Skip to content
Home » [Update] หลักการใช้คอมม่า (Comma) ในภาษาอังกฤษ | การใช้ ฯ เว้นวรรค – NATAVIGUIDES

[Update] หลักการใช้คอมม่า (Comma) ในภาษาอังกฤษ | การใช้ ฯ เว้นวรรค – NATAVIGUIDES

การใช้ ฯ เว้นวรรค: คุณกำลังดูกระทู้

คอมม่า (,) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ แต่ถึงแม้จะถูกใช้บ่อย หลายๆคนก็ยังคงสับสนอยู่ดี ว่าเราควรใช้คอมม่าตอนไหนและต้องใช้อย่างไรบ้าง

สำหรับคนที่สงสัย ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหาการใช้คอมม่าในภาษาอังกฤษ มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันได้อย่างง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

คอมม่าคืออะไร

คอมม่า (comma) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ ทำหน้าที่แยกคำ วลี หรือประโยค เพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่านจับใจความได้ง่ายและถูกต้องมากขึ้น

ถ้าเปรียบเทียบคอมม่ากับเครื่องหมายจุด (.) ที่ใช้ปิดท้ายประโยค หรือที่เรียกว่า period เครื่องหมายทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นตัวบอกการเว้นจังหวะในการอ่านและพูดเหมือนกัน แต่เครื่องหมายคอมม่าจะเป็นตัวบอกจังหวะการเว้นที่สั้นกว่า

หลักการใช้คอมม่า

ใครที่มีข้อสงสัยว่าเราต้องใช้คอมม่าในกรณีไหนและต้องใช้ยังไงบ้าง ก็ไปดูหลักการใช้คอมม่าทั้ง 11 ข้อกันเลย

1. ใช้คอมม่าหน้าคำเชื่อมที่เชื่อม independent clause

Independent clause (ประโยคใจความสมบูรณ์) คือประโยคที่มีทั้งประธานและคำกริยา ตัวประโยคจะมีใจความสมบูรณ์ในตัวมันเอง เช่น

I am a student. (ฉันเป็นนักเรียน) – ถือเป็น independent clause เพราะมีทั้งประธานและคำกริยา
Feel good (รู้สึกดี) – ไม่ใช่ independent clause เพราะไม่มีประธาน
Big black cat (แมวสีดำตัวใหญ่) – ไม่ใช่ independent clause เพราะไม่มีคำกริยา

ส่วนคำเชื่อมในที่นี้จะต้องเป็น coordinating conjunction ซึ่งก็คือคำเชื่อมที่ให้น้ำหนักกับ 2 สิ่งที่ถูกเชื่อมเท่าๆกัน โดยอาจใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคก็ได้ coordinating conjunction มีทั้งหมด 7 ตัวคือ for, and, nor, but, or, yet, so (เมื่อนำอักษรแรกมาต่อกันจะได้เป็น FANBOYS ใช้ช่วยให้ท่องจำได้ง่ายขึ้น)

หากเราเชื่อม independent clause 2 ประโยคด้วย coordinating conjunction เราจะต้องใช้คอมม่าหน้า coordinating conjunction

โครงสร้างการใช้

independent clause + , + coordinating conjunction + independent clause

ตัวอย่างประโยค

He didn’t speak to anyone, and nobody spoke to him.
เขาไม่ได้พูดกับใคร และก็ไม่มีใครพูดกับเขา

I wanted to stay home, but my wife wanted to go shopping.
ฉันอยากอยู่บ้าน แต่ภรรยาของฉันอยากไปช้อปปิ้ง

เราจะไม่ใช้คอมม่า ถ้าข้างหน้าหรือข้างหลัง coordinating conjunction ไม่ใช่ independent clause

She brushed her teeth and washed her face.
เธอแปรงฟันและล้างหน้า
(washed her face ไม่ใช่ independent clause)

I am not a writer but an editor.
ฉันไม่ใช่นักเขียน แต่เป็นบรรณาธิการ
(an editor ไม่ใช่ independent clause)

2. ใช้คอมม่าเมื่อขึ้นต้นประโยคด้วย dependent clause

Dependent clause คือประโยคที่มีใจความไม่สมบูรณ์ เวลาใช้จะต้องใช้ร่วมกับประโยคอื่น ในที่นี้เราจะแบ่งออกเป็น 3 กรณี

1. Participial phrase

เมื่อประโยคขึ้นต้นด้วยวลีจำพวก participial phrase ซึ่งก็คือวลีที่ขึ้นต้นด้วย v. + ing หรือ v. ช่อง 3 เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นหลังวลีนั้น

โครงสร้างการใช้

participial phrase + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Being the only son in the family, his family have high hopes for him.
ด้วยการที่เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว ครอบครัวของเขาจึงตั้งความหวังกับเขาไว้สูง

Bitten by my own dog, I was very disappointed.
การโดนกัดโดยหมาของตัวเองทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมาก

2. Adverbial phrase

แต่ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย adverbial phrase ซึ่งก็คือวลีที่ทำหน้าที่เป็น adverb เราอาจใช้คอมม่าหรือไม่ใช้ก็ได้ (ถ้า adverbial phrase ยาว หรือเราต้องการเน้น adverbial phrase นั้น เราจะนิยมใช้คอมม่า)

ตัวอย่าง adverbial phrase เช่น
At 6 o’clock
After the show
In the middle of Bangkok

โครงสร้างการใช้

adverbial phrase + (,) + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

In 2020 there is a pandemic affecting the world.
ในปี 2020 มีโรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก

When I was six, I lived in Chiang Mai with my mom.
ตอนฉันอายุหกขวบ ฉันอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่กับแม่ของฉัน

3. Sentence adverb

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย sentence adverb ซึ่งก็คือคำจำพวก adverb ที่ทำหน้าที่ขยายทั้งประโยค เราจะใช้คอมม่าคั่นหลัง sentence adverb นั้น

โครงสร้างการใช้

sentence adverb + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Honestly, I am not angry.
ตรงๆเลยนะ ฉันไม่ได้โกรธ

Clearly, this plan isn’t working.
เห็นได้ชัดว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้ผล

3. ใช้คอมม่าคั่นวลีหรือคำกลางประโยคที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

เราจะใช้คอมม่าคั่นวลีหรือคำที่อยู่กลางประโยค ถ้าวลีหรือคำนั้นทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ไม่ได้จำเป็นสำหรับประโยค (แม้ตัดออกไป ใจความหลักของประโยคก็ยังเหมือนเดิม)

โครงสร้างการใช้

ประโยคส่วนที่ 1 + , + วลี/คำที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม + , + ประโยคส่วนที่ 2

ตัวอย่างประโยค

Tim, unlike Joe, is very polite.
ทิมเป็นคนสุภาพมาก ไม่เหมือนกับโจ

King Crab restaurant, which Anne recommended, is fantastic.
ร้านอาหารคิงแครบที่แอนแนะนำนั้นดีมาก

แต่ถ้าวลีหรือคำนั้นจำเป็นสำหรับประโยค ถ้าตัดออกแล้วใจความเปลี่ยน เราก็จะไม่ใช้คอมม่า

People who exercise regularly tend to be more happy.
คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอมักจะมีความสุขมากกว่า
(ถ้าตัด who exercise regularly ทิ้ง ความหมายจะเปลี่ยนเป็น “คนจะมีความสุขมากกว่า” ซึ่งมีใจความผิดไปจากเดิม)

The restaurant that Anne recommended is fantastic.
ร้านอาหารที่แอนแนะนำนั้นดีมาก
(ถ้าตัด that Anne recommended ทิ้ง ความหมายจะเปลี่ยนเป็น “ร้านอาหารดีมาก” ซึ่งมีใจความผิดไปจากเดิม คือเราจะไม่รู้ว่าหมายถึงร้านไหน)

วลีที่ขึ้นต้นด้วย that มักจะจำเป็นสำหรับประโยค เรามักจะไม่ใช้คอมม่าครอบส่วนนั้น

4. ใช้คอมม่าแยกรายการคำตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป

ถ้าเรามีรายการคำตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป เราจะต้องคั่นแต่ละรายการด้วยคอมม่า ยกเว้นรายการสุดท้าย เราจะคั่นด้วยคอมม่าหรือไม่ก็ได้

โครงสร้างการใช้

รายการหนึ่ง, รายการสอง(,) and รายการสุดท้าย

ตัวอย่างประโยค

He is tall, dark, and handsome.
หรือ He is tall, dark and handsome.
เขาทั้งสูง เข้ม และหล่อ

She needs salt, pepper, and other seasonings at the grocery store.
หรือ She needs salt, pepper and other seasonings at the grocery store.
เธอต้องการเกลือ พริกไทย และเครื่องปรุงอย่างอื่นที่ร้านขายของ

5. ใช้คอมม่าคั่นระหว่าง coordinate adjectives

Coordinate adjectives คือคำคุณศัพท์ที่ขยายคำนามคำเดียวกันและมีความสำคัญเท่าๆกัน สามารถสลับที่กันได้ ตัวอย่างเช่น

เราสามารถใช้ได้ทั้ง long, narrow path
และ narrow, long path
คำว่า long และ narrow ในที่นี้จะถือเป็น coordinate adjectives

เราสามารถใช้ big black bear
แต่ไม่สามารถใช้ black big bear
คำว่า big และ black ไม่ถือเป็น coordinate adjectives (การใช้ adjective ขนาดจะต้องมาก่อนสี)

โครงสร้างการใช้

coordinate adjective 1 + , + coordinate adjective 2 + คำนาม

ตัวอย่างประโยค

The happy, lively cat is playing with the ball.
แมวที่มีความสุขสดใสกำลังเล่นกับลูกบอล

My roommate is a cheerful, kind girl.
รูมเมทของฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงและใจดี

ทั้งนี้ เราสามารถใช้ and เชื่อมระหว่าง coordinate adjectives แทนคอมม่าก็ได้เช่นกัน อย่างเช่น My roommate is a cheerful and kind girl.

6. ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำพูดกับวลีที่กำกับ

ในภาษาอังกฤษ เวลาเราเขียนประโยคที่เป็นคำพูด เราจะใช้เครื่องหมาย “-” ครอบประโยคคำพูดนั้น อย่างเช่น Anne said, “I feel sick.” ซึ่งแปลว่า แอนพูดว่า “ฉันรู้สึกป่วย”

สังเกตว่า เราจะใช้คอมม่าคั่นระหว่างวลีที่เข้ามากำกับ ซึ่งก็คือ Anne said และประโยคที่เป็นคำพูด ซึ่งก็คือ “I feel sick.”

ทั้งนี้ วลีที่กำกับนั้นอาจจะอยู่หน้า อยู่กึ่งกลาง หรืออยู่หลังประโยคที่เป็นคำพูดก็ได้

โครงสร้างการใช้

  • วลีกำกับ, “ประโยคคำพูด”
  • “ประโยคคำพูด,” วลีกำกับ, “ประโยคคำพูด”
  • “ประโยคคำพูด,” วลีกำกับ

ตัวอย่างประโยค

He answered, “She is not here.”
เขาตอบ “เธอไม่ได้อยู่ที่นี่”

“I think,” she said, “Joe can help.”
“ฉันคิดว่า” เธอพูด “โจสามารถช่วยได้”

“It is raining,” Tim said.
“ฝนกำลังตก” ทิมพูด

ในกรณีที่วลีกำกับอยู่ข้างหลังประโยคคำพูด ถ้าประโยคคำพูดลงท้ายด้วยเครื่องหมายตกใจ (!) หรือเครื่องหมายคำถาม (?) เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

“Stop playing video game!” mom yelled.
“หยุดเล่นเกมได้แล้ว” แม่ตวาด

“Are you alright?” Ben asked.
“คุณโอเคมั้ย” เบ็นถาม

บางคนอาจสงสัยว่า เราต้องใส่คอมม่าไว้ในหรือนอกเครื่องหมาย “-” ทำไมบางทีเห็นแต่ละที่ใช้ไม่เหมือนกัน

คำตอบก็คือถ้าเป็น American English จะนิยมเอาไว้ข้างใน เช่น “It is raining,” Tim said. แต่ถ้าเป็น British English จะนิยมเอาไว้ข้างนอก เช่น “It is raining”, Tim said.

7. ใช้คอมม่าในการแยกวันที่และสถานที่

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างวันและปีเมื่อเราเขียนวันที่ในรูปแบบ เดือน-วันที่-ปี แต่ถ้าเราเขียนในรูปแบบ วันที่-เดือน-ปี เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

โครงสร้างการใช้

เดือน วันที่, ปี

ตัวอย่างประโยค

She was born on December 10, 1995.
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1995

She was born on 10 December 1995.
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1995

และใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำบอกสถานที่ที่ต่างกัน เช่น เมือง จังหวัด รัฐ ประเทศ

โครงสร้างการใช้

  • ชื่อตำบล, ชื่อเขต, ชื่อจังหวัด, ชื่อประเทศ
  • ชื่อเมือง, ชื่อรัฐ, ชื่อประเทศ

ตัวอย่างประโยค

I live in Bangkok, Thailand.
ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย

He came from Chicago, Illinois.
เขามาจากเมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์

8. ใช้คอมม่าหน้า question tag

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างประโยคหลักกับ question tag

โครงสร้างการใช้

ประโยคหลัก + , + question tag

ตัวอย่างประโยค

These flowers are beautiful, aren’t they?
ดอกไม้เหล่านี้สวยมาก ว่ามั้ย

You didn’t forget the key, did you?
คุณไม่ได้ลืมกุญแจใช่มั้ย

9. ใช้คอมม่าเมื่อเรียกบุคคลโดยตรง

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำเรียกบุคคลอื่นกับส่วนอื่นของประโยค เมื่อเราเรียกบุคคลนั้นโดยตรง

โครงสร้างการใช้

  • ประโยคหลัก + , + คำเรียกบุคคล
  • คำเรียกบุคคล + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Dad, where are you?
พ่ออยู่ไหน

See you later, John.
ไว้เจอกันใหม่นะจอห์น

10. ใช้คอมม่าหลังคำขึ้นต้นประโยค

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำขึ้นต้นประโยคกับประโยคหลัก อย่างเช่น คำทักทาย yes/no

โครงสร้างการใช้

  • คำทักทาย + , + ประโยคหลัก
  • yes/no + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Hello, how is it going?
สวัสดี เป็นยังไงบ้าง

Yes, I live by myself.
ใช่ ฉันอยู่คนเดียว

11. ใช้คอมม่าเพื่อป้องกันการสับสน

เราจะใช้คอมม่าในประโยคที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่าน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายได้ถูกต้องมากขึ้น

ตัวอย่างประโยค

I waved at my friend who entered the canteen, and smiled.
ฉันโบกมือให้เพื่อนที่เข้ามาในโรงอาหาร และยิ้มให้เค้า
(คอมม่าทำให้เรารู้ว่าฉันเป็นคนยิ้ม ไม่ใช่เพื่อนยิ้ม)

เป็นยังไงบ้างครับกับหลักการใช้เครื่องหมายคอมม่า (comma) ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] Grammar: การใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ | การใช้ ฯ เว้นวรรค – NATAVIGUIDES

เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuations) เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่าเรื่องแกรมม่า คำศัพท์ สำหรับการเขียนภาษาอังกฤษ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษพร้อมหน้าที่การใช้งานกันค่ะ

.

Full Stop (ภาษาอังกฤษแบบบริติช ), Period (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) = เครื่องหมายมหัพภาค
-ใช้เมื่อจบประโยคบอกเล่าหรือคำสั่ง เช่น I like football.
-ใช้เขียนไว้หลังอักษรย่อหรือคำย่อ เช่น Dr. = Doctor, U.S.A. = United States of America

,

Comma = เครื่องหมายจุลภาค หรือเครื่องหมายลูกน้ำ
-ใช้แยกวลีหรือประโยค เช่น As you sow, so you reap.
-ใช้คั่นรายการ รายชื่อต่างๆ ในประโยค เช่น I bought milk, cheese, egg and bread.

;

Semi-colon = เครื่องหมายอัฒภาค
-ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่ไม่มีคำเชื่อม และทั้งสองประโยคมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน เช่น Benz drives a Lumborghini; Pong drives a Jaguar.

:

Colon = เครื่องหมายมหัพภาคคู่ หรือเครื่องหมายทวิภาค
-ใช้ก่อนประโยคอธิบาย เช่น We have two choices: work hard or fail.
-ใช้แจ้งรายการหรือรายละเอียด มักใช้ตามหลังคำ the following หรือ as follows เช่น I want the following items: butter, sugar, and flour.

?  

Question Mark = เครื่องหมายปรัศนี หรือ เครื่องหมายคำถาม
-ใช้ปิดท้ายประโยคคำถาม เช่น Where are you going?

!

Exclamation Mark = เครื่องหมายอัศเจรีย์ หรือ เครื่องหมายตกใจ
-ใช้ไว้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน เช่น It is cold!

Apostrophe = เครื่องหมายวรรคตอน

-ใช้สำหรับคำย่อ เช่น dont (do not), cant (can not), its (it is), Youre (you are) ready.
-ใช้แสดงความเป็นเจ้าของคำนามทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เช่น This is Janes car.

( )

Round Brackets = เครื่องหมายนขลิขิต หรือ เครื่องหมายวงเล็บ
-ใช้เพิ่มข้อมูลเพิ่มในประโยค เช่น Mount Fuji (富士山) is the highest mountain in Japan.

[ ]

Square Brackets (ภาษาอังกฤษแบบบริติช), Brackets (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) = เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม
-ใช้เพิ่มคำอธิบาย, ข้อมูล หรือข้อความที่ยกมาใหม่ มักใช้คร่อมคำว่า [sic] สื่อว่าคำหรือวลีที่ยกมานั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง

“  ”

Quotation Marks = เครื่องหมายอัญประกาศ หรือ เครื่องหมายคำพูด
-ใช้เขียนคร่อมข้อความที่เป็นคำพูด เช่น Trump said, I don’t like losers.

Ellipsis Marks หรือ Three dots = เครื่องหมายจุดไข่ปลา
-ใช้เพื่อแสดงว่ากลุ่มคำในประโยคที่เหลือมีการละไว้ เช่น You went to the cafe. And? , 1, 2, 3, ,100

/

Slash = เครื่องหมายทับ
-ใช้แยกคำ วลี หรือตัวเลข เช่น and/or , 2017/06/09

_

เรียกว่า เครื่องหมาย Underscore
-ใช้เขียนเส้นใต้ เช่น kgr_[email protected]

 

Hyphen = เครื่องหมายยัติภังค์
-ใช้เชื่อมคำสองคำ หรือหลายคำเป็นคำเดียวกัน เช่น exboyfriend, The fifteenyear-old boy is full-time student.

 __

เรียกว่า เครื่องหมาย Dash
-ใช้แยกส่วนของประโยค เช่น You ain’t telling me right your folks couldn’t do without you.
                                                                                (TO KILL A MOCKINGBIRD)

____

Underline = เครื่องหมายสัญประกาศ หรือเครื่องหมายขีดเส้นใต้
-ใช้ขีดเส้นใต้คำหรือข้อความเพื่อเน้นความสำคัญ เช่น Everyone knows that Bangkok is the capital of Thailand.

 

ภาพปก : Shutterstock


[260] เทพยุทธ์พลิกสวรรค์ (Peerless Martial God) ตอนที่ 260


นิยายเสียง เรื่อง เทพยุทธ์พลิกสวรรค์ (Peerless Martial God)

อย่าได้ตัดสินผู้อื่นด้วยความโง่เขลาของตน
ผู้ใดที่จะทำร้ายผู้อื่น มันจะต้องตาย
ผู้ใดที่เคารพข้า มันผู้นั้นก็จะได้รับความเคารพและความเมตตาจากข้า
ผู้ใดที่สมคบคิดวางแผนทำร้ายข้า มันผู้นั้นจะต้องตาย!
==============================
หลินเฟิงพยายามที่จะเป็นคนดีที่ขยันและขยันขันแข็ง เขาเรียนหนักมาก และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ครอบครัวภูมิใจและไม่เดือดร้อน
แต่เมื่อเขาเห็นผู้หญิงถูกเอาเปรียบ เขาจึงต้องเข้าไปแทรกแซง เขาถูกหลอก ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี และใส่ร้ายป้ายสีว่าเขาเคยก่ออาชญากรรมมาก่อน
ทั้งหมดพังทลายลง หากชีวิตของเขาจบลง เขาจะพาคนที่ทำลายชีวิตของเขาไปกับเขา…
ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขายังไม่ตายแต่มีชีวิตอยู่ในร่างของหลินเฟิงในอีกโลกหนึ่ง หลินเฟิงคนนี้ถูกฆ่าตายในฐานะขยะของการฝึกฝน
โลกนี้ที่ผู้แข็งแกร่งไม่สนใจชีวิตมนุษย์และจะฆ่าอย่างอิสระหากพวกเขามีความแข็งแกร่ง ถูกเรียกว่า ‘ขยะ’ และโยนทิ้งไป
ด้วยความแค้นในใจ เขาจะก้าวขึ้นสู่ที่สูงใหม่ ขัดต่อเจตจำนงของสวรรค์และโลก
==============================
+++ระดับพลัง+++(เพื่อให้เป็นในทางเดียวกัน แอดจะใช้คำพูดเกี่ยวกับระดับพลังตามนี้นะครับ)
พลังปราณ(Qi Layer19)
พลังปราณระดับจิตวิญญาณ(Ling Qi Layer 19)
พลังระดับลึกลับ(Xuan Qi Layer 19)
พลังระดับปฐพี(Tian Qi Layer 19)
พลังระดับศักดิ์สิทธิ์(Zun Qi Layer19)

พลังระดับจักรพรรดิ
พลังระดับจักรพรรดิระดับกลาง
พลังระดับจักรพรรดิระดับสูง
พลังระดับจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่
พลังระดับพระเจ้า: ชั้นที่ 1 (เทียบเท่าจักรพรรดิสวรรค์)
พลังระดับพระเจ้า: ชั้นที่ 1 (เทียบเท่าจักรพรรดินักบุญ)
พลังระดับนักบุญ
พลังระดับพระเจ้า: ชั้นที่ 2 (เทียบเท่านักบุญระดับสูง)
พลังระดับนักบุญไร้เทียมทาน
พลังระดับพระเจ้า
พลังระดับพระเจ้าสมบูรณ์
+++++++++++++++++
เป็นนิยายจีนแนวแฟนตาซี ใช้เสียงสังเคราะห์ในการอ่าน
อาจมีการออกเสียง เว้นวรรค ไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
โปรดกด Like / Share /Subscripe และการไม่กดข้ามข้ามโฆษณา เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนทางช่องได้ครับ
📌หรือสามารถสนับสนุนค่าไฟ ค่ากาแฟแอดได้ ด้วยการโอนตามเลขบัญชี หรือ Truemony wallet ตามช่องทางด้านล่างได้ครับ😅🙏
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
6931041129
ชื่อบัญชี อนุกูล
Truemony วอลเล็ท ไอดี
jomyut2564
🙏ขอบคุณทุกการสนับสนุนครับ❤️

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

[260] เทพยุทธ์พลิกสวรรค์ (Peerless Martial God) ตอนที่ 260

「EP.6」เว้นวรรคอย่างไร? ∣ สอบภาษาไทยได้ชัวร์ ∣ ติวสะเตอร์


เคล็ดลับ! การเว้นวรรค
เป็นหนึ่งหัวข้อที่สำคัญของวิชาหลักภาษาไทยและการใช้ภาษา
ที่มีความจำเป็นต้องรู้ในการสอบข้าราชการทุกตำแหน่ง
✰สอบนักเรียนทหารทุกเหล่าทัพ
(นักเรียนเตรียมทหาร,นักเรียนนายร้อย,นักเรียนนายเรือ,
นักเรียนนายเรืออากาศ,นักเรียนพยาบาล,นักเรียนนายสิบทหารบก,
นักเรียนนายสิบแผนที่,นักเรียนจ่าทหารเรือ,
นักเรียนจ่าอากาศ,นักเรียนช่างฝีมือทหาร)
✰สอบข้าราชการทหารทุกเหล่าทัพ
(ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ)
✰ข้าราชการตำรวจ (นาสิบตำรวจ, นายร้อยตำรวจ,นักเรียนนายร้อยตำรวจ)
✰ข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ตลอดจนรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งบริษัทห้างร้านเอกชนบางที่
ได้นำหลักภาษาไทยและการใช้งานมาใช้ในการสอบประเมินความรู้ความสามารถ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅
🖇ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมครับ 😍
อย่าลืมกดติดตามไว้นะครับ จะได้ไม่พลาดการรับเนื้อหา
ในการสอบที่จะลงให้เรื่อยๆนะครับ หากผิดพลาดประการใด
ต้องขอโทษขออภัยด้วยนะครับ
ขอบพระคุณครับ 🙏
┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅
📌ติดตามติวสะเตอร์ได้ที่
Youtube : https://bit.ly/2KZjrHi
Facebook : https://bit.ly/3deEuS4
Instagram : https://bit.ly/35ufuDL
Twitter : https://bit.ly/2WsLnZv
Blockdit : https://bit.ly/35siXCI
┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅┅
ติวสะเตอร์ การเว้นวรรค

「EP.6」เว้นวรรคอย่างไร? ∣ สอบภาษาไทยได้ชัวร์ ∣ ติวสะเตอร์

การ์ตูนเรื่อง คนละไม้คนละมือ – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.5


สื่อการเรียนการสอน วิชา ภาษาไทย ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง การ์ตูนเรื่อง คนละไม้คนละมือ
สื่อการสอน ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5
ประกอบไปด้วยทั้งหมด 5 กลุ่มสาระวิชา
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์
4. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
5. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์
ท่านสามารถติดตาม สื่อการเรียนการสอน
\”ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน\” ได้อีกหลายช่องทาง
webpage : http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
twitter : https://goo.gl/yHzunt
ฝากติดตามเพจ channel website ด้วยครับเพื่อพบกับ
สื่อการเรียนการสอน ที่เราอัพเดทให้ใหม่ๆ ตลอดฟรีๆ
สื่อการสอนนี้นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เรียนภาษาไทย สื่อการสอนภาษาไทย ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
เรียนภาษาไทยด้วยตนเอง อ่านออกเขียนได้ คำศัพท์ภาษาไทย สอนภาษาไทย สื่อการสอนป5

การ์ตูนเรื่อง คนละไม้คนละมือ - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.5

การเว้นวรรค ป.4


การเว้นวรรค ป.4

วิถีการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของฉัน – ปัญหาที่บ้านและโรงเรียน โดย ลาลาไลฟ์


วิดีโอนี้จัดทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เราไม่รับประกันเกี่ยวกับความสมบูรณ์,ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือต่างๆ ทุกการกระทำใด ๆ ที่คุณทำเกี่ยวกับข้อมูลในวิดีโอนี้ถือเป็นความเสี่ยงของคุณเองและเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการสูญเสียใด ๆ ทุกอย่างถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ชมในการใช้วิจารณญาณ,ความเอาใจใส่และความระมัดระวังหากคุณต้องการลอกเลียนแบบ
วิดีโอต่อไปนี้แสดงขึ้นโดยนักแสดงภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมเป็นอย่างดี โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมและโปรดระมัดระวังหากคุณต้องการลอกเลียนแบบ
ชื่อผลิตภัณฑ์และบริษัททั้งหมดที่แสดงในวิดีโอ เป็นเครื่องหมายการค้า™ หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน® ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง การนำมาใช้ไม่ได้บ่งบอกถึงความเกี่ยวข้องหรือได้รับการรับรองแต่อย่างใด

บางครั้งผู้คนก็ไม่เข้าใจงานอดิเรกของคุณ แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองก็สามารถเป็นฮีโร่ในสายตาคนอื่นได้!
แชร์และกดติดตามถ้าคุณชอบวิดีโอนี้: https://goo.su/1WTn
กดกระดิ่งแจ้งเตือนด้วยล่ะ 😉🔔🔔🔔
TIMESTAMPS:
00:00 อ่างน้ำสีเขียว
00:30 ทำอาหารกับแม่
00:54 ทำเพื่อนเจ็บ
01:09 เพลงสไลม์
01:46 คาบเรียนเคมี
02:20 ไอวี่เศร้า
03:03 แกล้งด้วยโคล่า
03:43 ไอวี่คือที่สุด
04:31 พีทมาเยี่ยม
05:00 ซื้อของ
05:47 แม่สั่งให้ทำความสะอาด
07:47 แกล้งด้วยสี
08:30 อย่ามาแกล้งเพื่อนสนิทฉัน!
09:14 ซูเปอร์เกิร์ล
__________________________________________________________________

ดนตรีโดย Epidemic Sound: https://www.epidemicsound.com/

วิถีการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของฉัน - ปัญหาที่บ้านและโรงเรียน โดย ลาลาไลฟ์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การใช้ ฯ เว้นวรรค

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *