ประโยค อดีต ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
Table of Contents
English Tense
Tense คือรูปแบบ (หรือโครงสร้าง) ของกริยา ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใดซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก เราก็จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense เสมอ ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense จึงเป็นเรื่องจำเป็น
Tense ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น 3 tense ใหญ่ๆ คือ
1. Present tense ปัจจุบัน
2. Past tense อดีตกาล
3. Future tense อนาคตกาล
ในแต่ละ tense ยังแยกย่อยได้ tense ละ 4 คือ
1 . Simple tense ธรรมดา (ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน)
2. Continuous tense กำลังกระทำอยู่ (กำลังเกิดอยู่)
3. Perfect tense สมบูรณ์ (ทำเรียบร้อยแล้ว)
4. Perfect continuous tense สมบูรณ์กำลังกระทำ (ทำเรียบร้อยแล้วและกำลังดำเนินอยู่ด้วย)
โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12 ได้แก่
Present Tense
[Present]
[1.1] S + Verb 1 + ……(บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน)
[1.2] S + is, am, are + Verb 1 ing + …(บอกว่าเดี๋ยวนี้กำลังเกิดอะไรอยู่)
[1.3] S + has, have + Verb 3 + ….(บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึงปัจจุบัน)
[1.4] S + has, have + been + Verb 1 ing + …(บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำต่อไปอีก)
Past Tense
[Past]
[2.1] S + Verb 2 + …..(บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต)
[2.2] S + was, were + Verb 1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)
[2.2] S + was, were + Verb 1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)
2.3] S + had + verb 3 + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)
[2.4] S + had + been + verb 1 ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)
Future Tense
[Future]
[3.1] S + will, shall + verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต)
[3.2] S + will, shall + be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่)
[3.3] S + will,shall + have + Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)
[3.4] S + will,shall + have + been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)
หลักการใช้แต่ละ Tense มีดังนี้
[2.4] S + had + been + verb 1 ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)[3.1] S + will, shall + verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) [3.2] S + will, shall + be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่) [3.3] S + will,shall + have + Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) [3.4] S + will,shall + have + been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)
[1.1] Present simple tense เช่น He walks เขาเดิน
1. ใช้กับ เหตุการที่เกิดขึ้นตามความจริงของธรรมชาติ และคำสุภาษิตคำ พังเพย
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในขณะที่พูด (ก่อนหรือหลังจะไม่จริงก็ตาม)
3. ใช้กับกริยาที่ทำนานไม่ได้ เช่น รัก, เข้าใจ, รู้ เป็นต้น
4. ใช้กับการกระทำที่คิดว่าจะเกหิดขึ้นในอนาคตอันใกล้(จะมีคำวิเศษณ์บอกอนาคตร่วมด้วย)
5. ใช้ในการเล่าสรุปเรื่องต่างๆในอดีต เช่นนิยาย นิทาน
6. ใช้ในประโยคเงื่อนไขในอนาคต ที่ต้นประโยคจะขึ้นต้น ด้วยคำว่า If (ถ้า), unless (เว้นเสียแต่ว่า), as soon as (เมื่อ,ขณะที่), till (จนกระทั่ง) , whenever (เมื่อไรก็ ตาม), while (ขณะที่) เป็นต้น
7. ใช้กับเรื่องที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ และมีคำวิเศษณ์บอกเวลาที่สม่ำเสมอร่วมอยู่ด้วย เช่น always (เสมอๆ), often (บ่อยๆ), every day (ทุกๆวัน) เป็นต้น
8. ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [1.1] ประโยคตามต้องใช้ [1.1] ด้วยเสมอ
[1.2] Present continuous tense เช่น He is walking เขากำลังเดิน
1. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด(ใช้ now ร่วมด้วยก็ได้ โดยใส่ไว้ต้น ประโยค, หลังกริยา หรือสุดประโยคก็ ได้)
2. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในระยะเวลาอันยาวนาน เช่น ในวันนี้ ,ในปีนี้
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น เร็วๆนี้, พรุ่งนี้
*หมายเหตุ กริยาที่ทำนานไม่ได้ เช่น รัก ,เข้าใจ, รู้, ชอบ จะนำมาแต่งใน Tense นี้ไม่ได้
[1.3] Present perfect tense เช่น He has walk เขาได้เดินแล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน และจะมีคำว่า Since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา) มาใช้ร่วมด้วยเสมอ
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีต (จะกี่ครั้งก็ได้ หรือจะทำอีกใน ปัจจุบัน หรือจะทำในอนาคต ก็ได้)และจะมีคำ ว่า ever (เคย) , never (ไม่เคย) มาใช้ร่วมด้วย
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้วแต่ผู้พูดยังประทับใจอยู่ (ถ้าไม่ประทับใจก็ใช้ Tense
4. ใช้กับ เหตุการที่เพิ่งจบไปแล้วไม่นาน(ไม่ได้ประทับใจอยู่) ซึ่งจะมีคำเหล่านี้มาใช้ร่วมด้วยเสมอ คือ Just (เพิ่งจะ), already (เรียบร้อยแล้ว), yet (ยัง), finally (ในที่สุด) เป็นต้น
[1.4] Present perfect continuous tense เช่น He has been walking เขาได้กำลังเดินแล้ว
* มีหลักการใช้เหมือน [1.3] ทุกประการ เพียงแต่ว่าเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่ง [1.3] นั้นไม่เน้นว่าได้กระทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ส่วน [1.4] นี้เน้นว่ากระทำมาอย่างต่อเนื่องและจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย.
[2.1] Past simple tense เช่น He walked เขาเดิน แล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต มิได้ต่อเนื่องมาถึงขณะ ที่พูด และมักมีคำต่อไปนี้มาร่วมด้วยเสมอในประโยค เช่น Yesterday, year เป็นต้น
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนั้นๆ ซึ่งต้องมีคำวิเศษณ์บอกความถี่ (เช่น Always, every day ) กับคำวิเศษณ์ บอกเวลา (เช่น yesterday, last month ) 2 อย่างมาร่วมอยู่ด้วยเสมอ
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แต่ปัจจุบันไม่ได้เกิด อยู่ หรือไม่ได้เป็นดั่งในอดีตนั้นแล้ว ซึ่งจะมีคำว่า ago นี้ร่วมอยู่ด้วย
4. ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [2.1] ประโยคคล้อยตามก็ต้อง เป็น [2.1] ด้วย
[2.2] Past continuous tense เช่น He was walking เขากำลังเดินแล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน { 2.2 นี้ไม่นิยมใช้ตามลำพัง – ถ้าเกิดก่อนใช้ 2.2 – ถ้าเกิดทีหลังใช้ 2.1}
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ ไดกระทำติดต่อกันตลอดเวลาที่ได้ระบุไว้ในประโยค ซึ่งจะมีคำบอกเวลาร่วมอยู่ด้วยในประโยค เช่น all day yesterday etc.
3. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่กำลังทำในเวลาเดียวกัน(ใช้เฉพาะกริยาที่ทำได้นานเท่านั้น หากเป็นกริยาที่ทำนานไม่ได้ก็ใช้หลักข้อ 1 ) ถ้าแต่งด้วย 2.1 กับ 2.2 จะดูจืดชืดเช่น He was cleaning the house while I was cooking breakfast.
[2.3] Past perfect tense เช่น He had walk เขาได้เดินแล้ว
1. ใช้กับ เหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต มีหลักการใช้ดังนี้
เกิดก่อนใช้ 2.3 เกิดทีหลังใช้ 2.1
2. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกครั้ง เช่น She had breakfast at eight o’ clock yesterday.
[2.4] past perfect continuous tense เช่น He had been walking
มีหลักการใช้เหมือนกับ 2.3 ทุกกรณี เพียงแต่ tense นี้ ต้องการย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่ 1 ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่ 2 โดยมิได้หยุด เช่น When we arrive at the meeting , the lecturer had been speaking for an hour . เมื่อพวกเราไปถึงที่ ประชุม ผู้บรรยายได้พูดมาแล้ว เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
[3.1] Future simple tense เช่น He will walk เขาจะเดิน
ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีคำว่า tomorrow, to night, next week, next month เป็นต้น มาร่วมอยู่ด้วย.
- Shall ใช้กับ I we
Will ใช้กับบุรุษที่ 2 และนามทั่วๆไป
Will, shall จะใช้สลับกันในกรณีที่จะให้คำมั่นสัญญา, ข่มขู่บังคับ, ตกลงใจแน่วแน่
Will, shall ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือจงใจก็ได้
Be going to (จะ) ใช้กับความจงใจของมนุษย์ เท่านั้น ห้ามใช้กับเหตุการณ์ของธรรมชาติและนิยมใช้ใน ประโยคเงื่อนไข
[3.2] Future continuous tense เช่น He will be walking เขากำลังจะเดิน
1. ใช้ในการบอกกล่าวว่าในอนาคตนั้นกำลังทำอะไรอยู่ (ต้องกำหนดเวลาแน่นอน ด้วยเสมอ)
2. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีกลักการใช้ดังนี้
– เกิดก่อนใช้ 3.2 S + will be, shall be + Verb 1 ing
– เกิดทีหลังใช้ 1.1 S + Verb 1
[3.3] Future prefect tens เช่น He will have walked เขาจะได้เดินแล้ว
- ใช้กับเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นหรือสำเร็จลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต โดยจะมีคำว่า by นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลา ด้วย เช่น by tomorrow , by next week เป็นต้น
2.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีหลักดังนี้
- เกิดก่อนใช้ 3.3 S + will, shall + have + Verb 3
- เกิด ที่หลังใช้ 1.1 S + Verb 1
[3.4] Future prefect continuous tense เช่น He will have been walking เขาจะได้กำลังเดินแล้ว
ใช้เหมือน 3.3 ต่างกันเพียงแต่ว่า 3.4 นี้เน้นถึงการกระทำที่ 1 ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่ 2 และจะกระทำต่อไปในอนาคต อีกด้วย Tense นี้ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อย นัก โดยเฉพาะกริยาที่ทำนาน ไม่ได้ อย่านำมาแต่งใน Tense นี้เด็ดขาด
ที่มา:
marujo2524.igetweb.com
Like this:
Like
Loading…
Related
[Update] คำคม ข้อคิดดีๆ คติประจําใจ – ประโยคภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล | ประโยค อดีต ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES
คติประจําใจภาษาอังกฤษ รวบรวมคำคมภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล มาฝาก สำหรับคนที่ชอบอ่าน คติสอนใจ และอยากหาความรู้เกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษนะคะ
คำคม ข้อคิดดีๆ คติประจําใจ
– The past cannot be changed, forgotten, edited or erased; it can only be ACCEPTED.
อดีตไม่อาจเปลี่ยน ลืม แก้ไข หรือลบทิ้งได้ ทำได้เพียง “ยอมรับ”
– The future depends on what we do in the present.
อนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
– Pretty words are not always true and true words are not always pretty.
คำพูดที่สวยงามไม่ได้จริงเสมอไป และการพูดความจริงก็ไม่ได้สวยงามเสมอไปเช่นกัน
– You only live once, but if you “do it right”, “once is enough”.
คุณใช้ชีวิตได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าใช้อย่างถูกต้อง ครั้งเดียวก็เพียงพอ
– If you don”t fight for what you want, don”t cry for what you lost.
ถ้าคุณไม่สู้เพื่อสิ่งที่คุณต้องการ ก็อย่าร้องไห้เวลาที่เสียมันไป
– When nothing is sure, everything is possible.
ในเมื่อไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกๆ สิ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
– Sometimes it”s very hard to move on, but once you move on, you”ll realize it was the best decision you”ve ever made.
บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะก้าวเดินต่อไป แต่ถ้าเริ่มก้าวเมื่อใด คุณจะพบว่า มันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด
– Pretty words are not always true and true words are not always pretty.
คำพูดที่สวยงามไม่ได้จริงเสมอไป และการพูดความจริงก็ไม่ได้สวยงามเสมอไปเช่นกัน
– When you really pay attention, everything is your teacher.
เมื่อคุณใส่ใจจริงๆ ทุกสิ่งก็คือครูของคุณ
– A good plan today is better than a perfect plan tomorrow.
แผนที่ดีของวันนี้ ย่อมดีกว่าแผนที่สมบูรณ์แบบของวันหน้า
– Every story has an end but in life every end is a new beginning.
เรื่องราวทุกเรื่องนั้นมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ในทุกๆ ตอนจบคือการเริ่มต้นครั้งใหม่
– You only live once, but if you “do it right”, “once is enough”.
คุณใช้ชีวิตได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าใช้อย่างถูกต้อง ครั้งเดียวก็เพียงพอ
– Do it now. Sometimes “later” becomes “never”.
จงทำซะตอนนี้ บางครั้งคำว่า “ไว้ทีหลัง” จะกลายเป็นคำว่า “ไม่มีวัน”
– When nothing is sure, everything is possible.
ในเมื่อไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกๆ สิ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
– Silence speaks when words can”t.
ความเงียบงันเกิดขึ้น ในยามเอ่ยคำใดไม่ได้
– If you don”t fight for what you want, don”t cry for what you lost.
ถ้าคุณไม่สู้เพื่อสิ่งที่คุณต้องการ ก็อย่าร้องไห้เวลาที่เสียมันไป
– When you really pay attention, everything is your teacher.
เมื่อคุณใส่ใจจริงๆ ทุกสิ่งก็คือครูของคุณ
– We don”t grow when things are easy, we grow when we face challenges.
เราไม่ได้เติบโตขึ้นหากทุกสิ่งที่เจอนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เราจะเติบโตขึ้นเมื่อเราเผชิญหน้ากับความท้าทาย
– Somtimes you need to fall before you can fly.
บางครั้งคุณจำเป็นต้องล้มก่อนที่จะลุก
– Pretty words are not always true and true words are not always pretty.
คำพูดที่สวยงามไม่ได้จริงเสมอไป และการพูดความจริงก็ไม่ได้สวยงามเสมอไปเช่นกัน
– Every story has an end but in life every end is a new beginning.
เรื่องราวทุกเรื่องนั้นมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ในทุกๆ ตอนจบคือการเริ่มต้นครั้งใหม่
– The future depends on what we do in the present.
อนาคต ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
When nothing is sure, everything is possible.
ในเมื่อไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
– If you don”t fight for what you want, don”t cry for what you lost.
ถ้าคุณไม่สู้เพื่อสิ่งที่คุณต้องการ ก็อย่าร้องไห้เวลาที่เสียมันไป
– Our life is what our thoughts make it.
ความคิดสร้างชีวิต
– The hunger for love is much more difficult to remove than the hunger for bread.
การโหยหาในรักขจัดยากยิ่งกว่าความหิวโหยอาหาร
– A good plan today is better than a perfect plan tomorrow.
แผนที่ดีของวันนี้ ย่อมดีกว่าแผนที่สมบูรณ์แบบของวันหน้า
– It is by chance that we met, by choice that we became friends.
เป็นความบังเอิญที่เรามาพบกัน แต่เราเลือกเองที่จะเป็นเพื่อนกัน
– The only real failure in life is the failure to try.
ความล้มเหลวที่แท้จริงเพียงสิ่งเดียวในชีวิต คือล้มเหลวในความพยายาม
– Everything has beauty, but not everyone sees it.
ทุกสิ่งมีความสวยงาม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มองเห็น
– Where there is love there is life. ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีชีวิต
– Never tell your problems to anyone…20% don’t care and the other 80% are glad you have them.
อย่าบอกปัญหาของคุณกับใคร เพราะ 20% ไม่สน ส่วนอีก 80% สมน้ำหน้า
– Anyone who trades liberty for security deserves neither liberty nor security.
ใครก็ตามที่แลกเสรีภาพกับความปลอดภัย จะไม่ได้รับทั้งเสรี ภาพและความปลอดภัย
บทความที่เกี่ยวข้อง
50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)
ภาษาอังกฤษกับเคลี่ คอร์สภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: ภาษาอังกฤษกับเคลี่ @englishwithkaylee นักเรียนติดตามเพจ 1.2 ล้านคน
INSTAGRAM: KAYLEE WONDER DMD @drkayleewonder
บริจาคที่ www.paypal.me/kayleewonder ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ
ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัสค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีนักเรียนมาเรียนด้วยเยอะแบบนี้ อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงเป๊ะค่ะ ตอนนี้ก็สอนเป็นงานอดิเรกค่ะ เท่าที่มีเวลาว่าง สอนฟรี และไม่มีคอร์สสอนนะคะ แค่ทำงานเป็นหมอฟันครูก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ เรียนฟรีๆก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเงิน ความรู้หาฟรีได้เยอะแยะไป ถ้ามีโอกาสก็อาจจะเปิดคอร์ส แต่ก็คงอีกนานค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันนะคะ
เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
English Corner 08 | ประโยคเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต Past Tense Part 1 of 2
T.Jeckie \u0026 T.Brent จะอธิบายรูปประโยคของ Past Tense ซึ่งเป็นประโยคเล่าถึงเหตุการณ์ ในอดีต โดยแบ่งเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 กล่าวถึงการผันคำกริยา มาสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษกันนะครับ
ประโยคปฏิเสธ ใน past simple tense l การใช้ tense ภาษาอังกฤษ l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
คลิปนี้ปาป๊าอี๊ดจะมาแนะนำวิธีเปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธใน past simple tense น่ะครับ จะมีหลักการอย่างไร ไปติดตามรับชมกันครับ
สนใจเรียนแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานกับเราฟรี กดติดตามเราได้ที่
Youtube:https://goo.gl/Svd65u
Twitter:http://bit.ly/2Yt2lqH
Blog:https://goo.gl/JthDFX
Facebook:http://bit.ly/2CIaLBa
pastsimpletense ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ แกรมม่าภาษาอังกฤษ ประโยคปฏิเสธ
EP 14 : English Wisdom – Past Tense ประโยคบอกเล่าในรูปอดีต
Past Tense ประโยคบอกเล่าในรูปอดีต
English Wisdom รอบรู้ รู้รอบ ภาษาอังกฤษ
เพลงอังกฤษในtiktok2021! เพลงสากลในแอพtiktok! เพลง tik tok อังกฤษ 2021
รวมเพลงสากลจากTikTok2021! เพลงสากลอังกฤษในแอพtiktok TikTok Song 2021
รวมเพลงสากลจากTikTok2021! เพลงสากลอังกฤษในแอพtiktok TikTok Song 2021
SP ME : paypal.me/phunchuot
Image : https://www.pinterest.com/
Email : [email protected]
https://youtu.be/HilQnz8wTIA
0:00 At My Worst
3:02 Memories
6:11 Paris
8:31 2002
11:41 As long as you love me
15:11 Lighters
18:45 Friends
22:15 Work
25:39 Mood
28:07 Blinding lights
31:20 Savage love
34:09 Save your tears
37:50 Wolves
40:42 Symphony
43:10 Position
45:16 Therefore I am
47:16 Love scenario
50:45 Drivers lighters
54:21 Right now na na
57:07 Play D ate
1:00:05 Anyone
1:02:54 Afterglow
1:06:01 Don’t start now
1:09:00 Stuck with u
✔Thanks for watching! Have a nice day!
✔Don’t forget LIKE SHARE COMMENT
⚠ If there are any copyright issues please contact us via email. We will adjust it according to the author’s request.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ประโยค อดีต ภาษา อังกฤษ