Skip to content
Home » [Update] Adverbs (คำวิเศษณ์) | การ เปลี่ยน adjective เป็น adverb – NATAVIGUIDES

[Update] Adverbs (คำวิเศษณ์) | การ เปลี่ยน adjective เป็น adverb – NATAVIGUIDES

การ เปลี่ยน adjective เป็น adverb: คุณกำลังดูกระทู้

ADVERBS

              Adverbs 

หรือ คำกริยาวิเศษณ์ คือ
คำที่ทำหน้าที่ขยายคำกริยา (

Verb) 

คำคุณศัพท์ (

Adjective) 

หรือคำกริยาวิเศษณ์
(

Adverb) 

เพื่อให้ได้ใจความที่สมบูรณ์และมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น

Verb)Adjective)Adverb)

  • Purposes of adverb

1.

ทำหน้าที่ขยายคำกริยา (

Verb) 

โดยปกติแล้วจะอยู่หลังคำกริยาที่ถูกขยายหรืออยู่หลังกรรมของคำกริยา
ในกรณีที่คำกริยานั้นมีกรรมมารับ เช่น

My grandfather walks slowly. 

จากประโยคข้างต้น

 slowly  

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำกริยา

 walk

Tata sings a song sweetly. 

จากประโยคข้างต้น

 Sweetly 

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำกริยา

 sing 

และอยู่หลังกรรม

He works hard every day. 

จากประโยค

 hard 

เป็น

 adverb 

ขยายคำกริยา

 work

2. 

ทำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ (

Adjective) 

โดยปกติจะอยู่หน้าคำคุณศัพท์เช่น

Jane is very beautiful. 

จากประโยคข้างต้น

 very 

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำคุณศัพท์

 beautiful

Ann is too young. 

จากประโยคข้างต้น

 too 

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำคุณศัพท์

 young

It is surprisingly hot today. 

จากประโยค

 surprisingly 

เป็น

 adverb 

ขยายคำคุณศัพท์

 hot

3.

ทำหน้าที่ขยายคำกริยาวิเศษณ์ (

Adverb) 

ด้วยกันเอง
ปกติแล้วจะอยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์ เช่น

She speaks so quickly.  

จากประโยคข้างต้น

 so 

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำคุณศัพท์

 quickly

Pam drives quite carefully. 

จากประโยคข้างต้น

 quite 

เป็นคำกริยาวิเศษณ์
ขยายคำวิเศษณ์

 carefully

The train travels very quickly. 

จากประโยคข้างต้น

 very 

เป็น

 adverb 

ไปขยาย

 quickly 

ซึ่งเป็น

 adverb

4. 

ทำหน้าที่ขยายคำสรรพนาม (

Pronoun) 

เช่น

What else I can say?  

จากประโยคข้างต้น

 else 

เป็น

 adverb 

ขยาย

 what 

ซึ่งเป็น
สรรพนาม

5. 

ทำหน้าที่ขยายกลุ่มคำที่เป็นวลี (

Phrase) 

เช่น

They lived nearly on the top of the hill. 

จากประโยคข้างต้น

 nearly 

เป็น

 adverb 

ขยายวลี (

Phrase)
on the top of the hill

6. 

ขยายประโยคทั้งประโยค (

Sentence) 

โดยปกติมักพบอยู่หน้าประโยค
เช่น

However, I was successful in the examination

จากประโยคข้างต้น

 however 

เป็น

 adverb 

ขยายประโยคที่ตามมาทั้งประโยค

7. 

ทำหน้าที่ขยายจำนวนนับ

 

เช่น

I go to London almost every week.

จากประโยคข้างต้น

 almost 

เป็น

 adverb 

ขยายจำนวนนับ

 every

almostadverbevery

8. 

ทำหน้าที่ขยายคำบุรพบท (

Preposition) 

เช่น

I hit him right on his nose .

จากประโยคข้างต้น

 right 

ในที่นี้แปลว่า
“พอดี ” เป็น

 adverb 

ขยาย

 preposition
“on”

rightadverbpreposition “on”

9. 

ทำหน้าที่ขยายคำสันธาน

 Conjunction
(

สันธาน)

 

เช่น

He didn’t stop working even though he was very tired.

จากประโยคข้างต้น

 even = 

ถึงขนาดนั้น

แม้กระนั้น
เป็น

 adverb 

ขยายคำสันธาน

 though

even =adverbthough

  • How to create adverbs

เราสามารถสร้าง

 Adverb 

จาก

 Adjective 

ได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

AdverbAdjective

1. คำ

 Adverbs 

ส่วนหนึ่งมาจากการเติม

 –
ly 

หลังคำคุณศัพท์ เช่น

Adverbs– ly

Quick


– ly


quickly


อย่างรวดเร็ว


sad


– ly


sadly


อย่างเศร้าโศกเสียใจ


slow


– ly


slowly


อย่างเชื่องช้า

2. คำ

 adjective 

ที่ลงท้ายด้วย

 e 

ให้เติม

 –ly  

เช่น

adjective–ly

complete


– ly


completely


อย่างสมบูรณ์


immediate


– ly


immediately


อย่างกระทันหัน

3. คำยกเว้น คำคุณศัพท์ (

Adjective) 

ที่ลงท้ายด้วย

 ue 

ตัด

 e 

ทิ้งแล้วเติม

 –ly

Adjective)ue–ly

true


– ly


truly


อย่างแท้จริง


due


– ly


duly


อย่างสมควร

ครบกำหนด

. คำคุณศัพท์ (

adjective) 

ที่ลงท้ายด้วย

 y 

เปลี่ยน

 y 

เป็น

 i 

แล้วเติม

 –ly 

เช่น

adjective)–ly

angry


– ly


angrily


อย่างโกรธเคือง

ฉุนเฉียว


happy


– ly


happily


อย่างมีความสุข

5. คำคุณศัพท์ (

adjective) 

ที่ลงท้ายด้วย

 le 

ให้ตัด

 e 

ทิ้งแล้วเติม

 y 

เช่น

 

adjective)le

simple


– ly


simply


อย่างง่ายๆ


possible


– ly


possibly


อย่างเป็นไปได้

คำยกเว้น

  whole –
wholly 

อย่างสมบูรณ์

ครบถ้วน

whole – wholly

คำที่ลงท้ายด้วย

 ly 

อยู่แล้วแต่เป็นคำคุณศัพท์ได้แก่คำว่า

Note:ly

เป็นมิตร

   

friendly

น่ารัก

lovely

โด่ดเดี่ยว

     

lonely

น่าเกลียด

ugly

งี่เง่า

   

silly

. คำคุณศัพท์ (

adjective) 

บางคำเมื่อเป็นคำวิเศษณ์
(

adverb) 

จะเปลี่ยนรูปไปเลย เช่น

 Good 

เปลี่ยนเป็น

 Well

adjective)adverb)GoodWell

จะมีคำยกเว้นเพียงบางคำที่มีรูปเดียวกันทั้งคำคุณศัพท์
(

adjective) 

และคำวิเศษณ์ (

adverb) 

เช่น

7.adjective)adverb)

เร็ว )

Fast (


มาก )

Much (


ยาก )

Hard (


น้อย )

Little (


ต่ำ )

Low (


สาย )

Late (


สูง )

High (


เพียงพอ )

Enough (


ลึก )

Deep (


ผิด )

Wrong (


เช้า )

Early (


ไกล )

Far (


ตัวอย่างเช่น

It is a fast train. (adjective)

It goes very fast. (adverb)

George is a hard worker. (adjective)

Mike works hard. (adverb)

  • Types of adverb

คำกริยาวิเศษณ์) โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น

 5 

ชนิด
ตามลำดับดังนี้

Adverbs (

1. Adverb of degree

2. Adverbs of manner

3. Adverbs of place

4. Adverbs of frequency

5. Adverbs of time

โดย

 Adverb 

ที่ขยาย

 adjective 

และ

 adverb 

ได้แก่

 Adverbs
of Degree 

ซึ่งปกติจะนำหน้าคำที่มันขยาย

AdverbadjectiveadverbAdverbs of Degree

ส่วน

 Adverb 

ที่ขยาย

 verb 

ได้แก่

 Adverbs
of Time Adverbs of Manner Adverbs of Place 

และ

 Conjunctive
Adverbs

AdverbverbAdverbs of Time Adverbs of Manner Adverbs of PlaceConjunctive Adverbs

1. Adverbs of Degree 

เป็นกริยาวิเศษณ์ที่ส่วนใหญ่ไปขยาย

 adjective 

หรือ

 adverb 

ด้วยกันเอง
เพื่อบอกระดับหรือปริมาณความมากน้อย คำที่พบบ่อยๆ ได้แก่

adjectiveadverb

absolutely, certainly, definitely, probably, entirely, obviously, very, almost, nearly, quite, just, too, enough, hardly, completely, very, extremely, exactly, scarcely, so, much,

quite, perhaps, probably, rather, fairly, only, slightly

ตำแหน่งของ

 Adverb of degree

ตำแหน่งของ

 Adverbs of
Degree 

ส่วนใหญ่วางหน้าคำที่มันขยาย มักจะขยาย

 adjective 

หรือ

 adverb 

ด้วยกันเอง
และวางหน้า

 main verb 

หรือระหว่างกริยาช่วย (

 auxiliary
verb ) 

กับ

 main verb 

เช่น

The water was extremely cold.

จากประโยคข้างต้น

 extremely 

เป็นคำวิเศษณ์
(

Adverb) 

ขยายคำคุณศัพท์ (

adjective) cold

extremelyAdverb)adjective) cold

I am too tired to go out tonight.

จากประโยคข้างต้น

 too 

เป็นคำวิเศษณ์
(

Adverb) 

ขยายคำคุณศัพท์ (

adjective) tired

tooAdverb)adjective) tired

Please do not speak too fast.

จากประโยคข้างต้น

 too 

เป็นคำวิเศษณ์
(

Adverb) 

ขยายคำวิเศษณ์ (

Adverb) fast

tooAdverb)Adverb) fast

He hardly noticed what she was saying.

จากประโยคข้างต้น

 hardly 

เป็นคำวิเศษณ์
(

Adverb) 

วางอยู่หน้ากริยา ขยายกริยา (

Main
verb)  noticed

hardlyAdverb)Main verb) noticed

She had almost finished her breakfast when I came in.

จากประโยคข้างต้น

 almost 

เป็นคำวิเศษณ์
(

Adverb) 

วางอยู่หน้ากริยา ขยายกริยา (

Main
verb)  finished

almostAdverb)Main verb) finished

2. Adverbs of manner 

คือ
คำกริยาวิเศษณ์ที่บรรยายลักษณะ อาการ ท่าทาง
และบอกให้ทราบว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นในลักษณะอย่างไร เช่น

ม้าวิ่งเร็ว

The horse runs quickly.

ขนมเค้กชิ้นนี้อร่อย

This cake is deliciously.

ข้อสังเกต:

  Adverb 

ชนิดนี้มักได้มาจากคำคุณศัพท์
(

adjective)

Adverbadjective)

ตำแหน่งของคำ

 adverb of manner

วางไว้หลังคำกริยาที่มันไปขยาย เช่น

 She
smiles happily.

1)She smiles happily.

วางไว้หลังกรรม เมื่อประโยคมีกรรมมารับ เช่น

 Mary
does homework carefully.

2)Mary does homework carefully.

3. Adverb of place 

คำคำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้บอกสถานที่
บอกว่าการกระทำนั้น ๆ เกิดขึ้นที่ไหน

 adverb of place 

ที่มักพบบ่อย
ๆ คือ

adverb of place

เหนือขึ้นไป

              upstairs                  

ชั้นบน

Aboveupstairs

บ้าน

                       here                       

ที่นี่

Homehere

ตรงข้าม

ตามขวาง

    there                     

ที่นั่น

Acrossthere

โดยรอบ

                  somewhere             

บางที

Aroundsomewhere

ไม่อยู่

,

ห่าง

               near                       

ใกล้

Awaynear

ที่อยู่ข้างหลัง

            everywhere             

ทุกที่

Backeverywhere

ลง

ข้างล่าง

             at                          

ที่

Downat

เบื้องล่าง

                 downstairs             

ชั้นล่าง

Belowdownstairs

ตำแหน่งของ

 Adverbs of place

1. วางไว้หลังคำกริยาที่ขยาย เช่น

He goes everywhere by van.

They sleep upstairs.

2. วางไว้หลังกรรม เมื่อประโยคมีกรรมมารับ เช่น

I wait for my friend at the front gate.

She puts her handbag on the desk.

4. Adverbs of frequency 

คือคำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้บอกความถี่
ความบ่อยของการกระทำ

 adverbs of frequency 

ถูกแบ่งออกเป็น

 2 

กลุ่ม คือ

adverbs of frequency

             1. ชนิดที่เป็นคำเดียว เช่น

เสมอ

                      seldom                   

นาน ๆ ครั้ง

Alwaysseldom

บ่อย ๆ

                    generally                

โดยทั่วไป

Oftengenerally

บางครั้ง

                   hard                      

แทบจะไม่

Sometimehard

ไม่เคย

                    occasionally            

บางโอกาส

Neveroccasionally

ตำแหน่งของ

 Adverbs of frequency 

ชนิดที่เป็นคำเดียว

วางหน้าคำกริยาแท้ (

finite verb) 

เช่น

finite verb)

We always get up at 5 o’clock.

I often go to school by bus.

วางไว้หลังคำกริยาช่วย (

verb to
be) 

เช่น

verb to be)

He is never late for school.

They are seldom absent from work.

               2. ชนิดที่เป็นกลุ่มคำ

 

เช่น

ครั้งต่อ

 1 

สัปดาห์

Once a week – 1

หลายครั้ง

Many times –

ทุกๆ วัน

Every day –

ครั้งต่อ

 1 

ปี

Twice a year – 2

หลายครั้ง

Several times –

ซ้ำแล้วซ้ำอีก

Now and again –

ตำแหน่งของ

 Adverb of frequency 

ชนิดที่เป็นกลุ่มคำ

– 

วางไว้หลังกรรม หรือ ท้ายประโยค เช่น

I go to school everyday.

She visits her parents once a week.

Pam washes her hair twice a week.

5.

 Adverb of time 

คือ
คำวิเศษณ์ ที่ใช้บอกเวลา บอกให้ทราบว่าการกระทำเกิดขึ้นเมื่อไร

 adverb
of time 

ที่มักพบบ่อยๆ คือ

adverb of time

วันนี้

                       Already                  

ทำแล้ว

TodayAlready

เมื่อวานนี้

                 Late                       

สาย

YesterdayLate

วันพรุ่งนี้

                  Soon                      

ในไม่ช้า

TomorrowSoon

คืนนี้

                       Still                       

ยังคง

TonightStill

ภายหลัง

                  Yet                        

ยังไม่

AfterYet

ก่อน

Before

ช่วงบ่าย

Afternoon

วันก่อนเมื่อวานนี้

The day before yesterday

วันถัดจากวันพรุ่งนี้

The day after tomorrow

ตำแหน่งของ

 Adverbs of time

วางไว้ท้ายประโยค เช่น

 He went to
school yesterday.

1.He went to school yesterday.

วางไว้หน้าประโยค เมื่อต้องการจะเน้นเวลา เช่น

 Tomorrow I
shall buy a book.

2.Tomorrow I shall buy a book.

  • Order of adverb      

การเรียงลำดับ

 Adverb 

เมื่อ

 adverb 

ในประโยคมีมากกว่า

 1 

ชนิด
ให้เรียงลำดับดังนี้

Adverbadverb

M. – Adverbs of manner

P. – Adverbs of place

F. – Adverbs of frequency

T. – Adverbs of time

เช่น

 

She eats rice slowly at home once
a day in the evening.

ในกรณีที่มีเพียง

 Adverb of
place 

และ

  adverb of manner 

ให้นำ

 adverb
of place 

มาวางไว้หน้า

 adverb of
manner 

ดังนี้

 He walks to school
quickly.

Adverb of placeadverb of manneradverb of placeadverb of mannerHe walks to school quickly.

ถ้า

 adverb 

ชนิดเดียวกัน
ขยายคำกริยาตัวเดียวกันที่มีมากกว่า

 1 

ตัวขึ้นไปในประโยคเดียวกันจะต้องเอา

 adverb 

ที่เป็นจุดเล็กที่สุกขึ้นก่อนจากนั้นจึงตามด้วยจุดที่กว่างหรือใหญ่ที่สุดดังตัวอย่าง

adverbadverb

I was born at nine o’clock on Sunday in June in 1965.

She buys some food at supermarket in department store on Silom Road in Bangkok.

[Update] บทเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (WebBlog) ด้วย WordPress | การ เปลี่ยน adjective เป็น adverb – NATAVIGUIDES

adjective หรือ adverb

                     adjective หรือ adverb ที่เเสดงลักษณะ ปริมาณ เเละอาการต่างๆ อาจเปรียบเทียบ            เเสดงความมากน้อยกว่ากันได้

           แบ่งการเปรียบเทียบออกเป็น 3 ขั้น คือ

 1. ขั้นธรรมดา ( positive degree ) เพื่อแสดงความเท่าเทียมกัน บอกลักษณะหรือปริมาณโดยทั่วไป เช่น

beautiful

สวย

long

ยาว

much

มาก (ใช้กับนามนับไม่ได้)

little

น้อย (ใช้กับนามนับไม่ได้)

few

น้อย (ใช้กับนามนับได้)

many

มาก (ใช้กับนามนับได้)

quickly

อย่างเร็ว

easily

อย่างง่าย

 2. ขั้นสูงกว่า ( comparative degree ) เพื่อเเสดงความมากน้อยกว่ากัน เช่น

more beautiful

สวยกว่า

longer

ยาวกว่าx

more

มากกว่า

less

น้อยกว่า (ใช้กับนามนับไม่ได้)

fewer

น้อยกว่า (ใช้กับนามนับได้)

more quickly

อย่างเร็วกว่า

more easily

อย่างง่ายกว่า

3. ขั้นสูงสุด ( superlative degree ) เพื่อแสดงความมากที่สุด เช่น

 ( the ) most beautiful

สวยที่สุด

( the ) longest

ยาวที่สุด

( the ) most

มากที่สุด

( the ) least

น้อยที่สุด (ใช้กับนามนับไม่ได้)

( the ) fewest

น้อยที่สุด (ใช้กับนามนับได้)

( the ) most quickly

อย่างเร็วที่สุด

การใช้ Adjective ในการเปรียบเทียบ

          เมื่อใช้ประกอบหน้านาม ( attributive use )

ขั้นธรรมดา
She is a beautiful girl.
ขั้นมากกว่า
She is a more beautiful girl than the other one.

ขั้นมากที่สุด
She is the most beautiful girl in our class.

      เมื่อใช้หลัง verb to be ( predicative use ) หรือกริยาอื่นซึ่งเทียบเท่า verb to be ( เช่น become, look, seem,etc )

ขั้นธรรมดา
She is beautiful.
ขั้นมากกว่า
She is more beautiful than her sister.

ขั้นมากที่สุด
She is the most beautiful in our class.

          การใช้ Adverb ในการเปรียบเทียบ

ขั้นธรรมดา
My car runs quickly.

ขั้นมากกว่า
My car runs more quickly than his car.

ขั้นมากที่สุด
My car runs the most quickly in town.

  การเปลี่ยนแปลงรูปของ Adjective และ Adverb ในการเปรียบเทียบ

   1. คำพยางค์เดียวเตืม er และ est

ขั้นธรรมดา

ขั้นกว่า

ขั้นสูงสุด

คำเเปล

—————————————————————————————————

tall

taller

tallest

สูง

small

smaller

smallest

เล็ก

high

higher

highest

สูง

hard

harder

hardest

แข็ง,หนัก

fast

faster

fastest

เร็ว

slow

slower

slowest

ช้า

loud

louder

loudest

ดัง

   2. คำพยางค์เดียวมีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มตัวสะกดอีกตัวหนึ่ง ก่อนเติม er และ est

big

bigger

biggest

ใหญ่

fit

fitter

fittest

เหมาะ

thin

thinner

thinnest

บาง

   3. ถ้ามี e ลงท้ายอยู่เเล้ว ให้เติมเฉพาะ r และ est  เช่น

large

larger

largest

ใหญ่

late

later

latest

ช้า,สาย

   4. คำลงท้ายด้วย y เปลี่ยน y เป็น i แลัวจึงเติม er และ est

happy

happier

happiest

สุข

pretty

prettier

prettiest

สวย

lovely

lovelier

loveliest

น่ารัก

easy

easier

easiest

ง่าย

heavy

heavier

heaviest

หนัก

   5. คำ 2 พยางค์ซึ่งลงท้ายด้วย er, ow หรือ y อาจเติม more, most ข้างหน้า หรือเติม er, est ข้างท้าย

slender

slenderer

slenderest

เอวบางร่างน้อย

more slender

most slender

shallow

shallower

shallowest

ตื้น

more shallow

most shallow

    6. คำ 2 พยางค์ซึ่งไม่ลงท้ายด้วย er, ow หรือ y โดยปกติเติม more, most ข้างหน้า

selfish

more selfish

most selfish

เห็นแก่ตัว

fluent

more fluent

most fluent

พูดคล่อง

useful

more useful

most useful

มีประโยชน์

honest

more honest

most honest

ซื่่อสัตย์

    7. คำ 3 พยางค์ขึ้นไป ต้องเติม more, most เสมอ

difficult

more difficult

most difficult

ยาก

intelligent

more intelligent

most intelligent

ฉลาด

beautiful

more beautiful

most beautiful

สวย

8. คำ Adverb ที่ลงท้ายด้วย ly เตืม more, most เสมอ

slowly

more slowly

most slowly

อย่างช้า

loudly

more loudly

most loudly

อย่างดัง

quickly

more quickly

most quickly

อย่างเร็ว

 คำ Adjective และ Adverb เปรียบเทียบที่ไม่เป็นตามกฏ ( Irregular Comparison )

ขั้นธรรมดา

ขั้นกว่า

ขั้นสูงสุด

คำเเปล

good

better

best

ดี

bad, badly

worse

worst

เลว

much, many

more

most

มาก

little

less

least

น้อย

far

farther

farthest

ไกล (ระยะทาง)

far

further

furthest

ไกล,เหนือ

ใช้    as + adjective, adverb + as

       เมื่อต้องการแสดงความเท่าเทียมกัน

This boy is  that one.

You are  I am.

       เมื่อต้องการเเสดงความไม่เท่าเทียมกัน

This boy is not  that one.

You are not  I am.

I do not work  you do.

ใช้   not so + adjective, adverb + as แทน as……….as ก็ได้

This boy is not  that one.

You are not  I am.

I do not work  you do.


Adverb คำวิเศษณ์ | เตรียมสอบ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน| ครูออยเรียนง่ายภาษาอังกฤษ


Adverb คำวิเศษณ์เตรียมสอบภาษาอังกฤษพื้นฐานว่าเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ ไวยากรณ์และ Grammar การใช้ adverb หน้าที่และตำแหน่งในประโยค สามารถไปกดติดตามได้ที่เพจเรียนง่ายภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Adverb คำวิเศษณ์ | เตรียมสอบ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน| ครูออยเรียนง่ายภาษาอังกฤษ

ติว TOEIC ครูดิว : Adverbs of Frequency บอกความถี่ ต้องรู้ออกสอบ TOEIC!


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 ติว TOEIC กับครูดิวเลย (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

Adverbs of Frequency คือ Adverb กลุ่มที่ใช้บอกความถี่ของการกระทำค่ะ เช่นพวก always, usually, often, sometimes, rarely เป็นต้น จะมีวิธีจำยังไงให้ง่ายๆ นะ? มาครูดิวไปดูกันค่ะ

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

ติว TOEIC ครูดิว : Adverbs of Frequency บอกความถี่ ต้องรู้ออกสอบ TOEIC!

คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษาอังกฤษต้องรู้


ตามไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูหวานต่อที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษาอังกฤษต้องรู้

Changing adjective into adverb การเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เป็นวิเศษณ์


แฟนเพจ ลีเฮาส์ สอนและแปลภาษาอังกฤษ
โทร/ไลน์ 0816973492
IG : leehouse99

Changing adjective into adverb การเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เป็นวิเศษณ์

หลักการเปลี่ยน Adjectives เป็น Adverbs | ภาษาอังกฤษ ป.6 | Kru Jee Channel


การจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
ครูผู้สอน นางสาวพิมลวรรณ หอมฟุ้ง ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านบางเจริญ
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ป.6

หลักการเปลี่ยน Adjectives เป็น Adverbs | ภาษาอังกฤษ ป.6 | Kru Jee Channel

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การ เปลี่ยน adjective เป็น adverb

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *