หนังสําเนียงอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว
Dek-D.com
วันนี้
พี่พิซซ่า
กลับมาพร้อมกับภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย น้องๆ คนไหนที่อยากไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียจะได้เตรียมตัวพร้อมรับมือกับคำทักทายที่ว่า “ฮาว อาร์ ยู ทูดาย?”
ก่อนที่จะไปรู้จักกับภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนค่ะว่าเพราะอะไรมันถึงต่างจาก
British English
หรือภาษาอังกฤษแบบ
อังกฤษ ทั้งที่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาราชการแท้ๆ ^^ ชาวผิวขาวที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ประเทศออสเตรเลียในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมาจากประเทศอังกฤษค่ะ
ซึ่งนักโทษเหล่านี้เป็นนักโทษทางการเมืองที่เป็นชาวไอริช สก็อต เวลส์ และชาวเมืองต่างๆ รอบนอกประเทศอังกฤษ ที่ไม่ได้ใช้ภาษากลางในชีวิตประจำวัน ลองนึกภาพว่าเอาแต่คนที่ใช้ภาษาถิ่นภาคต่างๆ ไปรวมกัน แถมบางคนก็ใช้ภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อไม่ได้เจอภาษากลางชัดๆ เป็นเวลานาน สำเนียงก็ต้องต่างออกไปอยู่แล้วค่ะ
นอกจากประเด็นเรื่องภาษาที่นำติดตัวมาแล้ว พอย้ายมาอยู่อีกด้านของโลก ทำให้ได้พบเจอสิ่งแปลกๆ มากมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จะเรียกก็เรียกไม่ถูก จึง
ต้องใช้ภาษาพื้นเมืองที่มีอยู่แล้วบนเกาะมาเรียกสิ่งต่างๆ แทน เป็นการเพิ่มคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับภาษาอังกฤษเดิมค่ะ ซึ่งภาษาพื้นเมืองที่ใช้ส่วนใหญ่เป็น
ภาษาของชาวอะบอริจิน
ค่ะ เพราะเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศ
ดังนั้นภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลียหลักๆ จึงมีส่วนผสมของภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ภาษาอังกฤษตามถิ่นต่างๆ ในประเทศอังกฤษ และภาษาชาวพื้นเมือง
ออสเตรเลียค่ะ นี่ยังไม่ได้รวมภาษาอื่นๆ ที่รับมาใหม่ตลอดเวลาเลยนะคะ
ถ้าไม่ใช่คนที่เก่งในการฟังสำเนียง
British English
ก็จะจับความต่างยากนิดนึง แต่ถ้ารู้ว่าสำเนียงแบบอังกฤษเป็นยังไง ก็จะรู้สึกทันทีว่าอันนี้มันแปร่งไปใช้ได้
เลยนะ อย่างสระเสียง
/อิ/
ในสำเนียงออสเตรเลียจะออกเสียงยานขึ้นค่ะ เช่น
fish and chips
ที่ปกติอ่านว่าฟิช แอนด์ ชิพส์ ในสำเนียงออสเตรเลียจะกลายเป็น
ฟีชช แอนด์ ชีพพส์
ค่ะ
ส่วนเสียงที่แยกความต่างได้ง่ายๆ แบบที่เราเอามาพูดถึงกันเยอะคือเสียง
/เออิ/
ค่ะ เช่นคำว่า
day
สำเนียงออสเตรเลียจะกลายเป็น /ดาย/ ออกเสียงเป็น
/อาอิ/
แทน ส่วนเสียง
/อาอิ/
แบบปกตินั้นจะกลายเป็นเสียง
/อออิ/
แทนเช่นคำว่า
nine
จะอ่านว่า /นอย/ แทนค่ะ
แม้ส่วนใหญ่จะเหมือนกับของ
British English
แต่ก็มีคำศัพท์ในสไตล์ของตัวเองเยอะค่ะ เช่น
amber fluid
เบียร์ (น้ำสีอำพัน ตรงตัวมาก)
cut lunch
แซนด์วิช (อาหารกลางวันที่ตัดมา นี่ก็ตรงตัว)
oil
ข้อมูลข่าวสาร (information)
snag
ไส้กรอก (sausage)
sun-bake
อาบแดด (ที่อื่นใช้อาบแดด แต่ที่นี่ร้อนจนต้องเป็นอบแดด)
thongs
รองเท้าแตะแบบคีบ (flip-flops)
tucker
อาหาร (food, meal)
นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์ที่มาจาก
ภาษาชาวอะบอริจิน
ด้วย แต่จะเป็นพวกชื่อเฉพาะของสิ่งที่ไม่เคยเห็นในอังกฤษมาก่อนอย่างชื่อสัตว์ สิ่งของ สถานที่ ต้นไม้
หรือชื่อเรียกพิธีกรรมในเผ่าต่างๆ เช่น
kangaroo,
koala, wombat, billabong, boomerang
อีกหนึ่งข้อสังเกตของคำศัพท์ออสเตรเลียคือ ชอบเรียกชื่อ
ยี่ห้อสินค้า
จนติดปากกลายเป็นชื่อสิ่งของนั้นๆ ไปแทนค่ะ อย่างบ้านเราชอบเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บ
เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่า หรือเรียกน้ำยาลบคำผิดว่าลิควิด ทั้งที่จริงๆ เราอาจซื้อยี่ห้ออื่นก็ได้ ไปดูยี่ห้อสินค้าติดปากในออสเตรเลียกันค่ะ
Duco
สีสำหรับพ่นรถยนต์
Esky
กล่องเก็บความเย็น
Liquid Paper
น้ำยาลบคำผิด เรียกเหมือนบ้านเราเลย (แต่บางพื้นที่จะฮิตอีกยี่ห้อหนึ่งจึงเรียกว่า
Wite-Out
แทน)
Manchester
ผ้าปูเตียง (เพราะเมืองแมนเชสเตอร์นอกจากจะโด่งดังเรื่องฟุตบอลแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตผ้าลินินปูเตียงที่ชาวออสเตรเลียนิยมใช้ทั้ง
ประเทศ ห้างบางที่จะใช้เป็นชื่อแผนกเครื่องนอนไปเลยด้วยซ้ำ)
คำศัพท์ใน
Australian English
หลายคำ มักเป็นคำย่อของศัพท์เดิมที่มีอยู่ แล้วเติมเสียงท้ายเป็น
/โอ/
หรือ
/อิ/
ค่ะ ไม่ได้ทำเพื่อให้ดูน่ารักสดใสนะคะ แต่
เพราะภาษานี้ชอบพูดอะไรย่อๆ ค่ะ ประโยคยังย่อกันเป็นเรื่องปกติ อย่าง
Are you all right?
(คุณโอเคป่ะ) ก็ชอบถามแค่
You right?
ที่ฟังกี่ทีพี่ก็นึกว่าเป็นทาง
ขวาของพี่ (your right) หรือไม่ก็ถามว่าถูกไหม 555 กลับมาที่คำลงท้ายด้วยโอ้ๆ อี้ๆ กันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรที่ควรรู้บ้าง
ambo
ambulance officer
เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาล
arvo
afternoon
ตอนบ่าย
bushie/bushy
bush person
คนที่อยู่บ้านนอกมากๆ ไกลตัวเมือง หรือคนที่ไม่รู้เลยว่าสมัยใหม่ไปถึงไหนกันแล้ว ยังล้าหลังอยู่
dermo
dermatologist
แพทย์ผิวหนัง
footie/footy
football
ฟุตบอล
garbo
garbage man
คนเก็บขยะ
gyno
gynaecologist
นรีแพทย์
journo
journalist
นักข่าว
milko
milkman
คนส่งนม (ดูญี่ปุ่นเนอะ มิลค์โกะ 555)
mossie/mozzie
mosquito
ยุง
sickie
day’s sick leave, sick person
วันที่ลาป่วย หรือคนที่ป่วยไม่มาโรงเรียนหรือทำงานค่ะ
sunnies
sunglasses
แว่นกันแดด
surfie/surfy
surfer
นักเล่นเซิร์ฟ
รวมไปถึงบรรดาชื่อเล่นฝรั่งด้วยนะคะ จากแดนเป็นแดนนี่ บ๊อบเป็นบ๊อบบี้ ที่นี่ยังฮิตลงท้ายด้วย /โอ/ ทำให้ไม่เหมือนชื่อเล่นทางตะวันตกค่ะ เช่น Johno
(จอห์นโน่) Jacko (แจ๊คโก้) หรือ Robbo (ร็อบโบ้) ก็ลดความจำเจของชื่อฝรั่งลงได้เยอะเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าชื่อโจ ก็ไม่ต้องแปลงเป็นโจโอ้ก็ได้ โจอี้เหมือน
เดิมดีอยู่แล้วเนอะ 555
แล้ววันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม อย่าลืมติดตามกันนะคะว่า
พี่พิซซ่า
จะนำเสนอเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้รู้จักกัน ส่วนใครอยากอ่านเรื่องราวสนุกๆ
เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
www.dek-d.com/studyabroad
TWITTER: @PiZZaDekD
ข้อมูล
http://en.wikipedia.org/wiki/Australian_Englis
hhttp://australiannationaldictionary.com.au/index.php
http://www.anu.edu.au/a-z/?s=0
http://dea.brunel.ac.uk/cmsp/home_yan_qin/intro/intro_au.htm
ภาพประกอบ
www.michellehenry.fr,
kids.britannica.com
www.australiangeographic.com.au,
www.tehcute.com
adventureseekersoz.blogspot.com,
xaxor.com
Table of Contents
[NEW] ฝึกภาษาผ่านการดูหนัง! รวม 7 หนังดีสุดปัง ช่วยอัปสกิลพูด-ฟัง พร้อมเพิ่มคลังศัพท์แบบนับไม่ถ้วน | หนังสําเนียงอังกฤษ – NATAVIGUIDES
มาเริ่มกันที่
‘High School Musical’
หนังมิวสิคัลเรื่องดังจาก Walt Disney หนังเรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ภาค แต่ละภาคก็จะมีการดำเนินเนื้อเรื่องที่แตกต่างหนังกันออกไป อย่างภาคแรกจะเล่าถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง ‘Troy Bolton’ หนุ่มนักบาสตัวท๊อปของโรงเรียนกับ ‘Gabriella Montez’ สาวสวยนักเรียนใหม่ที่มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง พวกเขาบังเอิญเจอกันครั้งแรกในงานปาร์ตี้และหลังจากนั้นเสียงเพลงและสถานการณ์อันวุ่นวายก็ดลบันดาลให้พวกเขาได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันจนพัฒนาเป็นความสัมพันธ์อันสุดแสนจะโรแมนติก ><
ขอคอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่าดีทุกภาค ไม่ว่าเนื้อเรื่องตัวละครจะถูกปรับถูกเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ความสนุกและความอลังการของโปรดักชันก็ยังคงไว้ให้เราได้เห็นอยู่ตลอด ส่วนใครที่อยากจะอัปสกิลการฟังยิ่งต้องห้ามพลาดเพราะนอกจากตัวประโยคและบทสนทนาในเรื่องนี้จะค่อนข้างฟังง่าย เข้าใจง่าย และไม่ค่อยซับซ้อนแล้ว
เพลงประกอบ
ก็ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ช่วยทั้งเรื่องการฝึกฟังและเพิ่มคลังศัพท์ให้ด้วย ถูกใจแฟนหนังอย่างพี่เป็นที่สุดค่ะ
อีกหนึ่งหนังมิวสิคัลน้ำดีที่สร้างความประทับใจให้คนดูตั้งแต่ภาคหนึ่งจนถึงภาคสาม เพราะนอกจากเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เกิดขึ้นจากการรวมวงเพื่อ
แข่งขันร้องเพลง Acapella
จะลึกซึ้งกินใจจนใครหลายคนต้องเสียน้ำตาให้แล้ว
‘Pitch Perfect’
ยังเป็นหนังดังที่ขนเอานักแสดงคุณภาพมารวมกันไว้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Anna Kendrick, Rebel Wilson, Brittany Anne Snow หรือ Skylar Astin Lipstein ก็มาปรากฏให้เราเห็นแบบตัวเป็นๆ ในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดชีวิตของกลุ่มเพื่อนในมหาวิทยาลัย เราจึงจะได้ยินคำสแลงภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลยค่ะ แต่ถึงภาษาที่ตัวละครใช้จะไม่ใช่ภาษาทางการ สำเนียงและการออกเสียงผ่านบทพูดและบทเพลงที่ค่อนข้างชัดและเป็นเอกลักษณ์ก็สามารถช่วยพัฒนาทั้งการพูดและการฟังของเราได้ไม่แพ้หนังเรื่องไหนเลยค่ะ ใครที่ชอบดูหนังฟังเพลงก็เก็บหนังเรื่องนี้เข้าลิสต์ไว้ได้เลย
‘American Promise’
เป็นหนังสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต 13 ปีของ ‘Idris’ และเพื่อนสนิทอย่าง ‘Seun’ ทั้งคู่เป็นเด็กชายชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่มาอยู่อาศัยในอเมริกา แม้ว่าความฉลาดและความสามารถของพวกเขาจะทำให้คนใน Dalton โรงเรียนดังที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวผิวขาวยอมรับได้ แต่ชีวิตวัยเรียนของพวกเขาก็ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนเด็กคนอื่นๆ เลยละค่ะ พวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทั้งเพื่อน ครู และสังคมยอมรับ ใครเป็นคอหนังสารคดีบอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องห้ามพลาด! เพราะนอกจากตัวหนังจะให้เผยให้เห็นมุมมองเรื่องความแตกต่างทางสังคมแล้ว เราในฐานะผู้ชมยังจะได้เรียนรู้บริบททางวัฒนธรรมของอเมริกาอีกด้วย พี่เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะให้ข้อคิดดีๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนอย่างแน่นอน พูดอย่างเดียวคงไม่พอขอการันตีคุณภาพด้วย 2 รางวัล ‘Sundance Film Festival’ และ ‘New York Film Festival 2013’ ไปเลยค่า
พักจากสารคดีมาเอาใจสายแอนิเมชันกันหน่อย! น้องๆ หลายคนคงเคยได้ดูและรู้จักกับสองมอนสเตอร์คู่ซี้ Sully และ Mike ที่ได้ปรากฏตัวให้เห็นครั้งแรกในหนังเรื่อง
‘Monster Inc.’
แต่นั่นก็เป็นเรื่องราวตอนที่ทั้งคู่เติบโตอยู่ในวัยทำงานและได้ใช้ชีวิตอิสระตามที่ต้องการแล้ว แต่กว่าที่จะมาซี้กันขนาดนี้ พวกเขาก็ต้องฝ่าฝันเรื่องราวสุดวุ่นวายในรั้ว
‘Monsters University’
สถานที่แรกที่ทำให้พวกเขาได้เจอกันนั่นเองค่ะ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นแอนิเมชันทำให้โครงสร้างประโยคและคำศัพท์ที่เราจะได้เจอมันอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกสกิลการฟังภาษาผ่านการดูหนังแบบสุดๆ บอกตรงนี้เลยว่าตลอด 1 ชั่วโมง 44 นาทีที่หนังดำเนินไปน้องๆ จะสามารถเก็บศัพท์ไปใช้ได้แบบนับไม่ถ้วนเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาหนังสร้างแรงบันดาลใจที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะและคอนเทนต์มิตรภาพระหว่างเพื่อนละก็ พี่ขอแนะนำเรื่องนี้เลยยย
‘Whiplash’
ถ่ายทอดเรื่องราวของ ‘Andrew Neyman’ หนุ่มมือกลองมากความสามารถ ความทะเยอทะยานและความต้องการเป็นนักดนตรีอาชีพทำให้เขาตัดสินใจเข้ารับการฝึกกับ ‘Terence Fletcher’ เทรนเนอร์ชื่อดังแห่งวงการดนตรีแจ๊ส การฝึกฝนครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มข้นและหนักหน่วง เขาทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และเวลาแทบจะทั้งหมดที่เขามีไปกับการตีกลอง จนต้องเลิกกับแฟน ต้องห่างจากครอบครัว แต่พอนานวันไป Andrew ก็เริ่มจัดการกับตารางชีวิตของตัวเองไม่ได้ เขาต้องแบกรับทั้งความคาดหวัง ทั้งความกดดันเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว ความพยายามครั้งนี้จะทำให้เขาประสบความสำเร็จและสามารถเป็นนักดนตรีที่ดีได้หรือไม่ ไปติดตามกันต่อได้ในหนังเลยค่า
ด้วยความที่ ‘Whiplash’ เล่าถึงเรื่องราวของผู้ใหญ่วัยทำงาน ภาษาที่พูดกันในหนังเลยอาจจะฟังยากขึ้นมาหน่อย แต่รับรองว่าถ้าได้ดูคือจะมีประโยชน์กับการเรียนภาษาอังกฤษของน้องๆ มาก เพราะนอกจากจะได้ซึมซับการออกเสียงและสำเนียงแบบอเมริกันแท้ๆ แล้ว หนังเรื่องนี้ยังมีการใช้
‘Phrasal Verbs’
หรือกริยาวลีที่ค่อนข้างหลากหลายในบทสนทนาอีกด้วย ที่พี่พอจำได้ก็อย่างเช่น ‘mess with somebody’ ที่แปลว่า กวนใจ / สร้างปัญหาให้ และ ‘take somebody out’ ที่มีความหมายทั่วไปว่าการพาออกไปข้างนอกโดยมีการวางแผนไว้แล้ว แต่สามารถใช้เป็นคำสแลงซึ่งแปลว่า ลอบสังหาร / สั่งเก็บ ได้นั่นเอง
‘Spare Parts’
เป็นหนึ่งในหนังสร้างแรงบันดาลใจที่พี่อยากจะเอามาแชร์ให้น้องๆ ได้ดูกัน เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กมัธยม 4 คนที่ใฝ่ฝันอยากจะชนะการแข่งขันประกอบหุ่นยนต์ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจาก ‘George Lopez’ ในการจัดตั้งชมรมหุ่นยนต์ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำตามความฝันในครั้งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีทั้งประสบการณ์และความรู้ แต่ George ก็ยังมองเห็นพรสวรรค์และออร่าวิบวับที่เปล่งประกายออกมาจากตัวพวกเขา และถึงประเด็นปัญหาของหนังเรื่องนี้จะดูเครียดๆ ไปหน่อยแต่เชื่อเถอะค่ะว่าบทสรุปของมันสวยงามมากจริงๆ แถมระหว่างทางเรายังจะได้เจอะเจอกับคำศัพท์ใหม่ๆ และได้รับแง่คิดที่จะช่วยปลุกกำลังใจในการเรียนอีกด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะจบยังไง พวกเขาทั้ง 5 จะสามารถเอาชนะแชมป์เก่าตัวเต็งจากมหาวิทยาลัยดังด้านเทคโนโลยีได้หรือไม่ ก็ตามไปลุ้นกันในหนังได้เลย
To All The Boys I’ve Loved Before (2018)
ฝึกภาษาอังกฤษจากหนัง Twilight EP.1
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
เรียนตอนต่อไป https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk8A4Ny8TVQ5X6ZU2unECMbU
ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันยากที่ความตั้งใจฝึกของเราเอง วันนี้ผมเลยอยากมาแบ่งปันเรื่องของตัวเองที่ฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนังจนทำให้พูดได้ภายในเวลา 2 เดือน เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์และแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่ สิ่งที่สำคัญคือเราต้องฝึกอย่างตั้งใจและต่อเนื่อง เพราะผลลัพท์มันไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันสองวัน
ฝึกอังกฤษจากหนัง หนังฝึกภาษาอังกฤษ twilight ฝึกอังกฤษด้วยตัวเอง
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
Script
Bella: You’re impossibly fast and strong. Your skin is pale white and icecold. Your eyes change color. And sometimes you speak like. . . like you’re from a different time. You never eat or drink anything. You don’t go out in the sunlight. How old are you?
Edward: Seventeen.
Bella: How long have you been seventeen?
Edward: A while.
Bella: I know what you are.
Edward: Say it. Out loud. Say it.
Bella: Vampire.
Edward: Are you afraid?
Bella: No.
Edward: Then ask me the most basic question. What do we eat?
Bella: You won’t hurt me. Where’re we going?
Edward: Up the mountain. Out of the cloud bank. You need to see what I look like in the sunlight.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
แนะนำ 5 ซีรี่ส์ฝึกภาษาอังกฤษ ใน Netflix
นอกจากหนังแล้ว ซีรี่ส์ก็เป็นอีกอย่างที่เหมาะมากสำหรับการฝึกฝนภาษาอังกฤษและดูเหมือนจะได้ผลดีมากกว่าหนังซะอีก เพราะซีรี่ส์มีการดำเนินเรื่องที่ยาว หลายตอน หลายซีซั่น ทำให้เราได้ติดตามและคุ้นเคยกับตัวละคร ภาษา วัฒธรรม สำเนียงการพูด และยังจะได้ยินประโยคและคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ทำให้เราเรียนรู้และจดจำได้ดีมาก
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
Learning english Cartoon music for kids | ฝึกภาษาอังกฤษ. เพลงการ์ตูนสำหรับเด็ก
รวมเพลงใต้ใหม่ล่าสุด 2564 หรอยจริง100 ล้านวิว
ใครชอบฟังเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิต กดติดตามช่องไว้เลย อัพทุกวัน
มาแรงสุด เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิต
ติดตามแอดมินที่ TikTok https://vt.tiktok.com/ZSehMfgtV/
Page: https://www.facebook.com/ListenSong90
5 หนังแนะนำสำหรับการฝึกภาษา | Tina Academy S2 Ep.6
♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @tinavocab (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ หนังสําเนียงอังกฤษ