Skip to content
Home » [Update] Adverb ฉบับสมบูรณ์และเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอื่น ๆ | adverb ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

[Update] Adverb ฉบับสมบูรณ์และเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอื่น ๆ | adverb ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

adverb ใช้ยังไง: คุณกำลังดูกระทู้

บทความนี้จะตอบคำถามของคุณเกี่ยวกับ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ คืออะไร พร้อมอธิบายหลักการใช้ Adverb ละเอียดแจ่มแจ้งสุดๆ ที่ต้องไม่พลาด

Table of Contents

Adverb คืออะไร?

Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์คือคำที่ขยายคำกริยา และคำคุณศัพท์ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับคำวิเศษณ์ในภาษาไทย แต่ในภาษาอังกฤษนั้น คำวิเศษณ์จะเป็น กริยาวิเศษณ์ เท่านั้นไม่มีการแยกย่อยได้เยอะแยะเหมือนภาษาไทยบ้านเราเลยรับรองว่าเรียนได้ง่ายๆ จำได้นาน ไม่ยากนะคะ

โดยปกติแล้วคำกริยาวิเศษณ์ แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. Simple Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์ทั่วไป
2. Interrogative Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์คำถาม
3. Relative(Conjunction) Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมประโยค Simple Adverb คือ กริยาวิเศษณ์ที่ใช้ขยายกริยา ขยาย รายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้

เรียนรู้ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ ในภาษาอังกฤษ

Adverb ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคุญต้องไม่พลาด

ตำแหน่งของ Adverb ที่มักเจอในข้อสอบ TOEIC

1. หน้า V. = [S + Adv + V] 
ยกตัวอย่างเช่น
Jim suddenly realized that he forgot to bring the financial report.

2. ระหว่าง V. = [S + V + Adv + V]
ยกตัวอย่างเช่น 
– will surely finish (Future Simple)
– had greatly improved (Past Perfect)

3. หลัง V. = [S + V + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
Employment levels are unlikely to rise significantly before the end of next year.

4. หลัง O. = [S + V + O + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
 She reads quickly.
 She reads (the contract) quickly.

5. หน้า Adj. = [Adv + Adj + N]
ยกตัวอย่างเช่น
Ben is an extremely responsible employee.

6. ระหว่าง BE กับ Adj. = [BE + Adv + Adj]
ยกตัวอย่างเช่น
Online sales are relatively easy to track.

7. หน้า Adv. = [V + Adv + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
Helen screamed extremely loudly when she fell down the stairs.

8. ใน Passive = [S + V + V.3 + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
The product should be checked thoroughly before being sent.

9. ใน To-Infinitive = [To + Adv + V.infinitive]
ยกตัวอย่างเช่น
Rita planned to quickly finish the task by tomorrow.

หน้าที่ของกริยาวิเศษณ์คืออะไร?

1. ขยายคำกริยา

บอกให้รู้ว่า ทำที่ไหน ทำเมื่อไหร่ ทำอย่างไร ทำบ่อยแค่ไหน  เช่น

  • He came here yesterday. เขา มา ที่นี่ เมื่อวานนี้
    here เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา ที่ไหน
    yesterday เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา เมื่อไหร่
  • He walks slowly. เขา เดิน อย่างช้าๆ
    slowly เป็น  adverb บอกให้รู้ว่า เดิน อย่างไร
  • He always walk to school. เขา เดิน ไปโรงเรียน เสมอ
    always เป็น  adverb บอกให้รู้ว่า เดิน บ่อยแค่ไหน

2. ขยายคำคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์เอง

บอกให้รู้ว่าอยู่ใน ระดับไหน หรือเน้นย้ำว่าแค่ไหน เช่น

  • The fire is very hot. ไฟ ร้อน มาก
    hot เแปลว่า ร้อน เป็นคำคุณศัพท์ขยาย fire
    ส่วน very เป็น Adverb ขยายคำว่า hot บอกให้รู้ว่า ร้อนแค่ไหน
  • I like it very much. ผม ชอบ มัน มาก มาก
    much เแปลว่า มาก เป็นคำกริยาวิเศษณ์   
    ส่วน very ก็เป็น Adverb ขยายคำว่า much บอกให้รู้ว่า มากแค่ไหน

เรียนรู้ กริยาวิเศษณ์ ในภาษาอังกฤษ

หน้าที่ของ Adverb ในภาษาอังกฤษ

ประเภทของคำกริยาวิเศษณ์ (Kinds of Adverb)

Simple adverb แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด คือ

1. Adverb of Time

คือ กริยาวิเศษณ์บอกเวลาใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นเมื่อไหร หรือ เกิดขึ้นหรือยัง” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกเวลา (Adverb of Time)ความหมายNow /nau/ตอนนี้So far /səu faː/จนบัดนี้Yesterday /ˈjestədi/เมื่อวานToday /təˈdei/วันนี้Tomorrow /təˈmorəu/พรุ่งนี้Already /oːlˈredi/แล้วLately  /ˈleɪt.li/ไม่นานมานี้During /ˈdjuəriŋ/ในช่วงFinally  /ˈfaɪ.nəl.i/ท้ายทีสุดEarly /ˈəːli/แต่เช้าJust /dʒast/เพิ่งจะRecently  /ˈriː.sənt.li/ไม่นานมานี้Still /stil/ยังคงAfter /ˈaːftə/หลัง

ยกตัวอย่างเช่น:
I saw him yesterday. แปลว่า ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เราจะเห็นว่าในคำถามมีคำภามเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ เมื่อวาน
I will go shopping tomorrow. แปลว่า  ฉัน จะ ไป ชอปปิ้ง พรุ่งนี้ ก็เช่นกับตัวอย่างที่หนึ่งนะคะ ในคำถามมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ พรุ่งนี้
I’ve already done my home work. แปลว่า  ฉันทำการบ้านของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ เกิดแล้ว
I haven’t done my homework yet.  แปลว่า  ฉันยังไม่ได้ทำการบ้าน ของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ ยัง

ว่ายังไงบ้างคะ ง่ายๆ เลยใช่ไหมคะกับวิธีการใช้ กริยาวิเศษณ์บอกเวลา Adverb of Time ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการใช้งานและตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับ Adverb of Place นะคะ

2. Adverb of Place

กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่  ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นที่ไหน”  คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverb of Place)ความหมายHere /hiə/ที่นี่There /ðeə, ðə/ที่นั่นBehind /biˈhaind/ข้างหลังNear /niə/ใกล้Far /faː/ไกลAway /əˈwei/ห่างBack /bӕk/กลับNowhere /ˈnəuweə/ไม่มีที่ใดEverywhere /ˈev.ri.weər/ทุกที่Above /əˈbav/เหนือBelow /bəˈləu/ใต้Into /ˈintu/ไปในInside /inˈsaid/ข้างในOutside /ˈautsaid/ข้างนอกOut /aut/นอกIn /in/ใน

ยกตัวอย่างเช่น:
Please come here. แปลว่า กรุณามาที่นี่ ในนั้นคำถามคือที่ไหน ได้คำตอบคือ ที่นี่
Go there please. แปลว่ากรุณาไปที่นั่น คำถามคือ ที่ไหน ได้คำตอบ ที่นี่
Please come inside. แปลว่ากรุณา มา ข้างใน คำถามคือ ที่ไหนได้คำตอบ ข้างไน

3. Adverb of Frequency

คือกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง  (Adverb of Frequency)ความหมายAlways /ˈoːlweiz/เสมอUsually  /ˈjuː.ʒu.ə.li/โดยปกติOften /ˈofn/บ่อยๆNormally  /ˈnɔː.mə.li/ เป็นปกติOccasionally  /əˈkeɪ.ʒən.əl.i/เป็นบางโอกาสSometimes  /ˈsʌm.taɪmz/บางครั้งRarely  /ˈreə.li/มักจะไม่Never /ˈnevə/ไม่เคยDaily /ˈdeili/ทุกวันWeekly  /ˈwiː.kli/ทุกเดือนMonthly  /ˈmʌn.θli/ทุกเดือนYearly  /ˈjɪə.li/ทุกปี

ยกตัวอย่างเช่น:
He always runs in the morning. แปลว่า เขาวิ่งตอนเช้าเสมอ ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ เสมอ
The bill is paid monthly. แปลว่า บิลถูกจ่ายทุกเดือน ในนั้นคำถามคือ
บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ ทุกเดือน
I sometimes read grammar books. แปลว่า บางครั้งผมอ่านหนังสือไวยากรณ์
ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ บางครั้ง

กริยาวิเศษณ์ความถี่จะบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นบ่อยเพียงใด

วิธีใช้ “adverbs of frequency”

4. Adverb of Manner

คือกริยาวิเศษณ์บอกอาการ  ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นอย่างไร” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกอาการ (Adverb of Manner)ความหมายFast /faːst/อย่างเร็วQuickly /ˈkwɪk.li/อย่างเร็วBeautifully  /ˈbjuː.tɪ.fəl.i/อย่างสวยงาม, อย่างไพเราะCarefully  /ˈkeə.fəl.i/อย่างระมัดระวังWell /wel/อย่างดีNeatly  /ˈniːt.li/อย่างประณีตSlowly  /ˈsləʊ.li/อย่างช้Calmly  /ˈkɑːm.li/ อย่างสุขุมPolitely /pəˈlaɪt.li/อย่างสุภาพKindly /ˈkaɪnd.li/อย่างมีเมตตาBadly  /ˈbæd.li/อย่างแย่Quietly  /ˈkwaɪət.li/ อย่างเงียบๆ

ยกตัวอย่างเช่น:
He runs very  fast. แปลว่า เขาวิ่งอย่างเร็วมาก ในนั้นคำถามคือ อย่างไร ตอบ อย่างเร็ว
She sings beautifully.  แปลว่า หล่อน ร้องเพลง อย่างไพเราะ ในนั้นคำถามคืออย่างไร ตอบ อย่างไพเราะ
We speak louldly. แปลว่า พวกเรา พูด อย่างดัง ในนั้นคำถามคืออย่างไร ตอบ อย่างดัง
They cry quietly. แปลว่า พวกเขา ร้องให้  อย่างเงียบๆ ในนั้นคำถามคือ อย่างไร ตอบ อย่างเงียบ

5. Adverb of Quantity

คือ กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย (Adverb of Quantity)ความหมายMany /ˈmeni/มากมายVery /ˈveri/มากToo /tuː/เกินไปQuite /kwait/ค่อนข้างRather /ˈraːθə/ค่อนข้างNearly /ˈnɪə.li/เกือบAlmost /ˈoːlməust/เกือบEnough /iˈnaf/พอExtremely  /ɪkˈstriːm.li/อย่างยิ่งCompletely  /kəmˈpliːt.li/ อย่างสมบูรณ์

ยกตัวอย่างเช่น:
He has too much money to give me. แปลว่า เขามีเงินมากเหลือเกินที่จะให้ผม ในนั้น too เป็น Adverb ไปขยาย much จึงวางไว้หน้า much
I had almost finished my meal when he came in. แปลว่า ผมเกือบจะทานอาหารเสร็จแล้ว เมื่อเอาเข้ามาข้างใน ในนั้น almost เป็น Adverb ไปขยายกริยา finished
He walked very quickly to school yesterday. แปลว่า เขาเดินเร็วมากไปโรงเรียนเมื่อวานนี้ ในนั้น Very เป็น Adverb ไปขยายคำกิริยาวิเศษณ์ คือ Quickly

6. Adverb of Affirmation or Negation

คือ กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ (Adverb of Affirmation or Negation)ความหมายYes /jes/ใช่No /nəu/ไม่Not /not/ไม่not at allไม่ใช่เลยSurely   /ˈʃɔː.li/แน่นอนCertainly /ˈsɜː.tən.li/ แน่นอนPerhaps /pəˈhaps/บางทีProbably  /ˈprɒb.ə.bli/ อาจIndeed /inˈdiːd/แน่นอนDefinitely  /ˈdef.ɪ.nət.li/อย่างแน่นอนObviously /ˈɒb.vi.əs.li/เห็นได้ชัด

ยกตัวอย่างเช่น:
He did not come here. แปลว่า เขายังไม่มาที่นี่เลย
Surely you are mistaken. แปลว่า แน่นอนคุณเป็นฝ่ายผิด
Perhaps she will tell you the truth. แปลว่า บางทีหล่อนจะบอกความจริงให้คุณทราบ
It is, indeed, a hard case.แปลว่า มันเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

Interrogative Adverb  กริยาวิเศษณ์คำถาม

Interrogative Adverb  แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด คือ

1. บอกเวลา (Time) แปลว่า “กริยาวิเศษณ์ถามเวลา” หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมาขยายกริยา เพื่อถามถึงเวลาว่า “นานเท่าไร” หรือ “เมื่อไร”

Interrogative Adverb กริยาวิเศษณ์ บอกเวลาความหมายWhenเมื่อไรHow longนานเท่าไรHow soonนานไหม

ยกตัวอย่างเช่น:
When will he come here again? Next Year . แปลว่า เมื่อไหร่เขาจะมาที่นี่อีก? ปีหน้า
How long have you been here? For five years . แปลว่า คุณได้มาอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว? เป็นเวลา 5 ปีแล้ว

2.  บอกสถานที่ (Place) กริยาวิเศษณ์ถามสถานที่ หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมาใช้ขยายกริยา เพื่อถามสถานที่ เท่าที่ปรากฏเห็นและใช้กันบ่อยก็ได้แก่ where ที่ไหนและจะวางไว้ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
Where does he live? แปลว่า เ ขาอยู่ที่ไหน?
He lives in Bangkok. แปลว่า  เขาอยู่ในกรุงเทพฯ

3. บอกจำนวน (Frequency ) กริยาวิเศษณ์ถามถึงความถี่หรือจำนวนครั้ง หมายถึงคำหรือกลุ่มคำที่ไปขยายกริยาถามถึงระยะเวลาหรือจำนวนครั้ง และตำแหน่งวางจะอยู่ต้นประโยคเสมอ ได้แก่ คำต่อไปนี้ คือ How often
ยกตัวอย่างเช่น:
How often does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่บ่อยไหม? (หมายถึงกี่ครั้ง)
How many books has he? Ten. แปลว่า เขามีหนังสือมากเท่าไร? 10 เล่ม

4. บอกกริยาอาการ (Manner) กริยาวิเศษณ์ถามถึงกริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปขยายกริยา เพื่อถามถึงอาการของการกระทำหรือพฤติกรรมนั้น ๆ ว่า เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้แก่คำว่า How อย่างไร และตำแหน่งอาจจะอยู่ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
How do you do this? แปลว่า คุณทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
How does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่ได้อย่างไร

5. บอกปริมาณ (Adverb of Quantity) กริยาวิเศษณ์ถามถึงปริมาณหรือความมากน้อย หมายถึงคำหรือกลุ่มคำที่ไปขยายกิริยาในประโยค เพื่อถามถึงจำนวนหรือปริมาณของสิ่งนั้น ได้แก่คำว่า How much มากเท่าไร How far ไกลเท่าไร และก็เช่นกันตำแหน่งก็อยู่ต้นประโยคเสมอ 
ยกตัวอย่างเช่น:
How much do you pay? แปลว่า คุณจ่ายมากเท่าไร
How much is it? แปลว่า ราคาเท่าไร?

6. บอกเหตุผล (Reason)
กริยาวิเศษณ์ถามถึงเหตุผล หมายถึง คำที่ไปขยายกริยาเพื่อถามถึงเหตุผลของการกระทำอันนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร ได้แก่ Why ทำไม และวิธีใช้วางไว้ต้นประโยคอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น:
Why do they go to Hong Kong every day? แปลว่า ทำไมพวกเขาจึงไปฮ่องกงทุก ๆ วัน?
Why doesn’t she love you? แปลว่า ทำไมหล่อนจึงไม่รักคุณ?

Conjunctive Adverb  กริยาวิเศษณ์ที่ใช้เป็นคำเชื่อม 

Conjunctive Adverb แบ่งออกเป็นชนิดย่อย ๆ ได้ 6 ชนิด คือ

1. Conjunctive Adverb of Time เป็นสันธานวิเศษณ์ บอกเวลา หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกเวลา ได้แก่ when เมื่อไร
ยกตัวอย่างเช่น: 
Can you tell me when he will arrive here? แปลว่า คุณบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรเขาจะมาถึงที่นี่

2. Conjunctive Adverb of Place  สันธานวิเศษณ์ บอกสถานที่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกสถานที่ ได้แก่คำว่า where ที่ไหน ที่ ที่
ยกตัวอย่างเช่น:
This is where is stayed last year. แปลว่า นี้คือสถานที่ที่ผมมาพักอยู่เมื่อปีกลายนี้

3. Conjunctive Adverb of Frequency สันธานวิเศษณ์ บอกความถี่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกความถี่หรือจำนวนครั้ง ได้แก่คำว่า How often บ่อยไหม กี่ครั้ง 
ยกตัวอย่างเช่น:
I asked him how often he had gone there. แปลว่า ผมถามเขาว่า เขาไปที่นั้นบ่อยไหม

4. Conjunctive Adverb of Manner สันธานวิเศษณ์ บอกกิริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่ทั้งเชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกอาการของพฤติกรรม หรือการกระทำอันนั้น ๆ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้แก่ How อย่างไร 
ยกตัวอย่างเช่น:
My father knows how I shot the tiger แปลว่า คุณพ่อของผมรู้ดีว่า ผมยิงเสือตัวนี้ได้อย่างไร

5. Conjunctive Adverb of Reason สันธานวิเศษณ์ บอกปริมาณ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกปริมาณมากน้อยได้แก่ คำว่า How long นานเท่าไร How far ไกลเท่าไร 
ยกตัวอย่างเช่น:
No one knows how long she will live with him. แปลว่า ไม่มีใครทราบหรอกว่า หล่อนจะอยู่กับเขานานเท่าไร

6. Conjunctive Adverb of Time สันธานวิเศษณ์ บอกเหตุผล หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าหลังให้กลมกลืนกัน และขยายกริยาในประโยค
ยกตัวอย่างเช่น:
Panya did not know why she cried. แปลว่า ปัญญาไม่ทราบเลยว่า ทำไมหล่อนจึงร้องไห้

ความผิดพลาดที่มักจะเจอบ่อยเมื่อใช้ Adverb

สับสนในการใช้ Adjective กับ Adverb วิธีการจดจำก็คือ

Adj. = Adjective  คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำนาม
Adv. = Adverb  คำกริยาวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำกริยา หรือคำคุณศัพท์
คำ adjective ส่วนมากทำให้กลายเป็น adverb โดยการเติม –ly ต่อท้าย แต่ก็ไม่เสมอไป

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้
[slow] (adj.) / [slowly] (adv.) ช้า / อย่างช้า

  • He is a slow walker. เขาเป็นคนเดินที่ช้า
    [slow] เป็น adj. เพราะขยาย walker (n.)
  • He’s a person who walks slowly. เขาเป็นคนเดินช้า
    [slowly] เป็น adv. เพราะขยาย walks (v.)

กลุ่มกริยาวิเศษณ์ที่มีความหมายเหมือนกัน

  1. โดยสิ้นเชิง: totally, entirely.
  2. อีกต่อไป: anymore.
  3. ค่อนข้าง: quite, rather, pretty.
  4. ดังนี้: thus
  5. เลย: at all.
  6. แทบจะไม่: seldom, hardly, rarely, barely, scarcely.
  7. ระมัดระวัง: carefully, cautiously, thoroughly, meticulously, elaborately
  8. รวดเร็วทันใจ: immediately, promptly, urgently, quickly, swiftly, rapidly.
  9. อย่างเพียงพอ: adequately, sufficiently
  10. ค่อนข้างมาก: relatively, quite
  11. มาก/ที่สุด: highly, extremely, very, really
  12. สมบูรณ์: fully (+verb), absolutely (+adj), completely (+adj), extensively (+ verb/adj)
  13. ทันใดนั้นไม่คาดคิด: dramatically, suddenly, unexpectedly
  14. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: Especially, specifically
  15. เร็ว หรือทันที: shortly, soon, right after/before, briefly
  16. ปัจจุบัน: currently, recently, lately, already, still
  17. บ้าฃที่: occasionally, sometimes
  18. ขั้นตอนแรก: firstly, initially, primarily, originally
  19. โดยปกติ/สม่ำเสมอ: frequently, regularly, usually, often, consistently
  20. อย่างแน่นอน: surely, definitely, absolutely, by all means.

ตัวอย่างประโยค

  • Surely I will come back.แปลว่า ฉันจะกลับมาแน่นอน
  • You will win definitely. แปลว่า คุณจะต้องชนะแน่นอน
  • It’s absolutely possible. แปลว่า มันเป็นไปได้แน่นอน
  • If you want to use the telephone,by all means do. แปลว่า ถ้าคุณอยากใช้โทรศัพท์แน่นอนคุณใช้ได้

สรูปว่าอย่างไรคะคุณ ฉบับ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ สมบูรณ์นี้หวังว่าจะมีประโยคต่อคุณ การจดจำ Adverb นี้ไม่ยากเลยค่ะ เราสามารถเขียนมาเป็นประโยคเพื่อจำได้ง่ายขึ้น อย่าลืมติดตามเราเพื่อแชร์กันประสบการณ์เรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

[Update] ความหมายและการใช้ Degree Adverbs | adverb ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

Degree adverb (ดีกรี แอ็ดเวิบ) เป็นชนิดของกริยาวิเศษณ์ที่บอกระดับความเข้มข้นของการกระทำ (action) คุณศัพท์ (adjective) หรือกริยาวิเศษณ์อีกคำหนึ่ง (another adverb) หรือกริยาวิเศษณ์อีกคำหนึ่ง (another adverb) สำหรับ Degree adverbs ที่พบบ่อย ได้แก่ almost, nearly, quite, just, too, enough, hardly, scarcely, rarely, completely, very (much), fairly, rather และ extremely
ตำแหน่งของ Degree adverbs
1. วางไว้หน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ ที่มันขยาย ดังโครงสราง Degree adverb + Adjective/Adverb
ตัวอย่าง
The water was extremely cold.
น้ำหนาวเย็นมาก
(extremely “มาก” เป็น degree adverb ขยายคุณศัพท์ cold)
I am too tired to go out tonight.
ผมเหนื่อยเกินไปที่จะออกไปข้างนอกคืนนี้
(too “เกินไป” เป็น degree adverb ขยายคุณศัพท์ tired)
He worked very quickly.
เขาทำงานเร็วมาก
(very “มาก” เป็น degree adverb ขยายกริยาวิเศษณ์ quickly)
You did it quite well.
คุณทำมันได้ค่อนข้างดี
(quite “ค่อนข้าง” เป็น degree adverb ขยายกริยาวิเศษณ์ well)
2. วางไว้หน้ากริยาหลัก (main verb) ดังโครงสร้าง
Degree adverb + Main verb
ตัวอย่าง
He was just leaving.
เขาเพิ่งจะออกไป
(just “เพิ่งจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก leaving)
She has almost finished it.
เธอทำมันเกือบจะเสร็จแล้ว
(almost “เกือบจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก finished) She doesn’t quite know what she’ll do after graduating from the university.
เธอแทบจะไม่รู้ว่าจะทำอะไรเลยหลังจากจบจากมหาวิทยาลัย
(quite “แทบจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก know)
ความหมายและการใช้
1. almost & nearly
almost และ nearly มีความหมายเดียวกันคือ not completely/not quite แปลว่า “เกือบ, เกือบจะ” ใช้วางหน้าคุณศัพท์ (adjectives) หรือกลุ่มนาม (noun groups) ดังโครงสร้าง almost/nearly + adjective/noun groups
ตัวอย่าง
We’re nearly ready now.
พวกเราเกือบพร้อมแล้วตอนนี้
(nearly วางหน้าคุณศัพท์ ready)
I spent almost a month in China.
ผมใช้ชีวิตเกือบหนึ่งเดือนในประเทศจีน
(almost วางหน้ากลุ่มนาม a month in China)
The hay was almost ready for cutting.
ฟางข้าวเกือบพร้อมแล้วสำหรับการตัด
(almost วางหน้าคุณศัทพ์ ready)
She liked doing nearly all the things.
เธอชอบทำเกือบจะทุกสิ่ง
(nearly วางหน้ากลุ่มนาม all the things)
วาง almost/nearly หน้ากริยาหลัก (main verb) หากว่าในประโยคมี กริยาช่วยหนึ่งคำ (one auxiliary) และกริยาหลัก ให้วางไว้หลังกริยาช่วย แต่ถ้าหากมีกริยาช่วยมากกว่าหนึ่งคำ และกริยาหลัก ให้วางไว้หลังกริยาช่วยตัวที่หนึ่ง ดังโครงสร้าง
(1) almost/nearly + main verb
(2) auxiliary + almost / nearly + main verb
(3) auxiliary 1 + almost / nearly + auxiliary 2 + main verb
ตัวอย่าง
Dad nearly died after being bitten by a snake.
พ่อเกือบตายหลังจากถูกงูกัด
Douglas had almost run out of food.
ดักลาสเกือบไม่มีอาหารเหลือเลย
I have nearly been drowned three times.
ผมเกือบจะจมน้ำตายมาสามครั้งแล้ว
วาง almost/nearly ไว้หน้า Time adverbs (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น every morning, every day หรือ Place adverbs (กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่) เช่น there, here เป็นต้น
ตัวอย่าง
I used to ride nearly every day.
ผมเคยขับรถเกือบทุกวัน
We went out almost every evening.
พวกเราออกไปข้างนอกเกือบจะทุกเย็น
We are almost there.
พวกเราเกือบจะถึงที่นั่นแล้ว
2. just
เราใช้คำว่า just เมื่อกล่าวถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆ ที่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน ฉะนั้น just จึงมีความหมายว่า a very short time ago แปลว่า “เพิ่งจะ” ปกตินิยมใช้ใน Present Perfect Tense สำหรับ tense อื่น ก็สามารถใช้ just ได้ โดยมักวางไว้หน้ากริยาหลัก (main verb) ดังโครงสร้าง
just + main verb
ตัวอย่าง
He just died.
เขาเพิ่งจะตาย
I’ve just arrived here.
ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่
3. quite
เราใช้คำว่า quite เพื่อชี้แสดงว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นค่อนข้างจะถึงขีดสุด ฉะนั้น quite จึงมีความหมายว่า to a fairly great extent แปลว่า “ค่อนบ้างจะ” ใช้วางหน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังโครงสร้าง
quite + adjective / another adverb
ตัวอย่าง
He was quite young.
เขาค่อนข้างจะหนุ่ม
Nid was standing quite close to the manager.
นิดยืนค่อนข้างจะใกล้กับผู้จัดการ
4. enough, very, & too
enough เมื่อทำทน้าที่กริยาวิเศษณ์ หมายถึง to the necessary degree แปลว่า “เพียงพอ, พอดิบพอดี, กำลังดี, พอเหมาะพอเจาะ” วางไว้หลังคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ ดังโครงสร้าง
adjective/ adverb + enough
ตัวอย่าง
Is your coffee hot enough?
กาแฟของคุณร้อนพอดีไหม
He didn’t work hard enough.
เขาไม่ได้ทำงานหนักเพียงพอ
too เมื่อทำหน้าที่กริยาวิเศษณ์ หมายถึง more than necessary or useful แปลว่า “มากเกินจำเป็น, มากเกินใช้สอย” วางไว้หน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์
ดังโครงสร้าง too + adjective / adverb
ตัวอย่าง
This coffee is too hot.
กาแฟนี้ร้อนเกินไป
He works too hard.
เขาทำงานหนักเกินไป
ทั้ง enough และ too เมื่อใช้กับคำคุณศัพท์ สามารถตามด้วยวลี “for someone/something” ได้ด้วย ดังโครงสร้าง
adjective/adverb + enough + for someone/something
too + adjective/adverb + for someone/something
ตัวอย่าง
The shirt was big enough for me.
เสื้อเชิ้ตใหญ่พอดีสำหรับผม
The shirt was too big for me.
เสื้อเชิ้ตใหญ่เกินไปสำหรับผม
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วลี “to + infinitive” หลัง enough และ too กับคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ได้ด้วย
ตัวอย่าง
The coffee was too hot to drink.
กาแฟร้อนเกินไปที่จะดื่ม
ประโยคนี้ได้มาจากการรวมกันของ 2 ประโยคคือ
1. The coffee was very hot.
2. I can’t drink it.
He didn’t work hard enough to pass the exam.
เขาไม่ขยันพอที่จะสามารถสอบผ่านได้
ประโยคนี้ได้มาจากการรวมกันของ 2 ประโยคคือ
1. He didn’t work very hard.
2. He couldn’t pass the exam.
very หมายถึง “มาก” วางไว้หน้าคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ เพื่อเพิ่มน้ำหนักความหมายของคำคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์นั้นให้มากขึ้น ดังโครงสร้าง
very + adjective / adverb
ตัวอย่าง
That girl was very beautiful.
เด็กหญิงคนนั้นสวยมาก
He worked very quickly.
เขาทำงานเร็วมาก
หากต้องการสื่อความหมายในเชิงปฏิเสธ หรือตรงข้ามกัน ใช้ not very
ตัวอย่าง
That girl was not very beautiful.
เด็กหญิงคนนั้น ไม่สวยมาก
He didn’t work very quickly.
เขาไม่ได้ทำงานเร็วมาก
ข้อควรระวัง ระหว่าง too กับ very มีความแตกต่างกันอยู่มาก กล่าวคือ too บ่งบอกถึงปัญหา (problem) แต่ very บ่งบอกถึงข้อเท็จจริง (fact)
ตัวอย่าง
He speaks English too quickly.
เขาพูดภาษาอังกฤษเร็วเกินไป (ทำให้คนฟังไม่รู้เรื่อง)
He speaks English very quickly.
เขาพูดภาษาอังกฤษเร็วมาก (คนฟังรู้เรื่อง)
ยังมี Degree adverbs อื่นๆ อีกที่มีความหมายและการใช้คล้ายคลึงกับ very และ not very ดังรายการคำเหล่านี้เรียงตามลำดับความแรง (strengthe) ของความหมายจากเชิงบวก (positive) ไปยังเชิงลบ (negative) ดังนี้
POSITIVE→→→→→→→→→→→→→→→→→→→→→NEGATIVE
extremely especially particularly pretly quite fairly rather not especially not particularly
หมายเหตุ นักเรียนต่างชาติที่มิใช่เจ้าของภาษาอังกฤษ มักใช้คำว่า fairly กับ rather ผิดอยู่บ่อยๆ เนื่องจากทั้งสองคำมีความหมายใกล้เคียงกัน ฉะนั้น จึงต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าทั้งสองคำที่ใช้ต่างกันอย่างไรบ้าง
fairly เป็นกริยาวิเศษณ์ที่ใช้เมื่อผู้พูดหรือผู้เขียนปรารถนาจะยืนยันความคิดที่รื่นรมย์เป็นไปในทางบวก (positive or pleasant idea) ส่วน rather นั้นใช้ในทางตรงข้าม กล่าวคือ ใช้เมื่อความคิดนั้นๆ ไม่รื่นรมย์เป็นไปในทางลบ (negative or unpleasant idea) หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เมื่อใช้คำว่า fairly จะพุ่งเป้าไปยังอุดมคติ (ideal) ที่เราเห็นชอบ แต่หากใช้คำว่า rather จะเบี่ยงเบนออกจากอุดมคติ คือไม่เห็นชอบกับสิ่งนั้น
ตัวอย่าง
The film was rather disappointing.
ภาพยนตร์เรื่องนั้นค่อนข้างจะน่าผิดหวัง(ไม่ค่อยดี)
The information was fairly accurate.
ข้อมูลค่อนข้างจะเที่ยงตรง (ดีพอใช้)
Mary is rather tall for her age.
แมรี่ค่อนข้างสูงเกินอายุ (สูงมากไป)
The room looks fairly clean.
ห้องค่อนข้างจะสะอาด (สะอาดพอใช้)
He found his host rather irritating.
เขาพบว่าเจ้าของบ้านค่อนข้างจะน่ารำคาญ
5. hardly, rarely, & scarcely
Degree adverbs ทั้งสามคำนี้ มีความหมาย “แทบจะไม่” ซึ่งบ่ง บอกความหมายในเชิงปฏิเสธ โดยปกติภายในประโยค จะวาง hardly, rarely, scarcely ไว้หน้า main verb หรือวางไว้หลัง verb to be หรือกริยาช่วยอื่น (other auxiliary) ดังโครงสร้าง
hardly/rarely/scarcely + main verb
verb to be/ other auxiliary + hardly / rarely / scarcely
ตัวอย่าง
I hardly knew him.
ผมแทบจะไม่รู้จักเขาเลย
We could hardly move.
พวกเราแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เลย
He rarely comes here.
เขาแทบจะไม่มาที่นี่เลย
I can scarcely remember what we ate.
ผมแทบจะจำไม่ได้เลยว่าพวกเราได้รับประทานอะไร
There could scarcely be a promising environment.
แทบจะไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเลย
โครงสร้างที่เห็นดังตัวอย่างเหล่านี้เป็นโครงสร้างปกติ (regular structure) ของการวางตำแหน่งของ Degree adverbs ทั้ง 3 คำนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกโครงสร้างหนึ่งเรียกว่า Negative inversion ซึ่งใช้ได้เฉพาะกับข้อความในประโยคที่มี Degree adverbs ที่เป็น negative meaning เมื่อวางไว้ตอนเริ่มต้นประโยค (placed at the beginning of the sentence) ในที่นี้คือ hardly, rarely และ scarcely โครงสร้างจะเป็นดังนี้
Hardly/Rarely/Scarcely + auxiliary + subject + main verb + remaining part
หมายเหตุ     1. remaining part = ส่วนที่เหลือ
2. การใช้ auxiliary มีหลักอยู่ว่า ถ้าหากในประโยคเดิมมีกริยาช่วยแสดงอยู่แล้ว ให้ใช้กริยาช่วยตัวนั้นเลย แต่หากในประโยคเดิมมีเฉพาะกริยาหลัก ก็ให้ใช้ verb to do ซึ่งต้องดูว่า กริยาหลักนั้นเป็นรูปกาล (tense) ใด กล่าวคือ หากเป็น Past Simple ให้ใช้ did หากเป็น Present Simple ก็ใช้ do/does ทั้งนี้ แล้วแต่ว่า subject (ประธาน) เป็นอะไร หากเป็นประธานบุรุษที่ 1 หรือ 2 หรือบุรุษที่ 3 พหูพจน์คือ they หรือนามพหูพจน์ให้ใช้ do แต่หากเป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือ he, she, it หรือ นามเอกพจน์ให้ใช้ does
ตัวอย่าง
I hardly knew him.
=Hardly did I know him.
ผมแทบจะไม่รู้จักเขา
We could hardly move.
=Hardly could we move.
พวกเราแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เลย
He rarely comes here.
=Rarely does he come here.
เขาแทบจะไม่มาที่นี่เลย
I can scarcely remember what we ate.
= Scarcely can I remember what we ate.
ผมแทบจะจำไม่ได้เลยว่าพวกเราได้รับประทานอะไร
There could scarcely be a promising environment.
= Scarcely could there be a promising environment.
แทนจะไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเลย
นอกจาก hardly, rarely และ scarcely จะสามารถใช้ตามโครงสร้างนี้ได้แล้ว ยังมี adverbs และ adverbial expressions อื่นอีก ที่ใช้โครงสร้างประโยคตามนี้ ได้แก่ seldom, not only … but also, no sooner … than, not until, under no circumstances, hardly ever และ never
โปรดดูตัวอย่างเพิ่มเติม
It selsom rains here.
Seldom does it rain here.
ฝนแทบจะไม่ตกที่นี่เลย
I no sooner reached the surface than I was pulled back again. =No sooner did I reach the surface than I was pulled back again.
ผมยังไม่ทันจะขึ้นถึงผิวน้ำเลยก็ถูกดึงกลับไปอีก
หมายเหตุ โครงสร้างแบบ Negative inversion นี้ไม่เป็นที่นิยมใช้ในภาษาทูต มีใช้กันในภาษาเขียนเป็นส่วนใหญ่
6. completely
completely มีความหมายว่า “อย่างสมบูรณ์หรือโดยสมบูรณ์” วางไว้หน้าหรือหลัง main verb หรือหลัง auxiliary ดังโครงสร้าง
หรือ
completely + main verb หรือ sentence + completely
auxiliary + completely
ตัวอย่าง
I completely disagree with you.
I disagree with you completely.
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณเลยแม้แต่น้อย
What you said are completely right.
สิ่งที่คุณได้พูดมาถูกต้องไม่มีที่ติเลย
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 14,825 times, 1 visits today)


Adverb คืออะไร? ใช้ยังไง?


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Adverb คืออะไร? ใช้ยังไง?

คำกริยาวิเศษณ์ Adverb | Conjunction | Preposition | Interjection  | คืออะไร ใช้อย่างไร


Adverb (กริยาวิเศษณ์)  Conjunction (คำสันธาน)
Preposition (คำบุรพบท)  Interjection (คำอุทาน) 
เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
CR.Ajarn Suparada
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…​
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…​
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…​
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…​
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…​
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…​
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…​

คำกริยาวิเศษณ์ Adverb | Conjunction | Preposition | Interjection  |  คืออะไร ใช้อย่างไร

Adverbs ep1/4 : Adverbs คืออะไร มีกี่ประเภท


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Adverbs ep1/4 : Adverbs คืออะไร มีกี่ประเภท

คําวิเศษณ์ Adverb คืออะไร การใช้ always usually sometimes …everyday หรือ every day กันแน่ | EP.14


หลายคนสงสัยว่า คำวิเศษณ์ คืออะไร ? ใช้ยังไง ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้ว ชื่อเต็ม ๆ มันคือ คำกริยาวิเศษณ์ แล้วเกี่ยวอะไรกับ คำกริยา ล่ะเนี่ย คลิปนี้มีคำตอบ …ไปดูกันเล้ยยยย 🤟🏻🤟🏻🤟🏻
Link:
การใช้ in, on https://tinyurl.com/eb28c938
Timestamps:
0:25 intro
0:47 คำวิเศษณ์ (Adverbs) คืออะไร
1:04 ความสัมพันธ์ของ Adjective และ Adverb
4:27 การเปรียบเทียบ ขั้นกว่าขั้นสุด (Comparative) ของ Adverb
5:27 Adverb ที่ใช้บ่อย ใช้จริงในชีวิตประจำวัน
7:00 ตัวอย่างประโยค ที่มี Adjective และ Adverb
9:35 ตำแหน่ง Adverb ที่ใช้งานจริง
9:35 การใช้ I’d rather และ I’d rather …than… คำติดปากที่ฝรั่งใช้บ่อย
11:05 everyday หรือ every day ?
11:52 outro
Song used :
https://www.youtube.com/c/DaystarProject
===========================================
The Sissy G
ช่องฝึกภาษาอังกฤษสำหรับคนกลับใจ
เข้ามาเริ่มต้นใหม่ได้เลยที่นี่ 😉
🔴 ไม่พลาดคลิปฝึกภาษาดี ๆ กดติดตาม \u0026 เปิดกระดิ่งไว้ค่ะ
https://tinyurl.com/Subthesissyg
✅ ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาในคลิป
instagram https://www.instagram.com/thesissyg/
facebook https://www.facebook.com/thesissyg/
===========================================
ถ้าชอบวิดีโอนี้ อาจจะสนใจ
📕 บทเรียนภาษาอังกฤษจากคนเริ่มต้น 0
👉 https://tinyurl.com/EngFromZero
📕 แฮก! เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง แบบย่อยง่าย ๆ
👉 https://tinyurl.com/thesissyHack
📕 20 บทเรียนภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ TikTokUni (เร็ว ๆ นี้)
👉 https://tinyurl.com/tiktokssg

ภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ thesissyg

คําวิเศษณ์ Adverb คืออะไร การใช้ always usually sometimes ...everyday หรือ every day กันแน่ | EP.14

Adverbs คืออะไร? ใช้ยังไง?


Vanilla English EP.163 Adverbs คืออะไร? ใช้ยังไง?
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ และอย่าลืม subscribe กดกระดิ่งเป็นกำลังใจให้กี๋ด้วยนะค้าาาา แล้วเจอกันคลิปต่อๆไป เย้ๆ เจอกันค่าาาาา
LINE: https://lin.ee/A5RQK7z
Apple Podcast: Vanillaenglishchannel
SoundCloud: https://soundcloud.com/vanillaenglish357145867
Facebook: https://www.facebook.com/vanillaenglishchannel
Instagram: https://www.instagram.com/vanillaenglishchannel
Twitter: https://twitter.com/ChannelVanilla
Vanilla English Channel มาพร้อมกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เรียนอังกฤษแบบชิลๆหนุกๆ กลมกล่อมหอมหวานเหมือนวานิลลาไปกับกี๋ ผู้ใช้ภาษาอังกฤษ รับความรู้ภาษาอังกฤษ และถ่ายทอดภาษาอังกฤษมานานกว่า 20 ปี
CAMERA: PANASONIC LUMIX GH5
LENS: PANASONIC LUMIX G 1235 f2.8
EDITING PROGRAMME: Davinci Resolve \u0026 Final Cut Pro X

Adverbs คืออะไร? ใช้ยังไง?

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ adverb ใช้ยังไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *