Skip to content
Home » [Update] American VS British English ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกาและแบบเมืองผู้ดี | เรียน ภาษา อังกฤษ อเมริกา – NATAVIGUIDES

[Update] American VS British English ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกาและแบบเมืองผู้ดี | เรียน ภาษา อังกฤษ อเมริกา – NATAVIGUIDES

เรียน ภาษา อังกฤษ อเมริกา: คุณกำลังดูกระทู้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

2.6K viewed

ความแตกต่างระหว่าง British and American English

     ภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งมีอยู่หลากหลายแบบหลากหลายสำเนียงขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ แต่ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยกันดีก็จะเป็น British English และ American English ที่เป็นที่ยอมรับและใช้แพร่หลายมากที่สุด แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ความแตกต่างระหว่าง British English กับ American English มีหลายด้านดังนี้

  1. ความแตกต่างทางด้านคำศัพท์ (Vocabulary) เห็นได้ชัดเจน เช่น

British English (BrE)
Amrican English (AmE)
ความหมาย

flat
apartment
ห้องพัก

petrol
gas
น้ำมัน(รถ)

taxi
cab
รถแท๊กซี่

biscuit
cookie
ขนมปังกรอบ

sweet
dessert
ขนมหวาน

lift
elevator
ลิฟท์

rubber
eraser
ยางลบ

torch
flashlight
ไฟฉาย

film
movie
หนัง

trousers
pants
กางเกงขายาว

railway
railroad
ทางรถไฟ

condom
rubber
ถุงยางอนามัย

underpants
shorts
กางเกงขาสั้น

lorry
truck
รถบรรทุก

garden
yard
สวน

 

  1. ความแตกต่างด้านการสะกดคำ (spelling)

คำศัพท์ที่เป็น British หรือ American English บางคำ ออกเสียงเหมือนกัน มีความหมายเหมือนกัน แต่สะกดต่างกัน   ตัวสะกดที่มักเจอบ่อยๆคือ

British English

American English

word

คำที่ลงท้ายด้วยtre

คำที่ลงท้ายด้วย ter

centre / center
theatre / theater

ลงท้ายด้วย ogue

ลงท้ายด้วย og

analogue / analog
catalogue / catalog

ลงท้ายด้วย our

ลงท้ายด้วย or

colour / color
labour / labor

ลงท้ายด้วย ise

ลงท้ายด้วย ize

analyse / analyze
realise / realize

 

คำอื่นๆที่สะกดไม่เหมือนกัน เช่น

British English
American English

programme
program

cheque
check

doughnut
donut

grey
gray

jewellery
jewelry

 

  1. ความแตกต่างทางด้านไวยากรณ์ (grammar)

Collective noun หรือนามที่เป็นกลุ่ม ถ้าเป็น American English จะเป็นเอกพจน์เสมอ แต่ถ้าเป็น British English จะเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ต้องการหมายถึง

3.1 การเขียนวันที่ แบบ American English จะเขียน เดือน / วัน / ปี แต่ถ้าเป็น British English จะเขียนเรียงแบบ The + วันที่ + of + เดือน + ปี

3.2 เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป American English จะใช้ past simple แต่ British English จะนิยมใช้ present perfect มากกว่า

3.3 กริยา 3 ช่อง บางคำใช้ต่างกัน เช่น

British English                          American English

get / got / got                                  get / got / gotten

smell / smelt / smelt                        smell / smelled / smelled

lean / leant / leant                           lean / leaned / leaned

3.4  เวลาเขียนตัวเลขแบบ British Englishจะมี and อยู่หน้าตัวเลขสุดท้ายที่มากกว่า 100 แต่ American Englishไม่มี and

-two thousand and seven. (British English)

-two thousand seven. (American English)

3.5 singular and plural nouns (คำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์) มี คำศัพท์บางคำ ที่ใน British English จะถือว่าเป็น singular ส่วนใน Amican English จะถือว่าเป็น plural เช่น sport ( BrE) sports (AmE) กีฬา

 

– Boonruang was very keen on sport / sports, particularly shooting.

(บุญเรืองเก่งเรื่องกีฬา โดยเฉพาะยิงปืน)

3.6 countable and uncountable nouns (คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้) มีคำศัพท์บางคำ ที่ใน British English เป็นทั้งcountable and uncountable nouns ส่วนใน Amican English เป็นเฉพาะ uncountable noun เช่น tea (ชา) หรือ coffee (กาแฟ)

– Would you like a cup of coffee? (กาแฟสักแก้วไหมคะ) (BrE และ AmE)

– Would you like a coffee? (BrE เท่านั้น)

– Two cups of coffee and a cup of tea, please. กาแฟ 2 ถ้วย ชา 1 ถ้วยครับ (BrE และ AmE)

– Two coffees and a tea, please. (BrE เท่านั้น)

3.7 river แม่น้ำ สำหรับ British English ชื่อแม่น้ำจะอยู่หลังคำว่า river แต่ Amican English ชื่อแม่น้ำจะอยู่หน้าคำว่า river

– the River chao phraya is in Thailand. (แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ประเทศไทย) (BrE)

– the chao phraya River is in Thailand. (AmE)

 

  1. ความแตกต่างทางด้านการออกเสียง (pronunciation)

4.1 คำศัพท์หลายคำที่มีตัวอักษร a

ถ้า British English ออกเสียง อา    แต่ถ้าเป็นAmerican English ออกเสียง แอ

เช่น

British English                                  American English

ask     อาสค์                                          ask     แอสค์

fast     ฟาสท์                                          fast     แฟสท์

can’t   ค้านท์                                          can’t   แค้นท์

*can ออกเสียง แคน ทั้ง British English และ American English

 

4.2 คำศัพท์ที่มี ue, ew

ถ้าเป็น British English จะออกเสียง อิวเช่น due   ดิว

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง อู   due ดู

 

4.3 อักษร t ถ้าอยู่ระหว่างสระหรืออักษร l หรือ r

ถ้าเป็น British English จะออกเสียง ท         better เบ้ทเท่อะ

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง ด    better เบ้ทเด่อะ

 

4.4 สียง r ที่อยู่ระหว่างตัวอักษรหรือท้ายคำ

ถ้าเป็น British English จะไม่ออกเสียง rpart   พาท

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง rpart พารฺท

 

   สาเหตุที่เราต้องรู้จักทั้งแบบ American English และ British English เพราะภาษาอังกฤษมีความหลากหลาย เราอาจจะได้ยินได้ฟังในหลายแบบเพื่อจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างที่คนอื่นเขาพูดกัน

 

ที่มา: http://www.pasaangkit.com

[NEW] | เรียน ภาษา อังกฤษ อเมริกา – NATAVIGUIDES

สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

              สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา นักเรียนไทยที่สนใจไปเรียนที่ประเทศอเมริกา ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าจะไม่โดนสัมภาษณ์ วันนี้พี่ๆทีมงานเลยรวบรวมตัวอย่างเทคนิคการถามตอบ เทคนิค สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา มาให้นักเรียนได้อ่านแล้วเรียนรู้ตัวอย่างประกอบคำสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ก่อนจะไปเจอของจริง และจะได้ไม่รู้สึกประหม่า พร้อมยังได้เตรียมคำตอบได้อย่างไหล่ลื่น และไม่กังวลอีกต่อไป                                                                                                                                                                                                                                                                                                

สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

หลักๆนักเรียนต้องจำและทราบว่า                                                                                   

  • จะไปเรียนที่ไหน
  • ระยะเวลาเท่าไหร่
  • เรียนอะไร
  • พักกับใคร
  • ใครออกค่าใช้จ่ายให้

ซึ่งคำถามข้างต้นเป็นคำถามที่นักเรียนจะต้องเจออย่างแน่นอน และคำตอบก็ง่ายมากเพราะนักเรียนสามารถตอบไปตามความจริงซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทำเรื่องสมัครให้นักเรียนจะให้ข้อมูลดังกล่าวแต่นักเรียนต้องจำให้ได้

ตัวอย่างบทสนทนา สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา (นักเรียนอาจจะได้เจอทั้งภาษาไทยและอังกฤษ)

Why do you want to go to America?

ทำไมถึงอยากไปที่อเมริกา

เราก็บอกไปเลยว่าเราต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษ  และบอกเหตุผลว่าทำไมต้องไปเรียนภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเช่น

 

I would like to study English course after that I will study in Higher Education or Master Degree.

(ต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษ เพราะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น)

 

I would like to improve my English and come back to work with International Company in Thailand where needs Thai staff who could speak English Fluently.

(ต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อกลับมาทำงานให้กับบริษัทต่างชาติที่ประเทศไทย ที่ต้องการคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษอย่างได้คล่องแคล่ว)

 

I would like to improve my English in order to use it in my University/College in Thailand when I come back.

(ต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนจะนำกลับมาใช้ในการเรียนที่มหาวิทยาลัย/โรงเรียน)

How long will you stay in the US?

จะอยู่ที่อเมริกานานเท่าไหร่

จะอยู่นานเท่าไรก็บอกไปได้เลย แต่ต้องให้ตรงกับในข้อมูลที่กรอกด้วย อย่างเช่น ลงเรียน 3 เดือนก็ต้องบอกไปว่า จะอยู่ 3 เดือน

(I will stay there for 3 months.)

 

Where will you stay/study in the US?

จะไปพัก/เรียนที่ไหน กับใครต้องแจ้งที่อยู่ให้ละเอียดด้วย

โดยคำถามนี้นักเรียนอาจจะต้องตอบตอบตามที่จองที่พัก/โรงเรียน  อาจจตอบเป็นชื่อรัฐอย่าง นิวยอร์ก ซานฟรานซิโก เป็นต้น

(I will stay with a host family at New York City.) (I will study at San Francisco)

Who is your sponsor?

ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนการเรียนครั้งนี้

อันนี้เป็นคำถามง่ายเราเราก็ตอบไปตามที่เราแจ้ง

(My Mother/Father)

 

Why don’t you do this course in your country?

ทำไมไม่ลงเรียนคอร์สนี้ที่ประเทศของนักเรียนล่ะ?

ส่วนใหญ่การตอบคำถามลักษณะนี้จะเป็นต้องตอบประมาณ

เราต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในบรรยากาศจริง แถมได้ซึมซับวัถณธรรมชาวอเมริกันด้วย

(I would like to study English in real English environment also I could immerse myself in English and American’s culture )

 

ต้องการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอย่างอเมริกาและเชื่อมั่นว่ามันจะช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น

(I would like to study English at the USA where people speak English at the first language and I believe that could help me learn English faster than study in Thailand.)

นี่เป็นเพียงตัวอย่างคำถามคร่าวๆ แบบเบื้องต้นที่นักเรียนต้องเจอเกี่ยวกับ สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ซึ่งเทคนิคง่ายๆในการตอบคำถามคือนักเรียนต้อง

  • ตอบตามความเป็นจริง
  • เตรียมพร้อมทำการบ้านเกี่ยวกับคำถามตำตอบที่จะต้องเจอ
  • มีความมั่นใจในการตอบคำถาม เสียงดัง ฟังชัด ไม่เข้าใจคำถามถามใหม่ได้
  • คิดบวกเสมอ และหน้าตาเราจะดูยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาเอง
  • ระลึกไว้เสมอว่าถึงแม้จะโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็จะเป็นภาษาอังกฤษที่ไม่ยาก เป็นคำถามพื้นๆทั่วไป

 

 

 


Click [by Mahidol] Everything About British-American English (1/2)


Everything About BritishAmerican English ใครที่เคยงงกับความต่างของภาษาอังกฤษแบบ British และภาษาอังกฤษแบบ American ต้องมาดูรายการ Click ผลิตโดยมหาวิทยาลัยมหิดลตอนนี้ เมื่ออาจารย์คริสโตเฟอร์ ไรท์ แยกความต่างของภาษาอังกฤษทั้งสองแบบไว้เป็น 3 หัวข้อ คือ การสะกด (Spelling), การออกเสียง (Pronunciation) และคำศัพท์ (Vocabulary) พร้อมเรื่องเล่าสนุก ๆ ที่ทำให้ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Click [by Mahidol] Everything About British-American English (1/2)

#เรียนภาษาอังกฤษ #ฝึกภาษา #ภาษาอังกฤษ #อเมริกันภาษาอังกฤษ #englishlanguage #อเมริกา


#เรียนภาษาอังกฤษ #ฝึกภาษา #ภาษาอังกฤษ #อเมริกันภาษาอังกฤษ #englishlanguage #อเมริกา

EP 139.มาเรียนภาษาที่อเมริกาต้องทำยังไง


\”ไม่ว่าจะไปดูอู่ ดูรถซิ่ง ดูรถมือสอง ขับรถกินลม หาของกิน รีวิวรถ ดูอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและเทศในอเมริกา ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในช่องของ MrJiroChan ครับ.\”
ทางเพจ https://www.facebook.com/MrJiroChanTX/
ทาง IG : https://www.instagram.com/jiro_chan_16/

EP 139.มาเรียนภาษาที่อเมริกาต้องทำยังไง

สูตรพัฒนาตัวเองที่ไม่มีวันหมดอายุ


จิตวิทยาพัฒนาตันเองที่ไม่มีวันบูดเน่าใช้ได้ทั้งชีวิต

กดเข้ากลุ่มฟรี! เก่งขึ้นวันละ 1%!
https://www.facebook.com/groups/350505719845935
แจกฟรี! อีบุ๊ก 18 ความลับ!
เปลี่ยนคุณให้เป็นคนเจ้าเสน่ห์
[ทำยังไงให้ใครๆก็รักตั้งแต่แรกพบ]
👉https://lin.ee/iwazNnx
ฟังฟรี! จิตวิทยาการพูดชนะใจคน
👉https://www.youtube.com/playlist?list=PLfdtkwJb5cVr68FikXL1rVSYCpCn0vGle
กลุ่มฟรี! พูดพิชิตใจแบบจ้าวเสน่ห์!
👉https://www.facebook.com/groups/astcharismasecrets/
ติดตาม Exclusive Content ในช่องทางต่างๆได้ที่:
Line Official: https://lin.ee/iwazNnx
Facebook: https://www.facebook.com/Amazingstorytelling
Blockdit: https://www.blockdit.com/amazingstorytelling
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
ครองใจคน,วิธีชนะมิตรและจูงใจคน,วิธีการพูดนำเสนอ
,พูดอย่างไรให้น่าฟัง,สร้างเสน่ห์,เทคนิคการพูดโน้มน้าวใจ,การพูดพิธีกร,เทคนิคพูดให้น่าฟัง,พูดอย่างไรให้จับใจคนฟัง,พูดอย่างไรให้คนชอบเรา,วิธีการพูดโน้มน้าวจูงใจ,พูดยังไงให้คนรัก,พูดอย่างไรให้คนเชื่อ,พูดอย่างไรให้คนคล้อยตาม,พูดในที่ชุมชน,พูดอย่างไรให้ชนะใจคนฟัง,พูดอย่างไรให้ผู้ชายหลง,พูดอย่างไรให้มีเสน่ห์,คุยอย่างไรให้ได้คบ,คุยอย่างไรให้ผู้ชายชอบ,คุยอย่างไรให้ผู้หญิงชอบ,คุยอย่างไรให้สนุก,คุยอย่างไรไม่ให้เบื่อ,เทคนิคคุยกับลุกค้า,เทคนิคพูดหน้ากล้อง,เทคนิคพูดขายของ,เทคนิคเล่าเรื่อง,เล่าเรื่องอย่างไรให้สะกดใจคน

สูตรพัฒนาตัวเองที่ไม่มีวันหมดอายุ

ฝึกฟังภาษาอังกฤษง่ายๆสำเนียงอเมริกัน/การเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกา (easy American English listening)


หรือติดตามครูวสันต์ อายุบเคน ได้ทาง Facebook fan page ได้อีกช่องทางหนึ่ง: https://www.facebook.com/wasan.aryubken/

ฝึกฟังภาษาอังกฤษง่ายๆสำเนียงอเมริกัน/การเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกา  (easy American English listening)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เรียน ภาษา อังกฤษ อเมริกา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *