Skip to content
Home » [Update] รวมศัพท์วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ พร้อมวิธีใช้ | 11 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] รวมศัพท์วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ พร้อมวิธีใช้ | 11 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

11 ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

เวลาเราเรียนภาษาใหม่ สิ่งพื้นฐานอย่างหนึ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ก็คือ การเขียนและการอ่านวันเดือนปีของภาษานั้น

ในบทความนี้ ชิววี่ได้รวบรวมคำศัพท์วัน เดือน ปี พร้อมทั้งวิธีการใช้ ให้เพื่อนๆได้เรียนรู้และเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

คำศัพท์วัน 7 วัน

วันภาษาอังกฤษตัวย่อวันอาทิตย์SundaySunวันจันทร์MondayMonวันอังคารTuesdayTueวันพุธWednesdayWedวันพฤหัสบดีThursdayThuวันศุกร์FridayFriวันเสาร์SaturdaySat

คำศัพท์เดือน 12 เดือน

เดือนที่เดือนภาษาอังกฤษตัวย่อ1มกราคมJanuaryJan2กุมภาพันธ์FebruaryFeb3มีนาคมMarchMar4เมษายนAprilApr5พฤษภาคมMayMay6มิถุนายนJuneJun7กรกฎาคมJulyJul8สิงหาคมAugustAug9กันยายนSeptemberSept10ตุลาคมOctoberOct11พฤศจิกายนNovemberNov12ธันวาคมDecemberDec

การใช้ปีในภาษาอังกฤษ

เราจะใช้ปี ค.ศ. (คริสต์ศักราช) เป็นมาตรฐานสากล
ส่วนปี พ.ศ. (พุทธศักราช) จะใช้แค่ในบางประเทศ เช่น ไทย พม่า ศรีลังกา

ด้วยเหตุนี้ เวลาเราติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือกรอกข้อมูลลงเอกสารที่เป็นสากล เราควรจะใช้ปี ค.ศ. (วิธีแปลงปี พ.ศ. ให้เป็น ค.ศ. ทำได้ด้วยการนำปี พ.ศ. มาลบ 543 เช่น ปี พ.ศ. 2563 = 2563 – 543 = ปี ค.ศ. 2020)

สำหรับวิธีอ่านปีในภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เราจะอ่านทีละสองหลัก
1961 อ่านว่า nineteen sixty-one
2019 อ่านว่า twenty nineteen

แต่สำหรับก่อนปี 2000 ปีที่เป็นเลขกลมๆ เราจะอ่านสองหลักแรกแล้วต่อด้วย hundred
1400 อ่านว่า fourteen hundred
1900 อ่านว่า nineteen hundred

ปี 2000 เราจะอ่านเหมือนเลขปกติ
2000 อ่านว่า two thousand

ถ้าเป็นปีระหว่าง 2001 – 2010 เราจะอ่านเหมือนเลขปกติเช่นกัน
2001 อ่านว่า two thousand and one
2010 อ่านว่า two thousand and ten

ปีถัดๆมาที่อยู่ใกล้กับปี 2010 เราสามารถอ่านได้ทั้ง 2 แบบ
2012 อ่านว่า two thousand and twelve
2012 อ่านว่า twenty twelve

ปีที่ลงท้ายด้วยเลข 01 – 09 เราจะอ่าน 0 ว่า oh (โอ)
1602 อ่านว่า sixteen oh two
1906 อ่านว่า nineteen oh six

การใช้วันที่ในภาษาอังกฤษ

วันที่ในภาษาอังกฤษไม่ได้อ่านว่า one, two, three, … เหมือนจำนวนเลขทั่วๆไป แต่จะใช้ first, second, third, … เหมือนการระบุลำดับ (ordinal number)

วันที่ภาษาอังกฤษ1First2Second3Third4Fourth5Fifth6Sixth7Seventh8Eighth9Ninth10Tenth11Eleventh12Twelfth13Thirteenth14Fourteenth15Fifteenth16Sixteenth17Seventeenth18Eighteenth19Nineteenth20Twentieth21Twenty-first22Twenty-second23Twenty-third24Twenty-fourth25Twenty-fifth26Twenty-sixth27Twenty-seventh28Twenty-eighth29Twenty-ninth30Thirtieth31Thirty-first

การเขียนวัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ

ถ้าเป็น American
English
เราจะใช้ month-day-year โดยใช้คอมม่าคั่นระหว่างวันที่และปี เช่น

Ann was born on April 21, 2003.
(อ่านว่า April twenty-first, two thousand and three)

Ann was born on Monday, April 21, 2003.
(อ่านว่า Monday, April twenty-first, two thousand and three)

Ann’s birthday is April 21.
(อ่านว่า April twenty-first)

เวลาเขียนวันที่ใน American English เราจะไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่มักจะอ่านเหมือนเขียน

ถ้าเป็น British
English
เรามักจะใช้ day-month-year เช่น

Ann was born on 21 April 2003.
(อ่านว่า the twenty-first of April two-thousand and three)

Ann was born on Monday, 21 April 2003.
(อ่านว่า Monday, the twenty-first of April two-thousand and three)

Ann’s birthday is 21 April.
(อ่านว่า the twenty-first of April)

ใน British English เมื่อก่อนจะนิยมเขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่ในระยะหลัง ความนิยมในการใช้ได้ลดลง

แม้ว่าชาว British บางคนจะยังเขียน suffix เหล่านี้ต่อท้ายตัวเลขวันที่อยู่ แต่ style guide ส่วนใหญ่ อย่างเช่น University of Oxford Style Guide, BBC News Style Guide และ The Government Digital Service Style Guide ต่างก็ระบุว่าไม่ต้องใช้แล้ว

สำหรับ British English แม้จะเขียนหรือไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ แต่เวลาอ่านเรามักจะอ่านเหมือนเขียน และเวลาอ่าน เราต้องใช้ the และ of กำกับด้วย เช่น 21 April 2003 จะอ่านว่า the twenty-first of April two thousand and three

ตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับวัน เดือน ปี

What day is it today?
วันนี้วันอะไร
(คำตอบที่ได้อาจเป็นวันในสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ วันอังคาร หรือวันพิเศษ อย่างวันสงกรานต์ วันคริสต์มาส ฯลฯ)

What is the date today?
วันนี้วันที่เท่าไหร่

When is your birthday?
วันเกิดของคุณคือวันไหน

When is Halloween day?
วันฮาโลวีนคือวันไหน

What month is it now?
เดือนนี้เดือนอะไร

Which month does your school begin?
โรงเรียนเปิดเทอมเดือนไหน

What year were you born?
คุณเกิดปีไหน

What year did you graduate from college?
คุณจบจากมหาวิทยาลัยในปีไหน

What year did you start working here?
คุณเริ่มทำงานที่นี่ในปีไหน

คำถามที่พบบ่อย

1. วันแรกของสัปดาห์คือวันอาทิตย์หรือวันจันทร์

คำตอบของคำถามนี้จะแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละประเทศ

ถ้ายึดตามหลักมาตรฐานสากล ISO
8601 วันจันทร์จะถือเป็นวันแรกของสัปดาห์
ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปและบางประเทศในเอเชียจะใช้ปฏิทินที่เริ่มด้วยวันจันทร์

แต่หลายๆประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา
ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ จะใช้วันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์

สำหรับไทย ปฏิทินที่เราใช้มักจะเริ่มด้วยวันอาทิตย์ แต่ก็มีบางคนที่ถือวันจันทร์เป็นวันแรก ขึ้นอยู่กับความเห็นและความเคยชินของแต่ละคน

2. ถ้าเราเห็นตัวเลขวันที่ 4/5/2020 เราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเลขนี้หมายถึง วันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020 หรือวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ควรแสดงข้อมูลวันเดือนปีเป็นตัวเลขล้วน โดยเฉพาะในระดับสากล เพราะอาจก่อให้เกิดความสับสน

ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะแสดงข้อมูลตามลำดับ
เดือน-วัน-ปี แต่ประเทศอังกฤษและประเทศอื่นส่วนใหญ่จะใช้ วัน-เดือน-ปี

วิธีหนึ่งที่อาจจะช่วยให้เราแยกได้ก็คือ ให้เราสังเกตว่าผู้เขียน หรือองค์กรของผู้เขียนมาจากชาติใด

ถ้าตัวเลขนี้มาจากองค์กรในสหรัฐอเมริกา ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020 หรือถ้ามาจากองค์กรในประเทศอังกฤษ ตัวเลขนี้ก็น่าจะหมายถึงวันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020

สำหรับประเทศไทย เรามักจะนิยมใช้ลำดับ วัน-เดือน-ปี ในการแสดงข้อมูลวันที่

จบแล้วสำหรับการใช้วันเดือนปีในภาษาอังกฤษ ชิววี่หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆสื่อสารข้อมูลวันเดือนปีด้วยภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้นนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] | 11 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษเป็นอีกสิ่งที่เราควรรู้ไว้ เวลาเราต้องสื่อสารเรื่องเวลากับคนต่างชาติ เราจะได้สื่อสารได้ถูก ไม่เกิดความผิดพลาดจนทำให้เสียการเสียงาน

สำหรับคนที่ยังไม่แม่นเรื่องการบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษก็สามารถวางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้รวบรวมคำอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ

การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษหลักๆแล้วทำได้
2 แบบ คือ

1. บอกชั่วโมงก่อน แล้วตามด้วยนาที

วิธีนี้เราสามารถอ่านตัวเลขได้ตรงๆเลย

6.19 – It’s six nineteen.

9.05 – It’s nine oh-five. (oh อ่านว่า โอ)

8.40 – It’s eight forty.

7.54 – It’s seven fifty-four.

2. บอกนาทีก่อน แล้วตามด้วยชั่วโมง

สำหรับช่วง 1 – 30 นาที เราจะใช้คำว่า after (นิยมใช้ใน American English) หรือ past (นิยมใช้ใน British English) แล้วตามด้วยชั่วโมงปัจจุบัน (เป็นการบอกว่าผ่านชั่วโมงปัจจุบันมากี่นาทีแล้ว)

สำหรับช่วง 31 – 59 นาที เราจะใช้คำว่า to แล้วตามด้วยชั่วโมงถัดไป (เป็นการบอกว่าอีกกี่นาทีจะถึงชั่วโมงถัดไป)

วิธีที่ 2
นี้อาจสับสนเล็กน้อยสำหรับคนที่ยังไม่คุ้น

6.19 – It’s nineteen after/past six. (ผ่าน 6 โมงมา 19 นาทีแล้ว)

9.05 – It’s five after/past nine. (ผ่าน 9 โมงมา 5 นาทีแล้ว)

8.40 – It’s twenty to nine. (อีก 20 นาทีจะถึง 9 โมง)

7.54 – It’s six to eight. (อีก 6 นาทีจะถึง 8 โมง)

กรณี 15, 30, 45, 0 นาที

ตอน 15, 30, 45 และ 0 นาที เราจะอ่านเวลาต่างจากปกติ

ถ้าเป็นตอน 15 นาที เราจะใช้ quarter after/past แล้วตามด้วยชั่วโมงปัจจุบัน (quarter แปลว่า หนึ่งในสี่ส่วน ในที่นี้จะหมายถึง 1/4 ของ 60 นาที ซึ่งก็คือ 15 นาทีนั่นเอง)
9.15 – It’s quarter after/past nine. (ผ่าน 9 โมงมา 15 นาทีแล้ว)

ถ้าเป็นตอน 45 นาที เราจะใช้ quarter to แล้วตามด้วยชั่วโมงถัดไป
9.45 – It’s quarter to ten. (อีก 15 นาทีจะถึง 10 โมง)

ตอน 30 นาที เรานิยมใช้ half past (เราจะไม่ใช้ half after)
6.30 – It’s half past six.

ตอน 0 นาที เรานิยมใช้ o’clock (อ่านว่า โอ-คล็อก ย่อมาจาก of the clock)
6.00 – It’s six o’clock.

เพิ่มเติม

ในการบอกเวลา เราจะใช้ a หน้า quarter หรือไม่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นบางที่ใช้ It’s quarter… แต่บางที่ก็ใช้ It’s a quarter…

ในภาษาพูด บางครั้งเราอาจได้ยินคนใช้คำว่า till และ before แทนคำว่า to โดยเฉพาะใน American English เช่น It’s ten till six. หรือ It’s ten before six. (มีความหมายเหมือน It’s ten to six. ซึ่งก็คือ 5.50 น.)

การถามเวลาในภาษาอังกฤษ

การถามเวลาปัจจุบัน

What time is it? หรือ What is the time?
ตอนนี้กี่โมง

ถ้าอยากให้สุภาพขึ้น เราอาจถามว่า

Could you tell me the time please?
กรุณาบอกเวลาหน่อยได้มั้ยครับ/คะ

การถามเวลาสำหรับเหตุการณ์หรือกิจกรรมต่างๆจะใช้
what
time หรือ when เช่น

What time will he arrive?
เขาจะมาถึงตอนกี่โมง

What time is the meeting?
การประชุมเริ่มกี่โมง

When will you finish working?
คุณจะเลิกงานเมื่อไหร่

When did you sleep yesterday?
เมื่อวานคุณนอนเมื่อไหร่

การใช้ a.m. และ p.m.

a.m. ย่อมาจาก ante meridiem เป็นภาษาลาติน แปลว่า ก่อนเที่ยง
p.m. ย่อมาจาก post meridiem เป็นภาษาลาติน แปลว่า หลังเที่ยง

ทั้งชาวอเมริกันและบริติชจะนิยมใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง ดังนั้น เพื่อป้องกันการสับสน (เช่น 2.00 อาจหมายถึงบ่ายสอง หรือ ตีสองก็ได้) จึงมีการใช้ a.m. และ p.m. เพื่อเป็นตัวบอก ว่าเป็นช่วงเวลาก่อนหรือหลังเที่ยง

ระบบ 24 ชั่วโมงระบบ 12 ชั่วโมง23.5911.59 p.m.24.00 หรือ 0.00 – midnight (เที่ยงคืน)12.00 a.m. หรือ 0.00 a.m.1.001.00 a.m.2.002.00 a.m.3.003.00 a.m.4.004.00 a.m.5.005.00 a.m.6.006.00 a.m.7.007.00 a.m.8.008.00 a.m.9.009.00 a.m.10.0010.00 a.m.11.0011.00 a.m.12.00 – noon (เที่ยง)12.00 p.m.13.001.00 p.m.14.002.00 p.m.15.003.00 p.m.16.004.00 p.m.17.005.00 p.m.18.006.00 p.m.19.007.00 p.m.20.008.00 p.m.21.009.00 p.m.22.0010.00 p.m.23.0011.00 p.m.

ปกติถ้าเราถามตอบเวลาในปัจจุบัน
เราไม่จำเป็นต้องบอกว่าเป็น a.m. หรือ p.m.
เพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาไหน

แต่ถ้าเป็นการพูดถึงเวลาในอดีตหรืออนาคต
เราอาจต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาใด เพื่อป้องกันการสับสน เช่น

Tomorrow I have to be at the airport before 5 a.m.
พรุ่งนี้ฉันต้องถึงสนามบินก่อนตีห้า

หรือเราอาจใช้คำอื่น อย่างเช่น in the morning (แทน a.m.), in the afternoon (แทน p.m.), at night (แทน p.m. ในช่วงเวลาดึกๆ) แทน a.m. และ p.m. ก็ได้ เช่น

Tomorrow I have to be at the airport before 5 o’clock in the morning.
พรุ่งนี้ฉันต้องถึงสนามบินก่อนตีห้า

จบแล้วสำหรับการบอกและการถามเวลาเป็นภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปฝึกใช้กันได้แล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 11 ชั่วโมง!


เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 11 ชั่วโมง
เรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมประโยคที่ใช้บ่อยๆ
วลีและสำนวนรวมถึงคำแสลงและคำพูดในชีวิตประจำวัน
ฝึกการพูดออกเสียงให้ชัดขึ้นและมั่นใจขึ้น
เพียงแค่ตั้งใจดูวีดีโอนี้และจดเนื้อหาในสมุด
เรียนฟรี สะดวกสบาย ที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้
สิ่งที่สำคัญ อย่าลืมทบทวนบ่อยๆ
ไม่ว่าคุณเป็นผู้เริ่มต้น หรือมีพื้นฐานแล้ว
ทุกคนทุกระดับสามารถรับประโยชน์จากวีดีโอนี้ได้
ผมขอมอบวีดีโอนี้ให้ช่วยคนไทยทุกคน
เข้าถึงการเรียนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพ
ผมหวังว่าคุณจะชอบนะครับ
สู้ๆ
900 บาท ต่อเดือน สมัครเป็นสมาชิกช่องนี้!!!
สมาชิกจะได้สิทธิพิเศษเรียนผ่านวีดีโอเฉพาะสมาชิก
ซึ่งสามารถดูตอนไลฟ์สดหรือย้อนหลังได้เสมอ
พร้อมทำการบ้านส่งให้ผมตรวจและแก้ไข
เพื่อช่วยให้คุณสามารถแต่งประโยคได้อย่างถูกต้อง
แถมได้ฝึกการออกเสียงให้ผมฟังด้วย
ผ่านคลิปเสียงที่คุณอ่านการบ้านทั้งหมดให้ผมฟังนะครับ
คุณสามารถดูคลิปตัวอย่างของเฉพาะสมาชิกได้ด้วย
กดดูตามลิงค์นี้ได้
https://www.youtube.com/watch?v=TFsPnFbhB10\u0026t=4822s
หรือค้นหาลิปตามชื่อนี้ครับ :
1 Live Show (ตัวอย่างคลิปบทเรียนเฉพาะสมาชิกที่เผยแพร่สาธารณะ ลองดูก่อนสมัครได้ครับ)
กดปุ่ม \”สมัคร\” ข้างล่างวีดีโอใน Youtube
หรือกดลิงค์นี้ได้เลยนะครับ
https://www.youtube.com/channel/UC93A91EZTtZW55WEKCz_jYA/join
สั่งซื้อหนังสือได้จากแอดมิน
@LINE ID = @EnglishbyChris
รับสอนตัวต่อตัว ติดต่อผมได้ที่
@LINE ID = @TeacherChris
WEBSITE
http://www.EnglishbyChris.com
Facebook
ค้นหา = EnglishbyChris

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 11 ชั่วโมง!

ตัวเลขภาษาอังกฤษ1-20 การออกเสียงที่ถูกต้อง


ตัวเลขภาษาอังกฤษ120 การออกเสียงที่ถูกต้อง
เลขภาษาอังกฤษ เรียนอังกฤษ

ตัวเลขภาษาอังกฤษ1-20  การออกเสียงที่ถูกต้อง

นับเลข 11-20 ภาษาอังกฤษ | นับเลขภาษาอังกฤษ | นับเลข 11-20


นับเลข 1120 ภาษาอังกฤษ | นับเลขภาษาอังกฤษ | นับเลข 1120

นับเลข 11-20 ภาษาอังกฤษ | นับเลขภาษาอังกฤษ | นับเลข 11-20

Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue


http://www.youtube.com/user/EnglishSingsing9
Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue
★ Subscribe us on YouTube: http://goo.gl/gDa963
★ More Our Compilation: https://goo.gl/Ghy0W5
Click on the link below to see each video in this compilation video.
The each video, that has sound \u0026 mute version, is accompanied by English subtitles.
01_Good morning. How are you? : 00:05
https://goo.gl/UgaCbo
02_Nice to meet you. I’m great. : 00:45
https://goo.gl/suLwDL
03_What’s this? What’s that? : 01:36
https://goo.gl/rWtxEc
04_Who is he? Who is she? : 02:48
https://goo.gl/NSUPfO
05_Whose bike is this? What a nice bike! : 04:02
https://goo.gl/Jwi031
06_Happy birthday! This is for you. : 04:52
https://goo.gl/1DU33X
07_How old are you? I’m five years old. : 06:20
https://goo.gl/4Su6m8
08_I like soccer. Let’s go! : 07:13
https://goo.gl/BwV0HO
09_Do you like cheese? Do you like ham? : 08:20
https://goo.gl/xaGsGJ
10_Do you have crayon? You’re welcome. : 09:50
https://goo.gl/jlXPXc
11_How many bears? Three bears. : 10:53
https://goo.gl/MVoa6p
12_How much is it? I want it. : 12:08
https://goo.gl/RC9SEg
13_It’s snowing. Do you like snow? : 13:21
https://goo.gl/i1xRiE
14_What color is it? It’s red. : 14:35
https://goo.gl/p8FOkm
15_It’s green and white. It’s raining. : 15:21
https://goo.gl/NH6Cqj
16_What does she look like? She has short curly hair. : 16:05
https://goo.gl/2whHE0
17_Watch out! Are you okay? : 17:07
https://goo.gl/0QjdXO
18_What’s wrong? I have a toothache. : 17:53
https://goo.gl/bBzrQu
19_What’s your favorite subject? My favorite subject is P.E. : 18:41
https://goo.gl/CekgrT
20_What a wonderful! What a nice day! : 19:46
https://goo.gl/KUxwPp
21_What a big tree! Don’t touch that! : 20:47
https://goo.gl/vOlfcL
22_Let’s go camping. Let’s go fishing. : 21:53
https://goo.gl/zbOel4
23_Wash your hands. Let’s eat pizza! : 23:04
https://goo.gl/erG5mc
24_Put on your coat. It’s cold and windy. : 24:16
https://goo.gl/SPlLxm
25_Put on your pants. Is this yours? : 23:44
https://goo.gl/Najvzp
26_May I take your order? I’d like a pizza and spaghetti. : 23:32
https://goo.gl/X86wCI
27_Where is it? Go straight. : 26:12
https://goo.gl/epYDec
28_Where is the post office? Go straight. : 27:02
https://goo.gl/mJpVwH
29_Where is the restroom? Go straight and turn left. : 27:48
https://goo.gl/KM3NFA
30_Where is my cap? Where is it? : 28:41
https://goo.gl/afzpwp
31_Where is my pencil? It’s on the chair. : 29:24
https://goo.gl/VgmAqE
32_What time is it? Time for breakfast. : 30:02
https://goo.gl/Q6eakx
33_Time for lunch. What time is it? : 30:59
https://goo.gl/8mynjx
34_What are you doing? I’m jumping. : 31:46
https://goo.gl/VR4C2i
35. What are you doing? I’m making cookies. : 33:16
https://goo.gl/4ZZxQ6
36_What’s he doing? He’s dancing. : 34:23
https://goo.gl/YUj0RG
37_What did you do? We went to the park. : 35:11
https://goo.gl/kqVfRR
38_How was your summer vacation? It was great. : 36:25
https://goo.gl/nyGvib

Thanks for checking out the \”English Singsing\”.
© Amanta Inc.

Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue

English Conversation 19


Please watch more ENGLISH CONVERSATION Videos at https://www.youtube.com/playlist?list=PLzVm1SmjPKc_OnC56MbILOmdXvGV_3kE9

englishconversation

English Conversation 19

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ 11 ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *