Skip to content
Home » [Update] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | ไม่มี อะไร แน่นอน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | ไม่มี อะไร แน่นอน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ไม่มี อะไร แน่นอน ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Idioms หมายถึง สำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีคำศัพท์ หรือประโยค ที่มีความหมายไม่ตรงตัว พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เปรียบเหมือนสำนวนไทย หรือคำสุภาษิต ในบ้านเรานั่นเองค่ะ อาทิเช่น ไก่ได้พลอย ก็ไม่ได้หมายถึงไก่ได้พลอยจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ คนที่ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ในภาษาอังกฤษเองก็เช่นกัน เขาจะมีสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบซึ่งเรียกว่า idiom นั่นเองค่ะ

Table of Contents

สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms)

วันนี้เรามีสำนวน idiom พร้อมภาพประกอบเป็นการ์ตูนน่ารักๆ มาฝากเพื่อนๆ อ่านสนุกๆ ไปด้วยกันนะคะ

head in the clouds

1. head in the clouds

หมายถึง เพ้อฝัน,ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง, อยู่ในโลกแห่งความฝัน (ตื่นค่ะซิสสสส)

heart in your mouth

2. heart in your mouth

หมายถึง  อาการประหม่า ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก (ประมาณว่าตื่นเต้นตอนพูดบนเวที หรือตอนออกไปพูดหน้าห้องเรียน)

hold your horses

3. hold your horses

ไม่ได้หมายถึง จับม้าเอาไว้นะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษนี้ หมายถึงว่า  เดี๋ยวก่อน แปบนึงก่อน (ประมาณว่า เดี๋ยวแปบนึง ขอทำสิ่งนี้ก่อนนะ)
เพราะม้าคือตัวแทนของความเร็วค่ะ เค้าเลยเปรียบเปรยว่า จับม้าของคุณไว้ก่อน

kick the bucket

4. kick the bucket

แปลตรงๆ คือ เตะถัง แต่เมื่อกลายเป็นสำนวน Kick the bucket แปลว่า ตาย

**สำนวนนี้มันมาจากในอดีตที่มีการลงโทษด้วยการแขวนคอ ซึ่งผู้ที่จะถูกแขวนคอ มักจะต้องยืนบนถังใบเล็กที่วางคว่ำอยู่ ทันทีที่เท้าเตะถังออก นั่นก็หมายถึง ผู้ถูกลงโทษก็จะถูกแขวนคอค่ะ

dead as a doornail

5. dead as a doornail

หมายถึง ลาโลกไปแล้วไม่ต้องสงสัย (ถ้าจะบอกว่าตายแหงแก๋ ฝรั่งเขาเปรียบไว้กับคำว่า ตะปูที่ตอกตรึงประตู ที่เรียกว่า door nail )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

6. Bob’s your uncle.

หมายถึง ง่ายๆ แค่นั้นเอง, เท่านั้นแหละ, เรียบร้อย (สำนวนนี้จะไว้ใช้ ตอนนี้เราต้องการบอกว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นมันง่ายมากๆ ทำได้แน่นอน ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว)

blue in the face

7.  blue in the face

ไม่ได้หมายถึงว่าหน้าสีนำ้เงินตามภาพนะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษ blue in the face จะหมายถึง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว (เหมือนเวลาที่พูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หรือเจอสถานการณ์ที่พูด อธิบายอะไรไป แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ฟัง หรืออาจจะฟังแต่ไม่เกิดปฏิกิริยาตอบกลับ จนทำให้เราเพลียที่จะพูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

8. a storm in a teacup

หมายถึง เรื่องขี้ปะติ๋ว, เรื่องเล็กน้อย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (คนที่ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้บานปลาย)
(สำนวนนี้ใช้กันในหมู่คนอังกฤษ คนออสเตรเลีย)

"as cool as a cucumber"

9.”as cool as a cucumber”

หมายถึง คนที่ใจเย็นมากๆ (ยิ่งเอาไปแช่เย็นแล้วล่ะก็… อูยยย เย็นมากฝุดๆ ฮ่าๆ)

a piece of cake

10. a piece of cake

หมายความว่า เรื่องหมูๆ ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

ˇ﹏ˇ ˇ△ˇ ˇ▽ˇ ˙▂˙ ˙0˙ ˙︿˙ ˙ω˙ ˙﹏˙ ˙△˙

สำนวนภาษาอังกฤษอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีสำนวนภาษาอังกฤษมาให้เพื่อนๆ อีกมากมายเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีภาพประกอบแล้วนะคะ ไปอ่านแล้วจำไว้ใช้กันได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เลย

11. A great deal – จำนวนมาก มากมาย

12. After all – อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

13. After one’s own heart – ได้ดังใจ สมใจคิด ถูกใจจริงๆ

14. Aim at – เล็ง(ปืน)ไปที่ มุ่งหมายเพื่อ มุ่งไปยัง มุ่งมั่นเพื่อ ตั้งเป้า เล็ง เพ่งมอง

15. All over the place – ทั่วทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง กระจัดกระจาย เกลื่อน

16. Around the corner – อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว

17. As a matter of fact – อันที่จริง ตามที่จริง จริงๆ แล้ว

18. As far as I am concerned – ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ

19. Ask after –  ถามถึง ถามสารทุกข์สุกดิบ ไปเยี่ยมเยียนถามอาการ ทักทายปราศรัย

20. A dead end – หมดหวัง, ภาวะที่ไร้ความหวัง

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

21. Ask for trouble – หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แส่หาเรื่อง

22. Back and forth – ไปๆ มาๆ เดินกลับไปกลับมา

23. Be concerned about – เป็นห่วง กังวลเกี่ยวกับ

24. Be fond of – ชอบ ชื่นชอบ โปรดปราน

25. Be in charge of – ดูแล รับผิดชอบ

26. Be in the same boat – ลงเรือลำเดียวกัน ประสบปัญหาหรือความยุ่งยากเหมือนกัน

27. Be mad at – โกรธ

28.  Be my guest – ตามสบายเลย เชิญตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ

29. Be on a diet  / go on a diet – กำลังลดน้ำหนัก (ด้วยการคุมอาหาร)

30. Be out of order – เสีย ใช้การไม่ได้ ไม่เข้าท่า ไม่เป็นระเบียบ

31. Be supposed to – น่าจะ ควรจะ

32. Bear in mind – จำใส่ใจไว้ จำไว้ว่า จดจำ รำลึก สังวรไว้

33. Better than nothing – ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

34. Bottom line – ท้ายที่สุด ส่วนที่สำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุด ผลที่ปรากฏออกมาในที่สุด

35. Break a promise – ผิดสัญญา ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามสัญญา

36. Break one’s heart – ทำให้หัวใจสลาย ทำร้ายความรู้สึก ทำให้อกหัก หักอก

37. Break up – เลิกคบ ตัดขาดจากกัน แตกหัก แยกทางกัน ทำให้แหลกละเอียด

38. By all means – แน่นอน ใช่เลย ได้เลย เชิญเลย

39. By no means – ไม่ด้วยประการใดเลย ไม่ใช่ใดๆ เลย ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีทาง

40. Calm down – สงบสติอารมณ์ สงบใจ ทำใจให้สงบ ทำให้สงบ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

41. Carry out – ทำให้สำเร็จ ทำให้ลุล่วง ทำให้บรรลุ ปฎิบัติ ดำเนินการ

42. Catch up with – ตามทัน ไล่ทัน พบ

43. Cheer up – ให้กำลังใจ ปลอบใจ ทำให้รู้สึกดีขึ้น ทำให้ร่าเริงขึ้น

44. Come out of the closet – เปิดเผยตัวตน หรือประกาศตัวออกมาว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน

45. Come over – แวะเยี่ยม ไปมาหาสู่

46.Cope with – จัดการกับ รับมือกับ

47.Count on – ไว้วางใจ เชื่อใจ เชื่อถือ พึ่งพาอาศัย

48.Cross the line – ล้ำเส้น ข้ามเส้น ข้ามแดน

49.Day in and day out – ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุด

50.Deal with – ติดต่อกับ จัดการกับ เกี่ยวข้องกับ รับมือกับ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

51.Don’t get me wrong – อย่าเข้าใจฉันผิด

52.Dress up – แต่งกาย แต่งตัวเป็น ปรุงแต่ง

53.Drive someone crazy – ทำให้บ้าคลั่ง ทำให้เสียสติ

54.Drive someone nuts – ทำให้หงุดหงิดมาก ทำให้โมโหมาก

55.End up – สิ้นสุดด้วย ลงท้ายด้วย ลงเอยด้วย จบลง ในที่สุด

56.Every now and again – เป็นครั้งคราว

57.Every now and then – เป็นครั้งคราว

58.Face to face – ซึ่งๆ หน้า จะๆ ต่อหน้า ประจันหน้า

59.Fade away – ค่อยๆ จางหายไป ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้หายไปอย่างลับๆ เลือนหายไป เสื่อม

60.Figure out – คิดออก คิดให้ออก คิดได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

61.Finish up – ทำให้เสร็จสิ้น จบลง ยุติ

62.Focus on – เพ่งเล็งไปที่ มีสมาธิจดจ่อกับ มุ่งเป้าไปที่ พุ่งความสนใจไปที่

63.Fool oneself – หลอกตัวเอง

64.For the sake of – เพื่อ เพื่อเห็นแก่ เพื่อเป็นเกียรติกับ

65.From now on – จากนี้ไป จากนี้เป็นต้นไป ต่อแต่นี้ไป นับจากนี้ไป

66.From time to time – บางครั้ง

67.Get along – เข้ากันได้ เป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน มุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน

68.Get lost – หลงทาง แต่ถ้าเป็นคำสั่งจะเป็นในเชิงการไล่ แปลว่า ไปให้พ้น ไปให้ห่างๆ ไสหัวไป

69.Get out of – ออกไปจาก ได้มาจาก เอาออกจาก ทำให้ออกไปจาก นำออก คัดลอกจาก ลงจากรถ ยกเลิก ยุติ

70.Get out of hand – ควบคุมไม่ได้ เกินกว่าจะควบคุมได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

72.Get rid of – ขจัด กำจัดออกไป จำหน่ายออกไป ขจัดปัญหา กวาดล้าง โค่น ฆ่า

73.Get the most out of – ใช้ประโยชน์สูงสุดจากบางสิ่งบางอย่าง

74.Get together – พบปะ รวมตัวกัน รวมกลุ่มกัน พบปะสังสรรค์กัน

75.Get used to – เคยชิน รู้สึกเคยชิน

76.Give someone a hard time – นำความยุ่งยากมาให้ ทำให้ยุ่งยาก สร้างความลำบากให้

77.Give up on someone/something – ตัดหางปล่อยวัด เลิกคาดหวังในคนๆ นั้นอีกต่อไป หมดหวังต่อบุคคลนั้นแล้ว

78.Give way to – ยอมตาม เออออห่อหมก ตามใจ

79.Go for a walk – เดินเล่น ไปเดินเล่น ไปกินลมชมวิว

80.Good-for-nothing – เปล่าประโยชน์ ซึ่งไร้ประโยชน์ ไม่เอาถ่าน บุคคลไร้ประโยชน์ คนไม่เอาไหน คนไม่มีค่า

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

คลิปอื่นๆ https://seeme.me/ch/adambradshaw

81.Hand in (something) – ส่ง (รายงาน การบ้าน) ยื่นเสนอ มอบให้(ด้วยมือ) ส่งให้เมื่อถึงกำหนด

82.Hang out – ออกไปข้างนอก ออกไปสังสรรค์

83.Have a crush on someone – หลงรักหรือคลั่งไคล้ใครคนใดคนหนึ่ง แอบรักหรือปิ้ง

84.Have a date (with) – มีนัด ติดนัด ไปเที่ยว (กับ)

85.Have a good time – สนุกสนาน เพลิดเพลิน ขอให้สนุกนะ

86.Have a word with – ต้องการคุยด้วยเป็นส่วนตัว

87.Hit the books – อ่านหนังสืออย่างหนัก ติววิชา ติวเข้ม ตั้งใจเรียน

88.Hold one’s ground – ยึดมั่นอยู่ที่เดิม ไม่ถอย ตั้งรับ ตั้งมั่น รักษาสถานะไว้

89.In advance – ล่วงหน้า ก่อนหน้า ก่อนเวลา

90.In any case – ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ตาม

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

91.In case of – ในกรณีที่เป็น ในแง่ของ

92.In no time – รวดเร็ว ในเวลาไม่นาน

93.In vain – เปล่าประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ สูญเปล่า

94. It/that goes without saying – ชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า

95.Jot down – จดอย่างเร็ว บันทึกอย่างเร็ว รีบจด

96.Jump the gun – ทำอะไรก่อนเวลาอันควร

97.Jump to conclusions – ด่วนตัดสินใจ รีบสรุป รีบตัดสินใจเร็วเกินไป

98.Jump up – กระโดดขึ้น กระโจนขึ้น รีบลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ลุกขึ้นทันที

99.Keep a promise – รักษาสัญญา ทำตามสัญญา

100.Keep an eye on  – เฝ้าดู เฝ้ามอง จับตาดู

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

101.Keep away from – อยู่ห่างจาก หลีกหนีจาก หลีกเลี่ยงจาก

102.Keep calm – ตั้งสติ ทำใจให้สงบ

103. Keep on – ทำต่อไป ดำเนินต่อไป กระทำ…อย่างต่อเนื่อง

104.Keep one’s eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จัดตาดู

105. Keep one’s word – รักษาคำพูด รักษาสัจจะ ทำตามที่พูดไว้

106. Keep your shirt on! – คอยเดี๋ยว คอยก่อน อารมณ์เสีย

107.Lay a finger on – แตะต้อง หรือ ทำร้าย

108.Leave someone in peace – หยุดรบกวน

109.Let go of – ปล่อย ปล่อยตัว ปล่อยไป

110.Let someone down – ทำให้ผิดหวัง

111.Once in a blue moon – ไม่บ่อย นานๆ ครั้ง แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

112.Out of the blue – ทันทีทันใด ไม่ได้บอกล่วงหน้า จู่ๆ ก็เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก englishidiomsaday , ภาพประกอบน่ารักๆ www.rosha.ie

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

บทความแนะนำ

[NEW] จดด่วน! 9 คำถาม ’สัมภาษณ์งาน’ ภาษาอังกฤษ ที่รับรองว่าต้องเจอแน่นอน | ไม่มี อะไร แน่นอน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

   

  สวัสดีค่ะชาว

Dek-D

…. เมื่อเราต้องไปสัมภาษณ์งานหรือสัมภาษณ์ฝึกงาน บางครั้งเราอาจจะเจอแจ็คพ็อตถูกสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนแอบกลัวและกังวลมากๆ แต่หากเราเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมไปก่อนล่วงหน้า มันอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็ได้ค่ะ

      วันนี้

พี่หมิว

เลยมีทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการรับมือกับการสัมภาษณ์มาฝากกัน พี่จะมาช่วยไกด์คำถาม คำตอบให้น้องๆ แบบจัดเต็มเลยค่ะ ถ้าพร้อมเเล้วล่ะก็ ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่า

‘I also like the culture and work atmosphere of your organization. I’ve been reading about your company and it seems like a great fit for my personality here.’

‘I also like the culture and work atmosphere of your organization. I’ve been reading about your company and it seems like a great fit for my personality here.’ (ฉันชอบวัฒนธรรมและบรรยากาศการทำงานของที่นี่ ฉันได้ไปอ่านเกี่ยวกับบริษัทของคุณมา และคิดว่ามันเหมาะกับลักษณะนิสัยของฉันมากๆ ค่ะ)

‘This company is well known about XXXX. So it seems like I’ll be able to use my XXX skills here.’

‘This company is well known about XXXX. So it seems like I’ll be able to use my XXX skills here.’ (บริษัทนี้มีชื่อเสียงในเรื่อง XXX ฉันเลยเห็นว่าจะสามารถใช้ทักษะ XXX ที่ฉันได้เรียนรู้มาทำงานที่นี่ค่ะ)

‘J oining this company really make sense to me because…..’

‘J oining this company really make sense to me because…..’ (การมาร่วมทำงานกับบริษัทนี้เหมาะกับฉันมากๆ เพราะว่า…..)

‘I’ve been interested in XXXX and this position really make sense to me.’

‘I’ve been interested in XXXX and this position really make sense to me.’ (ฉันมีความสนใจในด้าน XXX และคิดว่าตำแหน่งนี้จะเหมาะกับฉันค่ะ)

2. ‘Why are you interested in this position/job?’

I am a quick leaner and eager to learn new things.’

เราอาจจะบอกเพิ่มถึงลักษะนิสัยเราเป็นยังไง บอกจุดเด่นที่ทำให้เราน่าสนใจ ในส่วนของนิสัยส่วนตัวเราก็บอกสั้นๆ ง่ายๆ ก็พอค่ะ อย่างเช่น ‘ I am a quick leaner and eager to learn new things.’ (เป็นการอวยตัวเองหน่อยๆ เเต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของความเป็นจริงด้วยนะคะ) หรือเราอาจจะบอกถึงงานอดิเรกที่เราทำบ่อยๆ แต่ต้องตอบอย่างสร้างสรรค์ด้วยนะคะ ไม่ใช่ตอบว่า ‘ชอบนอน’ อย่างนี้ไม่เอานะจ๊ะ

I have spent a year as a XXX position at XXX company.’

My name is XXX I graduated from XXX University in faculty of XXX…’

ประโยคนี้จะต้องมาอย่างแน่นอนค่ะ คนสัมภาษณ์งานต้องการให้เราเเนะนำตัวเอง อย่างเช่น จบการศึกษาจากที่ไหน เคยทำอะไรมาก่อน เอาที่เด่นๆ พอนะคะ ไม่ต้องบอกทั้งหมด ถ้าใครเคยไปแลกเปลี่ยน หรือมีผลงานอะไรเจ๋งๆ ที่คิดว่าเขาต้องถามต่อแน่ๆ เราก็งัดเอาออกมาโชว์ได้เลย อย่างเช่นเราอาจจะเริ่มประโยคว่า ‘ My name is XXX I graduated from XXX University in faculty of XXX…’ หรือถ้าใครมีประสบการณ์ทำงานมาบ้างแล้วก็อาจจะบอกได้ว่า ‘ I have spent a year as a XXX position at XXX company.’ พี่แนะนำว่าให้พูดไม่ต้องยาวมาก เอาแค่จุดเด่นและผลงานที่เคยทำมาพอค่ะ

1. ‘So, tell me about yourself…’

‘Well, I really need this job and it would be awesome to work here! I’ve been unemployed for a while and my Mom is starting to get on my case about it.’

‘Well, I really need this job and it would be awesome to work here! I’ve been unemployed for a while and my Mom is starting to get on my case about it.’ (เราไม่ต้องไปบอกความจริงเขาหมดก็ได้ 5555555)

‘During my senior year at XXX University, I have been working for……’

‘During my senior year at XXX University, I have been working for……’

‘Well, I have all of the skills and experiences that you’re looking for and I’m confident that I would be able to make a good match in this position.’

‘Well, I have all of the skills and experiences that you’re looking for and I’m confident that I would be able to make a good match in this position.’ (ฉันมีทักษะและประสบการณ์มากมายที่คุณกำลังมองหาอยู่ ฉันมั่นใจว่าฉันเหมาะกับตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน)

3. ‘Why should we hire you?’

4. ‘Tell Me About…’

คำถามพวก Tell me about… นี่จะเจอได้บ่อยๆ เลยค่ะ อย่างเช่น

Tell me about your highest accomplishments or the accomplishment you are most proud of. 

(ช่วยบอกถึงความสำเร็จของคุณที่คุณภูมิใจมากที่สุด)

Tell me about a time you handled a high-pressure situation. (คุณจะรับมือกับสถานการณ์การทำงานที่กดดันมากๆ ได้ยังไง)

Tell me about a time when you disagreed with your boss. 

(คุณจะทำยังถ้ามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเจ้านายของคุณ)

      ส่วนใหญ่แล้วคำถามเเนวนี้จะต้องการทดสอบเราในทักษะการแก้ไขปัญหาค่ะ เขาต้องการดูว่าเราจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ยังไง โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆ ที่สามารถพบได้เวลาทำงาน ทางที่ดีคือ ตอบตามความคิดของเราเลยค่ะ เราคิดว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นยังไง (แต่ก็ต้องตอบแบบสวยๆ ดูดี ฉลาดๆ ด้วยนะคะ) อย่างเช่น
 

Q: ‘Tell me about a time when you disagreed with your boss.’ 

(คุณจะทำยังถ้ามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเจ้านายของคุณ)

Ans: ‘I would rather than question his authority in front of everyone, I talked to him off of the floor. I’ll open and be honest about the problems and talk to him frankly.’ 

(ฉันจะไม่หักหน้าเขาต่อหน้าคนเยอะๆ แต่จะไปคุยกับเขาแบบส่วนตัวแทน ฉันจะคุยแบบตรงไปตรงมาถึงในปัญหาที่เกิดขึ้นค่ะ) 

      ที่สำคัญคืออย่าตอบแบบให้ร้ายบอสนะคะ ตอบกลางๆ ให้เราลองคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ จะทำยังไง อย่าไปตอบว่า ‘อ๋อ เราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน’ ‘ไม่รู้ค่ะ’ หรือว่า ‘ฉันไม่มีทางมีปัญหากับบอสแน่นอนค่ะ’ แบบนี้ไม่ได้น้าาา เขาจะดูทักษะการแก้ปัญหาของเราว่าเป็นยังไงค่ะ 

Q: ‘Tell me about your highest accomplishments or the accomplishment you are most proud of.’

(ช่วยบอกถึงความสำเร็จสูงสุดที่คุณภูมิใจมากที่สุด)

      ส่วนข้อนี้ เราสามารถบอกถึงประสบการณ์อะไรก็ได้ที่เด่นๆ ของเรา ที่คิดว่าถ้าคนสัมภาษณ์งานเราฟังแล้วจะต้องอึ้ง สุดยอดมากน้อง อะไรประมาณนี้ หรืออาจจะเป็นแค่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แต่เราสามารถพูดให้ดูยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันค่ะ 
 

5. ‘What’s your strengths?’ / ‘

What’s your weaknesses?’

      และแล้วก็มาถึงคำถามยอดฮิต พี่คิดว่าสิ่งที่ทุกบริษัทต้องการที่นอกเหนือจากทักษะความสามารถแล้วก็คือทัศนคติของเราค่ะ เขาต้องการรู้จุดเด่นและจุดด้อยของเราว่าคืออะไร อย่างแรกเลยคือเราจะต้องรู้จุดเด่นจุดด้อยของตัวเราเองก่อนค่ะ พร้อมบอกเหตุผลไปด้วยว่า ทำไมสิ่งนี้คือจุดเด่นจุดด้อยของเรา แล้วมันจะส่งผลกระทบต่องานยังไง ถ้าเป็น

จุดเด่น

เราควรตอบอะไรที่เกี่ยวกับทักษะการทำงานของเรา อย่างเช่น 

‘I think one of my greatest strengths is as a problem solver. I have the ability to see a situation from different perspectives and I can get my work done even in the face of difficult obstacles.’ 

(ฉันคิดว่าจุดเด่นของฉันคือทักษะการแก้ปัญหา ฉันมีทักษะในการมองสถานการณ์ต่างๆ ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เเละฉันสามารถทำงานให้เสร็จลุล่วงไปได้เเม้จะมีอุปสรรคมากมายก็ตาม)

‘I’m a hardworking person. When I commit to a deadline, I do whatever it takes to deliver.’ 

(ฉันเป็นคนจริงจังในการทำงาน ถ้าถึงกำหนดส่งงานเมื่อไหร่ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำงานส่งให้ทัน)

ในส่วนของ ‘จุดเด่น’ เราควรตอบอะไรที่เป็นแนวนี้ค่ะ  

– Teamwork 

– Working under pressure

– Flexibility

– Problem Solving

– Communication

      มาถึง

จุดด้อย

กันบ้าง พี่คิดว่าคนเรามันก็มีข้อเสียกันทั้งนั้นแหละค่ะ แต่ว่าการมาสัมภาษณ์งาน เราต้องรักษาภาพลักษณ์ของเรานิดนึง เราสามารถบอกข้อเสียของเราไปได้ แต่เราก็ต้องยกตัวอย่าง วิธีการแก้ปัญหา วิธีที่เราจะรับมือกับข้อเสียของตัวเองได้ยังไงด้วย อย่างเช่น

พยายามเปลี่ยนด้านลบให้เป็นด้านบวก

‘I work too hard sometimes’

 (ฉันทำงานหนักมากเกินไปบ้างครั้ง)

‘I am too much of a perfectionist’

 (ฉันเป็นพวกรักในความสมบูรณ์แบบ)

‘I pride myself on being a ‘big-picture’ guy. I have to admit I sometimes miss small details’

 (ฉันมักจะมองอะไรออกมาเป็นภาพใหญ่ๆ อยู่เสมอ จนบางทีมันทำให้ฉันพลาดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไป)

แต่น้องๆ อย่าไปแสดงจุดอ่อนของตัวเองจนเกินไป  อย่างเช่น 

‘I have trouble getting up in the morning and getting to work on time’

 (ฉันมีปัญหาในการตื่นตอนเช้าและมาทำงานให้ทัน) แบบนี้ไม่ควรนะคะ เขาจะมองเราเป็นคนยังไงเนี่ย 555555 
 


 

6. ‘What Do You Know about the Company?’

      ถ้าเราไปสมัครงานบริษัทไหน อย่างแรกเลยที่เราต้องทำการบ้านคือ การหาข้อมูลที่เกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ค่ะ เราจะต้องรู้ว่าบริษัทเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีธุรกิจอะไรบ้าง หาข้อมูลเตรียมพร้อมไปเยอะๆ เลยค่ะ แนะนำว่าให้หาข้อมูลที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ที่คนไม่ค่อยรู้ แต่เรารู้ มันจะทำให้เราดูสนใจในบริษัทเขาจริงๆ ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น

‘I saw you’ve received a couple of local awards for community service….’

(ฉันเห็นว่าบริษัทคุณได้รางวัลเกี่ยวกับงานบริการชุมชนมาด้วยค่ะ) 

‘Well, I know you’re one of the biggest providers of software’

(บริษัทคุณเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตซอฟต์แวร์)

‘I know somebody who used to work here, and they had great things to say about your company culture and how you take care your employees.’ 

(คนรู้จักฉันเคยทำงานที่นี่มาก่อน เขาพูดเรื่องดีๆ เกี่ยวกับบริษัทนี้เยอะเลยค่ะ อย่างเช่น คุณดูแลพนักงานดียังไง) (ออกแนวชมๆ บริษัทเขาหน่อยค่ะ) 
 

7. ‘Where do you see yourself in 5 years?’

      คุณจะทำอะไรในอีก 5 ปีข้างหน้า? บริษัทจะต้องการคนที่มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้วยนะคะ ทางบริษัทเขาจะอยากรู้ว่าเราวางแผนในชีวิตของเราไว้ว่ายังไง และเราคิดว่าจะทำมันสำเร็จมั้ย เราอาจจะบอกว่า เราอยากพัฒนาทักษะทางด้านนี้ให้ดีขึ้น อยากมีทักษะการทำงานทางด้านนี้เพิ่มก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น 

‘In 5 years, I want to work for an organization where I can build a career and improve my skills.’

 (ในอีก 5 ปี ฉันอยากจะทำงานกับบริษัทที่ทำให้ฉันมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เเละทำให้ฉันสามารถพัฒนาทักษะต่างๆ ของฉันให้ดียิ่งขึ้นได้)

‘I am really looking forward to spending the next five years in an organization 

where I can grow and take on new challenges over time.

‘ 

(ในอีก 5 ปีข้างหน้า ฉันอยากจะทำงานกับองค์กรที่ทำให้ฉันสามารถโตในหน้าที่การงานเเละมีสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทายให้ฉันทำอยู่เสมอ ) 

แนะนำว่าอย่าไปตอบแบบเจาะจงเกินไป อย่างเช่น อีก 5 ปีข้างหน้า ฉันจะเป็น CEO หรือ Manager ของ…. เอาแบบกลางๆ ก็พอค่ะ 
 

8. ‘What salary range were you looking for?’

      เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเรื่องใหญ่จริงมั้ยคะ พี่แนะนำว่าให้เราลองพิจารณาในเนื้องานและตำแหน่งดู ว่าเราควรได้เท่าไหร่ เราลองเสนอราคาเงินเดือนที่เราต้องการไป ถ้าเขาอยากได้เราเข้าไปทำงานด้วยจริงๆ เขาก็จะต่อรองราคากับเราเองค่ะ เเต่หลายๆ บริษัทอาจจะมีสวัสดิการอย่างอื่นให้ก็ได้ เราจะต้องพิจารณาให้ดีค่ะ ยกตัวอย่างประโยคเช่น 

‘I’m really looking for is something in the range of 30,000 to 35,000 Baht. I believe that’s the range this company pays for my level of employment.’
 

9. ‘Do you have any questions for me?’

      คำถามนี้เป็นคำถามที่พี่เชื่อว่าแทบทุกบริษัทจะต้องถามแน่ๆ คำถามนี้เราจำเป็นจะต้องตอบและถามเขากลับด้วยค่ะ เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเราสนใจที่จะทำงานกับเขา อย่างเช่น เราอาจจะถามถึงบรรยากาศการทำงาน วัฒนธรรมขององค์กร ตำแหน่งที่เราสมัครมามีหน้าที่อะไรนอกเหนือจากที่ระบุไว้ใน Job description (รายละเอียดงาน) มั้ย ยกตัวอย่างเช่น

‘Could you please let me know about your work culture and atmosphere here?’ 

(ช่วยบอกฉันถึงบรรยากาศการทำงานของที่นี่ได้มั้ยคะ)

‘What’s the company organization and management style like?’ 

(ที่บริษัทของคุณมีการบริหารจัดการในรูปแบบไหนหรอคะ)

‘Can you share more about the day-to-day responsibilities of this position? What’s a typical day like?’

(ช่วยบอกฉันถึงหน้าที่ในแต่ละวันของตำแหน่งฉันได้มั้ยคะ ว่าวันนึงฉันต้องทำอะไรบ้าง)

อย่าไปถามถึงเรื่องส่วนตัวเขานะคะ  อย่างเช่น

‘Do you have children?’

หรือ 

‘How long have you been working here?’ 

แบบนี้ไม่เอาน้าาา แนะนำว่าควรถามอะไรที่เกี่ยวกับการทำงานของเราและบริษัทจะดีกว่าค่ะ 

 

     
       ตัวอย่างคำถามและคำตอบที่พี่แนะนำมาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ น้องๆ สามารถเอาไปพลิกแพลงได้ตามสไตล์ของตัวเองเลย อย่างพี่เคยเจอคำถามแนวจิตวิทยาด้วยค่ะ เขาถามพี่ว่า ถ้าบ้านเราไฟไหม้ แล้วให้เราเอาของออกมาได้เพียงอย่างเดียวเเต่ห้ามเอาของมีค่าออกมา เราจะเลือกเอาอะไรออกมา? ตอนนั้นพี่ต้องตั้งสติอยู่เหมือนกันค่ะถึงตอบออกไปได้555555 

     
      

การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยค่ะ น้องๆ อย่าไปเกร็งหรือตื่นเต้นมากเกินไป เพราะมันจะทำให้เราลนลาน ทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพกไปสัมภาษณ์งานคือ ‘สติ’ ค่ะ ถ้าเรามีสติแล้วทุกอย่างจะดีตามมาอย่างแน่นอน พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังหางานทำ และคิดว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยน้องๆ ได้ด้วยนะคะ สู้ๆ ^^    

 

Sources:
thebalancecareers.com

monster.com

speakconfidentenglish.com

biginterview.com

cv-library.co.uk

theinterviewguys.com

Photo Credit:

Unsplash


คำที่ฆ่าคน-วงธรรมดา [OFFICIAL MV ]


เพลงคำที่ฆ่าคน
ศิลปิน : วงธรรมดา
คำร้อง / ทำนอง : ปิ๊ก ขจรจารุกุล
เรียบเรียง : เสก ผานชื่น
SPACEBAR MUSIC PROJECT
Music Video by SPACEBAR STUDIO
โทร.0897272711
คำที่ฆ่าคน มีแค่ใจ วงธรรมดา

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำที่ฆ่าคน-วงธรรมดา [OFFICIAL MV ]

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่ – ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์


ศิลปิน : ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์
คำร้อง : สนิท ศ.
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
อัลบั้ม : ในนามของความรัก 3
รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้มีอันเป็นไป แม้เธอและฉันนั้นต้องพลันสิ้นใจ ฉันจะหวังใครให้เป็นที่รักยิ่ง รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้มีใครมาชิง ฉันอาจพลาดแพ้เหลือแก้คืนทุกสิ่ง แล้วจะหมายอิงแอบอ้อนวอนรักใคร พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แปรผันยอกย้อนลวงหลอนเปลี่ยนใจ เผื่อว่าพรุ่งนี้โลกแตกสลายไป วันนี้เล่าใครจะอยู่คู่ฉัน รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกัน ฉันอาจสิ้นหวังเหมือนดังสิ้นชีวัน เหลือแต่เพ้อฝัน สุดกลั้นใจหมองตรม

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่ - ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่ – ชรินทร์ นันทนาคร (Official Audio)


เพลง พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่
ขับร้องโดย : ชรินทร์ นันทนาคร
คำร้อง/ทำนอง : สนิท.ศ/สมาน กาญจนผลิน
รักกันวันนี้ ดีกว่าเผื่อว่าพรุ่งนี้มีอันเป็นไป
แม้เธอและฉันนั้นพลันต้องสิ้นใจ
ฉันจะหวังใครให้เป็นที่รักยิ่งรักกันวันนี้ ดีกว่า
เผื่อว่าพรุ่งนี้มีใครมาชิมฉันอาจพลาดแพ้
เหลือแก้คืน ทุกสิ่งแล้วจะหมายอิง
แอบอ้อนวอนรักใครพรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
แปรผันยอกย้อนลวงร้อนเปลี่ยนใจ
เผื่อว่าพรุ่งนี้โลกแตกสลายไป
ก็ใครเล่าใคร จะอยู่คู่ฉันรักกันวันนี้ ดีกว่า
เผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกันฉันอาจสิ้นหวัง
เหมือนดังสิ้น ชีวันเหลือแต่เพ้อฝัน
สุดกลั้นใจหมองตรมพรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
แปรผันยอกย้อนลวงร้อนเปลี่ยนใจ
เผื่อว่าพรุ่งนี้โลกแตกสลายไป
ก็ใครเล่าใคร จะอยู่คู่ฉันรักกันวันนี้ ดีกว่า
เผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกันฉันอาจสิ้นหวังเหมือนดังสิ้น ชีวัน
เหลือแต่เพ้อฝันสุดกลั้นใจหมองตรม
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่
Youtube https://www.youtube.com/channel/UCnm6ohF4dI3h9GiIUTtKxfg
Facebook http://bit.ly/2brUnb9

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่ - ชรินทร์ นันทนาคร (Official Audio)

ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอนแดนซ์ [มีแค่ใจ วงธรรมดา] ฮิตในTikTok!!!


ช่องน้องออย:https://www.youtube.com/channel/UCOxYU2S6iqZAajtvnHDVjkw

TikTok: oil_l

ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอนแดนซ์ [มีแค่ใจ   วงธรรมดา] ฮิตในTikTok!!!

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน


พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แปรผันยอกย้อนลวงหลอนเปลี่ยนใจ

พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ไม่มี อะไร แน่นอน ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *