Skip to content
Home » [Update] 10 คำถามฮิต พิชิตสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | พาส ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] 10 คำถามฮิต พิชิตสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | พาส ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

พาส ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ…หลายๆคนมักจะขาดความมั่นใจพอได้ยินว่าบริษัทที่ตัวเองสมัครไปต้องสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แค่สัมภาษณ์ธรรมดาก็กังวลใจแล้ว นี่ยังเป็นภาษาอังกฤษอีก… โอยตายเลย ขืนเราไม่เตรียมพร้อมให้ดีมีหวังตกม้าตายเอาได้ง่ายๆ จริงๆแล้วการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษทั่วๆไป ย้ำว่าทั่วไปนะครับ บริษัทต้องการรู้ระดับทักษะภาษาอังกฤษของเรา ว่าสามารถใช้สื่อสารจริงได้ดีแค่ไหน

เรามาดูตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษกันเลยครับ เรื่องแนะนำตัวนี่ขอข้ามไปก่อนเพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงมีพื้นฐานอยู่แล้ว

คำถามแบบที่ 1: คุณสมบัติเฉพาะตัว (Personality)

เจอคำถามแบบนี้เข้าไปก็ต้องบรรยายถึงลักษณะเด่นของตัวเราที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทครับ อาจใช้คำคุณศัพท์หลายๆแบบเข้ามาช่วย

  1. Tell me about yourself. 

    (ไหนลองพูดเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังซิ)

  2. How would you describe your attitude towards work? 

    (คุณจะอธิบายทัศนคติในการทำงานของคุณอย่างไร) 

  3. What would you say about your personality? 

    (คุณมีลักษณะนิสัยอย่างไร)

  4. What inspires you to work?

    (อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณ)

  1. I’d say I’m hardworking and honest.

    (ผมเป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ครับ)

  2. I am a results-oriented person.

    (ดิฉันเป็นคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์)

  3. I am very outgoing and have the people skills needed to get customers interested.

    (ผมเป็นคนเข้าสังคมง่าย และมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำให้ลูกค้าสนใจ)

  4. Challenging projects motivate me more than anything.

    (โครงการที่ท้าทายเป็นตัวกระตุ้นสำหรับผมมากกว่าสิ่งอื่นใด)

ตัวอย่างคำตอบยาว

I am an idealistic person. I want a job with a company that is making money, but also one that is helping people. I want to go home knowing that my work has helped others in their job or their personal life. I have to have a job where I believe in what I am doing.
ผมเป็นคนที่มีอุดมการณ์ ต้องการทำงานในบริษัทที่สร้างรายได้ แต่ก็ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ผมอยากกลับถึงบ้านด้วยความรู้สึกว่างานของผมได้ช่วยเหลือด้านการดำเนินชีวิตหรือการทำงานของผู้อื่น ผมต้องทำงานที่ผมศรัทธาว่ากำลังทำสิ่งนั้นอยู่

คำถามแบบที่ 2: เหตุผลการสมัครงาน (Reasons for Applying)

คำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษแน่นอนต้องมีเหตุผลที่เราสมัครงานนี้ ก็บอกตามความเป็นจริงว่าเราอาจเรียนมาด้านนี้โดยตรง หรือบริษัทของเค้าโดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่นๆก็ได้

  1. Why are you interested in this position?

    (ทำไมคุณถึงสนใจตำแหน่งนี้)

  2. Why do you think you are a good fit for this job?

    (ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะสมกับงานนี้)

  3. What do you know about our company?

    (คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบริษัทเรา)

  4. What do you hope to get out of a job?

    (คุณหวังว่าจะได้อะไรจากการทำงาน)

  1. This job is good fit for my background.

    (งานนี้เหมาะสมกับภูมิหลังของดิฉัน)

  2. With my negotiation skills, I feel I would be able to contribute a lot to the company.

    (ผมรู้สึกว่าจะมีส่วนช่วยบริษัทได้มากด้วยทักษะการเจรจาต่อรอง)

  3. I know this is the leading automobile company.

    (ผมรู้ว่าบริษัทนี้เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์)

  4. I want a job where I can contribute, and also learn.

    (ดิฉันต้องการงานที่สามารถมีส่วนช่วย ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้งานไปด้วย)

ตัวอย่างคำตอบยาว

The first thing I look for in a job is the opportunity to better myself. I like jobs where I am forced to learn, and where I can get better at things over time. If a job isn’t challenging, I can’t improve my skills.
สิ่งแรกที่ผมใฝ่หาในงานคือโอกาสที่จะพัฒนาตนเองเสมอ ผมชอบงานที่บังคับให้ตนเองเรียนรู้ และที่ทำให้เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ถ้างานไม่มีความท้าทายผมก็คงไม่สามารถพัฒนาทักษะตนเองได้

คำถามแบบที่ 3: รายละเอียดการทำงาน (About the Job)

ก่อนอื่นต้องทำการบ้านมาให้ดีนะครับว่าตำแหน่งที่ไปสมัครเนี่ย เค้ามี Job description อย่างไร เราต้องทำอะไรบ้าง และเรามีคุณสมบัติเหมาะสมรึเปล่า สามารถหาข้อมูลได้ตามกระทู้ต่างๆหรือถามจากผู้รู้ ส่วนเรื่องเงินเดือนควรรอให้ผู้สัมภาษณ์เสนอมาก่อน

  1. What skills do you think are needed for this position?

    (คุณคิดว่าทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นต่องานตำแหน่งนี้)

  2. Tell me what skills or experiences you have that would be useful for this job.

    (ช่วยบอกหน่อยว่าคุณมีทักษะหรือประสบการณ์อะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับงานนี้)

  3. How much do you expect to earn at this position?


    (คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ในตำแหน่งนี้)

  1. A solid understanding of the market is most important.

    (ความเข้าใจด้านการตลาดอย่างลึกซึ้งนั้นสำคัญที่สุด)

  2. I have worked in advertising before, and I have a degree in design.

    (เมื่อก่อนดิฉันเคยทำงานด้านโฆษณา แล้วก็มีปริญญาด้านการออกแบบด้วย)

  3. With my background and degree work, I feel something around 25,000 Baht would be acceptable.

    (เมื่อดูตามประวัติและประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าจะยอมรับเงินเดือนที่ประมาณ 25,000 บาท)

คำถามแบบที่ 4: ประวัติการศึกษา (Educational Experience)

คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษนี้จะย้อนเวลาไปสมัยที่เราเรียนอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานควรเตรียมตัวด้านนี้เป็นพิเศษ

  1. What classes did you take that helped prepare you for this job?


    (คุณเรียนวิชาอะไรมาบ้างที่จะช่วยคุณเตรียมความพร้อมสำหรับงานนี้)

  2. Why did you choose business administration as your major?

    (ทำไมคุณเลือกบริหารธุรกิจเป็นวิชาเอก)

  3. Which subjects did you have the most trouble with? 


    (คุณมีปัญหากับวิชาไหนมากที่สุด)

  1. I took classes on marketing and consumer psychology that apply directly to this job.

    (ผมได้เข้าเรียนด้านการตลาดและจิตวิทยาผู้บริโภค ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับงานนี้ได้โดยตรง)

  2. I feel that an understanding of all aspects of a company is essential.

    (ผมรู้สึกว่าการเข้าใจทุกแง่มุมของบริษัทเป็นสิ่งจำเป็น)

  3. I had a bit of trouble with my English classes, but I am trying to improve.


    (ผมมีปัญหาเล็กน้อยในวิชาภาษาอังกฤษ แต่ผมก็กำลังพยายามพัฒนาอยู่)

คำถามแบบที่ 5: ประสบการณ์การทำงาน (Working Experience)

ผู้สัมภาษณ์ต้องการทำความเข้าใจกับทัศนคติในการทำงานของเราและความสามารถในการแก้ปัญหา

  1. What have you had the most success with in your career?


    (สิ่งที่คุณประสบความสำเร็จสูงสุดในการทำงานคืออะไร)

  2. How did you manage difficulties on the job?

    (คุณจัดการกับอุปสรรคการทำงานอย่างไร)

  3. Why did you leave your last job?


    (ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ)

  1. The most rewarding experience I had so far was being named Salesman of the Year.


    (ประสบการณ์ที่มีค่าที่สุดของดิฉันคือได้รับรางวัลพนักงานขายยอดเยี่ยมแห่งปี)

  2. I plan and arrange tasks according to priority, and dedicate my full attention to them.

    (ผมวางแผนงานว่าอะไรสำคัญที่สุด อะไรควรทำก่อน-หลัง และก็มุ่งมั่นลงมือทำเต็มที่)

  3. I want to further my career. I am looking for bigger challenges and new experiences.

    (ผมต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ผมจึงมองหาความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ)

คำถามแบบที่ 6: ความสามารถของผู้สมัคร (Candidate’s Abilities)

นี่เป็นคำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษที่วัดความสามารถของเรา ว่าเราจะรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตนหรือไม่ เราควรบอกจุดแข็งอย่างมั่นใจแต่ถ่อมตน และบอกจุดอ่อนอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงส่วนที่ตนบกพร่อง

  1. What are your strengths/ weaknesses?


    (จุดแข็ง/จุดอ่อนของคุณคืออะไร)

  2. Do you mind having a number of tasks to do at once?

    (คุณทำงานหลายงานในเวลาเดียวกันได้ไหม)

  3. What do you do in your free time?

    (คุณทำอะไรในช่วงเวลาว่าง)

  4. Are you involved in any community groups or work?
    คุณเข้าร่วมกลุ่ม หรืองานเพื่อสังคมอะไรบ้างหรือเปล่า

  1. My strong point is being able to understand a customer’s needs, but I sometimes get nervous when I have to speak in public.


    (จุดแข็งที่สุดของผมคือการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า แต่บางครั้งจะตื่นเต้นเมื่อต้องพูดต่อหน้าฝูงชน)

  2. I’m good at multitasking, and used to working on several projects at once.

    (ดิฉันทำงานหลายงานพร้อมกันได้ดี และเคยจัดการโครงการหลายอย่างในเวลาเดียวกันมาแล้ว)

  3. I like reading novels. I also go outdoors to play basketball, swimming, and sometimes badminton.


    (ดิฉันชอบอ่านนวนิยาย แล้วก็ชอบไปเล่นบาสเก็ตบอล ไปว่ายน้ำ แล้วก็แบตมินตันเป็นบางครั้ง)

  4. I was president of the faculty’s debate club.
    (ผมเคยเป็นประธานชมรมโต้วาทีของคณะ)

คำถามแบบที่ 7: ด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Experiences)

ตรงส่วนนี้บริษัทจะดูว่าเราจะทำงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างไร และจะผลักดันให้ทีมประสบความสำเร็จหรือไม่ งานปัจจุบันเน้นทำเป็นทีมทั้งนั้นครับ 

  1. Tell me about your work relationship with your colleagues.


    (ช่วยบอกความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานหน่อย)

  2. How did you handle friction with your superiors?

    (คุณจัดการความไม่ลงรอยกับหัวหน้าคุณอย่งไร)

  3. What do you think is the most important thing in working with people?


    (คุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับผู้อื่น)

  1. I always try to be a team player and work hard to get along with people at work.


    (ผมพยายามทำงานเป็นทีม และพยายามอย่างมากเพื่อทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน)

  2. I did my best to compromise and explain my intentions clearly.

    (ผมพยายามประนีประนอม และอธิบายความต้องการให้ชัดเจนที่สุด)

  3. It is important to treat everyone with respect as much as listening to them.

    (การปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การรับฟังผู้อื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน)

คำถามแบบที่ 8: แผนการในอนาคต (Future Plans)

ทางบริษัทอาจถามถึงสถานะส่วนตัว หรือครอบครัว ทั้งนี้เพราะมันมีผลต่อนโยบายของบริษัทในการโยกย้ายพนักงานไปที่อื่น

  1. Where do you see yourself in five years?

    (คุณหวังว่าอีก 5 ปีข้างหน้าคุณจะอยู่ตรงจุดไหน)

  2. What are some things you would like to do in your life?

    (คุณอยากทำอะไรบ้างในชีวิต)

  3. Have you ever considered studying abroad?

    (คุณเคยคิดจะไปเรียนต่อเมืองนอกไหม)

  1. My sights are set on management, so I want to be a department manager in the next few years.

    (ดิฉันมุ่งไปที่การบริหารจัดการ ดังนั้นจึงอยากเป็นผู้จัดการแผนกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า)

  2. If I had the time, it would be nice to learn how to fly a plane.

    (ถ้ามีเวลา ผมคิดว่าถ้าได้ลองเรียนขับเครื่องบินก็คงจะดี)

  3. Learning in a classroom wasn’t very interesting to me, so no.

    (ผมไม่เคยสนใจการเรียนในห้องเรียนมากนัก ดังนั้นจะไม่เรียนต่อครับ)

คำถามแบบที่ 9: ความสำเร็จและความล้มเหลว (Successes and Failures)

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษแนวๆนี้ อาจยกประสบการณ์ส่วนตัวขึ้นมา ทั้งช่วงที่ทำงานอยู่หรือตอนที่เรียนอยู่

  1. What has been your greatest success?

    (ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร)

  2. Tell me about a time when a task or project did not go well for you.

    (ช่วยเล่าช่วงเวลาที่งานหรือโครงการไม่ราบรื่นให้ฟังหน่อย)

  3. How do you feel about setbacks and failures?

    (คุณรู้สึกอย่างไรกับความพ่ายแพ้แล้วความล้มเหลว)

  1. The advertising campaign I led at my last job was a huge success.

    (แคมเปญโฆษณาล่าสุดที่ผมเป็นผู้นำทีมประสบความสำเร็จอย่างมาก)

  2. I was late for a teleconference one morning. The client lost trust in my company and turned to our competitor.

    (เช้าวันหนึ่งผมมาประชุมทางไกลสาย ลูกค้าเสียความเชื่อมั่นในบริษัทเราและหันไปหาคู่แข่งของเราแทน)

  3. Failure is not a bad thing. We learn more from our mistakes than from our success.

    (ความล้มเหลวก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เราเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าขากความสำเร็จ)

คำถามแบบที่ 10: ความสามารถในการบริหารจัดการ (Management Skills)

  1. How do you manage your time?

    (คุณบริหารจัดการเวลาอย่างไร)

  2. What do you think is the most important thing in managing projects?

    (คุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับโครงการคืออะไร)

  3. How would you describe your managing skills for people?

    (คุณจะบรรยายทักษะการบริหารจัดการคนของคุณอย่างไร)

  1. I prepare daily and weekly goals and regularly check my progress.

    (ดิฉันตั้งเป้าหมายล่วงหน้าไว้ทุกวันและทุกสัปดาห์ รวมทั้งตรวจสอบความก้าวหน้าของตนเองด้วย)

  2. The hands-on approach works best for me.

    (การลงมือปฏิบัติเอง เหมาะกับผมที่สุด)

  3. I am a strict manager, but I make sure to reward people when they perform well.

    (ผมเป็นผู้จัดการที่เข้มงวด แต่ผมจะให้รางวัลกับคนที่ทำงานดีอย่างแน่นอน)

คำถามเบื้องต้นสำหรับการสอบสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษก็มีเท่านี้ครับ ถ้าเจอคำถามสัมภาษณ์งานที่ต้องอาศัยไหวพริบอย่างเช่น “ผู้ชายคนหนึ่งจอดรถของเค้าไว้ที่โรงแรม และต่อมามันก็หายไป …เกิดอะไรขึ้น?” หรือ “ช่วยดีไซน์แผนอพยพ สำหรับเมืองซานฟรานซิสโกให้หน่อย” แบบนี้ร้อยคนร้อยคำตอบครับ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่เป็นคำถามสัมภาษณ์งานของบริษัทระดับโลกอย่าง Google เชียวนะ บางทีเราอาจเจอคำถามจำพวกนี้ ถึงตอนนั้นก็ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัวแล้วล่ะนะ

Table of Contents

[Update] 10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | พาส ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ

ช่วงนี้คนเปลี่ยนงานกันเยอะนะครับ แน่นอนว่าตั้งแต่ประเทศเราเกิดกระแสเห่อ AEC มา เรียกได้ว่าบริษัท ห้างร้าน กิจการทุกที่ก็เอาแต่สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น! ถ้าใครยัง “หวั่นๆ”

กับการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ

กดเซฟ Blog นี้ไว้เลยครับ หรือจะพิมพ์แปะฝาบ้านก็ได้ เพราะ Blog นี้ช่วยคุณได้ชัวร์ป๊าบบบบบ! มาเริ่มกันเลยกับคำถามแรกครับ…

 

– Tell me about yourself. –

– เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังหน่อย –

 

คำแนะนำ : คำถามนี้เปิดโอกาสให้คุณเล่าเรื่องให้ตัวเองดูดี แต่ควรเล่าอย่างมีชั้นเชิง โดยคุณอาจพูดถึงงานอดิเรกที่คุณทำที่ช่วยสะท้อนแง่มุมดีๆในตัวคุณ เช่น I enjoy going to a marathon running program. ฉันชอบลงวิ่งมาราธอน การที่คุณชอบวิ่งมาราธอนอาจหมายถึงคุณเป็นคนมีความมุ่งมั่น อดทน ชอบความท้าทาย และรักสุขภาพ!

 

หรือจะบอกว่า In my freetime, I like to go to a volunteering event. ในเวลาว่าง ฉันมักจะชอบไปทำงานอาสาสมัคร การที่คุณชอบทำงานอาสา แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และประสานงานกับผู้อื่นได้ดี เป็นต้น

 

เมื่อคุณพูดถึงแง่มุมสนุกๆในตัวคุณไปแล้ว คุณอาจกลับมาที่เรื่องงาน โดยใช้ประโยคว่า…

 

“In addition to those interests and passions”

ในส่วนที่นอกเหนือจากงานอดิเรกความสนใจของผมแล้ว

 

“my professional life is a huge part of who I am”
การทำงานก็เป็นพาร์ทที่สำคัญที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างเช่นทุกวันนี้ครับ

 

“I’d like to talk a bit about some of the strengths which I would bring to this job.”

ผมขอกล่าวถึงจุดแข็งของผมที่ผมสามารถนำมาใช้ในงานตำแหน่งนี้นะครับ

 

…จากตรงนี้คุณก็สามารถเล่าถึงจุดแข็งและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้เลยครับ

 

ข้อควรระวัง : อย่าพูดมากเกินไป ควรพูดให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และไม่ต้องเล่าถึงเรื่องส่วนตัว พ่อแม่พี่น้อง หรืออะไรที่ไม่ได้มีจุดเด่น และอย่าพูดถึงข้อดีเป็นสิบๆข้อ ให้เลือกข้อที่เด่นๆมาพูดจะดีกว่า ควรหลีกเลี่ยงเรื่องศาสนาและการเมืองเพื่อไม่ให้ดูเป็นคนชอบตัดสิน (A judgmental person) ครับ

 

– Why should we hire you? –

– ทำไมเราต้องจ้างคุณ –

 

คำแนะนำ : คุณอาจเจอคำถาม “Why should we hire you?” ทำไมเราต้องจ้างคุณ หรือ “What makes you the best fit for this position?” อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้ คำตอบที่ควรตอบคือการ “ขายตัวเอง” ให้กับผู้สัมภาษณ์

 

“จงจำไว้ว่าบริษัทจ้างคน เพื่อมาแก้ปัญหา และคุณคือคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหานั้น”

 

วิธีที่คุณจะตอบคำถามนั้นได้ดีที่สุด คือการทำความเข้าใจรายละเอียดของตำแหน่งที่คุณสมัคร และสกิลที่จำเป็นสำหรับงานนี้ รวมถึงเป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ของบริษัท ก่อนที่จะนำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นในตัวคุณที่ทำให้คุณเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น และอธิบายว่าคุณจะสามารถ “เอาชนะ” หรือ “แก้ไขปัญหา” ที่บริษัทมีได้อย่างไร

 

โดยคุณอาจใช้ประโยคว่า

 

“I have ……… ability to be an asset to your company.”

ดิฉันมีคุณสมบัติ……ที่จะสร้างคุณค่าให้กับบริษัทของคุณค่ะ

   

“Your company provides many services that I have had experience with. I believe that my familiarity with the industry would make me a good fit for this position.”

 

องค์กรของคุณมีการให้บริการ (หรือสินค้า) ในหลายรูปแบบที่ดิฉันเคยมีประสบการณ์การทำงานด้วยมาก่อน ดิฉันเชื่อว่าความคุ้นเคยที่ดิฉันมีกับธุรกิจในรูปแบบนี้จะทำให้ดิฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ค่ะ

 

หรือจะกล่าวถึงปัญหา (Pain Point / Problem) ที่บริษัทกำลังมีอยู่ เช่น…

“You have explained that you are looking for a sales executive who is able to effectively manage over a dozen employees.”

 

จากที่คุณได้อธิบายว่าคุณกำลังมองหาพนักงานขายที่สามารถบริหารลูกทีมหลายคนได้ (บริษัทมีปัญหาในการหาคนมาบริหารฝ่ายขาย)

 

“In my 15 years of experience as a sales manager, I have developed strong motivational and team-building skills.”

 

จากประสบการณ์ของดิฉันที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายมา 15 ปี ฉันได้เรียนรู้ทักษะการสร้างทีมและสร้างแรงจูงใจมาเป็นอย่างดีเลยค่ะ

 

และอาจกล่าวเพิ่มเติมถึงใบประกาศนียบัตรหรือรางวัลที่ได้รับ เช่น “I was awarded manager-of-the-year for my new managment strategies. If hired, I will bring my leadership abilities and strategies for achieving profit gains to this position.”

 

ดิฉันได้รับรางวัลผู้จัดการแห่งปี สำหรับกลยุทธ์การบริหารงานรูปแบบใหม่ของดิฉัน ถ้าคุณจ้างดิฉัน ดิฉันจะนำทักษะความเป็นผู้นำและกลยุทธ์ในการทำกำไรมาสู่ที่นี่เองค่ะ!

 

ข้อควรระวัง : ถ้าคุณถูกถามกลับกันว่า “Why shouldn’t we hire you?” ทำไมเราถึงไม่ควรจ้างคุณ คุณไม่ควรตอบกวนๆว่า “ถ้าไม่อยากได้คนเก่ง ก็ไม่ต้องจ้างสิยะ” หรือ “ถ้าคุณไม่อยากได้กำไร ก็ไม่ต้องจ้างดิฉันก็ได้” แต่ให้คุณบอกถึงคุณสมบัติกลางๆ ไม่ดีไม่ร้าย เช่น “ถ้าดิฉันเป็นคนพูดน้อย อาจจะไม่เหมาะกับบริษัทที่เฮฮาอย่างนี้ก็ได้มั้งคะ” เพราะจริงๆแล้วคุณสมบัติ “พูดน้อย” แบบนี้ไม่ได้เป็นคุณลักษณะ (Trait) ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทแต่อย่างใด

 

– What are your salary expectations? –

– คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ –

 

คำแนะนำ : คุณควรศึกษาหาความรู้ว่าสายงานของคุณโดยเฉลี่ยแล้วได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขนั้นจะทำให้คุณประเมินตนเองได้ว่าควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี แต่สิ่งสำคัญคือ  “อย่ายอมรับเงินเดือนที่ต่ำกว่าที่คุณตั้งใจ เว้นเสียว่าทางบริษัทอาจชดเชยเป็นผลประโยชน์อื่นๆ” ซึ่งคุณต้องชั่งน้ำหนักเอาเองว่าคุณสามารถเอาชีวิตรอดในเงินเดือนเท่านั้นได้หรือไม่

 

เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องที่ต่อรองได้ คุณต้องแฟร์กับตัวเองด้วย ซึ่งคุณสามารถบอกกับผู้สัมภาษณ์ได้ด้วยประโยคตัวอย่างเหล่านี้…

 

“I understand that positions similar to this one pay in the range of ฿35,000 to ฿45,000. With my experience, I would like to receive something in the range of ฿40,000 to ฿42,000.”

 

ผมเข้าใจว่าตำแหน่งงานแบบนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ด้วยประสบการณ์ของผม ผมต้องการได้รับค่าตอบแทนที่ 40,000 – 42,000 บาทครับ

 

หรือ “I would like to be compensated fairly for my experience.” ผมต้องการรับค่าจ้างที่ยุติธรรมสำหรับประสบการณ์ของผมครับ

 

หรือ “The research I’ve done indicates that positions like this one pay ฿35,000 to ฿45,000 and something in that range would be acceptable to me as a starting salary.”

 

จากที่ผมทำการบ้านมา ตำแหน่งนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ดังนั้นถ้าผมได้รับเงินเดือนในช่วงดังกล่าวเป็นเงินเดือนเริ่มต้น ผมคิดว่าผมรับได้ครับ

 

และ “My salary requirements are flexible, but I do have significant experience in the field that I believe adds value to my candidacy.”

 

สามารถเจรจาได้ครับ แต่ผมมีประสบการณ์ในสายงานนี้มาอย่างดี ผมเชื่อว่าตรงนี้สามารถนำมาคิดเป็นเงินเดือนของผมได้

 

ข้อควรระวัง : หลายบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์มักจะพยายามกดเงินเดือนที่คุณเรียกอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าคุณต้องการตัวเลขใดให้บวกเพิ่มไป 15-20% ก่อนจะเจรจาจะดีกว่านะครับ

 

– What is your greatest strength? –

– จุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร –

 

 

คำแนะนำ : ก่อนสัมภาษณ์คุณควรลิสต์ข้อดี จุดแข็ง สกิล และประสบการณ์ที่คุณมีออกมาก่อน และเลือกมาสัก 3-4 อย่างที่เด่นๆ และเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัครเท่านั้น อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่มีโฟกัส เพราะมันจะลดความน่าเชื่อถือของข้อดีที่คุณเล่าไปก่อนหน้า และควรยกตัวอย่างว่าคุณได้ใช้ข้อดีเหล่านั้นทำอะไรมาบ้างในอดีต เพราะหากผู้สัมภาษณ์ถามว่า “คุณจะเอาข้อดีเหล่านั้นมาช่วยบริษัทได้อย่างไร” คุณจะได้คิดออกทันท่วงที

 

ตัวอย่างที่คุณอาจเอาไปใช้ได้

 

“I have extremely strong writing skills.” ดิฉันมีประสบการณ์ทางด้านการเขียนที่ดีมากค่ะ

 

แชร์


Part of speech คืออะไร ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ สรุปอย่างละเอียดเข้าใจง่าย


Part of speech เป็นแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ควรรู้ เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจและใช้คำภาษาอังกฤษได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น วันนี้เราจะมาเรียนกัน
สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Part of speech คืออะไร ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ สรุปอย่างละเอียดเข้าใจง่าย

คำศัพท์ ภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้ A-Z ตอนที่ 1 ( A – H )


คำศัพท์ ภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้ AZ ตอนที่ 1 ( A H )
รวบรวม คำศัพท์ที่ควรรู้ พร้อมการสะกด และออกเสียง
หากผิดพลาดยังไง ต้องขออภัยณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

คำศัพท์ ภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้  A-Z ตอนที่ 1 ( A - H )

ตั้งค่าปุ่มสลับเปลี่ยนภาษา [ไทย-อังกฤษ] Windows 10 v1803


การตั้งค่าปุ่มสลับภาษา ใน Windows 10 ระหว่างภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานได้เพิ่มไว้ โดยในตัวอย่างนี้เป็น Windows 10 v1803 ที่มีการอัปเดตล่าสุด
ลิ้งค์บทความ: https://www.nongit.com/blog/changelanguagewindows10.html
Web Blog: https://www.nongit.com
ติดตาม Facebook ที่: https://fb.com/nongitcom

ตั้งค่าปุ่มสลับเปลี่ยนภาษา [ไทย-อังกฤษ] Windows 10 v1803

If You re Happy | เพลงเด็กภาษาอังกฤษ | nursury rhymes | kids song | เพลงเด็ก น้องนะโม


เพลงเด็กอนุบาลฟังเพลิน เพลงสำหรับเด็กเล็ก
เพลงเด็กยอดฮิต สำหรับเรียนรู้ และเสริมพัฒนาการ

ติดตาม ช่องเพลงเด็ก
กดตรงนี้เลย https://goo.gl/WJQrCL
Facebook : http://bit.ly/เพจเฟสบุ๊คเพลงเด็ก

เพลงยอดนิมสำหรับเด็ก เพลงอื่น ๆ
https://youtu.be/0s1rhxeaW_o
https://youtu.be/QTXzK2hlscQ
https://youtu.be/MYlMSaomiPU
ร่วมอนุรักษ์เพลงเด็กในตำนานไปด้วยกันนะคะ

If You re Happy | เพลงเด็กภาษาอังกฤษ | nursury rhymes | kids song | เพลงเด็ก น้องนะโม

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ


สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ
คลิปนี้แยกมาจากคลิป \”Past Simple Tense ใช้ตอนไหน \u0026 แบบฝึกหัดท้ายบท\” เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ชมที่ต้องการแยกศึกษาเฉพาะหลักการใช้ในคลิปเดียวค่ะ

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ พาส ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *