Skip to content
Home » [Update] หลักการใช้ HAVE ในภาษาอังกฤษ | have to ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

[Update] หลักการใช้ HAVE ในภาษาอังกฤษ | have to ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

have to ใช้ยังไง: คุณกำลังดูกระทู้

have (แฮฟวฺ) เป็นคำกริยาที่นำมาใช้เป็นกริยาช่วย (helping verb) หรือ เป็นกริยาหลัก (main verb) มีหลักการใช้ดังนี้
1. Forms
กริยา have มี 4 รูปคือ have, has, had, having แต่ละรูปถูกนำมาใช้ดังนี้
1.1 present forms (รูปปัจจุบันกาล)
ใช้ have (หรือตัวย่อ ’ve) กับประธานของประโยคที่เป็นพหูพจน์(plural) หรือสรรพนาม ได้แก่ I, we, you, they
ตัวอย่าง
I have two brothers and one sister.
ผมมีพี่ชาย 2 คน น้องสาว 1 คน
ใช้ has (หรือตัวย่อ ’s) กับประธานของประโยคที่เป็นเอกพจน์ (singular) หรือสรรพนาม ได้แก่ he, she, it
ตัวอย่าง
He has two sons.
เขามีบุตรชาย 2 คน
1.2 past form (รูปอดีตกาล)
มีเพียงรูปเดียวคือ had (ตัวย่อ ’d) ใช้ได้กับประธานและสรรพนามทุก ประเภท ไม่ว่าจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์
ตัวอย่าง
We had a car in the past, but now we haven’t.
ในอดีตเรามีรถยนต์คันหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้เราไม่มีรถเลย
1.3 participle forms (รูป -ing/verb3)
รูป participle คือ การลดภาคประธานของข้อความหลัง เพราะซ้ำกับที่ มีอยู่ก่อนแล้ว กรณีนี้ have จะมี 2 รูป คือ having และ had
ตัวอย่าง
I met a man having a Rolls Royce.
มาจาก     (1)  I met a man.
(2)  The man had a Rolls Royce.
(1) + (2)→I met man who had a Rolls Royce.
ลดรูป = I met a man having a Rolls Royce.
2. “have” as a main verb
กรณีที่ have ทำหน้าที่กริยาหลัก จะมีความหมายดังนี้
2.1 have = have got (มี, เป็น)
ตัวอย่าง
Somsak has a cold.
= Somsak has got a cold.
สมศักดิ์เป็นหวัด
I have an idea.
= I have got an idea.
ผมมีความคิดหนึ่ง
2.2 have = possess (เป็นเจ้าของ)
ตัวอย่าง
He has blue eyes.
เขามีดวงตาสีฟ้า
I have a big house.
ผมมีบ้านหลังใหญ่
2.3 have = take, receive, eat, take part in, etc. (เอามา, ได้รับ, กิน, มีส่วนร่วม, ฯลฯ)
ตัวอย่าง
I always have a bath at six in the morning.
(=I always take a bath at six in the morning.)
ผมอาบน้ำเวลาหกโมงเช้าเป็นประจำ
We usually have dinner together.
ปกติเรารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน
We had a good time at the party.
เราได้รับความสนุกจากการเข้าร่วมงานเลี้ยง
You need to have a rest for two days.
คุณจำเป็นต้องพักผ่อนสัก 2 วัน
He had an operation yesterday.
เขาได้รับการผ่าตัดเมื่อวานนี้
3. have + someone + verb1
กรณีที่ have หมายถึง การให้ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งให้ โดยที่ผู้นั้น จะได้รับสิ่งหนึ่งๆ เป็นผลตอบแทนจากการกระทำของตน เช่น เงิน
ตัวอย่าง
You should have the doctor check you heart.
คุณควรจะให้หมอตรวจหัวใจของคุณ
Mother had a man feed her dog while she was away.
แม่ให้ชายคนหนึ่งให้อาหารสุนัขของเธอ ขณะที่เธอไม่อยู่บ้าน
4. have + something + verb3
กรณีนี้ have หมายถึง การที่ให้สิ่งหนึ่งถูกกระทำด้วยผู้หนึ่งผู้ใด แสดง ว่าเป็น passive meaning (ความหมายเชิงถูกกระทำ)
ตัวอย่าง
I am having my bicycle repaired tomorrow.
(=I am having someone repair my bicycle tomorrow.)
พรุ่งนี้ ผมจะเอารถจักรยานไปซ่อม
I had my hair cut last week.
(=I had a barber cut my hair last week.)
ผมให้ช่างตัดผมของผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
5. other uses of “have”
have ใช้กับสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ คือ
5.1     meals เช่น
have breakfast    รับประทานอาหารเช้า
have lunch            รับประทานอาหารเที่ยง
have dinner            รับประทานอาหารเย็น
have a meal            รับประทานอาหาร
have something to eat    รับประทานอาหาร
5.2 a party เช่น
have a party        มีงานเลี้ยง
have a meeting    มีการประ,ชุม
have a competition    มีการแข่งขัน
have a game (of football/chess/cards) เล่นเกม (เช่น ฟุตบอล/หมากรุก/ไพ่)
5.3 a lesson เช่น
have an exam            มีการสอบ
have homework        มีการบ้าน
have an appointment    มีนัด
5.4 tea/coffee เช่น
have tea/coffee        ดื่มชา, ดื่มกาแฟ
have a drink            ดื่มเครื่องดื่ม
have a sandwich        รับประทานแซนวิช
have an ice-cream        รับประทานไอศกรีม
have some cheese        รับประทานเนยแข็ง
5.5 a shower เช่น
have a shower            อาบน้ำ
have a bath            อาบนํ้า
have a sauna            อบไอน้ำ
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 27,407 times, 2 visits today)

[NEW] have to และ must มีหลักการใช้อย่างไรและต่างกันหรือไม่ | have to ใช้ยังไง – NATAVIGUIDES

ในการบอกผู้ที่เรากำลังสนทนาด้วยให้ทราบว่า จำเป็นต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีวิธีในการบอกที่ใช้กันโดยทั่วไป 2 รูปแบบ คือ ใช้คำว่า have to หรือ must ซึ่งทั้งสองคำนี้ต่างก็มีความหมายแปลว่า “ต้อง” (ทำบางสิ่ง) ด้วยกันทั้งคู่

have to และ must

ตัวอย่างประโยค have to และ must

I have to wear glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ

I must wear glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ

I have to sleep at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00

I must sleep at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00

จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้ง have to และ must ต่างก็มีความหมายเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองคำมีวิธีการใช้แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้

have to และ must ใช้ต่างกันอย่างไร

must จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดเอง เป็นความเชื่อ

have to จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความจริง

ยกตัวอย่างเช่น

I must go on a diet, because I feel that I should. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะฉันรู้สึกว่าฉันควรทำ
I have to go on a diet, because the doctor said so. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะหมอบอกอย่างนั้น

จะเห็นได้ชัดว่า แม้ทั้งสองประโยคจะกล่าวถึงความจำเป็นต้องอดอาหารต่อไป แต่กรณีแรกเป็นความรู้สึก ความเชื่อ จากภายในใจ ของผู้พูดจึงใช้ must แต่กรณีที่สองเป็นความจริงที่หมอสั่งให้ทำ เป็นปัจจัยที่ไม่ได้มาจากความรู้สึกของผู้พูด จึงใช้ have to

มาดูตัวอย่างเพิ่มเติม

I must stop smoking. (I want to.)

I have to stop smoking. (Doctor’s orders.)

I have to stop smoking. (Doctor’s orders.)

ทั้งสองประโยคมีความหมายเช่นเดียวกัน คือ ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่ แต่กรณีที่ต้องการเลิกเองจะใช้ must , ส่วนกรณีที่หมอสั่งใช้ have to

It must be nice to live in Bangkok . มันต้องดีแน่ที่จะอยู่ในกรุงเทพ ฯ (เป็นความรู้สึก)

I have to work from 8.30 to 17.30 every day. ฉันต้องทำงาน 8.30 ถึง 17.30 ทุกวัน (เป็นข้อเท็จจริง)

 

ประโยคปฏิเสธ have to และ must

– have to เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า don’t have to

– must เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า mustn’t

ซึ่งก็มีความแตกต่างในการใช้งาน คือ

mustn’t จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะไม่ทำ เช่น

You must keep this a secret. You mustn’t tell anyone. แปลว่า คุณต้องเก็บความลับไว้ คุณต้องไม่บอกใคร (สำคัญมาก ห้ามบอกเด็ดขาด)

 

don’t have to จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด แต่ถ้าจะทำก็ได้ เช่น

You don’t have to tell Tom what happened.  I can tell him myself. แปลว่า คุณต้องไม่บอกทอมว่าเกิดอะไรขึ้น. ฉันสามารถบอกเขาได้เอง

 

ทั้งหมดนี้ก็คือตัวอย่างของการใช้คำว่า have to และ must แล้วพบกันใหม่ในเคล็ดลับภาษาอังกฤษดี ๆ ตอนต่อไป


Get, Got ใช้อย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Get, Got ใช้อย่างไร

Has Have Had ใช้ยังไง | Tina Academy Ep.22


Has Have Had ใช้ยังไง บางทีมันก็ไม่ได้แปลว่ามีนะจ้ะ
Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchanel
Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
กล้องที่ใช้: https://goo.gl/xxAi9H
ไฟที่ใช้: https://goo.gl/SFguUQ

Has Have Had ใช้ยังไง | Tina Academy Ep.22

Get / Got ใช้ยังไง? | Tina Academy Ep.192


♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

Get / Got ใช้ยังไง? | Tina Academy Ep.192

Need, Want, Must, Have To, กับ Gotta ใช้ต่างกันอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

Need, Want, Must, Have To, กับ Gotta ใช้ต่างกันอย่างไร

สรุปเคลียร์! must, must be, must have ใช้อย่างไร


แบบฝึกหัดพร้อมเฉลยสำหรับสมาชิก แค่ Log in
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=451794832085344\u0026set=pcb.1217513198438562\u0026type=3\u0026theater\u0026ifg=1
รายละเอียดคอร์สOnline 1990/ตลอดชีพ ไลน์@englishfitandfirm
IG: som_o_suwan
IG: eng_som_o
FB, YouTube: English Fit and Firm

สรุปเคลียร์! must, must be, must have ใช้อย่างไร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ have to ใช้ยังไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *