Skip to content
Home » [Update] เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ | อยาก เก่ง ภาษา อังกฤษ ต้อง ทํา ไง – NATAVIGUIDES

[Update] เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ | อยาก เก่ง ภาษา อังกฤษ ต้อง ทํา ไง – NATAVIGUIDES

อยาก เก่ง ภาษา อังกฤษ ต้อง ทํา ไง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที 

แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

จะเปลี่ยนจากประโยค Active Voice เป็น Passive Voice ทำยังไงดี? เมื่อไหร่ควรใช้ประโยค Passive Voice? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยทริคจาก Globish ที่จะทำให้คุณไม่ต้องท่องจำ และใช้เวลาเพียง 5 นาที คุณก็สามารถใช้ Passive Voice ได้อย่างมือโปร

 

ในภาษาอังกฤษ มี Active และ Passive Voice เพื่อบอกว่าใครทำอะไร หรือใครที่กำลังถูกกระทำ แต่ถ้าอธิบายเพียงเท่านี้ อาจจะทำให้งง วันนี้ Globish เลยจะพามาดูวิธีใช้เจ้า Active และ Passive Voice อย่างละเอียด 

 

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่อง Active และ Passive Voice บอกเลยว่าช่วยได้มากค่ะ

 

ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก

 

5 ข้อต้อง “ข้าม” เมื่อเริ่มฝึกภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษผิดไม่รู้ตัว 12 ข้อผิดพลาดที่คนมักใช้ผิด

ฝึกจับใจความภาษาอังกฤษ ด้วยทฤษฎี GTM

 

Active Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง เช่น



My mother bought that car. (แม่ของฉันซื้อรถคันนั้น)


My mother เป็นประธาน ทำกริยา (bought) โดยตรง



Jane cooked dinner yesterday. (เจนทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้)


Jane เป็นประธาน ทำกริยา (cooked) โดยตรง

 

Passive Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา เช่น



That car was bought by my mother. (รถคันนั้นถูกซื้อโดยแม่ของฉัน)


That car เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (bought)



Dinner was cooked by Jane yesterday. (อาหารเย็นถูกทำโดยเจนเมื่อวานนี้)


Dinner เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (cooked)

 

รูปแบบของ Passive Voice

Passive voice ในภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่  


to be + กริยาช่อง 3 (Past Participle)

 

การเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice ตาม Tense

V. ย่อมาจาก Verb

 

 

ตัวอย่าง

 

Present Simple:

Jane feeds the dog. ➜ The dog is feeded by Jane.

 

Present Continuos:

Jane is feeding the dog. ➜ The dog is being feeded by Jane.

 

Present Perfect:

Jane has feeded  the dog. ➜ The dog has been feeded by Jane.

 

Present Perfect Continuous:

Jane has been feeding  the dog. ➜ The dog has been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Past Simple:

Jane feeded the dog. ➜ The dog was feeded by Jane.

 

Past Continuos:

Jane was feeding the dog. ➜ The dog was being feeded by Jane.

 

Past Perfect:

Jane had feeded  the dog. ➜ The dog had been feeded by Jane.

 

Past Perfect Continuous:

Jane had been feeding  the dog. ➜ The dog had been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Future Simple:

Jane will feed the dog. ➜ The dog will be feeded by Jane.

 

Future Continuos:

Jane will be feeding the dog. ➜ The dog will be being feeded by Jane.

 

Future Perfect:

Jane will have feeded  the dog. ➜ The dog will have been feeded by Jane.

 

Future Perfect Continuous:

Jane will have been feeding the dog. ➜ The dog will have been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

can, could สามารถ:

Jane can feed the dog. ➜ The dog can be feeded by Jane.

Jane could feed the dog. ➜ The dog could be feeded by Jane.

 

may, might อาจจะ:

Jane may feed the dog. ➜ The dog may be feeded by Jane.

Jane might feed the dog. ➜ The dog might be feeded by Jane.

 

must, ought to ควรจะ:

Jane must feed the dog. ➜ The dog must be feeded by Jane.

Jane ought to feed the dog. ➜ The dog ought to be feeded by Jane.

 

have to, has to ต้อง:

Jane has to feed the dog. ➜ The dog has to be feeded by Jane.

They have to feed the dogs. ➜ The dogs have to be feeded by them.

 

 

ไม่อยากท่องจำ Passive Voice ทำไงดี?

 

อันดับแรกเลย ต้องจำโครงสร้างแต่ละ Tense ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อนำโครงสร้าง Tense มาบวกกับโครงสร้างของ Passive Voice นั่นก็คือ to be + V.3 (Past Participle) โดยตัว be จะต้องบวกกับ Verb แท้ แล้วผันตามรูปของมัน นั่นก็คือ

 

Verb infinitive ของ be

be


Verb ช่อง 1 ของ be

is, am are


Verb ช่อง 2 ของ be

was, were


Verb ช่อง 3 ของ be

been

 

 และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือโครงสร้างประโยค Passive Voice ที่ผันตาม Tense ต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

 

ตัวอย่าง

 

 

 

กริยาที่ใช้กับ Passive Voice ไม่ได้

 

1) กริยาที่ไม่ต้องกรรมมารองรับ (Intransitive Verb) เช่น

act แสดง

explode ระเบิด

arrive มาถึง

go ไป

come มา 

laugh หัวเราะ

lie โกหก

continue ดำเนินการต่อ

cry ร้องไห้

run วิ่ง

die ตาย

swim ว่ายน้ำ

immigrate อพยพ

respond โต้ตอบ

sing ร้องเพลง

sit นั่ง

smile ยิ้ม

 

นอกจาก Intransitive Verb ยังมี Verb ประเภทอื่น ๆ อีกนะคะ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง คลิกเลย

 

2) กริยาพิเศษ ได้แก่

has มี

fit พอดี

suit เหมาะสม

lack ขาดแคลน

 

3) กริยาที่มีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” ได้แก่

is, am, are เป็น, อยู่, คือ

smell ได้กลิ่น

become กลายเป็น

feel รู้สึก

appear ปรากฏ

get เอา, ได้รับ

look ดูเหมือนว่า

taste มีรสชาติ

 

 

3 สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By

 

ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค Passive Voice ต้องมี by 

เช่น The boy was bitten by the dog.

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประโยค Passive Voice ไม่จำเป็นต้อมี By เสมอไปค่ะ ถ้าหากอยู่ใน 3 สถานการณ์เหล่านี้

 

1) เมื่อต้องไม่ต้องการพูดถึงผู้กระทำ เพราะไม่สำคัญหรือรู้กันอยู่แล้ว เช่น

Champagne is used to commemorate joyous occasions.

แชมเปญถูกใช้เพื่อฉลองโอกาสสุดพิเศษ

 

2) ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ ได้แก่

It is believed that เชื่อกันว่า

It is said that กล่าวกันว่า

It is expected that คาดกันว่า

It is hoped that หวังกันว่า

 

Tips: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น

It is believed that drinking cold water makes a period stop.

เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล

 

3) เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น

My cat was kidnapped on Monday morning.

แมวของฉันถุกขโมยไปเมื่อวันจันทร์ตอนเช้า

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ EF

หนังสือเก่ง Grammar ก่อนสอบ

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน

ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

 

วัดระดับภาษาอังกฤษ คลิก

[NEW] อยากเก่งอังกฤษ ลอง Practice แบบครูลูกกอล์ฟ | อยาก เก่ง ภาษา อังกฤษ ต้อง ทํา ไง – NATAVIGUIDES

ภาษาอังกฤษยากไหม? อยู่ที่ใครถาม แต่ถ้าถาม ‘ครูลูกกอล์ฟ’ ก็จะบอกว่า “ทุกอย่างฝึกได้จากการฝึก ทุกทักษะเพิ่มพูนได้ถ้าคุณอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม แต่คุณต้องอยากฝึกด้วยนะ!”

The MATTER เลยชวน ‘ครูลูกกอล์ฟ’ เจ้าของสถาบัน ANGKRIZ และคุณครูสอนภาษาอังกฤษสุดแซ่บ มาแบ่งปันแนวคิดและวิธีการฝึกฝนภาษาอังกฤษกัน

The MATTER : ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ทักษะไหนฝึกยากที่สุด?

ครูลูกกอล์ฟ : จริงๆ ยากหมดแหละ ถ้าเราไม่ได้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย แต่ถ้าธรรมชาติของภาษา การฟังคือฐาน สมมติเหมือนเรากำลังสร้างบ้านอยู่การฟังก็จะเป็นเหมือนฐานของบ้าน พูดก็จะตามมาเหมือนเป็นเสาเข็ม อ่านก็จะเริ่มเป็นเหมือนกำแพง แล้วก็เขียนก็เป็นหลังคา แต่ละทักษะของเราอาจจะไม่เท่ากัน

ฐานบางคนก็แน่น บางคนเสาหลักก็โอเคดี บางคนกำแพงก็สวย แต่ละคนจะมีบ้านที่ไม่เหมือนกัน อยู่ที่การวางรากฐานมา ภาษาไทยเราก็เรียนแบบนี้ไม่ใช่หรอ ก็ฟังพูดอ่านเขียน แต่เป็นภาษาอังกฤษอาจจะยากหน่อย เพราะว่าภาษาอังกฤษสำหรับคนไทยคือภาษาต่างชาติ พอเป็นภาษาต่างชาติเนี่ย มันไม่ได้เอื้ออำนวยให้เราสร้างบ้านจากฐาน บางทีเราก็สร้างจากกำแพงและหลังคาก่อน คือเราเริ่มจากการอ่านเขียน แล้วเราค่อยมาวางรากฐานทีหลัง มันจะมีคนที่เขียนได้อ่านออกแต่ว่าฟังไม่ค่อยได้ พูดไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ทุกอย่างฝึกได้จากการฝึก ทุกทักษะเพิ่มพูนได้ถ้าคุณอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม แต่คุณต้องอยากฝึกด้วยนะ

 

The MATTER : ทักษะอย่างการฟังกับอ่านอาจจะฝึกได้จากการดูหนัง ดูซีรีส์ หรืออ่านหนังสือ แล้วการพูดล่ะ จะฝึกยังไงดี?

ครูลูกกอล์ฟ : การพูดเป็นเรื่องที่ยากเพราะเราต้องมีคู่สนทนา ถูกไหม? อาจารย์หลายๆ คนจะแนะนำว่า ไม่มีคู่สนทนาก็ลองคุยกับตัวเอง ซึ่งบางครั้งก็ยาก เพราะว่าถ้าเราไม่ได้มีความเข็มแข็งพอ เราจะคุยกับตัวเองได้ไม่นาน สำหรับพี่ตอนเด็กๆ ที่ไม่ได้มีคู่สนทนา พี่ก็จะทำเป็นลักษณะของการทำแบบฝึกหัด คือเหมือนเป็นการอัดเสียง เป็นการเล่าเรื่องราวที่ตัวเองทำเป็นภาษาอังกฤษ อันนั้นคือวิธีฝึกพูดของพี่ แต่แน่นอนแหละ การพูดมันจะฝึกได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อเรามีคนให้คุยด้วย แต่อันนี้บอกเลยว่าขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน

 

The MATTER : เกี่ยวไหมว่าการที่คนไทยไม่ได้มีความเป็น extrovert เท่าต่างชาติ เป็นผลทำให้คนไทยไม่กล้าพูด?

ครูลูกกอล์ฟ : มนุษย์เรามันมีความปนระหว่าง introvert และ extrovert แหละ แต่ถ้าให้วิเคราะห์ความเป็นไทยนะ สมมติเอาเด็กไทยมาเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน แล้วมีแต่คนไทย มันจะมีความกลัวเสียหน้า มันมีความกลัว มันเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ทำดีไหม I don’t wanna look stupid. คือเราไม่กล้าที่จะผิด เราก็เลยไม่เกิดการเรียนรู้ เราไม่กล้าที่จะผิดกับภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาต่างชาติ แต่เราลืมไปว่าจริงๆ ภาษาไทยที่เราใช้อยู่ก็ผิดตลอดเวลา ซึ่งใครก็ตามที่สามารถปลดปล่อยและทลายกำแพงไปได้เร็ว ก็จะเรียนรู้ได้เร็ว

พูดภาษาอังกฤษกับชาติไหนยากสุด? คนไทย พูดกับชาติไทยด้วยกันนี่แหละ ทำไมล่ะ? ก็เวลาไปเมืองนอกก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดมันก็ไม่รอดไหมอะ เคยเห็นคนไทยคุยภาษาอังกฤษกันไหมล่ะ? คุยภาษาอังกฤษกับเพื่อนกันไหม? ที่ออฟฟิศมีคนคุยภาษาอังกฤษกันไหม? That’s it. Why? เพราะมันจะเกิดคำถาม มันจะเกิดความสงสัยว่าทำไม Why am I doing this? กูทำเพื่อในเมื่อ I can speak Thai. แล้วยิ่งเวลาภาษาเราระดับกลางๆ ไม่ได้ล้ำมาก ก็เกิดความกลัวอีก เฮ้ย เดี๋ยวคนจะตัดสินเรารึเปล่าวะ?

 

The MATTER : แล้วทางแก้ของการกลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษคืออะไร

ครูลูกกอล์ฟ : Think of English as a tool to help you communicate. คือมองภาษาอังกฤษให้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร I wanna speak Thai อยากพูดไทย so I speak Thai แต่ถ้าพี่อยากพูดภาษาอังกฤษก็ That’s it! ทำไมเวลาพี่ทำรายการ Loukgolf’s English Room สังเกตเลยนะ มันเป็นความยากมากเลยที่เอาแขกที่เป็นคนไทยด้วยกันมาพูดภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเราไม่ทลายกำแพง เราก็จะไม่กล้าคุย เราต้องมองภาษาเป็นแค่เครื่องมืออะ แค่มองว่าก็ตอนนี้อยากใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

Think of English as a tool to help you communicate. คือมองภาษาอังกฤษให้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร

The MATTER : คิดยังไงกับการที่มีคนที่ใช้ภาษาอังกฤษแล้วถูกมองว่าดัดจริต

ครูลูกกอล์ฟ : ก็ปกติ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพูดได้ อันนี้อาจจะเป็นเรื่องของสังคมโดยรวมในยุคๆนึงว่า พูดภาษาอังกฤษทำไมวะ ดัดจริต แล้วมันก็ยังถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่น แต่ถ้าเป็นเด็กเจนนี้ หลายๆ คนที่พี่รู้จักก็ไม่ค่อยมีปัญหานี้นะ โลกของเราตอนนี้ ภาษาอังกฤษมัน friendly ขึ้นมากเลย เดี๋ยวนี้มันมีรายการอย่าง The Face รายการอย่าง Loukgolf’s English Room (ขอโฆษณานิดนึง) มีฝรั่งเยอะมากที่ออกมาทำคลิปบอกว่า ก็พูดไปเลย พูดให้มันถูกต้องสิ มองทัศนคติก็รู้แล้วว่าเรามีความเข้าใจผิด ซึ่งเราแก้ได้ เข้าใจผิดเราก็ทำให้มันถูกต้องได้ ทำไมเวลาเราเห็นฝรั่งพูดไทยไม่ชัด แต่พยายามพูด เราถึงบอกว่าเขาน่ารัก ทำไมเราถึงชมเขาว่าเก่ง แต่ทำไมเวลามีคนไทยพูดภาษาอังกฤษได้แบบฝรั่ง บางคนกลับไปตั้งแง่ หรือทำไมเราถึงต้องมีการแบบว่า แหม พูดไม่เก่งแล้วยังจะพูด ทำไม? ความเข้าใจผิดนี้ต้องใช้เวลาแก้ แต่มันเกิดการพัฒนาแน่นอนหากเราสร้างความเข้าใจร่วมกัน

 

The MATTER : แล้วถ้าอยากจะพูดให้ถูก ต้องเริ่มยังไง?

ครูลูกกอล์ฟ : ถ้าเราพูดถึงเรื่องของการฝึกภาษาทุกภาษา เค้าบอกว่าการฟังมันคือกุญแจไปสู่การพูด เราต้องเริ่มจากฟังถูก สมมติเราสอนเด็กเราว่า table ตั้งแต่แรกมันก็จบ เราสอนเด็กเราว่า leopard (เล-เพิร์ด) เสือดาว ตั้งแต่ต้นมันก็จบ แต่เรากลับมีการสอนว่า le-o-pard (ลี-โอ-พาร์ด) เราสอนผิดแล้วก็อ้างว่ามันเป็นสำเนียงแบบไทย มันไม่ใช่ไง ประเด็นของการออกเสียงผิดกับสำเนียงมันคนละเรื่องถูกไหม แล้วถ้าเราสอนเด็กถูก เด็กไทยมีศักยภาพทางภาษามาก การฟังคือกุญแจ Listening is the key

ภาษาไทยเป็นภาษาที่หูต้องดีนะ ไม่งั้นเราไม่รอดในระบบวรรณยุกต์ของเรา ทำไมเราแยกออกระหว่าง หมา ม้า มา อาม่า หม่าม้า มะหมา มามะ ทำไมเราแยกออกหมดเลย ทำไมอะ ก็เพราะว่าหูของเรามันถูกดีไซน์มาให้ฟังไง ไม่งั้นมันแยกไม่ได้นะ สังเกตสิ ไม่ค่อยมีภาษาไหนโหดเท่านี้ในระบบเสียงนะ เคยเจอฝรั่งเยอะไหมล่ะที่พูดภาษาไทยได้แบบชัดมากๆ แทบจะเป็นคนไทยจริงๆ เจอเยอะไหม นับเป็นหน่วยได้เลย ต่อให้บอกว่าอยู่เมืองไทยมานาน มันจะมีความเป็นรากของเขาอยู่ที่มันไม่สามารถลืมได้ ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรลืมรากอยู่แล้วนะ มันไม่ควรลืม แต่มันเป็นการพิสูจน์ว่าภาษาไทยมีความหิน คุณจะพูดได้เหมือนคนไทยนี่มันหินมาก

 

The MATTER : เก่งภาษาอังกฤษ มีประโยชน์อะไรกับชีวิตบ้าง

ครูลูกกอล์ฟ : ภาษาอังกฤษมันหมดยุคแล้วที่จะถามว่าเรียนทำไม ง่ายๆ เลยเรียนภาษาอังกฤษเนี่ยเพื่อเปิดโลกและเพื่อพัฒนาตัวเรา พัฒนาประเทศ มันพัฒนาประเทศยังไง เราเรียนเพื่อให้รู้ทันฝรั่ง เราไม่ได้เรียนภาษาเพื่อไปบูชาเขานะ เราเรียนเพื่อนให้รู้ว่าเขาเขียนข่าวที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศเรา

ภาษาเป็นแค่เครื่องมือ ถ้ารู้สึกว่าเครื่องมือนี้ไม่จำเป็น Fine, you don’t have to learn English. You don’t have to spend money. ไม่ต้องเสียเงิน You don’t have to spend time. ไม่ต้องเสียเวลา แต่ถ้าคุณรู้สึกอยากมีเครื่องมือนี้ เพราะรู้สึกว่ามีประตูที่อยากเปิดอยู่ แต่กุญแจคือภาษาอังกฤษ ความเป็นสากลของภาษาอังกฤษนี่แหละที่ทำให้เราสามารถทลายหลายๆ กำแพงได้ มันมีงานเขียนมากมายที่ถ้าเราได้ภาษาอังกฤษ เราไปอ่านได้เลยโดยไม่ต้องรอคนมาแปล มีคนบางคนที่เราเจอแล้วอยากคุยด้วย ก็คุยได้โดยไม่ต้องใช้ล่าม

The MATTER : ภาษาอังกฤษสร้างโอกาสอะไรบ้างสำหรับครูลูกกอล์ฟ

ครูลูกกอล์ฟ : มันคือเครื่องมือให้เราไปเห็นโลก ถามตัวเองเลยว่าอยากเปิดประตูไปอีกกี่บานในเมื่อโลกมันใหญ่ เราทุกคนอยู่ในกะลา แต่ก่อนพี่เป็นเด็กต่างจังหวัด มันเหมือนพี่ว่ายอยู่ในคลองแล้วพี่รู้สึกว่ามันใหญ่มาก พอวันนึงพี่มากรุงเทพฯ ก็เหมือนพี่ได้เจอแม่น้ำ วันนึงพี่ไปอังกฤษก็เหมือนพี่ได้เจอทะเล โลกมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พี่ก็แค่สร้างเครื่องมือให้เราไปเห็นโลก มันเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้ถูกประทานมาให้ มันคือเครื่องมือที่เราต้องสร้างด้วยการฝึกแล้วก็ขวนขวาย

 

The MATTER : ทุกวันนี้มีวิธีคิดและฝึกฝนตัวเองยังไง

ครูลูกกอล์ฟ : ฝึกฝนอยู่ตลอด ไม่เคยคิดว่า My English is excellent ไม่เคยมีคำที่บอกว่า My English is fantastic ไม่มีเลยนะ คือจะรู้สึกว่า My English is good คำว่า ‘good’ นี่แหละเป็นการเตือนตัวเองว่า I will be better คือมันดี มันโอเค แต่ว่ามันต้องดีขึ้น พรุ่งนี้มันก็ต้องดีกว่าวันนี้ แต่วันนี้เราก็ทำให้มันดีก็แค่นั้นเอง

 

พี่ว่ามนุษย์เรามีเป้าหมายไม่เหมือนกันนะ เป้าหมายของพี่คือพี่เดินเรื่อยๆ เพราะพี่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วขามนุษย์ก็ถูกดีไซน์มาให้เดิน เดินถึงวันนี้ละก็พัก ก็แฮปปี้ที่เรามาถึงเป้าหมายนี้ แล้วถ้าอยากเดินต่อก็เดินต่อ แค่นี้เอง

 

Cover illustration by Namsai Supavong

 

Share this article



ฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน! (Super Easy Free Class ครั้งที่ 1)


ฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน! (Super Easy Free Class ครั้งที่ 1)
SUPER EASY FREE CLASS เป็นคลาสเรียนสอนการใช้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน (รู้แค่ I กับ You ก็สามารถเรียนได้เลย) เพื่อให้นร.สามารถเริ่มสื่อสารแบบง่ายๆได้ก่อน คลาสนี้เป็นคลาสฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย นร.สามารถเข้าเรียนในเพจ พูดอังกฤษได้ ไม่ต้องไปเมืองนอกแบบสดๆ ทุกวันจันทร์พุธ เวลา 1 ทุ่มครึ่ง เด็กมัธยมเรียนได้ ผู้ใหญ่เรียนดี
Krubam ฝึกพูดอังกฤษ พูดอังกฤษได้ไม่ต้องไปเมืองนอก ครูแบม

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน! (Super Easy Free Class ครั้งที่ 1)

EP.4 อยากเก่งภาษาอังกฤษ ควรเริ่มจากตรงไหน By: ครูพลอย


อยากพูดอังกฤษเก่ง ควรเริ่มจากตรงไหนดี?
คำถามนี้ ครูมีคำตอบ
และนอกจากเรียนตามขั้นตอนที่ครูบอก สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราเก่งขึ้นได้ คือความพยายาม และหมั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกๆวันนะคะ
ครูพลอยเป็นกำลังใจให้คนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษทุกคนค่ะ ❤

ติดตามข่าวสารได้ช่องทางนี้
🎯Line :PloyLeo
🎯โทร : 0814337939

EP.4 อยากเก่งภาษาอังกฤษ ควรเริ่มจากตรงไหน By: ครูพลอย

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,


ก ไก่ Thai Phonetic Alphabet ► shorturl.at/eCGIK
500 Words\u0026Phrases ► shorturl.at/lpNP8
500 วลี ประโยคสั้น ภาษาอังกฤษ ► shorturl.at/kBJTW
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Please Subscribe ► shorturl.at/lrzMV
More Videos/Languages ► shorturl.at/arvKX
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
♥ ♥ ♥ Thank you! ♥ ♥ ♥
ภาษาอังกฤษ, คําศัพท์อังกฤษ, ไทย อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, ภาษาอังกฤษ, ภาษา, เรียน ภาษา อังกฤษ, ภาษาไทย, ครูภาษาไทย, เรียน ภาษาอังกฤษเบื้องต้น, English, Thai Learn, Thai lesson, Basic Thai, learning english, english conversation, online english, learn english, listening english practice, conversation, english speaking, listening english, translate english to thai, Thai, Thai language,Thai speaking
พูดอังกฤษเป็นเร็วสำหรับทุกพื้นฐาน: 50 รูปประโยคสำเร็จรูป 150 ตัวอย่าง!
Thai Sentence Starters!
https://www.youtube.com/watch?v=3ssrNqPjJiY\u0026t=985s

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,

อยากเก่งภาษาอังกฤษ ทำอย่างไร | หมอจริง เข้าใจวัยรุ่น Dr Jing


You are unstoppable; not because you do not have failures or doubts, but because you continued on despite them
การที่ไม่มีใครหยุดคุณได้
ไม่ใช่เป็นเพราะคุณไม่เคยล้มเหลวหรือสงสัยในตัวเอง
แต่เป็นเพราะคุณสู้ต่อไปแม้จะเผชิญความล้มเหลวนั้น
Music Clip : ES_Tomorrow (instrumental Version) Jimmy Wahlsteen
Music Behind the scene : ES_Cause I Am Coming Home (Elphick Remix) (Instrumental Version) Johan Glossner
คอร์สออนไลน์ \”หาตัวเองอย่างไรในวัยรุ่น\”
เสื้อ Anyone Can Be Anything
Facebook หมอจริง DR JING https://bit.ly/2XTD6zY
Instagram @drjingdrjing https://bit.ly/34Z3NVy
twitter @drjingdrjing https://bit.ly/2xzUL57
ติดต่องานบรรยายเเละวิทยากร [email protected]
ติดต่องาน คุณเอ (064)2833281
หมอจริงเข้าใจวัยรุ่น หมอจริง

อยากเก่งภาษาอังกฤษ ทำอย่างไร | หมอจริง เข้าใจวัยรุ่น Dr Jing

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h

กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/

เรียนตอนต่อๆไป
https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk9TP14p0TWjl7bs84Ow1aC
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องฝึกพูด เริ่มต้นฝึกเหมือนเด็กทารกที่ค่อยๆหัดพูดตามพ่อแม่ทีละคำสองคำ เป็นกลุ่มคำ เป็นประโยค จนพูดได้ตามที่ใจนึกอยากจะพูด วิธีการเรียนรู้แบบธรรมชาตินี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ และที่สำคัญไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย แค่ทำความเข้าใจผ่านภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับเสียงที่ได้ยิน เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่เราเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างธรรมชาติ
ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่าย แต่เราอย่าไปทำให้มันยาก
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ อยาก เก่ง ภาษา อังกฤษ ต้อง ทํา ไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *