Skip to content
Home » [Update] 9 คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ สัมภาษณ์ทีไร เจอแน่นอน | จุดแข็ง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

[Update] 9 คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ สัมภาษณ์ทีไร เจอแน่นอน | จุดแข็ง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

จุดแข็ง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง: คุณกำลังดูกระทู้

ต้องไปสัมภาษณ์งานโดยต้องใช้ภาษาอังกฤษ คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ ที่เราต้องเจอจะมีอะไรบ้าง มีวิธีการรับตอบคำถามอย่างไร และต้องเตรียมตัวในการสัมภาษณ์อย่างไร มาดูกันได้เลย

เชื่อว่าหลายๆคนก่อนสัมภาษณ์งานจริงๆคงมีความกังวลกันทุกคนไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษหรือสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย และ เราควรจะเตรียมความพร้อมอย่างไรหล่ะ? เมื่อต้องเจอกับคำถามต่างๆที่เราอาจจะคาดเดาไม่ถูก

วันนี้เพจ Engconvo Thailand จะมาช่วยเพื่อนๆเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษกันครับ

 

Table of Contents

การเตรียมตัวในการสัมภาษณ์

prepare before an interview

การสัมภาษณ์งานกับชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง หรือ เอเชีย สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ (interviewer) คาดหวังและมองหาจากผู้ถูกสัมภาษณ์ (candidate) คือ

 

  • Smart and Professional look = การแต่งกายที่สุภาพตามแบบธุรกิจสากลให้เกียรติสถานที่ทำงาน และ ผู้สัมภาษณ์

 

  • Confidence = ความมั่นใจ บุคลิกภาพ และ ที่สำคัญมากๆคือแววตาครับเดินให้สง่ากระชับกระเฉงแววตามุ่งมั่นเวลาพูดให้สบตาเข้าไปในแนวตาของผู้สัมภาษณ์เพื่อสื่อให้ถึงความจริงใจและมุ่นมั่น

 

  • Skill and work experience = ความสามารถ และ ประสบการณ์ของเราครับ ซึ่งข้อนี้แอดมินอยากให้เพื่อนๆRole play หรือเป็นการณ์แสดงบทบาทสมมุติเป็น Sale ที่จะพรีเซนต์ขายตัวเองให้บริษัทเกิดความชอบเรา อยากที่จะจ้างเรา ตามค่าจ้างที่เราร้องขอครับ

E

ng

Convo

Th

ai

land

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย






 

9 คำถามยอดฮิตที่เราจะถูกผู้สัมภาษณ์ (interviewer) ถามแน่ๆ100%

Intrview questions1

1. Tell me a little bit about yourself.

– บอกฉันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวคุณ

เป็นการที่ผู้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเรามากยิ่งขึ้นโดยคือการให้เราแนะนำตัวเองนั่นเอง ซึ่งการแนะนำตัวเองของเราในที่นี้สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการรู้ก็คือ ตัวเราในมุมมองของการทำงาน จะไม่ใช่การแนะนำตัวเองแบบทั่วๆไป ตัวอย่างการแนะนำตัวเอง เช่น

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I studied Communication Arts at Bangkok University. – ฉันเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 

  • I enjoy creating and publishing content on social media. – ฉันสนุกกับการสร้างสรรค์และ เผยแพร่เนื้อหาต่างๆบนโซเชียลมีเดีย

 

  • I have been an internship in a marketing company for 6 months. – ฉันเคยฝึกงานในบริษัทการตลาดเป็นเวลา 6 เดือน

 

2. How did you hear about this position?

– คุณรู้หรือได้ยินเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ได้อย่างไร

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I found an advertisement for the job on the internet. – ฉันเจอโฆษณาเกี่ยวกับการสมัครงานนี้บทอินเทอร์เน็ต

 

  • I found this position on the company website. – ฉันเจองานตำแหน่งนี้อยู่บนเว็ปไซต์ของบริษัท

 

3. Why are you interested in this position?

– ทำไมคุณถึงสนใจในตำแหน่งงานนี้

สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากจะรู้จากคำถามนี้ก็คือ ตัวเราเหมาะกับตำแหน่งนี้ขนาดไหน ทำไมเราถึงเหมาะกับตำแหน่งงานนี้ ซึ่งสิ่งที่เพื่อนๆควรจะบอกผู้สัมภาษณ์ก็คือ ความสามารถที่เรามี มันตรงกับตำแหน่งนี้นะ หรือว่า เราอาจจะบอกว่าตำแหน่งนี้แหละคือตำแหน่งที่เราถนัดที่สุดในการที่จะทำงาน

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I have always been interested to work in this field for a long time. – ฉันมีความสนใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้/ในด้านนี้ เป็นเวลานานแล้ว *(เพื่อจะให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าเราสนใจด้านนนี้โดยเฉพาะ และ เราเตรียมตัวเพื่อที่จะมาทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ)

 

  • I think this position fits with my ability and my goal in this company. – ฉันคิดว่าตำแหน่งงานนี้ตรงกับความสามารถที่ฉันมี และ ตรงกับเป้าหมายที่ฉันตั้งใจไว้ในบริษัทนี้ *(เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อว่าเราสามารถที่จะทำงานนี้ได้)

 

4. Why should we hire you?

– ทำไมเราถึงต้องจ้าง หรือ เลือกคุณเข้ามาทำงาน

คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ถ้าทายมากๆ ซึ่งเพื่อนๆจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และ ต้องมั่นใจกับคำตอบของเราว่า ใช่คุณต้องจ้างฉันสิ เพราะฉันมีความสามารถแบบนี้นะ และ ฉันเหมาะกับงานตำแหน่งนี้มากๆ ซึ่งจุดประสงค์ของผู้สัมภาษณ์คือ ต้องการที่จะเห็นว่าเร่ามั่นใจแค่ไหน กับการทำงานในตำแหน่งนี้ เรามั่นใจในตัวเองแค่ไหนว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นจริงๆ

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I have the experience and I assure you that I will give my best for the job. – ฉันมีประสบการณ์ และ ฉันขอให้คุณมั่นใจได้เลยว่าฉันจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่องานนนี้

 

  • I believe that my experience with technology, specifically in the web design space, make me the best match for this position. In my previous job, I was responsible for maintaining and updating our company website. This required keeping employee profiles updated and continuously posting information regarding upcoming events. I truly enjoyed what I was doing, which is what drew me to this position with your company. I would love to bring the coding and content skills I learned there to this position.

 

– ฉันเชื่อว่าประสบการณ์ของฉันกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการออกแบบเว็บ ทำให้ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด ในงานก่อนหน้านี้ ฉันมีหน้าที่ดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัท เกี่ยวกับการทำให้โปรไฟล์พนักงานอัพเดตอยู่ตลอด และ โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉันสนุกกับสิ่งที่ฉันทำมากๆ ซึ่งมันดึงดูดให้ฉันมาสนใจอยู่ในตำแหน่งนี้กับบริษัทของคุณ ฉันจึงอยากที่จะนำทักษะการเขียนโค้ด และ ทักษะการเขียนเนื้อหา และ คอนเทนต์ ที่ฉันได้เรียนรู้มาสู่ตำแหน่งนี้

5. What are your strengths and weaknesses?

– อะไรคือจุดแข็ง และ จุดด้อยของคุณ

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I am a proactive person and a problem solver. – ฉันเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และ เป็นคนที่ชอบแก้ไขปัญหาต่างๆ

 

  • Sometimes I focus too much on details and it takes more time to get the job done. – บางครั้งฉันโฟกัสในดีเทลในรายละเอียดของงานมากเกินไป และ มันทำให้ใช้เวลานานในการที่จะทำให้งานๆนึงเสร็จสมบูรณ์

 

6. Where do you see yourself in 5 years?

– คุณเห็นตัวเองอยู่ในจุดไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • By then I will have improved a lot and will have become a team leader. – ในตอนนั้นฉันก็คงจะพัฒนาขึ้นมาก และ ฉันก็คงจะกลายเป็นหัวหน้าทีม

 

7. Why do you want to work here?

– ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานที่นี่

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • I have always wanted to work here because I believe I will have achieved my goal here and grow together with the company. – ฉันต้องการจะทำงานที่นี่มาตลอดเลยเพราะว่าฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถบรรลุเป้าหมายของฉันที่นี่ได้ และ เติบโตไปพร้อมๆกับบริษัทได้

 

8. Why Did You

Lea

ve

Your Last Job?

– ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เก่า

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • There isn’t room for growth with my current employer, and I’m ready to move on to a new challenge. – ฉันไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้าในที่ทำงานเดิมเลย และฉันเองพร้อมแล้วที่จะเจอความท้าทายใหม่ๆ

 

  • I found myself bored with the work and looking for more challenges. I am an excellent employee, and I didn’t want my unhappiness to have any impact on the job I was doing for my employer. – ฉันพบว่าฉันเบื่องานเดิมและต้องการมองหาความท้าทายใหม่ๆ ฉันเป็นลูกจ้างที่ดีนะ และฉันไม่ต้องการให้ “ความรู้สึกไม่มีความสุข” ของฉันนั้นมากระทบกับงานที่ทำที่บริษัทเดิม

 

9. Do you have any questions for me?

– คุณมีคำถามอะไรจะถามฉันไหม

ตัวอย่างการตอบคำถาม

  • Can you tell me about the job? – คุณช่วยพูดเกี่ยวกับงานนี้ให้ฉันฟังได้ไหม

 

  • What is the most enjoyable part about working here? – อะไรคือส่วนที่สนุกที่สุดเกี่ยวกับการทำงานที่นี่

 

  • What kind of tasks will be my primary concern? – งานประเภทใดที่เราต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรก

 

  • Can you tell me a little bit about the team I will work with? – คุณช่วยบอกเกี่ยวกับทีมงานที่ฉันจะร่วมงานด้วยได้ไหม

E

ng

Convo

Th

ai

land

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ ใช้ได้จริง

รายละเอียดคอร์สเรียน

สรุป

ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทย เราอยากให้เพื่อนๆได้เตรียมตัวฝึกซ้อมก่อนทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มสัมภาษณ์งานในวันจริง อาจจะเป็นการฝึกซ้อมดูบุคลิกภาพ และ ท่าทางของตนเองในระหว่างที่พูดออกมา ควรมีความมั่นใจ พยายามขายและบอกจุดเด่นและประสบการณ์การทำงานของเรามาให้ดีและมากที่สุด เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เราเกิดความประทับใจ และ อยากที่จะให้เรามาร่วมงานกับเขานั่นเอง อย่างไรก็ดี Engconvo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังจะหางาน และ กำลังสัมภาษณ์งานได้ผ่านการคัดเลือกทุกคนนะครับ

และสุดท้ายทางเราสถาบันสอนภาษาอังกฤษ EngConvo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนทุกคนที่กำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับใครที่สนใจการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสารทั่วไป หรือใช้เพื่อการทำงาน หรือต้องการสัมภาษณ์งาน เรามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้เรียนได้ทุกรูปแบบนะครับ และยังสามารถออกแบบคอร์สได้ตามต้องการอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถติดต่อเราได้เลยนะครับ

[NEW] ​StrengthsFinder : เครื่องมือช่วยค้นหาจุดแข็งในตัวคุณ | จุดแข็ง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

‘Weakness fixing prevents failure, strength building drives success’ – การมุ่งพัฒนาจุดแข็งจะนำไปสู่ความสำเร็จมากกว่าการพยายามแก้ไขจุดอ่อน

คนสำเร็จบนโลกนี้ล้วนทุ่มเทพลังกับการพัฒนาจุดแข็งของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังก้องโลก ไทเกอร์ วูดส์ นักกอล์ฟมือวางอันดับต้นๆ ของโลก หรือบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ซึ่งทุกคนก็มีจุดอ่อนแต่ก็เลือกที่จะหาวิธีจัดการให้จุดอ่อนไม่สร้างผลกระทบกับตัวเองมาก แล้วรีบหันมาเอาจริงเอาจังในการพัฒนาจุดแข็งจนประสบความสำเร็จ แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้น เราต้องผ่านเสต็ปแรกคือ ค้นหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอก่อน

จุดแข็ง (Strength) คืออะไร ?

จุดแข็ง คือ การที่เราสามารถปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งได้แทบจะสมบูรณ์แบบอย่างสม่ำเสมอ จนสามารถสร้างประโยชน์ต่อชีวิตได้ ซึ่งก่อนอื่นเราควรเข้าใจหลักการ 3 ข้อ คือ

  1. เราสามารถทำกิจกรรมนั้นซ้ำๆ ได้อย่างมีความสุขและเป็นผลสำเร็จ (ทำสำเร็จได้อย่างสม่ำเสมอจนสามารถคาดหวังผลได้)
  2. คนที่มีความเป็นเลิศ ไม่ใช่คนที่เก่ง ‘รอบด้าน’ แต่เป็นคนที่แหลมคม ‘เฉพาะด้าน’ 
  3. ความเป็นเลิศเกิดได้จากการเพิ่มพูนจุดแข็งของตัวเองให้มากที่สุด ไม่ใช่การซ่อมแซมจุดอ่อน ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ‘อย่าไปสนใจจุดอ่อน’ แต่เราต้องหาวิธีจัดการกับจุดอ่อน เพื่อให้มีเวลาไปลับจุดแข็งให้แหลมคมกว่าเดิมและนำมาใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด

จุดแข็งนั้น สร้างมาจากความรู้ ประสบการณ์ บวกกับทักษะ และพรสวรรค์ ซึ่งการรู้พรสวรรค์ของตัวเองและนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และเร็วกว่า เพราะแม้เราจะอยากฝึกฝนทักษะอื่นๆ แต่ถ้ามันไม่ใช่ธรรมชาติของเราแล้ว เราก็อาจจะไม่สามารถทำให้ได้ผลดีเลิศอยู่ดี อาจแค่อยู่ในระดับที่พอใช้งานได้เท่านั้น 

พรสวรรค์ (Talent) คือ แบบแผนของความคิดความรู้สึก หรือพฤติกรรมที่เกิดซ้ำๆ  และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ นั่นหมายความว่าถ้าเรามีความรับผิดชอบก็คือพรสวรรค์ ถ้าชอบการแข่งขันก็เป็นพรสวรรค์ หรือแม้แต่ลักษณะที่ดูจะเป็นทางลบก็เป็นพรสวรรค์ได้ ถ้าเราสามารถดึงส่วนที่เป็นประโยชน์มาใช้ได้ เช่น ความดื้อดึง ก็ทำให้เราต่อสู้ไปสู่ความสำเร็จได้แม้จะเจอกับอุปสรรคมากมาย หรือความขี้กังวล ก็ทำให้เราคิดวางแผนฉุกเฉิน และคาดการณ์ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ เป็นต้น 

แบบประเมิน Clifton StrengthsFinder

จากการศึกษาค้นคว้ามากว่า 50 ปี ทำให้แบบทดสอบ StrengthsFinder เป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นตัวช่วยที่เชื่อถือได้ในการระบุพรสวรรค์ที่เด่นชัดของเรา และถ้าเราพัฒนาต่อ ด้วยการฝึกฝนและนำจุดแข็งเฉพาะตัวของเราเป็นตัวนำ ทั้งในการทำงาน หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น และได้เปรียบกว่าคนที่ไม่รู้จุดแข็งของตนเอง หรือคนที่รู้แล้วแต่ไม่ฝึกฝน ซึ่งอาจทำให้พรสวรรค์นั้นหายไปในที่สุด

นอกจากการรู้จุดแข็งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อการโค้ชเพื่อสร้างความเป็นเลิศได้อย่างตรงจุด และต่อการทำงานเป็นทีม เพราะการเรียนรู้จุดแข็งของกันและกันจะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือที่เราคุ้นเคยกันดีว่าจะทำให้เราสามารถ Put the right man in the right job นั่นเอง

ลักษณะพรสวรรค์ 34 ประการ

EXECUTING


INFLUENCING

RELATIONSHIP BUILDING

STRATEGIC THINKING

พรสวรรค์ 5 อันดับแรกที่มีสถิติสูงสุดจากผู้ทำแบบทดสอบ StrengthsFinder ทั่วโลก (9,955,783 คน, 2014)

  1. Achiever
  2. Responsibility
  3. Learner
  4. Relator
  5. Strategic

พรสวรรค์ 5 อันดับแรกที่มีสถิติสูงสุดจากผู้ทำแบบทดสอบ StrengthsFinder ในประเทศไทย (51,958 คน, 2014)

  1. Responsibility
  2. Relator
  3. Learner
  4. Harmony
  5. Focus

​การใช้จุดแข็งเพื่อสร้างความแตกต่าง


การใช้จุดแข็งเพื่อสร้างความแตกต่าง

จริงๆ แล้วการรู้จุดแข็งของตนเองเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังจากนี้เราต้องเริ่มฝึกฝนและพัฒนาตนเอง เพื่อทำให้พรสวรรค์เหล่านั้นแข็งแรงขึ้น และเมื่อเราสามารถนำพรสวรรค์ที่มีในตัวมาใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะทำให้เราโดดเด่นขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยสามารถเริ่มฝึกฝนได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือ Name it! Claim it! Aim it!

  • Name it : หลังจากทำแบบทดสอบแล้ว เราจะได้รับ report ที่มีคำอธิบายเกี่ยวกับพรสวรรค์แต่ละข้ออย่างละเอียด ซึ่งเมื่ออ่านแล้ว เราควรไฮไลท์คำ หรือข้อความที่สะท้อนความเป็นตัวเรามากที่สุด
  • Claim it : ลิสท์จุดแข็งทั้งหมดของเรา และคำ/วลีที่เราไฮไลท์ไว้ขึ้นมา แล้วแปะไว้ตรงไหนก็ได้ที่เราจะได้เห็นมันทุกวัน รวมถึงแชร์ report ที่ได้ไปให้คนใกล้ตัวเรา
  • Aim it : เลือกจุดแข็งของเราขึ้นมา 1 อย่าง แล้วให้เวลากับมันสักวัน โดยลองคิดดูว่าเราจะใช้จุดแข็งนี้ได้อย่างไรบ้างในการดำเนินชีวิตวันนี้ ซึ่งสามารถดูตัวอย่างได้จากใน report ว่าจุดแข็งนั้นๆ ของเราจะทำให้เราทำอะไรได้ดี แล้วฝึกฝนการใช้พรสวรรค์นั้นอย่างเคร่งครัดในทุกๆวัน ทดลอง สังเกตผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แล้วฝึกฝนไปเรื่อยๆ ทีละพรสวรรค์จนครบทุกข้อ ซึ่งการพัฒนาพรสวรรค์ในส่วนนี้ก็เหมือนกับการสร้างกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งออกกำลังบ่อย กล้ามเนื้อก็ยิ่งแข็งแรงนั่นเอง

​ข้อดีของการรู้จุดแข็งของตนเองและผู้อื่น

ข้อดีของการรู้จุดแข็งของตนเองและผู้อื่น

  1. การรู้จุดแข็งของตัวเองทำให้เราเข้าใจการกระทำและพฤติกรรมของตัวเองในอดีตมากขึ้น
  2. การหยิบยกเรื่องจุดแข็งมาพูดคุยในวงสนทนาเป็นประตูบานแรกที่ทำให้เรารู้จักและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น
  3. การรู้จุดแข็งของแต่ละคนช่วยร่นเวลาในการทำความเข้าใจตัวตนและมีประโยชน์ในการทำงานเป็นทีม
  4. คนที่บุคคลิกแตกต่างกันจะแสดงจุดแข็งให้เห็นแตกต่างกันไป คนที่กล้าแสดงออก เราจะเห็นจุดแข็งของเขาแบบชัดเจน รู้ว่ามีพรสวรรค์อะไร แต่คนที่เก็บตัว จุดแข็งจะซ่อนอยู่ ไม่เปิดเผยให้คนนอกเห็นมากนัก
  5. การค้นพบจุดแข็งของตัวเองจะทำให้เรามีพลังเชิงบวกและการหมั่นพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เราต้องทำไปตลอดชีวิต

ข้อควรระวังในการใช้จุดแข็ง

ข้อควรระวังในการใช้จุดแข็ง

  1. ไม่ใช้จุดแข็งของตัวเองเป็นข้ออ้าง ไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง
  2. คนส่วนใหญ่เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จ รู้ว่าตัวเองได้จุดแข็งอะไร แต่ยังไม่เข้าใจตัวเองเพราะต้องการรู้คำอธิบายรายละเอียดของจุดแข็งแต่ละข้อ
  3. จุดแข็งต้องเกิดจากการรวมพรสวรรค์อย่างน้อย 2-3 ข้อเข้าด้วยกัน การมุ่งมั่นพัฒนาพรสวรรค์เพียงข้อเดียวนั้นยากที่จะสร้างจุดแข็ง
  4. การใช้พรสวรรค์บางข้อมากเกินไปจะสร้างความยุ่งยากใจให้กับผู้อื่นได้ เช่น ถ้าเรามีจุดแข็งเรื่องบัญชาการ และในชีวิตประจำวันเราคอยสั่งการทุกสิ่งทุกอย่าง ตัดสินใจโดยไม่รับฟังคนอื่น คนรอบตัวอาจไม่ชอบได้
  5. จุดแข็งของแต่ละคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การใช้จุดแข็งผิดที่ ผิดเวลา อาจทำให้เราไม่ได้รับการยอมรับและไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้
  6. เข้าใจความแตกต่างและเคารพจุดแข็งของผู้อื่น

**การเข้าทำแบบประเมิน StrengthsFinder นั้นมีค่าใช้จ่าย โดยในแพ็กเกจเริ่มต้นเราจะได้รับผลเป็นพรสวรรค์ 5 อันดับแรกของเรา โดยสามารถทำได้ 3 วิธี คือ

1. ซื้อหนังสือ StrengthsFinder 2.0 (ฉบับภาษาอังกฤษ) จะได้รับ account แถมมากับตัวเล่มเลย หรือหนังสืออีกหลายเล่มของ Gallup ก็จะมี acoount แถมมาให้เช่นกัน เช่น Strength based leadership, Strength based selling

2. ซื้อ account เพื่อเข้าทำแบบประเมินทางเว็บไซต์ Gallup Strengths Center ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 15$ หรือประมาณ 544 บาท ซึ่งเมื่อเรามี account แล้วก็จะสามารถดาวน์โหลด E-book StrengthsFinder 2.0 จากเว็บไซต์ไปอ่านได้ฟรีๆ ด้วย 

3. ซื้อหนังสือ Now, discover your strengths – เจาะจุดแข็ง (ฉบับภาษาไทย) ก็จะได้รับ Account แถมมาให้ท้ายเล่มด้วยเหมือนกัน แต่จะเป็นแบบประเมิน version 1.0 (ตัวแบบประเมินจะเหมือนกับข้อ 1 และ 2 จะแตกต่างที่ตัว report) ซึ่งเมื่อทำแบบประเมินแล้ว ก็สามารถ log in เข้าไปที่เว็บไซต์ Gallup Strengths Center เพื่ออ่าน customized report (version 2.0) และดาวน์โหลด E-book StrengthsFinder 2.0 ไปอ่านได้ด้วยเช่นเดียวกัน

        


น้องบีม | Learn color with ice cream เรียนรู้สีทำไอติมสี่สหายกับน้องบีม


เรียนรู้เรื่องสีจากการทำไอติมน้ำหวานและท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษกับน้องบีมกันครับ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

น้องบีม | Learn color with ice cream เรียนรู้สีทำไอติมสี่สหายกับน้องบีม

การตอบคำถาม ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง


Beyond Services by Crew Pang
เผยสุดยอดเทคนิคการตอบคำถาม เกี่ยวกับข้อดี ข้อเสียของตนเองเพื่อช่วยให้น้องๆได้งานนี้

การตอบคำถาม ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาต่างๆ l ชื่อวิชาเป็นภาษาอังกฤษ l ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน


เรียนรู้ คำศัพท์ ชื่อวิชาต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ มีวิชาอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
Art
Biology
Chemistry
English
Geography
History
Mathematics
Music
Physics
Science
Social studies
Thai Language
Physical Education (PE)

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาต่างๆ l ชื่อวิชาเป็นภาษาอังกฤษ l ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ยานยนต์ที่แข็งแกร่ง l Tayo ร้องเพลงตาม แสดง l เพลงสำหรับเด็ก l Tayo ภาษาไทย


ท่านสามารถเพลิดเพลินและร่วมสร้างเวลาอันสนุกตื่นเต้นไปด้วยกันโดยการร่วมร้องเพลงและรับชมซีรี่ย์ดีๆมากมายตลอดการผจญภัยอันน่าเหลือเชื่อและการทำงานร่วมกันกับรถคันอื่นของรถตัวน้อย
[เนื้อร้องของเพลง]
ฉันคือ ฉันคือ รถแทรคเตอร์
ฉันดันของ ได้ทุกสิ่ง (ไปเลย!)
ฉันเกลี่ยถนน ให้ราบเรียบ
ฉันดันสิ่งของได้นุ่มนวล
ต่อให้หินก้อนยักษ์
หรือเป็นทราย!
ฉันทำมันได้อย่างง่ายดาย!
ฉันคือ ฉันคือ รถแทรคเตอร์
ฉันผลักของ ได้ทุกสิ่ง
ฉันคือ ฉันคือรถขุดดิน
ยกสิ่งของ ได้ทุกสิ่ง (ฮ่า มาลองดู!)
ฉันสามารถยกกองทรายขึ้นมา
เรื่องให้ยกสิ่งของนั้นมันธรรมดา
ให้ฉันย้ายทราย หรือว่าขุดหลุมใหญ่!
ฉันทำมันได้อย่างง่ายดาย
ฉันคือ ฉันคือรถขุดดิน
ยกสิ่งของ ได้ทุกสิ่ง
ฉันคือ ฉันคือรถบรรทุก
ขนสิ่งของ ได้ทุกสิ่ง (ฮ่า ไม่มีปัญหา!)
ขนสิ่งของ ง่ายดาย ของจะใหญ่จะเล็ก ฉันขนได้มากมาย
ต้นไม้ใหญ่ยักษ์ หรือว่าเหล็กหนัก ๆ
ฉันทำมันได้อย่างง่ายดาย
ฉันคือ ฉันคือรถบรรทุก
ขนสิ่งของ ได้ทุกสิ่ง
ฉันคือ ฉันคือรถผสมปูน
ทำสิ่งของแข็งแรงทนทาน (เอาล่ะนะ)
หมุน หมุน ผสม ของเข้ากัน
ฉันทำสิ่งของแข็งแรงทนทาน
จะเป็นเสาต้นยักษ์ หรือกำแพงที่แข็งมาก
ฉันทำมันได้อย่างง่ายดาย
ฉันคือ ฉันคือรถผสมปูน
ทำสิ่งของแข็งแรงทนทาน
พวกเรานั้นคือ ยานยนต์ที่แข็งแกร่ง
เราทำงานด้วยกัน
พวกเรานั้นคือ ยานยนต์ที่แข็งแกร่ง
พวกเราทำได้ทุก ๆ สิ่ง ย่าห์

ยานยนต์ที่แข็งแกร่ง l Tayo ร้องเพลงตาม แสดง l เพลงสำหรับเด็ก l Tayo ภาษาไทย

ฝึกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ มีตัวอย่างคำตอบ


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright
https://www.englishbright.net

ฝึกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ มีตัวอย่างคำตอบ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ จุดแข็ง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *