Skip to content
Home » [Update] | มัก จะ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] | มัก จะ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

มัก จะ ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

 Tense คือ… … กาล….หรือ….เวลา

 

 

ใช้ในการแสดง เวลา ของ การกระทำ เพื่อพูดบอกเหตุการณ์นั้นๆ ว่าเป็น ปัจจุบัน อดีตหรือ อนาคต

 

ก็ลองพิจารณาประโยคง่ายๆ เหล่านี้

 

ate Khaomankai yesterday
ฉันกินข้าวมันไก่เมื่อวาน

eat Khaomankai today
ฉันกินข้าววันไก่วันนี้

will eat Khaomankai tomorrow
ฉันจะกินข้าวมันไก่พรุ่งนี้

 

สังเกตออกง่ายๆแล้วใช่ไหม ว่าส่วนมากเขามี การระบุเวลา ช่วยให้เราเข้าใจกันง่ายๆ 
จะเป็นวันนี้ เมื่อวาน พรู่งนี้ อาทิตย์หน้า ตอนนี้ เมื่อเช้า ปีที่แล้ว หรืออะไรก็ว่าไป เราจะได้เจอประกอบในบทหลังๆ บ่อยๆแน่ๆ
แต่ภาษาอังกฤษนั้น ยังมีเรื่องการผันกริยาที่ภาษาไทยเราไม่มี
(ซึ่งผมไม่ขอสอน แต่เราต้องหัดใช้ให้ชินกันเอง)

 

จากที่บอกมา เราก็แบ่งเวลาได้เป็นสามชนิด นั้นคือ
1. Present Tense – ปัจจุบัน

2. Past Tense – อดีต

3. Future Tense – อนาคต

และในแต่ละเวลากาล จะมี Tense ย่อยๆแบ่งออกเป็นหลัก อีก 4 Tense คือ

1. Simple (แสดงเวลากระทำโดยไม่ได้กำหนดว่ากระทำเสร็จตอนไหน)

2. Continuous (แสดงเวลาว่าการกระทำที่กำลังทำอยู่ (เจาะจงเวลา)

3. Perfect (แสดงเวลาที่กระทำเสร็จไปแล้ว)

4. Perfect Continuous (แสดงเวลาการกระทำนั้นได้เริ่มทำแล้ว และยังคงทำอยู่)

 

ดังนั้นสรุปจากด้านบนมี 3 กาลเวลา ย่อยออกเป็นอย่างละ 4

รวมกันทั้งหมดแล้ว เราจะมี Tense รวมกันถึง 12 Tense
Oh my god! อย่าเพิ่งสลบเหมือด ท้อแท้ที่จะศึกษาต่อละ เพราะในชีวิตจริงๆ เราใช้บ่อยๆกันไม่ครบหรอก เพราะบางตัวนั้นโอกาสใช้น้อยมากๆ
ต่อจากนี้ จะนำมาอธิบายให้เราเข้าใจกันในเอนทรี่ต่อๆไปเอง

เรียงจากความง่ายไป คนที่เก่งเรื่องไวยากรณ์ง่ายๆ อาจเกิดความเบื่อ ต้องขออภัยด้วย แต่จำเป็นต้องเขียนให้ครบเรียงกันไปทุก Tense

 

ขอแค่จำพวกนี้ให้ได้พอ…

Tense หลักพื้นฐาน 3 อย่าง

1. Present Simple:- V1
2. Past Simple : – V2
3. Future Simple : will,shall Vinfinitive (V1)

ผสานกับ รูปหลัก 2 อย่าง

รูป Continuous: be Ving
รูป Perfect : have V3

 

——————————————————————————–

รู้แค่นี้เราก็สร้างรูปแบบ tense อื่นๆ ได้แล้ว เช่น

4. Present Continuous จะเห็นว่า คือ Present รวมกะรูป Continuous 
ให้ทำดังนี้

– V1  
 be Ving

< อันบนคือ Present อันล่างคือ Continuous ให้เขียนเหลื่อมกันช่องนึง >
ซึ่งประมวลผลได้ ว่า = is,am,are Ving(V.tobe ช่อง1คือ is,am,are )

5. Present Perfectจะเห็นว่า คือ Present รวมกะรูปPerfect 
ให้ทำดังนี้

– V1  
 have V3

< อันบนคือ Present อันล่างคือPerfect ให้เขียนเหลื่อมกันช่องนึง >
ซึ่งประมวลผลได้ ว่า = has,have V3(Have ช่อง1คือhas,have )

พอเริ่มเข้าใจยังนะ…

ต่อไป เริ่มadvanceขึ้นแล้ว เป็นการผสม 3 อัน หลักการเดิม

6. Present Perfect Continuous

– V1   
 have V3  
  be Ving

Present Perfect Continuous เหลื่อมกันอย่างละช่อง
V1 have คือ has,have : V3 be = been : Ving
รวมแล้วได้ = has,have been ving

ต่อไปลองทำเองละกันนะ จะสรุปเลยว่าได้อะไร

7. Past Perfect = had V3

8. Past Continuous = was,were Ving

9. Past Perfect Continuous = had been Ving

10. Future Perfect = will have V3

11. Future Continuous = will be Ving

12. Future Perfect Continuous = will have been Ving

 

——————————————————————————–

เมื่อรู้รูปแบบแล้ว ก็มาดูกันต่อว่า มันใช้ตอนไหนกัน (จริงๆเอาแต่หลักๆก็พอ)

1. Present Simple

แสดงการกระทำที่ทำเป็นประจำ มีคำบอกพวก always , often , every , seldom ( บอกว่าไม่บ่อยก็ใช่ )
แสดงความจริงทางวิทยาศาสตร์ สัจธรรม สุภาษิต
แสดงความจริงขณะที่พูดอยู่
เช่น 
I watch TV everyday.
The world is round.
Dang and Dam are brothers.

 

2. Present Continuous

ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ มักมีคำบอกเวลา เช่น now , at the moment , litsen! look!
บอกอนาคตอันใกล้ ( coming soon )
ป.ล. กิริยาที่ใช้บ่งบอกความรู้สึก ความคิด มักไม่ใช้รูป ing เช่น see , hear , feel ,smell , want , agree (และอีกมากมาย)

เช่น
Phan talking on the phone now.
The end of Evangelionis coming soon to the theater near you.

 

3. Present Perfect

ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน มักมีคำว่า since , for , so far
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่จบไปแล้ว แต่ผลของการกระทำยังอยู่ 
แสดงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงไป มักมีคำว่า just , yet , already , recently , lately , finally , eventually 
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เคย/ไม่เคยทำ บอกจำนวนครั้งในอดีต มักมีคำว่า ever , never , once , twice ,again and again …
เช่น
I have likedjapanese animationever since I was a child.
I have turned on the radio.
I have already read this book.
Have you ever been to Neo-Tokyo?

 

4. Present Perfect Continuous

ใช้เหมือน Present Perfect แต่เน้นความต่อเนื่องของเวลาว่ายาวนาน มักมีคำว่า all week , all day ..
และใช้เน้นว่าจำดำเนินต่อเรื่อยไปในอนาคตด้วย
เช่น
I have been sitting here since 6 o’clock ( คือเน้นว่านั่งมานานแล้วแล้วก็จะนั่งต่อไป)
แต่ถ้าเป็น I have sat here since 6 o’clock ( บอกว่านั่งมานานแล้วต่อไปจะเป็นไงไม่รู้)

 

5. Past Simple

ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ได้จบลงไปแล้ว มักมีคำบอกเวลาดังนี้ yesterday , in the past , ago , in 1983 (ปีอดีต) , the other day , last ( night , week … )
คำว่า”used to” ซึ่งเป็นการใช้กับสิ่งที่เคยทำเป็นประจำในอดีต แต่ตอนนี้เลิกทำแล้ว คำว่า “used”ในความหมายนี้ จึงเติม ed เสมอ
เช่น
Dang saved my life yesterday.
She used to drink milk every night.

 

6. Past Perfect

ใช้เป็น Combo กับ Past Simple
โดยที่ ใช้กับเหตุการณ์ในอดีต 2 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน 
ที่เกิดก่อนใช้ Past Perfect ที่เกิดที่หลังใช้ Past Simple

เช่น
She had finished her breakfast before I arrived.

 

7. Past Continuous

ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีต
ใช้กับ 2 เหตุการณ์ในอดีต ( Combo กับ Past Simple อีกแล้ว )
เหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ ( ใช้ Past Continuous ) แล้วก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก ( ใช้ Past Simple )
ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่ดำเนินไปพร้อมๆกันในอดีต มักมีคำว่า while , as เชื่อม
เช่น
At 8 o’clock last night , she was studying.
While I was walking down the street , it began to rain.
You were running in the park while I was swimming in the pool.

 

8. Past Perfect Continuous

ใช้เหมือน Past Perfect แต่เน้นว่า มีเหตุการณ์อย่างแรกดำเนินมาเรื่อยจนมีเหตุการณ์หลังเกิดขึ้น
เช่น
The police had been looking for the criminal for 2 years before they caught him.

 

9. Future Simple

แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต มีคำบอกเวลาคือ tomorrow , next (time,month…) , soon , shortly

be going to ต่างกับ will,shall ตรงไหน ??

will shall แสดงความเต็มใจทำให้ (ไม่ได้วางแผน)
be going to แสดงการวางแผนล่วงหน้า
แต่ถ้าคาดการณ์ว่าอาจเกิดในอนาคตใช้ได้ทั้ง2อย่าง
กรณีต่อไปนี้ห้ามใช้ be going to แทน will shall

เหตุการณ์แทนความจริง
ไม่นิยมใช้กับ V1 ที่แสดงความรับรู้ ความคิดเห็น
ไม่นิยมใช้กับ if clause
แต่ถ้าประโยคมีคำเชื่อมพวก when,before,after,as soon as,until ประโยคที่ติดกับคำเชื่อมจะเป็น present Simple แต่อีกประโยคจะเป็น Future Simple

เช่น
Ask your teacher about it. She will help you.
I’m going to paint my bedroom tomorrow.
Ice will melt in a few minutes.
I will love you forever.
I will buy you a cake if you give me money.

 

10. Future Continuous

ใช้กับการคาดคะเนว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นๆในเวลาจุดนั้นในอนาคต
เช่น
At the same time tomorrow , I will be sitting here.

 

11. Future Perfect

ใช้คาดการณ์ว่าจะกระทำในอนาคตและจะเสร็จสิ้นเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักมีคำว่า by next week , by tomorrw by 9 o’clock
เช่น
I will have finished my homework by the time I go out on a date tonight.

 

12. Future Perfect Continuous

ใช้คล้ายกับ Future Perfect แต่เน้นว่าอาจมีการดำเนินต่อไป
เช่น
I will go to bed at 10 PM. He will get home at midnight.
At midnight, I will be sleeping.
I will have been sleeping for 2 hours by the time he gets home.

 

[Update] “Most”/ “Most of”/ “Most of the” ที่หลายคนมักใช้กันผิดรูปแบบมากที่สุด | มัก จะ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

คำว่า Most แปลว่า “มากที่สุด” และมันก็เป็นหนึ่งในคำที่หลายคนมักใช้กันผิดรูปแบบมากที่สุดคำหนึ่งเลยก็ว่าได้ ในกรณีที่ใช้เพื่อที่จะบอกว่า “ส่วนใหญ่” เพราะมันมีอยู่ 3 รูปแบบหลักๆ

1) Most

ถ้าเราจะใช้คำว่า Most คำเดียว ในความหมายว่า “ส่วนใหญ่” ก็ต้องเอาไว้อยู่ข้างหน้าคำนามที่เราจะกล่าวถึงได้เลย

ตามหลักโครงสร้าง “most + noun”

ซึ่งอาจจะอยู่ต้นหรือท้ายประโยคก็ได้

ตัวอย่างเช่น

Most children love candy.
(เด็กส่วนใหญ่ชอบลูกอม)

Baby is likable for most people.
(เด็กทารกเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่)

2) Most of

การใช้ most of จะมีความหมายว่า “ส่วนใหญ่” เหมือนกัน แต่โครงสร้างจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย คือ

“Most of + Possessive + noun”

ซึ่งถ้ายังจำกันได้ Possessive ก็คือสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของนั่นเอง

Stranger Things

ตัวอย่างเช่น

Most of friends are younger than me. (แบบนี้ผิด)

Most of my friends are younger than me. (แบบนี้ถูก)

3) Most of the

ต้องขออธิบายก่อนว่า the เป็นเพียงหนึ่งในคำนำหน้านาม ซึ่งยังมีอีกหลายๆตัว (these, those) ที่เราสามารถใช้ได้ตามแต่บริบทของประโยคนั้นๆ แต่ในที่นี้ เราจะมาพูดถึงการใช้ Most of the กันก่อน

โครงสร้างของการใช้ ก็เหมือนกับคำว่า Most เลยครับ คือ

“Most of the + noun”

ตัวอย่างเช่น

Most of the space was occupied by huge crates. (ไม่ใช่ Most space)

ส่วนคำนำหน้านามอื่นๆ เราจะใช้ในความหมายเฉพาะเจาะจงถึงกลุ่มคน สัตว์ หรือสิ่งของที่เราต้องการกล่าวถึง

ตัวอย่างเช่น

Most of these books are inspirational books.
(หนังสือเหล่านี้ส่วนใหญ่ เป็นงานเขียนที่ให้แรงบันดาลใจ)

สังเกตดีๆนะครับว่า ไม่ว่าจะใช้ Most/ Most of/ Most of the คำนามที่ตามหลังมาจะต้องเป็นรูปพหูพจน์ หรือไม่ก็เป็นคำนามที่นับไม่ได้เท่านั้น อย่าพลาดประเด็นนี้เวลาทำข้อสอบนะคร๊าบบ

*สำหรับใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถกดปุ่ม inbox มุมขวาล่าง ทักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ*

คำถามทดสอบ:

1) ข้อใดเขียนได้ถูกต้อง
a. Most of the people who are working here are from Asian countries.
b. Most of these people are from Asian countries.
c. ผิดทั้ง a. และ b.
d. ถูกทั้ง a. และ b.

2) ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
a. คำนามที่ตามหลัง Most ต้องเป็นนามพหูพจน์
b. คำนามที่ตามหลัง Most ต้องเป็นนามนับไม่ได้
c. คำนามที่ตามหลัง Most ต้องเป็นนามเอกพจน์
d. ถูกทั้ง a. และ b.

3) ข้อใดเขียนได้ถูกต้อง
a. Most novels have a happy ending.
b. Most novels has a happy ending.
c. Most novel has a happy ending.
d. ถูกทั้ง a. และ b.

เฉลย
1. (ข้อ d.) เพราะการใช้คำนำหน้านามในบริบทของประโยคทั้งสองแบบนั้น สามารถใช้ the และ these ได้ตามลำดับครับ

2. (ข้อ d.) ไม่ว่าจะใช้ Most/ Most of/ Most of the คำนามที่ตามหลังมาจะต้องเป็นรูปพหูพจน์ หรือไม่ก็เป็นคำนามที่นับไม่ได้เท่านั้นครับ

3. (ข้อ a.) เพราะคำที่ตามหลัง Most ต้องเป็นพหูพจน์ และจึงต้องใช้คู่กับ have ไม่ใช่ has ครับ


คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่คนไทยบางส่วนมักจะอ่านผิดกัน! สำเนียงบริติช 🇬🇧 Thai learning English 🇹🇭


วันนี้มาแนววิชาการ มีสาระ ขึ้นมาบ้างนะคะ เราจะมาฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนไทยบางส่วนมักจะออกเสียงผิดๆ กัน หนึ่งในนั้นคือตัวเราเองค่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหน จะมีเจ้าของภาษามาฝึกให้เราออกเสียงให้ถูกกันค่ะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ตรงนี้ค่ะ
For more videos click คลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจ คลิ๊กดูได้เลยค่ะ
TIM HORTONS 🇨🇦|Winter walking|Popular coffee shop chain in Canada ร้านกาแฟสุดฮิต ในแคนาดา
https://www.youtube.com/watch?v=KoSKu8aY8Uw
เงินดอลลาร์แคนาดา 💵 🇨🇦 แลกเงินไทยได้กี่บาท?!? 🇹🇭 รีวิวเงินดอลลาร์มีกี่แบบ?CANADIAN DOLLAR 💸 💵
https://www.youtube.com/watch?v=YqYdzl77Wg\u0026t=20s
ฝรั่งตำส้มตำครั้งแรกในชีวิต‼️จะออกมาเป็นยังไง⁉️ใส่พริกเยอะมาก 🌶🌶🌶🥵 https://www.youtube.com/watch?v=UQ86y2n0s
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ศัพท์อังกฤษที่มักออกเสียงผิด เรียนภาษาอังกฤษ 10คำศัพท์ที่ออกเสียงผิดมาตลอด สำเนียงบริทิช subscribes​ lifeintheuk​ lifeinnorthernireland​ lifestyle​ koratanduk​ ชีวิตในต่างแดน​ ชีวิตในต่างประเทศ​ คนไทยในยูเค​ คนไทยในไอร์แลนด์เหนือ​ คนไทยในต่างแดน​ คนไทยในต่างประเทศ​ สะใภ้อังกฤษ​ สะใภ้ยูเค​ คนโคราชบ้านเอ็ง​ ไลฟ์สไตล์​ จิงเกิลเบลส์intheuk​ เมียฝรั่ง
Please subscribe กดติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ กดตรงนี้นะ
https://www.youtube.com/channel/UCo4OnmIh2upRCTjGMFPSp5g
Thank you so much for your support
ขอบคุณทุกๆ การรับชมค่ะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่คนไทยบางส่วนมักจะอ่านผิดกัน! สำเนียงบริติช 🇬🇧 Thai learning English 🇹🇭

5 สิ่งที่ต้องทำทุกวันให้เราเก่งภาษาขึ้นอย่างรวดเร็ว (Ver. LIVE สอนยาว) | ดูแบบสรุปย่อใน comment นะคะ


ใครไม่อยากดูแบบยาว คะน้าสรุปทั้งหมดมาให้ใน 5 นาทีแล้ว !! ลุย !!
ดูที่ video นี้เลยค่า 👉 https://youtu.be/_VDNUDkH3SM
เนื่องจาก Video นี้ ถูกตัดมาจาก LIVE สอนยาว เลยเนื้อหาค่อนข้างยาว
ถ้าเลือกดูแบบยาว สามารถกดตาม Timestamp/chapter ที่แบ่งให้ไว้ได้เลยนะคะ ^^
Timestamp:
0:00 Introduction
0:23 1. Language Trigger
07:35 2. Input
18:30 3. Output
32:45 4. Personal Connection
37:37 5. Recall (Spaced Repetition)
______________________________________________
ผิดพลาดประการใดให้อภัยข้าน้อยด้วย
LIVEสอนยาวดูตัวสั้นแบบสรุปได้ที่commentนะคะ เก่งภาษาอังกฤษ
ดีใจจัง ที่คุณตั้งใจพัฒนาทักษะ
และพร้อมเก่งขึ้นไปด้วยกัน ! 🧠🌟
อยากมาเรียนออนไลน์ด้วยกัน? 📚 📖
📋 วัดระดับภาษา เพื่อวางแผนการเรียนได้ ที่ selfassessment form ฟรี !
https://www.farangangmor.com/selfassessmentform/
หลักสูตรต่างๆ ของฝรั่งอั่งม้อ
Think in English คิดเป็นภาษาอังกฤษ พูดได้คล่องไม่ต้องท่องจำ
https://www.farangangmor.com/course/thinkinenglish/
พูดฝรั่งได้ดั่งเสก Online Course
https://www.farangangmor.com/course/speaklikemagic/
PRONUNCIATION พูดเหมือนเด๊ะ ออกเสียง เป๊ะเวอร์
https://www.farangangmor.com/course/pronunciation/
CONVERSATION สนทนาลื่นไหล มั่นใจร้อยเปอร์
https://www.farangangmor.com/course/conversation/
English for Career Development เรียนอังกฤษ ติดเทอร์โบ พูดได้โปรเติบโตในงาน
https://www.farangangmor.com/course/englishforcareerdevelopment/
Speak Brilliantly Excel at Public Speaking \u0026 Presentation in English
พรีเซ้นต์เป็นภาษาอังกฤษ ได้โดดเด่น โดนใจ เป็นมืออาชีพ!
https://www.farangangmor.com/course/speakbrilliantly/
Teach English It’s Cool สอนภาษาออนไลน์ได้ด้วยหลักสูตรนี้
https://forms.gle/WzX8gZdwyS3QhM7s5
________________________________
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ให้ไม่พลาด content แบบนี้📱❤️
Facebook: ฝรั่งอั่งม้อ
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/
IG: farang_angmor
https://www.instagram.com/farang_angmor/
LINE: @farangangmor
https://lin.ee/cjP5cGv
Tiktok: @farangangmor
https://vt.tiktok.com/A5GEg6/
Website:
http://farangangmor.com/

5 สิ่งที่ต้องทำทุกวันให้เราเก่งภาษาขึ้นอย่างรวดเร็ว (Ver. LIVE สอนยาว) | ดูแบบสรุปย่อใน comment นะคะ

5 คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่เรามักจะออกเสียงผิด!!!


อังกฤษเพิ่มเติมครูอาร์ท

5 คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่เรามักจะออกเสียงผิด!!!

How are you going? ≠ คุณจะไปยังไง


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

How are you going? ≠ คุณจะไปยังไง

Talking about Tendencies มักจะ/ มีแนวโน้ม ในภาษาอังกฤษพูดอย่างไรบ้าง


Talking about Tendencies มักจะ/ มีแนวโน้ม ในภาษาอังกฤษพูดอย่างไรบ้าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ มัก จะ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *