Skip to content
Home » [Update] หลักการใช้ Present Perfect Tense ฉบับเข้าใจง่าย | already การใช้ – NATAVIGUIDES

[Update] หลักการใช้ Present Perfect Tense ฉบับเข้าใจง่าย | already การใช้ – NATAVIGUIDES

already การใช้: คุณกำลังดูกระทู้

คราวก่อนได้เริ่มเล่าเหล่าลูกหลานตระกูล present มาพอสมควร ขอแนะนำไวยากรณ์ต่อไปที่ควรรู้หลังจากรู้เกี่ยวกับกิจวัตร หรือสิ่งที่กำลังทำ ไปแล้ว แล้วถ้าจะบอกว่า ทำเสร็จแล้วล่ะจะใช้โครงสร้างยังไง?

นี่ล่ะค่ะ เลยนำเรามาสู่ tense เรื่องต่อไปของเรา Present Perfect Tense นั่นเอง

12021938_990524284332192_1679220823_n

มาดูกันที่โครงสร้างกันก่อนเช่นเคยนะคะ เผื่อใครยังนึกหน้าตาไม่ออก

Subject (ประธาน) + have/has + Past participle verb

*Past participle คือ กริยาช่องที่ 3 ที่เราชอบเรียกกันนั่นแหละค่ะ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการและที่เจ้าของภาษาเค้ารู้จักคือ Past particle

โครงสร้างประโยค
Subject
have/has
Past participle (กริยาช่องที่ 3)

ประโยคบอกเล่า
I/You/We/They
have
been to France.

He/She/It
has
been to France.

โครงสร้างประโยค
Subject
have/has
not
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

*(yet)

ประโยคปฏิเสธ
I/You/We/They
have
not
been to France.
yet.

He/She/It
has
been to France.

โครงสร้างประโยค
Have/Has
Subject
*(ever)
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

*(yet)

ประโยคคำถาม
Have
I/you/we/they
ever
been to France?
yet ?

Has
he/she/it
been to France?

โครงสร้างประโยค
Wh questions
Have/Has
Subject
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

ประโยคคำถาม Wh-
Why
have
I/you/we/they
been to France?

When
has
he/she/it
been to France?

*คำในวงเล็บจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะคะ เป็น option เสริมให้ดูสละสลวยมากขึ้น

Note: กริยาที่เห็นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะคะ Subject บางตัวนำมาใช้กับกริยานี้ไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูความเหมาะสมอีกที

Tense นี้ฟังแต่ชื่ออาจดูน่ากลัวเพราะไม่คุ้นหู และดูจากโครงสร้างที่ต้องรู้เรื่องกริยา Past participle ก็อาจทำหลายคนส่ายหน้า โบกมือบ๊ายบายกันแล้ว แต่ความจริงแล้วเป็น Tense ที่ใช้เยอะกันมากจนน่าตกใจ ไอ้ Present Perfect tense นี่มันใช้สำหรับกรณีหลักๆกรณีเดียว นั่นคือ

เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว แต่เกี่ยวโยงถึงปัจจุบัน อาจจะดำเนินต่อถึงอนาคตก็ได้

เป็น Tense ที่อ้างถึงเวลาปัจจุบัน ณ ขณะที่พูดอยู่ แต่กล่าวถึงสิ่งที่ได้ทำผ่านมาในอดีต เหมือนการมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์หรือเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ส่งผลกับเราในปัจจุบันขณะพูด

เช่น I have already had breakfast (ฉันทานข้าวเช้ามาเรียบร้อยแล้ว ณ ขณะที่พูดก็รู้สึกอิ่มพุงกางอยู่)
Thomas and James have been to Brazil (โทมัสและเจมส์เคยไปบราซิลมาแล้ว เป็นประสบการณ์ที่โทมัสกับเจมส์เคยไปลัลลาด้วยกันมา)

ประโยคตัวอย่างข้างต้นนี้ล้วนแล้วแต่พูดถึงสิ่งที่ทำในอดีตและจบไปแล้ว

แต่ที่ว่ายังมีผลเกี่ยวเนื่องกับปัจจุบัน มันก็คือ ณ ขณะที่พูดนั้นเหตุการณ์ที่พูดถึงดำเนินเสร็จแล้วในช่วงหนึ่เท่านั้น ที่ว่ากินข้าวก็เป็นความรู้สึกว่ายังอิ่มอยู่นะ หรือการไปบราซิลที่เป็นประสบการณ์ยังมีความรู้สึกคิดถึงที่นั่นอยู่

อาจจะยังงงๆ ว่ามันยังไงกันล่ะ ? ลองดูประโยคตัวอย่างด้านล่างนี้เพิ่มดูนะคะ

I have met a lot of people in the last few years (ฉันเจอผู้คนมากมายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ณ ขณะที่พูดปัจจุบันนี้ฉันก็ยังเจอคนแล้วเท่านี้ อนาคตค่อยว่ากัน)

We have not had any problems so far. (เราไม่มีปัญหาอะไรเลยตั้งแต่คราวนู้นยันตอนที่พูดอยู่นี้  อนาคตก็อาจจะเจอปัญหาก็ว่ากันไป)

I have lost my wallet. (ฉันทำกระเป๋าตังค์หาย ณ ขณะที่พูดปัจจุบันกระเป๋าก็ยังหายอยู่ อนาคตก็อาจจะเจอไม่เจอไม่รู้)

ทุกอย่างใน Present Perfect จะเกี่ยวเนื่องเห็นชัดในปัจจุบันที่ว่าแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นและจบไปแล้ว ผลของมันยังเห็นได้ในปัจจุบัน

สิ่งที่เรามักจะเห็นบ่อยๆกับประโยค Present Perfect ก็คือคำว่า

ever(เคย)       just (เพิ่งจะ)             already (เสร็จแล้ว)             และ             yet (ยัง)

เช่น Have you ever tried Padthai before? (เธอเคยกินผัดไทแล้วหรือยัง)
I have just had lunch. (ฉันเพิ่งจะทานข้าวกลางวันไปเอง)
He has already left. (ณ เวลานี้เขาออกไปแล้ว)
I have written an email, but I haven’t sent it yet. (ฉันเขียนอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ส่ง)

บางครั้ง Present Perfect  นี้มักจะมาคู่กับ Past Simple ที่พูดถึงเรื่องราวในอดีตเป็นตัวช่วยในการขยายเนื้อความเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วจบไปแล้วจริงๆ

ตัวอย่างเช่น

I have been to Thailand for two years. I went to Bangkok , Khonkhan and Chiang Mai. I also tried many Thai foods and learned Thai language.

ประโยคแรก ใช้ Present Perfect เพื่อบอกว่าฉันเคยอยู่ประเทศไทยมา 2 ปี แล้วจึงตามด้วยประโยค Past Simple ที่ช่วยอธิบายประโยคแรก ว่าฉันไปกรุงเทพ ขอนแก่น และเชียงใหม่มา แล้วยังเคยกินอาหารไทยเยอะแยะแถมยังได้เรียนภาษาไทยอีกด้วย

บางครั้งใน Present Perfect เลยมีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวด้วยว่าทำตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือทำมาเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ จนถึงเวลา ณ ขณะที่พูด

โดยจะใช้คำว่า since (ตั้งแต่ปีไหน วันไหน เดือนไหน etc.) และ for (กี่ปี กี่วัน กี่เดือน  etc.)

เช่น Your sister has grown a lot since the last time we met. (น้องสาวของเธอโตขึ้นมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน)

My Chinese has improved since I moved to China. (ภาษาจีนของฉันดีขึ้นมากตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาอยู่ที่จีน)

have stayed in Nan for ten years. (ฉันเคยอาศัยอยู่ที่น่านมาได้ 10 ปีแล้ว)
You have played computer games for three hours. (เธอเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์มาได้ 3ชั่วโมงแล้วนะ)

เป็นยังไงบ้างคะ ดูแล้วอาจซับซ้อนนิดหน่อย หลักๆก็จำไว้แค่ว่าถ้าประโยคที่เราจะพูดหรือเขียนเป็นสิ่งที่ เพิ่งจะทำ(just) หรือ เคยทำ(ever) หรือ ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว (already) หรือ ยังไม่เคยทำ (yet) ก็ไม่ต้องคิดมาก เอา Present Perfect ที่เราได้เรียนกันวันนี้ไปใช้ได้เลย ทีนี้ก็จะไม่เป็นภาระให้แค่ Present Simple หรือ Past Simple อีกต่อไป เหลือแค่ลองเอาไปใช้ดูนะคะ ผิดถูกก็ว่าค่อยๆแก้กันไป แต่ให้ได้ใช้ได้ฝึก

ท่องไว้นะคะ Practice makes perfect!

[Update] หลักการใช้ Past Perfect Tense ฉบับเข้าใจง่าย | already การใช้ – NATAVIGUIDES

ยังจำ Past Simple กันได้อยู่มั้ยคะทุกคน? (แน่ะๆ บางคนจำไม่ได้ล่ะสิ)

Past Simple ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เป็นเหตุการณ์ที่เสร็จสิ้นไปแล้ว
ทีนี้ถ้าพูดถึง Past Perfect บ้าง อาจจะงงว่าทำไมต้องจั่วหัวบทความเป็น Past Simple ล่ะ มันคืออะไรกันล่ะค่ะอี Tense  นี้ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกันกับ Past Simple

past-perfect-tense

งั้นเริ่มด้วยการมาดูกันที่โครงสร้างกันก่อนนะคะ

Subject  (ประธาน) + had + Past participle

*Past participle คือ กริยาช่องที่ 3 ที่เราชอบเรียกกันนั่นแหละค่ะ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการและที่เจ้าของภาษาเค้ารู้จักคือ Past particle

โครงสร้างประโยค

Subject

had

Past participle (กริยาช่องที่ 3)

ประโยคบอกเล่า

I/You/We/They

He/She/It

had

been to Rome.

โครงสร้างประโยค

Subject

had

not/never

Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

ประโยคปฏิเสธ

I/You/We/They

He/She/It

had

not

been to Rome.

 

never

โครงสร้างประโยค

Had

Subject

Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

ประโยคคำถาม

Had

I/you/we/they

he/she/it

been to Rome?

โครงสร้างประโยค

Wh questions

had

Subject

Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

ประโยคคำถาม Wh-

Why

had

I/you/we/they

he/she/it

been to Rome?

When

 

Note: กริยาที่เห็นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะคะ Subject บางตัวนำมาใช้กับกริยานี้ไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูความเหมาะสมอีกที

Past Perfect เป็น tense ที่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ เพราะหลักของ tense นี้มีแค่….

          “ใช้กับสิ่งที่เกิดก่อนเหตุการณ์ในอดีต”

ยังไงๆ หลายคนอาจจะยังถามอยู่ พูดให้เห็นชัดเจนก็คือ Past Perfect จะเกิดก่อน Past Simple นั่นเองค่ะ

ตัวอย่างเช่น

เรากำลังเล่าเรื่องของงานปาตี้เมื่อวานก่อนให้เพื่อนฟังแล้วเล่าว่า นายเจคเพื่อนของเราก็มางานปาตี้เมื่อวานด้วยก็จะได้ประโยคที่ว่า

Jake came to the party.

นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง แต่ว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่นายเจคเพื่อนของเราจะมานางสาวอแมนด้าเพื่อนสาวของเราอีกคนเค้าออกไปจากงานก่อนแล้ว ซึ่งไอ้เหตุการณ์ที่ยัยอแมนด้าออกจากงานปาตี้ก่อนที่เจคจะมานี่ล่ะค่ะ คือส่วนที่เราต้องใช้ Past perfect จนกลายเป็นประโยคนี้

When Jake came, Amanda had left the party already.

นี่แหละค่ะ หลักการใช้ง่ายๆของ Past Perfect Tense อะไรเกิดก่อนอดีต (Past Simple) ให้ใช้ Past Perfect tense  ง่ายๆแค่นี้เอง

อยากเห็นภาพมากกว่านี้ให้มาดูตัวอย่างด้านล่างนี้กันค่ะ

When I got home last night, I found that the thief had broken into my house. (เมื่อคืนพอฉันกลับมาที่บ้าน ฉันก็พบว่าบ้านฉันโดนขโมยงัดเข้าบ้านซะแล้ว กรี๊ดดด)

พิจารณาประโยคนี้ดูอะไรเหตุการณ์ไหนคือเหตุการณ์ที่เกิดก่อนกันคะ ระหว่าง

  1. I got home last night หรือ      b) the thief had broken into my house

คำตอบก็คือ b) เกิดก่อน a) ทั้งสองเป็นเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้วทั้งคู่ แต่ไฮไลท์อยู่ที่ก่อนจะเกิด a) I got home last night (ฉันมาถึงบ้านเมื่อคืน) มันมีเหตุการณ์ b) the thief had broken into my house (โจรงัดเข้ามาในบ้าน) ของฉันก่อน

อีกหนึ่งตัวอย่าง

She didn’t watch the film last night because the film had already started when she arrived. (เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้ดูหนังหรอก เพราะว่าพอเธอไปถึงหนังก็ฉายไปแล้ว)

เหมือนเดิมค่ะ เหตุการณ์ไหนคือเหตุการณ์ที่เกิดก่อนกันระหว่าง

  1. She didn’t watch the film last night หรือ      b) the film had already started

คำตอบก็คือ b) เกิดก่อน a) เพราะหนังเริ่มฉายไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นเลยทำให้เมื่อคืนเธอเลยอดดูหนังไปโดยปริยาย

นี่คือทั้งหมดของ Past Perfect Tense เห็นมั้ยล่ะคะ ว่าไม่ยากเลย ถ้าเข้าใจว่าควรใช้ในสถานการณ์แบบไหนการนำ tense นี้ไปใช้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลองสังเกตตอนฟังหรืออ่านหาประโยคเหล่านี้ แล้วฝึกกันเยอะๆนะคะ  ไม่นานต้องใช้คล่องแน่ๆ


So ใช้อย่างไร ?!? ฝรั่งสองคนอธิบายกระจ่าง


สนใน sponsor คลิปของอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

So ใช้อย่างไร ?!? ฝรั่งสองคนอธิบายกระจ่าง

ALREADY – Adverb of time | Use and meaning


“already” is an adverb of time. It has 2 uses and meaning.

Meaning 1: We use \”already\” to indicate that something has happened before the moment of speaking.
Meaning 2: We use \”already\” to express surprise that something has happened earlier or sooner than expected.

Position of “already” in a sentence:
If the sentence has a main verb, then we put \”already\” before the main verb.
If the sentence has an auxiliary or modal verb, then we put \”already\” in middle position. Middle position is after the auxiliary / modal verb and before the main verb.
If the sentence has the verb \”be\” as a main verb (a linking verb), then we put \”already\” after the verb to be.

\”already\” in end position:
We can place \”already\” at the end of a sentence for more emphasis or to show more surprise. This is more common in questions and in informal speech.
In the video I give lots of examples of sentences and questions with \”already\”. I also explain the difference between \”already\”, \”yet\” and \”ever\” so I advise you to watch the video.

Online English lessons \u0026 speaking practice: https://goo.gl/QZebRK
IELTS complete course and writing corrections: https://goo.gl/BXDYKJ
Other videos:
Meaning and use of YET Use and meaning: https://www.youtube.com/watch?v=pEfc2Rv8_m0
Meaning and use of STILL http://www.youtube.com/watch?v=U8ylM0OWYm4
Adverbs of frequency: https://www.youtube.com/watch?v=6Z5o43Qyqho\u0026list=PL6BDo90oiwpS4_AM1c0s0ozpROeE2A9ff\u0026index=34
Parts of speech: https://www.youtube.com/watch?v=FDbhU8Dhy_k\u0026index=38\u0026list=PL6BDo90oiwpS4_AM1c0s0ozpROeE2A9ff

Andrew,
Crown Academy of English
http://www.crownacademyenglish.com
https://twitter.com/Crown_English
http://www.youtube.com/user/CrownAcademyEnglish

Photo credits by FreeDigitalPhotos.net
)\”Schoolboy Showing Pointing Up\” by stockimages
)“Educator Sitting With A Student And Taking Her Through A Lesson” by stockimages
)“Refrigerator” by Ambro

ALREADY - Adverb of time | Use and meaning

Present perfect with just, yet and already.


Uploaded for educational purposes.

Present perfect with just, yet and already.

still, yet, already ใช้ยังไง ต่างกันอย่างไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE


still, yet, already ใช้ยังไง ต่างกันอย่างไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE
ในคลิปภาษาอังกฤษนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้ still, yet, already ว่ามันใช้แตกต่างกันอย่างไร ความหมายในแต่ละสถานการณ์ต่างกันอย่างไร และ ทำยังไงถึงจะใช้ได้ถูกต้อง เมื่อเราสนทนาหรือพยายามสื่อสาร และแต่งประโยคเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยคการใช้งานในสถานการณ์จริง
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

still, yet, already ใช้ยังไง ต่างกันอย่างไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉


จำไม่เคยได้ ❌ โครงสร้าง Present Perfect 🔥
ออกสอบบ่อยสุด!! ทำยังไงให้รอด⁉ คลิปนี้มีคำตอบ
.
แจกกลอน ไปท่องจำ แต่งอย่างดี!‼
จำโคตรง่าย ท่องครั้งเดียวก็จำได้ ใช้ได้จริงในห้องสอบ
ไม่อยากตกม้าตาย รีบกดแชร์ ⚠ ครูดิวเตือนแล้วนะคะ
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อ่อนแกรมม่า!🚫 ถ้ายังไม่มั่นใจว่า TOEIC จะรอด
ต้องเริ่มติวได้แล้ว!!
‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อยากได้คะแนนสูงๆ✨ให้ครูดิวติวให้ชัวร์ ตั้งแต่ตอนนี้!!
การันตีผล 750+ ไปสอบแล้วไม่ถึง ยินดีให้เรียนซ้ำฟรี!
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
📍สนใจสมัครคอร์ส 💬
📍สอบถามรายละเอียดคอร์สกับแอดมิน ได้ทาง
📍Inbox : m.me/TOEICKruDew
📍ทดลองเรียนฟรี : www.opendurian.com/toeic_krudew
📍Add Line : https://lin.ee/nrn6h06
📍IG\u0026TikTok : @krudewtoeic
‍‍ ‍‍ ‍‍
toeic krudewtoeic ติวtoeic grammar english

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ already การใช้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *