Skip to content
Home » [Update] 15 สำนวนภาษาอังกฤษที่พบบ่อย | วัน ที่ 15 ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] 15 สำนวนภาษาอังกฤษที่พบบ่อย | วัน ที่ 15 ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

วัน ที่ 15 ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

วันนี้ฉันมีสำนวนภาษาอังกฤษ 15 สำนวนที่จะสามารถช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเจ้าของภาษามาฝากค่ะ มาเริ่มกันเลยนะคะ

1. ‘The best of both worlds’ – หมายถึง คุณสามารถทำสองสิ่งที่แตกต่างกันได้ในเวลาเดียวกัน “By working part-time and looking after her kids two days a week she managed to get the best of both worlds.” 

2. ‘Speak of the devil’ – หมายถึง คนที่คุณกำลังพูดถึงอยู่นั้นปรากฏตัวขึ้น “Hi Tom, speak of the devil, I was just telling Sara about your new car.” สวัสดีทอม นายที่อายุยืนจริงๆเลย ฉันกำลังเล่าเรื่องรถใหม่ของนายให้ซาร่าฟังพอดีเลย

3. ‘See eye to eye’ – หมายถึง เห็นด้วยกับความคิดเห็นของอีกฝ่าย “They finally saw eye to eye on the business deal.” ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงธุรกิจกันได้

4. ‘Once in a blue moon’ – เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก “I only go to the cinema once in a blue moon.” นานๆทีฉันถึงจะออกไปดูหนังครั้งหนึ่ง

5. ‘When pigs fly’ – สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือไม่มีวันจะเกิดขึ้น “When pigs fly she’ll tidy up her room.” ให้หมูบินได้ก่อนเธอถึงจะทำความสะอาดห้องของเธอ

6. ‘To cost and arm and a leg’– หมายถึง ราคาแพงมาก “Fuel these days costs and arm and a leg.” ทุกวันนี้ราคาน้ำมันแพงหูดับตับไหม้

7. ‘A piece of cake’– หมายถึง ง่ายๆ ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก “The English test was a piece of cake.” การสอบภาษาอังกฤษง่ายเหมือนบอกกล้วยเข้าปาก

8. ‘Let the cat out of the bag’ – หมายถึง หลุดปากเผยความลับออกมา “I let the cat out of the bag about their wedding plans.” ฉันเผลอหลุดปากเรื่องแผนงานแต่งๆของพวกเขา

9. ‘To feel under the weather’ – หมายถึง ไม่สบาย “I’m really feeling under the weather today; I have a terrible cold.” วันนี้ฉันไม่สบาย ฉันเป็นหวัดอย่างหนัก

10. ‘To kill two birds with one stone’ – หมายถึง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว “By taking my dad on holiday, I killed two birds with one stone. I got to go away but also spend time with him.” การที่ผมพาพ่อไปพักร้อนเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้ไปพักผ่อนด้วย ได้ใช้เวลากับพ่อด้วย

11. ‘To cut corners’ – หมายถึง ทำงานแบบขอไปที หรือ ทำงานแบบชุ่ยๆ ถูกๆ “They really cut corners when they built this bathroom; the shower is leaking.” ตอนที่ทำห้องน้ำพวกเขาคงทำงานกันชุ่ยๆน่ะสิ น้ำในห้องน้ำถึงได้รั่ว

12. ‘To add insult to injury’ – หมายถึง ทำให้สถานการณ์แย่ลง “To add insult to injury the car drove off without stopping after knocking me off my bike.” แย่ยิ่งกว่านั้นอีก พอชนฉันหล่นจากจักรยานเสร็จรถคันนั้นก็ขับหนีไปเลย

13. ‘You can’t judge a book by its cover’ – หมายถึง อย่าตัดสินคนหรือสิ่งของจากรูปลักษณ์ภายนอก “I thought this no-brand bread would be horrible; turns out you can’t judge a book by its cover.” ฉันคิดว่าขนมปังที่ไม่มียี่ห้ออันนี้จะรสชาติแย่ซะอีก

14. ‘Break a leg’ – หมายถึง ขอให้โชคดี ‘good luck’ (ส่วนมากจะบอกกับนักแสดงก่อนขึ้นเวที “Break a leg Sam, I’m sure your performance will be great.” ขอให้โชคดีนะแซม ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้ดีแน่ๆ

15. ‘To hit the nail on the head’ – หมายถึงการอธิบายถึงต้นเหตุที่แท้จริงของสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้น “He hit the nail on the head when he said this company needs more HR support.” เขาพูดได้ตรงจุดมากที่บอกว่าบริษัทนี้ต้องการฝ่าย HR เพิ่ม

มาทดสอบความรู้ใหม่ทีคุณเพื่งเรียนมากัน เติมสำนวนลงไปในประโยคด้านล่างนี้ให้ถูกต้อง!

A) I can’t afford this purse! It _______. I won’t be able to pay my rent!

B) His birthday was supposed to be a surprise! I can’t believe you _____. Now he knows!

C) Ha! John has been promising to paint the house for five years…. Maybe when _______.

D) Yeah, it’ll _______. I need to sign some papers at Jenny’s school anyway so i’ll pick her up for you too.

E) I don’t really like going out to bars anymore. I only go _______.

F) I’m sorry I can’t come into work today. I’m ________. I have a sore throat and runny nose.

G) They tried ________ when installing the pipes for the house and now we have leaks only one month after purchasing it!

H) We missed our flight to Paris because the connecting flight was late and to ______ they made us pay for a new ticket as if it was our fault!

I) I can’t wait to see you perform on stage tonight! ______!

J) Jane is just never on time to work, it’s really annoying. O wow, ______ here she comes…

K) So we’re going to London, then Munich, then we will fly out of Athens, right? Great. I’m so glad to be traveling with someone I _______ with.

L) Wow, she found her dream man and has now landed an amazing job. She really does have ______.

M) OK, she might not be the most attractive but _________. I’m sure she is a sweetheart.

N) I have been trying to figure this out for ages. Thanks so much, you’re right. You _______.

O) I can’t believe that was our test. I think it was easier than some of our homework! It was a ______.

เป็นยังไงบ้างคะ พอทำได้ไหม? แล้วอย่าลืมฝึกใช้สำนวนเหล่านี้เมื่อคุณพูดภาษาอังกฤษนะคะ บอกเรามาได้นะคะถ้าหากว่าคุณต้องการทราบเกี่ยวกับสำนวนภาษาอังกฤษต่างๆถูกใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยการฝากคอมเม้นท์ด้านล่างค่ะ

เฉลย: 6, 8, 5, 10, 4, 9, 11, 12, 14, 2, 3, 1, 13, 15, 7

Image: comedy_nose 

[NEW] รวมศัพท์วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ พร้อมวิธีใช้ | วัน ที่ 15 ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เวลาเราเรียนภาษาใหม่ สิ่งพื้นฐานอย่างหนึ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ก็คือ การเขียนและการอ่านวันเดือนปีของภาษานั้น

ในบทความนี้ ชิววี่ได้รวบรวมคำศัพท์วัน เดือน ปี พร้อมทั้งวิธีการใช้ ให้เพื่อนๆได้เรียนรู้และเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

คำศัพท์วัน 7 วัน

วันภาษาอังกฤษตัวย่อวันอาทิตย์SundaySunวันจันทร์MondayMonวันอังคารTuesdayTueวันพุธWednesdayWedวันพฤหัสบดีThursdayThuวันศุกร์FridayFriวันเสาร์SaturdaySat

คำศัพท์เดือน 12 เดือน

เดือนที่เดือนภาษาอังกฤษตัวย่อ1มกราคมJanuaryJan2กุมภาพันธ์FebruaryFeb3มีนาคมMarchMar4เมษายนAprilApr5พฤษภาคมMayMay6มิถุนายนJuneJun7กรกฎาคมJulyJul8สิงหาคมAugustAug9กันยายนSeptemberSept10ตุลาคมOctoberOct11พฤศจิกายนNovemberNov12ธันวาคมDecemberDec

การใช้ปีในภาษาอังกฤษ

เราจะใช้ปี ค.ศ. (คริสต์ศักราช) เป็นมาตรฐานสากล
ส่วนปี พ.ศ. (พุทธศักราช) จะใช้แค่ในบางประเทศ เช่น ไทย พม่า ศรีลังกา

ด้วยเหตุนี้ เวลาเราติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือกรอกข้อมูลลงเอกสารที่เป็นสากล เราควรจะใช้ปี ค.ศ. (วิธีแปลงปี พ.ศ. ให้เป็น ค.ศ. ทำได้ด้วยการนำปี พ.ศ. มาลบ 543 เช่น ปี พ.ศ. 2563 = 2563 – 543 = ปี ค.ศ. 2020)

สำหรับวิธีอ่านปีในภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เราจะอ่านทีละสองหลัก
1961 อ่านว่า nineteen sixty-one
2019 อ่านว่า twenty nineteen

แต่สำหรับก่อนปี 2000 ปีที่เป็นเลขกลมๆ เราจะอ่านสองหลักแรกแล้วต่อด้วย hundred
1400 อ่านว่า fourteen hundred
1900 อ่านว่า nineteen hundred

ปี 2000 เราจะอ่านเหมือนเลขปกติ
2000 อ่านว่า two thousand

ถ้าเป็นปีระหว่าง 2001 – 2010 เราจะอ่านเหมือนเลขปกติเช่นกัน
2001 อ่านว่า two thousand and one
2010 อ่านว่า two thousand and ten

ปีถัดๆมาที่อยู่ใกล้กับปี 2010 เราสามารถอ่านได้ทั้ง 2 แบบ
2012 อ่านว่า two thousand and twelve
2012 อ่านว่า twenty twelve

ปีที่ลงท้ายด้วยเลข 01 – 09 เราจะอ่าน 0 ว่า oh (โอ)
1602 อ่านว่า sixteen oh two
1906 อ่านว่า nineteen oh six

การใช้วันที่ในภาษาอังกฤษ

วันที่ในภาษาอังกฤษไม่ได้อ่านว่า one, two, three, … เหมือนจำนวนเลขทั่วๆไป แต่จะใช้ first, second, third, … เหมือนการระบุลำดับ (ordinal number)

วันที่ภาษาอังกฤษ1First2Second3Third4Fourth5Fifth6Sixth7Seventh8Eighth9Ninth10Tenth11Eleventh12Twelfth13Thirteenth14Fourteenth15Fifteenth16Sixteenth17Seventeenth18Eighteenth19Nineteenth20Twentieth21Twenty-first22Twenty-second23Twenty-third24Twenty-fourth25Twenty-fifth26Twenty-sixth27Twenty-seventh28Twenty-eighth29Twenty-ninth30Thirtieth31Thirty-first

การเขียนวัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ

ถ้าเป็น American
English
เราจะใช้ month-day-year โดยใช้คอมม่าคั่นระหว่างวันที่และปี เช่น

Ann was born on April 21, 2003.
(อ่านว่า April twenty-first, two thousand and three)

Ann was born on Monday, April 21, 2003.
(อ่านว่า Monday, April twenty-first, two thousand and three)

Ann’s birthday is April 21.
(อ่านว่า April twenty-first)

เวลาเขียนวันที่ใน American English เราจะไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่มักจะอ่านเหมือนเขียน

ถ้าเป็น British
English
เรามักจะใช้ day-month-year เช่น

Ann was born on 21 April 2003.
(อ่านว่า the twenty-first of April two-thousand and three)

Ann was born on Monday, 21 April 2003.
(อ่านว่า Monday, the twenty-first of April two-thousand and three)

Ann’s birthday is 21 April.
(อ่านว่า the twenty-first of April)

ใน British English เมื่อก่อนจะนิยมเขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่ในระยะหลัง ความนิยมในการใช้ได้ลดลง

แม้ว่าชาว British บางคนจะยังเขียน suffix เหล่านี้ต่อท้ายตัวเลขวันที่อยู่ แต่ style guide ส่วนใหญ่ อย่างเช่น University of Oxford Style Guide, BBC News Style Guide และ The Government Digital Service Style Guide ต่างก็ระบุว่าไม่ต้องใช้แล้ว

สำหรับ British English แม้จะเขียนหรือไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ แต่เวลาอ่านเรามักจะอ่านเหมือนเขียน และเวลาอ่าน เราต้องใช้ the และ of กำกับด้วย เช่น 21 April 2003 จะอ่านว่า the twenty-first of April two thousand and three

ตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับวัน เดือน ปี

What day is it today?
วันนี้วันอะไร
(คำตอบที่ได้อาจเป็นวันในสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ วันอังคาร หรือวันพิเศษ อย่างวันสงกรานต์ วันคริสต์มาส ฯลฯ)

What is the date today?
วันนี้วันที่เท่าไหร่

When is your birthday?
วันเกิดของคุณคือวันไหน

When is Halloween day?
วันฮาโลวีนคือวันไหน

What month is it now?
เดือนนี้เดือนอะไร

Which month does your school begin?
โรงเรียนเปิดเทอมเดือนไหน

What year were you born?
คุณเกิดปีไหน

What year did you graduate from college?
คุณจบจากมหาวิทยาลัยในปีไหน

What year did you start working here?
คุณเริ่มทำงานที่นี่ในปีไหน

คำถามที่พบบ่อย

1. วันแรกของสัปดาห์คือวันอาทิตย์หรือวันจันทร์

คำตอบของคำถามนี้จะแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละประเทศ

ถ้ายึดตามหลักมาตรฐานสากล ISO
8601 วันจันทร์จะถือเป็นวันแรกของสัปดาห์
ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปและบางประเทศในเอเชียจะใช้ปฏิทินที่เริ่มด้วยวันจันทร์

แต่หลายๆประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา
ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ จะใช้วันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์

สำหรับไทย ปฏิทินที่เราใช้มักจะเริ่มด้วยวันอาทิตย์ แต่ก็มีบางคนที่ถือวันจันทร์เป็นวันแรก ขึ้นอยู่กับความเห็นและความเคยชินของแต่ละคน

2. ถ้าเราเห็นตัวเลขวันที่ 4/5/2020 เราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเลขนี้หมายถึง วันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020 หรือวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ควรแสดงข้อมูลวันเดือนปีเป็นตัวเลขล้วน โดยเฉพาะในระดับสากล เพราะอาจก่อให้เกิดความสับสน

ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะแสดงข้อมูลตามลำดับ
เดือน-วัน-ปี แต่ประเทศอังกฤษและประเทศอื่นส่วนใหญ่จะใช้ วัน-เดือน-ปี

วิธีหนึ่งที่อาจจะช่วยให้เราแยกได้ก็คือ ให้เราสังเกตว่าผู้เขียน หรือองค์กรของผู้เขียนมาจากชาติใด

ถ้าตัวเลขนี้มาจากองค์กรในสหรัฐอเมริกา ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020 หรือถ้ามาจากองค์กรในประเทศอังกฤษ ตัวเลขนี้ก็น่าจะหมายถึงวันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020

สำหรับประเทศไทย เรามักจะนิยมใช้ลำดับ วัน-เดือน-ปี ในการแสดงข้อมูลวันที่

จบแล้วสำหรับการใช้วันเดือนปีในภาษาอังกฤษ ชิววี่หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆสื่อสารข้อมูลวันเดือนปีด้วยภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้นนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


สื่อการสอนภาษาอังกฤษ เพลง 1 ปีมี 12 เดือน by KidsOnCloud


มาเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของเดือนทั้ง 12 เดือน กันนะคะเด็กๆ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ เพลง 1 ปีมี 12 เดือน by KidsOnCloud

EP.15 | ฝึกคิดแปลไทยเป็นอังกฤษ ไม่ยากอย่างที่คิด ดูละครไทย ก็ฝึกได้! | Netflix English Room


ครบ จบทุกเรื่องภาษาอังกฤษ ดู Loukgolf’s Netflix English Room
เข้าสู่บทเรียนของการแปลไทยเป็นอังกฤษที่ทุกคนรอคอย คลาสนี้บอกเลยว่ามีประโยชน์มากกกกก เพราะหลายคนน่าจะเคยประสบปัญหากันไม่มากก็น้อย เวลาต้องแปลคำ วลีหรือประโยคไทยๆ ให้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะแปลแบบไทยไปอังกฤษเลย มันก็จะดูห้วนๆ แปลกๆ และเจ้าของภาษาอาจจะเกาหัวใส่ได้
เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติการแปลภาษาตรงกัน วันนี้พี่ลูกกอล์ฟ เลยมีตัวอย่างการแปลที่เวิร์คมากจากซีรีส์และละครไทยมาฝากกัน ให้ลองฝึกคิดแปลเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างลื่นไหล เข้าใจ ไม่มีงง มาดูกันว่า การจะแปลประโยคที่มีอรรถรสแบบไทยๆ ให้เหมาะสมในบริบทภาษาอังกฤษมากที่สุด เค้าแปลกันยังไง แปลแบบไหนได้บ้าง เตรียมสมุด ปากกาให้พร้อมแล้วมาเข้าคลาสนี้ด้วยกันเลย
ติดตามคลาสเรียนสนุกๆ ของพี่ลูกกอล์ฟได้ใน Loukgolf’s Netflix English Room
ทุกวันอาทิตย์ 17.00 น. ทาง YouTube Netflix Thailand
NetflixEnglishRoom พี่ลูกกอล์ฟ
Netflix สอนภาษาอังกฤษ

EP.15 | ฝึกคิดแปลไทยเป็นอังกฤษ ไม่ยากอย่างที่คิด ดูละครไทย ก็ฝึกได้! | Netflix English Room

Let’s Count to 20 Song For Kids


Let’s sing and count to 20 in this fun children’s song!
Song now available on Spotify! Search Dream English Kids
Original song by Matt http://www.dreamenglish.com
Support Dream English, please have a look at what we have to offer:
Join us on Facebook: http://www.facebook.com/dreamenglish

Let's Count to 20 Song For Kids

ภาษาอังกฤษ ป.3 ชั่วโมงที่ 15


ภาษาอังกฤษ ป.3 ชั่วโมงที่ 15

ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art


ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์
เกมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยวาชน
เพื่อเสริมทักษะความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
วิชาการทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และอื่นๆๆอีกมากมาย
อย่าลืมกดติดตาม Subscribe WAWA kids art กันนะค่ะ
เกม คณิตศาสตร์หรรษา ระดับประถมศึกษา (10 ข้อ) https://youtu.be/GhlHe6bjBCQ
เกม หาภาพตรงกับคำสั่ง หมวดวิทยาสาสตร์ https://youtu.be/nqoTcc0QV4
เกม ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดสัตว์ https://youtu.be/xcT9ntfaVk
วาดการ์ตูนปลาโลมา, เรือ, ผีเสือ, เห็ด | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สนุกกับการเรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/7_bjSKieC7c
วาดการ์ตูน ผีเสื้อ, ดอกไม้, บอลลูน, อ่างอาบน้ำ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/sfOUFKhNmwc
เกมหารูปภาพตามคำสั่ง หมวดคำราชาศัพท์ https://youtu.be/6yPm5YA2is
เกมหาอักษรที่หายไป หมวดภาษาอังกฤษ https://youtu.be/If5UsAS9ZYQ
เรียนรู้ผลไม้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เล่นไข่เซอร์ไพรส์และลุ้นถ้วยไอศครีม | wawa kids art https://youtu.be/m0b4bpQLBfY
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เกม ทายคำศัพท์ยานพาหนะ หมวดภาษาอังกฤษhttps://youtu.be/dc4ApC1qn_w
เกม หาสุภาษิตไทยจากรูปภาพ เรียนรู้ความหมายของสุภาพษิตไทย https://youtu.be/JhqtK1qae_s

ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ วัน ที่ 15 ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *