Skip to content
Home » [Update] แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.2-Flip eBook Pages 101 – 150 | เรียน ภาษา อังกฤษ ยู ทู ป – NATAVIGUIDES

[Update] แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.2-Flip eBook Pages 101 – 150 | เรียน ภาษา อังกฤษ ยู ทู ป – NATAVIGUIDES

เรียน ภาษา อังกฤษ ยู ทู ป: คุณกำลังดูกระทู้

ครูแตะทเี่ สื้อของนกั เรยี นชายพูด: Your shirt is white. 2 ครง้ั
ครูแตะทเ่ี ส้ือของนักเรียนหญิงพดู : Your blouse is white. 2 คร้งั
ครชู ไ้ี ปทน่ี กั เรยี นหญิงทย่ี ืนไกลออกไปพูด: Her blouse is white. 2 คร้ัง
ครชู ไี้ ปที่นกั เรียนชายทีย่ ืนไกลออกไปพูด: His shirt is white. 2 คร้งั
ครเู ขยี นประโยคทัง้ 4 ประโยคบนกระดานดํา ขีดเสนใต My, Your, Her, His สนทนากับนักเรียนถึงความหมาย
ของประโยค และความหมายของ my, your, her, his (ของฉัน ของคุณ ของเขา (ผูหญิง) ของเขา (ผูชาย)) ยกตัวอยางสถานการณ
เชน เดียวกันน้ี ใหน กั เรียนตอบคาํ ถามจนเหน็ วา เขาใจ
2.4 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 5 Look, listen and say. ใน SB หนา 40 ใหนักเรียนดูภาพเด็กหญิง ใหบอกสีของ
เครอ่ื งแตงกาย โดยครชู ้ีท่ีเคร่ืองแตง กายใชค ําถาม What color is the (skirt)? นักเรียนควรจะตอบไดวา Red. ใชคําถามเชนน้ีกับเสื้อ
หมวกปก รองเทา และถงุ เทา หลงั จากนนั้ ใหน กั เรียนฟง CD 33 และฝก ตาม CD 2-3 ครั้ง

CD Script 33
W: 5. Look, listen and say.

G: Look at me. I’m wearing a red skirt.
My blouse is black. My hat is yellow.
My shoes are orange. My socks are green.

ครตู รวจสอบความเขา ใจขอ ความและความหมายของคําวา wearing ครูชว ยสรุปความหมาย is wearing หมายความวา
สวม (เส้ือผา ) ครเู ปด CD 33 ใหนกั เรียนฟงอกี คร้งั แลว ใหนกั เรยี นทํากจิ กรรม Read and answer “Yes” or “No”. ใน SB หนา 40

Answers

Read and answer “Yes” or “No”.

1. No. 2. No. 3. Yes. 4. Yes.

3. Practice

3.1 นักเรยี นจับคูฝก การอา นออกเสยี งขอความในกจิ กรรมที่ 5 Look, listen and say.

3.2 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 3 Write the letters in order. Complete the sentences and color the balloons. ใน WB

หนา 29 ใหน ักเรยี นเรยี งตัวอักษรใหมใ หเปนชอ่ื สี เติมลงในชองวาง แลวระบายสลี ูกโปง ตามสนี น้ั ๆ ใหน ักเรียนอา นสีประจาํ วนั

Answers

3. Write the letters in order. Complete the sentences and color the balloons.

1. red 2. yellow 3. pink 4. green

5. orange 6. blue 7. purple

3.3 นักเรียนทํากิจกรรมที่ 4 Trace and color. ใน WB หนา 30 นักเรียนดูภาพ อานประโยค และเขียนตามเสนประ
หลังจากนน้ั ใหร ะบายสีรูปภาพตามความหมายของประโยคเปน การบา น

4. Production
ใหน ักเรยี นอานขอความในกจิ กรรมท่ี 5 Look, listen and say. ใน SB หนา 40 อีกคร้ังหน่ึง แลวฝกบรรยายการแตงตัว

ของตนเอง ใหอาสาสมัครออกมานําเสนอหนา ชัน้ เรียน
5. Wrap up
5.1 นักเรียนจดคาํ ศพั ทใหมทเี่ รียนลงในสมดุ บนั ทึกคําศัพท

Teacher’s Book New Say Hello 2 89

5.2 ใหนักเรียนตัดภาพเคร่ืองแตงกาย (กระโปรง เส้ือ กางเกง ถุงเทา รองเทา หมวก) จากหนังสือพิมพ หรือ
โฆษณาตา งๆ และนํามาโรงเรยี นในวนั รงุ ขึ้น โดยครูเสนอแนะวาควรจะตัดมาจากหนังสอื พิมพ หรือเอกสารที่ไมใชแลว ไมควรตัด
จากหนังสอื พมิ พใหมเพ่อื เปน การใชของอยา งประหยัด

6. สื่อ/แหลง การเรยี นรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 32-33
6.4 กระดาษสีตามคาํ ศพั ททเ่ี รยี น
6.5 สมุดบนั ทึกคาํ ศพั ท

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอ มูลเพม่ิ เติมสาํ หรับครู

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ
ครูควรสอนวิธีใช my, your, his, her ในช่ัวโมงนี้เพียงเพ่ือใหความรูความหมายของคําศัพทเทานั้น สวนการใช

คาํ เหลา นี้และชนดิ ของคาํ นักเรยี นจะไดเ รยี นรูเองในการฝก ครัง้ ตอๆ ไป
7.2 ขอมูลเพิ่มเติมสาํ หรับครู
คําท่ีมีพยัญชนะตน 2 ตัวติดกัน คือ การควบกลํ้า ซึ่งเปนการเรียงตอกันของพยัญชนะมากกวา 1 หนวยเสียง โดย

หลักการทุกหนวยเสียงตองมีการเปลงเสียง เชน /b/, /l/ ในคํา black /blæk/ ในขณะที่ wh- ในคํา what, which, etc. แตเดิมมี
การออกเสียงทั้ง 2 หนวยเสียง แตคนสวนใหญในปจจุบันไมออกเสียง /h/ ซึ่งเปนการเปลี่ยนแปลงทางภาษา (historical sound
change)

8. ความเห็นของผูบรหิ าร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู

9.1 ผลการจัดการเรียนรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกป ญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ครั้งท่ี 4 SB หนา 41-42 WB หนา 31-32
1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตวั ชว้ี ัดชัน้ ป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตวั อักษรและเสียง อา นออกเสียงคํา สะกดคํา และอา นประโยคงายๆ ถูกตองตามหลักการอาน
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาํ กลมุ คาํ และประโยคที่ฟง
ต 1.1 ป.2/4 ตอบคาํ ถามจากการฟงประโยค บทสนทนา หรอื นิทานงา ยๆ ทม่ี ภี าพประกอบ
ต 2.1 ป.2/3 เขารว มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกับวัย
ต 4.1 ป.2/1 ฟง /พูดในสถานการณง ายๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ งเรยี น

90 Teacher’s Book New Say Hello 2

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทักษะการฟง การพูด
2) ทักษะการสรา งสรรคช ้ินงาน

1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค
1) ความมุงมั่นในการทํางาน
2) การอยอู ยา งพอเพียง
3) ความเชื่อมั่นและกลาแสดงออก

2. สาระการเรียนรู

Function: Asking and answering questions about what someone is wearing
Structure: Who’s wearing (a red shirt)?

(Peter).
Vocabulary: คาํ ศัพทใ หม

who
คาํ ศัพททบทวน

3. ภาระงาน/ชิน้ งาน/การปฏิบัติ

ถาม-ตอบเกี่ยวกับเคร่ืองแตงกาย

4. แนวทางการประเมนิ

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธวี ดั เคร่อื งมอื

ตัวช้วี ดั การออกเสียงคําและประโยค ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพดู
ต 1.1 ป.2/2 แบบประเมินการฟงและ
การพดู
ต 1.1 ป.2/3 การฟงแลว ระบุภาพ ประเมนิ การฟง และ แบบประเมนิ การฟงและ
การพูด การพดู
แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
ต 1.1 ป.2/4 การตอบคําถามจากการฟงประโยค ประเมนิ การฟง และ แบบประเมินการพดู
สนทนา กิจกรรม Ask and answer. การพดู
แบบสังเกตความมุงมน่ั ใน
ต 2.1 ป.2/3 การแสดงทาทางประกอบการรองเพลง สังเกตพฤตกิ รรม การทาํ งาน
แบบสงั เกตการอยอู ยา ง
ต 4.1 ป.2/1 การทาํ โปสเตอรเ ครอ่ื งแตงกาย ประเมินการพดู พอเพยี ง
และนาํ เสนอ

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค สงั เกตความมงุ มนั่ ใน
1. ความมุงมัน่ ในการทํางาน การทาํ โปสเตอรเ คร่ืองแตงกาย การทาํ งาน

2. การอยอู ยา งพอเพยี ง การเลือกนาํ ภาพจากหนงั สอื พมิ พ สังเกตการเลอื กใชข อง
มาสรางสรรคผ ลงาน อยา งคุมคา

Teacher’s Book New Say Hello 2 91

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธวี ัด เครื่องมือ
3. ความเชอ่ื มน่ั และกลา
การรอ งเพลงและทาํ ทา ทางประกอบ สงั เกตความเชื่อม่ันและ แบบสังเกตความเชือ่ มัน่
แสดงออก เพลง กลา แสดงออก และกลาแสดงออก

5. กจิ กรรมการเรยี นรู

1. Warm up

นกั เรยี นทํากจิ กรรมท่ี 6 Let’s sing. ใน SB หนา 41 นักเรยี นอา นเนือ้ เพลงพรอมกัน และบอกความหมายของเน้ือเพลง

โดยใชร ปู ภาพเปน ตวั ชีแ้ นะ หลงั จากนน้ั ใหฟง CD 34 และรอ งเพลงตาม CD เม่ือรองไดแลว ใหแสดงทาทางประกอบเพลงตามใจ

ชอบ

CD Script 34 Colors and Clothes
W: 6. Let’s sing. Tune: This Old Man

Red and green, red and green.
The shirt is red and green.
Blue and black, blue and black.
The pants are blue and black.

2. Presentation

2.1 นกั เรยี นทํากจิ กรรมท่ี 7 Learn More. ขอ A. Look and listen. ใน SB หนา 42 ใหนักเรียนดูภาพ Tom, Peter และ

Pim ครูสนทนากับนักเรยี นวาเด็กแตล ะคนแตง ตัวอยา งไรบาง

2.2 ครูพูดเก่ยี วกบั เคร่อื งแตงตัวของครชู า ๆ ขณะพดู แตะที่เคร่ืองแตงกายของครูดว ย เชน

I’m wearing a (white) blouse, a (black) skirt and (black) shoes.

ซกั ถามความเขา ใจประโยคที่ครูพูด แลวชี้ท่ีภาพของ Tom และ Peter ใหนักเรียนชวยกันอธิบายโดยครูเร่ิมดวย

การอธิบายภาพ Tom ดว ยประโยค He’s wearing ………… . ชท้ี ่ภี าพของ Pim และเร่ิมดวยประโยค She’s wearing ………… .

บอกนกั เรยี นวา ใหตงั้ ใจฟง CD เกย่ี วกับเครื่องแตง กาย Tom, Peter และ Pim

2.3 นกั เรยี นฟง CD 35 ในครงั้ แรกไมตองพดู ตาม และพูดตามในการฟงครัง้ ที่ 2

CD Script 35

W: 7. Learn more.
A. Look and listen.
Tom is wearing a white T-shirt, jeans, red socks and black shoes.
Peter is wearing a green cap, a red shirt and black shorts.
Pim is wearing a yellow blouse, a red skirt, white socks and red shoes.

2.4 นกั เรียนทาํ กิจกรรมที่ 7 Learn more. ขอ B. Ask and answer. ใน SB หนา 42 นักเรียนถาม-ตอบเกี่ยวกับประโยค
ทีฟ่ ง โดยดรู ปู ภาพประกอบ ครูซักถามความเขา ใจของประโยคคําถาม Who’s wearing jeans? คําตอบเปนชื่อคน (Tom.) Who ควร
จะหมายความวา อะไร (ควรจะตอบไดว า หมายความวา ใคร) ครูถามนกั เรียนเกย่ี วกบั ภาพ 1-2 ประโยค เชน

Who’s wearing jeans? (Tom).
Who’s wearing a red shirt? (Peter).

92 Teacher’s Book New Say Hello 2

3. Practice
3.1 นักเรียนจับคถู าม-ตอบเกยี่ วกับการแตงกายของ Tom, Peter และ Pim ดว ยประโยคที่ฝก แลวในข้นั Presentation
3.2 นกั เรียนทาํ กจิ กรรมที่ 5 Connect the dots from A to Z. Then color and write. ใน WB หนา 31 นักเรียนลากเสน

ตัวอกั ษร A-Z แลว ระบายสภี าพตามใจชอบ จากนน้ั ใหเติมคาํ ศัพทเกยี่ วกบั สีท่ีนกั เรยี นเลอื กระบายลงในชองวา งใหถูกตอง

Answers
5. Connect the dots from A to Z. Then color and write.

คําตอบหลากหลายขึน้ อยูก บั การใชสขี องนักเรยี น

3.3 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 6 Read, match and color. ใน WB หนา 32 นักเรียนจับคูคําศัพทกับภาพ หลังจากนั้นให
ระบายสีภาพใหสวยงามตามคําศพั ทท ่ีใหไว

Answers
6. Read, match and color.

4. Production 93
นกั เรยี นดภู าพทีร่ ะบายสีแลวใน WB หนา 32 ครูอานคาํ ศัพทใ หน กั เรยี นบอกหมายเลขภาพคําศัพทน ัน้ เชน
ครู: a red skirt
นักเรยี น: number 5
เมอื่ นกั เรยี นเขาใจวธิ กี ารแลว สุม นักเรียนออกมาเปน ผูทําหนา ท่แี ทนครู

Teacher’s Book New Say Hello 2

5. Wrap up
5.1 ครูติดกระดาษโปสเตอร 4 แผน ที่เขียนช่ือเคร่ืองแตงกายแผนละ 2 ช่ือไวบนหัวกระดาษตอนบน (skirt, shirt,

pants, jeans, shoes, socks, hat, cap) แบง นกั เรยี นออกเปน 4 กลุม ใหนักเรยี นนําภาพที่เตรียมมาจากบา นมาชวยกันแยกประเภทภาพ
ไวตามหัวขอ ในกระดาษโปสเตอร

5.2 ครูแจกกระดาษโปสเตอรและกาว นกั เรยี นชวยกันตดิ ภาพลงในกระดาษ สรา งสรรคใ หสวยงาม เขียนช่อื กลุมและ
นําเสนอโดยการบอกสขี องเครอื่ งแตง กาย แลวติดไวท บี่ อรดในชัน้ เรียน

6. ส่อื /แหลง การเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 34-35
6.4 ภาพเคร่อื งแตงกายจากหนังสอื พิมพ
6.5 กระดาษโปสเตอร 4 แผน
6.6 กาว

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอมลู เพิ่มเตมิ สาํ หรับครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

7.2 ขอ มูลเพ่ิมเติมสาํ หรบั ครู

8. ความเห็นของผบู ริหาร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู

9.1 ผลการจัดการเรียนรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกปญ หา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คร้งั ที่ 5 SB หนา 43-44 WB หนา 33-34
1. เปา หมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตวั ชีว้ ัดช้นั ป
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคํา กลมุ คํา และประโยคที่ฟง
ต 1.3 ป.2/1 พดู ใหข อ มลู เกีย่ วกับตนเองและเรอ่ื งใกลต ัว

94 Teacher’s Book New Say Hello 2

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทกั ษะการฟง การพูด
2) ทักษะการคดิ (การเปรยี บเทยี บ)

1.3 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค
1) ความมงุ มั่นในการทํางาน
2) การรกั ความเปน ไทย

2. สาระการเรียนรู

Function: Talking about clothes and occupations
Structure: My (pants) are black. My (gown) is white. What am I?
Vocabulary: คาํ ศัพทใหม

nurse, police officer, doctor, student, gown
คาํ ศพั ททบทวน
teacher

3. ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การปฏบิ ัติ

3.1 ฟงและทายภาพจากกิจกรรม What am I?
3.2 ทําภาระงาน My Clothes

4. แนวทางการประเมิน

เปาหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวัด เคร่ืองมือ

ตวั ชว้ี ดั การทายอาชีพจากประโยคที่ฟง ประเมินการฟงและการพดู แบบประเมนิ การฟง และการพดู
ต 1.1 ป.2/3 ประเมินภาระงาน แบบประเมนิ ภาระงาน

ต 1.3 ป.2/1 การนาํ เสนอเครอ่ื งแตง กายท่ี สงั เกตความมุงม่นั ใน แบบสังเกตความมุงมน่ั ในการ
วาดและระบายสี การทาํ งาน ทํางาน
สงั เกตการรกั ความเปน ไทย แบบสังเกตการรกั ความเปน ไทย
คุณลักษณะอันพึงประสงค
1. ความมงุ มัน่ ในการทํางาน การทําภาระงาน

2. การรักความเปนไทย การสนทนาเร่ืองเดก็ แตง ชดุ
เอกลักษณไทย

5. กจิ กรรมการเรยี นรู

1. Warm up
ครูนําภาพเด็กหญิงและเด็กชายแตงชุดเอกลักษณไทยติดบนกระดานดํา สนทนาเกี่ยวกับเคร่ืองแตงกายเปรียบเทียบกับ

เครื่องแตงกายท่นี กั เรียนสวมใสเ ปน ประจํา (ชอบหรือไม ทาํ ไมตองมีชุดเอกลกั ษณไทย ฯลฯ) ครูสรุปชี้แนะใหเห็นความสําคัญของการ
รกั ษาวฒั นธรรมทแ่ี สดงความเปน ไทยไว เพอื่ เปนความภาคภมู ใิ จ

Teacher’s Book New Say Hello 2 95

2. Presentation
นกั เรียนทาํ กิจกรรมท่ี 7 Learn more. ขอ C. Look, listen and guess. ใน SB หนา 43
1) ครสู นทนาเกี่ยวกบั บคุ คลทป่ี รากฏในภาพ A-E
2) ใหน ักเรียนบอกวาบคุ คลในภาพมีอาชพี อะไร (What is he/she?) นักเรียนอาจตอบเปนภาษาไทย ครูเขียนคําศัพท

ภาษาอังกฤษไวบ นกระดานดํา ใหนกั เรยี นออกเสยี งใหถูกตอง
a teacher a nurse a police officer a doctor a student
สนทนาเกีย่ วกบั การเรยี กช่อื เสื้อคลุมของหมอ ครูเขยี นคาํ gown บนกระดานดาํ ใหนักเรยี นออกเสยี งใหถกู ตอง

3) ใหนกั เรยี นดภู าพจาก A ถึง E แลวฟง CD 36 ในการฟงคร้ังท่ี 1 ใหนักเรียนฟงอยางเดียว ฟงครั้งที่ 2 ใหนักเรียน
บอกวา ประโยคใดตรงกับภาพใด และมีอาชพี อะไร โดยครูหยุด CD เปนระยะ เม่อื จบเสียงอานแตล ะขอ

CD Script 36
7. Learn more.

W: C. Look, listen and guess.
What am I?

M1: 1. My shirt and my pants are brown. What am I?
W1: 2. My blouse is orange. My skirt is blue. My shoes are black. What am I?
B: 3. My shirt is white. My shorts are black. What am I?
W2: 4. My blouse is white. My skirt is white. My cap is white. What am I?
M2: 5. My gown is white. My pants are black. What am I?

Answers
7. Learn more.

C. Look, listen and guess.
ประโยคขอ 1 = C. a police officer
ประโยคขอ 2 = A. a teacher
ประโยคขอ 3 = E. a student
ประโยคขอ 4 = B. a nurse
ประโยคขอ 5 = D. a doctor

3. Practice
นักเรียนทาํ กิจกรรมที่ 7 Use the key to color the clothes and write. ใน WB หนา 33 นักเรียนดูรูปภาพ อานคําชี้แนะที่

ใหไ วในกรอบส่ีเหลี่ยมเพือ่ ระบายสภี าพ แลวเขยี นบรรยายเก่ยี วกับภาพท่ีระบายสเี รียบรอยแลว
Answers
7. Use the key to color the clothes and write.
She is wearing a red and green blouse, a purple skirt and blue shoes. She has black hair.

4. Production
4.1 นักเรียนศกึ ษากิจกรรมท่ี 7 Learn more. ขอ D. Draw and color your clothes. Then write. ใน SB หนา 44 ในภาพ

เปนตวั อยางของการทําภาระงานที่นกั เรียนจะทาํ เองใน WB หนา 34 ภาพท่ีเหน็ ใน SB หนา 44 คอื เดก็ ชายวาดภาพเครอื่ งแตงกายลง
ในกระดาษ ระบายสีสวยงาม และเขียนบรรยายภาพ ใหนักเรยี นอานประโยคในหนาน้พี รอมกนั

96 Teacher’s Book New Say Hello 2

4.2 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 8 Draw and color your clothes. Then write. ใน WB หนา 34 วิธีทําคลายกับ SB หนา 44
เมอ่ื เสรจ็ แลว ใหนาํ เสนอหนาชน้ั เรยี น

5. Wrap up
นักเรียนสรุปวิธีการอธิบายเครื่องแตงกายโดยการรองเพลง Colors and Clothes ท่ีเรียนในชั่วโมงท่ีแลวซึ่งเปนการ

อธบิ ายสขี องเส้ือผา

6. สอ่ื /แหลง การเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 36
6.4 ภาพเดก็ หญิงและเด็กชายแตง ชุดเอกลักษณไ ทย

7. กจิ กรรมเสนอแนะ/ขอ มลู เพมิ่ เตมิ สาํ หรบั ครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

7.2 ขอ มลู เพ่มิ เติมสําหรบั ครู

8. ความเห็นของผูบ ริหาร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

9. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู

9.1 ผลการจดั การเรยี นรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญ หาและการแกปญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ครั้งที่ 6 SB หนา 45-46 WB หนา 35-36
1. เปา หมายการเรียนรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตวั ช้ีวดั ชั้นป
ต 1.1 ป.2/2 ระบตุ ัวอักษรและเสยี ง อานออกเสียงคํา สะกดคํา และอานประโยคงา ยๆ ถกู ตองตามหลกั การอาน

1.2 ทักษะกระบวนการเรยี นรู
1) ทกั ษะการฟง
2) ทกั ษะการคิด (การสรุปองคค วามรู)
3) ทักษะการประเมนิ ตนเอง

Teacher’s Book New Say Hello 2 97

1.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
1) ความซ่อื สัตย
2) ความมงุ ม่ันในการทํางาน

2. สาระการเรียนรู

Reviewing sounds and evaluating language progress: vocabulary and structures from this unit
Structure – This is (a shirt).

– These are (shorts).
– She is wearing (a red cap).
Vocabulary: shirt, T-shirt, blouse, skirt, cap, shorts, shoes, socks, white, gray, black, blue, red, yellow, green
Pronunciation: /ʃ/

3. ภาระงาน/ชิน้ งาน/การปฏิบัติ

3.1 ฝกออกเสียง /ʃ/
3.2 ทาํ Mind Map
3.3 ทาํ แบบประเมนิ ตนเอง (Things I can do.)
3.4 ทําแบบทดสอบทายหนว ย (Test yourself.)

4. แนวทางการประเมิน

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธีวัด เคร่ืองมอื
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสียง /ʃ/ ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพดู
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
1. ความซ่ือสัตย การทาํ แบบประเมินตนเอง สังเกตพฤตกิ รรมการทํา แบบประเมินพฤติกรรม
(Things I can do.) ตามความ แบบประเมินตนเอง และแบบประเมนิ ตนเอง
2. ความมุงมัน่ ในการทํางาน เปน จรงิ
การทาํ Mind Map และการทาํ สังเกตความมุงมัน่ ในการทํา แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ
แบบทดสอบทา ยหนว ย (Test Mind Map และแบบทดสอบ แบบทดสอบทา ยหนวย
yourself.) ดว ยความต้ังใจ ทายหนวย แลวตรวจแบบทดสอบ

98 Teacher’s Book New Say Hello 2

5. กจิ กรรมการเรียนรู

1. Review
1.1 ทบทวนคําศัพทเก่ียวกับเครื่องแตงกายและสีท่ีเรียนมาแลว และทบทวนโครงสรางประโยคตอไปน้ี
คําศพั ท : shirt, T-shirt, blouse, skirt, cap, shorts, shoes, socks, white, gray, black, blue, red, yellow, green
โครงสรางประโยค : – This is (a shirt).
– These are (shorts).
– She is wearing (a red cap).
1.2 นกั เรียนทาํ กิจกรรมที่ 8 Say the words. ใน SB หนา 45 ใหนกั เรียนดภู าพและสงั เกตการขดี เสน ใตตัวอักษร sh ใน

แตล ะคาํ ครูบอกนักเรยี นวา เสียงน้ีคือ /ʃ/ ซึ่งไมม ีในภาษาไทย นักเรยี นฟง CD 37 ใหนักเรียนตั้งใจฟงและฝกออกเสียงตาม CD ให
ถูกตอ ง

CD Script 37
W: 8. Say the words.
shirt
shorts shoes

ภาระงาน ครฝู กใหนักเรยี นออกเสยี งใหถ กู ตอง
ตวั อยา ง 1.3 ครูและนักเรยี นชวยกันทาํ Mind Map สิ่งท่ีเรียนรูในหนวยการเรียนรูน้ี ไดแก คําศัพท โครงสรางประโยค และ

My Clothes

Sentences Vocabulary Task

– This is a (blouse). shirt, T-shirt, blouse, skirt, gown, วาดภาพและระบายสี
เสอ้ื ผา (Draw and color
– What do you want? hat, cap, shorts, jeans, pants, shoes, your clothes.) และนําเสนอ

I want a (shirt). socks, nurse, police officer, doctor,

– These are (jeans). student, teacher, his, her, my, your,

– Give me the (socks), please. want, wear, purple, brown, gray,

Here you are. black, pink, orange, blue, red,

– The (blouse) is (purple). yellow, green, who

– I’m wearing (a red shirt).

– My blouse is (black).

– Who’s wearing (a red shirt)?

(Peter).

– My (pants) are black. My (gown) is white. What am I?

1.4 ครูนาํ นักเรียนอานออกเสยี งประโยคและคาํ ศพั ทใ น Mind Map พรอ มกันทั้งชัน้ เปนกลมุ และรายบุคคล

Teacher’s Book New Say Hello 2 99

2. Evaluation
2.1 ครสู ําเนาเอกสารแบบประเมินตนเองตามกิจกรรมท่ี 9 Things I can do.ใน SB หนา 45-46 นกั เรยี นประเมินตนเอง

ดงั น้ี
1. I can say:
1) บอกชื่อสตี ามภาพ
2) บอกชอ่ื เคร่อื งแตงกายตามภาพ
3) บอกชอ่ื อาชพี ตามภาพ
2. I can say what I am wearing.
บอกสเี ส้ือ, กางเกง/กระโปรง, ถุงเทา ท่ตี นสวมอยู
3. I can say the words:
ออกเสยี งตามคาํ ศพั ทที่ใหไว

2.2 นักเรียนทาํ กจิ กรรมที่ 9 Test yourself. ใน WB หนา 35-36 ครูประเมนิ ทกั ษะการฟง ดังน้ี
– ขอ A. Listen and circle. ใน WB หนา 35 ครูเปด CD 38 ใหนักเรียนฟง และเขียนวงกลมลอมรอบภาพที่

สมั พันธกับคําศัพททไี่ ดย ินจาก CD

CD Script 38 2. These are shoes. 3. These are shorts. 4. This is a blouse. 5. This is a T-shirt.

W: 9. Test yourself.
A. Listen and circle.
1. This is a skirt.

Answers
9. Test yourself.

A. Listen and circle.

100 Teacher’s Book New Say Hello 2

– ขอ B. Listen and color. ใน WB หนา 36 ครูเปด CD 39 ใหนักเรียนฟง 2 ครั้ง ครั้งท่ี 1 ใหนักเรียนฟงจับ
ใจความ ครง้ั ที่ 2 ครหู ยุด CD เปนระยะเพ่ือใหน กั เรียนระบายสีตามที่ฟง

CD Script 39
W: 9. Test yourself.

B. Listen and color.
Peter is wearing a red cap, a white shirt, blue shorts, yellow socks and black shoes.
Pim is wearing a red skirt, a green blouse, white socks and gray shoes.

2.3 ครูสรุปผลการประเมิน แจงใหนักเรียนทราบโดยภาพรวม และอธิบายแกไขขอบกพรองที่พบ เพ่ือการพัฒนา
ตนเองของนักเรียน

6. สือ่ /แหลง การเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 37-39

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอมลู เพิ่มเตมิ สําหรับครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
– ครคู วรบันทึกคะแนนของนกั เรยี นแตละคนลงใน Progressive Chart (แสดงไวที่ภาคผนวกในคูมือครูนี้) เพื่อเปน

ขอมูลในการประเมินของนักเรยี นเอง และของครูในการพัฒนานักเรยี นเปนรายบุคคล
– เสนอแนะใหนักเรียนหาความรูเพม่ิ เติมเกยี่ วกับเครื่องแตงกายจาก Picture Dictionary หรือจากสื่อ CD สําหรับเด็ก

ทั่วไป
7.2 ขอมูลเพิ่มเติมสาํ หรบั ครู

8. ความเห็นของผูบรหิ าร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

9. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู

9.1 ผลการจัดการเรยี นรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญ หาและการแกปญ หา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

Teacher’s Book New Say Hello 2 101

การออกแบบหนว ยการเรียนรู

Unit 5 My Family เวลา 7 ชวั่ โมง

1. สาระสําคญั

การเรียนรคู ําศัพทเก่ียวกับสมาชิกในครอบครัว การอธิบายลักษณะของบุคคลใกลชิด การรูจักชื่อส่ิงของตางๆ ในบาน
เปนการเรยี นรเู ก่ียวกับส่ิงใกลตัว นักเรียนจะเขาใจไดงา ย และนําภาษาอังกฤษไปใชไ ดใ นชีวติ ประจําวนั

2. เปาหมายการเรยี นรู

2.1 มาตรฐานการเรียนรู และตวั ช้วี ัดชน้ั ป

ต 1.1 ป.2/2, 3, 4
ต 1.2 ป.2/4
ต 1.3 ป.2/1
ต 2.1 ป.2/3
ต 2.2 ป.2/1
ต 3.1 ป.2/1
ต 4.1 ป.2/1

ต 4.2 ป.2/1

2.2 สาระการเรียนรู

2.2.1 ความรู

Function Structure Vocabulary Pronunciation
family, father, mother, brother,
1. Identifying family Who’s (she)? sister
members She’s my (mother). people
How many people are there in
2. Asking for and giving baby, handsome, pretty, naughty,
cute, smart
information about the your family?
number of people in a There are (five) people. bedroom, kitchen, living room
family

3. Giving personal – Here’s (my father).
information – He’s (a doctor).
– He’s (handsome).

4. Describing where people I am (in the bedroom).
are

102 Teacher’s Book New Say Hello 2

Function Structure Vocabulary Pronunciation
wardrobe, lamp, in, on, under // /ð/
5. Giving information about – The picture is (on the wall).
locations – The socks are (under the chair). sofa, shelf, TV, cabinet, sink, stove,
pan, oven
6. Asking and answering Where is the (lamp)? father, mother, brother, sister, baby,
questions about locations It’s (on the table). bedroom, kitchen, living room,
wardrobe, sofa, shelf, pan, oven, in
7. Reviewing sounds and – (Tom’s father) is a doctor.
evaluating language – Tom is (in the bedroom).
progress: vocabulary and – The toy is (in the box).
structures from this unit

2.2.2 ทกั ษะการเรียนร/ู กระบวนการคดิ
1) ทกั ษะการฟง พูด
2) ทกั ษะการคิด (การสงั เกต การใชขอมูล การเปรยี บเทียบ การวิเคราะห การสรปุ องคค วามรู)
3) ทกั ษะการสรางสรรคชิ้นงาน
4) ทักษะกระบวนการกลมุ
5) ทักษะการใชภาษาเพอื่ สอ่ื สาร
6) ทักษะการประเมินตนเอง

2.2.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค
1) การใฝเรยี นรู
2) ความซื่อสัตย
3) ความมวี ินัย
4) การรกั ความเปนไทย
5) ความมุงมั่นในการทาํ งาน
6) ความเชอื่ มนั่ และกลา แสดงออก
7) การมีจิตสาธารณะ

3. ชุดคาํ ถามท่สี ําคัญ

3.1 How many people are there in your family? Who are they?
3.2 Where is the (father)?
3.3 How many rooms are there in your house? What are they?

4. ภาระงาน

วาดภาพ My family และนําเสนอ

Teacher’s Book New Say Hello 2 103

5. การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู

หลกั ฐาน กิจกรรม ส่อื /อุปกรณ

การบอกจาํ นวนสมาชกิ ในบาน สัมภาษณเ พ่ือนและนาํ เสนอ นกั เรยี น

การบรรยายลักษณะบุคคล บรรยายลักษณะบคุ คลท่ชี อบ ภาพบุคคลท่นี กั เรยี นเตรียมมา

การวาดภาพครอบครัวและการนําเสนอ นําเสนอภาระงาน หนงั สือเรยี น/แบบฝกหัด

กจิ กรรมรวบรวมคําศัพท จดคําศพั ทล งในสมุดบนั ทกึ คําศพั ท สมดุ บนั ทกึ คาํ ศัพท

การถาม-ตอบตาํ แหนง ของสง่ิ ของ จบั คถู าม-ตอบเกีย่ วกบั ส่งิ ของในหอ ง หนงั สอื เรียน/นกั เรยี น

การออกเสียง /ð/ และ /θ/ ฝก ออกเสียงในกจิ กรรม Say the words. CD
การทาํ Mind Map สรปุ องคค วามรู การทาํ Mind Map เก่ยี วกับ My Family กจิ กรรม Mind Map

การประเมินตนเอง ทําแบบประเมินตนเองจากกจิ กรรม (Things I can do.) แบบประเมนิ ตนเอง

การประเมินภาคความรู ทําแบบทดสอบทา ยหนว ย (Test yourself.) แบบทดสอบทา ยหนวย

6. แผนการวัดและประเมินผล

6.1 ประเมินตามสภาพจริงโดยใชแ บบประเมนิ ซึ่งมีรายละเอยี ดการประเมนิ อยใู นแผนการเรยี นรูแตล ะแผน
6.2 ประเมินดวยแบบประเมินตนเอง
6.3 ประเมินดวยแบบทดสอบทา ยหนวย

7. ความสมั พนั ธก ับกลมุ สาระการเรยี นรูอื่น

7.1 ภาษาไทย
7.2 คณิตศาสตร
7.3 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
7.4 ศลิ ปะ

8. แผนการจัดการเรียนรู

ครัง้ ที่ 1 SB หนา 47 WB หนา 37
1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วดั ช้ันป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสยี ง อา นออกเสียงคาํ สะกดคํา และอา นประโยคงา ยๆ ถกู ตอ งตามหลักการอา น
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาํ กลุมคํา และประโยคทีฟ่ ง
ต 2.2 ป.2/1 ระบุตวั อักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย
ต 3.1 ป.2/1 บอกคําศัพทท เ่ี กยี่ วขอ งกบั กลุมสาระการเรียนรอู ืน่
ต 4.2 ป.2/1 ใชภาษาตา งประเทศเพื่อรวบรวมคําศพั ทท่ีเกี่ยวของใกลตวั

104 Teacher’s Book New Say Hello 2

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทกั ษะการฟง การพดู
2) ทักษะการคิด (การสงั เกต)

1.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค
1) การใฝเ รียนรู
2) การรักความเปนไทย

2. สาระการเรียนรู

Function: Identifying family members
Structure: Who’s (she)?

She’s my (mother).
Vocabulary: คาํ ศัพทใ หม

family, father, mother, brother, sister
คาํ ศัพททบทวน

3. ภาระงาน/ชิน้ งาน/การปฏบิ ัติ

ถาม-ตอบเก่ยี วกับความสมั พนั ธของบคุ คลในครอบครัว

4. แนวทางการประเมิน

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธีวดั เครือ่ งมอื

ตัวชี้วดั การออกเสยี งคาํ ศพั ทช ือ่ สมาชิกใน ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู
ต 1.1 ป.2/2 ครอบครวั และประโยค Who’s he?
ประเมนิ การฟง แบบประเมนิ การฟง
Who’s she? ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การพดู

ต 1.1 ป.2/3 การชภ้ี าพตามที่ไดย ินจาก CD ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การพดู
ต 2.2 ป.2/1 การเปรียบเทยี บเสยี ง /ð/ ตรวจสมุดบันทึกคาํ ศพั ท สมุดบันทึกคําศัพท
กบั เสยี งในภาษาไทย
ต 3.1 ป.2/1 การบอกคาํ ศัพทเก่ยี วกับครอบครัว สงั เกตการใฝเรียนรู แบบสงั เกตการใฝเรียนรู
ต 4.2 ป.2/1 การรวบรวมจดบนั ทึกคาํ ศัพท
สงั เกตการใหค วามเหน็ ใน แบบสงั เกตการรกั ความ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค การเอาใจใสการเรียนและทาํ การเปรียบเทยี บ เปน ไทย
1. การใฝเรยี นรู กิจกรรม

2. การรกั ความเปน ไทย การเปรยี บเทียบความแตกตา งของ
ครอบครัวไทยกบั ครอบครัว
ชาวตะวันตก

Teacher’s Book New Say Hello 2 105

5. กจิ กรรมการเรยี นรู

1. Warm up
1.1 ครใู หนักเรียนดภู าพครอบครัวไทยท่ีมปี ยู า พอแม และลกู ๆ สนทนาซักถามนักเรียนเก่ียวกับขนาดของครอบครัว

และความสัมพนั ธข องบุคคลในครอบครัว ครูชว ยสรปุ ถงึ ความแตกตางของครอบครัวไทย (อบอุน อยูกันเปนครอบครัวใหญ) และ
ครอบครวั ชาวตะวันตกที่มเี ฉพาะพอแมลูก

1.2 ครูนําสาํ เนาภาพถา ยครอบครวั ท่ีมพี อ แม และลูก 3 คน ชูใหนักเรียนดู สนทนาเก่ียวกับภาพ ใหนักเรียนบอกวา
เปน รปู ภาพเก่ยี วกบั อะไร ใหน ักเรียนบอกคาํ ศพั ทเปน ภาษาไทย ครูเขยี นคาํ ศัพทเ ปน ภาษาอังกฤษบนกระดานดาํ เชน ภาพครอบครัว
(a family) นักเรียนเห็นผูชาย (a man) ผูหญิง (a woman) เด็กชาย (a boy) เด็กหญิง (a girl) ครูถามตอไปวา ผูชายเปนใคร
พอ (father) ผูหญิงเปนแม (mother) พ่ีชาย (brother) และนอ งสาว (sister) ตดิ ภาพไวบนกระดานดําแลว บอกนกั เรียนวา จะไดฟงการ
ออกเสยี งท่ถี ูกตองจาก CD ในบทเรียนหนว ยการเรียนรูนเ้ี ราจะไดเรยี นรูเกีย่ วกับครอบครวั (a family)

2. Presentation
2.1 นกั เรียนทํากิจกรรมที่ 1 Listen and say. ขอ A. Look, listen and repeat. ใน SB หนา 47 สนทนาเก่ียวกับภาพ

(ภาพ Tom ชภ้ี าพครอบครัวและกาํ ลงั พูด) ใหฟ ง รายละเอยี ดจาก CD 40

CD Script 40
W: 1. Listen and say.

A. Look, listen and repeat.
Tom is talking about his family.
Tom: This is my family, my father, my mother, my brother, my sister and me. There are five people
in my family.

2.2 ครใู หน ักเรียนออกเสียงตาม CD ขณะออกเสียงช้ีที่รูปภาพไปดวย ครูตรวจสอบวานักเรียนชี้ภาพถูกหรือไม

โดยครูพดู คาํ ศพั ทท ลี ะคําใหนักเรียนชภี้ าพ

2.3 ครแู สดงบตั รคํา father, mother, brother, sister นกั เรยี นฝกออกเสียงใหถูกตอง เนนเสียง /ð/ ในคําวา mother,

father, brother นกั เรยี นเปรียบเทียบการออกเสียง /ð/ กบั เสยี งในภาษาไทย ซึ่งจะสรปุ ไดว าเสียง /ð/ ไมม ีในภาษาไทย

การออกเสยี ง // คอื ใหวางลนิ้ ระหวางฟนบนและฟนลา ง ปลอยลมใหเ สยี งแทรกล้ินและฟน เสียงนี้เปนเสียง

ไมกอง (นักเรียนเคยฝก เสยี งนใ้ี น Unit 2 แลว )

การออกเสียง /ð/ ใหว างปลายลนิ้ ระหวางฟนบนและฟน ลา ง กักลมไวในลําคอแลวจึงปลอยลมใหเสียงแทรก

ล้นิ และฟน เสยี งนีค้ ลายเสยี ง // แตเปน เสียงกอ ง

3. Practice

3.1 นกั เรยี นทาํ กิจกรรมท่ี 1 Listen and say. ขอ B. Point and say. ใน SB หนา 47 ใหน กั เรียนใชภาพในขอ A จับคู

ฝกถามและตอบ สมมุติวาภาพนเ้ี ปน ภาพครอบครวั ของนักเรยี น ใหช ี้ทีละภาพและผลดั กันถาม

A: Who’s he? A: Who’s she?

B: He’s my father/brother. B: She’s my mother/sister.

กอ นฝก ใหนักเรยี นฝกถาม-ตอบเปน ตัวอยา ง 2-3 คู

3.2 นกั เรียนทาํ กจิ กรรมที่ 1 Match and trace. ใน WB หนา 37 นักเรียนจบั คภู าพและคํา แลว เขยี นตามเสน ประ

106 Teacher’s Book New Say Hello 2

Answers
1. Match and trace.

mother father

Tom

sister brother

4. Production
ใหนกั เรียนอาสาสมัครออกมาหนาช้ันเรียนช้ีที่ภาพถายครอบครัวที่มีพอ แม และลูก 3 คนขนาดใหญบนกระดานดํา

และออกเสยี งคําศพั ท
5. Wrap up
5.1 นักเรียนรวบรวมคําศัพทใหมและจดลงในสมดุ บันทกึ คําศพั ท
5.2 ใหนักเรยี นนําภาพถายครอบครวั ของนกั เรียนมาโรงเรยี นดวยในคาบถัดไป

6. สอื่ /แหลงการเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 40
6.4 ภาพครอบครัวไทยท่ีมปี ูยา พอ แม และลูกๆ
6.5 สาํ เนาภาพถา ยครอบครัวทม่ี พี อ แม และลูก 3 คนขนาดใหญ
6.6 บตั รคาํ
6.7 สมุดบันทกึ คาํ ศพั ท

7. กจิ กรรมเสนอแนะ/ขอ มลู เพ่มิ เตมิ สาํ หรบั ครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูสนทนากบั นกั เรยี นถงึ ขนาดของครอบครวั บางครอบครัวเปนครอบครัวเลก็ แตบ างครอบครวั เปนครอบครัวใหญ

มีคณุ ปู คณุ ยา อยทู ่บี า น ลกั ษณะครอบครวั อบอุนผูกพันรักใครก ัน และครอบครัวใหญเ ปน ลกั ษณะของสงั คมไทย
7.2 ขอ มลู เพิ่มเติมสาํ หรบั ครู
– เม่อื th ปรากฏระหวางสระจะออกเสียงเปน /ð/ เชน father, mother

Teacher’s Book New Say Hello 2 107

– ครูควรฝก การออกเสยี ง /ð/ ใหถูกตอ งกอนสอน การออกเสียง /ð/ ในคาํ ‘father, ‘mother, ‘brother เสียง /ð/ ตองใช
ปลายลน้ิ อยทู ข่ี อบฟน บน ในการออกเสียง เสนเสียงจะสั่นเปน เสียงกอง

8. ความเห็นของผบู ริหาร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู

9.1 ผลการจัดการเรียนรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญ หาและการแกปญ หา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คร้งั ท่ี 2 SB หนา 48 WB หนา 38-39
1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตวั ชวี้ ดั ชัน้ ป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอกั ษรและเสียง อา นออกเสยี งคํา สะกดคาํ และอานประโยคงา ยๆ ถกู ตอ งตามหลักการอาน
ต 1.2 ป.2/4 พดู ขอและใหขอมลู งา ยๆ เก่ียวกับตนเองตามแบบที่ฟง
ต 1.3 ป.2/1 พดู ใหขอมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งใกลตัว
ต 3.1 ป.2/1 บอกคาํ ศพั ทท่เี กย่ี วขอ งกับกลุมสาระการเรียนรอู ื่น
ต 4.1 ป.2/1 ฟง/พดู ในสถานการณง า ยๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นในหองเรียน

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทักษะการฟง การพูด
2) ทักษะการคิด (การใชขอ มูล)

1.3 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค
1) ความมวี นิ ัย
2) การใฝเ รียนรู

2. สาระการเรยี นรู

Function: Asking for and giving information about the number of people in a family
Structure: How many people are there in your family?

There are (five) people.
Vocabulary: คาํ ศพั ทใ หม

people
คําศัพทท บทวน

108 Teacher’s Book New Say Hello 2

3. ภาระงาน/ช้นิ งาน/การปฏิบัติ

ถาม-ตอบเกยี่ วกบั จํานวนสมาชิกภายในบาน

4. แนวทางการประเมิน

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธวี ัด เครอื่ งมือ
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสียงคําศัพท people การออกเสียง ประเมนิ การพดู แบบประเมินการพูด
ประโยคคําถามและคาํ ตอบ ประเมนิ การพูด
ต 1.2 ป.2/4 ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพดู
การสมั ภาษณเพอ่ื นดวยประโยค ประเมนิ การพูด
ต 1.3 ป.2/1 How many ……… ? แบบประเมนิ การพดู
การนาํ เสนอผลการสัมภาษณ
ต 3.1 ป.2/1 การนําเสนอภาพครอบครัว แบบประเมินการพดู
แบบประเมนิ การพดู
การบอกจาํ นวนสมาชิกในครอบครวั
แบบสงั เกตความมีวนิ ัย
ต 4.1 ป.2/1 การสัมภาษณเ พ่ือน ประเมนิ การพูด และการใฝเรยี นรู
ความตงั้ ใจสัมภาษณเพื่อน
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค สงั เกตความมีวินัยและ
1. ความมวี ินยั การใฝเ รียนรู
2. การใฝเ รียนรู

5. กจิ กรรมการเรียนรู

1. Warm up
1.1 ทบทวนคําศพั ทสมาชกิ ในครอบครวั ครูใหนักเรยี นเสนอภาพเก่ียวกบั ครอบครัวท่นี ํามาจากบาน ใหนักเรียนอาสา

ออกมาหนาชนั้ เรียน 2 – 3 คน อธิบายภาพ เชน
This is my family.
This is my father.
This is my mother.
This is my brother.
This is my sister.
This is me.
ในกรณีที่ไมม พี ่หี รอื นอง คงมีเพียงประโยค This is me. เทานั้น

1.2 นกั เรียนทาํ กจิ กรรมท่ี 2 Write the letters in order to make the words. ใน WB หนา 38 ใหนักเรียนเรียงตัวอักษร
ใหเปนคําศัพทท ีถ่ กู ตอ ง และเติมคาํ ศพั ทลงในชอ งวา ง

Answers

2. Write the letters in order to make the words.

1. father 2. mother 3. brother 4. sister

Teacher’s Book New Say Hello 2 109

2. Presentation
2.1 ใหนกั เรียนเปดหนงั สือเรยี นหนา 48 ทํากจิ กรรมท่ี 2 Look, listen and repeat. โดยสนทนาเกี่ยวกับภาพที่เห็น ให

นักเรียนดูสมาชิกในครอบครวั ของ Tom ครูเขียน (Tom’s family)
2.2 ครเู ขยี น Tom’s family และ Jane’s family บนกระดานดาํ ครอู ธบิ ายความหมายของคําท่ีมีเครื่องหมาย ’s เรียกวา

Apostrophe’s ใชเพ่ือแสดงความเปนเจา ของ โดยความหมายในภาษาไทยเรียงคําตา งจากภาษาองั กฤษ เชน Tom’s family หมายความ
วา ครอบครวั ของ Tom เปนตน ใหน ักเรยี นบอกความหมายของคําวา Jane’s family และ Pim’s family

2.3 ใหฟ ง CD 41 บทสนทนาระหวาง Pim และ Jane

CD Script 41
W: 2. Look, listen and repeat.

Tom: There are five people in my family.
W: Ask and answer.

Pim: How many people are there in your family?
Jane: There are five people.

2.4 นักเรียนออกเสียงตาม CD ใหถูกตอง ครูเนนการออกเสียง people หลังจากน้ันใหนักเรียนจับคู เพื่อฝกการ
ถาม-ตอบดงั ตวั อยา ง โดยใชภ าพครอบครวั ท่ีทกุ คนนาํ มา ครคู อยแนะนําชว ยเหลือใหท่ัวถงึ

3. Practice
นักเรียนทํากจิ กรรมท่ี 3 Ask, answer and write. ใน WB หนา 39 ดังนี้
นักเรยี นสมั ภาษณเ พ่ือน 2 คน เก่ียวกับจํานวนสมาชิกในครอบครัวดวยประโยค How many people are there in your

family? เม่ือไดคําตอบเขยี นชือ่ เพอื่ นและจํานวนสมาชิกในตารางที่ใหไวซึ่งในแบบฝกหัดทําตัวอยางไวใหแลว 1 คน ใหนักเรียน
สมั ภาษณเพิ่มอกี 2 คน และเขียนขอ มลู ของตนเองลงในชอง Me (ชองสุดทาย) หลังจากน้ันเขียนบอกจํานวนสมาชิกในครอบครัว
ลงในชอ งวา ง

Answers
3. Ask, answer and write.

There are five people in Tom’s family.
There are …… people in ……’s family.
There are …… people in ……’s family.
There are …… people in my family.

4. Production
นกั เรียนนาํ เสนอผลงานการสมั ภาษณห นา ช้ันเรียน

5. Wrap up
ครูและนักเรียนรวมกนั สรุปการใช There are + คาํ นามพหูพจน แตใ นการเรยี นครั้งนี้ people เปน คาํ นามท่ีมคี วามหมาย

เปนพหพู จนอยูแ ลว จึงไมตองเตมิ s อีก

110 Teacher’s Book New Say Hello 2

6. ส่ือ/แหลงการเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 41
6.4 ภาพครอบครัวทีน่ ักเรยี นนํามา

7. กจิ กรรมเสนอแนะ/ขอ มูลเพ่มิ เติมสาํ หรับครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ครอู าจใหนกั เรียนทุกคนติดภาพครอบครัวและประโยคอธบิ ายภาพลงในกระดาษโปสเตอรใหญ 1 แผน ใหนักเรียน

ออกแบบตกแตง ใหสวยงามและจัดแสดงไวในหอ งเรียน
7.2 ขอมลู เพ่มิ เติมสาํ หรับครู
people /’piːpl/ หมายถึง คนจาํ นวนมากกวา 1 คน เปนคาํ นามรปู พหูพจน

8. ความเหน็ ของผูบริหาร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู

9.1 ผลการจัดการเรยี นรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกป ญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คร้ังท่ี 3 SB หนา 49 WB หนา 40-41
1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตวั ชว้ี ดั ชัน้ ป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตวั อกั ษรและเสยี ง อา นออกเสียงคํา สะกดคาํ และอา นประโยคงา ยๆ ถกู ตองตามหลกั การอา น
ต 1.1 ป.2/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคํา กลุมคาํ และประโยคทีฟ่ ง
ต 1.3 ป.2/1 พูดใหขอ มลู เก่ยี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต วั
ต 4.1 ป.2/1 ฟง/พดู ในสถานการณงายๆ ท่เี กิดข้นึ ในหองเรียน

1.2 ทักษะกระบวนการเรยี นรู
1) ทกั ษะการคิด (การเปรียบเทยี บ)
2) ทักษะการใชภาษาเพ่อื สือ่ สาร
3) ทักษะกระบวนการกลมุ

Teacher’s Book New Say Hello 2 111

1.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค
1) ความเชอื่ มนั่ และกลา แสดงออก
2) การใฝเรียนรู

2. สาระการเรยี นรู

Function: Giving personal information

Structure: – Here’s (my father).

– He’s (a doctor).
– He’s (handsome).
Vocabulary: คาํ ศัพทใ หม
baby, handsome, pretty, naughty, cute, smart
คําศัพทท บทวน

3. ภาระงาน/ช้ินงาน/การปฏบิ ตั ิ

ทํากิจกรรมกลมุ บรรยายลกั ษณะบคุ คล

4. แนวทางการประเมนิ

เปาหมาย หลกั ฐาน วธิ วี ดั เครอื่ งมือ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสียงคาํ ศัพทบรรยาย ประเมินการพูด แบบประเมินการพูด
ลกั ษณะบุคคล
ต 1.1 ป.2/3 ตรวจแบบฝกหดั แบบฝกหัด
ต 1.3 ป.2/1 การฟงและเลอื กภาพทเ่ี ปนคําตอบ ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู
ต 4.1 ป.2/1
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค การนําเสนอภาพวาดในกิจกรรม
1. ความเชื่อมั่นและกลา Production

แสดงออก กิจกรรมการนาํ เสนอการพูดบรรยาย สงั เกตความเช่ือมน่ั และกลา แบบสงั เกตความเช่อื มั่น

ลกั ษณะบุคคล แสดงออก และกลา แสดงออก

2. การใฝเรยี นรู การเขารว มกจิ กรรมอยา งตั้งใจ สงั เกตการใฝเ รียนรู แบบสงั เกตการใฝเรียนรู

5. กิจกรรมการเรียนรู

1. Warm up
ครูใชบตั รภาพและบตั รคํา doctor, teacher, student, baby ทบทวนคําศัพทที่เรียนมาแลว และสอนคําศัพทใหม (baby)

โดยใหนักเรียนจับคูบตั รภาพและบัตรคาํ เมื่อจบั คไู ดแลวอา นคาํ ศพั ทพ รอ มๆ กัน
2. Presentation
นกั เรียนทาํ กิจกรรมที่ 3 Look, listen and learn. ใน SB หนา 49 ดังนี้

112 Teacher’s Book New Say Hello 2

1) นกั เรียนดูรปู ภาพทปี่ รากฏ สนทนาเกีย่ วกบั ภาพแตล ะภาพในหนังสือเรียนหนาน้ี ซึ่งเปนการบรรยายลักษณะของ
บคุ คลในครอบครวั ของ Tom ครูสอนคําศัพท handsome, pretty, naughty, cute, smart ทลี ะคําโดยใชบัตรภาพ เชน ถือบัตรภาพชาย
หนาตาดี ครูพูด He is handsome. ช้ไี ปท่ีเด็กชายในหองที่หนาตาดี พูด He is handsome. ครูเขียนคําศัพท handsome บนกระดานดํา
แลว ใหนกั เรียนออกเสยี ง 2-3 ครั้ง ครสู ังเกตวา นกั เรยี นออกเสียงถูกหรือไม ถามความหมายของ handsome โดยใชประโยค What do
you say ‘handsome’ in Thai? ครูถามนําจนสรุปไดวา “หนาตาดี หลอ” ใชกับผูชาย และสอนคําศัพทบอกลักษณะอื่นๆ โดยวิธี
เดยี วกัน ครอู ธิบายคาํ ศัพท smart วา มีความหมายวา ฉลาด

2) นกั เรียนฟง CD 42 และฝกพูดตาม CD

CD Script 42
W: 3. Look, listen and learn.

Tom is talking about his family.
W: 1. father
Tom: Here’s my father.

He’s a doctor.
He’s handsome.
W: 2. mother
Tom: Here’s my mother.
She’s a teacher.
She’s pretty.
W: 3. brother
Tom: Here’s my brother.
He’s a student.
He’s naughty.
W: 4. sister
Tom: Here’s my sister.
She’s a baby.
She’s cute.
W: 5. Tom
Tom: I’m Tom.
I’m a student.
I’m smart.
3) ครเู ขยี น Here’s my father.
He’s a doctor.
Here’s my mother.
She’s a teacher.
I’m Tom.
I’m a student.
บนกระดานดาํ ขีดเสนใตคําแรกของทกุ ประโยค และช้แี จงเพ่ิมเติมวา
Here’s เปน ตวั ยอ ของ Here is
He’s เปนตวั ยอ ของ He is
She’s เปนตัวยอ ของ She is
I’m เปน ตวั ยอของ I am

Teacher’s Book New Say Hello 2 113

4) ตรวจสอบความเขาใจโดยครูพูดประโยคทีบ่ รรยายลกั ษณะบคุ คลในภาพใหน ักเรียนตอบ Yes. หรอื No. เชน
Tom’s father is handsome. (Yes.)
Tom’s sister is naughty. (No.)
Tom’s mother is pretty. (Yes.)
Tom’s brother is smart. (No.) เปน ตน

3. Practice
3.1 นักเรียนทาํ กิจกรรมที่ 4 Read and match. ใน WB หนา 40 จับคูภาพกบั คาํ ศพั ทท ี่สัมพันธก นั

Answers
4. Read and match.

3.2 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 5 Look, listen and circle. ใน WB หนา 41 นักเรียนฟง CD 43 ฟงประโยคจาก CD และ
เขยี นวงกลมลอมรอบภาพทสี่ ัมพันธก ัน

CD Script 43 2. The woman is pretty.
W: 5. Look, listen and circle. 4. The boy is smart.

1. The man is handsome.
3. The boy is naughty.

114 Teacher’s Book New Say Hello 2

Answers
5. Look, listen and circle.

1.

2.

3.

4.

4. Production
นกั เรียนแบง กลุม กลมุ ละ 4-6 คน แตล ะกลมุ รบั กระดาษโปสเตอรจากครู 1 แผน ใหแตละกลุมเลือกวาดภาพคน 1 คน

และเขยี นบรรยายลักษณะโดยใชป ระโยค He/She is …………… . ระบายสใี หสวยงาม สง ตวั แทนนาํ เสนอหนาชั้นเรยี น
5. Wrap up
ครูและนักเรยี นรว มกันสรุปความหมายของ handsome, pretty, naughty, cute, smart อีกคร้ังหน่ึง ใหนักเรียนรวบรวม

คําศัพทเหลาน้ีจดลงในสมดุ บันทึกคําศัพท และคน ควา ความหมายของคาํ ศพั ทเพิ่มเตมิ ไดจ าก Dictionary หรือ Internet

6. สือ่ /แหลง การเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 42-43
6.4 บตั รภาพและบตั รคํา
6.5 กระดาษโปสเตอร
6.6 สมดุ บันทึกคาํ ศัพท
6.7 Dictionary/Internet

Teacher’s Book New Say Hello 2 115

7. กจิ กรรมเสนอแนะ/ขอ มูลเพ่ิมเติมสําหรับครู

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ
ครูอาจจะใหนักเรียนวาดภาพหรือติดภาพถายของตนเองลงในสมุดแบบฝกหัด แลวเขียนบรรยายลักษณะโดยใช

ประโยคทเ่ี รียนเปนการบาน
7.2 ขอ มูลเพิม่ เติมสําหรบั ครู
เปน การไมส ุภาพท่ีจะนําลกั ษณะดอ ยของคน เชน fat, thin มาเขยี นบรรยาย ควรเลือกบรรยายลักษณะเดน ของคนเพื่อ

ไมใหผูฟ งรูสกึ อึดอดั ใจ

8. ความเหน็ ของผบู รหิ าร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู

9.1 ผลการจดั การเรียนรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกปญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คร้ังท่ี 4 SB หนา 50 WB หนา 42-43
1. เปา หมายการเรียนรู

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตัวชว้ี ัดชั้นป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อานออกเสยี งคาํ สะกดคาํ และอานประโยคงายๆ ถูกตองตามหลกั การอาน
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาํ กลุมคํา และประโยคทฟ่ี ง
ต 1.1 ป.2/4 ตอบคาํ ถามจากการฟงประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านงายๆ ที่มภี าพประกอบ
ต 2.2 ป.2/1 ระบตุ ัวอักษรและเสยี งตัวอักษรของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย
ต 4.2 ป.2/1 ใชภาษาตา งประเทศเพอื่ รวบรวมคาํ ศัพทที่เกี่ยวขอ งใกลต ัว

1.2 ทกั ษะกระบวนการเรียนรู
1) ทักษะการฟง การพดู
2) ทกั ษะการคดิ

1.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค
1) ความมงุ ม่นั ในการทาํ งาน
2) การใฝเ รยี นรู

2. สาระการเรยี นรู

Function: Describing where people are
Structure: I am (in the bedroom).
116 Teacher’s Book New Say Hello 2

Vocabulary: คําศพั ทใหม
bedroom, kitchen, living room
คาํ ศัพทท บทวน

3. ภาระงาน/ช้ินงาน/การปฏิบตั ิ

เขียนประโยคอธบิ ายภาพ

4. แนวทางการประเมนิ

เปาหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสียงคําศัพทห อ งตางๆ ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพูด
ต 1.1 ป.2/3 ประเมินการฟง แบบประเมนิ การฟง
ต 1.1 ป.2/4 การชภ้ี าพขณะฟง CD ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพดู
ต 2.2 ป.2/1 ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด
การตอบคําถามจากการฟง CD
ต 4.2 ป.2/1 ตรวจสมุดบนั ทึกคาํ ศพั ท สมดุ บันทึกคาํ ศพั ท
การเปรยี บเทยี บการออกเสยี ง
เนน หนกั ในคําภาษาอังกฤษกับ
ภาษาไทยในขัน้ Presentation

การรวบรวมจดบันทึกคาํ ศัพท

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค การทําแบบฝก หัดดวยความต้งั ใจ สงั เกตความมุง มั่นในการ แบบสงั เกตความมุงมน่ั ในการ
1. ความมงุ มั่นในการทาํ งาน ทาํ งาน ทํางาน
การคนควา หาคําศัพทเ พิ่มเติม
2. การใฝเ รียนรู จาก Internet สังเกตการใฝเรียนรู แบบสงั เกตการใฝเรยี นรู

5. กจิ กรรมการเรียนรู

1. Warm up
สนทนาเก่ียวกับบานของนักเรียน ใหนักเรียนเลาวาท่ีบานมีก่ีหอง หองอะไรบาง ครูเขียนคําตอบของนักเรียนบน

กระดานดํา ทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ บอกนกั เรียนวา จะไดเรยี นรเู กี่ยวกับชือ่ หอ งตางๆในบา น

2. Presentation
2.1 ครตู ิดโปสเตอรภาพบานของ Tom ที่ขยายจาก SB หนา 50 บนกระดานดํา ครูพูด This is Tom’s house. ช้ีท่ีหอง

ตางๆ เชน หอ งนอนพูดวา This is the bedroom. หองนั่งเลนพูดวา This is the living room. หองครัวพูดวา This is the kitchen. ให
นักเรียนพูดตาม เนนใหนักเรียนออกเสียงเนนหนักในคําใหถูกตอง ‘bedroom, ‘living room, ‘kitchen สนทนาเปรียบเทียบการ
ออกเสียงเนน หนักในคํากบั ภาษาไทย ซึง่ จะไดค าํ ตอบวา ในภาษาไทยไมอ อกเสียงเนน หนกั ในคาํ

2.2 นกั เรียนทาํ กิจกรรมท่ี 4 Look, listen and repeat. ใน SB หนา 50 ดังนี้
1) นกั เรียนดรู ปู ภาพหนา นี้ แลว บอกวามหี อ งอะไรบา ง (Name the rooms, please.)

Teacher’s Book New Say Hello 2 117

2) บุคคลทอี่ ยูในหองตางๆ คือใครบา ง (Who is he/she?)
3) นักเรยี นฟง CD 44 และอานตาม CD 2-3 ครัง้ ขณะทีอ่ านใหช ี้ทภ่ี าพดวย

CD Script 44
W: 4. Look, listen and repeat.

Tom is talking about his house and his family.
Tom: I am in the bedroom.

My mother is in the kitchen.
My father is in the living room.

4) ครถู ามคําถามเกีย่ วกับการฟง ดงั ตอไปนี้
Who’s in the bedroom? (Tom.)
Who’s in the kitchen? (Tom’s mother.)
Who’s in the living room? (Tom’s father.)

3. Practice
3.1 นักเรยี นจับคูผลดั กนั เปนผูอ านและชี้ภาพตามขอ ความที่เพ่ือนอา น
3.2 นักเรยี นทํากิจกรรมท่ี 6 Write the names of the rooms. ใน WB หนา 42 เขียนคาํ ศพั ทใ หตรงกับชอื่ หองตา งๆ

Answers

6. Write the names of the rooms.

1. bedroom 2. kitchen 3. living room

4. Production
นกั เรียนทํากิจกรรมท่ี 7 Look and write sentences. ใน WB หนา 43 ใหนกั เรยี นดภู าพแลวเตมิ คาํ ลงในชอ งวา ง

Answers 2. Tom is in the bedroom.
7. Look and write sentences.

1. Tom’s father is in the living room.

5. Wrap up
นักเรยี นรวบรวมคาํ ศพั ทแ ละจดลงในสมุดบนั ทึกคําศพั ท ครูเสนอแนะใหค นควา เพิ่มเตมิ คําศัพทเกี่ยวกบั หองอื่นๆ จาก

Internet

6. สอ่ื /แหลงการเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 44
6.4 โปสเตอรบานของ Tom
6.5 สมดุ บันทึกคาํ ศพั ท
6.6 Internet

118 Teacher’s Book New Say Hello 2

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอมูลเพิม่ เติมสาํ หรบั ครู

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ

7.2 ขอมูลเพ่ิมเติมสําหรับครู
– ครคู วรฟง CD การออกเสยี งเนน หนกั ในคาํ ใหถูกตอ งกอ นสอน ดังน้ี ‘bedroom, ‘living room, ‘kitchen
– ภาษาแตละภาษามีระบบการออกเสยี งแตกตางกนั ภาษาองั กฤษมรี ะบบการเนนเสยี งหนัก (stress system)

ภาษาไทยมีระบบเสียงวรรณยุกต (tone system) ในขณะทภ่ี าษาญ่ีปุนมีระบบ pitch accent

8. ความเห็นของผูบ รหิ าร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู

9.1 ผลการจดั การเรยี นรู …………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกปญ หา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ครง้ั ที่ 5 SB หนา 51 WB หนา 44

1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตวั ชีว้ ดั ช้นั ป
ต 1.1 ป.2/2 ระบตุ วั อกั ษรและเสยี ง อานออกเสียงคํา สะกดคํา และอานประโยคงายๆ ถกู ตอ งตามหลักการอา น
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคํา กลมุ คํา และประโยคทีฟ่ ง
ต 4.2 ป.2/1 ใชภ าษาตา งประเทศเพือ่ รวบรวมคาํ ศัพทท ี่เกี่ยวขอ งใกลต ัว

1.2 ทกั ษะกระบวนการเรยี นรู
1) ทกั ษะการฟง การพดู
2) ทักษะการคิด (การวิเคราะห)
3) ทักษะกระบวนการกลุม

1.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
1) ความมวี นิ ยั
2) ความมุง มัน่ ในการทํางาน

2. สาระการเรียนรู

Function: Giving information about locations
Structure: – The picture is (on the wall).

– The socks are (under the chair).

Teacher’s Book New Say Hello 2 119

Vocabulary: คําศพั ทใ หม
wardrobe, lamp
คาํ ศัพททบทวน
in, on, under

3. ภาระงาน/ช้นิ งาน/การปฏบิ ัติ

ถาม-ตอบเก่ียวกบั ตาํ แหนงสง่ิ ของ จดคาํ ศพั ทลงในสมุดบนั ทึกคาํ ศพั ท

4. แนวทางการประเมนิ

เปา หมาย หลักฐาน วิธีวัด เครอื่ งมอื

ตวั ช้ีวดั การออกเสียงคาํ ศัพทส ิง่ ของในหอ งนอน ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด
ต 1.1 ป.2/2 การเลอื กภาพจากการฟง CD ตรวจแบบฝกหัด แบบฝกหัด
ต 1.1 ป.2/3 การรวบรวมจดบันทึกคาํ ศพั ท ตรวจสมดุ บันทึกคาํ ศพั ท สมุดบันทึกคําศพั ท

ต 4.2 ป.2/1 การเคารพในกตกิ าการทํางานกลุม สงั เกตความมีวินัย แบบสังเกตความมวี นิ ัย
การระดมพลงั สมองเพ่อื ใหงานกลุม สังเกตความมงุ มนั่ ใน แบบสงั เกตความมุงมน่ั
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค สาํ เร็จดวยดี การทาํ งาน ในการทํางาน
1. ความมวี ินยั
2. ความมุง มั่นในการทํางาน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู

1. Warm up
1.1 สนทนากับนกั เรยี นวา ปกติแลว สิ่งของทพี่ บในหอ งตางๆ มอี ะไรบา ง ครูเขยี น Mind Map ลงบนกระดานดํา บอก

นกั เรยี นวา นกั เรยี นจะไดระดมสมองเพ่อื เขยี นชอื่ เครื่องใชในแตละหอง ใหนักเรียนเขียนคําศํพทภาษาอังกฤษที่นึกไดภายในเวลา
5 นาที กลมุ ใดไดคาํ ศพั ทม ากที่สดุ และเขียนถกู ตอ งเปนผชู นะ

bedroom living room
 

kitchen

1.2 ใหแ ตล ะกลมุ สง ตวั แทนมาจับฉลากเพ่อื รับผิดชอบวา จะเขียนชื่อเครอ่ื งใชใ นหอ งใด ใหเ วลาเขยี น 5 นาที
1.3 เมือ่ หมดเวลาครตู รวจสอบความถกู ตองของคาํ ศัพท/ จาํ นวนคํา กลมุ ใดท่ที ําถูกตอ งตามกตกิ าเปนผชู นะ

120 Teacher’s Book New Say Hello 2

2. Presentation
2.1 นกั เรยี นทาํ กิจกรรมที่ 5 Look, listen and repeat. ขอ A. Listen and repeat. ใน SB หนา 51 ดงั น้ี
1) ครูสนทนาเกีย่ วกับภาพ โดยครชู ้ีทข่ี องเลนบนเตียงและออกเสยี ง toy 2-3 ครั้ง ชที้ ีเ่ กาอี้ โคมไฟ และรปู ภาพบน

ฝาผนงั ออกเสียงคาํ ศัพทใหน กั เรยี นออกเสียงตาม บอกใหน กั เรียนตัง้ ใจฟงเสยี งจาก CD อกี ครัง้ หนึ่ง
2) ครเู ปด CD 45 ใหนักเรยี นฟง กอน 1 ครั้ง และใหอ อกเสยี งและชี้ภาพตามในการฟง CD คร้ังท่ี 2

CD Script 45
W: 5. Look, listen and repeat.

A. Listen and repeat.
This is Tom’s bedroom.
Tom is sleeping in his bedroom.
The lamp is on the small table.
The toy is on his bed.
The picture is on the wall.
The wardrobe is in the room.
The socks are under the chair.

2.2 ใหน ักเรียนเดาความหมายของคําศพั ท ‘picture (รูปภาพ), ‘wardrobe (ตูเสือ้ ผา) และ lamp (โคมไฟ) แลว ออกเสียง
ตามครูอีกครง้ั หน่งึ

2.3 สอนการใช in, on, under โดยสงั เกตจากรูปภาพ (นกั เรียนเคยเรียนแลวในช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1)
ครู : Where is the toy? นกั เรยี น : It’s on the bed.
ครู : Where are the socks? นักเรียน : They are under the chair.

3. Practice
นกั เรียนจับคูถาม-ตอบ Where is the ………. ? และ Where are the ………. ? ใชภ าพท่ปี รากฏใน SB หนา 51

4. Production
นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมท่ี 8 Look, listen and write numbers 1-5 in the boxes (□). ใน WB หนา 44 ใหนักเรียนฟง CD 46

แลวเลอื กเขียนหมายเลข 1- 5 ลงในกรอบ □ ใหตรงกบั ภาพและประโยคทฟี่ ง

CD Script 46
W: 8. Look, listen and write numbers 1–5 in the boxes (□).

1. There is a bed in the room.
2. The socks are under the chair.
3. The toy is on the bed.
4. The book is on the chair.
5. The computer is on the desk.

Teacher’s Book New Say Hello 2 121

Answers
8. Look, listen and write numbers 1-5 in the boxes (□).

13

42

5
5. Wrap up

นักเรยี นรวบรวมคาํ ศพั ท จดลงในสมุดบนั ทึกคาํ ศัพท และคนควาหาคําศัพทเพ่มิ เตมิ เก่ียวกับเครอ่ื งใชในแตละหองจาก
Dictionary หรือ Internet

6. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 45-46
6.4 สมุดบันทกึ คาํ ศพั ท
6.5 Dictionary/Internet

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอ มูลเพิ่มเตมิ สําหรบั ครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

7.2 ขอ มลู เพิ่มเติมสําหรบั ครู

8. ความเหน็ ของผบู รหิ าร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

9. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู

9.1 ผลการจัดการเรียนรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญหาและการแกป ญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

122 Teacher’s Book New Say Hello 2

ครงั้ ที่ 6 SB หนา 52-54 WB หนา 45

1. เปาหมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตัวช้ีวัดช้ันป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตวั อกั ษรและเสยี ง อา นออกเสยี งคํา สะกดคาํ และอานประโยคงา ยๆ ถกู ตองตามหลกั การอาน
ต 1.1 ป.2/3 เลอื กภาพตรงตามความหมายของคํา กลุมคํา และประโยคทฟี่ ง
ต 1.1 ป.2/4 ตอบคําถามจากการฟงประโยค บทสนทนา หรอื นิทานงา ยๆ ทมี่ ภี าพประกอบ
ต 1.3 ป.2/1 พดู ใหข อมลู เก่ยี วกบั ตนเองและเรื่องใกลต ัว
ต 2.1 ป.2/3 เขา รวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะกบั วัย
ต 2.2 ป.2/1 ระบุตัวอักษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาตางประเทศและภาษาไทย
ต 3.1 ป.2/1 บอกคําศพั ทท ่เี ก่ยี วของกบั กลุมสาระการเรียนรูอื่น
ต 4.2 ป.2/1 ใชภ าษาตางประเทศเพอื่ รวบรวมคาํ ศัพทที่เก่ยี วของใกลตวั

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทกั ษะการฟง การพูด
2) ทักษะการสรางสรรคช ิน้ งาน

1.3 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
1) ความมงุ ม่นั ในการทาํ งาน
2) การรกั ความเปน ไทย

2. สาระการเรียนรู

Function: Asking and answering questions about locations
Structure: Where is the (lamp)?

It’s (on the table).
Vocabulary: คําศพั ทใ หม

sofa, shelf, TV, cabinet, sink, stove, pan, oven
คาํ ศพั ททบทวน

3. ภาระงาน/ชิ้นงาน/การปฏบิ ตั ิ

3.1 ถาม-ตอบเก่ียวกบั ตําแหนง ของส่งิ ของในหอ งนงั่ เลน/หอ งครวั

3.2 ทําภาระงาน My Family

4. แนวทางการประเมนิ

เปาหมาย หลกั ฐาน วิธวี ดั เคร่อื งมอื

ตวั ชี้วัด การออกเสียงคาํ ศพั ทและประโยค ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู
ต 1.1 ป.2/2 การชีท้ ีภ่ าพขณะฟง CD ประเมนิ การฟง แบบประเมินการฟง
ต 1.1 ป.2/3

Teacher’s Book New Say Hello 2 123

เปา หมาย หลกั ฐาน วิธีวัด เคร่ืองมือ
ต 1.1 ป.2/4 แบบประเมินการพูด
การตอบคําถามเกี่ยวกบั ตําแหนง ของ ประเมินการพดู
ต 1.3 ป.2/1 แบบประเมินภาระงาน
ต 2.1 ป.2/3 สิง่ ของ Where is …………? หลังการฟง CD และแบบประเมนิ การพูด
ต 2.2 ป.2/1 แบบประเมนิ พฤติกรรม
การนาํ เสนอภาระงาน ประเมินภาระงานและ
ต 3.1 ป.2/1 ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู

การแสดงทา ทางประกอบขณะรองเพลง สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ การพูด

Where is the father?

การเปรียบเทยี บเสยี ง /v/ กับเสยี งใน ประเมินการพูด

ภาษาไทย

การบอกคําศัพทห อ งตา งๆ และสง่ิ ของใน ประเมินการพูด

หอ งตางๆ

ต 4.2 ป.2/1 การรวบรวมจดบันทกึ คําศพั ท ตรวจสมุดบนั ทกึ คําศพั ท สมุดบนั ทกึ คําศพั ท

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค ความต้ังใจทําภาระงานจนแลว เสรจ็ สังเกตความมุงมนั่ ใน แบบสังเกตความมุงมัน่
1. ความมุงมั่นในการทํางาน การทาํ งาน ในการทาํ งาน
การใหค วามเหน็ เกย่ี วกบั บา นของคนไทย สังเกตการใหความเหน็ แบบสังเกตการรักความ
2. การรักความเปนไทย เปรียบเทยี บกับบา นสมัยใหมทั่วไป ในการเปรียบเทียบ เปน ไทย

5. กิจกรรมการเรียนรู

1. Warm up
1.1 ทบทวนคาํ ศัพทท่ีเรียนแลวโดยเลนเกม What is missing? มีวิธีเลนดังน้ี
1) ครูติดบัตรภาพสิ่งของในหองนอน (toy, socks, chair, picture, wardrobe, book) บนกระดานดํา นักเรียน

ทุกคนบอกคาํ ศัพท
2) ใหนักเรียนทุกคนหลับตา ระหวางน้ันครูหยิบภาพหนึ่งออกไปแลวใหนักเรียนลืมตา ครูถามวา What is

missing? (อะไรหายไป) นักเรียนอาจทายวา Is it a (book)? หรือ Are they (socks)? นักเรียนที่ทายถูกจะเปนผูออกมาหนา
ช้ันเรียน และเปนผูนาํ การเลนคนตอไป เลนพอสมควรกับเวลา

1.2 ใหน ักเรยี นรองเพลง Where is the father? จากกิจกรรมท่ี 5 Look, listen and repeat. ขอ B. Listen and sing. ใน
SB หนา 52 นกั เรยี นอานเนือ้ เพลง ครูถามความหมายของเนื้อเพลง โดยใชประโยค Where is ……………? เม่ือนักเรียนเขาใจแลวให
ฟง CD 47 ฝก รองตาม และรองพรอ มกันท้ังช้นั เรยี น

CD Script 47

W: 5. Look, listen and repeat.
B. Listen and sing.
Where is the father?
Tune: Are You Sleeping?
Where is the father?
Where is the father?
In the living room.
In the living room.

124 Teacher’s Book New Say Hello 2

Where is the mother?
Where is the mother?

In the kitchen.
In the kitchen.
1.3 ครูใหนักเรยี นสงั เกตประโยคคําถาม Where is the father? และ Where is the mother? ชี้แจงเพิ่มเติมวาเราใช the
นาํ หนาคํานาม เพราะเปนการชเี้ ฉพาะถงึ คาํ นามทเ่ี คยกลาวถงึ มากอ นแลว
2. Presentation
2.1 ใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 5 Look, listen and repeat. ขอ C. Listen and repeat. ใน SB หนา 53 นักเรียนดูภาพ
‘Living room และอานคําศัพทท่ีปรากฏ คําศัพทสวนใหญเปนคําศัพททบทวน คําศัพทใหมมีเพียง 4 คํา คือ sofa, shelf, TV และ
cabinet
2.2 ดภู าพ Kitchen เดาความหมายของศพั ทท ปี่ รากฏ คอื sink, stove, pan และ oven
2.3 ครฝู กการออกเสียงเนนหนักในคาํ ‘sofa, ‘cabinet, ‘oven, ‘garbage can ใหถกู ตอง ฝก ใหออกเสียง /v/ ในคํา stove
/stoʊv/ และ oven /’ʌvn/ ใหถ กู ตอ ง ซกั ถามนักเรยี นวาในภาษาไทยมเี สียง /v/ หรือไม จะสรปุ ไดวา เสียง /v/ ไมมใี นภาษาไทย
2.4 ใหน กั เรยี นฟง CD 48 และฝก ออกเสียงตาม CD ใหถกู ตอ ง ขณะออกเสยี งใหช้ีภาพตามไปดว ย
CD Script 48
W: 5. Look, listen and repeat.
C. Listen and repeat.
Tom’s living room
Living room
lamp sofa books shelf TV vase cabinet
Tom’s kitchen

Kitchen
sink stove pan oven broom garbage can

2.5 ครถู ามตําแหนง ของส่ิงของ โดยใชประโยค
Where is / Where are the …..? เพือ่ ใหน ักเรยี นตอบตามตาํ แหนงของภาพที่ปรากฏ
It’s
in/on/under the ….. .
They are
เชน (ครู) Where are the books?
(นักเรยี น) They are on the shelf.

3. Practice
นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 5 Look, listen and repeat. ขอ D. Talk with your friends. ใน SB หนา 53 จับคูฝกถาม-ตอบ

เกย่ี วกบั ตาํ แหนงของสง่ิ ของในหนา น้ี โดยใชป ระโยค Where is/are the ……………? ครคู อยเดินดูใหค วามชวยเหลืออยางใกลช ดิ

Teacher’s Book New Say Hello 2 125

4. Production
4.1 นกั เรียนศึกษากิจกรรมท่ี 6 Learn more. ใน SB หนา 54 ครูชี้แจงคําสั่งของกิจกรรม คือ ใหนักเรียนวาดภาพหองใน

บานและครอบครัวของนักเรียนพรอมเขียนคําอธิบายประกอบใน WB หนา 45 โดยใหนักเรียนดูตัวอยางของรูปภาพ และประโยค
บรรยายภาพในหนานี้ ใหน กั เรยี นอานประโยคบรรยายภาพพรอมกนั หลังจากน้ันใหเปด WB หนา 45 อานคําส่ังกิจกรรมท่ี 9 Draw
and write.

4.2 กอนลงมอื ทําภาระงาน ครูใหน ักเรียนดูภาพบานทรงไทยและบานสมัยใหมที่เตรียมมา พรอมทั้งภาพหองตางๆ ใน
บา น สนทนากบั นกั เรยี นเรอื่ งความเหมือนและความแตกตางของบาน สภาพตางกันอยางไร ลักษณะของบานเปนอยางไร นักเรียนชอบ
บานสมยั เกา หรือสมัยใหม หลังจากน้ันใหนักเรียนลงมือวาดภาพหองในบานพรอมสมาชิกตามใจชอบ เขียนบรรยายภาพ ตกแตงให
สวยงาม เม่อื ทําเสรจ็ แลวใหอ อกมานาํ เสนอหนา ชั้นเรียน

5. Wrap up
นักเรยี นจดคาํ ศพั ทใ หมลงในสมดุ บันทกึ คําศพั ท

6. ส่อื /แหลง การเรียนรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 47-48
6.4 บัตรภาพสิ่งของในหอ งนอน
6.5 ภาพบา นทรงไทย และบานสมยั ใหม
6.6 สมุดบันทกึ คําศัพท

7. กิจกรรมเสนอแนะ/ขอมลู เพิม่ เตมิ สําหรบั ครู

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

7.2 ขอ มลู เพิม่ เติมสําหรบั ครู

8. ความเห็นของผบู ริหาร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

9. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู

9.1 ผลการจัดการเรยี นรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญ หาและการแกปญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

126 Teacher’s Book New Say Hello 2

ครงั้ ที่ 7 SB หนา 55-56 WB หนา 46-48

1. เปาหมายการเรียนรู

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตัวช้วี ัดช้ันป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสยี ง อา นออกเสยี งคํา สะกดคํา และอานประโยคงา ยๆ ถูกตองตามหลกั การอาน

1.2 ทักษะกระบวนการเรียนรู
1) ทักษะการฟง
2) ทกั ษะการคิด (การสรุปองคความรู)
3) ทกั ษะการประเมนิ ตนเอง

1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค
1) ความซอื่ สตั ย
2) ความมงุ มน่ั ในการทํางาน

2. สาระการเรยี นรู

Reviewing sounds and evaluating language progress: vocabulary and structures from this unit
Structure: – (Tom’s father) is a doctor.

– Tom is (in the bedroom).
– The toy is (in the box).
Vocabulary: father, mother, brother, sister, baby, bedroom, kitchen, living room, wardrobe, sofa, shelf, pan, oven, in
Pronunciation: //, /ð/

3. ภาระงาน/ช้นิ งาน/การปฏบิ ัติ

3.1 ออกเสยี ง // และ /ð/
3.2 ทาํ Mind Map
3.3 ทาํ แบบประเมินตนเอง (Things I can do.)
3.4 ทาํ แบบทดสอบทา ยหนวย (Test yourself.)

4. แนวทางการประเมนิ

เปา หมาย หลักฐาน วธิ วี ัด เครือ่ งมอื
ตวั ช้วี ดั ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพูด
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสยี ง // และ /ð/
ตามหลกั การอาน สงั เกตพฤติกรรมการทํา แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
คุณลักษณะอนั พึงประสงค แบบประเมนิ ตนเอง และแบบประเมนิ ตนเอง
1. ความซ่ือสตั ย การทําแบบประเมนิ ตนเอง (Things
I can do.) ตามความเปนจรงิ

Teacher’s Book New Say Hello 2 127

เปาหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวัด เครือ่ งมือ
2. ความมงุ มั่นในการทํางาน แบบประเมินพฤติกรรมและ
การทาํ Mind Map และการทํา สังเกตความมงุ ม่นั ในการทํา แบบทดสอบทายหนว ย

แบบทดสอบทายหนว ย (Test Mind Map และแบบทดสอบ

yourself.) ดว ยความต้ังใจ ทายหนวย แลว ตรวจแบบทดสอบ

5. กจิ กรรมการเรียนรู

1. Review
1.1 ครูทบทวนคาํ ศัพทและโครงสรา งประโยคตอ ไปน้ีโดยการใชรูปภาพ
คาํ ศพั ท : father, mother, brother, sister, baby, bedroom, kitchen, living room, wardrobe, sofa, shelf, pan, oven, in
โครงสรา งประโยค : – (Tom’s father) is a doctor.
– Tom is (in the bedroom).
– The toy is (in the box).
1.2 นกั เรียนทาํ กิจกรรมท่ี 7 Say the words. ใน SB หนา 55 นักเรียนดูภาพ สังเกตการขีดเสนใตที่อักษร th ระหวาง

สระและการออกเสยี ง th ที่ตน คาํ ในแตละคํา นักเรียนเคยออกเสียงคําเหลา นีแ้ ลวในหนวยนี้ นกั เรียนฟง CD 49 และฝกออกเสียงให
ถูกตองชัดเจนอกี ครั้งหนงึ่ ใหน ักเรยี นตัง้ ใจฟง CD และฝก ออกเสียงตาม

CD Script 49 father mother three
W: 7. Say the words.

brother

จะเหน็ วา th ในคํา father, mother, brother ออกเสยี ง /ð/ สวน th ในคํา three ออกเสียง //
1.3 ครูและนกั เรยี นชว ยกนั ทาํ Mind Map สิ่งที่เรียนรูในหนวยการเรียนรูน้ี ไดแก คําศัพท โครงสรางประโยค และ
ภาระงาน

128 Teacher’s Book New Say Hello 2

ตัวอยาง My Family

Sentences Vocabulary Task

– Who’s (she)? family, father, mother, brother, วาดภาพ My Family และ
She’s my (mother). sister, people, baby, bedroom, นําเสนอ
kitchen, living room, wardrobe,
– How many people are there in your family? lamp, sofa, shelf, TV, cabinet,
There are (five) people. sink, stove, pan, oven, handsome,
pretty, naughty, cute, smart, in,
– Here’s (my father). on, under
– He’s (a doctor).
– He’s (handsome).
– I am (in the bedroom).
– The picture is (on the wall).
– The socks are (under the chair).
– Where is the (lamp)?

It’s (on the table).

1.4 ครนู าํ นักเรียนอานออกเสียงประโยคและคาํ ศัพทใ น Mind Map พรอมกันท้งั ช้นั เปน กลมุ และรายบคุ คล
2. Evaluation

2.1 ครูสาํ เนาเอกสารแบบประเมินตนเองตามกิจกรรมท่ี 8 Things I can do. ใน SB หนา 56 นักเรียนประเมินตนเอง

ถาพูดหรือเขียนได ใหเขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในกรอบ □ ถา พดู หรอื เขียนไมได ใหเ ขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในกรอบ □ ดงั น้ี
ขอ 1. I can say the words: ประเมินการออกเสียงคาํ ศพั ททีก่ าํ หนด
ขอ 2. I can ask and answer: ประเมินการถามและตอบคําถามจากภาพ
ขอ 3. I can write about my family. ประเมินตนเองจากกจิ กรรมที่ 9 Draw and write. ใน WB หนา 45

2.2 ประเมนิ ดวยแบบทดสอบทายหนวยในกิจกรรมท่ี 10 Test yourself. ใน WB หนา 46-48 ดังน้ี
– ขอ A. Label Tom’s family. ใน WB หนา 46 ใหนักเรียนเขียนคาํ ศพั ทใ ตภาพ Tom’s Family

Answers
10. Test yourself.

A. Label Tom’s family.

father mother
brother sister

Teacher’s Book New Say Hello 2 129

– ขอ B. Listen and circle. ใน WB หนา 46 ใหนักเรียนฟง CD 50 และวงกลมลอมรอบรูปภาพท่ีสัมพันธกับ
ประโยคท่ีไดยินจาก CD ใหถ ูกตอ ง

CD Script 50 2. Tom’s father is a doctor. 3. The toy is in the box.

W: 10. Test yourself.
B. Listen and circle.
1. Tom’s sister is a baby.

Answers
B. Listen and circle.

– ขอ C. Look and write. ใน WB หนา 47 ใหน กั เรียนเติมคาํ ใหต รงกบั ภาพ

Answers 2. His father is in the living room. 3. His mother is in the kitchen.
C. Look and write.

1. Tom is in the bedroom.

130 Teacher’s Book New Say Hello 2

– ขอ D. Label the pictures. ใน WB หนา 48 ใหน ักเรียนเขียนคาํ ศัพทของแตล ะภาพ

Answers
D. Label the pictures.

picture wardrobe

shelf
cabinet
sofa

pan

garbage can

oven

2.3 ครสู รปุ ผลการประเมนิ แจง ใหนกั เรยี นทราบโดยภาพรวม และอธิบายแกไขขอบกพรองท่ีพบ เพื่อการพัฒนาตนเอง
ของนักเรียน

6. สื่อ/แหลง การเรยี นรู

6.1 Student’s Book 2
6.2 Workbook 2
6.3 CD 49-50
6.4 รปู ภาพคาํ ศัพทที่ทบทวน

Teacher’s Book New Say Hello 2 131

7. กจิ กรรมเสนอแนะ/ขอ มูลเพ่มิ เติมสําหรับครู

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ

7.2 ขอมูลเพม่ิ เติมสําหรับครู

8. ความเหน็ ของผูบริหาร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

9. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู

9.1 ผลการจดั การเรียนรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9.2 ปญ หาและการแกปญ หา ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

132 Teacher’s Book New Say Hello 2

การออกแบบหนว ยการเรียนรู

Unit 6 On the Farm เวลา 6 ชวั่ โมง

1. สาระสําคัญ

การเรียนรู และฝกการใชภ าษาเกย่ี วกบั ทีอ่ ยูอาศัยและความสามารถของสัตวในฟารม รวมทั้งการทํากิจกรรมเลียนเสียง
รอ งของสตั ว จะทําใหก ารเรยี นภาษาเปน ไปอยา งมีความหมาย นักเรยี นจะสามารถจดจาํ นาํ ภาษาไปใชได

2. เปา หมายการเรยี นรู

2.1 มาตรฐานการเรยี นรู และตวั ช้วี ดั ชัน้ ป

ต 1.1 ป.2/1, 2, 3, 4
ต 1.2 ป.2/2, 4
ต 1.3 ป.2/1
ต 2.1 ป.2/1, 3
ต 3.1 ป.2/1
ต 4.1 ป.2/1
ต 4.2 ป.2/1

2.2 สาระการเรียนรู

2.2.1 ความรู

Function Structure Vocabulary Pronunciation
vacation, farm, animal, cow, pig,
1. Talking about farm animals Are there any (goats)? horse, duck, goat, rabbit, chicken
2. Identifying quantities –
3. Talking about animals’ Yes, there are./No, there aren’t. swim, fly, bark, sing
– There is (a cow).
abilities – There are (two cows). moo moo, quack quack,
– (A duck) can (swim). neigh neigh, oink oink,
4. Describing farm animals – (A chicken) cannot (bark). cluck cluck
and their sounds – Can (a duck) (swim)?

Yes, it can.
– Can (a goat) (fly)?

No, it can’t.
– What can (it) do?
It can (swim).
– It has (four legs).

– It says (moo, moo).

Teacher’s Book New Say Hello 2 133

Function Structure Vocabulary Pronunciation
– Whose (milk) is this? pen, bee, milk, sting, whose
5. – Asking for and giving
information about what It’s my (milk). cow, pig, horse, duck, goat, /s/, /z/
someone has rabbit, chicken, swim, fly, bark,
– Giving commands – Don’t (drink) it. sing
– There is (a cow).
6. Reviewing sounds and – There are (two pigs).
evaluating language – (A duck) can (swim).
progress: vocabulary and – (A horse) cannot (sing).
structures from this unit

2.2.2 ทกั ษะการเรียนร/ู กระบวนการคิด
1) ทกั ษะการฟง การพูด
2) ทกั ษะการนาํ เสนองาน
3) ทักษะการคิด (การเดาความหมาย การวเิ คราะห การสรปุ องคความรู)
4) ทกั ษะการสรา งสรรคช นิ้ งาน
5) ทักษะการพดู ประกอบจงั หวะ
6) ทักษะกระบวนการกลมุ
7) ทักษะการใชภ าษาเพ่อื สอ่ื สาร
8) ทกั ษะการประเมินตนเอง

2.2.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค
1) ความมุงมน่ั ในการทาํ งาน
2) การอยูอยางพอเพียง
3) ความเชื่อม่ันและกลา แสดงออก
4) การใฝเรยี นรู
5) ความมีวินยั
6) การมีจติ สาธารณะ
7) ความซ่ือสตั ย
8) ความสนกุ สนานในการเรียน

3. ชุดคาํ ถามท่ีสําคัญ

3.1 What are farm animals?
3.2 What can each animal do?
3.3 Can you draw and write about farm animals?

4. ภาระงาน

วาดภาพ My Farm และนาํ เสนอ

134 Teacher’s Book New Say Hello 2

5. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู

หลกั ฐาน กจิ กรรม ส่อื /อปุ กรณ
บอกชื่อสัตวใ นฟารม ทาํ Mind Map เก่ียวกบั Farm animals หนังสือเรียน
บอกขอ มูลสัตวใ นฟารม จับคบู อก There is/There are CD/แบบฝก หดั
ถาม-ตอบความสามารถของสัตวในฟารม ถาม-ตอบ What can (a duck) do? เกม/บัตรคาํ /บัตรภาพ
การบอกขอมลู เกย่ี วกับสัตว คิดปริศนาคาํ ทาย หนงั สอื เรียน
ระบุตวั อกั ษร คาํ ประโยค ฝก ออกเสียง ท้ังเปน รายบคุ คล และจบั คฝู ก นักเรยี น
การสรา งสรรคช ิ้นงาน วาดภาพและเขียนเกย่ี วกับ My Farm ภาพ My Farm
กจิ กรรมรวบรวมคําศัพท จดคาํ ศัพทล งในสมุดบนั ทกึ คาํ ศพั ท สมดุ บันทึกคาํ ศพั ท
การทํา Mind Map สรุปองคค วามรู ทาํ Mind Map เกี่ยวกับ Farm กจิ กรรม Mind Map

การประเมินตนเอง ทําแบบประเมินตนเองจากกิจกรรม (Things I can do.) แบบประเมินตนเอง

การประเมนิ ภาคความรู ทําแบบทดสอบทายหนว ย (Test yourself.) แบบทดสอบทา ยหนว ย

6. แผนการวดั และประเมนิ ผล

6.1 ประเมนิ ตามสภาพจรงิ โดยใชแ บบประเมนิ ซง่ึ มีรายละเอียดการประเมินอยใู นแผนการเรยี นรูแตละแผน
6.2 ประเมินดว ยแบบประเมินตนเอง
6.3 ประเมนิ ดว ยแบบทดสอบทายหนวย

7. ความสัมพันธกับกลมุ สาระการเรียนรอู นื่

7.1 ภาษาไทย
7.2 วทิ ยาศาสตร
7.3 คณิตศาสตร

8. แผนการจัดการเรียนรู

ครัง้ ที่ 1 SB หนา 57 WB หนา 49
1. เปา หมายการเรยี นรู

1.1 มาตรฐานการเรียนรู และตวั ช้วี ัดช้ันป
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตวั อกั ษรและเสยี ง อา นออกเสยี งคาํ สะกดคํา และอา นประโยคงา ยๆ ถกู ตอ งตามหลักการอา น
ต 1.1 ป.2/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคาํ กลุมคํา และประโยคทฟี่ ง
ต 3.1 ป.2/1 บอกคําศัพททเี่ กีย่ วขอ งกบั กลุมสาระการเรียนรอู ่ืน
ต 4.2 ป.2/1 ใชภาษาตา งประเทศเพ่อื รวบรวมคาํ ศพั ททเี่ ก่ียวของใกลตัว

Teacher’s Book New Say Hello 2 135

1.2 ทักษะกระบวนการเรยี นรู
1) ทกั ษะการฟง การพูด
2) ทกั ษะการคิด

1.3 คุณลักษณะอนั พึงประสงค
1) การใฝเ รียนรู
2) ความมงุ ม่นั ในการทาํ งาน

2. สาระการเรียนรู

Function: Talking about farm animals
Structure: Are there any (goats)?

Yes, there are./No, there aren’t.
Vocabulary: คาํ ศพั ทใ หม

vacation, farm, animal, cow, pig, horse, duck, goat
คําศัพททบทวน
rabbit, chicken

3. ภาระงาน/ช้ินงาน/การปฏบิ ตั ิ

บอกชื่อสัตวในฟารม

4. แนวทางการประเมิน

เปา หมาย หลักฐาน วธิ ีวดั เครือ่ งมือ
ตัวช้วี ัด
ต 1.1 ป.2/2 การออกเสียงคาํ ศพั ท ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด
ต 1.1 ป.2/3 การฟง CD และระบุรูปภาพ ประเมินการฟง แบบประเมนิ การฟง
ต 3.1 ป.2/1 การบอกชือ่ สตั วใ นฟารม ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู
ต 4.2 ป.2/1 การรวบรวมจดบนั ทึกคําศพั ท ตรวจสมุดบนั ทึกคําศพั ท สมุดบันทกึ คําศัพท
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค
1. การใฝเรยี นรู การคน ควา หารายชื่อสัตวใน สังเกตการใฝเ รียนรู แบบสงั เกตการใฝเรียนรู
ฟารมชนิดอื่นๆ
2. ความมุงมน่ั ในการทํางาน การรวบรวมจดบนั ทึกคําศพั ท สังเกตความมงุ มนั่ ในการทาํ งาน แบบสังเกตความมุงม่ันใน
การทํางาน

136 Teacher’s Book New Say Hello 2

5. กจิ กรรมการเรียนรู

1. Warm up
1.1 ครสู นทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกับสัตวเล้ียงในบาน ซ่งึ เคยเรยี นมาแลวในชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 1 ใหนักเรียนบอกชื่อ

สัตวเล้ียง (dog, cat, fish, bird) ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับสัตวอ่ืนๆ ที่เลี้ยงไวเพ่ือขาย ครูเขียน Mind Map เรื่องสัตวในฟารม (Farm
animals) ใหนักเรียนบอกช่ือสตั วในฟารม ครเู ขยี นคาํ ศัพททั้งภาษาไทยและภาษาองั กฤษบนกระดานดํา

สัตวในฟารม
Farm animals

1.2 ครูถามนักเรียนตอไปวา ความรูเกี่ยวกับสัตวในฟารมน้ี นักเรียนเรียนรูในกลุมสาระใด (วิทยาศาสตร) ครูให
นักเรียนอา นคาํ วา Farm animals ตามครู และบอกนักเรียนวา ในหนว ยการเรยี นรูน ้ี นกั เรยี นจะไดเ รยี นรายละเอยี ดเก่ียวกับช่ือสตั วใน
ฟารม สตั วพ วกนท้ี ําอะไรไดบา ง และจะไดว าดภาพสตั วในฟารมทช่ี อบ

2. Presentation
นกั เรียนทาํ กิจกรรมท่ี 1 Look, listen and repeat. ใน SB หนา 57
1) ครูใชคําส่งั Open your Student’s Book to page 57. เม่ือนักเรยี นเปดหนังสอื เรียนหนา 57 แลว ใหดูภาพท่ีปรากฎใน

หนังสอื เรียน ครถู าม What animals can you see in the picture? เมื่อนักเรียนตอบ ครูเขียนช่ือสัตวบนกระดานดํา ทั้งภาษาไทยและ
ภาษาองั กฤษ เปรียบเทียบกับผังความคิดในข้ัน Warm up วาเหมือนหรือตางกันอยางไร ใหนักเรียนฟง CD 51 เพ่ือเรียนรูคําศัพท
เพ่มิ เติม และออกเสยี งใหถ ูกตอ ง

CD Script 51
W: 1. Look, listen and repeat.

Tom and his friends are on vacation. They go to his uncle’s farm. Look! There are many animals: cows, pigs,
rabbits, horses, chickens, ducks and goats.

B1: Are there any goats?
M: Yes, there are.
B2: Are there any snakes?
M: No, there aren’t.
2) ครูเขยี นคาํ ศพั ทที่ปรากฏในบทเรียนเพิ่มบนกระดานดํา ฝกออกเสียงใหถูกตอง และเขียนชื่อสัตวเปน 3 columns
ดังนี้

/s/ /z/ /ɪz/
ducks cows horses
goats pigs
rabbits chickens
ครูใหน กั เรยี นออกเสยี ง /s/, /z/ และ /ɪz/ ตามครู และฝกออกเสียงแตล ะ column ใหถ ูกตอง

Teacher’s Book New Say Hello 2 137

3) ใหนักเรียนฟง CD อีก 1 ครั้ง และพูดตาม CD พรอ มกบั ชที้ รี่ ูปภาพ
4) ครูถามนักเรียนเก่ียวกับสัตวในภาพดวยประโยค Are there any …………….? ใหนักเรียนดูภาพ ถามีใหตอบ Yes,
there are. ถาไมมีใหต อบ No, there aren’t. ใหนกั เรียนตอบทงั้ ช้นั เรยี น เปนกลุม และรายบคุ คล
3. Practice
3.1 นักเรยี นจบั คูกบั เพอื่ นแลวผลดั กนั ถาม-ตอบเหมอื นกจิ กรรมในขอ 4)
3.2 นักเรียนทํากิจกรรมท่ี 1 Match and trace. ใน WB หนา 49 เขียนตามเสนประแลวจับคูรูปภาพกับคําศัพทให
ถูกตอ ง
Answers
1. Match and trace.

horses

cows

goats

ducks

pigs

4. Production
ใหนักเรียนอาสาสมัครออกมาหนาช้ันเรียน เลือกถามเพ่ือนคนใดคนหนึ่งหรือทั้งชั้นเรียนดวยประโยค Are there any

…………….? โดยใชรปู ภาพจาก SB หนา 57 ในการตอบคําถาม ถา มใี หตอบ Yes, there are. ถาไมม ีใหตอบ No, there aren’t.
5. Wrap up
5.1 เสนอแนะใหนักเรียนคนควา หารายช่อื สัตวใ นฟารม ชนดิ อนื่ ๆ จาก Picture Dictionary แลว นํามาเสนอหนา ชนั้ เรียน

ในโอกาสตอ ไป
5.2 นักเรียนรวบรวมคาํ ศพั ทใหม จดลงในสมุดบันทกึ คําศพั ท

138 Teacher’s Book New Say Hello 2

[Update] สรุปเนื้อหารายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา (พต11001) Pages 1 – 50 – Flip PDF Download | เรียน ภาษา อังกฤษ ยู ทู ป – NATAVIGUIDES

No Text Content!

เอกสารสรุปเนื้อหาทต่ี อ งรู รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษา รหสั พต11001 หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 สํานกั งานสง เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สํานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หามจาํ หนาย หนังสอื เรยี นนจี้ ดั พิมพดว ยเงนิ งบประมาณแผนดนิ เพอื่ การศกึ ษาตลอดชวี ติ สาํ หรบั ประชาชน ลิขสิทธ์ิเปน ของสาํ นักงาน กศน.สํานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร

สารบญั หนา คาํ นํา 1 คาํ แนะนําการใชเ อกสารสรปุ เนอ้ื หาทตี่ อ งรู 1 บทที่ 1 การทกั ทายและการตอบรบั การทกั ทาย 2 2 เรื่องท่ี 1 การทักทายชวงเวลาตา งๆ 4 เรอ่ื งท่ี 2 การทกั ทายบุคคลเมื่อพบกนั ครง้ั แรก 6 เร่ืองที่ 3 การทักทายบุคคลทีร่ ูจ กั กันมากอน 6 กิจกรรมทา ยบท 7 บทท่ี 2 การแนะนําตนเองและการแนะนําผอู น่ื 9 เรื่องท่ี 1 การแนะนําตนเองกับผูอืน่ 10 เรอ่ื งที่ 2 การแนะนาํ ผอู ื่นใหร จู กั กนั 10 กจิ กรรมทา ยบท 11 บทที่ 3 การกลา วลาและการตอบรบั การกลาวลา 12 เรอ่ื งท่ี 1 การกลาวเวลาท่วั ไป 13 เรอื่ งท่ี 2 การกลา วลากอ นการเดนิ ทาง 14 เร่ืองท่ี 3 การกลา วลาทางโทรศัพท 15 เร่อื งที่ 4 การกลาวลาหลังงานเลี้ยงเลิก 18 เรือ่ งท่ี 5 การกลาวลากอนเขา นอน 18 กิจกรรมทา ยบท 19 บทที่ 4 การเขียน การอานพยญั ชนะ สระ และการประสมคํา 19 เรอ่ื งท่ี 1 การเขยี นพยญั ชนะ 21 เรอ่ื งท่ี 2 การออกเสียงสระแทแ ละสระประสม เรื่องที่ 3 วธิ กี ารประสมคํา กจิ กรรมทายบท

สารบัญ (ตอ ) หนา บทที่ 5 จาํ นวนนับและลําดับที่ 24 เรอ่ื งที่ 1 การอานและเขยี นจาํ นวนนับ 24 เรื่องท่ี 2 การอา นและเขียนเลขลําดบั ที่ 25 เรอ่ื งที่ 3 การเขยี นประโยคทมี่ ีจาํ นวนนบั หรือลาํ ดับท่ี 27 เรอ่ื งที่ 4 การพูดประโยคท่ีมีจํานวนนบั หรอื ลําดบั ที่ 28 กิจกรรมทา ยบท 29 35 บทท่ี 6 คาํ นามและคาํ ศพั ทห มวดตาง ๆ 35 เรอ่ื งท่ี 1 ลกั ษณะและวิธีการใชคํานาม 37 เร่ืองที่ 2 คําศัพทเกี่ยวกับเครือญาติ 38 เรอ่ื งที่ 3 คําศพั ทเ กี่ยวกบั วัน เดือน ป 40 เรอ่ื งที่ 4 คาํ ศัพทเกย่ี วกับสี 41 เรื่องที่ 5 คาํ ศัพทเกีย่ วกับเครื่องใชใ นชวี ิตประจาํ วนั 42 เรอ่ื งท่ี 6 คําศพั ทเ กีย่ วกับสภาพดนิ ฟาอากาศ 43 กิจกรรมทายบท 50 50 บทที่ 7 สญั ลักษณ Sign 51 เรื่องท่ี 1 สญั ลกั ษณต ามทอ งถนน 52 เรื่องที่ 2 สัญลักษณท พี่ บบรเิ วณโรงบาล 53 เรื่องท่ี 3 สัญลกั ษณที่พบบริเวณโรงเรยี น 56 กิจกรรมทา ยบท 56 57 บทที่ 8 การขอรอ ง การออกคําสงั่ และการขอโทษ 59 เรอ่ื งที่ 1 การพูดขอรองและการตอบรับ 60 เรื่องที่ 2 การออกคําส่งั และการตอบรับ เรื่องที่ 3 การขอโทษและการตอบรบั กจิ กรรมทา ยบท

สารบญั (ตอ ) หนา บทที่ 9 ประโยคความเดยี ว (Simple Sentence) 63 เรอ่ื งท่ี 1 การสรางประโยคความเดยี วดวย Present Simple Tense 63 เรอื่ งท่ี 2 การสรางประโยคความเดียวดว ย Present Continuous Tense 68 เรื่องที่ 3 การสรางประโยคความเดียวดว ย Future Simple Tense 70 กจิ กรรมทายบท 72 บทท่ี 10 ประโยคคาํ ถาม ประโยคคําตอบ คาํ สรรพนาม คาํ บพุ บท และคาํ คณุ ศพั ท 75 เรื่องที่ 1 คาํ สรรพนาม (Pronoun) 75 เรอ่ื งท่ี 2 คาํ บพุ บท (Preposition) 76 เรอ่ื งท่ี 3 คาํ คณุ ศัพท (Adjective) 77 เรอ่ื งที่ 4 ประโยคคําถามและประโยคคาํ ตอบ (Questions & Answers) 79 กจิ กรรมทา ยบท 83 บทที่ 11 ภาษาองั กฤษสําหรบั อาชพี แมบ า น 85 เรื่องที่ 1 การทักทาย การตอบรบั การทักทาย และการแนะนําตนเอง 85 เรอ่ื งที่ 2 การกลา วลา และการตอบรับการกลา วลา 86 เรอ่ื งที่ 3 คําศัพททเ่ี ก่ยี วขอ งกับอาชพี แมบาน 87 เรื่องที่ 4 การขอรองและการขอโทษ 89 เรือ่ งที่ 5 สํานวนท่คี วรรู 90 กิจกรรมทายบท 91 เฉลยกิจกรรมทา ยบท 93 บรรณานกุ รม 110 คณะผจู ัดทํา 111

คําแนะนําการใชเ อกสารสรุปเนอ้ื หาทีต่ องรู หนังสือเรยี นสรปุ เนอ้ื หารายวชิ าแบบเรยี น กศน. หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เปนหนงั สอื สรปุ เนือ้ หาที่จดั ทาํ ขึน้ เพอื่ ใหผูเรียนทเ่ี ปน นกั ศึกษา กศน. สามารถทําความเขาใจ และเรียนรูในสาระสําคัญของเนื้อหารายวิชาสําคัญ ๆ ได สะดวก และสามารถเขาถงึ แกนของเน้อื หาไดด ขี ึ้น ในการศึกษาหนงั สอื สรุปเน้อื หารายวชิ า ผูเ รียนควรปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. ศึกษาโครงสรางรายวชิ าจากหนังสอื ใหเ ขาใจในหัวขอ และสาระสาํ คัญ ผลการเรยี นรู ทค่ี าดหวงั และขอบขา ยเนอ้ื หาของรายวิชานนั้ ๆ เขาใจกอน 2. ศกึ ษารายละเอยี ดเนอ้ื หาของหนังสอื สรุปเนื้อหาหนังสอื เรยี นเลมนี้ โดยศกึ ษาแตละบท อยางละเอียด ทําแบบฝกหัดหรือกจิ กรรมตามทีก่ าํ หนด และทาํ ความเขาใจในเนื้อหาใหมใหเขาใจ กอ นท่ีจะศึกษาเร่อื งตอ ๆ ไป 3. หากตอ งการศึกษา รายละเอียดเนอื้ หาเพิ่มเตมิ จากหนังสือสรุปเนือ้ หาหนงั สือเรยี นนี้ ใหผ เู รยี นศึกษาเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น หรือครผู ูส อนของทา น

1 บทที่ 1 การทกั ทายและการตอบรบั การทกั ทาย เรอื่ งที่ 1 การทกั ทายชว งเวลาตา ง ๆ การทกั ทายแบบเปนทางการใชกบั บุคคลท่ีอาวโุ สกวา หรือในวงการธรุ กจิ และราชการ ใหฝกทกั ทาย ดงั นี้ Good morning (กดู มอรน ิ่ง) สวัสดีตอนเชา Good afternoon (กดู อฟั เตอรน ูน) สวัสดตี อนบา ย Good evening (กูด อฟี ฟนงิ่ ) สวสั ดตี อนค่าํ ผูกลา วตอบจะตอบเชนเดียวกับคําทกั ทายน้ันๆ 1.1 Good night ใชพ ดู เพ่ือลาจากกันยามคํ่าคืนเทา นั้น Good morning, Manee Good afternoon, (มาน)ี Good evening, Good night, 1.2 การทักทายแบบไมเ ปนทางการ ใชกับคนท่ีเราคนุ เคย Hi (ไฮ) สวสั ดี Hello (เฮลโล) สวสั ดี Hi, Somsri Hello, (สมศรี) EN101001 บทที่ 1 การทกั ทายและการตอบรบั การทกั ทาย เรอ่ื งท่ี 1 การทักทายชว งเวลาตางๆ

2 เร่ืองที่ 2 การทกั ทายบคุ คลเม่ือพบกันคร้งั แรก หลงั จากการทกั ทายอาจเปนคําถาม ดังนี้ Manee: How do you do? ยนิ ดที ีไ่ ดรูจกั (ฮาว ดู ยู ดู) Mali : How do you do? ยนิ ดที ไี่ ดรูจกั (ฮาว ดู ยู ดู) ตวั อยาง การทกั ทายเมอื่ พบกันคร้งั แรก Manee : Good morning. How do you do? Mali : Good morning. How do you do? EN101002 บทท่ี 1 การทกั ทายและการตอบรบั การทกั ทาย เรอ่ื งท่ี 2 การทักทายบุคคลเมอื่ พบกนั ครั้งแรก เร่ืองที่ 3 การทกั ทายบคุ คลทร่ี ูจักกนั มากอน หลังการทกั ทายแลว ตามดวยคาํ ถาม เกยี่ วกบั สขุ ภาพ เชน การทักทาย ตวั อยา งที่ 1 กรณี ปกติสบายดี Manee: Good morning, Mali. (กูด มอรน ง่ิ มะล)ิ สวสั ดี มะลิ Mali : Good morning, Manee. How are you? (กดู มอรน ิ่ง มานี ฮาว อาร ยู) สวสั ดี มานี คุณเปน อยางไร Manee : Fine, thank you. And how are you? (ไฟน แตงค คิว แอนด ฮาว อาร ย)ู สบายดี ขอบคุณ แลวคณุ ละ เปนอยา งไร

3 Mali : Fine, thank you. (ไฟน แตงค ควิ ) สบายดี ขอบคณุ ตัวอยางที่ 2 การทกั ทายกรณีไมส บาย Somsak : Good afternoon, Mana. สมศกั ดิ์ (กดู อัฟเตอรนนู มานะ) สวัสดีตอนบาย มานะ Mana : Good afternoon, Somsak. How are you? มานะ (กดู อฟั เตอรนนู สมศกั ดิ์ ฮาว อาร ยู) สวสั ดีตอนบา ยสมศักด์ิ คุณเปน อยา งไร? Somsak : I’m not so well today. สมศักด์ิ แอม นอต โซ เวลล ทูเดย) วันนฉี้ ันไมคอ ยสบาย I have a fever. (ไอ แฮฟ อะ ฟเวอร) ฉันเปนไข Mana :Take care of yourself. มานะ (แทค แคร ออฟ ยวั รเซล็ ฟ) ดแู ลสุขภาพดว ยนะ EN101003 บทท่ี 1 การทกั ทายและการตอบรบั การทักทาย เรอ่ื งที่ 3 การทกั ทายบุคคลทร่ี จู กั กันมากอน

4 แบบฝกทกั ษะการทกั ทาย คําชี้แจง: ใหผูเรยี นจบั คฝู ก สนทนาทกั ทาย แบบฝกท่ี 1 Manee : Good morning, Somsri. Somsri : Good morning, Manee. How are you? Mane : Fine, thank you. And how are you? Somsri : Fine, thank you. แบบฝก ที่ 2 Somsak : Good afternoon, Mana. Mana : Good afternoon, Somsak. How are you? Somsak : I’m not so well today. I have a fever. Mana : Take care of yourself. กิจกรรมทายบทที่ 1 กจิ กรรมที่ 1 การทกั ทายชวงเวลาตาง ๆ ใหผเู รยี น เขยี นการกลา วทักทายในแตล ะชว งเวลา ลงในชองวาง เปน ภาษาอังกฤษ ใหตรงกบั ภาษาไทย _________________________________________________สวัสดีตอนเชา _________________________________________________สวสั ดีตอนบา ย _________________________________________________สวสั ดตี อนคาํ่

5 กิจกรรมที่ 2 การทักทายบุคคล ใหผเู รียนเติมคําลงในชอ งวา ง แลว ฝกจับคูสนทนา 1. การทกั ทายบคุ คลเมอื่ พบกันครง้ั แรก Bob : Good morning, Jack Jack : _____________, Bob. Bob : How do you do? Jack : ____________________? 2. การทกั ทายบคุ คลทร่ี ูจ กั กนั มากอ น Jane : Good afternoon, Susan. ________________. Susan : _______________. And you? Jane : _________________. Thanks.

6 บทท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและการแนะนาํ ผอู ืน่ เรอื่ งท่ี 1 การแนะนาํ ตนเองกบั ผอู ื่น 1.1 การแนะนําตนเองอยางเปน ทางการ Mana : May I introduce myself? มานะ (เมย ไอ อนิ ทระดูวส มายเซล็ ฟ) ขออนญุ าตแนะนาํ ตัว My name is Mana Jaidee (มาย เนม อสิ มานะ ใจดี) ผมชื่อมานะ ใจดี ฝก แนะนาํ ตนเอง May Sunee. Can I introduce myself? My name is Malee. Could Malai. Wichai 1.2 การแนะนําตนเองอยางไมเ ปนทางการ Wichai : Hi, I’m Wichai, from Srisaket. วชิ ัย (ไฮ ไอม วิชยั ฟรอม ศรสี ะเกษ) สวัสดคี รบั ผมชอ่ื วิชัย มาจากจังหวดั ศรีสะเกษ Mali : Hello, I’m Mali, from Ubon Ratchathani. มะลิ (เฮลโล ไอม มะลิ ฟรอม อบุ ลราชธาน)ี สวัสดีคะ ดิฉนั ชอ่ื มะลิ มาจากจงั หวดั อุบลราชธานี

7 ฝก แนะนําตนเอง Ubon. from Bangkok. Sunee, Hi, I’m Mali, Srisaket. Hello, Somsak, Korat. Wichai, EN102001 บทที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู ่ืน เร่อื งที่ 1 การแนะนาํ ตนเองกบั ผอู ื่น เรื่องท่ี 2 การแนะนําผอู นื่ ใหรจู กั กนั Somporn : Let me introduce you to Mr. Wichai Jaidee, my father. This is Miss Sopa Thongtee. (เลท มี อินทระดรู ซ ยู ทู มสิ เตอร วิชยั ใจดี มาย ฟาเธอร ดิส อสิ มสิ โสภา ทองที) ฉันขอแนะนาํ พอของฉัน คุณวิชยั ใจดี /นค่ี ณุ โสภา ทองที Wichai : How do you do? Nice to meet you. (ฮาว ดู ยู ดู ไนซ ทู มที ยู) คุณเปน อยางไร ยนิ ดีทีไ่ ดรจู ัก Sopa : How do you do? Nice to meet you too. (ฮาว ดู ยู ดู ไนซ ทู มที ยูท)ู คุณเปนอยางไร ยนิ ดีที่ไดร จู ักเชน กัน

8 หมายเหตุ การแนะนําและการตอบรบั ใหร ูจักกันอยางเปนทางการอาจใชป ระโยค ดงั ตอ ไปน้ี May I introduce myself? ขออนญุ าตแนะนาํ ตวั Can I introduce myself? Let me introduce myself? Nice to meet you. ยินดีท่ีไดร จู ัก <ไนซ ทู มที ยู> Pleased to meet you. <พลสี ด ทู มที ยู> Glad to meet you. <แกลด ทู มีท ยู> EN102002 บทที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู น่ื เรอื่ งท่ี 2 การแนะนําผอู ื่นใหร จู ักกนั

9 กิจกรรมทายบทที่ 2 กิจกรรมท่ี 1 การแนะนําตนเองกบั ผูอ ื่น 1.1 ใหผ ูเรยี นจับคเู พอ่ื นฝก แนะนําตนเองกับผอู ่ืน Liza : Hello, I am Liza. Alice : Hello, I am Alice. Liza : Nice to meet you. Alice : Nice to meet you too. 1.2 ใหผูเรียนเตมิ คาํ ลงในบทสนทนา ใหถ ูกตอง (1 คะแนน) 1. Liza : _______________, I am Liza. 2. Alice : Hello,_________________. 3. Liza : Nice to __________you. 4. Alice : Nice to meet you too. กจิ กรรมที่ 2 การแนะนําผูอ ื่นใหร ูจักกนั (2 คะแนน) ใหผ เู รียน ฝกทักษะการแนะนําผูอนื่ ใหรจู ักกัน ดงั น้ี 2.1 ใหผเู รียนฝกแนะนาํ ผอู ่นื Peter : Hi, Jack. Jack : Hi, Peter. Peter : Jack, this is Bob. Jack : How do you do? I’m pleased to meet you. Bob : How do you do? I’m pleased to meet you too. 2.2 ใหผ ูเ รยี นเติมคําลงในบทสนทนา ใหถ กู ตอ ง Peter : Hi, Jack. Jack : ________(1)_______Peter. Peter : Jack, this is Bob. Jack : _ (2)_______? I’m pleased to meet you. Bob : How do you do?________(3)_______, too.

10 บทท่ี 3 การกลา วลาและการตอบรับการกลา วลา เรอื่ งท่ี 1 การกลาวเวลาทั่วไป เชน Mana : Good-bye. Somsri : Good-bye. (กูด บาย) Mana : Bye. Somsri : Bye. (บาย) การกลา วลาทคี่ าดวาจะพบกันอกี Suda : See you later. (ซี ยู เลทเธอร) แลวเจอกันใหม Somsak : Yes, see you later. (เยส ซี ยู เลทเธอร) ใช แลวเจอกันใหม EN103001 บทท่ี 3 การกลาวลาและการตอบรบั การกลา วลา เรอื่ งที่ 1 การกลา วลาหลังพดู คยุ กัน

11 เรอ่ื งท่ี 2 การกลาวลากอนการเดนิ ทาง พดู กลา วคาํ อวยพรและพดู บอกลา Somsak : Have a nice trip. (แฮฟ อะ ไนซ ทรปิ ) ขอใหมีความสุขในการเดินทาง Sopa : Thank you, bye. (แทงค ควิ บาย) ขอบคุณ Somsak : Bye. (บาย) ลากอน คาํ อวยพร กอ นการเดินทางอาจใชประโยคตอไปนี้ Have a good time. (แฮฟว อะ กดู ไทม) ขอใหม ีเวลาท่ีดี Have a safe journey back home. (แฮฟว อะ เซฟ เจอรน ีย แบค โฮม) ขอใหม ีความสขุ ในการเดนิ ทางกลบั บา น EN103002 บทที่ 3 การกลา วลาและการตอบรบั การกลา วลา เรอื่ งที่ 2 การกลาวลากอนการเดนิ ทาง

12 เรอื่ งท่ี 3 การกลา วลาทางโทรศัพท การพูดกลา วลาทางโทรศัพท หลังจากทพี่ ดู คุยธรุ ะกันเสรจ็ แลว กอนท่จี ะวางสายโทรศพั ท มีคําพดู ปด ทา ย ดงั น้ี พดู ขอบคณุ (สาํ หรับความชวยเหลอื ท่ีไดรบั ) มีสาํ นวนพดู ดังนี้ Sopa : Well, thanks for the information. (เวล แทงส ฟอร ดิ อินฟอรเ มช่นั ) ขอบคุณสาํ หรับคาํ แนะนํา Danai : You’re welcome. Good-bye. (ยัวร เวลคัม กูด บาย) ดว ยความยนิ ดี ลากอน Sopa : Good-bye. (กดู บาย) ลากอน EN103003 บทที่ 3 การกลาวลาและการตอบรบั การกลา วลา เรื่องที่ 3 การกลาวลาทางโทรศัพท

13 เรื่องที่ 4 การกลา วลาหลงั งานเลย้ี งเลกิ ตามมารยาท เม่ืองานเลยี้ งเลกิ กอนจะกลับบาน ผูถูกเชิญจะตองกลาวชม กลาวขอบคุณ และบอกลาเจาของงาน โดยการพดู สาํ นวน ดงั ตัวอยา งตอ ไปน้ี Wichai : I must be going. Thank you for this lovely meal. (ไอ มสั บี โกองิ แทงค คิว ฟอร ดสิ เลิฟลี่ มลี ) ฉันจะกลับแลว นะ ขอบคณุ สําหรับอาหารมอื้ นี้ Mana : You’re welcome. (ยัวร เวลคัม) ยนิ ดตี อ นรบั Wichai : Good-bye. (กูด บาย) ลากอน สาํ นวนพดู กลา วลาอาจใชสํานวนตอไปนี้ What a nice party! (วอท อะ ไนซ ปารต ้ี ) เปน ปารต ้ีท่ีดีมาก Thank you for inviting me. (แทงค คิว ฟอร อนิ ไวทิง มี) ขอบคุณทีเ่ ชญิ Thanks for the meal. (แทงส ฟอร เดอะ มลี ) ขอบคุณสําหรับอาหารมอ้ื น้ี Thank you for this lovely meal. (แทงค ควิ ฟอร ดสิ เลิฟลี่ มีล) ขอบคุณสาํ หรับอาหารอรอยมอ้ื น้ี

14 EN103004 บทที่ 3 การกลา วลาและการตอบรบั การกลาวลา เรอื่ งท่ี 4 การกลา วลาหลงั งานเล้ยี งเลกิ เรอื่ งท่ี 5 การกลา วลากอนเขานอน ตามมารยาทของชาวตะวนั ตก มกั จะใชส าํ นวนกลา วลางา ย ๆ เชน Good night โดยผตู อบรบั ก็ใชคาํ วา Good night เชน กนั Suda : Sleep well. (สลพี เวลล) ฝนดี Good night. (กูด ไนท) ราตรสี วัสดิ์ Mail : Thank you. (แทงค ควิ ) ขอบคุณ Good night. (กดู ไนท) ราตรีสวสั ด์ิ

15 EN103005 บทท่ี 3 การกลาวลาและการตอบรบั การกลา วลา เร่อื งที่ 5 การกลาวลากอนเขานอน กจิ กรรมทายบทที่ 3 กจิ กรรมท่ี 1 การกลาวลาหลงั การพูดคุย 1.1 ใหผเู รยี นจับคเู พ่ือนฝก กลา วลา ดงั นี้ Jan : Good bye. Lilly : Good bye. See you later. 1.2 ใหผเู รียนเติมคาํ หรือขอความลงในชองวาง ใหถกู ตอ ง Suda : Good bye. Tom : ______________see_________________. กจิ กรรมท่ี 2 การกลา วลากอนเดนิ ทาง 2.1 ใหผ ูเรียนจบั คูฝกพดู บทสนทนา ดังนี้ Sue : Have a nice trip. Jack : Thank you. Sue : Bye.

16 2.2 ใหผ เู รียนเติมคาํ ลงในชองวา ง เกยี่ วกบั การกลา วลา กอนการเดินทาง ใหส มบูรณ Suda : ____________a nice____________. Tom : ______________.________________. Suda : __________________. 2.3. ใหผ ูเรยี นจบั คูฝก พดู สนทนา เกย่ี วกบั การกลาวลา กอนการเดินทาง Sue : Have a nice trip Jack : Thank you. Bye. Sue : Bye. กิจกรรมที่ 3 การกลาวลาทางโทรศพั ท 3.1 ใหผ เู รยี นฝก พูดบทสนทนา Lucy : Thank you for your information. Danny : You’re welcome. Good bye. Lucy : Good Bye. 3.2 ใหผเู รยี นเติมคําหรือขอความ ลงในบทสนทนา ใหถูกตอง Tom :______________for you information. Jane :_____________._________________. Tom :__________________. 3.3 ใหผเู รียนจับคูฝก พูดเกยี่ วกับการกลาวลา ทางโทรศพั ท Anna : Thank you for your information. Jane : You’re welcome. Good-bye. Anna : Good-bye.

17 กิจกรรมที่ 4 การกลาวลาหลงั งานเล้ยี งเลิก 4.1 ใหผเู รียนฝก พดู กลา วลา หลังงานเลีย้ งเลกิ Kate : Thank you so much for a lovely party. Dan : You’re welcome. 4.2 ใหผ ูเรยี นเติมคาํ หรือขอ ความลงในชอ งวา ง ใหถกู ตอ ง Sue : _______________very much for a lovely meal. Tom : ____________________________. 4.3 ใหผเู รยี นจบั คฝู กพดู กลา วลา หลังงานเลี้ยงเลกิ Kate : Thank you for inviting me. Dan : Thanks for coming. Kate : You’re welcome. What a nice party! Dan : I’m glad you like it. กจิ กรรมที่ 5 การกลา วลากอนเขานอน 5.1 ใหผ เู รียนจับคฝู กพูด Anna : Sweet dreams. Good night. Bill : Thank you, good night. 5.2 ใหผ เู รียนเตมิ คาํ ลงในชอ งวางใหถกู ตอง Lucky : ____________dreams. Good night. Bill :______________________________. 5.3 ใหผ ูเรยี นจับคูฝกพูดกลา วลากอนเขา นอน Kate : Good night. Dan : Good night.

บทที่ 4 18 การเขียน การอานพยญั ชนะ สระ และการประสมคาํ Ff เรื่องท่ี 1 การเขียนพยัญชนะ เอฟ ตวั พมิ พใหญและตวั พมิ พเ ลก็ Ll แอล Aa Bb Cc Dd Ee Rr ดี อี อาร เอ บี ซี Jj Kk Xx เจ เค เอ็กซ Gg Hh Ii Pp Qq พี คิว จี เอช ไอ Vv Ww วี ดบั เบ้ิลยู Mm Nn Oo เอ็ม เอ็น โอ Ss Tt Uu เอส ที ยู Yy Zz วาย ซี/แซด EN104001 บทที่ 4 การเขยี น การอา นพยัญชนะ สระ และการประสมคาํ เรือ่ งท่ี 1 การเขยี นพยญั ชนะ

19 เร่อื งที่ 2 การออกเสียงสระแทแ ละสระประสม สระแทใ นภาษาองั กฤษ ประกอบดวย a (เอ) e (อ)ี i (ไอ) o (โอ) u (ย)ู สระประสม ee (อ)ี : meet มที a_e (เอ) : made เมด oo (อู) : boot บูท ull เสยี งระหวา ง สระอุ กบั สระอู : bull บลุ – บลู o_e (โอ) : tone โทน i_e (โอ) : line ไลน oi (ออย) : coin คอยน ou (อาว) : round ราวน EN104002 บทที่ 4 การเขยี น การอา นพยญั ชนะ สระ และการประสมคํา เรอื่ งที่ 2 การออกเสียงสระแทและสระประสม เร่ืองที่ 3 วธิ กี ารประสมคํา 3.1 คําประกอบดวยพยัญชนะ และสระแท คือการนําพยญั ชนะ มาประสมกบั สระแท aeiou m+a = ma มา h+e = he ฮี b+i = bi ใบ d+o = do ดู m+u = mu มู

20 3.2 คาํ ประกอบดวยพยญั ชนะ สระแท และตวั สะกด คือการนําพยัญชนะ มาประสมกบั สระแท a e i o u และตัวสะกด b+a+t = bat แบ็ท p+e+n = pen เพน็ s+i+t = sit ซทิ p+o+p = pop พอ็ พ f+u+n = fun ฟน 3.3 คําประกอบดวยอกั ษรนํา 2 ตัว คอื การนาํ พยัญชนะหรืออกั ษรนาํ 2 ตัวมา tr+a+y = tray เทรย th+e+n = then เธ็น tw+i+n = twin ทวิน st+o+p = stop สตอ็ พ pl+u+m = plum พลัม 3.4 คําประกอบดว ยตัวสะกด 2 ตวั m+a+rk = mark มารค best เบสท b+e+st = miss มสิ post โพสท m+i+ss = must มสั ท p+o+st = main เมน seat ซีท m+u+st = fine ไฟน found ฟาวน 3.5 คาํ ประกอบดวยสระประสม tune ทูนน m+ai+n = s+ea+t = f+i+n+e = f+ou+d = t+u+n+e =

21 3.6 คาํ ขึ้นตน ดว ยสระ = am แอม a+m = end เอน็ ด e+n+d = is อสิ i+s = or ออร o+r = us อสั u+s ชิน 3.7 คาํ ขน้ึ ตนดว ย ch และ sh ชฟิ ชอฟ ch+i+n = chin ชทั chip ch+i+p = shop shut sh+o+p = sh+u+t = EN104003 บทท่ี 4 การเขยี น การอา นพยัญชนะ สระ และการประสมคาํ เร่ืองที่ 3 วธิ กี ารประสมคาํ กจิ กรรมทา ยบทท่ี 4 กจิ กรรมที่ 1 การเขียนพยญั ชนะ 1.1 ใหผ ูเรียนอา นพยัญชนะใหถูกตอง Aa Ba Cc Dd Ee Ff Jj Kk Ll Gg Hh Ii Pp Qq Rr Vv Ww Xx Mm Nn Oo Ss Tt Uu Yy Zz

22 1.2 ใหผูเรยี น เขียนพยัญชนะตวั พิมพใหญ และตวั พิมพเลก็ ลงในตาราง ท่กี ําหนด พรอมคําอา น ใหถกู ตอ ง กิจกรรมที่ 2 การออกเสียงสระแทแ ละสระประสม 2.1 ใหผ ูเ รยี นอา นออกเสยี งสระแท ใหถูกตอ ง aei ou 2.2 ใหผ เู รยี นอา นออกเสียงสระประสม ใหถ กู ตอง ee อี เชน meet อา นวา มีท เมด a_e เอ เชน made อา นวา บูท โทน oo อู เชน boot อานวา ไลน คอยน o_e โอ เชน tone อานวา ราวน i_e ไอ เชน line อานวา oi ออย เชน coin อานวา ou อาว เชน round อา นวา

23 2.3. ใหผ ูเรยี นเติมสระลงในชอ งวา ง แลวเขยี นคําอา นและคาํ แปล สระ เตมิ สระ อานวา แปลวา a d_y e n_m_e l_k_e m_k_e i ch_n sh_p o sh_p p_st u sh_t

24 บทท่ี 5 จํานวนนบั และลาํ ดับที่ เรือ่ งที่ 1 การอาน เขียนจํานวนนับ เลขจาํ นวนนบั การอานและเขียนจํานวนนับ เลขจาํ นวนนับ คือ ตวั เลขที่นบั จากหลกั หนวย เปน ตนไป ตวั เลขท่ีนบั จาก 21-99 จะนําคํา One-nine มาตอทา ยหลังเครอ่ื งหมาย – (hyphen) 1 = one (วัน) 2 = two (ทู) 3 = three (ตรี) 4 = four (โฟร) 5 = five (ไฟว) 6 = six (ซกิ ส) 7 = seven (เซเวน) 8 = eight (เอท็ ) 9 = nine (ไนน) 10 = ten (เท็น) 11 = eleven (อิเลเวน) 12 = twelve (ทเวล็ ฟ) 13 = thirteen (เทอรทีน) 14 = fourteen (ฟอรท ีน) 15 = fifteen (ฟฟ ทนี ) 16 = sixteen (ซกิ ซทีน) 17 = seventeen (เซเวนทีน) 18 = eighteen (เอ็ททนี ) 19 = nineteen (ไนนท ีน) 20 = twenty (ทเวน็ ท่ี) 21 = twenty-one (ทเวน็ ท่ี-วนั ) 31 = thirty-one (เทอท่ี-วนั ) 41 = forty-one (ฟอรท ่ี-วัน)

25 51 = fifty-one (ฟฟ ท่-ี วนั ) 61 = 71 = sixty-one (ซิกซท -่ี วนั ) 81 = 91 = seventy-one (เซเวน็ ท่ี-วัน) 100 = 1,000 = eighty-one (เอท็ ที่-วัน) 10,000 = ninety-one (ไนนท ท่ี-วัน) 100,000 = one hundred/a hundred (วนั -ฮันเดร็ด/อะ-ฮนั เดรด็ ) 1,000,000 = one thousand (วัน-เทาเซน่ิ ) a thousand (อะ-เทาเซนิ่ ) ten thousand (เทน็ -เทาเซ่นิ ) one hundred thousand (วนั -ฮนั เดรด็ -เทาเซิน่ ) a hundred thousand (อะ-ฮันเดร็ด-เทาเซนิ่ ) one million (วนั มิลเลย่ี น) a million (อะ มิลเลี่ยน) EN105001 บทที่ 5 จํานวนการนับและลําดบั ท่ี เรอ่ื งที่ 1 การอานและเขยี นจํานวนนบั เร่อื งท่ี 2 การอานและเขียนเลขลําดับที่ การอา นและเขยี นเลขลําดับที่ คือ ตวั เลขทบ่ี อกลาํ ดับที่ จาก 1 เปนตนไป การบอกลาํ ดบั ท่ี จะใชเหมือนกับเลขจาํ นวนนบั ยกเวนบางลําดับ เชน ลําดบั ท่ี 1 The first (เดอะ เฟรส ท) ลําดับท่ี 2 The second (เดอะ เซคเคินด) ลาํ ดับท่ี 3 The third (เดอะ เธริ ด) ลําดับท่ี 4 The fourth (เดอะ ฟรอ ธ) ลาํ ดบั ที่ 5 The fifth (เดอะ ฟฟ ธ)

26 ลาํ ดบั ท่ี 6 The sixth (เดอะ ซิคซท) ลาํ ดับที่ 7 The seventh (เดอะ เซเวนธ) ลําดับที่ 8 The eighth (เดอะ เอ็ทธ) ลาํ ดับท่ี 9 The ninth (เดอะ ไนนธ) ลําดับท่ี 10 The tenth (เดอะ เท็นธ) ลาํ ดบั ท่ี 11 The eleventh (ดิ อิเลฟเวน ธ) ลําดบั ท่ี 12 The twelfth (เดอะ ทเวล็ ฟ) ลําดบั ท่ี 13 The thirteenth (เดอะ เทอรทนี ) ลาํ ดับท่ี 19 The nineteenth (เดอะ ไนนทีนธ) ลาํ ดบั ทีล่ งทา ยดวยเลข 0 ลาํ ดับที่ 20 The twentieth (เดอะ ทเวล็ ฟธ) ลําดับท่ี 30 The thirtieth (เดอะ เทอรทนี ธ) ลาํ ดบั ท่ี 40 The fortieth (เดอะ โฟรท นี ธ) ลําดบั ท่ี 50 The fiftieth (เดอะ ฟฟ ทีนธ) ลําดบั ท่ี 90 The ninetieth (เดอะ ไนนท ีนธ) ลําดบั ที่ของหลกั สิบ เปล่ยี นเฉพาะคําหลังเคร่อื งหมาย hyphen (-) ลาํ ดับท่ี 21 The twenty-first (เดอะ ทเว็นที-เฟรส ท) ลําดับที่ 22 The twenty-second (เดอะ ทเว็นที-เซเคินด) ลาํ ดบั ที่ 23 The twenty-third (เดอะ ทเว็นที-เธริ ด ) ลาํ ดับที่ 29 The twenty-ninth (เดอะ ทเว็นที-ไนนธ) *ขอสังเกต 1. การเขียนเลขบอกลาํ ดบั ที่ สวนใหญจะเติมให th ไวข างทาย ยกเวนลําดับที่ หน่งึ สอง และสาม 2. ตัวเลขทล่ี งทา ยดว ย y เชน twenty, thirty เม่ือเขียนเปน ลําดบั ท่ี จะเปลยี่ น y เปน ie กอนแลวจงึ เตมิ th เชน twentieth, thirtieth 3. คําบอกลําดับท่ีจะตองมี คาํ วา The นําหนาเสมอ

27 EN105002 บทที่ 5 จํานวนการนับและลาํ ดบั ท่ี เร่อื งท่ี 2 การอานและเขียนลาํ ดบั ท่ี เรื่องที่ 3 การเขยี นประโยคท่ีมจี าํ นวนนบั หรอื ลําดบั ท่ี ใชโครงสรางประโยค ดงั น้ี Present Simple Tense Subject + Verb1 + Object ประธาน + กรยิ าชองที่ 1+ กรรม ถาประธานเปนเอกพจนบ รุ ุษท่ี 3 เชน He, She, it หลงั คํากรยิ าจะตองเติม s I have four pens. (ไอ แฮฟ โฟร เพ็นซ) ฉันมีปากกาสี่ดา ม She buys two shirts. (ชี บายซ ทู เชติ้ ส) เธอซ้ือเสอ้ื เช้ติ สองตัว He lives on the second floor. (ฮี ลีฟส ออน เดอะ เซคเคินด ฟลอร) เขาอาศยั ยูชั้นที่สอง She is the first person. (ชี อีส เดอะ เฟริสท เพอรซนั่ ) เธอเปนคนทีห่ นง่ึ

28 EN105003 บทท่ี 5 จาํ นวนการนับและลาํ ดบั ที่ เรื่องท่ี 3 การเขียนประโยคทม่ี จี ํานวนนบั และลาํ ดับท่ี เร่อื งที่ 4 การพดู ประโยคที่มีจาํ นวนนับหรือลาํ ดบั ท่ี ฝกพดู ประโยคทม่ี ีจาํ นวนนบั หรือลาํ ดับที่ ดังตอไปนี้ ประธาน กรยิ าชองท่ี 1 กรรม ความหมาย (Subject) (Verb1) (s) (Object) She washes three shirts. เธอซักเสอื้ เชิต้ สามตัว They live on the fifth floor. พวกเขาพกั อยทู ่ชี นั้ หา He eats four oranges. เขากินสมส่ีผล I am the first child. ฉันเปนเดก็ คนแรก We have one million baht. เรามีเงนิ หนง่ึ ลา นบาท

กจิ กรรมทา ยบทท่ี 5 29 กจิ กรรมที่ 1 การอา นและเขยี นจาํ นวนนับ คําแปล 1.1 ใหผูเรียนฝกอา นเลข ดังนี้ 1 2 คําศพั ท คําอาน 3 One วัน 4 5 Two ทู 6 7 Three ทรี 8 9 Four โฟร 10 Five ไฟว Six ซิก Seven เซเวน Eight เอ็ท Nine ไนน Ten เท็น

1.2 ใหผ ูเรียนฝกอา นตัวเลข คําอา น 30 คาํ ศพั ท อีเลฟเวน Eleven ทเวลฟ คําแปล Twelve เทอรท ีน 11 Thirteen โฟรทนี 12 Fourteen ฟฟ ทนั 13 Fifteen ซิกซท ีน 14 Sixteen เซเวน ทีน 15 เอท็ ทนี 16 Seventeen ไนนทนี 17 Eighteen เทว็นที่ 18 Nineteen 19 Twenty 20

1.3 ใหผเู รียนฝกอา นตัวเลข 31 คาํ ศพั ท คาํ อา น คําแปล 21 Twenty-one ทเว็นท่ี-วัน 31 41 Thirty-one เทอรท่ี-วนั 51 61 Forty-one โฟรท-ี่ วัน 71 81 Fifty-one ฟฟ ท-ี่ วัน 91 100 Sixty-one ซกิ ซท-่ี วัน 1,000 Seventy-one เซเวน ท่ี-วนั 10,000 Eighty-one เอ็ทที่-วัน Ninety-one ไนนที่-วัน One hundred วัน-ฮันเดร็ด One thousand วนั -เทาเซ่ิน Ten thousand เท็น-เทาเซ่ิน

32 1.4 ใหผ ูเ รียน จบั คเู ลข 1-10 ใหถูกตอง one 6 two 9 three 4 four 5 five 2 six 10 seven 1 eight 3 nine 7 ten 8 1.5 ใหผูเ รยี นเขียนคาํ อานตวั เลข เปนภาษาองั กฤษ ตัวเลข ภาษาองั กฤษ 11 = 12 = 13 = 14 = 15 = 16 = 17 = 18 = 19 = 20 =

33 กิจกรรมท่ี 2 การอา นและเขยี นลาํ ดับ 2.1 ใหผ ูเ รยี นฝก อา นออกเสียงเลขลาํ ดับท่ี ภาษาองั กฤษ คาํ แปล first ลําดับท่ี 1 ลําดบั ท่ี 2 second ลําดบั ที่ 3 third ลําดบั ที่ 4 fourth ลําดับที่ 5 fifth ลําดบั ท่ี 6 sixth ลาํ ดับท่ี 7 seventh ลําดับท่ี 8 eight ลาํ ดับท่ี 9 ninth ลําดับท่ี 10 tenth 2.2 ใหผเู รยี นเขียนคาํ แปล เลขลําดับที่ตอ ไปนี้ ใหถ กู ตอ ง คาํ ศพั ท คาํ แปล eleventh twelfth thirteenth nineteenth twentieth twenty-first twenty-second twenty-third twenty-fourth thirtieth thirty-first

34 กิจกรรมที่ 3 การเขียนประโยคท่ีมจี าํ นวนนับและลําดับที่ ใหผูเรียนเขยี นประโยคตอ ไปน้เี ปนภาษาอังกฤษ 3.1 เขามลี กู สาว 1 คนและลูกชาย 2 คน ___________________________________________ 3.2 มันเปนรถยนตค ันแรกของเรา 3.3 เจนนเ่ี ปนลกู สาวคนท่ี 2 ของครอบครัว

35 บทท่ี 6 คํานามและคาํ ศพั ทห มวดตาง ๆ เร่อื งท่ี 1 ลกั ษณะและวิธีการใชค าํ นาม คาํ นาม คือ คําที่ใชแทน ช่ือ คน สัตว สง่ิ ของ เชน คน สตั ว สงิ่ ของ Danai (ดนัย) Cat (แคท) แมว Table (เท-เบ้ิล) โตะ Mali (มะลิ) Fish (ฟช) ปลา Book (บุค) หนงั สือ Somsri (สมศร)ี Bird (เบิรด ) นก Pen (เพน็ ) ปากกา Teacher (คุณคร)ู Dog (ด็อก) สนุ ัข Pencil (เพน-ซลิ ) ดินสอ Doctor (หมอ) Animal (แอนนิมอล) สตั ว Ruler (รูลเลอร) ไมบ รรทัด คํานามมี 2 ลกั ษณะ คือ 1. คาํ นามนบั ได คือนามท่นี ับจาํ นวนได ไดแก นามทมี่ ีรูปรา งนับเปนช้นั เปน ชน้ั ได /และใชคาํ นาํ หนา a, an เมือ่ ไมเฉพาะเจาะจงและใชคาํ นาํ หนา นาม the เมื่อตอ งการเฉพาะเจาะจง และสามารถทาํ เปนพหพู จน ไดโ ดยการเติม s หรือ es หลังนามเชน a bird (อะ เบริ ด) = นกหนง่ึ ตวั two houses (ทู เฮาสิส) = บา นสองหลงั

36 ตัวอยาง การใชค าํ นามนบั ได She has two cats. (เธอมีแมวสองตวั ) (ชี แฮส ทู แคทส) There is a book on the table. (มหี นงั สือหนึง่ เลม อยบู นโตะ ) (แดร อีส อะ บุค ออน เดอะ เทเบ้ิล) 2. คาํ นามนับไมได เปนคาํ นามทไี่ มส ามารถแยกนบั จาํ นวนไดม กั เปนคาํ นามท่มี รี ูปรา งไม แนนอนหรอื ไมม ีรปู ราง เชน Water (วอเตอร) = น้ํา Tea ( ที ) = นาํ้ ชา Milk (มิลค) = นม Sugar (ชูการ) = น้าํ ตาล Rice (ไรซ) = ขาว ตัวอยาง การใชคาํ นามนับไมได She always drinks milk in the morning. (ชี ออลเวยส ดรงิ ค มลิ ค อนิ เดอะ มอรนิ่ง) เธอด่ืมนมตอนเชาเสมอ Sugar is sweet. (ชกู าร อีส สวีท) นํา้ ตาลหวาน EN106001 บทท่ี 6 คาํ นามและคําศัพทหมวดตา งๆ เรอ่ื งที่ 1 ลกั ษณะและวธิ ีการใชคํานาม

37 เรื่องท่ี 2 คําศพั ทเ กย่ี วกบั เครอื ญาติ คําศัพทเก่ียวกบั เครือญาติ เชน คําศพั ท คาํ อาน ความหมาย Father ฟาร – เทอร พอ Mother มา-เทอร แม Sister ซสิ -เทอร พ่สี าว/นองสาว Brother บรา-เทอร พชี่ าย/นองชาย Aunt อารน ท ปา Uncle อัง-เคิล ลงุ Grandfather แกรนด-ฟา-เทอร ตา Grandmother แกรนด-มา-เทอร ยาย Son ซัน ลกู ชาย Daughter ดอท-เทอร ลกู สาว Parents พา-เรน็ ทส ผูปกครอง Children ชิล-เดรน ลูกหลายคนไมระบุเพศ ตัวอยา ง การใชค ําศัพทเกยี่ วกับเครือญาติ My father is a farmer. (มาย ฟาเธอร อีส อะ ฟารเมอะ) พอ ของฉันเปนชาวนา I have a sister and a brother. (ไอ แฮฟ อะ ซิสเซอร แอนด อะ บราเธอร) ฉนั มีพี่สาวหน่ึงคนและพช่ี ายหน่ึงคน

38 EN106002 บทท่ี 6 คํานามและคาํ ศัพทห มวดตา งๆ เรื่องท่ี 2 คําศพั ทเกีย่ วกบั เครอื ญาติ เร่อื งที่ 3 คําศพั ทเกี่ยวกบั วัน เดือน ป 3.1 คาํ ศัพทเกย่ี วกับวนั Days of the week 1 สปั ดาห มี 7 วนั ดงั นี้ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คําอาน วนั อาทิตย Sunday ซนั เดย วนั จันทร Monday มนั เดย วันอังคาร Tuesday ทิวซเดย วนั พธุ Wednesday เวน็ สเดย วันพฤหัสบดี Thursday เธอซเดย วันศุกร Friday ไฟรเดย วนั เสาร Saturday แซทเทอเดย

39 3.2 คําศพั ทเกีย่ วกับเดอื น Months of the year 1 ป มี 12 เดือน ดังน้ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ คาํ อาน มกราคม January แจน-ยวั รี กมุ ภาพนั ธ February เฟบ-รเู ออรี มีนาคม March มารช เมษายน April เอ พริว พฤษภาคม May เมย มถิ นุ ายน June จนู กรกฎาคม July จไู ล สงิ หาคม August ออกัสท กันยายน September เซ็บเทมเบอะ ตลุ าคม October ออคโทเบอะ พฤศจิกายน November โนเว็มเบอะ ธันวาคม December ดีเซ็มเบอะ 3.3 คําศพั ทเ ก่ียวกบั ป การอานตัวเลขจํานวนปในภาษาองั กฤษน้ัน จะแยกอานเปนคๆู ดังนี้ ค.ศ. 1672 อานวา sixteen seventy-two (ซิคซทนี เซเวนที-ท)ู ค.ศ. 1792 อานวา seventeen ninety-two (เซเวนทีนไนนท ี-ทู) ค.ศ. 1990 อา นวา nineteen ninety (ไนนทนี ไนนท)ี ค.ศ. 2008 อานวา two thousand and eight (ทู เทาวแซนด แอนด เอ็ท) ค.ศ. 2017 อา นวา twenty seventeen (ทเวนที เซเวนทนี )

40 ตวั อยาง ประโยคการใชค ําศัพท วัน เดอื น ป I will have a party next Monday. (ไอ วิลล เฮฟ อะ ปารตี้ เนคซ มนั เดย) วันจนั ทรส ัปดาหห นา ฉันจะจดั งานสังสรรค It’s on the tenth of April. (อิทซ ออน เดอะ เท็นธ ออฟ เอพรวิ ) มนั คอื วันที่สบิ เดือนเมษายน I was born in June. (ไอ วอส บอรน อิน จูน) ฉนั เกดิ เดอื นมิถนุ ายน EN106003 บทท่ี 6 คาํ นามและคาํ ศัพทหมวดตางๆ เร่ืองที่ 3 คําศพั ทเกยี่ วกับ วนั เดอื น ป เรื่องท่ี 4 คําศพั ทเกยี่ วกบั สี คําอาน ความหมาย คําศพั ท เรด สแี ดง Red เยลโล สเี หลอื ง Yellow กรนี สเี ขียว Green บลู สีนาํ้ เงนิ Blue แบล็ค สดี ํา Black บราวน สีน้าํ ตาล Brown เกรย สีเทา Gray ไวท สีขาว White พิงค สีชมพู Pink ไลท- บลู สฟี า ดารค -บราวน Light blue เพอเพิล สีน้าํ ตาลเขม Dark brown สมี วง Purple

41 ตวั อยาง การใชค าํ ศัพทเกย่ี วกับสี She has a red car. (ชี แฮส อะ เรด คาร) เธอมรี ถสีแดงหน่ึงคัน My shirt is blue. (มาย เชิต้ อิส บลู) เส้ือของฉันสฟี า EN106004 บทท่ี 6 คาํ นามและคําศัพทหมวดตา งๆ เรอื่ งที่ 4 คําศพั ทเ กี่ยวกับสี เร่อื งท่ี 5 คาํ ศพั ทเ กยี่ วกบั เครอื่ งใชใ นชีวติ ประจาํ วนั คาํ ศพั ท คําอา น ความหมาย ชอ นและสอ ม Spoon and fork สพนู แอนดฟ อรค ขวด Bottle บอท’เทอ แกว จาน Glass กลาส กระทะ เตาอบ Plate/dish เพลท/ดิช หมอ หงุ ขา ว หมอน้ํารอ นไฟฟา Pan แพน ที่ปงขนมปง ตูเยน็ Oven อฟั ’เวิน ตูเกบ็ ถว ยชาม หมอน Rice cooker ไรซ คคุ เคอะ Electric pot อิเลค’ทริค พอท Toaster โทส’เทอะ Refrigerator รฟิ ริจ’จะเรเทอะ Cupboard คัพ’บอรด Pillow พิลโลว

42 ตวั อยาง ประโยคการใชค าํ ศัพทเกี่ยวกบั เครอื่ งใชในชีวติ ประจําวนั Mali fried eggs in a pan. (มะลิ ฟรายด เอก ซ อนิ อะ แพน) มะลิไดทอดไขในกระทะ We always use a fork and spoon. (วี ออลเวยซ ยสู ฟอรค แอนด สพูน) พวกเราใชชอ นและสอ มเสมอ Let me have a plate of rice. (เลท มี แฮฟ อะ เพลท ออฟ ไรซ) ขอขาวสกั จานหนึ่งคะ EN106005 บทที่ 6 คาํ นามและคําศพั ทหมวดตา งๆ เร่อื งท่ี 5 คาํ ศพั ทเกีย่ วกบั เครอ่ื งใชใ นชีวิตประจําวัน เรือ่ งที่ 6 คําศพั ทเ กย่ี วกบั สภาพดนิ ฟาอากาศ คาํ ศัพท คาํ อาน ความหมาย Cloudy เคลา-ดี เมฆมาก Windy วิน-ดี ลมแรง Sunny ซนั -นี แดดจา Cold โคลด อากาศหนาวจดั Warm วอรม อากาศอบอนุ Rainy เร-นี ฝนหนัก

43 ตวั อยา ง การใชค ําศพั ทเกยี่ วกับสภาพดนิ ฟา อากาศ It’s sunny today. (อิส ซันน่ี ทเู ดย) วันน้แี ดดจา It’s windy today. (อิส วินดี้ ทูเดย) วนั นี้ลมแรง EN106006 บทท่ี 6 คํานามและคาํ ศัพทห มวดตางๆ เร่อื งที่ 6 คาํ ศัพทเ กย่ี วกบั สภาพดนิ ฟาอากาศ กิจกรรมทายบทที่ 6 กจิ กรรมท่ี 1 ลกั ษณะและวิธีการใชคาํ นาม 1.1 ใหผเู รียน เติมคํานามนับได และคํานามนบั ไมไ ด เปนภาษาองั กฤษ ลงในชอ งวาง ใหถูกตอ ง คาํ นามนับได คาํ นามนบั ไมได


9 ช่อง Youtube ที่ห้ามพลาด ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ


9 ช่อง Youtube ที่ห้ามพลาด ถ้า อยากเก่งภาษาอังกฤษ

[ ข้อความจากพี่หลิงๆ : ]
วันนี้ขอมาอัพเดทช่อง 9 ยูทูปที่ห้ามพลาดถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ ลองมาดูกันว่ามีช่องไหนบ้างค่ะ

[Contact Info :]
Facebook: http://www.facebook.com/TalkAmerican
Email: [email protected]
IG: http://www.instagram.com/TalkAmerican
YouTube: http://www.Youtube.com/user/MsLingLingofficial
Twitter: http://www.twitter.com/Talk_American

เก่งภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

9 ช่อง Youtube ที่ห้ามพลาด ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ

5 สิ่งที่ทำได้ด้วยตัวเองทุกวัน ให้เก่งภาษาเร็ว | สรุปมาให้แล้ว ดูจบทำได้ทันที !!


สำหรับคนอยากเก่งภาษาขึ้นอย่างเร่งรัด! 🙋‍♀️🙋‍♂️
อยากฝึกให้พูดได้คล่องขึ้น พร้อมทำกิจกรรมไปด้วยกันตลอด 21 วัน!
คอร์ส 21Day English Transformation ปีที่ 3
เปิดรับสมัครแล้ว!!
สมัครก่อน 31 พ.ค. นี้รับส่วนลดถึง 2000 บาท !
กดดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่า 👇
https://bit.ly/3etTvmF
คอร์สนี้ เราเปิดเพียงปีละครั้ง และรับจำนวนจำกัดนะค้า
ขออภัยในความไม่สะดวกค่า 🙏😅
____________________
ไม่มั่นใจ เรียนอะไรดี?
📋 วัดระดับภาษา เพื่อวางแผนการเรียนได้ ที่ selfassessment form ฟรี ! https://www.farangangmor.com/selfassessmentform/
หลักสูตรต่างๆ ของฝรั่งอั่งม้อ
Think in English คิดเป็นภาษาอังกฤษ พูดได้คล่องไม่ต้องท่องจำ
https://www.farangangmor.com/course/thinkinenglish/
พูดฝรั่งได้ดั่งเสก Online Course
https://www.farangangmor.com/course/speaklikemagic/
PRONUNCIATION พูดเหมือนเด๊ะ ออกเสียง เป๊ะเวอร์
https://www.farangangmor.com/course/pronunciation/
CONVERSATION สนทนาลื่นไหล มั่นใจร้อยเปอร์
https://www.farangangmor.com/course/conversation/
English for Career Development เรียนอังกฤษ ติดเทอร์โบ พูดได้โปรเติบโตในงาน
https://www.farangangmor.com/course/englishforcareerdevelopment/
Speak Brilliantly Excel at Public Speaking \u0026 Presentation in English
พรีเซ้นต์เป็นภาษาอังกฤษ ได้โดดเด่น โดนใจ เป็นมืออาชีพ!
https://www.farangangmor.com/course/speakbrilliantly/
Teach English It’s Cool สอนภาษาออนไลน์ได้ด้วยหลักสูตรนี้
https://forms.gle/WzX8gZdwyS3QhM7s5
_______________________________________________
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ให้ไม่พลาด content แบบนี้📱❤️
Facebook: ฝรั่งอั่งม้อ
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/
IG: farang_angmor
https://www.instagram.com/farang_angmor/
LINE: @farangangmor
https://lin.ee/cjP5cGv
Tiktok: @farangangmor
https://vt.tiktok.com/A5GEg6/
Website: http://farangangmor.com/

5 สิ่งที่ทำได้ด้วยตัวเองทุกวัน ให้เก่งภาษาเร็ว | สรุปมาให้แล้ว ดูจบทำได้ทันที !!

วีธีการตั้ง ในยูทูปให้ วีดีโอวิ่งเรียงไม่กระโดดไปกระโดดมา เหมาะกับเรียนออนไลน์


ลิ้งข้อมูล ทำใบขับขี่เยอรมัน
ลิ้งไปยังแฟ้ม ตัวอย่างขับในเยอรมันและทฤษฎี ข้อสอบ ใบขับขี่
https://youtube.com/playlist?list=PLay6uMK5JOOaGxJgpEgbYdlB1RtLgzpt2
ลิ้งไปยัง ทำแบบฝึกหัด ใบขับขี่เยอรมัน ภาษาอังกฤษไทย
https://youtube.com/playlist?list=PLay6uMK5JOOavL0SOl851KfcJ9SaTAnc
ลิ้งไปยัง ทำแบบฝึกหัด ใบขับขี่เยอรมัน เยอรมันไทย
https://youtube.com/playlist?list=PLay6uMK5JOObEInHSuOTrH6Iq0ajP2ipQ

Motoradführerschein Autobahn ใบขับขี่เยอรมัน ขับรถในเยอรมัน  honeyrechannel numphungrehders indianmotocycle Germany เที่ยวเยอรมัน วีซ่าเยอรมัน ฝึกขับรถ สอนขับรถ กฎจราจร Führerschein ClassB ClassA เที่ยวยูโรป ขับรถง่ายๆ กินเที่ยว อยู่เยอรมัน ชีวิตในเยอรมัน เมียฝรั่ง สายซิ่ง สายบิด สายแว้น Schleswig indianbobber bobber ชีวิตง่ายๆ กินเที่ยว ท่องเที่ยว สอนภาษาเยอรมัน ภาษาเยอรมัน พูดเยอรมัน สอบภาษาเยอรมัน ภาษาเยอรมัน Thailand Thaispache Thai

วีธีการตั้ง ในยูทูปให้ วีดีโอวิ่งเรียงไม่กระโดดไปกระโดดมา เหมาะกับเรียนออนไลน์

แจกช่องยูทูปฝึกภาษาด้วยตัวเองสำหรับ Beginner ของโมที่ใช้แล้วได้ผล | sMo FatiiMa


สวัสดีทุกคนนนน
คลิปนี้โมมาแจกวาร์ป 9 ช่อง YouTube เด็ดๆ สนุกๆ ที่โมเคยใช้ฝึกภาษาอังกฤษตอนเริ่มฝึกแรกๆ หรือตอนที่ยังอยู่ระดับ Beginner (Basic User) โดยโมคัดมาเฉพาะที่โมรู้สึกว่าเนื้อหาดีและสนุก ไม่น่าเบื่อหรือเครียดจนเกินไป ซึ่งทำให้การฝึกภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกและทำได้ทุกวันนะฮะ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้เช็คระดับภาษาตัวเอง เช็คได้ที่นี่เลยฮะ
https://www.youtube.com/watch?v=20yPAJ6gEBU
(อันนี้แถม)
จากคนไม่เก่งภาษา มามีแฟนฝรั่งได้ไง?
https://www.youtube.com/watch?v=W2NMSvaIy4
แชร์วิธีฝึกภาษา(ตามเลเวล) จากคนกลัวฝรั่งจนไปเรียนเมืองนอกได้
https://www.youtube.com/watch?v=gn2gmkRWIwM\u0026t=81s
หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์ อย่าลืมกด SUBSCRIBE เพื่อติดตามคลิปต่อๆไปด้วยนะฮะ ^3^

IG : smonomad
https://www.instagram.com/smonomad/
FB : sMo Nomad
https://www.facebook.com/sMoNomad
Tik Tok : sMo Nomad
https://www.tiktok.com/@smonomad
Email : [email protected]

sMoNomad
EnglishWithsMo

แจกช่องยูทูปฝึกภาษาด้วยตัวเองสำหรับ Beginner ของโมที่ใช้แล้วได้ผล | sMo FatiiMa

คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit


คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit
คำศัพท์อังกฤษ ภาษาอังกฤษ กีฬาอังกฤษ

คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เรียน ภาษา อังกฤษ ยู ทู ป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *