Skip to content
Home » [Update] เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ 2020 เรียนภาษาระยะสั้นที่ต่างประเทศ ค่าใช้จ่าย | เรียนซัมเมอร์ที่จีน – NATAVIGUIDES

[Update] เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ 2020 เรียนภาษาระยะสั้นที่ต่างประเทศ ค่าใช้จ่าย | เรียนซัมเมอร์ที่จีน – NATAVIGUIDES

เรียนซัมเมอร์ที่จีน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ 2020 เรียนภาษาระยะสั้นที่ต่างประเทศ ค่าใช้จ่าย

Table of Contents

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ วางแผนสำหรับปิดเทอมปี 2020

ข้อมูลสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียนให้เป็นประโยชน์ ในการไป เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ หรือเรียนภาษาระยะสั้นที่ต่างประเทศ เพื่อฝึกฝนทักษะภาษาเพิ่มเติม เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน หรือภาษาอื่น ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่น้อง ๆ จะได้ทั้งฝึกฝนทักษะภาษา ได้ประสบการณ์ ได้เพื่อนชาวต่างชาติ และมีโอกาสฝึกฝนการพึ่งพาตัวเอง

สำหรับช่วงปิดเทอมในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้อง ๆ ที่ปิดเทอม ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม หรือน้อง ๆ ที่ปิดเทอมในระดับมหาวิทยาลัย เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ทางพี่ได้ทำข้อมูลเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในแต่ละประเทศ เพื่อให้น้อง ๆ นำข้อมูลไปพิจารณาในเบื้องต้นเพื่อวางแผนเลือกประเทศและสถานที่เรียนที่เหมาะสมกับตนเองได้ โดยประเทศหลัก ๆ ที่ ยกตัวอย่างมา ได้แก่

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศประเทศรับนักเรียนอายุตั้งแต่หลักสูตรเรียนเริ่มต้น (ชั่วโมงต่อสัปดาห์)ที่พักแบบ Host Familyที่พักแบบหอพักค่าใช้จ่ายออสเตรเลีย6 ปีขึ้นไป20มีไม่มีคลิกที่นี่นิวซีแลนด์10 ปีขึ้นไป20มีไม่มีคลิกที่นี่สิงคโปร์8 ปีขึ้นไป30มีมีคลิกที่นี่มาเลเซีย15 ปีขึ้นไป25ไม่มีมีคลิกที่นี่เกาหลีใต้15 ปีขึ้นไป12มีมีคลิกที่นี่ญี่ปุ่น15 ปีขึ้นไป15มีมีคลิกที่นี่ฟิลิปปินส์10 ปีขึ้นไป35ไม่มีมีคลิกที่นี่ฝรั่งเศส15 ปีขึ้นไป17มีมีคลิกที่นี่เยอรมนี14 ปีขึ้นไป15มีมีคลิกที่นี่อังกฤษ12 ปีขึ้นไป15มีมีคลิกที่นี่ไอร์แลนด์16 ปีขึ้นไป20มีมีคลิกที่นี่

.

ข้อดี

ของการไป เรียน

ซัมเมอร์

ต่างประเทศ

  1. การเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ ทำให้ได้ฝึกฝนภาษากับเจ้าของภาษาในสภาพแวดล้อมที่เป็นภาษานั้นจริง ๆ ซึ่งช่วยให้น้อง ๆ สามารถซึมซับทักษะภาษา จดจำสำเนียงของเจ้าของภาษา ทำให้ทักษะพัฒนาดีขึ้นอีกระดับ และสามารถใช้ภาษาได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
  2. ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย ฝึกการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ ที่หลายหลายจากทั่วโลก ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ วัฒนธรรมใหม่ ๆ
  3. ในกรณีที่น้อง ๆ ไปพักกับโฮมสเตย์ หรือ ที่พักกับที่ทางโรงเรียนจัดหาให้ในช่วงที่เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ จะช่วยให้น้อง ๆ เรียนรู้เรื่องการปรับตัว การอยู่อาศัยกับผู้อื่นที่ไม่ใช่ผู้ปกครอง ฝึกฝนการพึ่งพาตัวเองในช่วงสั้น ๆ ซึ่งช่วยให้น้อง ๆ มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
  4. ในบางหลักสูตรของ เรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ จะรวมเอากิจกรรมทัศนศึกษา สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่น่าสนใจ มาใช้ร่วมกับการเรียนการสอนด้วย ซึ่งทำให้น้อง ๆ ได้ผ่อนคลายรวมถึงได้มีโอกาสพักผ่อนเปิดหูเปิดตากับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมไปพร้อม ๆ กับการถพัฒนาทักษะได้อีกด้วย
  5. การไป เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ เป็นเหมือนการได้ทดลองไปเรียนต่างประเทศ สำหรับน้อง ๆ ที่มีแผนจะเรียนต่อในระยะยาว ว่าชอบเมืองนั้นไหม อยู่ได้ไหม สามารถปรับตัวได้หรือไม่ และยังมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสถาบัน หรือ มหาวิทยาลัย ที่ตนเองสนใจเรียนต่อในอนาคตอีกด้วย
  6. การไป เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ อาจมีส่วนช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น การได้ออกไปเผชิญโลกที่ไม่เคยเห็น ได้ผจญภัย มีส่วนช่วยให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับตนเองได้มากยิ่งขึ้น และมีเวลาคิดว่า ตนเองนั้นชอบทำอะไร อยากทำอะไร อยากประกอบวิชาชีพใด หรืออยากเรียนต่อในสาขาใดในอนาคต

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ ออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม เหมาะสำหรับน้องๆที่ชอบการทำกิจกรรม การพบปะผู้คน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ในช่วงปิดเทอมของน้องๆให้เป็นปิดเทอมที่วิเศษ ขอแนะนำการเรียนและทำกิจกรรมที่ประเทศออสเตรเลีย หลักสูตรแบ่งเป็นเด็กและผู้ใหญ่

เเนะนำสถาบันสอนภาษา สำหรับอายุ 11-17 ปี

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ ออสเตรเลีย

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน St Paul’s School, Brisbane

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ โรงเรียนเซนต์พอล (St Paul’s School) ซึ่งเป็นโรงเรียนสัญชาติอังกฤษ เปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลไปจนถึงชั้นมัธยมปลาย ตัววิทยาเขตมีพื้นที่ 50 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ทางเหนือของเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

หลักสูตรระยะสั้น 4-8 สัปดาห์

ในช่วงหยุดภาคฤดูร้อนโรงเรียนเปิดรับนักเรียนอายุตั้ง 11-17 ปี เพื่อเข้าเรียนภาษาอังกฤษพร้อมทัศนศึกษาในระยะสั้น เพื่อให้นักเรียนต่างชาติได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเข้าสังคมกับเพื่อนต่างชาติและเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมทั้งพานักเรียนไปทัศนศึกษาในสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งในเมืองบริสเบน อาทิเช่น Movie World, Dreamworld, Sea World, Under Water World, Australia Zoo เป็นต้น

เเนะนำสถาบันสอนภาษา สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไป

เรียนซัมเมอร์ที่ออสเตรเลีย UWA

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน The Centre for English Language Teaching (CELT) – University of Western Australia

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบันสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัย  University of Western Australia ซึ่งทางสถาบันเป็นศูนย์กลางการสอนภาษาอังกฤษที่สะท้อนถึงขนบธรรมเนียมของมหาวิทยาลัยในการให้การศึกษาที่มีคุณภาพสูง มีสภาพเเว้ดล้อมที่เป็นมิตร เเละเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษ เรียนรู้การใช้ชีวิตในออสเตรเลียผ่านการทำกิจกรรม ชิ้นงานเเละโครงการต่างๆ

หลักสูตร General English 

เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการจะพัฒนาทักษะในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น หลักสูตรเหล่านี้ยังเป็นเส้นทางที่นำไปสู่โปรแกรมการเรียนภาษา อังกฤษอื่นๆ ทั้งหมดที่ UWA อีกด้วย เปิดสอนตั้งเเต่ 5-45 สัปดาห์

ช่วงเปิดเรียน ปี 2019

  • 7 Jan,11 Feb, 18 Mar, 29 Apr,3 Jun, 15 Jul, 19 Aug, 30 Sep, 4 Nov

สรุปที่พักในการไปเรียนที่ออสเตรเลีย

  • สำหรับเด็ก อายุ 11-17 ปี จะต้องอยู่กับ homestay ซึ่งจะมีผู้ปกครองฝั่งออสเตรเลีย (ที่โรงเรียนแต่งตั้งขึ้น) คอยดูแล ทั้งเรื่องแนะนำการเดินทาง อาหาร และความเป็นอยู่โดยรวม อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง
  • สำหรับนักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเลือกที่อยู่ homestay หรือกรณีที่มีเพื่อน/ญาติ  อยู่ในประเทศออสเตรเลีย ก็สามารถดำเนินการจัดการเองได้
  • Student Residence  มีบางสถาบันเท่านั้นที่มี บ้าน หรือ Apartment ไว้ให้นักเรียนแชร์กัน เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้นักเรียนเลือก เฉพาะนักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ นิวซีแลนด์เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ นิวซีแลนด์

นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ สถานที่ต่างๆ ดูสวยงาม มองไปทางไหนก็ดูสดชื่นจากความเขียวขจีของต้นไม้ มีธรรมชาติที่รายล้อมเมือง น้องๆที่ไม่ชอบความวุ่นวาย รักความสงบ ชอบไปเที่ยวตามป่าเขา จึงรักที่จะเดินทางมาเรียนและพักผ่อนที่นี่

เเนะนำสถาบันสอนภาษา สำหรับอายุ 14-17 ปี

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Mount Maunganui Language Centre

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Mount Maunganui Language Centre สถาบันนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1990 ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด Mount Maunganui บรรยากาศเงียบสงบ      เหมาะกับการเรียน  นักเรียนมีหลากหลายเชื้อชาติทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่แตกต่างกันเป็นอย่างดี สถาบันให้ความสำคัญถึงประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับเมื่อมาเรียนที่นี่ โดยจำกัดจำนวนนักเรียนที่เรียนในแต่ละห้องเรียน ไม่ให้มีเยอะจนเกินไป และไม่ขยายใหญ่โตจนไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง นักเรียนที่มาเรียนจะรู้สึกถึงความเป็นกันเอง ความมีไมตรีจิตระหว่างผู้เรียนและเจ้าหน้าที่

หลักสูตร General English Course

ภาษาอังกฤษทั่วไปเปิดสอนในระดับ elementary, lower-intermediate, intermediate และ upper level สำหรับนักเรียนที่พื้นฐานน้อยมาก คือในระดับเริ่มต้น  (beginner) ต้องเรียนแบบตัวต่อตัวก่อนจึงสามารถจะเรียนร่วมกลุ่มได้ สามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่ 2 – 52 สัปดาห์

ช่วงเปิดเรียน 2020

  • ทุกวันจันทร์ ตลอดทั้งปี

 

เเนะนำสถาบันสอนภาษา สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไป

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Languages International

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Languages International ซึ่งเป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1978 เป็นสถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ มีชื่อเสียงทั่วโลกในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งด้านการดูแลเอาใจใส่นักเรียน สถาบันตั้งอยู่ในอาคารอันเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์จำนวน 5 หลัง ที่ตั้งอยู่ทั้งภายในและบริเวณรอบ มีธรรมชาติอันสวยงามของสวนอัลเบิร์ต เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

หลักสูตร General English

  • การเรียนเต็มเวลา (Full-time)

    23 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ประกอบด้วย 20 ชั่วโมง(60- นาที ) ในห้องเรียน และ3 ชั่วโมง(60- นาที ) ในศูนย์การศึกษาด้วยตนเอง ที่มีอาจารย์ควบคุม ดูแล

  • การเรียนแบบไม่เต็มเวลา(Part-time) 

    13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ประกอบด้วย 10 ชั่วโมง(60- นาที ) ในห้องเรียน และ3 ชั่วโมง(60- นาที ) ในศูนย์การศึกษาด้วยตนเอง ที่มีอาจารย์ควบคุม ดูแล

ช่วงเปิดเรียน 2020

  • ทุกวันจันทร์ ตลอดทั้งปี

ที่พัก

  • สำหรับเด็ก อายุ 11-17 ปี  

    จะต้องอยู่กับ homestay ซึ่งจะมีผู้ปกครองฝั่งนิวซีแลนด์ (ที่โรงเรียนแต่งตั้งขึ้น) คอยดูแล ทั้งเรื่องแนะนำการเดินทาง อาหาร และความเป็นอยู่โดยรวมอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง

  • สำหรับนักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป

    สามารถเลือกที่อยู่ homestay หรือกรณีที่มีเพื่อน/ญาติ  อยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ ก็สามารถดำเนินการจัดการเองได้

  • Student Residence มีบางสถาบันเท่านั้นที่มี บ้าน หรือ Apartment ไว้ให้นักเรียนแชร์กัน เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้นักเรียนเลือก เฉพาะนักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น

     

ประเทศอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร ชื่อเต็ม United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland ซึ่งนิยมเรียกสั้นๆกันแค่ United Kigdom  ซึ่งหมายถึงดินแดนที่รวมทั้งเกาะใหญ่ และแคว้นไอร์แลนด์เหนือ ดินแดนทั้งหมดนี้ได้รวมอาณาเขต 4 ประเทศไว้ด้วยกัน ซึ่งก็มี  อังกฤษ สก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือและเวลส์ อังกฤษเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมากทั้งในเรื่องของ ศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษา คนส่วนใหญ่จึงนิยมไป เรียนภาษาที่อังกฤษ เนื่องจากจะได้ความรู้ทางด้านวิชาการแล้ว การไป เรียนต่อภาษาประเทศอังกฤษนั้น จะได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับสถาบัน NCG (New College Group )

แนะนำสถาบันสอนภาษา

เรียนซัมเมอร์ กับสถาบัน New College Group (NCG) ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ เปิดสอนภาษาอังกฤษเพื่อให้นักเรียนชาวต่างชาติ ได้พัฒนาภาษา และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนในระดับการศึกษา ที่สูงขึ้น ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2554 และได้รับการรับรองจาก British Council และ English UK Member ปัจจุบันมี 2 สาขาคือที่ แมนเชสเตอร์ และ ลิเวอร์พูล

หลักสูตรระยะสั้น 4 สัปดาห์ 8 สัปดาห์ หรือ 12 สัปดาห์

  • เนื้อหาที่เรียน ฟัง, พูด, อ่าน และเขียน
  • ใน 1 ห้องมีนักเรียนประมาณ 6-15 คน

ช่วงเปิดเรียน

  • ทุกวันจันทร์

ที่พัก

  • Homestay มีทั้งห้องเดี่ยวและห้องแชร์
  • อาหารเช้าและเย็นทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ มีอาหารให้ครบ 3 มื้อ

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ สิงคโปร์
เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ สิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์ เป็นอีก 1 ประเทศ ที่นักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เนื่องจากเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ และอยู่ใกล้กับประเทศไทย นอกจากนี้ สิงคโปร์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น เกาะมหาสนุก Sentosa ที่มีสวนสนุกชื่อดังอย่าง Universal Studios มาเปิด หรือจะเป็นย่าน Marina Bay ที่นักท่องเที่ยว สามารถเดินเที่ยวได้อย่างไม่มีวันเบื่อ ส่วนถ้าใครชอบทานของอร่อยๆ ด้วยแล้ว สิงคโปร์ ก็มีอาหารทีอร่อยเยอะมาก เช่น ข้าวมันไก่, บักกุ๊ดเต๋ ไว้รอต้อนรับค่ะ ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักเรียนนิยมไป เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ

เเนะนำสถาบันสอนภาษา

เรียนซัมเมอทีสิงคโปร์ Hawthorn

สถาบัน Hawthorn Language School

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Hawthorn Language School ตัวสถาบันเป็นศูนย์ภาษาของ University of Melbourne ที่ได้การยอมรับว่าเป็นศูนย์ภาษาอันดับ 1 ของเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และทางสถาบันได้มาเปิดสาขาอยู่ภายใต้ TMC Academy โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองสิงคโปร์ ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Rochor (DT13) และ Orchard (NS22) นอกจากจะใกล้สถานีรถไฟฟ้าแล้ว ยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์ของประเทศสิงคโปร์อีกด้วย เช่น Merlion, China Town, Orchard Road เป็นต้น

หลักสูตรระยะสั้น 4 สัปดาห์

  • คลาสเรียนขนาดเล็กเพียง 10-15 คนต่อคลาส
  • เนื้อหาเข้มข้นทั้งฟัง พูด อ่าน เขียนและไวยากรณ์
  • ชั้นเรียนออกแบบมาเพื่อให้มีโอกาสพูดคุยสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้นชาวต่างชาติ

ช่วงเปิดเรียน

2019


  • 30 ก.ย. / 7 ต.ค./ 11 พ.ย. / 18 พ.ย.

ที่พัก

  • ห่างจากสถาบันเพียง 100 เมตร
  • ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาที ถึงสถาบัน
  • Free WI-FI
  • มีห้องนั่งเล่น ห้องซักรีด และห้องครัวส่วนกลาง
  • ระบบรักษาความปลอดภัยด้วย CCTV และมีระบบKey Card เข้าออก ระหว่างชั้น
  • ภายในแต่ละชั้นจะเป็นห้องน้ำรวม

* ถ้าต้องการให้ทางโรงเรียนจัดหาที่พักให้ ควรทำเรื่องสมัครล่วงหน้า 2 – 3 เดือน แต่ถ้าจัดหาที่พักเองใช้ระยะเวลาในการสมัคร 2 – 3 สัปดาห์ค่ะ

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ ฟิลิปปินส์
ประเทศฟิลิปปินส์ หรือ ชื่อทางการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีเกาะสวยงามอยู่มากกว่า 7,100 เกาะ และมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอีกมากมาย รวมถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าสนใจ เนื่องจากฟิลิปปินส์เคยอยู่ภายใต้อิทธิพลตะวันตกนานกว่า 4 ศตวรรษ ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากที่สุดในด้านภาษา วัฒนธรรม ศาสนา และอื่นๆ
ภาษาราชการมีอยู่ทั้งหมด2ภาษา ได้แก่ ฟิลิปปินส์และอังกฤษ ฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีและคล่องแคล่ว แม้แต่กลุ่มแรงงานก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้

เเนะนำสถาบันสอนภาษา

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Idea Academia

Idea Academia เป็นหนึ่งในสาขาของสถาบัน Idea Education ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ สถาบันล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้า SM City, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ และอื่นๆอีกมากมาย

หลักสูตรระยะสั้น 4 สัปดาห์

  • เรียนตัวต่อตัว 5 คาบ และกลุ่มย่อย 1 คาบ (50 นาที/คาบ)
  • เรียนฟัง พูด อ่าน เขียน และไวยากรณ์

ช่วงเปิดเรียน 2019


  • ทุกวันจันทร์

ที่พัก

  • หอพักแบบ 3 หรือ 4 คน/ห้อง ซึ่งทางสถาบันจะเป็นผู้กำหนด
  • บริการซักรีดและทำความสะอาดฟรีสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • มื้ออาหาร: จันทร์ – ศุกร์ (Breakfast, Lunch, Dinner) เเละ เสาร์ – อาทิตย์ (Brunch, Dinner)

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ เทคโนโลยี และที่สำคัญ บริษัทของประเทศญี่ปุ่น ได้มาลงทุนในประเทศไทย เป็นอันดับ 1 มากกว่าทุก ๆ ประเทศ จึงทำให้เกิดความนิยมไปศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ นักเรียนไทย มากว่า 75% นิยมไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นในหลักสูตร ภาษาญี่ปุ่น เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ด้านภาษา รวมถึง เป็นการเตรียมตัว เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาต่อไป นอกจากในเรื่องวิชาการแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีเสน่ห์มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน แฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่เคยไปเยี่ยมชม ประทับใจและอยากกลับไปอีกครั้ง

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ กับ สถาบัน Sendagaya Japanese School

สถาบันตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ใกล้กับ สถานีรถไฟ Takadanobaba โดยนักเรียนสามารถเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถไฟเพียง 30 นาที นอกจากนี้ทางสถาบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับผู้เรียน อีกทั้งโตเกียวเป็นเมืองที่ผู้คนพลุกพลาน เหมาะกับการฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น + ทัศนศึกษา

สำหรับผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น–ขั้นสูง นักเรียนจะได้พัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน นอกจากนี้นักเรียนจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านกิจกรรมหลังเลิกเรียนของทางสถาบัน เช่น ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo, ทดลองทำขนมแบบญี่ปุ่น, สัมผัสมรดกโลกที่เมือง Nikko เป็นต้น

ช่วงเปิดเรียน 2018 แบ่งออกเป็น 3 คอร์ส

  • คอร์ส A : เริ่มเรียน 3 กรกฏาคม – 27 กรกฏาคม 2018 ( 2 สัปดาห์ )
  • คอร์ส B : เริ่มเรียน 2 สิงหาคม – 28 สิงหาคม 2018 ( 4 สัปดาห์ )
  • คอร์ส C : เริ่มเรียน 3 กรกฏาคม– 28 สิงหาคม 2018 ( 6 สัปดาห์ )

ที่พัก

  • ห้องเดี่ยว
  • ที่พักสะอาด
  • อยู่ใกล้สถานีรถไฟ
  • Free WiFi
  • ระบบการรักษาความปลอดภัย
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง เช่น ครัวเล็ก, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเขียนหนังสือ, เตียง, TV เป็นต้น

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ ฝรั่งเศส

น้อง ๆ หลาย ๆ คนกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสในขณะที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาอยู่ และต้องการที่จะฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อการสอบ PAT หรือ เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยในเอกภาษาฝรั่งเศส หรือมีความคิดที่จะไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศสในระดับป.ตรี หรือป.โท

การไปเรียนภาษาฝรั่งเศสในระยะเวลาสั้น ๆ ในช่วงปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็นช่วง ปิดเทอมมีนาคม มิถุนายน หรือตุลาคม จะช่วยให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศส และซึมซับสำเนียง การสื่อสารของชาวฝรั่งเศสมาอย่างมาก Educatepark มีสถาบันสอนภาษาฝรั่งเศสอยู่ในเมืองต่าง ๆ ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถาบันทั้งหมดได้รับรองจากทางรัฐบาลของฝรั่งเศส น้อง ๆ สามารถวางแผนระยะเวลาเรียนด้วยตนเองได้ โดยปรึกษากับทางพี่ ๆ Educatepark

ช่วงเปิดเรียน

สถาบันสอนภาษาในประเทศฝรั่งเศสส่วนใหญ่ได้กำหนดให้นักเรียนที่มีพื้นฐานภาษาฝรั่งเศสเริ่มต้นเรียนได้ทุก ๆ วันจันทร์ สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานจะสามารถเริ่มเรียนได้ตามวันที่แต่ละสถาบันกำหนด และนักเรียนสามารถเลือกระยะเวลาเรียนเองได้

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ เยอรมัน

น้อง ๆ หลาย ๆ คนมักจะมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอม ซึ่งน้อง ๆ สามารถใช้เวลาในช่วงนี้เพื่อที่จะหาที่เรียนภาษาในระยะสั้น สำหรับที่ประเทศเยอรมนี ส่วนใหญ่แล้วหลักสูตรเรียนภาษาเยอรมันระยะสั้นไม่เกิน 12 สัปดาห์ และมีที่พักให้เลือกหลาย อาทิเช่น ครอบครัวชาวเยอรมัน (โฮสแฟมิลี่) หอพัก โฮสเท็ล โรงแรม เป็นต้น

ช่วงเปิดเรียน

สถาบันสอนภาษาใกำหนดให้นักเรียนที่มีพื้นฐานภาษาเริ่มต้นเรียนได้ทุก ๆ วันจันทร์ สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานจะสามารถเริ่มเรียนได้ตามวันที่แต่ละสถาบันกำหนด และนักเรียนสามารถเลือกระยะเวลาเรียนเองได้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศ

บริษัท เซนทอรี่ จำกัด เลขที่ 253 ชั้น 29 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
เบอร์โทร (+66) 02-6642748, (+66) 08 4713 5907 (AIS), (+66) 08 5820 0977 (TRUE)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT : จากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรี
ออกทางประตูที่ 2 แล้วเดินข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบ ประมาณ 200 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 – 5 นาที ถึงอาคาร 253
ใกล้กับ ท่าเรือ คลองแสนแสบ
ใกล้กับ รถไฟ Airport Link สถานีมักกะสัน

Line id : educatepark
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 9.00 น – 18.00 น และวันเสาร์ 9.00 น – 11.00 น

[NEW] เรียนภาษาจีนซัมเมอร์ที่เมืองหนาว ปิดเทอมทั้งทีพักความร้อนไปสัมผัสความหนาวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ “มอสโคแห่งตะวันออก” | เรียนซัมเมอร์ที่จีน – NATAVIGUIDES

เรียนภาษาจีนซัมเมอร์ที่เมืองหนาว ปิดเทอมทั้งทีพักความร้อนไปสัมผัสความหนาวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ “มอสโคแห่งตะวันออก”

Harbin   institute of Technology(HIT)

     สวัสดีคะทุกคนก่อนอื่นเลยก็ต้องขอแนะนำตัวกันกันก่อนเนอะ  เค้ามีชื่อเล่นว่า เหมย คะวันนี้เหมยก็จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่ฮาร์บินมาฝากนักอ่านทุกคนนะคะ

     บางคนอาจจะยังลังเลยังตัดสินใจไม่ได้ว่าตอนนี้คุณเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร  แล้วถ้าเรียนแล้วจะนำไปใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่สำหรับเหมยนะคะเหมย ได้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่า เหมยชอบเรียนภาษาจีน เหมยก็เรี่มหลงรักในภาษาจีน อยากฝึกพูดภาษาจีนให้คนจีนฟังเข้าใจ  และจะนำภาษาจีนไปใช้ในการทำงาน และอยากมีโอกาสเดินทางไปประเทศจีน สักครั้งตอนนี้เหมยก็เรียนอยู่ในระดับชั้น ม.5 เหมยก็เป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึง ที่ตั้งใจเรียนภาษาจีนในห้องเรียนมาโดยตลอด แต่บางครั้งก็ไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาจีนบ่อยๆได้ใช้แค่ในห้องเรียน จึงทำให้เหมยอยากมีโอกาสได้ฝึกทักษะภาษาจีนเพิ่มขึ้น เหมยก็พยายามหาข้อมูลทุนเรียนภาษาจีนมาโดยตลอด แต่ก็เนอะโอกาสของเด็กต่างจังหวัด มักจะน้อยกว่าเสมอ แต่นั้นมันก็ไม่ทำให้เหมยละความพยายามที่จะล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปประเทศจีน จนวันหนึ่งได้เจอเพจโครงการ   Study in Harbin เรียนภาษาจีนกลางที่ฮาร์บิน รวมค่าโครงการทั้งหมดประมาณ สามหมื่นกว่า พอเหมยเจอโครงการนี้ปุ๊ป  ตอนแรกไม่คิดอะไรเยอะแต่คิดว่าทำไมค่ารวมโครงการถูกจังจะโดนหลอกไหมเนี่ย เหมยก็เลยลองทักไปถามรายละเอียดกับเพจโครงการนี้ดู  จนได้คุยกับพี่เอ็มคนที่ดูแลโครงการนี้อยู่ พี่เอ็มก็จะให้รายละเอียดของโปรแกรมและค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดมาให้ ยิ่งพอคุยกันมารู้ว่าพี่เค้าเป็นคนตรังด้วยกันอีกก็รู้สึกมั่นใจไปประมาณหนึ่งละว่าจะไม่โดนหลอกใช่ไหม จึงไปหาข้อมูลดูรีวิวของคนที่ไปมาก่อน จึงลองไปคุยกับแม่ดูว่าจะให้ไปไหมในราคาประมาณนี้ พอแม่บอกได้ให้ไปดีใจสุดๆไปเลย พออีกวันนึงพี่เอ็มได้โทรมาชี้แจงรายละเอียดให้แม่ฟังแม่ก็ยิ่งโอเครไปใหญ่เลยอนุมัติให้ไป เหมยจึงเลือกที่จะเดินทางไปเรียนช่วงเดือนตุลาคม  เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนซึ่งตอนนั้นก็มีเวลาเหลืออีกประมาณ สามเดือนกว่าๆที่จะเตรียมตัวไปก็ตื่นเต้นมากพยายาม หาข้อมูลเมืองฮาร์บินและหาข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศ  พอได้ทำเรื่องสมัครเรียนกับพี่เอ็มเสร็จ พี่เอ็มก็จะพาเหมยเข้ากรุ๊ปเพื่อนๆคนอื่นๆที่จะไปด้วยกันในช่วงเดือนตุลาคมด้วยกันเหมยก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆคนอื่นๆ หลังจากนั้นพี่เอ็มก็จะดูแลเรื่องการทำวีซ่าและตั๋วเครื่องบินให้ ซึ่งพี่เอ็มจะตอบทุกคำถามและปัญหาต่างๆที่เหมยอยากรู้ให้พร้อมทั้งให้คำแนะนำกลับมาด้วย ยิ่งทำให้เด็กต่างจังหวัดคนนี้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเดินทางต่างประเทศมาก่อนให้มีความรู้ขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีเพื่อนคนอื่นที่จะเดินทางไปด้วยกันเพิ่มมากขึ้นก็ดีใจมากที่จะมีเพื่อนๆไปด้วยกันหลายๆคน
และเมื่อถึงเวลาเดินทางของเราเหมยตื่นเต้นสุดๆไปเลยค่ะ

ในความคิดของตัวเองจะไปได้ไหมว่ะ จะน่ากลัวไหมนะ แต่โชคดีมากเลยคะ ที่การเดินทางครั้งนี้มีพี่สาวคนสวย  ของในกรุ๊ป พี่เค้าชื่อพี่ดรีมพี่เค้าน่ารักมาก มาช่วยจัดการการเดินทางให้กับเหมยและเพื่อนๆ  มาส่งพวกหนูๆถึงสนามบินพร้อมพาเช็คอิน เช็ครายชื่อ ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อเปลี่ยนเครื่องเพราะพี่เค้ามีความชำนาญในการเดินทางไปต่างประเทศพี่เค้าเดินทางเกือบจะทั่วเอเชียละ แต่ที่น่าเสียดายคือพี่เค้าไม่ได้ไปกับพวกเราด้วยนะสิ เพราะพี่เค้าติดธุระสำคัญ เมื่อถึงเวลาที่เรามากันพร้อมๆหน้ากันที่สนามบินตอนแรกคือเหมยไปคนเดียวจากใต้ เป็นเด็กใต้คนเดียวเลยก็ว่าได้ เพราะเพื่อนคนอื่นในกรุ๊ปเค้าเป็นเด็กกรุงเทพกันหมดเลย ตอนนั้นก็แอบเศร้านิดหน่อย แต่พอสักพักเหมยได้เจอ เพื่อนและน้องๆที่อายุน้อยกว่าเหมยเค้าก็น่ารักกับเหมยมากชวนเหมยคุยและเหมยก็ชวนเค้าคุยเหมือนกันเราจึงเข้ากันได้555 พ่อแม่เพื่อนๆคนอื่นก็น่ารักมากบอกว่าทำความรู้จักกับเพื่อนๆไว้นะลูก จะได้ช่วยเหลือกันเพราะพวกเราจะต้องเดินทางกันไปเองพ่อแม่ของแต่ละคนก็จะเป็นห่วงมากกกนี่ก็เป็นรูปของพวกเราในกรุ๊ปในกรุ๊ปของเรามีผู้ชายสองคนผู้หญิงสิบคนจ้า 555 เริดไปอีก

พอเสร็จจาการเช็คอินแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเข้าไปในเกต ก็ยิ่งโชคดีไปใหญ่มีแม่ของเพื่อนในกรุ๊ปที่ทำงานในสนามบินพาพวกเราเข้าไปส่งถึงหน้าเกต ใช้เวลานั่งรอเครื่องไม่นานก็ถึงเวลาที่จะไปขึ้นเครื่อง

สายการบินที่พวกเราจะเลือกเดินในครั้งนี้คือสายการบินChina Southen Airlines 

นี่ก็เป็นอาหารมื้อแรกของสายการบินรสชาติก็กินได้55

และเมื่อนั่งเครื่องมาได้ประมาณ 4ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงสนามบินกวางโจวทุกคนก็เตรียมกรอกเอกสารคนเข้าเมืองและหาที่เช็คอินขึ้นเครื่องต่อไปยังฮาร์บินก็ต้องรีบวิ่งกันเลยละจะเดินแบบช้าไม่ได้เลยจร้าไม่งั้นตกเครื่อง ก็ยังมีเซลฟี่น้า55555

และใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเครื่องบินก็พาพวกเราลงมายังสนามบินไท้ปิ้ง  ความรู้สึกตอนนั้นถึงแล้วหรอ5555  ฮาร์บินที่รอคอยมานานแสนนาน  เราจะได้เจอกันแล้วใช่ไหม พอมาถึงปุ๊ปก็โทรวีแชทหาพี่เอ็มเลยทันที   พี่เอ็มมารับพวกหนูด้วยน้าพวกหนูถึงแล้ว5555   แต่พอลงมารอรับกระเป๋าก็เจอพี่เอ็มกับพี่ๆทีมงานยืนรอรับพวกเราอยู่รู้สึกอุ่นใจสุดๆไปเลยละเมื่อออกมาด้านนอกเพื่อไปขึ้นรถของมหาลัยที่มารอรับอยู่ สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บของฮาร์บินสะท้านกันเลยที่เดียวพี่เอ็มก็พาพวกเราไปถ่ายรูปกับป้ายหน้าสนามบิน

จากนั้นก็นั่งรถมายังมหาลัย มหาลัยที่เราจะไปเรียนกันนั้นก็คือมหาลัย  Harbin   institute of Technology(HIT) หรือที่คนฮาร์บินเค้าจะเรียกสั้นๆว่า ฮาร์กงต้า นั่นเองค่ะเมื่อมาถึงมหาลัยพี่เอ็มก็พาพวกเราเอากระเป๋าไปเก็บเข้าห้องพักจากนั้นก็พาพวกเราไปหาของกินหน้ามหาลัย
 

เช้าวันที่ 5 ตุลาคม  ณ ฮาร์บิน
ตื่นเช้ามารับลมหนาวก็ได้เวลาไปเดินเล่นรอบๆมหาลัยกันแล้วค่ะ

      จากนั้นพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอที่หอ 13 เพื่อชี้แจงค่าเรียน ค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ โดยในตอนนั้นพี่เอ็มมีภาระต้องไปรับน้องๆ อีกหนึ่งกรุ๊ปที่เดินทางกำลังจะมาถึงเลยให้พี่นิวพี่ทีมงาน Study in Harbin มาช่วยพาพวกเราไปแนะนำการใช้ชีวิตในมหาลัย พี่นิวก็จะสอนว่าต้องทำอย่างไรต้องพูดว่าอะไร จากนั้นก็พาไปแนะนำการใช้โรงอาหารกินข้าวซึ่งมหาลัยนี้ มีโรงอาหารใหญ่หลายโรง ทั้งโรงที่ใช้เงินซื้อและโรงที่ใช้บัตรซื้อเนื่องจากเรายังไม่ได้บัตรจากโรงอาหารก็เลยไปกินข้าวโรงอาหารที่ใช้เงินซื้อซึ่งก็เป็นอาหารมื้อแรกของพวกเรา
และนี่คือภาพบรรยากาศโรงอาหารค่ะ

จากนั้นพี่นิวก็พาพวกเราไปสอนการเติมเงินใส่บัตรโรงอาหารเพราะที่โรงอาหารนี้จะไม่ใช้เงินซื้อข้าวเพราะว่าเงินมันสกปรกเมื่อมาถึงเลยเซลฟี่หน้าโรงอาหารกันซะหน่อย

 เป็นร้านขายผลไม้ระหว่างทางเลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝากผู้อ่านทุกคนคะ

รูปภาพอาจจะเยอะไปหน่อย555555อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะเมื่อเราเริ่มสนิทกับเพื่อนมากขี้นพวกเราเลยไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมากก

นี่เป็นเพียงแค่วันเดียวที่ได้ไปเที่ยวในฮาร์บินแต่กลับรู้สึกดีสุดๆ ฮาร์บินเป็นเมืองที่สะอาดผู้คนอยู่กันแบบเรียบง่าย หรือเพราะเราจะหลงรักฮาร์บินเข้าแล้วซะแล้วละ

วันต่อมาพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอกันเพราะวันนี้พีเอ็มจะพาพวกเราไปเที่ยวสถานที่ต่างๆในเมืองฮาร์บิน เมื่อเรามารวมตัวกันครบแล้วไปกันเลยเราจะไปเที่ยวด้วยกัน

พี่เอ็มก็พาพวกเราทุกคนไปขั้นรถเมล์พี่เอ็มก็จะสอนว่าต้องขึ้นตรงไหน ต้องลงตรงไหนพี่เอ็มก็จะบอกให้เราเตรียมเงินเอาไว้คนละหนึ่งหยวน(บาท)สำหรับจ่ายค่ารถเมล์ และสถานที่เราจะไปวันนี้คือ   โบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็เป็นโบสถ์ที่เป็นสถานที่สำคัญของฮาร์บินเมื่อมาถึงแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะไปที่นี้  วันที่พวกเราได้ไปกันนั้นก็เป็นหยุดชาติจีนเลยอาจจะมีนักท่องเที่ยวเยอะไปหน่อย5555

 
 ถ่ายรูปกับพี่เอ็มพี่คนที่ดูแลโครงการพี่เค้าเป็นกันเองกับน้องๆทุกๆคนน้องๆทุกคนเลยรักพี่เอ็ม55

เมื่อมาถึงฮาร์บินก็ต้องได้ลองกินถางหูลู้ คล้ายๆเหมือนผลไม้เชื่อมบ้านเราจะมีรสชาติหวานถึงหวานมาก5555

อีกหนึ่งสถานที่อยู่ไปไกลจากโบสถ์เซ็นโซเฟียใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้วถนน中央大街 เป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าตลอด2ฝั่งให้บรรยากาศเหมือนเดินshoppingอยู่ยุโรป เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้าม(พลาด)ของเมืองฮาร์บินพูดซะยาวเลยมาดูภาพถนนจงยางกันบ้างดีกว่าคะ

สวัสดีคะทุกคนก่อนอื่นเลยก็ต้องขอแนะนำตัวกันกันก่อนเนอะ เค้ามีชื่อเล่นว่า เหมย คะวันนี้เหมยก็จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่ฮาร์บินมาฝากนักอ่านทุกคนนะคะบางคนอาจจะยังลังเลยังตัดสินใจไม่ได้ว่าตอนนี้คุณเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร แล้วถ้าเรียนแล้วจะนำไปใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่สำหรับเหมยนะคะเหมย ได้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่า เหมยชอบเรียนภาษาจีน เหมยก็เรี่มหลงรักในภาษาจีน อยากฝึกพูดภาษาจีนให้คนจีนฟังเข้าใจ และจะนำภาษาจีนไปใช้ในการทำงาน และอยากมีโอกาสเดินทางไปประเทศจีน สักครั้งตอนนี้เหมยก็เรียนอยู่ในระดับชั้น ม.5 เหมยก็เป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึง ที่ตั้งใจเรียนภาษาจีนในห้องเรียนมาโดยตลอด แต่บางครั้งก็ไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาจีนบ่อยๆได้ใช้แค่ในห้องเรียน จึงทำให้เหมยอยากมีโอกาสได้ฝึกทักษะภาษาจีนเพิ่มขึ้น เหมยก็พยายามหาข้อมูลทุนเรียนภาษาจีนมาโดยตลอด แต่ก็เนอะโอกาสของเด็กต่างจังหวัด มักจะน้อยกว่าเสมอ แต่นั้นมันก็ไม่ทำให้เหมยละความพยายามที่จะล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปประเทศจีน จนวันหนึ่งได้เจอเพจโครงการ Study in Harbin เรียนภาษาจีนกลางที่ฮาร์บิน รวมค่าโครงการทั้งหมดประมาณ สามหมื่นกว่า พอเหมยเจอโครงการนี้ปุ๊ป ตอนแรกไม่คิดอะไรเยอะแต่คิดว่าทำไมค่ารวมโครงการถูกจังจะโดนหลอกไหมเนี่ย เหมยก็เลยลองทักไปถามรายละเอียดกับเพจโครงการนี้ดู จนได้คุยกับพี่เอ็มคนที่ดูแลโครงการนี้อยู่ พี่เอ็มก็จะให้รายละเอียดของโปรแกรมและค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดมาให้ ยิ่งพอคุยกันมารู้ว่าพี่เค้าเป็นคนตรังด้วยกันอีกก็รู้สึกมั่นใจไปประมาณหนึ่งละว่าจะไม่โดนหลอกใช่ไหม จึงไปหาข้อมูลดูรีวิวของคนที่ไปมาก่อน จึงลองไปคุยกับแม่ดูว่าจะให้ไปไหมในราคาประมาณนี้ พอแม่บอกได้ให้ไปดีใจสุดๆไปเลย พออีกวันนึงพี่เอ็มได้โทรมาชี้แจงรายละเอียดให้แม่ฟังแม่ก็ยิ่งโอเครไปใหญ่เลยอนุมัติให้ไป เหมยจึงเลือกที่จะเดินทางไปเรียนช่วงเดือนตุลาคม เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนซึ่งตอนนั้นก็มีเวลาเหลืออีกประมาณ สามเดือนกว่าๆที่จะเตรียมตัวไปก็ตื่นเต้นมากพยายาม หาข้อมูลเมืองฮาร์บินและหาข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศ พอได้ทำเรื่องสมัครเรียนกับพี่เอ็มเสร็จ พี่เอ็มก็จะพาเหมยเข้ากรุ๊ปเพื่อนๆคนอื่นๆที่จะไปด้วยกันในช่วงเดือนตุลาคมด้วยกันเหมยก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆคนอื่นๆ หลังจากนั้นพี่เอ็มก็จะดูแลเรื่องการทำวีซ่าและตั๋วเครื่องบินให้ ซึ่งพี่เอ็มจะตอบทุกคำถามและปัญหาต่างๆที่เหมยอยากรู้ให้พร้อมทั้งให้คำแนะนำกลับมาด้วย ยิ่งทำให้เด็กต่างจังหวัดคนนี้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเดินทางต่างประเทศมาก่อนให้มีความรู้ขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีเพื่อนคนอื่นที่จะเดินทางไปด้วยกันเพิ่มมากขึ้นก็ดีใจมากที่จะมีเพื่อนๆไปด้วยกันหลายๆคนและเมื่อถึงเวลาเดินทางของเราเหมยตื่นเต้นสุดๆไปเลยค่ะในความคิดของตัวเองจะไปได้ไหมว่ะ จะน่ากลัวไหมนะ แต่โชคดีมากเลยคะ ที่การเดินทางครั้งนี้มีพี่สาวคนสวย ของในกรุ๊ป พี่เค้าชื่อพี่ดรีมพี่เค้าน่ารักมาก มาช่วยจัดการการเดินทางให้กับเหมยและเพื่อนๆ มาส่งพวกหนูๆถึงสนามบินพร้อมพาเช็คอิน เช็ครายชื่อ ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อเปลี่ยนเครื่องเพราะพี่เค้ามีความชำนาญในการเดินทางไปต่างประเทศพี่เค้าเดินทางเกือบจะทั่วเอเชียละ แต่ที่น่าเสียดายคือพี่เค้าไม่ได้ไปกับพวกเราด้วยนะสิ เพราะพี่เค้าติดธุระสำคัญ เมื่อถึงเวลาที่เรามากันพร้อมๆหน้ากันที่สนามบินตอนแรกคือเหมยไปคนเดียวจากใต้ เป็นเด็กใต้คนเดียวเลยก็ว่าได้ เพราะเพื่อนคนอื่นในกรุ๊ปเค้าเป็นเด็กกรุงเทพกันหมดเลย ตอนนั้นก็แอบเศร้านิดหน่อย แต่พอสักพักเหมยได้เจอ เพื่อนและน้องๆที่อายุน้อยกว่าเหมยเค้าก็น่ารักกับเหมยมากชวนเหมยคุยและเหมยก็ชวนเค้าคุยเหมือนกันเราจึงเข้ากันได้555 พ่อแม่เพื่อนๆคนอื่นก็น่ารักมากบอกว่าทำความรู้จักกับเพื่อนๆไว้นะลูก จะได้ช่วยเหลือกันเพราะพวกเราจะต้องเดินทางกันไปเองพ่อแม่ของแต่ละคนก็จะเป็นห่วงมากกกนี่ก็เป็นรูปของพวกเราในกรุ๊ปในกรุ๊ปของเรามีผู้ชายสองคนผู้หญิงสิบคนจ้า 555 เริดไปอีกพอเสร็จจาการเช็คอินแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเข้าไปในเกต ก็ยิ่งโชคดีไปใหญ่มีแม่ของเพื่อนในกรุ๊ปที่ทำงานในสนามบินพาพวกเราเข้าไปส่งถึงหน้าเกต ใช้เวลานั่งรอเครื่องไม่นานก็ถึงเวลาที่จะไปขึ้นเครื่องสายการบินที่พวกเราจะเลือกเดินในครั้งนี้คือสายการบินChina Southen Airlinesนี่ก็เป็นอาหารมื้อแรกของสายการบินรสชาติก็กินได้55และเมื่อนั่งเครื่องมาได้ประมาณ 4ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงสนามบินกวางโจวทุกคนก็เตรียมกรอกเอกสารคนเข้าเมืองและหาที่เช็คอินขึ้นเครื่องต่อไปยังฮาร์บินก็ต้องรีบวิ่งกันเลยละจะเดินแบบช้าไม่ได้เลยจร้าไม่งั้นตกเครื่อง ก็ยังมีเซลฟี่น้า55555และใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเครื่องบินก็พาพวกเราลงมายังสนามบินไท้ปิ้ง ความรู้สึกตอนนั้นถึงแล้วหรอ5555 ฮาร์บินที่รอคอยมานานแสนนาน เราจะได้เจอกันแล้วใช่ไหม พอมาถึงปุ๊ปก็โทรวีแชทหาพี่เอ็มเลยทันที พี่เอ็มมารับพวกหนูด้วยน้าพวกหนูถึงแล้ว5555 แต่พอลงมารอรับกระเป๋าก็เจอพี่เอ็มกับพี่ๆทีมงานยืนรอรับพวกเราอยู่รู้สึกอุ่นใจสุดๆไปเลยละเมื่อออกมาด้านนอกเพื่อไปขึ้นรถของมหาลัยที่มารอรับอยู่ สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บของฮาร์บินสะท้านกันเลยที่เดียวพี่เอ็มก็พาพวกเราไปถ่ายรูปกับป้ายหน้าสนามบินจากนั้นก็นั่งรถมายังมหาลัย มหาลัยที่เราจะไปเรียนกันนั้นก็คือมหาลัย Harbin institute of Technology(HIT) หรือที่คนฮาร์บินเค้าจะเรียกสั้นๆว่า ฮาร์กงต้า นั่นเองค่ะเมื่อมาถึงมหาลัยพี่เอ็มก็พาพวกเราเอากระเป๋าไปเก็บเข้าห้องพักจากนั้นก็พาพวกเราไปหาของกินหน้ามหาลัยเช้าวันที่ 5 ตุลาคม ณ ฮาร์บินตื่นเช้ามารับลมหนาวก็ได้เวลาไปเดินเล่นรอบๆมหาลัยกันแล้วค่ะจากนั้นพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอที่หอ 13 เพื่อชี้แจงค่าเรียน ค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ โดยในตอนนั้นพี่เอ็มมีภาระต้องไปรับน้องๆ อีกหนึ่งกรุ๊ปที่เดินทางกำลังจะมาถึงเลยให้พี่นิวพี่ทีมงาน Study in Harbin มาช่วยพาพวกเราไปแนะนำการใช้ชีวิตในมหาลัย พี่นิวก็จะสอนว่าต้องทำอย่างไรต้องพูดว่าอะไร จากนั้นก็พาไปแนะนำการใช้โรงอาหารกินข้าวซึ่งมหาลัยนี้ มีโรงอาหารใหญ่หลายโรง ทั้งโรงที่ใช้เงินซื้อและโรงที่ใช้บัตรซื้อเนื่องจากเรายังไม่ได้บัตรจากโรงอาหารก็เลยไปกินข้าวโรงอาหารที่ใช้เงินซื้อซึ่งก็เป็นอาหารมื้อแรกของพวกเราและนี่คือภาพบรรยากาศโรงอาหารค่ะจากนั้นพี่นิวก็พาพวกเราไปสอนการเติมเงินใส่บัตรโรงอาหารเพราะที่โรงอาหารนี้จะไม่ใช้เงินซื้อข้าวเพราะว่าเงินมันสกปรกเมื่อมาถึงเลยเซลฟี่หน้าโรงอาหารกันซะหน่อยเป็นร้านขายผลไม้ระหว่างทางเลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝากผู้อ่านทุกคนคะรูปภาพอาจจะเยอะไปหน่อย555555อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะเมื่อเราเริ่มสนิทกับเพื่อนมากขี้นพวกเราเลยไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมากกนี่เป็นเพียงแค่วันเดียวที่ได้ไปเที่ยวในฮาร์บินแต่กลับรู้สึกดีสุดๆ ฮาร์บินเป็นเมืองที่สะอาดผู้คนอยู่กันแบบเรียบง่าย หรือเพราะเราจะหลงรักฮาร์บินเข้าแล้วซะแล้วละวันต่อมาพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอกันเพราะวันนี้พีเอ็มจะพาพวกเราไปเที่ยวสถานที่ต่างๆในเมืองฮาร์บิน เมื่อเรามารวมตัวกันครบแล้วไปกันเลยเราจะไปเที่ยวด้วยกันพี่เอ็มก็พาพวกเราทุกคนไปขั้นรถเมล์พี่เอ็มก็จะสอนว่าต้องขึ้นตรงไหน ต้องลงตรงไหนพี่เอ็มก็จะบอกให้เราเตรียมเงินเอาไว้คนละหนึ่งหยวน(บาท)สำหรับจ่ายค่ารถเมล์ และสถานที่เราจะไปวันนี้คือ โบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็เป็นโบสถ์ที่เป็นสถานที่สำคัญของฮาร์บินเมื่อมาถึงแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะไปที่นี้ วันที่พวกเราได้ไปกันนั้นก็เป็นหยุดชาติจีนเลยอาจจะมีนักท่องเที่ยวเยอะไปหน่อย5555ถ่ายรูปกับพี่เอ็มพี่คนที่ดูแลโครงการพี่เค้าเป็นกันเองกับน้องๆทุกๆคนน้องๆทุกคนเลยรักพี่เอ็ม55เมื่อมาถึงฮาร์บินก็ต้องได้ลองกินถางหูลู้ คล้ายๆเหมือนผลไม้เชื่อมบ้านเราจะมีรสชาติหวานถึงหวานมาก5555อีกหนึ่งสถานที่อยู่ไปไกลจากโบสถ์เซ็นโซเฟียใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้วถนน中央大街 เป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าตลอด2ฝั่งให้บรรยากาศเหมือนเดินshoppingอยู่ยุโรป เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้าม(พลาด)ของเมืองฮาร์บินพูดซะยาวเลยมาดูภาพถนนจงยางกันบ้างดีกว่าคะ

และเมื่อเราเดินมาสุดเส้นของถนนเส้นนี้ก็จะมาเจอกับแม่น้ำซงฮวาเจียงแม่น้ำขนาดใหญ่ที่สุดของฮาร์บินและอนุสาวรีย์น้ำท่วมที่เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองฮาร์บินในอดีตภาพบรรยากาศตอน5โมงเย็นของที่นี้สวยยังกับอยู่ยุโรป555

ถ่ายรูปคู่กับพี่ลูกอม พี่ลูกอมเป็นรุ่นพี่ที่น่ารักมากพาเหมยและน้องๆอีกสองคนมาเที่ยวอนุสาวรีย์น้ำท่วมพี่เค้ามาเรียนที่ฮาร์บิน 1ปี และที่สำคัญพี่เค้าเป็นคนจังหวัดเดียวกับเหมยเป็นคนห้วยยอด เหมยโชคดีมากที่ได้รู้จักพี่เค้าเวลาเหมยมีปัญหาพี่เค้าก็จะให้คำปรึกษาอีกด้วย

เล่ามาซะยาว เค้ายังไม่ได้เล่าเรื่องเรียนเลยนี่มาเรียนหรือเที่ยวเนี่ย  ช่วงที่เหมยมาเป็นช่วงวันหยุดชาติจีนพวกเราเลยมีเวลาเที่ยวกันเต็มที่ และนอกจากการเรียนภาษาแล้วแล้วพี่ๆ Study in Harbin  ยังพาพวกเราไปเที่ยวสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮาร์บินอีกด้วยโดยพี่วินหนึ่งในพี่ทีมงาน Study in Harbin  ก็พาพวกเราไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ 731ซึ่งเป็นสถานที่จริงที่ทหารญี่ปุ่นเข้ามายึดครองและตั้งเป็นสถานปฎิบัติการจับคนจีนไปทำการทดลองทางชีวภาพต่างๆภายในจัดแสดงเครื่องมือทรมาณมนุษย์ที่เคยผ่านการใช้งานจริง ซึ่งพี่วินบรรยายประวัติศาสตร์ไว้ลึกซึ้งมากแต่เหมยขออธิบายสั้นๆไว้เท่านี้นะค่ะ การเดินทางของพวกเราในวันนั้นคือเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินลงสุดสายจากนั้นนั่งต่อรถเมล์เส้นทางอาจไกลซะหน่อยบอกได้เลยเลยว่าเกือบอ้วกเพราะรถเมล์ขับได้สุดยอดมาก5555

และเหมยเป็นคนที่หลับได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ555555555555555555

เมื่อเรามาถึงพิพิธภัณฑ์ก็ขอเก็บภาพรวมกันก่อนเลย555 ต้องขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ๆทีมงาน Study in Harbin นอกจากจะเป็นพี่เลี้ยงดูแลพวกเราแล้วยังเป็นตากล้องให้พวกเราได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ

พี่วินก็พาพวกเราเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้าได้ฟรีพอเข้ามาถึงพี่เค้าก็เล่าความเป็นมาของฮาร์บินตอนที่ฮาร์บินทำสงครามกับญี่ปุ่นและทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนให้พวกเราฟังกันอย่างละเอียด ไม่ต้องกลัวเลยนะค่ะว่าพอเราเข้ามาถึงจะอ่านภาษาจีนไม่ออกเพราะด้านในก็จะมีภาษาอังกฤษไว้ให้อ่านค่ะ

นี่นะคะก็จะเป็นรถไฟสายแรกของฮาร์บินคะมาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปกันหน่อยคะ

ภาพรวมของพวกเราอากาศจะหนาวแค่ไหนพวกเราก็ยังยิ้มได้จร้า55  ด้านในของพิพิธภัณฑ์ที่ด้านในจะรวบรวมสงครามประวัติศาสตร์ และการเมือง ของฮาร์บินพิพิธภัณฑ์ของมาตรฐานระดับโลกมีรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหน่วย 731 ทุก ๆ อย่างตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุด ส่วนที่ดีที่สุดคือมันฟรี 55555
 
ดูแต่ภาพเหมยทุกคนอาจะเบื่อกันแล้ว เรามาดูภาพด้านในพิพิธภัณฑ์กันบ้างดีกว่าคะ

จบทริปพิพิธภัณฑ์731เราไปชมสถานที่อื่นของเมืองฮาร์บินกันเลยดีกว่าพูดได้เลยว่าไปแค่เดือนเดียวแต่เที่ยวเกือบทุกที่ในฮาร์บิ้น555พี่ๆเค้าไม่อยากให้พวกเราพลาดชมความสวยงามของฮาร์บิน

วัดจี๋เล่อซื่อ เป็นวัดพุทธที่เป็นศูนย์รวมจิตใจพุทธศาสนิกชนของเมืองฮาร์บิน โดยเอกลักษณ์ของวัดพุทธแห่งนี้คือเป็นวัดที่มีความสวยงามและอยู่ติดกับสวนสนุกเมืองฮาร์บินทำให้ภายในวัดมองไปจะเห็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่บรรยากาศเยอะคงจะไม่เห็นภาพนั้นไปดูยกอัลบั้มกันน5555

จบเรื่องของการเที่ยวไว้ก่อนมาเข้าเรื่องของการกินหรือเรื่องของการเรียนก่อนดีน้า55  เอาเรื่องของการเรียนก่อนดีกว่าเนอะ555เพราะเหมยมาที่นี้เพื่อเรียนใช่ไหมน้า55    เมื่อเวลาแห่งวันหยุดหมดลง เราก็ต้องทำใจและยอมรับมัน55  พี่เอ็มก็พาพวกเรามาสอบวัดความรู้ว่าเรามีพื้นฐานภาษาจีนในระดับไหนจะ A   B   C  D  E  แต่ละระดับก็จะเพิ่มความยากขึ้น

หน้าตาดูสดชื่นเมื่อได้ทำข้อสอบ เมื่อเราสอบเสร็จรอไม่เกิน2ชั่วโมงผลก็ออกมาแล้วเย้ๆๆจะได้หคลาสไหนน้าและแล้วเหมยก็ได้อยู่   คลาส B4 ดีใจสุดๆไปเลย

จากนั้นได้เวลาไปซื้อหนังสือกัน พี่เอ็มก็ตจะพาพวกเราไปซื้อในร้านหนังสือของมหาลัยซึ่งราคาของหนังสือพี่เอ็มบอกว่ายิ่งได้คลาสเรียนที่สูงๆราคาของหนังสือก็จะถูก

      และแล้ววันเวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง เปิดเทอมวันแรกของเหมย ในต่างประเทศในประเทศจีนประเทศแห่งความฝันที่จะได้มีโอกาสมาเรียนที่ประเทศของเจ้าของภาษาที่ตนเองเรียนมาเกือบ3ปี รีบตื่นตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้เหมยมีเรียนเช้า จันทร์ถึงศุกร์เหมยจะเริ่มเรียน 8 โมงเช้าจนถึง เที่ยงตรงวันศุกร์จะมีเรียนบ่ายบ่ายโมงจนถึง  4โมงเย็น   วันแรกของการไปหาห้องเรียน  วิ่งกันอย่างสนุกและเหนื่อยมากกว่าจะหาเจอเพราะตึกที่เหมยเรียน คือตึกจู๋โหล่วอยู่หน้ามหาลัยติดกับป้ายมหาลัยพอเข้ามาถึงเจอพี่คนไทยในห้องพี่เค้าก็ช่วยเหลือให้คำแนะนำทุกอย่างในห้องของเหมยก็มีทั้งเกาหลี รัสเซีย  และไทยมาดูรูปห้องเรากันดีกว่า

เหมยขอแนะนำสมาชิกให้ห้องเรียนของเราเริ่มตั้งคุณครูที่สอนเหมยกันก่อนเนอะคุณครูที่สอนเหมยมีทั้งหมด3คนคะ คนแรกครูเว้ย เว้ยเหล่าซรือ เป็นครูที่สอนวิชาจงเห๋อหรือที่เรียกว่าวิชารวมนั้นเองรวามทั้งแต่การพูดการฟังและการเขียนเป็นคุณครูที่น่ารักมากทุกครั้งของการเข้าเรียนครูจะถามเหมยเสมอว่าเป็นอย่างไรบ้างมีตรงไหนไม่เข้าให้ถามได้การสอนของที่นี้เร็วมากจนทำให้เหมยตกใจสำหรับวันเรียนวันแรก555 มาถึงก็สอบทิงเซี่ยละแต่ถือได้ว่าใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็ชินไปเองคะ

คนที่ 2 คุณครูหลิว หรือหลิวเหล่าซรือเป้นคุณครูสอนวิชาโข่วอวี๋ หรือวิชาพูดนั้นเองคะเป็นคุณครูที่ตลก ใจดีน่ารัก และในวิชาโข่วอวี๋นั้นครูหลิวก็มอบหมายให้เราทำพาวเวอร์พอยท์เปอร์เซ็นต์การสัมภาษณ์คนจีนในการใช้ถาวเป่าซื้อของ

คนครูคนที่สุดท้ายคุณครูสอนทิงลี่ เวลาเรียนทิงลี่เป็นเวลาที่ง่วงนอนมาก555แต่ก็เป็นวิชาที่ตื่นเต้นมากเพราะอาจารย์ชอบถาม ชอบให้ฝึกฟังแล้วนำมาพูดคือถ้าไม่ตั้งใจจะตอบไม่ได้

  นอกจากคุณครูในห้องแล้วเหมยก็อยากแนะนำพี่ร่วมห้องให้รู้จักกันคะ เป็นพี่คนไทยที่เหมยรู้จักสนิท พี่เค้ามาเรียนเป็นระยะเวลาหนึ่งปี  มีชื่อว่าพี่เปิ้ล พี่นัน  พี่นัท พี่ๆเค้าก็จะพาเหมยไปเที่ยวสถานที่ต่างๆของฮาร์บิ้น ไปกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารทุกวัน เหมยโชคดีมากคะที่ได้มาเจอพี่ๆที่น่ารักแบบนี้ 

นอกจากจะมีพี่คนไทยที่น่ารักแล้วยังมีพี่ๆเกาหลีในคลาสเรียนและที่รู้จักกันจากโดยบังเอิญ555555555555

รุ่นพี่ชาวอเมริกาเหมยชอบเวลาที่ได้ใช้ภาษาจีนคุยกับพวกเค้า มันสนุกและให้เราได้ฝึกทักษะภาษาจีนถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าของภาษาก็เหอะ555

พี่สาวชาวรัสเซีย

พอถึงวันใกล้กลับเหมยเลยไปเก็บภาพบรรยากาศของมหาลัยกันน

จบการเรียนไปแล้วเราไปต่อในเรื่องการกินกันหน่อยค่ะเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เหมยมาวันแรกไม่ชอบอาหารจีนเป็นอย่างมากแต่พอกินทุกๆวันก็เริ่มชินและยิ่งชอบอาหารจีนมากขึ้นไม่ขอบรรยายเยอะดูภาพความอร่อยกันเลยดีกว่าคะ
อาหารมื้อนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ลูกอมและเพื่อนๆของพี่เค้าพาไปเลี้ยงก่อนกลับไทย โคตรอร่อยมากก เมื่อมาถึงฮาร์บินแล้วต้องไปกินร้านนี้จ้าเป็นร้านอาหารที่อยู่ในมหาลัย  ราคาก็จะไม่แพงมาก ปริมาณเยอะมากจนเหมยกินไม่หมดเลยทีเดียว 

นอกจากจะไปกินอาหารข้างนอกหอแล้ว พวกเราเพื่อนๆในกรุ๊ปก็มักจะชอบไปซื้อพวกของสดมาทำอาหารกินกันในห้องครัวหรือทำมาม่าเกาหลีกินกันซึ่งมาม่าเกาหลีที่นี้จะถูกกว่าที่ไทยมากพวกเราเลยมักจะไปเหมามาจากร้านค้า555

แถมยังได้กินต้มยำไก่อร่อยๆหม้อใหญ่ของพี่เอ็มอีกด้วยพี่เค้าเป็นห่วงกลัวน้องๆจะคิดถึงอาหารไทย

   เรามาดูร้านอาหารที่เหมยประทับใจที่มาฮาร์บินกันดีกว่าคะ

มาล่าทัง มื้อใหญ่ พี่มี่มี๊และพี่วินพาเหมยและไปกินก่อนกลับไทย

จบเรื่องของกินพอใกล้จะถึงวันกลับก็เริ่มรู้สึกใจหายเหมือนไม่อยากกลับไม่อยากจากฮาร์บิน ไปแต่เราก็เลือกให้มันเป็นอย่างที่เราต้องการไม่ได้ และแล้ววันที่ 3 พ.ย ก็มาถึง โครตเศร้าพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอกันเพื่อชี้แจงกำหนดการกลับ และพวกเราที่มากรุ๊ปแรกก็เดินทางมาส่งน้องห้าคนที่ต้องเดินทางกลับก่อน

 เศร้าเนอะเมื่อเราต้องจากกันจากนั้นก็เป็นเวลากลับของพวกเรา

  สุดท้ายความรู้สึกที่มีต่อโครงการ Study in Harbin
และแล้วหนึ่งเดือนก็ผ่านไปรวดเร็วยังกะความฝันเหมยยังนึกถึงความตื่นเต้นของวันแรกที่มาได้อยู่เลยแล้วทำไมเวลาผ่านไปเร็วจังละ ไม่อยากตื่นจากความฝัน เหมยยังถามตัวเองอยู่ตลอดว่าเหมยมาถึงจุดนี้ได้ไง เด็กต่างจังหวัดคนนึงที่เหมือนจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย แต่กลับได้มีโอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเองถึงจะเป็นแค่หนึ่งเดือนกับประสบการณ์ที่เหมยได้รับมันทำให้เหมยโตขึ้น พอที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้น  ก็อยากขอบคุณพี่เอ็มมากนะค่ะพี่เอ็มเปรียบเสมือนพี่ชายที่รักของน้องๆทุกคนเดินไปตรงไหนก็มีแต่คนรู้จักพี่เอ็ม พี่เอ็มทำให้เหมยได้มีโอกาสมาทีนี้
ถ้าไม่มีพี่เอ็มช่วยทำเรื่อง ช่วยสอน  ช่วยแนะนำให้ เหมยก็คงจะลำบากกว่านี้
เหมยอยากเชิญชวนคนที่สนใจที่จะมาเรียนภาษาจีนที่ฮาร์บินแต่ยังไม่มั่นใจและกลัวไม่กล้าที่จะเดินทางมานั้น อย่ากังวลไปเลยค่ะ  มากับโครงการนี้สะดวกทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนส่วนไหนของประเทศไทย ก็สามารถมาถึงที่นี้ได้ พี่เอ็มป็นทีมงานที่มีความสามารถอะไรที่ว่ายากมันจะไม่ยากอีกต่อไป ถ้าเรามีความกล้า และความพยายาม เพราะเหมยเชื่อค่ะว่า  ความสำเร็จไม่มีทางทรยศสำหรับคนที่มีความพยามค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องข้ออภัยไว้ในโอกาสนี้ด้วยนะค่ะ  แล้วเรามาเจอกันที่ฮาร์บินนะคะ ฮาร์บินยินดีต้อนรับ
 

 

เล่ามาซะยาว เค้ายังไม่ได้เล่าเรื่องเรียนเลยนี่มาเรียนหรือเที่ยวเนี่ย ช่วงที่เหมยมาเป็นช่วงวันหยุดชาติจีนพวกเราเลยมีเวลาเที่ยวกันเต็มที่ และนอกจากการเรียนภาษาแล้วแล้วพี่ๆ Study in Harbin ยังพาพวกเราไปเที่ยวสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮาร์บินอีกด้วยโดยพี่วินหนึ่งในพี่ทีมงาน Study in Harbin ก็พาพวกเราไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ 731ซึ่งเป็นสถานที่จริงที่ทหารญี่ปุ่นเข้ามายึดครองและตั้งเป็นสถานปฎิบัติการจับคนจีนไปทำการทดลองทางชีวภาพต่างๆภายในจัดแสดงเครื่องมือทรมาณมนุษย์ที่เคยผ่านการใช้งานจริง ซึ่งพี่วินบรรยายประวัติศาสตร์ไว้ลึกซึ้งมากแต่เหมยขออธิบายสั้นๆไว้เท่านี้นะค่ะ การเดินทางของพวกเราในวันนั้นคือเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินลงสุดสายจากนั้นนั่งต่อรถเมล์เส้นทางอาจไกลซะหน่อยบอกได้เลยเลยว่าเกือบอ้วกเพราะรถเมล์ขับได้สุดยอดมาก5555และเหมยเป็นคนที่หลับได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ555555555555555555เมื่อเรามาถึงพิพิธภัณฑ์ก็ขอเก็บภาพรวมกันก่อนเลย555 ต้องขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ๆทีมงาน Study in Harbin นอกจากจะเป็นพี่เลี้ยงดูแลพวกเราแล้วยังเป็นตากล้องให้พวกเราได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆพี่วินก็พาพวกเราเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้าได้ฟรีพอเข้ามาถึงพี่เค้าก็เล่าความเป็นมาของฮาร์บินตอนที่ฮาร์บินทำสงครามกับญี่ปุ่นและทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนให้พวกเราฟังกันอย่างละเอียด ไม่ต้องกลัวเลยนะค่ะว่าพอเราเข้ามาถึงจะอ่านภาษาจีนไม่ออกเพราะด้านในก็จะมีภาษาอังกฤษไว้ให้อ่านค่ะนี่นะคะก็จะเป็นรถไฟสายแรกของฮาร์บินคะมาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปกันหน่อยคะภาพรวมของพวกเราอากาศจะหนาวแค่ไหนพวกเราก็ยังยิ้มได้จร้า55 ด้านในของพิพิธภัณฑ์ที่ด้านในจะรวบรวมสงครามประวัติศาสตร์ และการเมือง ของฮาร์บินพิพิธภัณฑ์ของมาตรฐานระดับโลกมีรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหน่วย 731 ทุก ๆ อย่างตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุด ส่วนที่ดีที่สุดคือมันฟรี 55555ดูแต่ภาพเหมยทุกคนอาจะเบื่อกันแล้ว เรามาดูภาพด้านในพิพิธภัณฑ์กันบ้างดีกว่าคะจบทริปพิพิธภัณฑ์731เราไปชมสถานที่อื่นของเมืองฮาร์บินกันเลยดีกว่าพูดได้เลยว่าไปแค่เดือนเดียวแต่เที่ยวเกือบทุกที่ในฮาร์บิ้น555พี่ๆเค้าไม่อยากให้พวกเราพลาดชมความสวยงามของฮาร์บินวัดจี๋เล่อซื่อ เป็นวัดพุทธที่เป็นศูนย์รวมจิตใจพุทธศาสนิกชนของเมืองฮาร์บิน โดยเอกลักษณ์ของวัดพุทธแห่งนี้คือเป็นวัดที่มีความสวยงามและอยู่ติดกับสวนสนุกเมืองฮาร์บินทำให้ภายในวัดมองไปจะเห็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่บรรยากาศเยอะคงจะไม่เห็นภาพนั้นไปดูยกอัลบั้มกันน5555จบเรื่องของการเที่ยวไว้ก่อนมาเข้าเรื่องของการกินหรือเรื่องของการเรียนก่อนดีน้า55 เอาเรื่องของการเรียนก่อนดีกว่าเนอะ555เพราะเหมยมาที่นี้เพื่อเรียนใช่ไหมน้า55 เมื่อเวลาแห่งวันหยุดหมดลง เราก็ต้องทำใจและยอมรับมัน55 พี่เอ็มก็พาพวกเรามาสอบวัดความรู้ว่าเรามีพื้นฐานภาษาจีนในระดับไหนจะ A B C D E แต่ละระดับก็จะเพิ่มความยากขึ้นหน้าตาดูสดชื่นเมื่อได้ทำข้อสอบ เมื่อเราสอบเสร็จรอไม่เกิน2ชั่วโมงผลก็ออกมาแล้วเย้ๆๆจะได้หคลาสไหนน้าและแล้วเหมยก็ได้อยู่ คลาส B4 ดีใจสุดๆไปเลยจากนั้นได้เวลาไปซื้อหนังสือกัน พี่เอ็มก็ตจะพาพวกเราไปซื้อในร้านหนังสือของมหาลัยซึ่งราคาของหนังสือพี่เอ็มบอกว่ายิ่งได้คลาสเรียนที่สูงๆราคาของหนังสือก็จะถูกและแล้ววันเวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง เปิดเทอมวันแรกของเหมย ในต่างประเทศในประเทศจีนประเทศแห่งความฝันที่จะได้มีโอกาสมาเรียนที่ประเทศของเจ้าของภาษาที่ตนเองเรียนมาเกือบ3ปี รีบตื่นตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้เหมยมีเรียนเช้า จันทร์ถึงศุกร์เหมยจะเริ่มเรียน 8 โมงเช้าจนถึง เที่ยงตรงวันศุกร์จะมีเรียนบ่ายบ่ายโมงจนถึง 4โมงเย็น วันแรกของการไปหาห้องเรียน วิ่งกันอย่างสนุกและเหนื่อยมากกว่าจะหาเจอเพราะตึกที่เหมยเรียน คือตึกจู๋โหล่วอยู่หน้ามหาลัยติดกับป้ายมหาลัยพอเข้ามาถึงเจอพี่คนไทยในห้องพี่เค้าก็ช่วยเหลือให้คำแนะนำทุกอย่างในห้องของเหมยก็มีทั้งเกาหลี รัสเซีย และไทยมาดูรูปห้องเรากันดีกว่าเหมยขอแนะนำสมาชิกให้ห้องเรียนของเราเริ่มตั้งคุณครูที่สอนเหมยกันก่อนเนอะคุณครูที่สอนเหมยมีทั้งหมด3คนคะ คนแรกครูเว้ย เว้ยเหล่าซรือ เป็นครูที่สอนวิชาจงเห๋อหรือที่เรียกว่าวิชารวมนั้นเองรวามทั้งแต่การพูดการฟังและการเขียนเป็นคุณครูที่น่ารักมากทุกครั้งของการเข้าเรียนครูจะถามเหมยเสมอว่าเป็นอย่างไรบ้างมีตรงไหนไม่เข้าให้ถามได้การสอนของที่นี้เร็วมากจนทำให้เหมยตกใจสำหรับวันเรียนวันแรก555 มาถึงก็สอบทิงเซี่ยละแต่ถือได้ว่าใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็ชินไปเองคะคนที่ 2 คุณครูหลิว หรือหลิวเหล่าซรือเป้นคุณครูสอนวิชาโข่วอวี๋ หรือวิชาพูดนั้นเองคะเป็นคุณครูที่ตลก ใจดีน่ารัก และในวิชาโข่วอวี๋นั้นครูหลิวก็มอบหมายให้เราทำพาวเวอร์พอยท์เปอร์เซ็นต์การสัมภาษณ์คนจีนในการใช้ถาวเป่าซื้อของคนครูคนที่สุดท้ายคุณครูสอนทิงลี่ เวลาเรียนทิงลี่เป็นเวลาที่ง่วงนอนมาก555แต่ก็เป็นวิชาที่ตื่นเต้นมากเพราะอาจารย์ชอบถาม ชอบให้ฝึกฟังแล้วนำมาพูดคือถ้าไม่ตั้งใจจะตอบไม่ได้นอกจากคุณครูในห้องแล้วเหมยก็อยากแนะนำพี่ร่วมห้องให้รู้จักกันคะ เป็นพี่คนไทยที่เหมยรู้จักสนิท พี่เค้ามาเรียนเป็นระยะเวลาหนึ่งปี มีชื่อว่าพี่เปิ้ล พี่นัน พี่นัท พี่ๆเค้าก็จะพาเหมยไปเที่ยวสถานที่ต่างๆของฮาร์บิ้น ไปกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารทุกวัน เหมยโชคดีมากคะที่ได้มาเจอพี่ๆที่น่ารักแบบนี้นอกจากจะมีพี่คนไทยที่น่ารักแล้วยังมีพี่ๆเกาหลีในคลาสเรียนและที่รู้จักกันจากโดยบังเอิญ555555555555รุ่นพี่ชาวอเมริกาเหมยชอบเวลาที่ได้ใช้ภาษาจีนคุยกับพวกเค้า มันสนุกและให้เราได้ฝึกทักษะภาษาจีนถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าของภาษาก็เหอะ555พี่สาวชาวรัสเซียพอถึงวันใกล้กลับเหมยเลยไปเก็บภาพบรรยากาศของมหาลัยกันนจบการเรียนไปแล้วเราไปต่อในเรื่องการกินกันหน่อยค่ะเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เหมยมาวันแรกไม่ชอบอาหารจีนเป็นอย่างมากแต่พอกินทุกๆวันก็เริ่มชินและยิ่งชอบอาหารจีนมากขึ้นไม่ขอบรรยายเยอะดูภาพความอร่อยกันเลยดีกว่าคะอาหารมื้อนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ลูกอมและเพื่อนๆของพี่เค้าพาไปเลี้ยงก่อนกลับไทย โคตรอร่อยมากก เมื่อมาถึงฮาร์บินแล้วต้องไปกินร้านนี้จ้าเป็นร้านอาหารที่อยู่ในมหาลัย ราคาก็จะไม่แพงมาก ปริมาณเยอะมากจนเหมยกินไม่หมดเลยทีเดียวนอกจากจะไปกินอาหารข้างนอกหอแล้ว พวกเราเพื่อนๆในกรุ๊ปก็มักจะชอบไปซื้อพวกของสดมาทำอาหารกินกันในห้องครัวหรือทำมาม่าเกาหลีกินกันซึ่งมาม่าเกาหลีที่นี้จะถูกกว่าที่ไทยมากพวกเราเลยมักจะไปเหมามาจากร้านค้า555แถมยังได้กินต้มยำไก่อร่อยๆหม้อใหญ่ของพี่เอ็มอีกด้วยพี่เค้าเป็นห่วงกลัวน้องๆจะคิดถึงอาหารไทยเรามาดูร้านอาหารที่เหมยประทับใจที่มาฮาร์บินกันดีกว่าคะมาล่าทัง มื้อใหญ่ พี่มี่มี๊และพี่วินพาเหมยและไปกินก่อนกลับไทยจบเรื่องของกินพอใกล้จะถึงวันกลับก็เริ่มรู้สึกใจหายเหมือนไม่อยากกลับไม่อยากจากฮาร์บิน ไปแต่เราก็เลือกให้มันเป็นอย่างที่เราต้องการไม่ได้ และแล้ววันที่ 3 พ.ย ก็มาถึง โครตเศร้าพี่เอ็มก็นัดพวกเรามาเจอกันเพื่อชี้แจงกำหนดการกลับ และพวกเราที่มากรุ๊ปแรกก็เดินทางมาส่งน้องห้าคนที่ต้องเดินทางกลับก่อนเศร้าเนอะเมื่อเราต้องจากกันจากนั้นก็เป็นเวลากลับของพวกเราสุดท้ายความรู้สึกที่มีต่อโครงการ Study in Harbinและแล้วหนึ่งเดือนก็ผ่านไปรวดเร็วยังกะความฝันเหมยยังนึกถึงความตื่นเต้นของวันแรกที่มาได้อยู่เลยแล้วทำไมเวลาผ่านไปเร็วจังละ ไม่อยากตื่นจากความฝัน เหมยยังถามตัวเองอยู่ตลอดว่าเหมยมาถึงจุดนี้ได้ไง เด็กต่างจังหวัดคนนึงที่เหมือนจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย แต่กลับได้มีโอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเองถึงจะเป็นแค่หนึ่งเดือนกับประสบการณ์ที่เหมยได้รับมันทำให้เหมยโตขึ้น พอที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้น ก็อยากขอบคุณพี่เอ็มมากนะค่ะพี่เอ็มเปรียบเสมือนพี่ชายที่รักของน้องๆทุกคนเดินไปตรงไหนก็มีแต่คนรู้จักพี่เอ็ม พี่เอ็มทำให้เหมยได้มีโอกาสมาทีนี้ถ้าไม่มีพี่เอ็มช่วยทำเรื่อง ช่วยสอน ช่วยแนะนำให้ เหมยก็คงจะลำบากกว่านี้เหมยอยากเชิญชวนคนที่สนใจที่จะมาเรียนภาษาจีนที่ฮาร์บินแต่ยังไม่มั่นใจและกลัวไม่กล้าที่จะเดินทางมานั้น อย่ากังวลไปเลยค่ะ มากับโครงการนี้สะดวกทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนส่วนไหนของประเทศไทย ก็สามารถมาถึงที่นี้ได้ พี่เอ็มป็นทีมงานที่มีความสามารถอะไรที่ว่ายากมันจะไม่ยากอีกต่อไป ถ้าเรามีความกล้า และความพยายาม เพราะเหมยเชื่อค่ะว่า ความสำเร็จไม่มีทางทรยศสำหรับคนที่มีความพยามค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องข้ออภัยไว้ในโอกาสนี้ด้วยนะค่ะ แล้วเรามาเจอกันที่ฮาร์บินนะคะ ฮาร์บินยินดีต้อนรับ


รีวิวเรียนที่จีน 1 เดือน ใช้เงินวันละเท่าไร? มีค่าอะไรบ้าง?


รีวิวเรียนที่จีน 1 เดือน ใช้เงินวันละเท่าไร? มีค่าอะไรบ้าง?
.
ผมอยากแชร์ประสบการณ์ตรงว่าเดือนๆนึงเรียนที่เฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ใช้เงินกันประมาณเท่าไรกัน แอดหวังว่าคลิปนี้จะเป็น guidline ให้ทุกๆคนที่กำลังจะมาเรียนที่จีนในอนาคตนะครับ
.
.
ใครสนใจ หม่าล่าเข้มข้น ทำหม้อไฟหม่าล่าแบบเดียวกับที่จีน
พร้อมส่ง สั่งได้ที่ shopee : https://bit.ly/3usACGr​
หรือ INBOX เฟส Being Together ครับ
ขอบอกว่าเด็ด
.
• YouTube / Facebook : Being Together
• FB Group : แชร์ที่เที่ยวจีน
.
เรียนที่จีนใช้เงินเท่าไร ค่าใช้จ่าย1เดือนที่จีน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

รีวิวเรียนที่จีน 1 เดือน ใช้เงินวันละเท่าไร? มีค่าอะไรบ้าง?

พูดจีนไม่ได้ ไปเรียนที่จีนได้ไหม? 🤔 อังกฤษก็ไม่ได้อีก | Dearkiko


พูดจีนไม่ได้ เป็นกังวลว่าจะไปเรียนที่จีนได้ไหมนะ? คลิปนี้มีคำตอบค่ะ นอกจากมีคำตอบแล้ว มีกำลังใจมาให้ทุกคนด้วยค่ะ 🥰 ฮึบบบบบบ!
เรียนภาษาจีน เรียนจีน
เรียนภาษาที่จีน 1 ปี
Part 1: https://www.youtube.com/watch?v=rq9NLp2QqYk
Part 2: https://www.youtube.com/watch?v=vFDwPq6ObPM

☁️ Facebook: Lattapitcha
https://www.facebook.com/lattapitcha/
☁️ IG: @superddear
https://www.instagram.com/superddear/
☁️ Email: [email protected]

Production:
✂️ Final Cut Pro
🎈Song: Daystar Lemon Cake / https://youtu.be/AunAZS5yYmw
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมคลิปเดียร์นะคะ 🙂

พูดจีนไม่ได้ ไปเรียนที่จีนได้ไหม? 🤔 อังกฤษก็ไม่ได้อีก | Dearkiko

VLOG#3: 1 วันบนเครื่องบิน✈.. บินจากไทยไปแคนาดา; | Grace Maneerat


ฮาย วันนี้เกรซจะใช้ชีวิตบนเครื่องบินทั้งวัน กินข้าว แต่งตัว นอน ดูหนัง ในพื้นที่จำกัด เป็น vlog แรกสำหรับซีรี่ย์เที่ยวแคนาดา รอติดตามตอนต่อไปได้เลย (thailand ✈️ canada)
`contact for work only:・゚✧
(ติดต่อเฉพาะงานเท่านั้น) :
Email: [email protected]
Line+Phone number: 0841493232 (คุณเอกภพ)
`social media:
(ติดตามเกรซได้ที่):
Instagram: grace_maneerat
Facebook: Grace Maneerat
My clothing shop (IG): gracism_closet
‘youtube membership:
มาเป็นชาวพีชกับพวกเรากันเถอะ!
Level 1: peachza
Level 2: peachsuza
https://bit.ly/3j8Bwo3
with lots of love♡

VLOG#3: 1 วันบนเครื่องบิน✈.. บินจากไทยไปแคนาดา; | Grace Maneerat

ກຽມຕົວຈັງໄດກ່ອນມາຮຽນຢູ່ຈີນ | การเตรียมตัวก่อนมาเรียนที่จีน


+ ຂອບໄຈທຸກໆຄົນທີ່ກົດ Like , share ແລະ subscribe
+ ໃຜເບີ່ງແລ້ວແຕ່ຍັງບໍ່ໄດ້ກົດ ກໍ່ຢ່າລືມກົດເພື່ອເປັນກຳລັງໃຈໄຫ້ແມ໋ກແດ່ເດີ້:)
+ ຊ່ອງທາງຕິດຕາມ:
YouTube: Go with Max
Facebook: Go with Max
Instagram: xayyavong_maxx
Thank you everyone

ກຽມຕົວຈັງໄດກ່ອນມາຮຽນຢູ່ຈີນ | การเตรียมตัวก่อนมาเรียนที่จีน

ไปเรียนซัมเมอร์ที่จีนยังไงให้เหมือนไปเที่ยว | Tung-Ting EP.1


เมื่อถิงไปเรียนที่จีนนั้น เหมือนได้ไปเที่ยวมากกว่าไปเรียน
อันนี้เป็นของทางมหาวิทยาลัยเป็นคนติดต่อและจัดหาสถานที่ให้
ถิงไปเรียนช่วงสิงหา 2019
ใช้เวลาอยู่ที่นั้นเป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ
รวมเวลาที่เรียนและที่เที่ยวต่อหลังจากเรียนเสร็จ

ไปเรียนซัมเมอร์ที่จีนยังไงให้เหมือนไปเที่ยว | Tung-Ting EP.1

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เรียนซัมเมอร์ที่จีน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *