พาส ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้
สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ…หลายๆคนมักจะขาดความมั่นใจพอได้ยินว่าบริษัทที่ตัวเองสมัครไปต้องสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แค่สัมภาษณ์ธรรมดาก็กังวลใจแล้ว นี่ยังเป็นภาษาอังกฤษอีก… โอยตายเลย ขืนเราไม่เตรียมพร้อมให้ดีมีหวังตกม้าตายเอาได้ง่ายๆ จริงๆแล้วการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษทั่วๆไป ย้ำว่าทั่วไปนะครับ บริษัทต้องการรู้ระดับทักษะภาษาอังกฤษของเรา ว่าสามารถใช้สื่อสารจริงได้ดีแค่ไหน
เรามาดูตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษกันเลยครับ เรื่องแนะนำตัวนี่ขอข้ามไปก่อนเพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงมีพื้นฐานอยู่แล้ว
คำถามแบบที่ 1: คุณสมบัติเฉพาะตัว (Personality)
เจอคำถามแบบนี้เข้าไปก็ต้องบรรยายถึงลักษณะเด่นของตัวเราที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทครับ อาจใช้คำคุณศัพท์หลายๆแบบเข้ามาช่วย
-
Tell me about yourself.
(ไหนลองพูดเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังซิ)
-
How would you describe your attitude towards work?
(คุณจะอธิบายทัศนคติในการทำงานของคุณอย่างไร)
-
What would you say about your personality?
(คุณมีลักษณะนิสัยอย่างไร)
-
What inspires you to work?
(อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณ)
-
I’d say I’m hardworking and honest.
(ผมเป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ครับ)
-
I am a results-oriented person.
(ดิฉันเป็นคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์)
-
I am very outgoing and have the people skills needed to get customers interested.
(ผมเป็นคนเข้าสังคมง่าย และมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำให้ลูกค้าสนใจ)
-
Challenging projects motivate me more than anything.
(โครงการที่ท้าทายเป็นตัวกระตุ้นสำหรับผมมากกว่าสิ่งอื่นใด)
ตัวอย่างคำตอบยาว
I am an idealistic person. I want a job with a company that is making money, but also one that is helping people. I want to go home knowing that my work has helped others in their job or their personal life. I have to have a job where I believe in what I am doing.
ผมเป็นคนที่มีอุดมการณ์ ต้องการทำงานในบริษัทที่สร้างรายได้ แต่ก็ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ผมอยากกลับถึงบ้านด้วยความรู้สึกว่างานของผมได้ช่วยเหลือด้านการดำเนินชีวิตหรือการทำงานของผู้อื่น ผมต้องทำงานที่ผมศรัทธาว่ากำลังทำสิ่งนั้นอยู่
คำถามแบบที่ 2: เหตุผลการสมัครงาน (Reasons for Applying)
คำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษแน่นอนต้องมีเหตุผลที่เราสมัครงานนี้ ก็บอกตามความเป็นจริงว่าเราอาจเรียนมาด้านนี้โดยตรง หรือบริษัทของเค้าโดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่นๆก็ได้
-
Why are you interested in this position?
(ทำไมคุณถึงสนใจตำแหน่งนี้)
-
Why do you think you are a good fit for this job?
(ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะสมกับงานนี้)
-
What do you know about our company?
(คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบริษัทเรา)
-
What do you hope to get out of a job?
(คุณหวังว่าจะได้อะไรจากการทำงาน)
-
This job is good fit for my background.
(งานนี้เหมาะสมกับภูมิหลังของดิฉัน)
-
With my negotiation skills, I feel I would be able to contribute a lot to the company.
(ผมรู้สึกว่าจะมีส่วนช่วยบริษัทได้มากด้วยทักษะการเจรจาต่อรอง)
-
I know this is the leading automobile company.
(ผมรู้ว่าบริษัทนี้เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์)
-
I want a job where I can contribute, and also learn.
(ดิฉันต้องการงานที่สามารถมีส่วนช่วย ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้งานไปด้วย)
ตัวอย่างคำตอบยาว
The first thing I look for in a job is the opportunity to better myself. I like jobs where I am forced to learn, and where I can get better at things over time. If a job isn’t challenging, I can’t improve my skills.
สิ่งแรกที่ผมใฝ่หาในงานคือโอกาสที่จะพัฒนาตนเองเสมอ ผมชอบงานที่บังคับให้ตนเองเรียนรู้ และที่ทำให้เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ถ้างานไม่มีความท้าทายผมก็คงไม่สามารถพัฒนาทักษะตนเองได้
คำถามแบบที่ 3: รายละเอียดการทำงาน (About the Job)
ก่อนอื่นต้องทำการบ้านมาให้ดีนะครับว่าตำแหน่งที่ไปสมัครเนี่ย เค้ามี Job description อย่างไร เราต้องทำอะไรบ้าง และเรามีคุณสมบัติเหมาะสมรึเปล่า สามารถหาข้อมูลได้ตามกระทู้ต่างๆหรือถามจากผู้รู้ ส่วนเรื่องเงินเดือนควรรอให้ผู้สัมภาษณ์เสนอมาก่อน
-
What skills do you think are needed for this position?
(คุณคิดว่าทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นต่องานตำแหน่งนี้)
-
Tell me what skills or experiences you have that would be useful for this job.
(ช่วยบอกหน่อยว่าคุณมีทักษะหรือประสบการณ์อะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับงานนี้)
-
How much do you expect to earn at this position?
(คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ในตำแหน่งนี้)
-
A solid understanding of the market is most important.
(ความเข้าใจด้านการตลาดอย่างลึกซึ้งนั้นสำคัญที่สุด)
-
I have worked in advertising before, and I have a degree in design.
(เมื่อก่อนดิฉันเคยทำงานด้านโฆษณา แล้วก็มีปริญญาด้านการออกแบบด้วย)
-
With my background and degree work, I feel something around 25,000 Baht would be acceptable.
(เมื่อดูตามประวัติและประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าจะยอมรับเงินเดือนที่ประมาณ 25,000 บาท)
คำถามแบบที่ 4: ประวัติการศึกษา (Educational Experience)
คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษนี้จะย้อนเวลาไปสมัยที่เราเรียนอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานควรเตรียมตัวด้านนี้เป็นพิเศษ
-
What classes did you take that helped prepare you for this job?
(คุณเรียนวิชาอะไรมาบ้างที่จะช่วยคุณเตรียมความพร้อมสำหรับงานนี้)
-
Why did you choose business administration as your major?
(ทำไมคุณเลือกบริหารธุรกิจเป็นวิชาเอก)
-
Which subjects did you have the most trouble with?
(คุณมีปัญหากับวิชาไหนมากที่สุด)
-
I took classes on marketing and consumer psychology that apply directly to this job.
(ผมได้เข้าเรียนด้านการตลาดและจิตวิทยาผู้บริโภค ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับงานนี้ได้โดยตรง)
-
I feel that an understanding of all aspects of a company is essential.
(ผมรู้สึกว่าการเข้าใจทุกแง่มุมของบริษัทเป็นสิ่งจำเป็น)
-
I had a bit of trouble with my English classes, but I am trying to improve.
(ผมมีปัญหาเล็กน้อยในวิชาภาษาอังกฤษ แต่ผมก็กำลังพยายามพัฒนาอยู่)
คำถามแบบที่ 5: ประสบการณ์การทำงาน (Working Experience)
ผู้สัมภาษณ์ต้องการทำความเข้าใจกับทัศนคติในการทำงานของเราและความสามารถในการแก้ปัญหา
-
What have you had the most success with in your career?
(สิ่งที่คุณประสบความสำเร็จสูงสุดในการทำงานคืออะไร)
-
How did you manage difficulties on the job?
(คุณจัดการกับอุปสรรคการทำงานอย่างไร)
-
Why did you leave your last job?
(ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ)
-
The most rewarding experience I had so far was being named Salesman of the Year.
(ประสบการณ์ที่มีค่าที่สุดของดิฉันคือได้รับรางวัลพนักงานขายยอดเยี่ยมแห่งปี)
-
I plan and arrange tasks according to priority, and dedicate my full attention to them.
(ผมวางแผนงานว่าอะไรสำคัญที่สุด อะไรควรทำก่อน-หลัง และก็มุ่งมั่นลงมือทำเต็มที่)
-
I want to further my career. I am looking for bigger challenges and new experiences.
(ผมต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ผมจึงมองหาความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ)
คำถามแบบที่ 6: ความสามารถของผู้สมัคร (Candidate’s Abilities)
นี่เป็นคำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษที่วัดความสามารถของเรา ว่าเราจะรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตนหรือไม่ เราควรบอกจุดแข็งอย่างมั่นใจแต่ถ่อมตน และบอกจุดอ่อนอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงส่วนที่ตนบกพร่อง
-
What are your strengths/ weaknesses?
(จุดแข็ง/จุดอ่อนของคุณคืออะไร)
-
Do you mind having a number of tasks to do at once?
(คุณทำงานหลายงานในเวลาเดียวกันได้ไหม)
-
What do you do in your free time?
(คุณทำอะไรในช่วงเวลาว่าง)
-
Are you involved in any community groups or work?
คุณเข้าร่วมกลุ่ม หรืองานเพื่อสังคมอะไรบ้างหรือเปล่า
-
My strong point is being able to understand a customer’s needs, but I sometimes get nervous when I have to speak in public.
(จุดแข็งที่สุดของผมคือการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า แต่บางครั้งจะตื่นเต้นเมื่อต้องพูดต่อหน้าฝูงชน)
-
I’m good at multitasking, and used to working on several projects at once.
(ดิฉันทำงานหลายงานพร้อมกันได้ดี และเคยจัดการโครงการหลายอย่างในเวลาเดียวกันมาแล้ว)
-
I like reading novels. I also go outdoors to play basketball, swimming, and sometimes badminton.
(ดิฉันชอบอ่านนวนิยาย แล้วก็ชอบไปเล่นบาสเก็ตบอล ไปว่ายน้ำ แล้วก็แบตมินตันเป็นบางครั้ง)
-
I was president of the faculty’s debate club.
(ผมเคยเป็นประธานชมรมโต้วาทีของคณะ)
คำถามแบบที่ 7: ด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Experiences)
ตรงส่วนนี้บริษัทจะดูว่าเราจะทำงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างไร และจะผลักดันให้ทีมประสบความสำเร็จหรือไม่ งานปัจจุบันเน้นทำเป็นทีมทั้งนั้นครับ
-
Tell me about your work relationship with your colleagues.
(ช่วยบอกความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานหน่อย)
-
How did you handle friction with your superiors?
(คุณจัดการความไม่ลงรอยกับหัวหน้าคุณอย่งไร)
-
What do you think is the most important thing in working with people?
(คุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับผู้อื่น)
-
I always try to be a team player and work hard to get along with people at work.
(ผมพยายามทำงานเป็นทีม และพยายามอย่างมากเพื่อทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน)
-
I did my best to compromise and explain my intentions clearly.
(ผมพยายามประนีประนอม และอธิบายความต้องการให้ชัดเจนที่สุด)
-
It is important to treat everyone with respect as much as listening to them.
(การปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การรับฟังผู้อื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน)
คำถามแบบที่ 8: แผนการในอนาคต (Future Plans)
ทางบริษัทอาจถามถึงสถานะส่วนตัว หรือครอบครัว ทั้งนี้เพราะมันมีผลต่อนโยบายของบริษัทในการโยกย้ายพนักงานไปที่อื่น
-
Where do you see yourself in five years?
(คุณหวังว่าอีก 5 ปีข้างหน้าคุณจะอยู่ตรงจุดไหน)
-
What are some things you would like to do in your life?
(คุณอยากทำอะไรบ้างในชีวิต)
-
Have you ever considered studying abroad?
(คุณเคยคิดจะไปเรียนต่อเมืองนอกไหม)
-
My sights are set on management, so I want to be a department manager in the next few years.
(ดิฉันมุ่งไปที่การบริหารจัดการ ดังนั้นจึงอยากเป็นผู้จัดการแผนกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า)
-
If I had the time, it would be nice to learn how to fly a plane.
(ถ้ามีเวลา ผมคิดว่าถ้าได้ลองเรียนขับเครื่องบินก็คงจะดี)
-
Learning in a classroom wasn’t very interesting to me, so no.
(ผมไม่เคยสนใจการเรียนในห้องเรียนมากนัก ดังนั้นจะไม่เรียนต่อครับ)
คำถามแบบที่ 9: ความสำเร็จและความล้มเหลว (Successes and Failures)
การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษแนวๆนี้ อาจยกประสบการณ์ส่วนตัวขึ้นมา ทั้งช่วงที่ทำงานอยู่หรือตอนที่เรียนอยู่
-
What has been your greatest success?
(ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร)
-
Tell me about a time when a task or project did not go well for you.
(ช่วยเล่าช่วงเวลาที่งานหรือโครงการไม่ราบรื่นให้ฟังหน่อย)
-
How do you feel about setbacks and failures?
(คุณรู้สึกอย่างไรกับความพ่ายแพ้แล้วความล้มเหลว)
-
The advertising campaign I led at my last job was a huge success.
(แคมเปญโฆษณาล่าสุดที่ผมเป็นผู้นำทีมประสบความสำเร็จอย่างมาก)
-
I was late for a teleconference one morning. The client lost trust in my company and turned to our competitor.
(เช้าวันหนึ่งผมมาประชุมทางไกลสาย ลูกค้าเสียความเชื่อมั่นในบริษัทเราและหันไปหาคู่แข่งของเราแทน)
-
Failure is not a bad thing. We learn more from our mistakes than from our success.
(ความล้มเหลวก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เราเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าขากความสำเร็จ)
คำถามแบบที่ 10: ความสามารถในการบริหารจัดการ (Management Skills)
-
How do you manage your time?
(คุณบริหารจัดการเวลาอย่างไร)
-
What do you think is the most important thing in managing projects?
(คุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับโครงการคืออะไร)
-
How would you describe your managing skills for people?
(คุณจะบรรยายทักษะการบริหารจัดการคนของคุณอย่างไร)
-
I prepare daily and weekly goals and regularly check my progress.
(ดิฉันตั้งเป้าหมายล่วงหน้าไว้ทุกวันและทุกสัปดาห์ รวมทั้งตรวจสอบความก้าวหน้าของตนเองด้วย)
-
The hands-on approach works best for me.
(การลงมือปฏิบัติเอง เหมาะกับผมที่สุด)
-
I am a strict manager, but I make sure to reward people when they perform well.
(ผมเป็นผู้จัดการที่เข้มงวด แต่ผมจะให้รางวัลกับคนที่ทำงานดีอย่างแน่นอน)
คำถามเบื้องต้นสำหรับการสอบสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษก็มีเท่านี้ครับ ถ้าเจอคำถามสัมภาษณ์งานที่ต้องอาศัยไหวพริบอย่างเช่น “ผู้ชายคนหนึ่งจอดรถของเค้าไว้ที่โรงแรม และต่อมามันก็หายไป …เกิดอะไรขึ้น?” หรือ “ช่วยดีไซน์แผนอพยพ สำหรับเมืองซานฟรานซิสโกให้หน่อย” แบบนี้ร้อยคนร้อยคำตอบครับ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่เป็นคำถามสัมภาษณ์งานของบริษัทระดับโลกอย่าง Google เชียวนะ บางทีเราอาจเจอคำถามจำพวกนี้ ถึงตอนนั้นก็ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัวแล้วล่ะนะ
Table of Contents
[Update] 10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | พาส ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES
10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ
ช่วงนี้คนเปลี่ยนงานกันเยอะนะครับ แน่นอนว่าตั้งแต่ประเทศเราเกิดกระแสเห่อ AEC มา เรียกได้ว่าบริษัท ห้างร้าน กิจการทุกที่ก็เอาแต่สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น! ถ้าใครยัง “หวั่นๆ”
กับการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
กดเซฟ Blog นี้ไว้เลยครับ หรือจะพิมพ์แปะฝาบ้านก็ได้ เพราะ Blog นี้ช่วยคุณได้ชัวร์ป๊าบบบบบ! มาเริ่มกันเลยกับคำถามแรกครับ…
– Tell me about yourself. –
– เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังหน่อย –
คำแนะนำ : คำถามนี้เปิดโอกาสให้คุณเล่าเรื่องให้ตัวเองดูดี แต่ควรเล่าอย่างมีชั้นเชิง โดยคุณอาจพูดถึงงานอดิเรกที่คุณทำที่ช่วยสะท้อนแง่มุมดีๆในตัวคุณ เช่น I enjoy going to a marathon running program. ฉันชอบลงวิ่งมาราธอน การที่คุณชอบวิ่งมาราธอนอาจหมายถึงคุณเป็นคนมีความมุ่งมั่น อดทน ชอบความท้าทาย และรักสุขภาพ!
หรือจะบอกว่า In my freetime, I like to go to a volunteering event. ในเวลาว่าง ฉันมักจะชอบไปทำงานอาสาสมัคร การที่คุณชอบทำงานอาสา แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และประสานงานกับผู้อื่นได้ดี เป็นต้น
เมื่อคุณพูดถึงแง่มุมสนุกๆในตัวคุณไปแล้ว คุณอาจกลับมาที่เรื่องงาน โดยใช้ประโยคว่า…
“In addition to those interests and passions”
ในส่วนที่นอกเหนือจากงานอดิเรกความสนใจของผมแล้ว
“my professional life is a huge part of who I am”
การทำงานก็เป็นพาร์ทที่สำคัญที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างเช่นทุกวันนี้ครับ
“I’d like to talk a bit about some of the strengths which I would bring to this job.”
ผมขอกล่าวถึงจุดแข็งของผมที่ผมสามารถนำมาใช้ในงานตำแหน่งนี้นะครับ
…จากตรงนี้คุณก็สามารถเล่าถึงจุดแข็งและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้เลยครับ
ข้อควรระวัง : อย่าพูดมากเกินไป ควรพูดให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และไม่ต้องเล่าถึงเรื่องส่วนตัว พ่อแม่พี่น้อง หรืออะไรที่ไม่ได้มีจุดเด่น และอย่าพูดถึงข้อดีเป็นสิบๆข้อ ให้เลือกข้อที่เด่นๆมาพูดจะดีกว่า ควรหลีกเลี่ยงเรื่องศาสนาและการเมืองเพื่อไม่ให้ดูเป็นคนชอบตัดสิน (A judgmental person) ครับ
– Why should we hire you? –
– ทำไมเราต้องจ้างคุณ –
คำแนะนำ : คุณอาจเจอคำถาม “Why should we hire you?” ทำไมเราต้องจ้างคุณ หรือ “What makes you the best fit for this position?” อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้ คำตอบที่ควรตอบคือการ “ขายตัวเอง” ให้กับผู้สัมภาษณ์
“จงจำไว้ว่าบริษัทจ้างคน เพื่อมาแก้ปัญหา และคุณคือคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหานั้น”
วิธีที่คุณจะตอบคำถามนั้นได้ดีที่สุด คือการทำความเข้าใจรายละเอียดของตำแหน่งที่คุณสมัคร และสกิลที่จำเป็นสำหรับงานนี้ รวมถึงเป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ของบริษัท ก่อนที่จะนำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นในตัวคุณที่ทำให้คุณเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น และอธิบายว่าคุณจะสามารถ “เอาชนะ” หรือ “แก้ไขปัญหา” ที่บริษัทมีได้อย่างไร
โดยคุณอาจใช้ประโยคว่า
“I have ……… ability to be an asset to your company.”
ดิฉันมีคุณสมบัติ……ที่จะสร้างคุณค่าให้กับบริษัทของคุณค่ะ
“Your company provides many services that I have had experience with. I believe that my familiarity with the industry would make me a good fit for this position.”
องค์กรของคุณมีการให้บริการ (หรือสินค้า) ในหลายรูปแบบที่ดิฉันเคยมีประสบการณ์การทำงานด้วยมาก่อน ดิฉันเชื่อว่าความคุ้นเคยที่ดิฉันมีกับธุรกิจในรูปแบบนี้จะทำให้ดิฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ค่ะ
หรือจะกล่าวถึงปัญหา (Pain Point / Problem) ที่บริษัทกำลังมีอยู่ เช่น…
“You have explained that you are looking for a sales executive who is able to effectively manage over a dozen employees.”
จากที่คุณได้อธิบายว่าคุณกำลังมองหาพนักงานขายที่สามารถบริหารลูกทีมหลายคนได้ (บริษัทมีปัญหาในการหาคนมาบริหารฝ่ายขาย)
“In my 15 years of experience as a sales manager, I have developed strong motivational and team-building skills.”
จากประสบการณ์ของดิฉันที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายมา 15 ปี ฉันได้เรียนรู้ทักษะการสร้างทีมและสร้างแรงจูงใจมาเป็นอย่างดีเลยค่ะ
และอาจกล่าวเพิ่มเติมถึงใบประกาศนียบัตรหรือรางวัลที่ได้รับ เช่น “I was awarded manager-of-the-year for my new managment strategies. If hired, I will bring my leadership abilities and strategies for achieving profit gains to this position.”
ดิฉันได้รับรางวัลผู้จัดการแห่งปี สำหรับกลยุทธ์การบริหารงานรูปแบบใหม่ของดิฉัน ถ้าคุณจ้างดิฉัน ดิฉันจะนำทักษะความเป็นผู้นำและกลยุทธ์ในการทำกำไรมาสู่ที่นี่เองค่ะ!
ข้อควรระวัง : ถ้าคุณถูกถามกลับกันว่า “Why shouldn’t we hire you?” ทำไมเราถึงไม่ควรจ้างคุณ คุณไม่ควรตอบกวนๆว่า “ถ้าไม่อยากได้คนเก่ง ก็ไม่ต้องจ้างสิยะ” หรือ “ถ้าคุณไม่อยากได้กำไร ก็ไม่ต้องจ้างดิฉันก็ได้” แต่ให้คุณบอกถึงคุณสมบัติกลางๆ ไม่ดีไม่ร้าย เช่น “ถ้าดิฉันเป็นคนพูดน้อย อาจจะไม่เหมาะกับบริษัทที่เฮฮาอย่างนี้ก็ได้มั้งคะ” เพราะจริงๆแล้วคุณสมบัติ “พูดน้อย” แบบนี้ไม่ได้เป็นคุณลักษณะ (Trait) ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทแต่อย่างใด
– What are your salary expectations? –
– คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ –
คำแนะนำ : คุณควรศึกษาหาความรู้ว่าสายงานของคุณโดยเฉลี่ยแล้วได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขนั้นจะทำให้คุณประเมินตนเองได้ว่าควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี แต่สิ่งสำคัญคือ “อย่ายอมรับเงินเดือนที่ต่ำกว่าที่คุณตั้งใจ เว้นเสียว่าทางบริษัทอาจชดเชยเป็นผลประโยชน์อื่นๆ” ซึ่งคุณต้องชั่งน้ำหนักเอาเองว่าคุณสามารถเอาชีวิตรอดในเงินเดือนเท่านั้นได้หรือไม่
เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องที่ต่อรองได้ คุณต้องแฟร์กับตัวเองด้วย ซึ่งคุณสามารถบอกกับผู้สัมภาษณ์ได้ด้วยประโยคตัวอย่างเหล่านี้…
“I understand that positions similar to this one pay in the range of ฿35,000 to ฿45,000. With my experience, I would like to receive something in the range of ฿40,000 to ฿42,000.”
ผมเข้าใจว่าตำแหน่งงานแบบนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ด้วยประสบการณ์ของผม ผมต้องการได้รับค่าตอบแทนที่ 40,000 – 42,000 บาทครับ
หรือ “I would like to be compensated fairly for my experience.” ผมต้องการรับค่าจ้างที่ยุติธรรมสำหรับประสบการณ์ของผมครับ
หรือ “The research I’ve done indicates that positions like this one pay ฿35,000 to ฿45,000 and something in that range would be acceptable to me as a starting salary.”
จากที่ผมทำการบ้านมา ตำแหน่งนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ดังนั้นถ้าผมได้รับเงินเดือนในช่วงดังกล่าวเป็นเงินเดือนเริ่มต้น ผมคิดว่าผมรับได้ครับ
และ “My salary requirements are flexible, but I do have significant experience in the field that I believe adds value to my candidacy.”
สามารถเจรจาได้ครับ แต่ผมมีประสบการณ์ในสายงานนี้มาอย่างดี ผมเชื่อว่าตรงนี้สามารถนำมาคิดเป็นเงินเดือนของผมได้
ข้อควรระวัง : หลายบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์มักจะพยายามกดเงินเดือนที่คุณเรียกอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าคุณต้องการตัวเลขใดให้บวกเพิ่มไป 15-20% ก่อนจะเจรจาจะดีกว่านะครับ
– What is your greatest strength? –
– จุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร –
คำแนะนำ : ก่อนสัมภาษณ์คุณควรลิสต์ข้อดี จุดแข็ง สกิล และประสบการณ์ที่คุณมีออกมาก่อน และเลือกมาสัก 3-4 อย่างที่เด่นๆ และเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัครเท่านั้น อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่มีโฟกัส เพราะมันจะลดความน่าเชื่อถือของข้อดีที่คุณเล่าไปก่อนหน้า และควรยกตัวอย่างว่าคุณได้ใช้ข้อดีเหล่านั้นทำอะไรมาบ้างในอดีต เพราะหากผู้สัมภาษณ์ถามว่า “คุณจะเอาข้อดีเหล่านั้นมาช่วยบริษัทได้อย่างไร” คุณจะได้คิดออกทันท่วงที
ตัวอย่างที่คุณอาจเอาไปใช้ได้
“I have extremely strong writing skills.” ดิฉันมีประสบการณ์ทางด้านการเขียนที่ดีมากค่ะ
แชร์
Part of speech คืออะไร ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ สรุปอย่างละเอียดเข้าใจง่าย
Part of speech เป็นแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ควรรู้ เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจและใช้คำภาษาอังกฤษได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น วันนี้เราจะมาเรียนกัน
สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
คำศัพท์ ภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้ A-Z ตอนที่ 1 ( A – H )
คำศัพท์ ภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้ AZ ตอนที่ 1 ( A H )
รวบรวม คำศัพท์ที่ควรรู้ พร้อมการสะกด และออกเสียง
หากผิดพลาดยังไง ต้องขออภัยณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
ตั้งค่าปุ่มสลับเปลี่ยนภาษา [ไทย-อังกฤษ] Windows 10 v1803
การตั้งค่าปุ่มสลับภาษา ใน Windows 10 ระหว่างภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานได้เพิ่มไว้ โดยในตัวอย่างนี้เป็น Windows 10 v1803 ที่มีการอัปเดตล่าสุด
ลิ้งค์บทความ: https://www.nongit.com/blog/changelanguagewindows10.html
Web Blog: https://www.nongit.com
ติดตาม Facebook ที่: https://fb.com/nongitcom
If You re Happy | เพลงเด็กภาษาอังกฤษ | nursury rhymes | kids song | เพลงเด็ก น้องนะโม
เพลงเด็กอนุบาลฟังเพลิน เพลงสำหรับเด็กเล็ก
เพลงเด็กยอดฮิต สำหรับเรียนรู้ และเสริมพัฒนาการ
ติดตาม ช่องเพลงเด็ก
กดตรงนี้เลย https://goo.gl/WJQrCL
Facebook : http://bit.ly/เพจเฟสบุ๊คเพลงเด็ก
เพลงยอดนิมสำหรับเด็ก เพลงอื่น ๆ
https://youtu.be/0s1rhxeaW_o
https://youtu.be/QTXzK2hlscQ
https://youtu.be/MYlMSaomiPU
ร่วมอนุรักษ์เพลงเด็กในตำนานไปด้วยกันนะคะ
สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ
สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ
คลิปนี้แยกมาจากคลิป \”Past Simple Tense ใช้ตอนไหน \u0026 แบบฝึกหัดท้ายบท\” เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ชมที่ต้องการแยกศึกษาเฉพาะหลักการใช้ในคลิปเดียวค่ะ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ พาส ภาษา อังกฤษ