Skip to content
Home » [Update] อังกฤษ v เยอรมัน | เยอรมัน vs อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] อังกฤษ v เยอรมัน | เยอรมัน vs อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เยอรมัน vs อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

    ตอนนั้นเป็นช่วงออกสตาร์ทซีซั่น2018/19ซึ่งยอดตัวเลขผู้เล่นท้องถิ่นที่ถูกส่งลงสนามในพรีเมียร์ลีกมีแค่ 29%จากทั้งหมด เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้า(33%)ก็ตกลงมาจากเดิมอย่างน่าใจหายอีกด้วย

    โอเค มันอาจมีคนที่ยักไหล่ให้เนื่องจากขอแค่สโมสรตัวเองชนะหรือประสบความสำเร็จ จะใช้ใครจากสัญชาติใดก็ช่างทว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ขี่หลังสิงโตจะนิ่งดูดายได้เด็ดขาด    

    ลีกที่ดีที่สุดของหลายสายตา ก็ไม่ได้แปลได้ว่าจะดีที่สุดของอีกบางสายตา…    

    ต้องย้อนด้วยว่าโมงยามนั้นผลงานของอังกฤษชุดเยาวชนเข้าขั้นยอดเยี่ยมโดยชุดยู-20กับยู-17คว้าแชมป์โลกขณะที่ชุดยู-19ครองเจ้ายุโรปแต่มันจะมีประโยชนตรงไหนหากเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้รับการเหลียวแลจากต้นสังกัด หลายคนมีชื่อแค่สำรองและอีกหลายคนก็ถูกส่งไปให้สโมสรเล็กๆกับลีกต่างแดนยืมตัว

    ความกังวลที่เซาธ์เกตมีจึงเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจ ความเป็นพรีเมียร์ลีกอันยอดนิยมขายลิขสิทธิทีวีไปทั่วโลกก็ย่อมมีมุมมืดเป็นธรรมดา ยิ่งขุดสถิตินับจากซีซั่น1992/93ซึ่งตอนนั้นแตะอยู่ที่หลัก70%ก่อนที่จะค่อยๆหันหัวดำดิ่งลงมาเหลือไม่ถึง30%จึงเป็นคำถามที่ต้องรีบหาทางออก    

    ช่วงเวลาเดียวกันนั้นบุนเดสลีกาของเยอรมันมีตัวเลขอยู่ระหว่าง40-50%โดยเฉลี่ยสม่ำเสมอ นี่เองจึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมยูโรปี2000ที่ต่างกอดคอกันตกรอบแบ่งกลุ่ม ต่างก็นัดสุมหัวประชุมหามรุ่งหามค่ำเพื่อปฎิรูปเกมลูกหนังตัวเองแต่มีแค่ชาติเดียวที่เดินไปข้างหน้าจนต่อมาได้ชูถ้วยแชมป์โลกเป็นสมัยที่สี่    

    สายลมกรรโชกแรงในฤดูหนาวปีนั้นไม่ได้ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นตามพื้นเท่านั้น หากสำหรับผู้ชายคนหนึ่งที่แบกรับความกดดันบนสองบ่าก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมาตรวจสอบรายชื่อแต่ละสัปดาห์ อ่อนแรงที่สุดก็มีบางเกมที่รับรายงานว่ามีแค่ 54 จาก 220 ผู้เล่นที่เป็นตัวจริงเท่านั้นผ่านคุณสมบัติสวมเครื่องแบบให้ประเทศชาติ

    เจาะรายละเอียดก็ต้องอธิบายเพิ่มว่าใช่ว่าทั้ง 54 คนจะใช้งานได้ มันก็มีบางรายที่อายุเลยเกณฑ์ดึงมาใช้งานเพื่อแผนสร้างทีมระยะยาว ก็มีอีกหลายรายที่ต้องยอมรับตรงๆว่า’ฝีเท้าไม่ถึง’    

    มันก็ยังมีเพียง 12 รายเท่านั้นที่ถือพาสปอร์ตยูเคด้วยกับมีวัยที่มีอนาคตสดใสรออยู่ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ถูกต้องอาทิเดแคลน ไรซ์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์จนถึงไรอัน เซสเซยอง    

    เซนต์ จอร์จส์ พาร์ครูดม่านเปิดใช้เป็นทางการเดือนตุลาคมปี 2012โดยเอาหลักคิดเดียวกับแกล์กฟ็องแตงของฝรั่งเศสมาใช้ นั่นหมายถึงเป็นศูนย์รวมฟุตบอลของประเทศ ทุกระดับชั้นต้องมาฝึกซ้อมร่วมกันซึ่งการสร้างบล็อคจากรุ่นสู่รุ่นอันเป็นสิ่งจำเป็น    

    ถ้าเอาผลงานที่มีถึงสองรุ่นไปได้แชมป์โลกกับอีกรุ่นที่ได้แชมป์ยุโรปก็ถือเป็นบางชิ้นหลักฐานที่น่าพอยืนยันได้ว่า’เด็กอังกฤษมีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก’
    

    ไล่เรียงจากชุดปัจจุบันก็ยิ่งชัดเจนว่าต้นกล้าได้เติบโตออกมาให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้างแล้วโดยเมสัน เมานท์, ฟิล โฟเด้น, เจดอน ซานโช่, บูกาโย่ ซาก้าตลอดจนจู๊ด เบลลิ่งแฮมต่างผ่านกระบวนการผลิตในเซนต์ จอร์จส์ พาร์คทั้งสิ้น อย่างเมานท์ติดทีมชาติไล่จากยู-16ขึ้นมาเป็นเหมือนขึ้นบันไดทีละขั้น

         สิงโตคำรามอาจเคยมี’Golden Generation’ยุคที่สเวน โกรัน อีริคส์สันกุมบังเหียนแต่นาทีนี้พวกเขายิ้มออกได้กว้างกว่าเดิมด้วยซ้ำต่อ’New Generation’ที่นอกจากอายุยังน้อยก็ยังถือเป็นกำลังสำคัญของสโมสรตัวเอง    

    อย่างโฟเด้นก็เป็นสตาร์พาสิงโตชุดยู-17ถล่มบราซิล 3-1รอบรองฯตามด้วยถลุงสเปน5-2ในนัดชิงจนได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งทัวร์นาเมนต์ ชุดดังกล่าวก็ยังประกอบด้วยนักเตะที่คุ้นหูกันไม่ว่าจะซานโช่, เอมิล สมิธ โรว์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, ริอาน บรูวส์เตอร์และมอร์แกน กิ๊บบส์-ไวท์
    

    หนสุดท้ายที่อังกฤษเจอเยอรมันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก็เป็นบอลโลกปี2010ที่แอฟริกาใต้ซึ่งทุกวันนี้คงมีสื่อผู้ดีเขียนถึงด้วยคำว่า’Bad Bloemfontein’เพราะนอกจากแพ้หมดรูป1-4ให้ชาติคู่ปรับแล้วก็ยังมีข้อกังขาเรื่องลูกตะบันแฟร้งค์ แลมพาร์ดที่กระทบคานเด้งลงข้ามเส้นเรียบร้อยแต่ไม่ได้ประตู
    
    
    ใช่ครับ จากยูโร2000ผ่านมาหนึ่งทศวรรษก็เป็นทีมอินทรีเหล็กที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคงทำได้ดีกว่าดังนั้นเกมคืนนี้ที่เมกกะเวมบลีย์จึงเปรียบเสมือนการต่อสู้ที่นอกจากมีใบเบิกทางสู่รอบแปดทีมรอแล้วก็ยังเป็นเกมที่พิสูจน์ด้วยว่าทุกสิ่งที่สมาคมลูกหนังผู้ดีลงมือทำไม่ได้สูญเปล่า
    

    อย่างหนึ่งจากตัวเลขไม่ถึง30%ในซีซั่น2018/19ก็พุ่งทะยานขึ้นในอีกสองปีถัดมา ซีซั่น2019/20มีนักเตะอังกฤษเป็นตัวจริงเกมพรีเมียร์ลีก35.6%และปีล่าสุดเพิ่มเป็น38.2%    

    ต้องให้เครดิตเซาธ์เกตข้อนี้ด้วยเพราะถ้าเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็คงไม่มีการกระตุ้นเตือน คำพูดตรงไปตรงมาของเขาในตอนนั้นทำให้แต่ละสโมสรต่างพร้อมปรับวิธีบริหารทีม

    สิงโตชุดยูโรหนนี้จึงมีค่าเฉลี่ยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์รอบสุดท้าย ก็คงไม่มีใครปฎิเสธว่าหลายคนมีศักยภาพเหลือล้นที่วันข้างหน้าน่าจะส่องประกายแวววับกว่านี้อีก อย่างต่อมาที่ต้องตอกย้ำกันก็คือใช่ว่าการโผล่ขึ้นมาของดาวดวงน้อยๆจะไม่เคยปรากฎในพงศาวดารลูกหนังผู้ดี พวกเขาเคยตื่นเต้นกับแจ็ค วิลเชียร์, เดเล่ อัลลี่หรือว่ารอสส์ บาร์คลี่ย์มาก่อนแต่คงไม่ต้องตอกย้ำเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น    

    คำกล่าวแต่โบราณสำหรับการจัดการคน”Put the right man to the right job”    

[Update] อังกฤษ v เยอรมัน | เยอรมัน vs อังกฤษ – NATAVIGUIDES

    ตอนนั้นเป็นช่วงออกสตาร์ทซีซั่น2018/19ซึ่งยอดตัวเลขผู้เล่นท้องถิ่นที่ถูกส่งลงสนามในพรีเมียร์ลีกมีแค่ 29%จากทั้งหมด เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้า(33%)ก็ตกลงมาจากเดิมอย่างน่าใจหายอีกด้วย

    โอเค มันอาจมีคนที่ยักไหล่ให้เนื่องจากขอแค่สโมสรตัวเองชนะหรือประสบความสำเร็จ จะใช้ใครจากสัญชาติใดก็ช่างทว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ขี่หลังสิงโตจะนิ่งดูดายได้เด็ดขาด    

    ลีกที่ดีที่สุดของหลายสายตา ก็ไม่ได้แปลได้ว่าจะดีที่สุดของอีกบางสายตา…    

    ต้องย้อนด้วยว่าโมงยามนั้นผลงานของอังกฤษชุดเยาวชนเข้าขั้นยอดเยี่ยมโดยชุดยู-20กับยู-17คว้าแชมป์โลกขณะที่ชุดยู-19ครองเจ้ายุโรปแต่มันจะมีประโยชนตรงไหนหากเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้รับการเหลียวแลจากต้นสังกัด หลายคนมีชื่อแค่สำรองและอีกหลายคนก็ถูกส่งไปให้สโมสรเล็กๆกับลีกต่างแดนยืมตัว

    ความกังวลที่เซาธ์เกตมีจึงเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจ ความเป็นพรีเมียร์ลีกอันยอดนิยมขายลิขสิทธิทีวีไปทั่วโลกก็ย่อมมีมุมมืดเป็นธรรมดา ยิ่งขุดสถิตินับจากซีซั่น1992/93ซึ่งตอนนั้นแตะอยู่ที่หลัก70%ก่อนที่จะค่อยๆหันหัวดำดิ่งลงมาเหลือไม่ถึง30%จึงเป็นคำถามที่ต้องรีบหาทางออก    

    ช่วงเวลาเดียวกันนั้นบุนเดสลีกาของเยอรมันมีตัวเลขอยู่ระหว่าง40-50%โดยเฉลี่ยสม่ำเสมอ นี่เองจึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมยูโรปี2000ที่ต่างกอดคอกันตกรอบแบ่งกลุ่ม ต่างก็นัดสุมหัวประชุมหามรุ่งหามค่ำเพื่อปฎิรูปเกมลูกหนังตัวเองแต่มีแค่ชาติเดียวที่เดินไปข้างหน้าจนต่อมาได้ชูถ้วยแชมป์โลกเป็นสมัยที่สี่    

    สายลมกรรโชกแรงในฤดูหนาวปีนั้นไม่ได้ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นตามพื้นเท่านั้น หากสำหรับผู้ชายคนหนึ่งที่แบกรับความกดดันบนสองบ่าก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมาตรวจสอบรายชื่อแต่ละสัปดาห์ อ่อนแรงที่สุดก็มีบางเกมที่รับรายงานว่ามีแค่ 54 จาก 220 ผู้เล่นที่เป็นตัวจริงเท่านั้นผ่านคุณสมบัติสวมเครื่องแบบให้ประเทศชาติ

    เจาะรายละเอียดก็ต้องอธิบายเพิ่มว่าใช่ว่าทั้ง 54 คนจะใช้งานได้ มันก็มีบางรายที่อายุเลยเกณฑ์ดึงมาใช้งานเพื่อแผนสร้างทีมระยะยาว ก็มีอีกหลายรายที่ต้องยอมรับตรงๆว่า’ฝีเท้าไม่ถึง’    

    มันก็ยังมีเพียง 12 รายเท่านั้นที่ถือพาสปอร์ตยูเคด้วยกับมีวัยที่มีอนาคตสดใสรออยู่ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ถูกต้องอาทิเดแคลน ไรซ์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์จนถึงไรอัน เซสเซยอง    

    เซนต์ จอร์จส์ พาร์ครูดม่านเปิดใช้เป็นทางการเดือนตุลาคมปี 2012โดยเอาหลักคิดเดียวกับแกล์กฟ็องแตงของฝรั่งเศสมาใช้ นั่นหมายถึงเป็นศูนย์รวมฟุตบอลของประเทศ ทุกระดับชั้นต้องมาฝึกซ้อมร่วมกันซึ่งการสร้างบล็อคจากรุ่นสู่รุ่นอันเป็นสิ่งจำเป็น    

    ถ้าเอาผลงานที่มีถึงสองรุ่นไปได้แชมป์โลกกับอีกรุ่นที่ได้แชมป์ยุโรปก็ถือเป็นบางชิ้นหลักฐานที่น่าพอยืนยันได้ว่า’เด็กอังกฤษมีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก’
    

    ไล่เรียงจากชุดปัจจุบันก็ยิ่งชัดเจนว่าต้นกล้าได้เติบโตออกมาให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้างแล้วโดยเมสัน เมานท์, ฟิล โฟเด้น, เจดอน ซานโช่, บูกาโย่ ซาก้าตลอดจนจู๊ด เบลลิ่งแฮมต่างผ่านกระบวนการผลิตในเซนต์ จอร์จส์ พาร์คทั้งสิ้น อย่างเมานท์ติดทีมชาติไล่จากยู-16ขึ้นมาเป็นเหมือนขึ้นบันไดทีละขั้น

         สิงโตคำรามอาจเคยมี’Golden Generation’ยุคที่สเวน โกรัน อีริคส์สันกุมบังเหียนแต่นาทีนี้พวกเขายิ้มออกได้กว้างกว่าเดิมด้วยซ้ำต่อ’New Generation’ที่นอกจากอายุยังน้อยก็ยังถือเป็นกำลังสำคัญของสโมสรตัวเอง    

    อย่างโฟเด้นก็เป็นสตาร์พาสิงโตชุดยู-17ถล่มบราซิล 3-1รอบรองฯตามด้วยถลุงสเปน5-2ในนัดชิงจนได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งทัวร์นาเมนต์ ชุดดังกล่าวก็ยังประกอบด้วยนักเตะที่คุ้นหูกันไม่ว่าจะซานโช่, เอมิล สมิธ โรว์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, ริอาน บรูวส์เตอร์และมอร์แกน กิ๊บบส์-ไวท์
    

    หนสุดท้ายที่อังกฤษเจอเยอรมันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก็เป็นบอลโลกปี2010ที่แอฟริกาใต้ซึ่งทุกวันนี้คงมีสื่อผู้ดีเขียนถึงด้วยคำว่า’Bad Bloemfontein’เพราะนอกจากแพ้หมดรูป1-4ให้ชาติคู่ปรับแล้วก็ยังมีข้อกังขาเรื่องลูกตะบันแฟร้งค์ แลมพาร์ดที่กระทบคานเด้งลงข้ามเส้นเรียบร้อยแต่ไม่ได้ประตู
    
    
    ใช่ครับ จากยูโร2000ผ่านมาหนึ่งทศวรรษก็เป็นทีมอินทรีเหล็กที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคงทำได้ดีกว่าดังนั้นเกมคืนนี้ที่เมกกะเวมบลีย์จึงเปรียบเสมือนการต่อสู้ที่นอกจากมีใบเบิกทางสู่รอบแปดทีมรอแล้วก็ยังเป็นเกมที่พิสูจน์ด้วยว่าทุกสิ่งที่สมาคมลูกหนังผู้ดีลงมือทำไม่ได้สูญเปล่า
    

    อย่างหนึ่งจากตัวเลขไม่ถึง30%ในซีซั่น2018/19ก็พุ่งทะยานขึ้นในอีกสองปีถัดมา ซีซั่น2019/20มีนักเตะอังกฤษเป็นตัวจริงเกมพรีเมียร์ลีก35.6%และปีล่าสุดเพิ่มเป็น38.2%    

    ต้องให้เครดิตเซาธ์เกตข้อนี้ด้วยเพราะถ้าเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็คงไม่มีการกระตุ้นเตือน คำพูดตรงไปตรงมาของเขาในตอนนั้นทำให้แต่ละสโมสรต่างพร้อมปรับวิธีบริหารทีม

    สิงโตชุดยูโรหนนี้จึงมีค่าเฉลี่ยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์รอบสุดท้าย ก็คงไม่มีใครปฎิเสธว่าหลายคนมีศักยภาพเหลือล้นที่วันข้างหน้าน่าจะส่องประกายแวววับกว่านี้อีก อย่างต่อมาที่ต้องตอกย้ำกันก็คือใช่ว่าการโผล่ขึ้นมาของดาวดวงน้อยๆจะไม่เคยปรากฎในพงศาวดารลูกหนังผู้ดี พวกเขาเคยตื่นเต้นกับแจ็ค วิลเชียร์, เดเล่ อัลลี่หรือว่ารอสส์ บาร์คลี่ย์มาก่อนแต่คงไม่ต้องตอกย้ำเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น    

    คำกล่าวแต่โบราณสำหรับการจัดการคน”Put the right man to the right job”    


สมรภูมิเกาะอังกฤษใน WW 2 โดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ


สมรภูมิเหนือเกาะอังกฤษ ระหว่างกองทัพอากาศเยอรมันและอังกฤษ ในสงครามโลกครั้งที่ 2
บทและบรรยายโดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ นักเขียนและนักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยวิคตอเรียแห่งนครเวลลิงตัน (Victoria University of Wellington) ประเทศนิวซีแลนด์
เคยปฏิบัติภารกิจเป็นผู้สังเกตุการณ์ทางทหาร (United Nation Military Observer : UNMO) ประจำกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์ เลสเต รวมทั้งยังเคยปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
สำเร็จหลักสูตรความมั่นคงในเอเชียตะวันออก (SEAs 12 : Security of East Asia seminar 2012) มลรัฐฮาวาย สหรัฐฯ มองโกเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์, หลักสูตรนายทหารประชาสัมพันธ์ภูมิภาคเอเชีย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ , หลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพแคนาดา (CMR course : Civil Military Relations course) กรุงออตตาวา แคนาดา , หลักสูตรการประชาสัมพันธ์กองกำลังรักษาดินแดนสหรัฐฯ (National Guard) มลรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ และหลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพสิงคโปร์
ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษที่วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, ม.เกษตรศาสตาร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.บูรพา, ม.กรุงเทพ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือจำนวน 9 เล่มคือ \”The War\” เส้นทางสู่สงคราม, ยุทธการขจัดทรราชย์, สมรภูมิรบสะท้านโลกของฮิตเลอร์, ขุมกำลังสะท้านโลกของฮิตเลอร์, 8 ขุนพลของฮิตเลอร์ , มิคาเอล วิทท์มันน์ เสือรถถังไทเกอร์ของนาซี , สงครามเวียดนาม , ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง และชีวประวัติอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สมรภูมิเกาะอังกฤษใน WW 2 โดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ

ไฮไลท์ฟุตบอลโลก บราซิล 1-7 เยอรมัน !! ฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศ 09/07/2014


ไฮไลท์ฟุตบอลโลก บราซิล 1-7 เยอรมัน !! ฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศ 09/07/2014

เยอรมัน 1 – 5 อังกฤษ [ไฮไลท์ย้อนยุค ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก]


วันที่ 1 ก.ย. 2001 ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือกโซนยุโรป อังกฤษบุกไปถล่มเยอรมันถึงบ้าน โดย 5 ประตูได้จากนักเตะลิเวอร์พูลล้วนๆ และไมเคิล โอเว่นทำแฮตทริกด้วย
ผู้ทำประตู :
โอเว่น 3, เจอร์ราร์ด 1, เฮสกี 1
บรรยายโดย :
อดิศร พึ่งยา, วีรศักดิ์ นิลกลัด

เยอรมัน 1 - 5 อังกฤษ  [ไฮไลท์ย้อนยุค ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก]

Highlights San Marino vs England | Europe World Cup Qualification Group Stage


Highlights San Marino vs England | Europe World Cup Qualification Group Stage
This video explains pre match, preview, statistics, line up, and goals of Europe World Cup Qualification Group Stage San Marino vs England. There’s no video clip of the match in this video.
highlights worldcup qualification wc2022 worldcupqualification sanmarino england sanmarinovsengland
Highlights
World cup
Qualification
World cup qualification
World cup qualification highlights
Qualification highlights
Group qualifications
World cup highlights
Europe
Europe world cup qualification
World cup 2022
Hasil pertandingan tadi malam
Hasil pertandingan semalam
San Marino vs England
San Marino England
Highlights San Marino vs England
Highlights San Marino England

Highlights San Marino vs England | Europe World Cup Qualification Group Stage

National Anthem of Germany – เพลงชาติเยอรมนี \”Das Lied der Deutschen\”


เพลงชาติสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีชื่อว่า ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน (เยอรมัน: Das Lied der Deutschen, แปลว่า \”เพลงแห่งชาวเยอรมัน) หรือในอีกชื่อหนึ่ง คือ ดัสดอยท์ชลันด์ลีด (เยอรมัน: Das Deutschlandlied, แปลว่า \”เพลงแห่งเยอรมนี\”) สำหรับในต่างประเทศในบางครั้งจะรู้จักกันในชื่อ \”ดอยท์ชลันด์อือเบอร์อัลเลส\” (เยอรมัน: Deutschland über alles, แปลว่า \”เยอรมนีเหนือทุกสิ่ง\”) ซึ่งเป็นวรรคแรกและท่อนแยกของเพลงนี้ในบทที่ 1 แต่ชื่อดังกล่าวไม่ใช่ชื่อของเพลงนี้อย่างแท้จริง
ทำนองของเพลงนี้ประพันธ์โดย ฟรานซ์ โจเซฟ ไฮเดิน เมื่อปี ค.ศ. 1797 เพื่อใช้เป็นเพลงประจำพระองค์จักรพรรดิแห่งออสเตรีย เนื่องในโอกาสงานเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ทรงปกครองออสเตรียในฐานะจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย) ต่อมาในปี ค.ศ. 1841 ออกุสต์ ไฮน์ริค ฮอฟฟ์มันน์ ฟอน ฟัลเลอสเลเบน นักภาษาศาสตร์และกวีชาวเยอรมัน ได้ประพันธ์บทร้องชื่อ \”ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน\” (Das Lied der Deutschen) ตามทำนองเพลงของไฮเดิน เนื้อเพลงดังกล่าวถือได้ว่ามีลักษณะเนื้อหาเชิงปฏิวัติในขณะนั้น
\”ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน\” ได้รับเลือกให้ใช้เป็นเพลงชาติเยอรมนีเมื่อ ค.ศ. 1922 ในสมัยสาธารณรัฐไวมาร์ ในปี ค.ศ. 1952 ประเทศเยอมนีตะวันตกก็ได้รับเอาเพลงนี้ใช้เป็นเพลงชาติในชื่อ \”ดอยท์ชลันด์ลีด\” (Deutschlandlied) โดยขับร้องเฉพาะบทร้องบทที่หนึ่งเท่านั้นในโอกาสที่เป็นทางการ ต่อมาหลังการรวมชาติเยอรมนีในปี ค.ศ. 1991 เพลงนี้ก็ได้กลายเพลงชาติเยอรมนีอย่างสมบูรณ์ โดยใช้เฉพาะบทร้องบทที่ 3 เป็นเนื้อร้องเพลงชาติอย่างเป็นทางการ

National Anthem of Germany - เพลงชาติเยอรมนี \

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เยอรมัน vs อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *