[Update] สรุปเนื้อเรื่องหนังแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ทั้ง 7 ภาค | ไม้กวาด แฮ ร์ รี่ พอ ต เตอร์ – NATAVIGUIDES

สรุปเนื้อเรื่องหนังแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ทั้ง 7 ภาค

ถ้าจะพูดถึงวรรณกรรมเยาวชนที่ทุกคนรู้จัก จะต้องมีชื่อ แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ อยู่ในนั้นแน่นอน เรื่องราวของเด็กชายที่มีแผลเป็นสายฟ้าฟาด แล้วได้มาเรียนที่โรงเรียนเวทมนต์ แล้วต้องเจอเรื่องราวต่างๆที่นำไปสู่การเผชิญหน้ากับพ่อมดร้ายคนหนึ่งที่ต้องการครองอำนาจมืด

 

ผลงานปลายปากกาของ เจเค โรว์ลิ่ง ที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชีวิตเธอเท่านั้น แต่มันสร้างกระแสโลกพ่อมดแม่มดจนลืมวีดีโอเกมเลยทีเดียว นั่นเพราะเรื่องราวจินตนาการที่ เจเค เสกสรรค์ เนื้อหาน่าติดตาม จนสามารถทำยอดขายถล่มทลายทุกครั้งที่วางจำหน่าย แล้วยังต่อยอดสินค้าต่างๆมากมาย รวมถึง ภาพยนตร์ ที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ครับ

 

 

Harry Potter and the Philosopher’s Stone แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์

เรื่องราวเริ่มต้นว่าด้วยเด็กชาย แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวเดอร์สลีย์ ซึ่งเลี้ยงดูเขาราวกับไม่มีตัวตนและใช้งานหนักสารพัด ด้วยเหตุผลที่ว่าแฮร์รี่ มีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่อยากยุ่งและมองว่าเขาเป็นตัวประหลาดนั่นเอง วันหนึ่งเขาได้ไปเที่ยวสวนสัตว์กับครอบครัว แล้วสามารถคุยกับงูได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องแปลกๆตามมาเมื่อ ดัดลีย์ ลูกพี่ลูกน้อง เห็นงูตื่นขึ้นมา ก่อนที่กระจกสวนสัตว์หายไปอย่างงงๆ จนดัดลีย์ตกลงไป ซึ่ง เมื่อกลับบ้าน ลุงเวอร์นอนและป้าเพ็ตทูเนีย จึงขังเขาไว้ในห้องใต้บันได โดยไม่ทราบสาเหตุว่าอะไร

 

 

วันหนึ่ง แฮรี่ ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งจ่าหน้าซองถึงเขา แต่ไม่ได้บอกว่ามาจากใคร แต่ยังไม่ทันได้อ่าน ครอบครัวเดอร์สลีย์ก็ยึดไป แต่เมื่อได้เห็นจดหมาย พวกเขารู้แล้วว่าเรื่องในอดีตที่เกี่ยวข้องกับแฮรี่ได้คืบคลานเข้ามา ทำให้ลุงเวอร์นอน ทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้จดหมายส่งมาที่นี่ได้ แต่ชายร่างยักษ์ปรากฎตัวขึ้น และแนะนำตัวว่า เขาคือ รูเบอัส แฮกริด เขาเป็นคนดูแลโรงเรียนฮอกวอตส์ ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้แฮร์รี่ฟังว่า จริงๆแล้ว แฮร์รี่ คือเด็กที่เกิดจากครอบครัวพ่อมดแม่มด ก่อนจะนำจดหมายมาให้เขา ซึ่งรายละเอียดในจดหมายคือ “แฮร์รี่ ได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์”

 

วันรุ่งเช้า แฮกริด จึงพา แฮร์รี่ไปยังตรอกไดแอกอน ที่นี่ทันที่แฮร์รี่เข้ามา ทุกคนต่างเข้ามาจับมือทักทาย ทำให้ แฮร์รี่ งุนงงเล็กน้อยว่าเขาเป็นคนสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ แฮกริดพาแฮร์รี่ไปธนาคารกริงกรอตส์ เพื่อถอนเงินมาเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน และยังมาทำธุระให้กับโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องลับสุดยอดที่เก็บไว้ในห้องนิรภัย 713 แฮกริดเล่าเรื่องราวว่า แฮร์รี่ รอดชีวิตจากฝีมือของพ่อมดที่ไม่ควรเอ่ยนามว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ ซึ่งเป็นคนสังหารพ่อและแม่ของเขา และทิ้งรอยแผลให้แฮร์รี่ ซึ่งตอนนี้เขาหายไปและไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ไหน เมื่อถึงวันเปิดเทอมระหว่างทางนั่งรถไฟไปเรียนที่ฮอกวอตส์ เขาก็ได้เจอ รอน วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ซึ่งทั้งสองคนนี้ต่อมาก็กลายเป็นเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเสียงตายตลอดทั้งเรื่อง

 

เมื่อมาถึงห้องโถงของโรงเรียน ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ได้พาเด็กใหม่มายังงานเลี้ยงห้องโถง แฮร์รี่ ก็ได้เจอกับ เดรโก มัลฟอย ที่กลายเป็นคู่ปรับของพวกเขาในเวลาต่อมา ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ได้ชี้แจงให้เด็กใหม่ทราบว่า ก่อนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงเปิดเทอม จะต้องเข้าพิธีคัดสรรโดยหมวกคัดสรรจะเลือกเองว่าใครจะไปอยู่บ้านในในสี่หลัง ประกอบด้วย กริฟฟินดอร์, ฮัลเฟิลพัฟ, เรเวนคลอร์ และ สลิธิริน แต่แฮร์รี่ตั้งใจที่จะอยู่กริฟฟินดอร์ แม้หมวกจะแนะนำว่าถ้าไปอยู่สลิธิรินจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน หมวกคัดสรร จึงส่งแฮร์รี่ ไปอยู่ กริฟฟินดอร์ ตามคำขอ พร้อมกับ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่

 

เมื่อแฮร์รี่ได้มาเรียนที่นี่ ได้รู้จักกับ เซเวอรัส สเนป อาจารย์สอนวิชาปรุงยา ซึ่งมีท่าที่เกลียดแฮรี่เข้ากระดูกดำมากๆ  และยังได้พบกับ โอลิเวอร์ วู้ด นักเรียนปีห้ากัปตันทีมควิชดิชประจำบ้าน และให้วู้ด ฝึกสอนแฮร์รี่ให้ในฐานะ ซิกเกอร์ คนใหม่ของบ้านกริฟฟินดอร์ โดยที่เขาสอนเรื่องกฎเบื้องต้นและลูกบอลสี่ชนิด แต่สิ่งที่วู้ดอยากให้แฮร์รี่สนใจมากที่สุดคือ ลูกโกลเด้นสนิช ซึ่งถ้าแฮร์รี่สามารถคว้าได้ก็เท่ากับชนะเกมในที่สุด

 

 

ในวันฮัลโลวีน เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้มากินเลี้ยง เนวิลล์ บอกแฮรร์รี่ว่า เธอร้องให้ที่ห้องน้ำตลอดทั้งวัน จนกระทั้ง ศาสตราจารย์ควีเรลล์ อาจารย์สอนศาสตร์มืดจอมติดอ่างก็วิ่งหน้าตั้งรีบแจ้งข่าวร้ายว่า ยักษ์โทรล์ในคุกใต้ดิน ออกมาเพ่นพ่าน รอนกับแฮร์รี่ไปช่วยเฮอร์ไมโอนี่ทันที ซึ่งท้ายที่สุดรอนใช้คาถาวิงการ์เดียมเลวิโอซ่า จัดการได้ในที่สุด แล้วเหล่าอาจารย์ก็มาสมทบทีหลัง ก่อนที่ทั้งสามจะกลับไปห้องพัก แต่แฮร์รี่สังเกตว่า ขาศาสตราจารย์สเนปเหมือนมีรอยบาดแผล

 

เกมควิชดิชนัดแรกของแฮร์รี่เริ่มต้น ซึ่งก่อนแข่งเขาได้ไม้กวาดนิมบัส 2000 เป็นของขวัญ ซึ่งขณะที่กำลังแข่งขัน ไม้กวาดแฮร์รี่ดันพยศผิดปกติ เฮอร์ไมโอนี่ สังเกตว่า ศาสตราจารย์เสนป กำลังร่ายมนต์เหมือนสาปไม้กวาด เฮอร์ไมโอนี่ จึงไปยังฝั่งที่นั่งอาจารย์ก่อนจะจุดไฟจนเกือบลามเสื้อคลุมเกือบไหม้ ทำให้แฮร์รี่กลับมาคุมไม้กวาด ได้อีกครั้ง ก่อนจะสามารถชิงลูกโกลเด้นสนิช พาทีมชนะไปในที่สุด หลังเกมควิชดิชจบลง แฮร์รี่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว ตั้งแต่ตู้นิรภัย 713, รอยแผลที่ขาของสเนปที่คาดว่าน่าจะฝ่าด่านของหมาสามหัว, สเนปสาปไม้กวาดแฮร์รี่ จนเริ่มสงสัยว่าที่โรงเรียนกำลังซ่อนของอะไรไว้อยู่ แฮกริดจึงเตือนทั้งสามว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้ามายุ่ง 

 

 

ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็เจอเรื่องราวของ นิโคลัส เฟลมเมล ซึ่งเขาคือผู้ประดิษฐ์ศิลาอาถรรพ์ ซึ่งสามารถทำเป็นยาชุบชีวิตเพื่อให้มีชวิตเป็นอมตะ ซึ่งทั้งสามคนรู้แล้วว่า สิ่งที่ซ่อนในโรงเรียนคือสิ่งนี้ ก่อนจะปะติดปะต่อว่า สเนปต้องการเพื่อที่จะเอาไปให้ลอร์ดวอร์เดอมอล์ นั่นเองแต่เมื่อแฮร์รี่ตามแกะรอยมาถึงด่านสุดท้ายก็พบว่าคนที่รอไม่ใช่ศาสตราจารย์สเนป แต่เป็นศาสตราจารย์ควีเรลจอมติดอ่าง ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่จะเปิดเผยตัวเองว่าเป็น โวลเดอมอร์ พ่อมดสายมืดที่คร่าชีวิตพ่อแม่แฮร์รี่ จนเกิดการสู้กันเพื่อชิงศิลาอาถรรพ์ ก่อนที่แฮร์รี่จะสังหารลงในที่สุด และ แฮร์รี่ ก็ตื่นที่ห้องพยาบาลจนได้เจออัมเบิ้ลดอร์ ซึ่งก็ได้เล่าเรื่องราวของศิลาอาถรรพ์ และเรื่องราวที่แฮร์รี่สงสัยมานาน 

ในงานกินเลี้ยงก่อนปิดเทอม ซึ่งรางวัลบ้านดีเด่นคือ สลิธิลิน แต่ดัมเบิ้ลดอร์ ได้มอบคะแนนให้ทั้งสามคน และ เนวิลล์ จนทำให้กริฟฟินดอร์ได้รางวัลถ้วยบ้านดีเด่นในที่สุด….

 

 

 

 

 

Harry Potter and the Chamber of Secretsแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 

เรื่องราวเกิดขึ้นต่อจากภาคแรก แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ได้เจอกับ เอลฟ์นามว่า ด็อบบี้ ซึ่งได้มาเตือนว่าไม่ให้แฮร์รี่ กลับไปยังฮอกวอตส์ เพราะมีเหตุการณ์ร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา  รอน วิลลีย์ และ เฟรดกับจอร์จ ที่ขับรถเหาะมารับ แฮร์รี่ จึงได้มาอาศัยพักกับครอบครัววิสลีย์ ที่บ้านโพรงกระต่าย จนถึงวันเปิดเทอมชานชาลาดันถูกปิดแบบไร้สาเหตุ พวกเขา ตัดสินใจใช้รถเหาะขับไปยังโรงเรียน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

 

หลังจากทั้งคู่ขับรถมาถึงโรงเรียน ก็เกิดเสียหลักตกไปอยู่ท่ามกลางต้นวิลโลว์จอมหวด ก่อนจะเอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปในโรงเรียน ก็เจอ อาร์กัส ฟิลช์ ภารโรงผู้เกลียดชังนักเรียนจับได้ จึงพาไปพบศาสตราจารย์สเนป ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ และ ศาสตราจารย์ แมกกอนนากัล ซึ่งทั้งคู่ยังไม่โดนไล่ออกแต่จะถูกกักบริเวณ

 

หลังจากที่แฮร์รี่ กลับจากถูกกักบริเวณก็มาเจอรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนที่แฮร์รี่จะได้ยินเสียงแปลกๆ แล้วเจอทางระเบียงที่เจิ่งนอง แล้วต้องพบ นอร์ริส แมวสุดรักสุดหวงของฟิลช์ ตัวแข็งถูกแขวนตรงผนังแล้วยังมีข้อความที่เหมือนเขียนด้วยเลือดว่า “ห้องแห่งความลับถูกเปิดแล้ว เหล่าศัตรูทายาทจงระวัง” จนทุกคนและฟลิช์มาเห็นภาพ แฮร์รี่จึงถูกสงสัยว่าเป็นคนทำ ก่อนที่ศาสตราจาย์ดัมเบิ้ลดอร์ จะมาพอดีก่อนจะให้ทุกคนแยกย้าย แล้วบอกฟิลช์ว่าไม่ต้องกังวล นอร์ริสแค่ถูกสาบต้องรอศาสตราจารย์สเปารส์ ปรุงยาจากต้นแมนเดรกเพื่อทำเป็นยาชุบชีวิต

 

เฮอร์ไมโอนี่จึงขอให้ แมกกอนนากัล เล่าตำนานห้องแห่งความลับ ซึ่งอาจารย์เล่าว่า หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียน ซัลลาซ่าร์ สลิธิริน เกิดขัดแย้งในหมู่ผู้ก่อตั้งเรื่องการรับเด็กเข้าเรียน ที่ควรจะเป็นเด็กสายเลือดพ่อแม่มดไม่ใช่ให้มักเกิ้ล (คนที่ไร้พลังวิเศษ) มาเรียน เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก็ตัดสินใจทิ้งโรงเรียน แต่ก่อนไปเขาสร้างห้องแห่งความลับ แล้วปิดประตูจนกว่าทายาทของเขาจะมาเปิด ซึ่งซ่อนปีศาจร้ายที่พร้อมจะฆ่าคนไม่มีค่าทางการศึกษาออกไป

 

ช่วงที่เกิดเหตุทำร้าย ศาสตราจารย์ล็อคฮาร์ท จึงเปิดชมรมการต่อสู้ตัวต่อสู้เพื่อฝึกนักเรียนให้สามารถสู้ป้องกันตัวได้ ซึ่งแฮร์รี่กับมัลฟอยได้สู้ในรอบสาธิต แต่เพราะความเกลียดชังแต่ไหนแต่ไร จึงเล่นใส่ไม่ยั้ง ก่อนที่มัลฟอยจะเสกงูออกมา แต่แฮร์รี่รอดมาได้เพราะมีความสามารถพิเศษคือ ภาษาพาเซลเม้าท์ หรือ สามารถสื่อสารกับงูได้ ซึ่งเป็นความสามารถอันโดดเด่นของ ซัลลาซ่าร์ สริธิริน ทำให้แฮร์รี่ถูกสงสัยว่าเขาคือทายาทของสริธิรินก็เป็นได้

 

แต่แฮร์รี่ และ รอนก็ก็ได้เบาะแสจากมัลฟอยว่า ครั้งล่าสุดที่ห้องแห่งความลับถูกเปิดมันเกิดขึ้นเมื่อ 50ปีที่แล้ว ซึ่งมีนักเรียนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยมีฝีมือของนักเรียนคนหนึ่งและ แฮร์รี่ ได้เจอสมุดบันทึกสีดำ แล้วพบว่าเจ้าของคือ ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล  ซึ่งทันที่ที่แฮร์รี่เขียน จู่ๆมันก็ตอบกลับมา ทำให้แฮร์รี่เริ่มถามถึงเหตุการณ์เมื่อ 50ปีก่อน ริดเดิ้ลจึงลากแฮร์รี่ลงมาเห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจคือ แฮกริดคือคนที่เปิดห้องแห่งความลับ

 

 

แฮร์รี่และรอน ตัดสินใจจะไปถามแฮกริดถึงเหตุการณ์ 50ปีที่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้ถาม แฮกริดเจอ ดัมเบิ้ลดอร์ และ คอร์เนเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์ ซึ่งต้องการให้พักงานชั่วคราวเพื่อสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับ ลูเชียส มัลฟอย พ่อของมัลฟอย ที่เป็นหนึ่งในกรรมการนักเรียน ได้รวบรวมรายชื่อให้ดัมเบิ้ลดอร์ พักงานแฮกริด ซึ่งก่อนไปแฮกริดพูดเหมือนบอกใบ้ให้ทั้งสองรู้ว่า ตามแมงมุมไป เมื่อทั้งสองคนตามเส้นทางของแมงมุม ก็ได้พบ อาราก๊อก ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของแฮกริดและถูกสงสัยว่าใช้เป็นสัตว์ร้ายในห้องแห่งความลับ ซึ่งเจ้าแมงมุมยักษ์ก็ได้บอกว่า สัตว์ร้ายในห้องแห่งความที่แท้จริงคือสัตรูที่เหล่าแมงมุมเกรงกลัวมากที่สุด  มันคือ บาซิลิกส์ ซึ่งเป็นสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ในห้องแห่งความลับ ซึ่งแฮร์รี่ได้ยินเสียงมันเพราะ มันสามารถเคลื่อนไหวผ่านท่อระบายน้ำ และความร้ายกาจคือใครสบตากับมันก็มีอันเป็นไป แต่ที่หลายคนถูกสาปเป็นหิน เพราะไม่ได้สบตาโดยตรง ต่อมาเกิดเหตุการณ์เมื่อ จินนี่ วิสลีย์ น้องสาวของรอนถูกจับตัวไป 

 

แฮร์รี่ มาถึงก็ได้พบร่างของจินนี่ที่ยังหมดสติ และได้เจอทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล หรือตัวจริงคือ ลอร์ดโวลเดอมอร์ จนเกิดการสู้กัน  ในที่สุดแฮร์รี่สามารถฆ่าบาร์ซิลิกส์ก่อนจะใช้เขี้ยวแทงไปยังสมุดบันทึก แล้วช่วยจินนี่ได้ในที่สุด

 

 

 

Harry Potter and the Prisoner of Azkaban

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน

หลังจากที่แฮร์รี่ เผลอเสกคาถาพองลมใส่ป้ามาร์จพี่สาวของลุงเวอร์นอน จนทำให้เขาต้องหนีออกจากบ้านมายังร้านหม้อใหญ่รั่ว ซึ่งทำให้เขาได้ทราบเรื่องราวของ ซีเรียส แบล็ค ฆาตกรต่อเนื่องที่หลบหนีจากคุกอัซคาบัน และเขาก็พบรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว ในคืนนั้นเองนายวิสลีย์ได้บอกเขาว่าแบล็กต้องการตามล่าและฆ่าแฮร์รี่

 

ในชีวิตปีสามของแฮร์รี่ ได้เจอกับ เรมัส ลูปิน ศาสตราจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ ซึ่งเขาคือคนสอนคาถาผู้พิทักษ์ไว้สู้กับผู้คุมวิญญาณ ก่อนที่เรื่องราวจะได้พบความจริงว่า ซีเรียส แบล็ค กับ ลูปินคือ เพื่อนของพ่อแม่ แฮร์รี่ แต่ ซีเรียส กลับถูกใส่ร้ายจากฝีมือ ปีเตอร์ เพ็ตดิกรูว์ ที่ขายเพื่อนไปรับใช้ฝ่ายมืด

 

แต่ในขณะเดียวกันลูปินแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าและทำร้ายซีเรียสจนเขาตกลงไปเจอผู้คุมวิญญาณ แฮร์รี่ไปช่วยแต่ก็ต้านไม่ไหว แต่ก็มีคนมาช่วยแฮร์รี่เสกึคาถาผู้พิทักษ์ใส่ผู้คุมวิญญาณ แต่พอแฮร์รี่ฟื้นขึ้นมา ปรากฏว่าซีเรียสถูกจับและกำลังจะถูกมอบจุมพิตจากผู้คุมวิญญาณ พวกเขาจึงใช้เครื่องย้อนเวลาย้อนไปในอดีตเพื่อช่วยบัคบีคและซีเรียส

 

ในตอนจบ แฮร์รี่สามารถช่วยพ่อทูนหัว ซีเรียสได้ ส่วนลูปินขอลาออกจากการเป็นอาจารย์ในที่สุด

 

 

 

Harry Potter and the Goblet of Fire

 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี

เมื่อโรงเรียนฮอกวอตส์ได้เป็นเจ้าภาพการประลองเวทไตรภาคี ซึ่งตัวแทนจะสามารถส่งชื่อลงไปในถ้วยอัคนี ผู้ที่ถูกเลือกจะต้องเข้าร่วมการประลองกับสามภารกิจสุดโหด ซึ่งปรากฏว่า แฮร์รี่กลายเป็นตัวแทนพร้อมกับ เซดริก ดิกกอรี่ ทำให้ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ จึงให้ อลาสเตอร์ ‘แม้ด-อาย’ มู้ดดี้ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดผู้แปลกประหลาด ช่วยใช้ตาวิเศษที่เฉียบคมของเขา จับตาพ่อมดวัยรุ่นไว้

 

จนเมื่อถึงภารกิจสุดท้าย แฮร์รี่และเซดริก ก็ได้เจอเหล่าผู้เสพความตาย ซึ่ง เซดริกก็ถูกฝ่ายมืดสังหารเสียชีวิต แล้วแฮร์รี่ จึงสู้กับโวลเดอมอร์ที่คืนชีพ ซึ่งวิญญาณของพ่อแม่ช่วยอย่างสุดชีวิตก่อนจะหลบหนีพร้อมพาร่างไร้วิญญาณของเซดริกไปด้วย

 

ภายหลัง มูดดี้ ถูกศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์จับตัว ก่อนจะถูกสัจจะเซรุ่ม จนเผยตัวตนว่าเขาคือ บาร์ตี้ เคารช์ จูเนียร์ หนึ่งในผู้เสพความตายแล้วเป็นคนใส่ชื่อแฮร์รี่ลงไปในถ้วยอัคคนีนั่นเอง

 

 

 

 

 

Harry Potter and the Order of the Phoenix

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์

เรื่องราวในภาคนี้ เมื่อแฮร์รี่ ต้องเจอกลุ่มผู้คุมวิญญาณที่กำลังจะจัดการดัดลีย์ จนทำให้แฮร์รี่ ทำผิดกฎร้ายแรง จนทำให้เขาต้องไปฟังการพิจารณาคดี ซึ่งท้ายสุดดัมเบิ้ลดอร์เข้ามาช่วยจนพ้นทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับได้รู้เรื่องราวว่า ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ก่อตั้งภาคีนกฟินิกซ์ ขึ้นอย่างลับๆโดยทางกระทรวงที่ไม่ทราบ แต่ ซีเรียส แบล็ก, เซเวอรัส เสนป, แมด อาย-มูดดี้,อาเธอร์-มอลลี วิสลีย์,รีมัส ลูปิน,นิมฟาดอร่า ท็องส์ และคนอื่นๆ ก็เป็นสมาชิกภาคีด้วย โดยสถานที่ตั้งของภาคี อยู่ที่ กริมโมสเพรส บ้านของเก่าซีเรียส โดยที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เสกคาถา ซ่อนบ้านไว้ด้วย

 

 

เมื่อเปิดเทอมแฮร์รี่และผองเพื่อนต้องเจอเรื่องปวดหัวเมื่อ ทางกระทรวงเวทมนต์ได้ควบคุมโรงเรียน โดยส่ง โดโรเรส อัมบริด เข้ามาสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดพร้อมกับ จเหน้าที่ตรวจสอบของกระทรวงอีกตำแหน่ง ซึ่งทำให้หลายคนไม่ได้เรียนอย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจรวมกลุ่มจัดตั้งกองทัพ ดัมเบิ้ลดอร์เพื่อฝึกวิชาด้วยตัวเองโดยรวมตัวกันที่ห้องต้องประสงค์

 

 

ลอร์ดโวลเดอมอร์ กำลังเข็มแข็งขึ้นเรื่อยมาหลังจากการประลองเวทไตรภาคี สิ้นสุดลง จนสุดท้ายแฮร์รี่ก็ต้องเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ(อีกครั้ง) ก่อนนำไปสู่การต่อสู้ที่กองปริศนา ซึ่งทำให้ คอเนเลียส ฟัดจ์ ได้เห็นความจริงที่แท้จริง และเตรียมรับมือสู่เหตุการณ์มืดครั้งใหม่อีกครั้ง

 

 

 

Harry Potter and the Half-Blood Prince

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม

หลังจากโลกเวทมนตร์รับรู้ว่าลอร์ดโวลเดอมอร์ได้กลับคืนสู่โลกเวทมนตร์อีกครั้ง ผู้คนต่างหวาดกลัวและมีข่าวการหายตัวไปของผู้คนออกมาเรื่อยๆแฮร์รี่ได้เจอศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ ซึ่งได้ไปเจออดีตอาจารย์สอนวิชาปรุงยาที่ชื่อ ฮอเรซ ซลักฮอร์น ให้กลับไปสอน ซึ่งฝ่ายหลังยังคงรู้สึกผิดจึงเปลี่ยนแปลงความทรงจำตัวเอง แต่ท้ายสุดก็ยอมกลับไปสอนในที่สุด

 

ที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่ได้พบกับหนังสือวิชาปรุงยาของเจ้าชายเลือดผสม และพบว่าในนั้นมีวิธีการปรุงยาที่ถูกต้องและแม่นยำกว่าวิธีที่ไลเบเชียว โบเรจ ผู้แต่งเขียนไว้ แฮร์รี่จึงปรุงน้ำยาตายทั้งเป็นได้ดีที่สุดและได้รับน้ำยานำโชคเป็นรางวัล หลังจากนั้นดัมเบิลดอร์เริ่มสอนพิเศษแก่แฮร์รี่เป็นการส่วนตัวโดยการให้ดูความทรงจำเกี่ยวกับโวลเดอมอร์ในสมัยวัยเด็ก ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดลอร์ดวอร์เดอมอร์ได้

 

ในตอนจบของเรื่องราว ศาสตราจารย์สเนปได้สังหารดัมเบิ้ลดอร์ ก่อนจะเฉลยว่า เขาคือเจ้าชายเลือดผสมนั่นเอง ก่อนที่ทั้งสามจะเริ่มตามหาชิ้นส่วน ฮอร์ครักซ์ ทั้ง 7 ชิ้น เพื่อกำจัดลอร์ดโวลเดอมอร์ให้จงได้

 

 

 

Harry Potter and the Deathly Hallows 

แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต 7.1&7.2

แฮร์รี่และผองเพื่อนเรื่มออกตามหา ฮอร์ครักซ์ ทั้ง 7 ชิ้น เพื่อกำจัดลอร์ด โวลเดอมอร์ ในขณะที่วอรเดอมอลและเหล่าผู้เสพความตาย เริ่มยกทัพเพื่อเตรียมทำสงครามครั้งใหม่ โดยลำพังและไร้ซึ่งคำชี้แนะของบรรดาอาจารย์ หรือการปกป้องของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เพื่อนทั้งสามจะต้องพึ่งพากันและกันมากกว่าที่เคยผ่านมา แต่ก็ยังมีพลังด้านมืดเข้ามาแทรกกลางและคอยคุกคามจนทั้งหมดต้องแยกจากกันในเวลาเดียวกัน

 

แฮร์รี่แจ้งเตือนการมาของโวลเดอมอร์แก่อาจารย์ และเห็นโวลเดอมอร์ฆ่าสเนป ด้วยความเชื่อว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ที่เคยเป็นของดัมเบิลดอร์อย่างสมบูรณ์ ก่อนตาย สเนปมอบความทรงจำแก่แฮร์รี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ฝ่ายดัมเบิลดอร์ ด้วยความรักที่มีต่อลิลี่ แม่ของแฮร์รี่ นอกจากนี้ แฮร์รี่ยังค้นพบว่า วิญญาณส่วนหนึ่งของโวลเดอมอร์อยู่ในตัวของเขาเอง และโวลเดอมอร์ไม่สามารถตายได้หากเขายังมีชีวิตอยู่ แฮร์รี่ จึงไปพบกับโวลเดอมอร์และต่อสู้กับคาถาพิฆาตโดยจงใจให้ตนเองถูกคาถาพิฆาตใส่ตาย

 

แฮร์รี่ตื่นขึ้นมาและพบกับดัมเบิลดอร์ ซึ่งอธิบายว่าเขาไม่สามารถตายโดยที่โวลเดอมอร์ยังอยู่ เพราะโวลเดอมอร์สร้างร่างขึ้นมาจากเลือดของแฮร์รี่ แฮร์รี่เป็นเจ้าของอันชอบธรรมของเครื่องรางยมทูต คาถาพิฆาตได้ทำลายวิญญาณของโวลเดอมอร์ในตัวแฮร์รี่ และแฮร์รี่สามารถเลือกที่จะไปต่อ หรือกลับไปเพื่อสู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้ง แฮร์รี่กลับไป และได้สู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้งหนึ่ง แฮร์รี่ยังรู้ด้วยว่านายของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่แท้จริงไม่ใช่สเนป แต่เป็นเดรโก มัลฟอย ซึ่งเขาเอาชนะมาได้ ในที่สุดโวลเดอมอร์ก็สิ้นชีพด้วยคำสาปพิฆาตของตัวเองที่สะท้อนกลับ

 

เรื่องจบลงด้วยฉากในอีก 19 ปีต่อมา แฮร์รี่แต่งงานกับจินนี่ และมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ เจมส์, อัลบัส เซเวอรัส, ลิลี่ ส่วนรอนและเฮอร์ไมโอนี่ก็แต่งงานกันมีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ฮิวโก้, โรส ทั้งสองครอบครัวพบกันที่สถานีรถไฟขณะไปส่งลูกๆ ไปยังฮอกวอตส์และแฮร์รี่ก็ไม่เคยเจ็บแผลเป็นอีกเลยหลังจากลอร์ดโวลเดอมอร์ตาย

 

และนี่คือเรื่องราวของ แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ในโลกภาพยนตร์ที่เอามาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง ใครชอบตอนไหนลองแชร์มาเล่าสู่กันฟังได้เลยครับ

 

@P.PETTY

ข้อมูลประกอบ

–          http://poon11.blogspot.com/2011/08/1-7-harry-potter-1-7.html

 

 เจก

กรุงเทพฯ–26 พ.ย.–โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 53 ต่อเนื่องจากภาพยนตร์ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่่องรางยมทูติ ภาค 1 ซึ่งเข้าฉายอยู่ในขณะนี้ ทาง VisitBritain สำนักงานการท่องเที่ยวอังกฤษ. สก๊อตแลนด์ และเวลส์จึงเอาใจแฟนๆพ่อมดน้อยแฮรรี่ พอตเตอร์ ด้วยการจัดเตรียมรายชื่อสถานที่ ‘ที่ไม่ควรพลาด’ ทั่วสหราชอาณาจักร และนี่เป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับพ่อมดและแม่มดทั้งหลาย เตรียมเก็บไม้กายสิทธิ์ และกระโดดขึ้นไม้กวาดของท่าน เพื่อเข้าสู่โลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์

ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวแบบแฮร์รี่ พอตเตอร์นั้นจะรวมไปถึง แครี่ ออน ทัวร์ นำเสนอ แครี่ ออน แฮร์รี่ พอนเตอร์ แอดเวนเจอร์ 4 คืน ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ 4 ภาคแรก ในชานเมืองของอังกฤษ โดยการท่องเที่ยวจะเริ่มต้นที่ อ๊อกซฟอร์ด (Oxford) เพื่อเยี่ยมชม คริสต์เชิร์ช คอลเลจ (Christchurch College) และห้องสมุดบอดเลียน (Bodleian Library) ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำในฉาก Great Hall และฉากห้องสมุด จากนั้นจะเดินทางต่อไปที่ ยอร์คไชรฺ (Yorkshire) เพื่อนั่งรถไฟด่วนสายฮอกวอตส์ เอ็กซ์เพรซ (Hogwarts Express) ตามด้วยการท่องเที่ยวสู่ฮอกวอตส์ โดยราคาจะอยู่ประมาณ 499 ปอนด์ต่อคน และรวมไปถึงการท่องเที่ยวสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ ในลอนดอน (London), อ๊อกซฟอร์ด (Oxford), กลอสเตอร์ (Gloucester), ยอร์คไชร์ (Yorkshire) และ พีคดิสตริค (Peak District)

เดินทางสู่กรุงลอนดอน เป็นการท่องเที่ยวแบบ 2 วัน ในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ในประเทศอังกฤษ โดยราคานั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของกลุ่มทัวร์ ซึ่งการท่องเที่ยวจะประกอบไปด้วย การเยี่ยมชม Lacock ของหมู่บ้าน National Trust ที่สงบสุข, คริสต์เชิร์ช คอลเลจของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (Oxford University’s Christ Church College), มหาวิหารกลูเชสเตอร์ (Gloucester Cathedral), สโตนเฮนจ์ (Stonehenge), ปราสาทวอร์ริก (Warwick Castle), สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน (Stratford-upon-Avon) และเมืองบาท (Bath).

โดยระยะเวลา 8 ปีในการดำเนินการที่ผ่านมา แฮร์รี่ พอตเตอร์ แฟน ทริปป์ HP Fan Trips นำสาวกพอตเตอร์ทั้งหลายสู่การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักรของพวกเขาในอดีต และเพิ่มเติมการท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางใหม่ตลอดเส้นทาง ในฤดูร้อนของ ปี 2554 นี้ เหล่าบรรดาสาวกพอตเตอร์สามารถนั่งรถไฟไอน้ำสายฮอกวอร์ด เอ็กซ์เพรซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับภาพยนต์ และนั่งรถโค๊ชเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ถ่ายทำต่างๆ ในลอนดอน พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานเลี้ยงสุดพิเศษที่จัดขึ้นในแบบฉบับของฮอกวอร์ด “Hogwarts-style” ที่ปราสาท เอดินเบิร์ก (Edinburgh Castle)

ตลอดยามบ่าย นักท่องเที่ยวผู้เยือนลอนดอนสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเยี่ยมชมโลเกชั่นในการถ่ายทำแฮร์รีพอตเตอร์ได้ถึงกว่า 20 แห่งซึ่งปรากฏอยู่ในภาพยนต์ ตามโปรแกรมลอนดอน วอร์ค (London Walks) จัดขึ้นเฉพาะวันอาทิตย์ ค่าเดินเยี่ยมชมราคา 8 ปอน์ดต่อคน และเริ่มในเวลาที่แตกต่างกัน ออกเดินทางจาก เวสมินิสเตอร์ (Westminister) หรือ สถานณี แบงค์ ทูบ (Bank tube stations)

โลกแห่งเวทย์มนต์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กลับมามีชีวิตอีกครั้งในลอนดอนในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค ภาคีนกฟินิกซ์ ลอนดอน อาย (London Eye) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ปรากฎอยู่ในภาพยนต์ วิวมุมสูงในการเหาะด้วยไม้กวาดของคุณ ในความสูง 135 เมตร ของชิงช้าสวรรค์ คุณสามารถเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รัฐสภา สะพานทาวเวอร์ บริดจ์ (Tower Bridge) พระราชวังบัคคิงแฮม (Buckingham Palace) และ หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) และถัดออกไปทางขวามือของหอนาฬิกา บิ๊กเบน (Big Ben) คุณจะได้พบกับทางเข้าของสถานีเวสมินิสเตอร์ ทูบ (Westminster tube station) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่หลักที่ แฮร์รี่ ใช้ในการเดินทางในภาพยนต์

ระหว่างที่อยู่ในกรุงลอนดอน แฟนของแฮร์รี่ พอตเตอร์จะพลาดไม่ได้กับรูปภาพที่ประเมิณค่ามิได้ของ ชานชาลาที่ 9-3/4 ใน สถานี คิงครอส (Platform 9-3/4 at King’s Cross Station) ที่น่าหลงใหล โดยเหล่าบรรดาพ่อมดสามารถทดลองเข็นรถเข็นทะลุเข้าไปตรงกำแพงระหว่าง ชานชาลาที่ 9 และ 10 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะเป็นทางเข้าสู่โลกแห่งเวทย์มนต์

ในภาคใหม่นี้ เหล่าบรรดาแฟนๆ จะได้พบกับ อุโมงค์เมอร์ซี่ (Mersey Tunnels) ในเมืองลิเวอร์พูล (Liverpool) ซึ่งเป็นฉากที่ แฮกริด และแฮร์รี่หลบหนีจากการไล่ตามของผู้เสพความตาย โดยแฟนๆ สามารถเยี่ยมชม อุโมงค์ และสถานที่ที่ดีที่สุดอื่นๆ ในเมืองลิเวอร์พูลได้อีกด้วย

คริสต์เชิร์ช คอลเลจของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดเป็นสถานที่ในอ๊อกซฟอร์ดที่คุณห้ามพลาด เนื่องจากเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากโรงอาหารของฮอกวอตส์ที่สุดอลังการ รวมทั้งฉากบันไดวนที่มีชื่อเสียงของโรงเรียน

ในเมืองกลอสเตอร์เชอร์ (Gloucestershire) นักท่องเที่ยวจะได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นกฮูกซึ่งเป็นนกฮูกที่ นักเรียน ฮอกวอตส์ใช้กัน ที่เนชั่นนอล เบิร์ด ออฟ เพร เซ็นเตอร์ (National Bird of Prey Center) โดยภายในศูนย์เปรียบเสมือนบ้านที่มีนกฮูกมากกว่า 60 สายพันธุ์ รวมไปถึงนกอินทรีย์ และ เหยี่ยว พรัอมกันนี้ยังมีการจัด “วันแห่งการมีประสบการณ์กับเหล่านกฮูก (Owl Experience Day)” ซึ่งผู้ที่สนใจนกฮูกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลและการบินด้วยเวทย์มนต์

ถ้ายังไม่จุใจกับฮอกวอตส์ คุณยังสามารถเยี่ยมชม ปราสาทแอนวิค (Alnwick Castle) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ ซึ่งใช้ในการถ่ายทำทั้งภายใน และภายนอกของฮอกวอตส์ ใน 2 ภาคแรกของภาพยนต์แฮร์รี่ พอตเตอร์

โดยฉากทิวทัศน์ที่น่าตื่นเต้นส่วนใหญ่ในภาพยนต์ได้ถูกถ่ายทำที่ ที่ราบสูงสก๊อตติช (Scottish Highlands) รวมไปถึงภาคล่าสุดด้วย ซึ่งนักแสดงได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในฉากที่ราบสูงในฮอกวอตส์ และหมู่บ้านฮอกส์มิ้ด (Hogsmeade village) พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวักตกเฉียงเหนือของบริเตน ที่ Cape Wrath เป็นฉากที่วอลเดอมอลแสดงความโมโห ในภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ด้วยหน้าผาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของบริเตนซึ่งเป็นฉากไคลเมกซ์ของภาคใหม่

ในภาพยนต์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง Cape Wrath ด้วยรถบัสเท่านั้น ซึ่งมีระยะทาง 11 ไมล์ผ่านทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

ในการถ่ายทำฉากพื้นที่สูงอื่นๆนั้น ยังประกอบไปด้วย ชะง่อนหินผา ที่ลาดเขาของภูเขาเกล็นโคล โคลส (Glencoe Close) ซึ่งประกอบไปด้วยฉาก หลังบ้านกระท่อมของ แฮกริด (Hagrid’s Hut), สวนซันไดอัล (Sundial Garden) และ บริดจ์ ทู โนแวร์ (Bridge to Nowhere) สำหรับนักโทษแห่ง อัซคาบัน ทะเลสาบล๊อคเนส (Loch Eilt) เป็นสถานที่ที่ แฮกริดพบหินข้ามแม่น้ำ และ แบลค ร๊อค จอร์จ (Black Rock Gorge) ใกล้อีวันตัน (Evanton) ใน อีสเทิ้น โรส (Eastern Ross) คือ สถานที่ถ่ายทำ ภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สำหรับคำบรรยายของ เจ.เค.โรลลิ่ง ที่ว่า “สถานที่แห่งความเปล่าเปลี่ยวและสวยงาม” หาดเฟรชวอลเตอร์ เวส (Freshwater West) และทางเดินใกล้ชายฝั่งเพมโบรคเชียร์ (Pembrokeshire Coast) ใน เวลส์ (Wales) จะอยู่ในบทสรุปส่วนแรกในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูติ ภาค 1 ซึ่งเป็นสถานที่ในฉาก “Shell Cottage” ลมพัดที่สวยงาม ชายหาด เฟรชวอลเตอร์ เวส (Freshwater West) เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับ ชาดหาดสำหรับโต้คลื่นของเพมโบรคเชียร์ (Pembrokeshire) เฟรชวอลเตอร์ เวส (Freshwater West) เป็นสถานที่ที่วิเศษที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ค้นหาหาดทรายที่มีความเป็นส่วนตัวและไม่มีภาพของการค้ามากนัก เนื่องจากด้านหลังยังมีเนินทรายพร้อมด้วยวิวของหน้าผาอันน่าดึงดูดใจ ทำให้ชายหาดแห่งนี้มีหินสวยงามมากมายให้ได้สำรวจพร้อมด้วยกระท่อมของผู้เก็บสาหร่ายที่ได้รับการฟื้นฟูเป็นที่เรียบร้อย

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทริป แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้ที่ www.visitbritain.com