคนนี้ยังไม่ได้เอาเรือลงทะเล เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่เอาเรือลงทะเลก็ได้ เพราะแลเห็นคลื่นลมที่แรงจัด ภาวะของการเกิดอันตรายต่อเรือและชายคนนี้ยังอยู่ไกลตัว

future1
แต่ในภาพที่ 2 เรือและชายคนนี้กำลังเผชิญกับคลื่นลมแรงในทะเลที่บ้าคลั่ง ภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว โอกาสของการนำเรือเข้าฝั่งเพื่อให้ชีวิตรอด แทบไม่มีเลย
Don’t climb up that tree.
You’ll fall and hurt yourself.
อย่าปีนขึ้นต้นไม้ต้นนั้น
ลูกอาจจะตกลงมาได้รับบาดเจ็บ
Look out! You’re going to fall!
ระวัง ลูกกำลังจะตกลงมา

future2
อธิบาย ในภาพที่ 1 แม่บอกลูกที่กำลังทำท่าจะปีนขึ้นต้นไม้ แต่ยังไม่ได้ ปีนขึ้น เพื่อจะเอาลูกบอลที่ค้างอยู่ลงมา แม่ทำนายในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นแต่ยังอยู่ไกลตัวเพราะลูกยังไม่ได้ปีน

future3
แต่ในภาพที่ 2 ลูกปีนขึ้นไปแล้ว และกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่กำลังหัก แม่ร้องเตือน (warning วอนิ่ง) ลูกเพราะภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว เลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นได้ยากแล้ว
จะเห็นได้ว่าทั้งสองภาพเป็นการทำนาย (prediction) เหมือนกัน แต่ ต่างกันตรงที่ความมากน้อยของโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น
2. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เราตั้งใจและตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า ว่าจะทำ แสดงถึงการกระทำที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วว่าจะทำในอนาคตอันใกล้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นการวางแผนไว้ก่อนแล้ว (prior plan ไพรเออะ แพลน) นั่นเอง
ตัวอย่าง
I’m going to have a shower.
ผมกำลังจะอาบน้ำ (ชายคนนี้กำลังเปิดประตูเข้ามา มีผ้าเช็ดตัวพร้อมที่จะอาบน้ำ)
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง การตัดสินใจว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ในขณะที่พูด เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้า
ตัวอย่าง
A : I’m sorry. I’ve spilt some wine on my jacket.
B : Don’t worry. I’ll clean it for you.
ก – ผมขอโทษ ผมทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ตของคุณ
ข – ไม่ต้องกังวล ดิฉันจะซักให้
อธิบาย คำพูดของภรรยา (B) เป็นการเอ่ยขึ้นทันที หลังจากที่สามี (A) บอกว่าทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ต จึงเห็นได้ว่าภรรยาตัดสินใจทันทีเมื่อสามีพูดจบ โดยที่ภรรยาไม่ได้เตรียมการที่จะพูดมาล่วงหน้าแต่อย่างใด เป็นการเอ่ยว่าจะซักเสื้อให้เมื่อสามีบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
A : Why have you moved all the furniture out of this room?
B : I’m going to clean the carpet.
ก – ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้
ข – ดิฉันจะทำความสะอาดพรมค่ะ
อธิบาย คำพูดของ A ที่ถามว่า “ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้’’ แสดงให้เห็นชัดว่า A แลเห็นเครื่องเรือนวางอยู่นอกห้องนั้นมากมาย จึงเกิดความสงสัยและซักถามถึงเหตุผล ซึ่ง B ได้ตอบให้ทราบถึงความตั้งใจว่า “ดิฉัน จะทำความสะอาดพรม’’ คำตอบของ B แสดงถึงการเตรียมการว่าจะทำความสะอาดพรมมาล่วงหน้า จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนเหล่านั้นออกมาจากห้อง
3. ในการแสดงความเต็มใจ (willingness วิลลิงเนส) ว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ให้ จะใช้ will เท่านั้น ไม่ใช้ be going to
ตัวอย่าง
A : The phone’s ringing.
B : I’ll get it.
ก – โทรศัพท์กำลังดัง
ข – ผมจะช่วยรับสายให้
A : I don’t understand this math problem.
B : Ask your teacher about it. She’ll help you.
ก – ผมไม่เข้าใจปัญหาคณิตศาสตร์ข้อนี้
ข – ถามคุณครูของคุณสิ เธอจะช่วยคุณได้
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 58,285 times, 1 visits today)


Future Simple Tense


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Future Simple Tense

Future simple (Going to vs Will)


A short video explaining the difference between \”will\” and \”going to.\”
Practice here: http://www.teacherdiane.com/youtube/page1
Learn English on Skype: http://www.teacherdiane.com
Follow Teacher Diane on Facebook: http://www.facebook.com/teacherdianeESL

Future simple (Going to vs Will)

เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ EP 63 สอนแต่งประโยค Future Simple Tense ฉบับเข้าใจได้ง่ายๆภายใน 8 นาที


หลักการใช้ Future Simple Tense เป็นอีกหนึ่ง Tense ที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย ไม่ต้องจำเทคนิคอะไรให้ยุ่งยาก เพราะประธานทุกตัวใช้กริยาตัวเดียวกัน คลิปนี้เราเอาคำอธิบายง่ายๆมาฝากกัน

📌 เฉลยคำศัพท์ uutreF = Future แปลว่า อนาคต, ภายหน้า
ช่องทางการติดตาม อังกฤษออนไลน์ แอมไฟน์ แต๊งกิ้ว
True ID: https://creators.trueid.net/@117825
FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou
YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ
อังกฤษออนไลน์Imfinethankyou futuresimpletense เรียนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ภาษาอังกฤษออนไลน์ อังกฤษ english learnenglish englishconversation speakenglish englishvocabulary englishgrammar education เรียนอังกฤษด้วยตัวเองฟรี สอนภาษาอังกฤษพื้นฐาน สอนภาษาอังกฤษ englishspeaking englishonline teachenglishonline futuresimple useofshall useofwillandshall probably sure know tonight tonighttonight new house housework promise promises again rain believe

เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ EP 63 สอนแต่งประโยค Future Simple Tense ฉบับเข้าใจได้ง่ายๆภายใน 8 นาที

การใช้ Will / Simple Future With Will


\”การใช้ Will / Simple Future With Will\”
คลิปนี้ตัดต่อและอัพใหม่อีกครั้ง
เพื่อคุณภาพที่ดีกว่า
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรับชมนะคะ
😍💓😍

การใช้ Will / Simple Future With Will

Grammar Andy: Future Simple


Grammar Andy: Future Simple

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แต่ง ประโยค future simple tense

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *