Skip to content
Home » [Update] แนะนำซีรีส์ Netflix ทั้งหมด 10 เรื่อง สำหรับฝึกภาษาอังกฤษ ดูเพลินๆ ฟังง่าย ตอนละแค่ 20-30 นาที | หนังฝึกฟังภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] แนะนำซีรีส์ Netflix ทั้งหมด 10 เรื่อง สำหรับฝึกภาษาอังกฤษ ดูเพลินๆ ฟังง่าย ตอนละแค่ 20-30 นาที | หนังฝึกฟังภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

หนังฝึกฟังภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

ช่วงนี้ผมเห็นหลายคนในกลุ่ม Netflix Thailand ถามบ่อยมากๆ ว่าถ้าอยากฝึกภาษาอังกฤษ ให้ดูซีรีส์เรื่องไหนดี ชนิดที่แบบว่าวันนึงมีไม่ต่ำกว่า 3 – 4 โพสต์ วันนี้ผมเลยรวบรวม 10 ซีรีส์น่าดู สำหรับเอาไว้ฝึกภาษาโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละเรื่องที่เอามาแนะในครั้งนี้ เป็นซีรีส์ดูสนุกๆ เพลินๆ และไม่ได้ใช้ศัพท์ที่ยากเกินไป บวกกับสำเนียงที่ฟังง่ายอีกด้วย ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันได้เลยครับ

Table of Contents

ฝึกภาษาอังกฤษกับ Netflix

ส่วนตัวผมมองว่าการฝึกภาษาอังกฤษกับ Netflix เป็นเรื่องที่ดีนะครับ เนื่องจากการดูหนัง หรือดูซีรีส์เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ เราสามารถเลือกเรื่องที่ชอบ แล้วก็ดูเพลินๆ แถมได้ภาษาอังกฤษ (หรือภาษาที่สามอื่นๆ) ไปด้วย ซึ่งตรงนี้ผมจะเน้นแนะนำซีรีส์แบบซิทคอมเอานะครับ เนื่องจากส่วนมากจะมีระยะเวลาแค่ตอนละ 20 – 30 นาทีเท่านั้น อีกทั้งศัพท์ หรือรูปประโยคที่ใช้ก็สามารถนำไปใช้งานจริงๆ ได้อีกด้วย ไม่เฉพาะทางจนเกินไป เอาล่ะ…มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

Friends

จำนวนซีซั่น: 10

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาววัยทำงาน 6 คน (Ross, Chanlder, Joey, Rachel, Phoebe และ Monica) ที่มักจะมานั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในร้านกาแฟที่ชื่อว่า Central Peak (พ้องเสียงกับสวน Central Park) โดยเรื่องนี้มีครบทุกอารมณ์ ตั้งแต่ความฮา, เศร้า, อกหัก หรือบางทีก็มีโมเมนต์ปสด. ชวนให้คนดูปวดหัว คิดตามเหมือนกัน

How I Met Your Mother

จำนวนซีซั่น: 9

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

เนื้อเรื่องจะคล้ายๆ กับ Friends แต่จะต่างกันที่ตัวละครหลัก (Ted, Barney, Robin, Lily และ Marshell) มักจะไปนั่งคุยกันที่บาร์ หรือร้านเหล้าซะมากกว่า แถมมุกตลกส่วนมากก็จะเน้นไปที่เรื่องสัปดนอีกด้วย ฮ่าๆ แต่ตรงนี้บอกเลยว่า How I Met Your Mother ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เวลาเศร้า ก็เศร้าแบบสุดจริงๆ

Big Bang Theory

จำนวนซีซั่น: 12

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วสำหรับ Big Bang Theory ว่าเรื่องนี้จะมาแนวแบบวิทยาศาสตร์จ๋าๆ อย่างแน่นอน ซึ่งมุกส่วนมากบอกเลยว่าถ้าไม่ได้เรียนสายวิทย์มา อาจจะต้องมีเกาหัวแกรกๆ กันบ้างล่ะ โดยเรื่องนี้จะมี Reference ของหนังเรื่องอื่นๆ อย่าง Star Wars หรือ Star Trek อยู่เยอะมากๆ ใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องเหล่านั้น หรือชื่นชอบวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว Big Bang Theory ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจครับ (..ส่วนใครที่ไม่ชอบด้านนี้ก็ดูได้นะ)

That 70s Show

จำนวนซีซั่น: 8

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

กลุ่มวัยรุ่น 6 คนมานั่งเล่นคุยโน่นนี่กัน เรื่องนี้จะไม่ค่อยมีพล็อตอะไรเยอะ จะดำเนินเรื่องแบบเนิบๆ เรื่อยๆ แต่มุกแต่ละอย่างที่ยิงมากบอกเลยว่าฮาๆ ทั้งนั้น ที่สำคัญคือสาวๆ ตัวหลักของเรื่องอย่าง Dona (รับบทโดย Laura Prepon) และ Jackie (รับบทโดย Mila Kunis) สวยน่ารักมากๆ ส่วนสาวๆ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะตัวหลักฝั่งผู้ชายของเรื่องนี้ก็มีชื่อของ Ashton Kutcher โผล่มาด้วย

Brooklyn Nine-Nine

จำนวนซีซั่น: 6

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

เนื้อเรื่องส่วนมากจะอยู่ที่สถานีตำรวจ มีคดีชวนปวดหัวเข้ามาให้ทุกวี้ทุกวัน ซึ่งตัวเอกของเรื่องนี้อย่าง Jake Peralta มีนิสัยล่อรองเท้าแบบสุดๆ ใครอยากหาซีรีส์สนุกๆ ดูฆ่าเวลา ผมว่าเรื่องนี้ก็เหมาะ แถมภาษาที่ใช้ในเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยยากอีกด้วย

The Good Place

จำนวนซีซั่น: 3

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน/อังกฤษ

The Good Place คือซีรีส์ที่เล่าเรื่องของหนุ่มสาว 4 คนที่ทำความดีบนโลกมาเยอะ จนในที่สุดพอถึงเวลาตาย บุญที่ทำไว้ก็ส่งผล ทำให้พวกเขาได้มาอยู่บนสวรรค์ หรือที่ในซีรีส์เรียกว่า The Good Place นั่นเอง..แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ไปอยู่มา ทำไมมีแต่เรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้นมากมายเต็มไปหมด โดยส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้ค่อนข้างโอเคเลยนะ นักแสดงออกเสียงชัดเจน แถมเรื่องนี้ยังแฝงถึงคำสอนของพวกปรัชญา และข้อคิดดีๆ ไว้เต็มไปหมดอีกด้วย

The IT Crowd

จำนวนซีซั่น: 5

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อังกฤษ

หลายคนที่ติดตาม DroidSans มาตั้งแต่ยุคแรก ผมว่าน่าจะต้องเคยดูเรื่องนี้แบบผ่านๆ ตามาบ้าง เพราะ The IT Crowd นั้นเป็นซีรีส์ที่เน้นไปที่เรื่องของไอทีแบบจ๋าๆ เลย มีมุกมาเสียดสีวงการ (ณ ตอนนั้น) แบบเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่นักแสดงหลัก 2 คน เป็น IT Support อยู่บริษัทนึง ที่เหมือนว่าพวกเขาจะถูกลืม เพราะออฟฟิศนั้นอยู่ในชั้นใต้ดิน แถมแบบรังหนูแบบสุดๆ อีกด้วย

The Inbetweeners

จำนวนซีซั่น: 3

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อังกฤษ

เรื่องนี้ผมให้ที่สุดในดวงใจแล้ว เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น 4 คน ที่มีนิสัยที่แตกต่างกันออกไป คนนึงขี้โม้ม้าแตก, คนนึงเนิร์ด, คนนึงเอ๋อๆ ไม่ค่อยทันโลก และคนสุดท้ายเหมือนจะเป็นผู้เป็นคนสุด โดยถ้าใครชอบมุกตลกแบบอังกฤษ หรือวัฒนธรรมของประเทศนี้ล่ะก็ The Inbetweeners นี่ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว

Cuckoo

จำนวนซีซั่น: 5

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อังกฤษ/อเมริกัน

เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วอาจจะไม่ได้ขำออกมาแบบฮาก๊าก แต่ถือว่าสามารถเอาไว้ดูฆ่าเวลาได้แบบสบายๆ ใครที่เคยดูซีรีส์ซิทคอมเรื่องเก่าๆ อาจจะพอคุ้นเคยกับตัวละครบางคนอยู่บ้าง โดยตัวหลักๆ ก็จะเป็น Andy Samberg (คนเดียวกับที่เล่นเป็น Jake ใน Brooklyn Nine-Nine) และ Helen Baxendale ที่แว๊บนึงเคยไปเล่นเป็น Emily สาวสวยสำเนียงบริติชในซีรีส์ Friends และแม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่มีแต่สำเนียงอังกฤษ แต่การออกเสียงของแต่ละตัวละครก็ทำออกมาได้ชัดเจนมาก เรียกว่าหากใครคล่องๆ หน่อย สามารถดูแบบไม่ต้องเปิดซับได้แบบไม่ยากเลยล่ะ

Fresh Prince of Bel-Air

จำนวนซีซั่น: 6

ความยาวเฉลี่ย: 20 นาที

สำเนียง: อเมริกัน

ปิดท้ายกันที่ซีรีส์ในดวงใจตลอดกาลของตัวผมเองอย่าง Fresh Prince of Bel-Air ที่เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเฮีย Will Smith เลยก็ว่าได้ โดยตัวละครหลักจะเป็นคนผิวสีทั้งหมด ส่วนมากจะเล่าถึงเรื่องความไม่เท่าเทียมกันของสังคมเมกัน ณ ตอนนั้น แต่บอกเลยว่าแต่ละตอนนี่ฮาแบบฮาก๊ากเลย (ตอนไหนซีเรียส หรือเศร้าก็มีน้ำตาแตกอะ) ทั้งนี้ต้องเตือนก่อนว่าเรื่องนี้ใช้ภาษาอังกฤษได้แบบ..ค่อนข้างจะพลิกแพลงจากหนังสือเรียนอยู่มาก ทั้ง Double-Negative (พวก I don’t do nothing, I haven’t go no one with me, etc) เต็มไปหมด แต่พวกนี้รู้เอาไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะเนทีฟบางคนที่พูดแบบนี้เป็นเรื่องปกติจริงๆ

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 ซีรีส์ที่ส่วนตัวผมมองว่าค่อนข้างจะเหมาะกับการฝึกภาษาอังกฤษมากๆ แรกๆ อาจจะต้องเปิดซับไทยอ่านควบคู่ไปด้วย แต่ผมเชื่อว่าดูไปซักพักก็อาจจะคุ้นชินกับภาษา และสำเนียงจนสามารถเปิดซับอังกฤษ หรือไม่ต้องเปิดซับเลยก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องบอกแบบนี้ว่า การฝึกภาษากับ Netflix แบบนี้ อาจจะไม่ได้เรื่องแกรมม่าร์แบบ 100% นะครับ เพราะการใช้ภาษาในชีวิตจริง อาจจะมีลดรูป หรือพูดวิบัติไปบ้าง แต่ถ้าเอาไปฝึกเพื่อพูดในชีวิตประจำวันทั่วไป คุยกับเพื่อน ฯลฯ ผมมั่นใจว่าซีรีส์ที่ผมแนะนำมา ใช้ได้หมดครับ

[Update] 5 เคล็ดลับดูหนังฝรั่งยังไงให้เก่งภาษาอังกฤษ(แนะนำหนังที่ใช้ฝึกฟัง) | หนังฝึกฟังภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

ปัญหายอดฮิตที่น้องๆ ถามกันเข้ามายังคงเป็นเรื่อง

“ทำยังไงถึงจะเก่งภาษาอังกฤษได้”

ส่วนมากพี่ก็จะตอบไปว่ามันแล้วแต่คน น้องต้องค้นหาให้พบก่อนว่าตัวเองรับข้อมูลทางไหนได้ดีที่สุด

    บางคนถนัดเรียนพิเศษ บางคนถนัดฝึกแชทกับฝรั่งจริงๆ หรือบางคนถนัดเรียนจากสื่อบันเทิงต่างๆ อย่าง

พี่พิซซ่า

เองเป็นคนชอบดูหนังดูซีรี่ส์มาตั้งแต่เด็กแล้ว ภาพยนตร์จึงเป็นสื่อหลักที่ทำให้พี่ซึมซับภาษาอังกฤษมาได้เยอะกว่าทางอื่น วันนี้พี่เลยจะมาแบ่งปันเทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษจากการชมภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ค่ะ


 

1. เลือกหนังที่เราสนใจและอยากดูจริงๆ

     ถ้าเลือกหนังที่มีเนื้อเรื่องไม่ถูกใจเรา ในใจเราก็จะไม่ค่อยอยากดูละ แล้วก็จะไม่ได้อะไรเลย เช่น พี่เป็นคนกลัวผีมาก ถ้าพี่เลือกหนังผีมาเพื่อฝึกภาษาก็คงไม่ได้ประโยชน์แน่นอนเพราะพี่คงปิดหูปิดตาตัวเองทั้งเรื่อง นอกจากนี้ก็อย่างกอยากฟังบทพูดเยอะๆ โดยการเลือกดูหนังดราม่าหนักๆ ที่ตัวละครคุยกันยาวเป็นหน้า (ถ้าไม่ใช่คนชอบแนวนี้) อันนี้พี่เจอมากับตัวเลยค่ะ เพราะหนังสายนี้ไม่ใช่สไตล์พี่ แต่ด้วยความงก คิดไปว่าถ้าเลือกเรื่องนี้จะได้ศัพท์เยอะกว่าหนังสไตล์ที่ตัวเองชอบแน่ๆ ที่ไหนได้พี่เอาแต่นั่งเหม่อเสียเวลาเล่นๆ ไปแทน ดังนั้นการเลือกหนังหรือซีรีส์ที่จะดูจึงเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ
   
      ตอนเด็กๆ ส่วนมากพี่ก็ดูแต่หนังเด็กค่ะ เนื้อเรื่องจะไม่หนัก ภาษาที่ใช้ในบทพูดค่อนข้างเข้าใจง่าย รูปประโยคไม่ซับซ้อน พวกการ์ตูนตอนสั้นๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน (เอาที่มีบทพูดนะ ไม่ใช่แบบทอมกับเจอร์รี่ที่ไม่พูดกันเลย) พอเริ่มใช้ภาษาอังกฤษรู้เรื่องก็ค่อยดูหนังแฟนตาซีที่ไม่เด็กมากนัก อันนี้เป็นแนวที่พี่ชอบนะคะ น้องๆ ชอบแนวไหนก็เลือกดูแนวที่ตัวเองชอบเลยค่ะ ถึงแนวที่ตัวเองชอบบทพูดอาจไม่เยอะหรือไม่ยาก แต่ก็ดีกว่ากดดันตัวเองโดยการเลือกแนวที่ไม่ชอบแน่ๆ นี่ไม่ใช่วิชาที่อาจารย์บังคับให้ดูหนังแล้วเขียนรายงานส่ง ฉะนั้นเลือกที่ตัวเองชอบดีที่สุด

2. เลือกระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ในเรื่องให้เหมาะกับตัวเอง

     โชคดีมากที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคแรกฉายตอนพี่อยู่ประมาณม.1 ภาคนั้นบทพูดไม่ซับซ้อนแถมพี่อ่านหนังสือมาด้วยแล้ว ทำให้เป็นหนังที่พี่เปิดดูแทบทุกวันจนที่บ้านดุเลย 555 เพราะคนอื่นก็อยากดูอย่างอื่นบ้าง สำหรับพี่ตอนนั้นแฮร์รี่ใช้ภาษาเท่ากับที่พี่พอรู้เรื่องเลยค่ะ ทำให้พี่เข้าใจได้ง่าย พอเข้าใจตามได้ง่ายก็จะรู้สึกสนุก พี่ดูจนพูดบทได้ทั้งเรื่อง จำคิวได้เลยว่าใครพูดอะไรตอนไหน แถมพยายามเลียนแบบสำเนียงบริติชของแต่ละตัวละครในเรื่องด้วย ขนาดตอนนี้พี่ใช้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน แต่ถ้าพูดวลีไหนที่มีในแฮร์รี่ภาคแรกพี่ยังพูดเป็นสำเนียงบริติชเลย มันฝังลงไปแล้วจริงๆ 555
       
      ส่วนข้อเสียของการเลือกชมเรื่องที่ภาษาอังกฤษยากเกินระดับเราคือ มันจะทำให้เราไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ รู้สึกตามไม่ค่อยทันแล้วอาจเหนื่อยขึ้นมาได้ อันที่จริงคือเราสามารถเลือกระดับที่สูงกว่าความสามารถทางภาษาของเราได้ในระดับนึงนะคะ เพื่อเราจะได้เรียนรู้และได้พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น แต่ถ้ามันห่างกันเกินไปก็จะได้ผลไม่ดีเท่าดูเรื่องที่ภาษาใกล้เคียงกับเราค่ะ เช่นระดับภาษาเราอยู่ประมาณพออ่านออกเขียนได้ถามได้ว่าสบายดีมั้ย แต่จะไปเลือกเรื่องที่มีแต่รูปประโยคและศัพท์ยากจนขนาดเปิดซับไทยอ่านยังอ่านไม่รู้เรื่องก็ไม่ไหวนะ ดีไม่ดีจะนั่งเอ๋อทั้งเรื่องแทนค่ะ

3. เลือกเรื่องที่ใช้ภาษาถูกต้องและตามยุคสมัย

     ถ้าเป็นภาพยนตร์สร้างตามบทละครเชคสเปียร์ นอกจากภาษาจะยากแล้ว ยังใช้ภาษาอังกฤษแบบเก่าที่คนยุคนี้ไม่พูดกันแล้วด้วย ถ้าเอามาพูดใช้จริงก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเราพูดกันด้วยภาษาสมัยกรุงศรีอยุธยาค่ะ น่าจะทำคนอื่นงงไปตามๆ กัน สำหรับคนที่กำลังฝึกภาษาแรกๆ ก็ไม่ควรใช้เรื่องแบบนี้เพื่อฝึกนะคะ แต่ดูเพื่อความเพลิดเพลินได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ภาษาเลิศแล้ว จะจำมาใช้บ้างเพื่อเป็นเสน่ห์ก็ได้ค่ะ
    
     อีกแนวที่ต้องระวังคือภาพยนตร์แนวฮิพฮ็อพหรือใกล้เคียง เพราะภาษาฮิพฮ็อพจะแหกกฎแกรมมาร์ไปเยอะอยู่ จริงอยู่ที่มีชาวต่างชาติใช้จริงอยู่บ้าง แต่เอาไว้ฝึกตอนที่เราเข้าใจแกรมมาร์จริงๆ ก่อนแล้วจะดีกว่าค่ะ แถมชาวต่างชาติที่ใช้ก็เป็นแค่ชาวอเมริกันส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นภาษากลางค่ะ (ภาษาพูดกับภาษาที่ผิดแกรมมาร์ไปเลยต่างกันนะคะ ภาษาพูดเช่น gotta, wanna แต่ภาษาผิดแกรมมาร์เช่น I don’t know nobody here.)

4. ปิดซับ

     เดี๋ยวนี้ทีวีหลายช่องที่ฉายภาพยนตร์หรือซีรี่ส์มีฟังก์ชั่นให้ฟังเสียงจริงและกดปิดซับได้แล้วด้วย ฉะนั้นต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ หรือถ้าไม่ได้รับช่องแบบนั้นจะซื้อแผ่นแท้มาดูแบบปิดซับได้ก็ใช้ได้เหมือนกัน สเต็ปการปิดซับที่พี่คิดว่าโอเคเลยคือ
    
     รอบแรกดูแบบเปิดซับไทยก่อนให้เข้าใจ รู้เรื่องว่าเรื่องนี้มันสื่ออะไร ใครเป็นใคร
     รอบสองปิดซับ ลองตั้งใจฟังบทพูดแต่ละตัวละคร ตั้งใจฟังแต่ละคำ
     รอบสามปิดซับ พยายามสะกดคำศัพท์ที่ได้ยินออกมา หรือจะเขียนทั้งประโยคเลยก็ได้ (ถ้าฝึกภาษากับหนังมาหลายเรื่องแล้ว จะจดศัพท์ตั้งแต่รอบที่สองเลยก็ได้)
     รอบสี่เปิดซับภาษาอังกฤษเช็คว่าที่เราเขียนออกมาถูกมั้ย ถ้าไม่มีซับอังกฤษให้ตรวจก็

    
      ลองเสิร์ชหาไฟล์ซับภาษาอังกฤษของบทพูดเรื่องนั้นจากอินเทอร์เน็ตดูก็ได้ค่ะ แล้วก็อย่าลืมเปิดความหมายของศัพท์ที่ไม่รู้จากพจนานุกรมด้วย ถ้าจะให้ดีต้องเป็นพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ เผื่อบางทีเขาแปลซับไทยมาให้ผิด
    

      วกกลับมาที่แฮร์รี่ภาคแรกกับพี่ ^_^ ด้วยความที่ดูในโรงและรู้เรื่องจากหนังสือแล้วพอซื้อแผ่นมาพี่ก็ดูแบบเปิดซับอังกฤษในรอบแรก แล้วค่อยดูแบบปิดซับในรอบต่อๆ มาเพื่อลองเขียนตามที่ได้ยินก่อนเปิดซับอังกฤษตรวจอีกรอบ ที่จำแม่นเลยคือคำว่า pleasure ตอนที่เฮอร์ไมโอนี่พูดหลังรอนแนะนำตัวในฉากที่เจอกันบนรถไฟ ตอนนั้นพี่ไม่รู้จักคำนี้มาก่อนพอได้ยินก็เดาว่ามันต้องเขียนว่า playsher แน่ๆ แต่เปิดพจนานุกรมหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนไปเปิดซับตรวจถึงเห็นว่าเป็น pleasure หน้าตาไม่เห็นเข้ากับเสียงเลย แต่ก็ทำให้รู้จักคำนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

5 เหตุผลที่ทำให้หลายคนเลือก

5. ฝึกออกเสียงตาม

     อย่างที่บอกไปว่าพี่พูดสำเนียงบริติชได้เฉพาะบทพูดในแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นก็เพราะดูแล้วพี่ฝึกออกเสียงตามค่ะ อันนี้ทำที่บ้านนะคะไม่ใช่ในโรงหนัง กดหยุดแล้วลองพูดตามบางประโยคที่สนใจ ตอนนั้นนอกจากสำเนียงแล้วหน้ากับน้ำเสียงก็ไปตามแต่ละตัวละครด้วยค่ะ แต่การทำแบบนี้มันก็ให้ประโยชน์จริงๆ นะ โดยเฉพาะสำนวนพูดคุยหรือภาษาพูดค่ะ เช่น เวลาพูดว่า Come on! จริงๆ มันออกมายังไง
   
     ถ้าเป็นภาพยนตร์ที่มีตัวละครชาติอื่นพูดอังกฤษแบบติดสำเนียงภาษาตัวเอง ถ้าเราอยากฝึกให้มีสำเนียงบริติชหรือสำเนียงอเมริกันจริงๆ ก็ไม่ควรออกตามตัวละครเหล่านั้นนะคะ แต่ตัวละครเหล่านี้เหมาะใช้ฝึกฟังมากๆ เลยค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจอภาษาอังกฤษสำเนียงอะไรบ้าง การฝึกหูฟังหลายๆ สำเนียงจะช่วยให้ฟังรู้เรื่องขึ้นเยอะเลย หนังที่พี่อยากแนะนำให้ฝึกฟังหลายๆ สำเนียงเลยคือ Inglourious Basterds (2009) เป็นหนังที่สนุกมากๆ เลยด้วย

แนะนำภาพยนตร์สำหรับผู้สนใจเริ่มฝึกภาษาอังกฤษ

     – หนังตัวเอกเป็นเด็กทั้งหลายเช่น Harry Potter และ The Chronicles of Narnia หรือแม้แต่หนังเด็กเบาๆ อย่างภาพยนตร์สมัยเด็กของคู่แฝด Olsen, ลินด์เซย์ โลฮาน หรือฮิลารี่ ดัฟฟ์ เช่นเรื่อง The Parent Trap ที่ลินด์เซย์เล่นเป็นแฝดคนนึงอยู่อเมริกาคนนึงอยู่อังกฤษ ต้องฝึกใช้ 2 สำเนียง
     – การ์ตูนและอนิเมชั่นน่ารักอย่าง Toy Story, Finding Nemo, Monsters, Inc.
     – หนังที่ Tom Hanks เล่น พี่ไม่ได้เป็นติ่งแต่รู้สึกว่าทอม แฮงค์พูดค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับดาราดังคนอื่นๆ ค่ะ น่าจะฟังกันง่ายแถมหนังเขาเยอะด้วย อย่าง Cast Away ก็จะเจอเขาพูดคนเดียวแทบทั้งเรื่อง หรือ Forrest Gump เขาจะพูดช้าเข้าไปใหญ่อีก
     – ซีรี่ส์ Mind Your Language ดูได้ที่ YouTube มีหลายสำเนียงให้ได้ยิน
     – หนังคลาสสิกอย่าง My Fair Lady มีหลายเวอร์ชั่นทั้งเป็นละครเพลงและภาพยนตร์ธรรมดา นางเอกใช้ภาษาอังกฤษแบบสำเนียงท้องถิ่นและไม่ค่อยเป็นกุลสตรี พระเอกเลยสอนการเป็นกุลสตรีให้ ดูแล้วจะเหมือนได้เรียนไปพร้อมนางเอก (แนะนำเวอร์ชั่นปี 1964)
     – หนังที่ตัวเอกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แล้วต้องจับมาสอนแนวการ์ตูน Tarzan เช่น George of the Jungle (1997), Encino Man (1992)
     – หนังยุคปี 1980-2000 เสียงพูดจะชัดๆ โดดๆ ออกมาจากเสียงดนตรีประกอบมากกว่าหนังยุคนี้ค่ะ ความเร็วในการพูดของยุคนั้นถือว่าช้ากว่าสมัยนี้ด้วย จริงๆ จะดูเก่ากว่านั้นก็ได้แต่คิดว่าไม่น่าจะชอบหนังเก่าไปมากกว่านี้กันแล้ว

    

ใครมีหนังในดวงใจที่ใช้ฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลยนะคะ และสิ่งที่อยากฝากก็คืออย่ากดดันตัวเองมากจนไม่สนุกกับการดูหนังล่ะ เพราะจุดหมายของการฝึกภาษาจากภาพยนตร์คือมันทำให้เราได้เรียนรู้ควบคู่กับความสนุก ถ้าคำไหนจดไม่ทันก็ปล่อยมันไป ค่อยมาเก็บตอนดูอีกรอบก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกดหยุดถี่ๆ ค่ะ


IN TIME | ล่าเวลาสุดนรก | หนังเต็ม | FULL MOVIE | THAI SUB | ภาพยนตร์ฮอลลีวูด


IN TIME | ล่าเวลาสุดนรก | หนังเต็ม | FULL MOVIE | THAI SUB | ภาพยนตร์ฮอลลีวูด
เรื่องย่อของ In Time (2011) : ล่าเวลาสุดนรก
ในโลกแห่งอนาคต เมื่อเวลามีค่าเหมือนเงินตรา และเวลาแห่งอายุขัยจะหยุดเมื่ออายุ 25 ปี มีเพียงทางเดียวที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้คือการทำงานแลก ขโมย หรือได้รับโอนเวลาเพิ่มขึ้น วิล เซลาส (จัสติน ทิมเบอร์เลก) ใช้ชีวิตอยู่ทุกวินาที จนกระทั่งได้รับเวลาเป็นลาภลอย ทำให้เขาได้เข้าสู่โลกแห่งผู้ร่ำรวย ซึ่งเขาต้องร่วมมือกับทายาทสาวสวยเพื่อทำลายล้างระบอบการทุจริต

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

IN TIME  | ล่าเวลาสุดนรก | หนังเต็ม | FULL MOVIE | THAI SUB | ภาพยนตร์ฮอลลีวูด

ฝึกภาษาอังกฤษจากหนัง Harry Potter EP.2


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
ฝึกอังกฤษจากหนัง หนังฝึกภาษาอังกฤษ HarryPotter
คำว่า Chooses, Definitely กับ Apparently ในวีดีโอ พิมพ์ผิดนะครับ ขอโทษทีน้าา พอดีไม่ได้เช็ค เผื่อใครจดตามดูที่ถูกในสคริปนี้นะ
Script
Harry: Hello? Hello?
Ollivander: I wondered when I’d be seeing you, Mr. Potter. It seems only yesterday that your mother and father were in here buying their first wands. Ah. Here we are. Well, give it a wave.
Ollivander: Apparently not. Perhaps this. No, no, definitely not! No matter…I wonder. Curious, very curious.
Harry: Sorry, but what’s curious?
Ollivander: I remember every wand I’ve ever sold, Mr. Potter. It just so happens that the phoenix, whose tail feather resides in your wand gave one other feather, just one. It is curious that you should be destined for this wand when its brother gave you that scar.
Harry: And…who owned that wand?
Ollivander: Oh, we do not speak his name. The wand chooses the wizard, Mr. Potter. It’s not always clear why, but I think it is clear that we can expect great things from you. After all, HeWhoMustNotBeNamed did great things…terrible, yes, but great.
Hagrid: Harry! Harry! Happy birthday!
Harry: Wow.
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

ฝึกภาษาอังกฤษจากหนัง Harry Potter EP.2

Harry Potter – Dobby เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง


Harry Potter - Dobby เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง

ABC Song + More Nursery Rhymes \u0026 Kids Songs – CoComelon


Subscribe for new videos every week!
https://www.youtube.com/c/Cocomelon?sub_confirmation=1
A new compilation video, including one of our most recent songs, \”The ABC Song\”!

Watch your favorite song by clicking a title below:
0:08 ABC Song
3:39 Head Shoulders Knees and Toes
6:30 The Car Color Song
10:46 Clean Up Song
13:31 The Shapes Song
17:44 The Musical Instruments Song
21:01 Tortoise and the Hare
24:43 Hot Cross Buns
27:19 Daisy Bell
29:43 Laughing Baby with Family
31:51 PeekABoo
33:39 Johny Johny Yes Papa
About Cocomelon:
Where kids can be happy and smart!
At Cocomelon, our goal is to help make learning a fun and enjoyable experience for kids by creating beautiful 3D animation, educational lyrics, and toetapping music.
Kids will laugh, dance, sing, and play along with our videos, learning letters, numbers, animal sounds, colors, and much, much more while simply enjoying our friendly characters and fun stories.
We also make life easier for parents who want to keep their kids happily entertained, giving you the peace of mind that your children are receiving quality educational content. Our videos also give you an opportunity to teach and play with your children as you both watch!
WEBSITE: http://www.Cocomelon.com
FACEBOOK: https://www.facebook.com/Cocomelonkids
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/cocomelon_official/
TWITTER: https://www.twitter.com/Cocomelonkids

Copyright © Treasure Studio, Inc. All rights reserved.

ABC Song + More Nursery Rhymes \u0026 Kids Songs - CoComelon

learn English through animation (ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากการ์ตูน)


ฝากกดติดตามกดกระดิ่งแจ้งเตือนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

learn English through animation  (ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากการ์ตูน)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ หนังฝึกฟังภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *