[Update] 10 วิธีจบปัญหา เวลาทะเลาะกับแฟน | วิธีเอาใจแฟน – NATAVIGUIDES

ต่อให้รักกันแค่ไหน ก็ต้องมีบางช่วงอารมณ์ที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่หากปล่อยให้อารมณ์โกรธมีอิทธิพลมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้จนถึงขั้นเลิกกัน ทั้งที่บางทีมันเริ่มมาจากเรื่องเล็กแท้ๆ ดังนั้นเรามาดู 10 วิธีจบปัญหาเวลาทะเลาะกับแฟนกันดีกว่า จะได้จบปัญหาแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่เสียใจทีหลังกันนะคะ

ถอยหลัง 1 ก้าว

การพักเบรคยามถกเถียงกันรุนแรงนั้นช่วยได้เสมอ เพราะมันทำให้เราใจเย็น และรับมือด้วยวิธีแตกต่างออกไปได้ ลองใช้เวลา 30-60 วินาทีคิดถึงเรื่องดีๆ ของคุณสองคน จนแน่ใจว่าสามารถคุมอารมณ์และน้ำเสียงได้แล้ว จึงค่อยคุยกันอีกครั้งดีกว่า

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ปกติแล้วเรามักจะเริ่มจาก “ทำไมคุณถึงไม่….” ลองเปลี่ยนมาเป็น “ฉันเข้าใจนะว่าทำไมคุณถึง…” คุณอาจจะยุติความขัดแย้งได้เร็วขึ้น เพราะการเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้เห็นอะไรรอบด้านขึ้นว่าทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลจำเป็นเหมือนกัน

มีอารมณ์ขันให้กัน

เวลาที่เถียงกันเล็กๆ น้อยๆ เสียงหัวเราะนั้นดับอารมณ์โกรธได้ดีทีเดียว แต่ควรระวังอย่าใช้มุกที่เหน็บแนมหรือเห็นเขาเป็นตัวโจ๊กล่ะ เพราะจะทำให้เขายิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ควรเป็นมุกทั่วๆ ไป หรือมุกขอคืนดีแบบน่ารักจะดีกว่าเยอะ

รับผิดชอบผลที่ตามมาบ้าง

บางครั้งการทะเลาะก็มาจากตัวเราเองที่เริ่มก่อน จึงต้องยอมรับความผิดส่วนหนึ่งว่าเราคือสาเหตุแทนที่จะโทษอีกฝ่าย 100% เพื่อเป็นการลดเกราะป้องกันตัวเองลงบ้าง และเขาเองก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

อย่าหยิบเรื่องที่จบไปแล้วมาพูดอีก

ข้อนี้ทำคนเลิกกันมาเยอะแล้ว การหยิบเรื่องเก่าที่จบไปแล้วมาพูดใหม่ซ้ำๆ คือสิ่งที่ผู้ชายเกลียดมาก ดังนั้นเราควรโฟกัสที่ปัจจุบัน และความสุขในวันข้างหน้า แทนที่จะเถียงกันเรื่องเก่า ลองหาหนังดีๆ แล้วนั่งกอดนัวเนียดูด้วยกันจะเวิร์คกว่าเยอะเลยนะ

สัมผัสกันและกัน

บางครั้งภาษากายก็สื่อได้ตรงจุดมากกว่าภาษาพูด การกอดหรือจับมือกันคือสิ่งย้ำเตือนว่า คุณแคร์กันมากแค่ไหน และจะไม่อยากทำลายมันลงด้วยการทะเลาะกัน

หยุดพูดคำว่า “แต่…”

การปิดท้ายประโยคด้วยคำว่า “แต่” มันคือการบอกเป็นนัยๆ ว่าความคิดคุณเท่านั้นที่ดีที่สุด หากปรับความเข้าใจกันแล้วก็ยังมี “แต่” มาจุดประเด็นใหม่ไม่รู้จบ แล้วจะเลิกทะเลาะกันได้ยังไงล่ะจริงไหม

เปลี่ยนน้ำเสียง

หากทะเลาะกันจริงจัง ควรควบคุมน้ำเสียงให้เบาลง และใช้โทนเสียงที่เหมาะสมเพื่อสื่อว่าคุณไม่อยากเถียงกับเขา พยายามอย่าขึ้นเสียง ทำเสียงแบ๊ว หรือเล่นตลกผิดเวลา เพราะมันจะทำให้บรรยากาศยิ่งมาคุหนักกว่าเดิมได้

ไม่รีบร้อนหาข้อสรุป

การเข้านอนทั้งที่ยังโกรธกันอาจดูแย่ แต่ที่แย่สุดคือ พยายามหาข้อสรุปปัญหาทั้งที่ยังโมโหจัด หากอารมณ์ยังร้อนอยู่ การนอนหลับสักตื่นให้เย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยกันอาจจะดีกว่าเยอะ

มองในภาพรวม

แทนที่จะมองแต่ปัญหาตรงหน้าว่าใครจะชนะ ลองมองในมุมกว้างว่า ชนะแล้วได้อะไร จะกระทบใครบ้าง และคุ้มไหมกับสิ่งดีๆ ที่เรามีร่วมกันมา มันจะทำให้เรื่องตรงหน้าดูเล็กลงไปถนัดตาเลยทีเดียว

อ่านแล้วลองนำไใช้กันดูนะคะ เวลาโกรธกันอะไรๆ ก็ดูหนักหนาใหญ่โตไปหมดจนยากจะยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย แต่หากมี “รัก” เป็นพื้นฐานล่ะก็ ทุกอย่างก็ดูง่ายและเบาขึ้นแน่นอนค่ะ

ติดตาม women.truelife.com ได้ที่

We are women’s best friend.

ต่อให้รักกันแค่ไหน ก็ต้องมีบางช่วงอารมณ์ที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่หากปล่อยให้อารมณ์โกรธมีอิทธิพลมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้จนถึงขั้นเลิกกัน ทั้งที่บางทีมันเริ่มมาจากเรื่องเล็กแท้ๆ ดังนั้นเรามาดู 10 วิธีจบปัญหาเวลาทะเลาะกับแฟนกันดีกว่า จะได้จบปัญหาแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่เสียใจทีหลังกันนะคะ

ถอยหลัง 1 ก้าว

การพักเบรคยามถกเถียงกันรุนแรงนั้นช่วยได้เสมอ เพราะมันทำให้เราใจเย็น และรับมือด้วยวิธีแตกต่างออกไปได้ ลองใช้เวลา 30-60 วินาทีคิดถึงเรื่องดีๆ ของคุณสองคน จนแน่ใจว่าสามารถคุมอารมณ์และน้ำเสียงได้แล้ว จึงค่อยคุยกันอีกครั้งดีกว่า

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ปกติแล้วเรามักจะเริ่มจาก “ทำไมคุณถึงไม่….” ลองเปลี่ยนมาเป็น “ฉันเข้าใจนะว่าทำไมคุณถึง…” คุณอาจจะยุติความขัดแย้งได้เร็วขึ้น เพราะการเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้เห็นอะไรรอบด้านขึ้นว่าทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลจำเป็นเหมือนกัน

มีอารมณ์ขันให้กัน

เวลาที่เถียงกันเล็กๆ น้อยๆ เสียงหัวเราะนั้นดับอารมณ์โกรธได้ดีทีเดียว แต่ควรระวังอย่าใช้มุกที่เหน็บแนมหรือเห็นเขาเป็นตัวโจ๊กล่ะ เพราะจะทำให้เขายิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ควรเป็นมุกทั่วๆ ไป หรือมุกขอคืนดีแบบน่ารักจะดีกว่าเยอะ

รับผิดชอบผลที่ตามมาบ้าง

บางครั้งการทะเลาะก็มาจากตัวเราเองที่เริ่มก่อน จึงต้องยอมรับความผิดส่วนหนึ่งว่าเราคือสาเหตุแทนที่จะโทษอีกฝ่าย 100% เพื่อเป็นการลดเกราะป้องกันตัวเองลงบ้าง และเขาเองก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

อย่าหยิบเรื่องที่จบไปแล้วมาพูดอีก

ข้อนี้ทำคนเลิกกันมาเยอะแล้ว การหยิบเรื่องเก่าที่จบไปแล้วมาพูดใหม่ซ้ำๆ คือสิ่งที่ผู้ชายเกลียดมาก ดังนั้นเราควรโฟกัสที่ปัจจุบัน และความสุขในวันข้างหน้า แทนที่จะเถียงกันเรื่องเก่า ลองหาหนังดีๆ แล้วนั่งกอดนัวเนียดูด้วยกันจะเวิร์คกว่าเยอะเลยนะ

สัมผัสกันและกัน

บางครั้งภาษากายก็สื่อได้ตรงจุดมากกว่าภาษาพูด การกอดหรือจับมือกันคือสิ่งย้ำเตือนว่า คุณแคร์กันมากแค่ไหน และจะไม่อยากทำลายมันลงด้วยการทะเลาะกัน

หยุดพูดคำว่า “แต่…”

การปิดท้ายประโยคด้วยคำว่า “แต่” มันคือการบอกเป็นนัยๆ ว่าความคิดคุณเท่านั้นที่ดีที่สุด หากปรับความเข้าใจกันแล้วก็ยังมี “แต่” มาจุดประเด็นใหม่ไม่รู้จบ แล้วจะเลิกทะเลาะกันได้ยังไงล่ะจริงไหม

เปลี่ยนน้ำเสียง

หากทะเลาะกันจริงจัง ควรควบคุมน้ำเสียงให้เบาลง และใช้โทนเสียงที่เหมาะสมเพื่อสื่อว่าคุณไม่อยากเถียงกับเขา พยายามอย่าขึ้นเสียง ทำเสียงแบ๊ว หรือเล่นตลกผิดเวลา เพราะมันจะทำให้บรรยากาศยิ่งมาคุหนักกว่าเดิมได้

ไม่รีบร้อนหาข้อสรุป

การเข้านอนทั้งที่ยังโกรธกันอาจดูแย่ แต่ที่แย่สุดคือ พยายามหาข้อสรุปปัญหาทั้งที่ยังโมโหจัด หากอารมณ์ยังร้อนอยู่ การนอนหลับสักตื่นให้เย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยกันอาจจะดีกว่าเยอะ

มองในภาพรวม

แทนที่จะมองแต่ปัญหาตรงหน้าว่าใครจะชนะ ลองมองในมุมกว้างว่า ชนะแล้วได้อะไร จะกระทบใครบ้าง และคุ้มไหมกับสิ่งดีๆ ที่เรามีร่วมกันมา มันจะทำให้เรื่องตรงหน้าดูเล็กลงไปถนัดตาเลยทีเดียว

อ่านแล้วลองนำไใช้กันดูนะคะ เวลาโกรธกันอะไรๆ ก็ดูหนักหนาใหญ่โตไปหมดจนยากจะยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย แต่หากมี “รัก” เป็นพื้นฐานล่ะก็ ทุกอย่างก็ดูง่ายและเบาขึ้นแน่นอนค่ะ

ติดตาม women.truelife.com ได้ที่

We are women’s best friend.