Skip to content
Home » [Update] รวม 100 สำนวนและวลีภาษาอังกฤษ + ตัวอย่าง | ตัวอย่าง ที่ ดี ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] รวม 100 สำนวนและวลีภาษาอังกฤษ + ตัวอย่าง | ตัวอย่าง ที่ ดี ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ตัวอย่าง ที่ ดี ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

bored to deathเบื่อมากI have nothing to do all day. I’m bored to death.
ฉันไม่มีอะไรทำทั้งวันเลยฉันเบื่อมากYou’ve got to be kiddingคุณต้องล้อเล่นแน่ๆเลยSon: Mom, I won the singing contest at school.
ลูกชาย: แม่ฉันชนะการประกวดร้องเพลงที่โรงเรียน

Mom: You’ve got to be kidding. You sing terribly.
แม่: คุณต้องล้อเล่นแน่ๆเลยคุณร้องเพลงได้แย่มากsick and tiredเบื่อระอาI am getting sick and tired of Japanese food.
ฉันเบื่อมากกับอาหารญี่ปุ่น (กินมาทั้งอาทิตย์จนเบื่อ)call it a dayเลิกงานเลิกทำบางสิ่งIt’s nine o’clock now. Let’s call it a day.
ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้วเลิกงานกลับบ้านกันเถอะGet on one’s nervesทำให้เครียดรบกวนPlease stop singing. It’s getting on my nerves.
กรุณาหยุดร้องเพลงเถอะมันรบกนฉันมากcouch potatoคนขี้เกียจ (มักเอาแต่นั่งดูทีวี)You have a big fat belly because you are a couch potato.
คุณมีหน้าท้องที่ใหญ่มากเพราะคุณมัวแต่ดูทีวีread one’s mindคิดเหมือนฉันเลยYou read my mind. I was going to say that.
คุณคิดเหมือนฉันเลย (เหมือนอ่านใจฉันได้) ฉันกำลังจะพูดมันเลยfeel blueรู้สึกเสียใจรู้สึกเศร้าใจWhenever I feel blue, I like to watch comedy shows.
เมื่อไนก็ตามที่ฉันรู้สึกเศร้าใจฉันชอบดูรายการตลกfender benderอุบัติเหตุเล็กน้อยMy sister got a small accident. It was just a fender-bender.
น้องสาวของฉันได้รับอุบัติเหตุเล็กน้อยแต่มันก็แค่เล็กน้อยget a foot in the doorผ่านขั้นแรกของขั้นตอนหรือกระบวนการที่ยาวCan you  help my sister to get her foot in the door.
คุณช่วยน้องสาวฉันให้ผ่านขั้นแรกไปหน่อยนะchickenคนที่ขี้ขลาดCome on, let’s go. Don’t be a chicken.
เอาน่าไปกันเถอะอย่าขี้ขลาดไปเลยgive someone a hard timeทำให้ยุ่งยากสร้างความลำบากให้Stop giving yourself a hard time.
หยุดสร้างความลำบากให้กับตัวเองเลยmake up one’s mindตัดสินใจMake up your mind, please.
กรุณาตัดสินใจด้วยgo dutchแบ่งกันจ่ายคนละครึ่งHe didn’t pay for me, so we ended up going dutch on the first date.
เขาไม่ได้จ่ายเงินให้ฉันเราจึงลงท้ายด้วยการจ่ายคนละครึ่งในวันthrow in the towelยอมแพ้I don’t think I can win, so I’ll throw in the towel.
ฉันไม่คิดว่าฉันจะชนะดังนั้นฉันจะยอมแพ้goose bumpsขนลุกI never get goose bumps when I see a horror movie.
ฉันไม่เคยขนลุกเมื่อฉันดูหนังสยองขวัญเลยstay in touchที่ยังติดต่อกันไม่ขาดการติดต่อกันPromise me that we will stay in touch.
สัญญากับฉันนะว่าพวกเราจะไม่ขาดการติดต่อกันhave the gutsกล้าหาญHe doesn’t have the guts to go skiing.
เขาไม่มีความกล้าหาญที่จะเล่นสกีrain or shineไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออกRain or shine, we are going to go camping tomorrow.
ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออกพวกเราจะไปตั้งแค้มป์พรุ่งนี้easier said than doneพูดง่ายแต่ทำยากFinding a good job is easier said than done.
การหางานที่ดีนั้นพูดง่ายแต่ทำยากIt’s about timeในที่สุดก็ถึงเวลาที่…It’s about time you took responsibility.
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่คุณต้องรับผิดชอบสักที (คือไม่เคยรับผิดชอบอะไรเลย)jump to conclusionsด่วนตัดสินใจรีบตัดสินใจเร็วDon’t jump into conclusions. Wait until you know everything.
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจรอจนกระทั่งคุณรู้ทุกอย่างก่อนkeep an eye onเฝ้าดูเฝ้ามองจับตาดูPlease keep an eye on my son while I go to the bathroom.
กรุณาจับตาดูลูกชายฉันในขณะที่ฉันไปเข้าห้องน้ำout of the blueทันทัทันใดจู่ๆก็เกิดI have serious diarrhea, out of the blue.
จู่ๆฉันก็ท้องเสียอย่างรุนแรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยknow something inside outรู้แบบละเอียดรู้ทั้งหมดWhy don’t you ask your sister? She knows it inside out.
ทำไมคุณไม่ถามพี่สาวของคุณหล่อนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับมันgive someone a handช่วยเหลือCan you give me a hand putting away these toys?
คุณช่วยฉันเก็บของเล่นเหล่านี้หน่อยได้ไหมnow and thenเป็นครั้งคราวI go on vacation with my family every now and then.
ฉันไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวของฉันเป็นครั้งเป็นคราวnuke – microwaveทำอาหารหรืออุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟThe easy way to heat up food is to nuke it.
วิธีง่ายๆที่จะอุ่นอาหารคือการอุ่นด้วยไมโครเวฟon the dotตรงเวลามากๆSee you at 10 o’clock on the dot.
เจอกัน 10 โมงเป๊ะนะkeep my finger crossedหวังว่าจะมีข่าวดีI hope he can do it. I’m keeping my finger crossed.
ฉันหวังว่าเขาสามารถทำมันได้ฉันภาวนาให้มีข่าวดีout of this worldมหัศจรรย์สุดวิเศษIt’s totally out of the world. How can you do it?
มันช่างมหัศจรรย์มากคุณทำมันได้ยังไงover one’s headยากเกินกว่าจะทำได้I am afraid that I can’t help you. It’s way over my head.
ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถช่วยคุณได้มันยากเกินกว่าที่ฉันจะทำได้จริงๆpain in the assสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดรำคาญมากI have to deal with traffic every day. It was a total pain in the ass.
ฉันต้องจัดการกับปัญหารถติดทุกวันมันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดน่ารำคาญมากๆpiece of cakeง่ายมากๆIt’s not difficult at all, it’s a piece of cake.
มันไม่ยากเลยมันง่ายมากๆsooner or laterไม่ช้าก็เร็วในที่สุดYou’re going to fall in love with me sooner or later.
คุณจะต้องตกหลุมรักฉันไม่ช้าก็เร็วpull someone’s legอำพูดโกหกในเชิงล้อเล่นDon’t ask me to believe it. Stop pulling my leg.
อย่าขอให้ฉันเชื่อมันเลยหยุดพูดเล่นได้แล้วput oneself in one’s placeเอาใจเขามาใส่ใจเรานึกถึงจิตใจคนอื่นIf I put myself in your place, I would do the same thing.
ถ้าฉันเป็นคุณฉันก็จะทำเหมือนกันI can eat a horseต้องการกินมากมายI didn’t eat anything all day, I feel like I can eat a horse now.
ฉันไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวันตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถกินม้าได้ทั้งตัวละread between the linesการตีความสิ่งที่ผู้เขียนอาจจะไม่ได้เขียนออกมาตรงๆReading between the lines, I think he loves you.
ดูจากสิ่งที่เขาทำแล้วฉันคิดว่าเขาชอบเธอนะrings a bellคุ้นๆหูเคยได้ยินหรือเคยรู้จักHer name rings a bell, but I am not sure.
ชื่อหล่อนฟังดูคุ้นๆแต่ฉันไม่มั่นใจbugรบกวนทำให้รำคาญI need to focus on my work, so stop bugging me.
ฉันต้องตั้งใจกับงานของฉันดังนั้นหยุดรบกวนฉันได้แล้วsleep on itใช้เวลาในการตัดสินใจI will give you my answer tomorrow. I need to sleep on it.
ฉันจะบอกคำตอบคุณวันพรุ่งนี้ฉันขอเวลาตัดสินใจสักหน่อยplay it by earคิดว่าจะทำอะไรอย่างไรโดยตัดสินจากสถานการณ์ตอนนั้นๆLet’s just play it by ear, ok?
เดี๋ยวเราดูสถานการณ์พรุ่งนี้อีกทีแล้วค่อยคิดโอเคไหมspeak of the devilพูดกวนๆพูดปั่นป่วนหรือตายยากจริงๆ (คนที่กำลังพูดถึงมาพอดี)Hi Anna, speak of the devil, we were talking about you.
สวัสดีแอนนาตายยากจริงๆพวกเรากำลังพูดถึงเธอเลยgrab a biteไปหาอะไรกินแบบเร็วๆWe have 10 minutes before the movie, let’s grab a bite.
เรามีเวลา 10 นาทีก่อนภาพยนตร์เริ่มไปหาอะไรเร็วๆกินกันเถอะtake it easyทำตัวสบายๆTake it easy. Everything will be alright.
ทำตัวสบายๆอย่าเครียดทุกอย่างจะโอเคล่ะgo with the flowทำตัวไหลไปตามกระแสน้ำI don’t want to upset my mom so I will just go with the flow.
ฉันไม่อยากทำให้แม่ไม่พอใจดังนั้นฉันจะตามๆหล่อนไปtwenty-four sevenตลอดเวลาทุกๆนาทีของทุกๆวันThe system runs 24/7.
ระบบทำงานทุกวันตลอดเวลา (เนื่องจากหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมงและหนึ่งอาทิตย์ก็มี 7 วัน )under the weatherป่วยไม่สบายI’m feeling under the weather.
ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยdon’t sweat itอย่ากังวลเลยDon’t sweat it, things will work out for you.
อย่ากังวลเลยทุกอย่างจะดีเองyou can say that againเห็นด้วยกับคุณ (ก็คือพูดซ้ำได้อีกเพราะเห็นด้วย)A: This is totally unacceptable.
อันนี้นี่รับไม่ได้อย่างรุนแรงB: You can say that again.
ฉันเห็นด้วยกับคุณ (ไม่ได้แปลว่าให้คุณพูดอีกครั้งนะคะ)brokeไม่มีเงินถังแตกI’m always broke around the end of the month.
ปลายเดือนที่ไรฉันมักจะเงินหมดช่วงปลายๆเดือนkeep me coolทำตัวตามปกติJust keep your cool and you will be just fine.
แต่ทำตัวปกติเป็นธรรมชาติแล้วทุกอย่างจะดีเองsort ofค่อนข้างI sort of know how to get to the airport.
ฉันค่อนข้างจะรู้ว่าไปสนามบินได้อย่างไรบ้างgood for youมันดีสำหรับคุณI heard you got promoted, good for you.
ฉันได้ยินว่าคุณได้เลื่อนตำแหน่งเก่งมากๆดีแล้วสำหรับคุณI don’t buy itฉันไม่เชื่อหรอกHe said he did it by himself but I don’t buy it.
เขาพูดว่าเขาทำมันด้วยตัวของเขาเองแต่ฉันไม่เชื่อหรอกshotgunนั่งด้านหน้า (ของพาหนะ) ข้างคนขับI want to ride shotgun in his car.
ฉันต้องการที่จะนั่งข้างหน้า (ข้างๆคนขับ)ในรถของเขาwho caresฉันไม่สนใจI missed the his class today, but who cares?
วันนี้ฉันไม่ได้เข้าเรียนวิชาของเขาแต่ฉันไม่สนใจbig dealเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญCome on, don’t be serious. It’s not a big deal.
เอาน่าอย่าเครียดไปเลยมันไม่ใช่เรื่องใหญ่what a small worldโลกแคบจังI just knew that he knows my brother. What a small world.
ฉันเพิ่งรู้ว่าเขารู้จักพี่ชายฉันโลกแคบจังwhat’s going on?เกิดอะไรขึ้นWhat’s going on here?เกิดอะไรขึ้นที่นี่now you’re talkingพูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อยเห็นด้วยกับคนนั้นYou want to give me free tickets to the movie. Now you’re talking.
คุณให้ตั๋วคอนเสิร์ทอย่างนี้ค่อยน่าคุยกันหน่อยover my dead bodyข้ามศพฉันไปก่อนเถอะThere is no way she will go with us, over my dead body.
ไม่มีทางที่หล่อนจะไปกับพวกเราข้ามศพฉันไปก่อนเถอะcoming right upมักจะใช้ในร้านอาหารว่าอาหารใกล้จะมาแล้วYour food is coming right up.
อาหารของคุณกำลังมาแล้วค่ะgood thinkingใช้ชมความช่างคิดรอบคอบละเอียดถี่ถ้วนGood thinking to call and book the hotel rooms.
รอบคอบมากที่โทรไปและจองโรงแรมไว้ก่อนnothing mattersไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าบางอย่างDon’t worry about what they said. Nothing matters but what you are.
อย่ากังวลในสิ่งที่พวกเขาพูดไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสิ่งที่คุณเป็นcome onพูดให้กำลังใจ “เอาน่ะ”Come on, she’s not the only girl in the world.
เอาน่ะหล่อนไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนเดียวในโลกนะ (ปลอบใจเพื่อนที่อกหัก)never mindช่างมันเถอะลืมไปเถอะNever mind what I said before, I was angry.
อย่าสนใจสิ่งที่ฉันดูดไปก่อนหน้านี้เลยฉันโมโห (ลืมๆไปเถอะ)if you insistการตกลงหลังจากที่ถูกรบเร้าขอร้องWe will stay one more night if you insist.
พวกเราจะค้างที่นี่อีกคืนก็ได้ถ้าคุณต้องการแบบนั้นit’s nothingแค่นี้เล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่No need to thank me. It’s just nothing.
ไม่ต้องขอบคุณฉันก็ได้แค่นี้เล็กน้อยfair enoughก็ยุติธรรมดีFair enough, let’s share it for today.
ก็ยุติธรรมดีงั้นเรามาแบ่งกันใช้ละกันสำหรับวันนี้cat got your tongueทำไมไม่ตอบทำไมไม่พูดStop being awfully quiet, cat must have gotten your young.
หยุดเงียบได้แล้วทำไมไม่ตอบล่ะmy pleasureด้วยความยินดีอย่างยิ่งIt was my pleasure to meet you.
ฉันรู้สึกยินดีมากๆที่ได้พบคุณit totally slipped my mindลืมไปเลยI forgot about our anniversary. It totally slipped my mind.
ฉันลืมวันครอบรอบแต่งงานของเราไปเลยลืมสนิทit’s written all over your faceสีหน้าคุณบอกคำตอบหมดละI know you are so happy, it’s written all over your face.
ฉันรู้ว่าเธอมีความสุขมากสีหน้าคุณบอกฉันหมดละgo for itเอาเลยสู้ๆสนับสนุนให้ทำสิ่งที่วางแผนหรือตั้งใจไว้Don’t be hesitate, go for it.
อย่าลังเลเลยเอาเลยสู้ๆgive it to me straightบอกฉันมาตามตรงJust give it to me straight, what happened last night?
บอกฉันมาตามตรงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นit’s a dealตกลงทำข้อตกลงIt’s a deal. I will get you new phone if you pass the exam.
โอเคตกลงฉันจะซื้อโทรศัพท์ให้คุณใหม่ถ้าคุณสอบผ่านdon’t be a strangerอย่าขาดการติดต่ออย่าเป็นคนแปลกหน้านะPromise me that we will keep in touch. Don’t be a stranger.
สัญญากับฉันนะว่าเราจะติดต่อกันอย่าขาดการติดต่อนะlet’s go fifty-fiftyจ่ายคนละครึ่งแบ่งคนละครึ่งWe decided to go fifty-fifty on dinner.
พวกเราตัดสินใจที่จะจ่ายคนละครึ่งสำหรับอาหารเย็นgood for nothingไร้ประโยชน์ไร้ค่าI am sure that she is good for nothing.
ฉันมั่นใจว่าหล่อนไร้ประโยชน์ไร้ค่า (อย่าสนใจ)get a lifeใช้ชีวิตให้คุ้มหน่อยมีชีวิตชีวาหน่อยWe are having a party tonight. Let’s get a life!
เราจะมีปาร์ตี้คืนนี้กันมาสุกกันเถอะdon’t joke with meขอให้หยุดพูดเล่นอย่าล้อเล่นกับฉันนะDon’t joke with me, are you going to resign?
อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะคุณจะลาออกจริงๆหรอI can’t thank you enoughขอบคุณมากๆขอบคุณเท่าไรก็ไม่พอI can’t thank you enough for what you have done for me.
ฉันขอบคุณมากๆสำหรับสิ่งที่คุณทำมาให้ฉันjust name itแค่บอกมา(จะทำให้ทุกอย่าง)I will get whatever you need, just name it.
ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการแค่บอกมาno worriesไม่เปนไรอย่ากังวลเลยNo worries, I don’t need it anyway.
ไม่เป็นไรไม่ต้องกังวลฉันไม่ต้องการมันล่ะwhy so blue?ทำไมเศร้าจังWhy so blue? Don’t tell me that you fail the test again.
ทำไมเศร้าจังอย่าบอกนะว่าคุณสอบตกอีกแล้วnature callsใช้เมื่อคุณต้องการไปเข้าห้องน้ำCan we have 10 minute break? Nature calls!
ขอพักเบรคสัก 10 นาทีนะฉันต้องการไปเข้าห้องน้ำwhat’s eating you?ถามบางคนว่ามีอะไรรบกวนเขา (ไม่ได้กินเขานะ)shame on youน่าอายจริงๆขายหน้าจริงHow could you treat me so badly? Shame on you!
คุณทำกับฉันอย่างงั้นได้ไงละอายแก่ใจบ้างสิhang in thereอย่ายอมแพ้ (ไม่ได้แปลว่าแขวนไว้ในนั้นนะคะ)Hang in there. I’m sure things will get better
สู้ๆนะฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้นtake a hikeไปให้พ้นไล่ไปไกลๆTake a hike, I am not interested in your services.
ไปให้พ้นฉันไม่สนใจกับบริการของคุณit’s a piece of cakeง่ายมากๆMom, don’t worry about my exam. It’s just a piece of cake.
แม่อย่ากังวลกับการสอบของฉันเลยมันง่ายมากๆI’m on my wayอยู่ระหว่างทางไป…See you in 10 minutes, I’m on my way.
อีก 10 นาทีเจอกันฉันอยู่ระหว่างทางละ (กำลังไปหา)It’s a long storyเรื่องมันยาว (ไม่ยากพูดถึงหรือยากที่จะอธิบาย)It’s a long story. We both decided to break up.
เรื่องมันยาวน่ะ (ยากที่จะอธิบาย) เราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเลิกกันsince whenตั้งแต่เมื่อไรSince when have you interested about my life?
ตั้งแต่เมื่อไรที่คุณเริ่มสนใจเกี่ยวกับชีวิตฉันgot itถามว่าเข้าใจไหม / ตอบว่าเข้าใจMake sure you follow the instructions, got it?
กรุณาทำตามคำวิธีใช้ด้วยเข้าใจไหม (ไม่ได้แปลว่าได้รับรึเปล่า)you wishฝันไปเถอะบอกว่าคุณจะไม่ได้ในสิ่งที่คุณต้องการYou think you will win the competition? You wish!
คุณคิดว่าคุณจะชนะการแข่งขันหรอฝันไปเถอะyou’re dressed to killแต่งตัวสวยมากน่าดึงดูดI must impress him tonight. I am dressed to kill.
ฉันต้องทำให้เขาประทับใจคืนนี้ฉันต้องแต่งตัวให้สวยสะพรึงthat figuresฟังดูมีเหตุผลฉันไม่แปลกใจเลยHe won’t let you drive after the accident. That figures.
เขาไม่ให้คุณขับรถหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุฉันไม่แปลกใจเลยdo tellบอกฉันมาเลยบอกมาเถอะYou heard about the gossip? Do tell.
คุณรู้เรื่องซุบซิบนินทาใช่ไหมบอกฉันมาno sweatไม่มีปัญหาNo sweat, we can go there together another day.
ไม่มีปัญหาพวกเราไปที่นั่นวันอื่นได้I blew itทำเจ๊งทำเสียหายทำผิดครั้งใหญ่I was trying to surprise my girlfriend for her birthday, but I blew it.
ฉันพยายามที่จะเซอร์ไพรส์แฟนของฉันแต่ฉันทำพลาดI messed upทำเจ๊งทำเสียหายทำผิดครั้งใหญ่I messed up, I lost my passport at the airport.
ฉันทำพลาดฉันทำพาสปอร์ทของฉันหายที่สนามบินrise and shineปลุดให้ตื่นRise and shine sweetheart, it’s time for breakfast.
ตื่นได้แล้วที่รักมันถึงเวลาอาหารเช้าแล้วyou betใช่เลยแน่นนอนYou bet I’m going to study tonight.
แน่นอนฉันจะอ่านหนังสือคืนนี้ล่ะpie in the skyฝันลมๆแล้งๆความหวังที่เป็นไปไม่ได้My dream of becoming a famous actress is just a pie in the sky.
ความฝันของฉันที่จะเป็นนักแสดงโด่งดังก็เป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆNo strings attachedโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆHe said he would do it for free, no strings attached.
เขาบอกว่าเขาจะทำมันให้ฟรีนะไม่ต้องจ่ายเงินsleep tightนอนหลับฝันดีI hope you sleep tight tonight.
ฉันหวังว่าคุณจะนอนหลับฝันดีนะI couldn’t agree with you moreเห็นด้วยมากๆสุดๆเห็นด้วยมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วI couldn’t agree with you more, Paris is the best.
ฉันเห็นด้วยมากๆกับคุณปารีสดีที่สุดthank goodnessโล่งใจขอบคุณพระเจ้าสำหรับการที่…Thank goodness we arrived at the airport on time.
โล่งใจขอบคุณพระเจ้าพวกเรามาถึงสนามบินทันเวลาyou made itประสบความสำเร็จในบางอย่างYou made it! I am so proud of you.
คุณทำได้จริงๆด้วยฉันภูมิใจในตัวคุณจริงๆwhateverพูดเมื่อเราไม่เชื่อสิ่งที่อีกคนพูดWhatever, I know you went to the party last night.
เอาเถอะไม่ว่าเธอจะพูดอะไรมาฉันรู้ว่าคุณไปที่งานปาร์ตี้เมื่อคืนนี้I’m sick of itเบื่อหน่ายบางอย่างI’m sick of it. I am not going to say anything from now on.
ฉันเบื่อหน่ายกับมันมากต่อไปนี้ฉันจะไม่พูดอะไรละhold on a secบอกให้รอสักครู่เพื่อที่จะพูดบางอย่างHold on a sec, this is not what you told me yesterday.
รอแปปนะนี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณบอกฉันเมื่อวานนี้you never knowบางสิ่งบางอย่างอาจจะเกิดขึ้นI don’t think he will get promoted but you never know.
ฉันไม่คิดว่าเขาจะได้เลื่อนขั้นแต่ใครจะไปรู้ (เขาอาจจะได้เลื่อนขั้น)it serves you rightสมน้ำหน้าได้รับสิ่งที่สมควรได้รับIt serves you right. You deserved it.
สมน้ำหน้าคุณได้รับสิ่งที่คุณควรได้รับ (ทำไม่ดีได้รับสิ่งที่ไม่ดี)I can’t waitตื่นเต้นมากรอไม่ไหวแล้วWe only have 2 more days until the vacation. I just can’t wait.
เราเหลืออีกแค่ 2 วันก่อนไปเที่ยวพักผ่อนฉันตื่นเต้นมากรอไม่ไหวแล้วI told you soใช้เมื่อคุณบอกบางอย่างกับใครไปแล้วเป็นจริงYou should have listened to me, I told you so.
คุณน่าจะฟังฉันฉันบอกคุณแล้วkeep me in the loopบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆRemember to keep me in the loop.
อย่าลืมบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้down to earthไม่ถือตัวติดดินI like them so much. They are so down to earth.
ฉันชอบพวกเขามากพวกเขาไม่ถือตัว (ติดดิน)sure thingแน่นอน (ว่าจะทำบางอย่าง)Sure thing. I will accompany you tomorrow.
แน่นอนฉันจะไปเป็นเพื่อนคุณพรุ่งนี้kill timeฆ่าเวลา (การใช้เวลาทำสิ่งที่มักไม่สำคัญเพื่อรอ…)I killed an hour listening to music.
ฉันฟังเพลงฆ่าเวลาไป 1 ชั่วโมงTake your timeตามบายไม่ต้องรีบTake your time, I have nothing to do today.
ไม่ต้องรีบร้อนฉันไม่มีอะไรต้องทำวันนี้That will doใช้การได้แล้วล่ะดีพอแล้วล่ะA: More sugar?
น้ำตาลเพื่มไหมB: No, that will do, thank you.
ไม่ล่ะอันนั้นพอแล้วขอบคุณHow comeเป็นไปได้อย่างไรทำไม…How come you didn’t call me?
ก็แล้วทำไมเธอไม่โทรมาหาฉันcan’t standทนไม่ได้ที่จะ …I can’t stand living with my roommate.
ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับเพื่อนร่วมห้องของฉัน

Table of Contents

[Update] เทคนิคเขียนภาษาอังกฤษ ให้เป๊ะเหมือนฝรั่งเขียนเอง!(ไม่ยากอย่างที่คิด คุณก็ทำได้) | ตัวอย่าง ที่ ดี ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

พูดถึงการเขียน แม้จะเป็นภาษาไทย ก็ยากแล้วสำหรับหลายๆ คน และถ้าอยู่ดันในสถานการณ์ที่ต้อง เขียนภาษาอังกฤษ ล่ะ เราจะทำยังไงดีนะ? 

ถ้าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้และรู้สึกไม่มั่นใจกับการเขียน วันนี้เรามีตัวช่วยดีๆ มาฝากกันค่ะ

ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขียน Essay เขียนเรียงความ เขียนบทความ เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เขียน Landing Page เขียนขายของ เรามี Tips ดีๆ มาฝากที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายค่ะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวซักนิดนึงนะคะ ตัวเรานั้นเรียนโรงเรียนไทยมาทั้งชีวิต และยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเรียนหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศนานๆ มาก่อน แต่เพราะมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง ที่ผ่านมาเคยทำโปรเจกต์ร่วมกับชาวต่างชาติ เขียนข่าว เขียนบทความภาษาอังกฤษ และล่าสุดก็ได้ร่วมก่อตั้ง Justoneclub.com เป็นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าสำหรับคนที่รักการพัฒนาตัวเอง และตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าในหลากหลายประเทศทั่วโลก

ที่สำคัญคือไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสมัยนี้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีมากมาย ส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรีด้วยค่ะ บทความนี้จะเน้นแนะนำเครื่องมือสำคัญๆ ที่มีประโยชน์ น่าเชื่อถือ ใช้แล้วช่วยเราได้เยอะมากๆ

แนะนำเครื่องมือช่วยเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือช่วยตรวจเช็คแกรมม่าและการสะกดคำ

Grammar หรือ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยเรียนมากันเยอะที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเขียนได้อย่าง Perfect หมดจดไม่มีที่ติ บางครั้งเราทราบแต่ก็อาจจะเผลอสะกดผิดบ้าง เช่น ลืมเติม s ต่อท้าย verb

Grammarly ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีเวอร์ชันใช้งานฟรี และรองรับการใช้งานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน..

  • Native app บนเครื่อง Mac

  • Add-in สำหรับโปรแกรม Microsoft Office บน Windows

  • Web application สามารถใช้งานได้เลยบนเว็บบราวเซอร์ ไม่จำกัด OS

หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นดังภาพนี้

เขียนภาษาอังกฤษ เช็คแกรมมาร์ grammarly

Grammarly มันสามารถช่วยเช็คแกรมมาร์ให้เรา พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขให้ เราสามารถเขียนเอกสารในโปรแกรม หรือจะ Import ไฟล์ Word (.docx) เข้าไปก็ได้ แล้วมันก็จะช่วยเช็คให้ว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง พร้อมบอกเราว่าต้องปรับยังไง รูปด้านล่างคือตัวอย่างผลลัพธ์หลังจากที่เราอัปโหลดไฟล์ Press Release ที่เราเคยเขียนใน Microsoft Word เข้าไป

use-grammarly-for-techsauce-press-release

ตามรูปคือ มันช่วยบอกเราว่าเรามีจุดที่ลืมเติม s อยู่ และมีจุดที่ลืมเติมคำนำหน้า ในที่นี้โปรแกรมช่วยแนะนำให้ด้วยว่า ควรใช้คำว่า the

นอกจากการแปะข้อความ หรืออัปโหลดไฟล์แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่อยากชี้คือ Grammarly ยังมีเวอร์ชัน Google Chrome Extension และ Firefox Add-on ด้วยนะ ซึ่งความหมายคือ มันจะช่วยเช็คแกรมมาร์ให้ทุกๆ การพิมพ์ของเราเวลาเราเล่นอินเทอร์เน็ตเลย!

ตัวอย่างนี้คือการติดตั้งบน Chrome และกำลังเปิดหน้าอีเมลเอาไว้อยู่ มันจะถามเราว่าอยากให้เช็คข้อความในอีเมลไหม? นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเหมือน Dictionary อังกฤษ-อังกฤษ ช่วยแสดงผล Definition และ Synonym ในตัวได้อีกด้วย

grammarly-on-browser

 

Shifu แนะนำ

การติดตั้งบน Browser นั้นสะดวกมากๆ เพราะแปลว่าไม่ว่าจะเป็นอีเมล เขียนสเตตัสเฟซบุ๊ก

เขียนบล็อก

บน

WordPress

มันก็จะตามอ่านและให้คำแนะนำกับเรา แน่นอนว่ามันสะดวกมาก แต่ก็อาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไปบ้าง แม้ใน Policy จะระบุว่าเขาจะไม่แชร์ข้อมูลให้ปาร์ตี้ที่สามก็ตาม แต่ตัวโปรแกรมเอง ก็มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อการปรับปรุง Product อันนี้ก็แล้วแต่ทางผู้ใช้จะลองพิจารณาดูค่ะ

เครื่องมือช่วยเช็คความอ่านง่ายของการเขียน

บางทีเรื่องที่คนกังวลอาจจะไม่ใช่เรื่องของ Grammar แต่อาจจะเป็นเรื่องการสื่อสารให้ตรงประเด็น ถ้าคุณเขียนแล้วประโยคออกมางงๆ เช่น รูปประโยคซับซ้อนเกินไป เครื่องมืออีกตัวที่คุณใช้ช่วยได้คือ Hemingway สามารถใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ หรือจะโหลด Desktop App ก็ได้

ภาพด้านล่างนี้สาธิตการใช้งาน Hemingway มันสามารถไฮไลท์บอกได้ว่าการเรียบเรียงให้ง่ายต่อการอ่าน (Readability) ของข้อความของเรานั้น ทำได้ดีแค่ไหน รวมถึงช่วยไฮไลท์จุดที่คุณควรลองดูเพื่อปรับให้มันง่ายขึ้น โดยเฉพาะประโยคที่ได้รับไฮไลต์สีเหลืองและสีแดง คือประโยคที่ค่อนข้างเป็นรูปประโยคที่ซับซ้อน 

เครื่องมือนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับงานเขียนบทความออนไลน์ในภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป ซึ่งความง่ายในการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ มากกว่าความสวยหรูของประโยค แต่เราอยากบอกว่า ไม่ต้องถึงกับยึดตามคำแนะนำมากก็ได้ เพราะมันจะแนะนำให้เราไม่ใส่ Adverb หรือ Passive voice เยอะเกินไป (ซึ่งเขาถือว่ามันทำให้ประโยคซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วสองอย่างนี้ก็มีประโยชน์มากในการแต่งประโยค) โดยส่วนตัวเรามองว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับใช้ช่วยเช็คคร่าวๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

คิดชื่อเรื่องบทความภาษาอังกฤษดีๆ ไม่ออก

“ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” พวกเราได้เคยเขียนแนะนำการตั้งชื่อบทความไปตั้งแต่บล็อกแรกๆ การตั้งชื่อสำคัญมากเพราะมันเป็นสิ่งแรกที่คนเห็น แต่ก็ยากไม่ใช่เล่นเลย แล้วทีนี้ถ้าเราต้องเขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษล่ะ ถามว่ามีอะไรที่พอเข้ามาช่วยเราได้บ้างไหม ข่าวดีคือมีค่ะ และลิงก์เหล่านี้คือเครื่องมือที่สามารถใช้ช่วยได้

Shifu แนะนำ

อันที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อช่วยนักเขียนที่เริ่มคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ไว้ใช้หาไอเดียในการเขียนบล็อกได้ ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็สามารถใช้ในการหาไอเดียได้เช่นกัน แถมเมื่อได้ไอเดียแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังช่วยให้ได้เห็นไกด์ไลน์ หรือสไตล์การตั้งชื่อบทความ ที่นักเขียนสากลนิยมใช้อีกด้วย

บทความภาษาอังกฤษ

ภาพด้านบนนี้แสดงตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จาก HubSpot‘s Blog Topic Generator เมื่อขอไอเดียในการเขียนเรื่อง Inbound Marketing หรือ Blogging ก็จะเห็นสไตล์การตั้งชื่อบทความภาษาอังกฤษ ว่านิยมเขียน Copywriting กันในรูปแบบไหน

ช่วยเขียน Rewrite หรือ Paraphrase เพื่อให้สละสลวยขึ้น

หลายๆ ครั้ง ความยากในการสื่อสารไม่ใช่เรื่องความถูกผิดของภาษา แต่เป็นเรื่องระดับภาษา ว่าที่เขียนมามันสละสลวยไหม ภาษาออกมาเป็นโทนที่เราต้องการสื่อสารหรือเปล่า โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ถูก หรือ ผิด เยอะเลยค่ะ

โชคดีที่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยี AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ ออกมาเป็น Products ให้เราเลือกใช้ ซึ่งเจ้า AI เหล่านี้สามารถช่วยแนะนำการเขียนให้กับเราได้ค่ะโดยตัวที่อยากจะขอแนะนำ มีชื่อว่า Quillbot เป็นอีกตัวที่สามารถเริ่มต้นใช้ได้เลยฟรี

จากหน้าจอเมนู Paraphraser นี้ จะเห็นว่าเราสามารถเลือก Mode การเขียนได้แบบ เช่น โหมดแบบครีเอทีฟ โหมด Formal (เป็นทางการ) โหมดเขียนให้สั้นเอง (เดิมเขียนยาวไป อยากย่อ) โหมดเขียนยาวๆ (เดิมเขียนสั้นไป อยากขยาย) เป็นต้น

ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์

อีกหนึ่งความโหดของ AI Content Writer ในปัจจุบัน คือการพัฒนาให้ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำมารีวิวให้ดู พร้อมๆ กับแชร์เทคนิคการเขียนตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ในหัวข้อถัดไปให้ด้วยค่ะ

แชร์เทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือส่วนใหญ่ที่ได้แนะนำไป สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบ ในขณะเดียวกันก็มีเครื่องมือแบบเฉพาะกิจด้วย  และนอกจากเรื่องเครื่องมือแล้ว ความจริงการรู้จักและเข้าใจ “หลักการสื่อสาร” ที่เหมาะสมกับรูปแบบนั้นๆ คืออีกหัวใจที่สำคัญไม่แพ้เรื่องทักษะด้านภาษาโดยตรงค่ะ

เขียนเมลภาษาอังกฤษ

ปัจจุบัน Email provider ต่างๆ เริ่มมีฟังก์ชัน Quick reply หรือฟังก์ชันแนะนำการเขียนมาให้ใช้งาน ถ้าใครใช้ Gmail อยู่ จะพบว่าเมื่อเราเริ่มพิมพ์ลงไป มันจะสามารถแนะนำคำหรือประโยคที่เป็นที่นิยมเขียนมาให้ด้วย (เรียกว่า Smart compose feedback) หลังจากที่ลองใช้มาสักระยะ คิดว่า AI นี้ของ Gmail เก่งใช้ได้เลยค่ะ แนะนำภาษามาได้ตรงกับรูปแบบภาษาที่นิยมใช้เขียนในอีเมลกัน

อย่างเช่นช่วงที่ขึ้นต้นประโยคแรกๆ ในอีเมล คนนิยมเขียนเพื่อตอบรับอีกฝ่าย เช่น ในที่นี้เขาแนะนำมาเป็น It’s good to hear from you.

หรือช่วงปิดท้ายอีเมล เมื่อมีคำว่า Look ขึ้นประโยคมา Gmail ก็เดาทางต่อว่าเราน่าจะอยากเขียนประโยคนี้

โดยรวมแล้วจึงทำให้การเขียนอีเมลง่ายและเร็วขึ้นค่ะ โดยปกติจะเราเองก็จะเขียนใน Gmail ลงไปเลย และตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย Grammarly ต่ออีกหน่อย

Shifu แนะนำ

ความจริง Gmail มีฟีเจอร์ Check spelling ด้วยค่ะ ถ้าเข้าบน Desktop จะอยู่ในเมนูสามจุดด้านซ้ายล่าง ได้ลองใช้แล้ว พบว่าสามารถตรวจสอบการเขียนผิดได้เบื้องต้น แต่ยังตรวจได้ละเอียดไม่เท่า Grammarly เช่น การเช็คว่าคำนามนี้ ต้องต่อท้ายด้วย s หรือไม่ต้อง ด้วย ed หรือไม่ต้อง

อีกเรื่องที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ แม้โปรแกรมต่างๆ จะช่วยเช็คและแนะนำได้เบื้องต้น แต่การเขียน Effective email นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องเรียนรู้ตัวอย่างดีๆ เพิ่มเติมกันต่อด้วยนะคะ โดยปกติแล้วอีเมลควรเขียนด้วยรูปประโยคที่อ่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้ Complex sentence (ซึ่งใช้ Hemingway ช่วยดูได้ค่ะว่า Complex เกินไปหรือเปล่า) อีเมลควรชัดเจนว่าอยากบอกอะไร Next step คืออะไร เป็นต้น

การเขียนบทความภาษาอังกฤษ

จริงอยู่ที่ AI Content Writer เหล่านี้รองรับความสามารถในการเขียนบทความแล้ว โดยสามารถนำเสนอได้ถึงระดับไอเดียหัวข้อบทความ รวมไปถึง Outline ก็ทำได้โอเคเลย อย่างในเคสนี้คือเราแค่ใส่ประเด็นลงไปว่า ‘English Writing’ โปรแกรมก็แนะนำชื่อบทความและ Outline มาเสร็จสรรพ

ทั้งนี้ เราไม่แนะนำวิธีนี้เท่าไรนะคะ เราคิดว่าดูเป็นไอเดียได้ แต่คนเขียนควรจะเป็น Leader ที่กำหนดทิศทางด้วยตัวเอง โดยปกติเราจะเขียนบทความขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วใช้โปรแกรมในการช่วยตรวจสอบ ช่วย Paraphrase บางประโยค

อีกเรื่องคือ บางคนชอบเขียนบทความเป็นภาษาไทยแล้วเอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย Google Translate จากนั้นก็อาจจะใช้โปรแกรม Paraphrase ต่อ วิธีนี้ก็ทำได้ แต่โดยส่วนตัวยังเชียร์ให้คิดและเขียนด้วยตัวเองเป็นภาษาอังกฤษเลยแต่แรก จะดีที่สุดค่ะ

Shifu แนะนำ

ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการเขียนบทความ อาจเริ่มต้นฝึกเขียนบทความในภาษาที่ตัวเองถนัดก่อน และถ้าอยากเรียนรู้วิธีการและเทคนิคการเขียนบทความตั้งแต่มือใหม่จนฝึกเป็นมืออาชีพ ขอแนะนำ คอร์สเรียน Content Writing for Beginners คอร์สนี้ และ คอร์ส Digital Copywriting สำหรับการเขียนก็อปปี้ค่ะ

การเขียน Essay หรือเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ

สำหรับการเขียน Essay หรือ เรียงความ คำแนะนำจะไม่ต่างกับการเขียนบทความมากนัก แต่ขอให้บริบทเพิ่มเติมคือ ในการเขียนบทความเพื่อลงในบล็อกต่างๆ ความง่ายในการอ่านจะมีความสำคัญ ในขณะที่เรียงความหรือ Essay มักจะใช้ในเชิงวิชาการ เช่น เพื่อการสมัครเรียนต่อ อาจต้องการรูปประโยคที่สละสลวยและโชว์ความ Advanced English มากกว่า

ในบริบทที่เราเคยเขียน Essay จริงจังเพื่อสอบชิงทุน เราจะไม่ได้ใช้เพียงแค่ตัวเอง+AI Tools แต่จะขอรับ Feedback จากเพื่อนๆ คนอ่านและผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วย

เขียน Copywriting หรือข้อความเพื่อการตลาด

ในบรรดา Use Case ทั้งหมด โดยส่วนตัวคิดว่าอันนี้ยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เพราะ Copywriting เป็นเรื่องของการกระตุ้นความสนใจ ซึ่งความถูกต้องของภาษาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือความน่าสนใจ เรายังคงใช้หลักการเดียวกันกับการเขียน Digital Copywriting ภาษาไทย ตามที่เราเองก็เคยทำคอร์สเรียนสอน แต่สิ่งที่ทำเพิ่มก็คือมีการใช้ AI Writer ช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะใน Use Case ที่ต้องการนำไปใช้งานจริง

Shifu แนะนำ

โปรแกรมที่ชื่อ Writesonic เป็นตัวที่เราพบว่ามีฟีเจอร์เพื่อการเขียนขายของและเขียนเพื่อการตลาดเยอะดีค่ะ เลือกได้ว่าต้องการเขียนสำหรับ Channel ไหน เลือกได้ทั้ง Facebook Ads, Google Ads, LinkedIn Ads, Ecommerce Copy, YouTube Copy เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาดูงานต่างๆ เพราะก็อปปี้เป็นเรื่องของความครีเอทีฟ เราไม่ได้เชื่อใจโปรแกรมอย่างเดียว 100% แต่ Research ดูคนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันว่าเขาเขียนกันประมาณไหน กลุ่มเป้าหมายของเราใกล้เคียงกันกับใคร เป็นต้น

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม

ใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึกที่ละสไตล์

แม้ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์เขียนบทความสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก่อนหน้ามาบ้างแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้เวลาปรับตัวไม่น้อยตอนเราเริ่มต้นเขียนบทสัมภาษณ์สไตล์แบบไม่เป็นทางการ เรายังไม่ชินกับแนว Lifestyle (สำหรับภาษาอังกฤษ) เพราะเดิมทีที่ประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัย จะเน้นสาย Acedemic writing มากกว่า ตอนนั้นเราจึงต้องปรับตัวนิดนึง อ่านบล็อกแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ตอนที่ต้องเขียนแนว PR ก็เช่นกัน เราต้องเรียนรู้ใหม่เยอะมาก มันจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าฝึกเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้นจริงๆ นะ

ฝึกให้ครบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวัน

ถึงแม้งานของเราจะเน้นที่การเขียนเป็นหลัก แต่เราก็ยังพบว่าการฝึกฟังและพูดนั้นมีส่วนช่วยด้วย หลักๆ แล้วมันช่วยให้เรา “คิดเป็นภาษาอังกฤษ” มากขึ้น นั่นเอง คอนเทนต์ที่ทำมาเพื่อการฟัง เพื่อการพูด การอ่าน การเขียน ก็มีความแตกต่างกันไป เพิ่มความหลากหลายของสไตล์เข้าไปในสมองมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นที่ไดอารี่สั้นๆ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนของเรา อันที่จริงแล้วมันคือสเตตัสบน Facebook นั่นเอง ซึ่งเราเขียนแบบกึ่งไดอารี่ เมื่อเราเปรียบเทียบสเตตัสเก่าๆ กับสเตตัสใหม่ๆ เราก็เห็นว่าตัวเองเขียนดีขึ้นจริงๆ  หากอยากฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถลองเริ่มจากสเตตัสภาษาอังกฤษก็ได้นะ หรือจะเขียนเก็บไว้ดูเอง เป็นไดอารี่สั้นๆ ก็ได้ค่ะ Seth Godin ก็เป็นคนนึงที่เขียนบล็อกแล้วมีคนติดตามเยอะมาก แม้ว่าบล็อกของเขาจะเป็นสไตล์ไดอารี่สั้นๆ ก็ตาม

หาคนช่วยตรวจ

วิธีการจัดการกับความไม่มั่นใจที่ดีที่สุด คือการหาคนช่วยตรวจ ถ้าให้ดี ควรเป็นคนที่สามารถแลกเปลี่ยนกันและกันได้ คือ คุณขอเขาช่วยเล็กๆ น้อยๆ  และเขาก็ขอคุณช่วยบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน

แต่ก่อนจะหาคนตรวจ ให้อากู๋ Google ช่วยตรวจให้ด้วยก็ได้ แทบทุกครั้งที่เขียน เรามักจะมีคำที่ไม่แน่ใจเรื่องวิธีการใช้ ซึ่งเราก็สามารถศึกษาการใช้คำเหล่านี้ก่อน โดยการเซิร์จอ่านเอาได้ อย่างเรื่อง Preposition มักจะเป็นเรื่องที่คนไทยใช้ผิดบ่อย เช่น Interested ต้องใช้คู่กับ in; I am interested in marketing ไม่ใช่ I am interested about marketing เป็นต้น

ทดสอบภาษาอังกฤษ

สำคัญคือต้อง ‘รู้’ ว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’ อะไร

สำคัญสุดคือตัวคอนเทนต์

ภาษา คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร และเครื่องมือน้ันมีไว้ให้ใช้งาน ไม่ได้มีไว้ให้กลัว

ภาษาเป็นเครื่องมือนึง แต่สาระจริงๆ คือตัวคอนเทนต์ ครั้งหนึ่งเราจะเขียนบทความเกี่ยวกับซอฟแวร์สัญชาติญี่ปุ่นตัวหนึ่ง เราหาข้อมูลภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงตัดสินใจหาเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วใช้ Google Translate ช่วยแปลเอา ผลลัพธ์การแปลอาจจะยังไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ แต่เมื่อเราได้อ่านแล้ว เราก็พึงพอใจกับเนื้อหา และพบว่าบทความนี้มีคุณค่ากับเรา ในการทำงานเองก็เหมือนกัน ถ้าเชื่อว่าตัวเองมีเนื้อหาที่ดี ก็ลงมือเลย ภาษาเดี๋ยวค่อยๆ พัฒนากันไปได้

สรุป

บทความนี้เราเขียนโดยแบ่งเป็นเคสการใช้งานหลักๆ ที่หลายๆ คนต้องเจอในการเขียนภาษาอังกฤษ โดยเน้นการแนะนำโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแนะนำความคิดเห็นเพิ่มเติมจากประสบการณ์ส่วนตัว ยังไงก็ตาม การเรียนภาษาอังกฤษและฝึกเขียนฝึกใช้บ่อยๆ ยังคงเป็นพื้นฐานความรู้ที่สำคัญมากๆ ที่เราไม่อยากให้ละเลยกัน

หวังว่าบทความจะมีประโยชน์เพื่อให้คุณพร้อมลุยตลาด International ไปด้วยกันนะคะ 🙂

ตาคุณแล้ว

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ขอให้คุณลองเริ่มต้นเขียนภาษาอังกฤษ เริ่มจาก Caption สเตตัสต่างๆ ไล่ไปสู่ไดอารี่ จนกระทั่งเขียนบทความภาษาอังกฤษได้ และอย่าลืมเข้าไปดูเครื่องมือต่างๆ ที่เราแนะนำและลองใช้ดูนะคะ

ใครที่ได้ลองเล่น ลองใช้ ลองทำตามแล้ว เป็นยังไงกันบ้างคะ? นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้หรือได้ลอง มาแชร์ความรู้ด้วยกันได้ที่คอมเมนต์ใต้บทความนี้เลยค่ะ 🙂

New call-to-action


500 คำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมตัวอย่างประโยค Part 3/4


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

500 คำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมตัวอย่างประโยค Part 3/4

ภาษาอังกฤษ บท The Giant Plants Island Plants We Eat


รับชมเพิ่มเติมได้ทาง
www.obectv.tv

ภาษาอังกฤษ บท The Giant Plants Island Plants We Eat

\”โรงเรียนบ้านหนองแก\” โรงเรียนภาษาอังกฤษ Very Good : สะเทือนไทย [CC]


จากเหตุการณ์หลายปีก่อนที่ \”ครูเนาวะรัตน์ ถาวร\” ครูบรรจุใหม่ที่จบเอกพละ เคยติดศูนย์วิชาภาษาอังกฤษทุกตัวในช่วงมัธยมปลาย ได้คุมสอบ Onet วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถม โรงเรียนบ้านหนองแก อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
เมื่อเด็กถามว่า “จะทำข้อสอบอย่างไรดี ในเมื่ออ่านไม่ออก แปลไม่ได้เลย”
ครูเนาวะรัตน์ได้ตอบไปว่า “ให้เลือกคำตอบข้อที่ยาวที่สุด”
ครูกลับมาถามตัวเองว่าเธอเป็นครูแบบไหนถึงได้บอกนักเรียนไปแบบนั้น และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครูเนาวะรัตน์เริ่มมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษและค้นหาวิธีการสอน โดยมีเป้าหมายคือให้นักเรียนสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษได้จริง
จนกระทั่งพบว่าการเรียนแบบ \”Phonic\” และอาศัยการสะกดคำภาษาอังกฤษคล้ายภาษาไทย โดยใช้สีและสัญลักษณ์ตัวเลขมาช่วยแยกประเภทตัวอักษรที่เป็นสระ พร้อมทั้งใช้ภาพสื่อความหมายของคำศัพท์นั้น ๆ จะทำให้นักเรียนอ่านเขียนแปล ศัพท์ภาษาอังกฤษที่เป็นคำบัญชีพื้นฐานกว่า 1,200 คำ ได้อย่างคล่องแคล่วเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และมีเวลามากพอที่นักเรียนจะได้พัฒนา GrammarTenseConversation ในช่วงชั้นประถมศึกษาตอนปลาย
ซึ่งผลที่ได้คือโรงเรียนบ้านหนองแก ขึ้นแท่นสอบ Onet ได้คะแนนสูงสุดใน จ.สระแก้ว 5 ปีซ้อน (2559 2563) และคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศเกือบ 2 เท่า กลายเป็นโรงเรียนต้นแบบที่มีนวัตกรรมด้านการสอนเป็นเลิศ และมีนักการศึกษาและผู้บริหารจากสถานศึกษาเดินทางมาศึกษาดูงานจากทั่วประเทศ
ติดตามชมรายการสะเทือนไทย วันอังคารที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 17.30 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมย้อนหลังได้ทาง http://www.thaipbs.or.th/SaTaeunThai

สะเทือนไทย สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองแก

กด Subscribe ติดตามรายการดี ๆ ของช่อง ได้ที่ : http://thaip.bs/YSBht5j
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : http://www.thaipbs.or.th
Facebook : http://www.fb.com/ThaiPBS
Twitter : http://www.twitter.com/ThaiPBS
Instagram : http://www.instagram.com/ThaiPBS
LINE : http://www.thaipbs.or.th/AddLINE
YouTube : http://www.youtube.com/ThaiPBS

\

ภาษาอังกฤษ ป.1 – บทที่ 3 : การทักทายภาษาอังกฤษ \”Hello\” [สื่อแท็บเล็ต ป.1]


ดาวน์โหลดใบงาน https://hongrian.com/english/worksheetp1hello/
การทักทายภาษาอังกฤษ \”Hello\” ภาษาอังกฤษ ป.1 บทที่ 3 [สื่อแท็บเล็ต]

ภาษาอังกฤษ ป.1 - บทที่ 3 : การทักทายภาษาอังกฤษ \

10คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE


คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
ในคลิปนี้เรามาจะมาดูคำถามพร้อมกับตัวอย่างคำตอบของการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกัน เพื่อช่วยให้เราเข้าใจคำถามสัมภาษณ์งานและ ฝึกตอบคำถามเหล่านั้น เราจะฝึกออกเสียงไปพร้อมๆกัน เพื่อช่วยทำให้เราออกเสียงได้ถูกต้อง และ ทำอย่างไรเพื่อให้เราได้งานที่เราต้องการ

เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

10คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ  เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่าง ที่ ดี ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *