Skip to content
Home » [Update] 4 หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษดีๆ สำหรับใครที่อยากเก่งภาษา | อยากเก่งภาษา – NATAVIGUIDES

[Update] 4 หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษดีๆ สำหรับใครที่อยากเก่งภาษา | อยากเก่งภาษา – NATAVIGUIDES

อยากเก่งภาษา: คุณกำลังดูกระทู้

ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก ถ้าคุณเก่งภาษาอังกฤษ คุณมีโอกาสได้ทำงานในบริษัทดีๆ อย่างเช่นบริษัทข้ามชาติต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณมีฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีศักยภาพในการไต่เต้าในสายงานมากกว่าคนอื่นอย่างมากมาย

อย่างไรก็ดีทักษะภาษาอังกฤษไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสร้างมันขึ้นมาได้ในชั่วข้ามคืน คุณต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นเวลาแรมปีเพื่อที่จะเข้าถึงไวยากรณ์ (grammar) และซึมซับศัพท์ต่างๆ เพื่อที่จะนำไปใช้ฟัง พูด อ่าน เขียนต่อไป

จากประสบการณ์ของตัวผมเอง ผมพบว่าหนึ่งในวิธีที่ได้ผลในการพัฒนาทักษะทางไวยากรณ์ คำศัพท์ และการอ่านคือคุณ คือ การอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษทุกวัน วันละประมาณ 15-30 นาทีครับ

หลายคนน่าจะทราบวิธีนี้กันอยู่แล้ว แต่อาจจะสงสัยว่า หนังสือพิมพ์ฉบับไหนที่ควรจะอ่านดี?

ดังนั้นในโพสนี้ ผมจะแนะนำหนังสือพิมพ์ดีๆ ที่ทุกคนสามารถหามาอ่านเพื่อใช้พัฒนาภาษาอังกฤษครับ

Bangkok Post อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของไทยมาทุกยุคทุกสมัย ข่าวสารและบทความในหนังสือพิมพ์เล่มนี้แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับประเทศไทยเป็นสำคัญ เรื่องที่ครอบคลุมก็ประเด็นใหญ่ๆ สำคัญๆ ในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยสาระที่เกี่ยวกับประเทศไทยครับ

สำหรับในเรื่องภาษาแล้ว ผมมองว่าภาษาค่อนข้างอ่านง่าย นักเรียนมัธยมปลาย-ปริญญาตรีน่าจะอ่านได้อย่างสบายๆ ศัพท์เทคนิคเชิงลึกเป็นพิเศษอะไรก็ไม่มีเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันคุณสามารถอ่านบทความและข่าวสาร Bangkok Post ได้ฟรีผ่านทางเว็บไซต์ bangkokpost.com แต่ถ้าคุณต้องการแบบ ePaper (หนังสืออิเล็กทรอนิกส์) หรือแบบกระดาษดั้งเดิม คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มครับ (สัปดาห์ละ 279 บาท ปีละ 4,900 บาท)

The New York Times เป็นหนังสือพิมพ์สัญชาติอเมริกันที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกฉบับหนึ่ง เนื้อหาของ New York Times อัดแน่นไปด้วย การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี กีฬา อาหาร แฟชั่น การเงินการลงทุน ฯลฯ ของประเทศสหรัฐอเมริกาและโลก

ดังนั้นถ้าคุณต้องการติดตามข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นสิ่งที่คุณควรหามาอ่านเลยครับ

ภาษาที่ใช้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นแบบ American English และแน่นอนว่าทั้งคำศัพท์และไวยากรณ์จะยากและซับซ้อนกว่าภาษาใน Bangkok Post แต่ก็ไม่ได้ยากจนอ่านแล้วไม่เข้าใจ ผมมองว่าใครที่กำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกาควรจะเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้แหละครับ เพราะจะได้ปรับทักษะทางภาษาให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา และเข้าใจถึงค่านิยมและวัฒนธรรมอเมริกันด้วย

หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะไปหามาอ่านจากไหน เพราะ The New York Times เป็นหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ แต่ละฉบับคงจะแพงไม่น้อย

เมื่อก่อนอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ทุกวันนี้คุณสามารถอ่านทุกอย่างของ The New York Times ได้ผ่านทางเว็บหรือ app (iOS, Android) ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางโทรศัพท์ของคุณครับ

อย่างไรก็ดี ถ้าคุณไม่สมัครสมาชิก คุณจะอ่านบทความจากเว็บ nytimes ได้ไม่กี่บทความเท่านั้น และบทความระดับ exclusive คุณไม่สามารถอ่านได้เลย

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะสมัครสมาชิก ค่าสมาชิกจะอยู่ที่สัปดาห์ละ $1 (30 บาท) หรือ 120 บาทต่อเดือน และถ้าคุณเป็นนักเรียนแล้ว ค่าสมาชิกจะเหลือเพียง $0.5 (15 บาท) หรือ 60 บาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมากๆ เลยทีเดียว หลังจากสมัครสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถอ่านได้อย่างไม่จำกัดผ่านทาง web หรือ app ก็ได้ครับ

Wall Street Journal เป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจของสหรัฐอเมริกาที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เคยมีบทบาทในการ “แฉ” บริษัทที่ฉ้อโกงมาแล้วหลายบริษัทด้วยกัน อย่างกรณีของ Theranos สตาร์ทอัพชื่อดังเป็นต้น

เนื้อหาในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะเน้นหนักไปที่ธุรกิจ เศรษฐกิจ การเงิน ตลาดหุ้น แต่ก็มีข่าวต่างประเทศ การเมือง หรือไลฟ์สไตล์ให้อ่านเช่นกัน แม้ว่าน้ำหนักจะเบากว่าฝั่งธุรกิจมากก็ตาม

ผมมองว่ารูปแบบการเขียนของ Wall Street Journal เป็นทางการมาก ศัพท์และรูปประโยคที่ใช้จะเป็นลักษณะ professional และมีศัพท์เทคนิคอยู่เรื่อยๆ บทความที่เขียนหลายบทความก็เป็นแบบเฉพาะกลุ่ม ทั้งนี้เพราะกลุ่มลูกค้าสำคัญของ Wall Street Journal คือบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจและผู้บริหารต่างๆ ดังนั้นมันอาจจะไม่เหมาะสำหรับน้องๆ มัธยมปลาย หรือปริญญาตรีทั่วไปที่กำลังศึกษาอยู่สักเท่าใดนัก

แต่ทว่าถ้าคุณอยากจะพัฒนาภาษาในระดับ professional หรือกำลังจะไปเรียนต่อปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจอย่างเช่น MBA ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณควรจะอ่าน Wall Street Journal เป็นกิจวัตรประจำวันของคุณครับ

เช่นเดียวกับ New York Times คุณไม่จำเป็นต้องหาฉบับกระดาษมาอ่าน เพราะคุณสามารถอ่านได้ผ่านทางเว็บ wsj.com หรือ app ก็ได้ครับ (iOS, Android)

อย่างไรก็ดี คุณไม่สามารถอ่านบทความเต็มๆ บนเว็บได้ นอกเสียจากว่าคุณจะเสียเงิน ค่าสมาชิกอยู่ที่ $28.99 (ประมาณ 870 บาทต่อเดือน) โดย 3 เดือนแรกจะคิดค่าสมาชิกเพียง $1 ครับ

The Times เป็นหนังสือพิมพ์คุณภาพสัญชาติอังกฤษที่มีอายุมากกว่า 200 ปีแล้ว The Times ยังคงเลือกที่จะทำข่าวแบบมีคุณภาพ ต่างจากหนังสือพิมพ์ในอังกฤษอื่นๆ ที่เปลี่ยนตัวเองเป็นหนังสือพิมพ์สไตล์ Tabloid หรือเน้นข่าวลือ ข่าวมโนไปตามลำดับ

ดังนั้นแน่นอนว่าถ้าคุณต้องการอ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษที่เขียนด้วยภาษาอย่างสุภาพชน มีจรรยาบรรณ และมีสาระอัดแน่นจากทุกสาขาวิชา The Times ควรจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคุณครับ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังจะไปเรียนที่อังกฤษ และต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

ในเรื่องระดับภาษา ผมว่าใกล้เคียง The New York Times ทำให้ไม่ยากจนเกินไป และเหมาะที่จะนำมาอ่านเพื่อฝึกภาษาอังกฤษได้ครับ

คุณสามารถอ่าน The Times ได้จากเว็บ thetimes.co.uk หรือผ่านทาง app (iOS, Android) แต่ไม่ฟรีนะครับ คุณอ่านฟรีได้แค่ 1 เดือนแรกเท่านั้น และหลังจากนั้นคุณจะต้องเสีย 5 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 200 บาท)

ตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • The Washington Post (US) – คล้ายกับ New York Times สามารถอ่านแทนกันได้
  • Los Angeles Times (US)
  • The Guardian (UK)
  • Financial Times (UK) – คล้ายกับ Wall Street Journal
  • ใครที่อยากอ่านข่าวสารเทคโนโลยีและฝึกภาษาอังกฤษไปด้วย สามารถอ่านได้จากสื่อเหล่านี้ครับ

เคล็ดลับการอ่าน

  1. อย่าใส่ใจกับคำศัพท์ที่เราไม่ทราบมากเกินไป ลองฝึกตัวเองให้อ่านให้เข้าใจแก่นสำคัญหรือ main idea ของเรื่องเป็นหลัก คำศัพท์บางคำคุณสามารถเดาได้ว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าคุณสามารถทำได้ตามนี้ ทักษะการอ่านของคุณจะพัฒนาขึ้นในไม่ช้า เช่นเดียวกับคะแนน TOEFL, SAT, IELTS, GRE, GMAT ของคุณด้วย
  2. จดหรือไฮไลท์คำศัพท์ที่คุณไม่เข้าใจเอาไว้ด้วย และนำไปเปิด dictionary เพื่อให้ทราบความหมาย คลังคำศัพท์ของคุณจะได้พัฒนาขึ้นครับ
  3. พยายามอ่านให้ได้ 15-30 นาทีอย่างต่อเนื่องและมีสมาธิ คุณไม่ควรหยุดอ่านบ่อยเกินไป เพราะสมองของคุณจะไม่เรียนรู้สิ่งที่ผ่านตาเข้ามาเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปประโยคและคำศัพท์
  4. คุณควรจะเริ่มอ่านตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงยาก นั่นคือ Bangkok Post ก่อนและเพิ่มระดับไปเป็น New York Times และ Wall Street Journal ตามลำดับ คุณจะได้ไม่รู้สึกท้อเมื่อพบกับบทความที่ยากเกินไป
  5. โปรดอย่าได้รู้สึกท้อ ถ้าเผชิญหน้ากับบทความที่อ่านยาก คุณอาจจะเลือกบทความที่คุณสนใจอยู่แล้วมาเริ่มอ่านก่อน เช่นถ้าคุณสนใจเรื่องกีฬา คุณก็เริ่มอ่านบทความกีฬา ถ้าคุณสนใจการเมือง คุณก็เริ่มที่การเมืองครับ
  6. สำหรับใครที่กำลังจะสอบ TOEFL, SAT, IELTS, GRE, GMAT การอ่านหนังสือพิมพ์เหล่านี้เป็นหนึ่งในวิธีการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยมที่สุด เพราะคุณต้องอ่านบทความหลากหลายสาขาในเวลาสอบอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรพยายามอ่านบทความให้เข้าใจให้ได้ทุกบทความ ซึ่งรวมไปถึงบทความในสาขาที่คุณไม่ชอบหรือไม่มีความรู้ด้วย
  7. โปรดทราบไว้ว่า หนังสือพิมพ์เหล่านี้ล้วนแต่แฝงแนวคิดทางการเมืองทางเศรษฐกิจของผู้เขียนอยู่ทั้งสิ้น โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ต่างประเทศที่แสดงออกอย่างเปิดเผย เวลาอ่านคุณควรจะตั้งคำถาม แยกข้อเท็จจริงและความคิดเห็นออกจากกัน และอย่าเชื่อทุกสิ่งในที่พวกเขาเขียนออกมาครับ
  8. ส่วนใครที่อยากพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษ ลองไล่สังเกตดูครับว่านักเขียนมืออาชีพจัดโครงร่างในการเขียนอย่างไร และใช้ไวยากรณ์อย่างไร คุณจะสามารถนำวิธีของพวกเขาไปประยุกต์กับงานเขียนของคุณได้ครับ

[Update] อยากเก่งต้องมุ่งมั่น อ่านเลย! 9 เทคนิคเก่งอังกฤษขั้นเทพด้วยตัวเอง | อยากเก่งภาษา – NATAVIGUIDES

“ภาษาอังกฤษ”

เรียกว่าเป็นภาษาที่ 2 ที่เราแทบทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเพราะเป็นทักษะวิชาการที่เราถูกบังคับให้เรียนในหลักสูตรมาตั้งแต่อนุบาล จนถึงระดับมหาวิทยาลัยก็ยังต้องเรียนกันไม่เคยหยุด แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี กี่คอร์สเรียน ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของหลายๆ คน ก็ยังไม่ดีขึ้นตามซักที (เราก็ด้วย เห้อ พูดละท้อ)

แต่ยังก่อน ยังเร็วเกินไปที่จะมานั่งท้อใจ ไหนๆ ภาษาอังกฤษ ก็เป็นทักษะสำคัญกับชีวิตการเรียน การทำงาน และอนาคตของเราขนาดนี้ แล้ว บทความนี้เราจึงเสาะหาข้อมูลและเทคนิคดีๆ มาช่วยน้องๆ และทุกคนที่ยังรักจะพัฒนาตัวเอง และนี่คือ

9 สุดยอดเคล็ดวิชาเรียนรู้ภาษาอังกฤษยังไงให้เก่งและเห็นผลทันตา

ที่เราคัดสรรมาให้คุณนำไปใช้ได้ง่ายๆ พร้อมแล้วตามมาเลย

ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง

สิ่งสำคัญอย่างแรกที่น้องๆ ต้องทำคือ การตั้งเป้าหมาย เพราะมีผลการทดลองแล้วว่า คนที่มีเป้าหมายการพัฒนาชีวิตตัวเองอย่างชัดเจนและมีกำหนดระยะเวลา 97% จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ

โดยเป้าหมายในการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษที่น้องตั้ง จะต้องมีรายละเอียดชัดเจน มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน รวมทั้งควรตั้งเป้าหมายไว้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ และเป็นแรงกระตุ้นในการพัฒนาตัวเองต่อไป

สร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง


ถ้าน้องๆ ต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ นอกจากการวางเป้าหมายที่ชัดเจน อย่างเทคนิคที่ 1 ได้กล่าวไปแล้ว เรายังต้องติดตามเป้าหมายนั้นอย่างสม่ำเสมอด้วย ซึ่งสิ่งสำคัญคือในการติดตามเป้าหมายให้ได้ต่อเนื่องก็คือความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเราเอง ดังนั้น การสร้างแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เราอยากเก่งภาษาอังกฤษ ก็สำคัญไม่แพ้กัน 

ซึ่งแรงบันดาลใจที่ว่านี้ น้องๆ อาจมีไม่เหมือนกัน เช่น เราอาจจะอยากเก่งเหมือนดาราคนโปรด อยากมีโอกาสไปท่องเที่ยว เรียนต่อ หรือใช้ชีวิตต่างประเทศ การพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว การอ่านหนังสือต้นฉบับหรือดูหนัง Soundtrack ได้เข้าถึงแก่นมากกว่าเดิม เป็นต้น และหากน้องๆ ค้นพบแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเก่งภาษาอังกฤษแล้ว เขียนตัวใหญ่ๆ แปะเอาไว้ข้างฝา ให้เห็นชัดทุกวัน และเราต้องเป็นอย่างนั้นให้ได้ รับรองว่าแรงใจมาเต็มแน่นอน

เปิดเพลงและสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นภาษาอังกฤษ

เหมือนกับคนที่ไปอยู่ต่างประเทศก็จะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาก เพราะซึมซับและใช้ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น แม้เราอยู่เมืองไทย ก็สร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ใกล้เคียงกับเมืองนอกได้ด้วยเช่นกัน และน้องๆ อาจสังเกตว่าเพื่อนหลายที่เก่งภาษาอังกฤษ เขามักชอบฟังหรือเปิดเพลงภาษาอังกฤษไปพร้อมกับการทำอย่างอื่นด้วย

การเรียนรู้ประโยคและคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยวิธีนี้ แน่นอนว่ามันได้ผล นั่นก็เพราะสมองคนเราสามารถเรียนรู้ได้แม้กระทั่งเวลาเราไม่ใส่ใจ และเมื่อใส่ใจ ย่อมเรียนรู้ได้มากกว่านั่นแหละ นอกจากเปิดเพลงภาษาอังกฤษแล้ว ยังรวมไปถึง ใช้  Post-It Notes ติดไว้รอบห้อง โดยเริ่มจากการเขียนคำศัพท์ทั่วไปในแบบง่ายๆ แล้วค่อยใส่ วลี ประโยค และอารมณ์ความรู้สึกที่ซับซ้อนขึ้นตามลำดับ 

 

ดูภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ที่ชอบเป็นภาษาอังกฤษ

ถ้าหากน้องคนไหนพอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้างแล้ว การดูหนังหรือซีรี่ส์เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง นอกจากจะได้ความบันเทิงแล้วก็ได้ฝึกทักษะภาษาไปในตัวด้วย เพราะการดูหนังจะช่วยให้เราได้เห็นการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทจริง มีทั้งภาพและเสียงประกอบ ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมและทำให้สมองซึมซับภาษาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดก็ต้องดูหลายรอบหน่อย และรอบหลังๆ น้องก็จะสามารถดูหนังและเข้าใจบทสนทนาได้เองโดนไม่ต้องอ่านซับไตเติ้ลเลยหละ

อ่านหนังสือและนิตยสารที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างง่าย


น้องๆ อาจเบื่อที่จะอ่านหนังสือสอนภาษาอังกฤษหนาๆ ยากๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา ลองเริ่มเปลี่ยนความรู้ในการเรียนด้วยการอ่านหนังสือที่น่าสนใจและเราอยากอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิยาย นิทาน เรื่องสั้น นิตยสาร เกร็ดความรู้ ท่องเที่ยว แฟชั่น หรืออะไรก็ตามที่น้องๆ ชอบ นอกจากจะช่วยเปิดโลกทางความคิดและสร้างความรู้แล้วยังเป็นวิธีพัฒนาภาษาที่ได้ผลยอดเยี่ยม โดยเทคนิคสำคัญคือจะต้องเลือกหนังสือที่เหมาะสำหรับระดับทักษะของตัวเอง เช่น นักเรียนม.ต้น ก็ควรเป็นหนังสือที่มีภาพประกอบมากกว่าตัวหนังสือ เมื่อเราเก่งขึ้น ก็อ่านหนังสือที่ยากขึ้นตามลำดับ

ซึ่งแหล่งความรู้ที่เหมาะสมสำหรับน้องๆ มัธยมก็คือ นิตยสารภาษาอังกฤษ เช่น Nation Junior และ Student Weekly ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษที่ง่ายกว่านิตยสารสำหรับเจ้าของภาษา หรือ นิตยสารอย่าง Future ก็จะมีบทความที่มีทั้งสองภาษา อังกฤษและไทยให้อ่านเปรียบเทียบกัน รับรองว่า ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของน้องๆ จะคล่องขึ้นมากเลย

ฝึกพูดบทสนทนาที่มักใช้เป็นประจำ (Conversational Patterns) 


ในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อน้องๆ ไปซื้อของ ไปท่องเที่ยว ไปโรงเรียน กินข้าว ดูหนัง ทำรายงาน สอบถามเส้นทาง พูดคุยกับเพื่อน ลองพยายามคิดหรือจินตนาการว่าถ้าเราจะต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ จะพูดอย่างไร โดยเทคนิคการฝึกบทพูดสนทนาที่ใช้เป็นประจำคือ

ถ้าน้องๆ คิดไม่ออก ก็ลองหาหนังสือ Phrase book หรือ หนังสือรวมบทสนทนาสำหรับนักท่องเที่ยว และ CD รวมบทสนทนาภาษาอังกฤษต่างๆ เพื่อดูว่าบทสนทนาในสถานการณ์นั้นๆ เป็นอย่างไร เพราะในแต่ละสถานการณ์จะมีประโยคและคำศัพท์ที่ใช้โต้ตอบหลักๆ ไม่กี่รูปแบบเท่านั้น เมื่อเราฝึกคิดและใช้รูปแบบดังกล่าวได้อย่างคล่องแคล่ว เราก็จะพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์เหล่านั้นได้เองอัตโนมัติ 

ใช้สมุดจดหรือถ่ายภาพเพื่อบันทึกคำศัพท์ประจำวัน


เพียงแค่กดเปิด Social media ขึ้นมา หรือเดินออกไปหน้าบ้าน ก็จะเห็นว่ามีภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด น้องๆ ต้องหมั่นสังเกตและจดบันทึกสิ่งที่น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ไว้เพื่อเป็นไดอารี่และแหล่งเรียนรู้ส่วนตัว อย่างเช่น

เสื้อยืดที่วลีหรือประโยคมีภาษาอังกฤษเท่ๆ แปะอยู่ เมื่อเจอคำศัพท์เหล่านี้ น้องๆ ก็จดบันทึกไว้ในสมุดโน้ตหรือใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ แล้วกลับมาหาความหมาย ซึ่งการเรียนรู้ผ่านสิ่งแวดล้อมประกอบแบบนี้ นอกจากจะน่าสนใจแล้วยังช่วยให้เราจดจำคำศัพท์ได้แม่นยำกว่า แต่ที่สำคัญต้องอย่าลืมหยิบมาหมั่นทบทวนกันบ่อยๆ ด้วยนะ

ขอให้พูดซ้ำหรืออธิบายอีกครั้งให้ชัดเจน


เมื่อน้องๆ ต้องสนทนากับชาวต่างชาติแล้วเราฟังประโยคที่เขาพูดไม่เข้าใจ สาเหตุอาจเกิดจากเขาพูดเร็วเกินไป ใช้คำศัพท์ที่เราไม่รู้จัก หรือเพราะสำเนียงที่เราไม่คุ้นหู ซึ่งการขอให้เขาพูดช้าลงไม่ใช่เรื่องยากและน่าอายเลย น้องๆ ไม่ต้องกลัวไปว่าเขาจะรำคาญหรือตำหนิเรา เพียงใช้วลีหรือประโยคต่อไปนี้ถามไปอย่างสุภาพ เช่น

Slowly, please = ช้าหน่อยได้ไหม 
Could you please speak slowly? = กรุณาพูดช้าๆได้ไหม
Again, please = อีกครั้งได้ไหม
Pardon me = ขอโทษนะคะ/ครับ (มีความหมายแฝงว่า เราต้องการให้เขาพูดซ้ำ)

จำไว้เลยว่า ชาวต่างชาติเขาเข้าใจ ถ้าเราจะถามซ้ำหรือฟังประโยคที่เขาพูดไม่ถนัดเพราะการสนทนาภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ได้เป็นภาษาที่เราใช้เป็นหลัก เพียงแต่น้องต้องแสดงความใส่ใจที่จะพูดคุยจริงๆ แค่นี้ก็เป็นการต่อบทสนทนาได้อย่างน่าประทับใจแล้วล่ะ

ติดตาม Social Media 

หรือ Website ที่น่าสนใจ แล้วเข้าไปมีส่วนร่วม

ปัจจุบันนี้คือยุคแห่งการเชื่อมโยงกันทั่วโลกผ่าน “อินเทอร์เน็ต” โดยสื่อ Social Media หรือ Website ที่น้องๆ รู้จักดีอย่าง Youtube, Facebook, IG, Twitter หรือ Blog  ล้วนใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการนำเสนอเนื้อหาต่างๆ ซึ่งสื่อเหล่านี้ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ภาษาที่สำคัญและเข้าถึงง่ายในชีวิตของน้องๆ โดยเราสามารถเขียนโต้ตอบกับคนทั่วโลกได้โดยใช้ภาษาอังกฤษ ที่อาจมีเนื้อหาบางส่วนของเว็บไซต์เป็นจุดดึงความสนใจร่วมกันอย่างเช่น Facebook หรือ Youtube ก็แสนจะสะดวกว่ามั้ยล่ะ

 


20 ชั่วโมงแรกของการเรียน (เสียงอังกฤษ ซับอังกฤษ+ซับไทย​)


The first 20 hours how to learn anything Josh Kaufman TEDxCSU

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

20 ชั่วโมงแรกของการเรียน (เสียงอังกฤษ ซับอังกฤษ+ซับไทย​)

วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบได้ผล | Tina Academy Ep.241


♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบได้ผล | Tina Academy Ep.241

ปลุกพลังในตัวเองให้เก่งภาษาอังกฤษ | KND MEDLEY#2


ติดตามช่องยูทูบ THE STANDARD PODCAST http://bit.ly/SUBthestandardpodcast
เพลย์ลิสต์รวมฮิตพอดแคสต์ คำนี้ดี ที่จะทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น ทั้งจาก Mindset หลากหลายวิธีฝึก รวมทั้งหลุดจากกับดักทางใจที่ฉุดเราไม่ให้เก่งเสียที
• KND208 Mindset แบบไหนที่จะช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษ?
• KND320 จะ ‘ออกแบบความตั้งใจ’ อย่างไร ให้ภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นได้จริงๆ
• KND273 ฟัง/พูด/อ่าน/เขียน เราเลือกเน้นเรียนแค่บางทักษะได้ไหม ในการฝึกภาษาอังกฤษ Feat. PEACHII
• KND274 “ฝึกเองได้ ไม่ต้องไปนอก”
• KND350 ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากการดูหนังซับไตเติล ดีจริงไหม ซับอังกฤษกับซับไทย อย่างไหนดีกว่ากัน
• KND207 กับดักทางใจที่ฉุดคนไทยเอาไว้ไม่ให้ fluent ภาษาอังกฤษจริงๆ เสียที Feat. PEACHII
• KND014 “ใครๆ ก็พูดภาษาอังกฤษเก่งได้ทั้งนั้น” จกศัพท์จากอาจารย์อดัม
———————————————
THE STANDARD PODCAST : EYEOPENING FOR YOUR EARS
พอดแคสต์จากสำนักข่าว THE STANDARD
Website : https://www.thestandard.co/podcast
SoundCloud: https://soundcloud.com/thestandardpodcast
Twitter : https://twitter.com/TheStandardPod
Facebook : https://www.facebook.com/thestandardth/
Spotify : https://open.spotify.com/show/7o7TF3zfPyoydhWxtGSzLC?si=Nb_LuV8NS3C9mJ6ePdXLA

คำนี้ดี TheStandardPodcast TheStandardco TheStandardth

ปลุกพลังในตัวเองให้เก่งภาษาอังกฤษ | KND MEDLEY#2

✨Lisa​ มีเคล็ดลับอะไรกันแน่? | Learn​ English​ with​ Blackpink​ | Choose​ to​ shine​


เคล็ดลับเก่งภาษาของลิซ่าBlackpink
ลิซ่าพูดอังกฤษเป๊ะเวอร์​
ลิซ่าพูดอังกฤษ
Lisa speak​s English
Blackpink
ลลิษา​ มโน​บาล
เทคนิกเก่งภาษาของลิซ่าBlackpink

✨Lisa​ มีเคล็ดลับอะไรกันแน่? | Learn​ English​ with​ Blackpink​ | Choose​ to​ shine​

อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องเก่งแกรมม่า… จริงหรอ? | PetchZ


ใครว่าแกรมม่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยาก??
ใช่ค่ะ มันยากจริงๆ 5555 ยิ่งอ่านยิ่งเรียน ก็ยิ่งงง ซับซ้อนไปหมดเลย
ใครที่เจอปัญหานี้เหมือนกัน อ่านแกรมม่ายังไงก็ไม่เข้าใจ ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว!!
เพราะหนังสือ Grammar GO! จะช่วยให้ทุกคน \”อ่าน\” และ \”ฟัง\” เรื่องแกรมม่าภาษาอังกฤษ ได้เข้าใจง่ายขึ้น! แต่เนื้อหายังคงอัดแน่นอยู่เหมือนเดิม 🤩
ทำความเข้าใจแกรมม่าได้ง่าย และสนุกขึ้น เอาไปใช้จริง เอาไปสอบ ได้หมดเลย
📍 หนังสือ Grammar GO! By Kru Dew สั่งซื้อได้ใน 2 ช่องทาง
1. FB Page : KruDew English https://bit.ly/2XBCGQG
2. Shopee ร้าน OpenDurian https://bit.ly/3lNkRqo
ตอนซื้ออย่าลืมใช้โค้ด OPENPZ499 นะคะ เหลือเล่มละ 499 บาทเอง!!
ภาษาอังกฤษ แกรมม่าภาษาอังกฤษ GrammarGO
♡♡♡♡♡♡
ติดตามกันได้ที่ | Follow me
♡ ig: PetchZ ( https://www.instagram.com/petchz/ )
♡ fb page: PetchZ ( https://www.facebook.com/petchz/ )
♡ tiktok : PetchZ_tiktok ( https://www.tiktok.com/@petchz_tiktok )
ติดต่องาน | For work
[email protected]
♡♡♡♡♡♡

อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องเก่งแกรมม่า... จริงหรอ? | PetchZ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ อยากเก่งภาษา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *