Skip to content
Home » [Update] ภาษาอังกฤษที่เจอบ่อยๆ พร้อมคำแปล เรียนรู้และฝึกใช้ให้ถูกโอกาส | ก็ แล้วแต่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] ภาษาอังกฤษที่เจอบ่อยๆ พร้อมคำแปล เรียนรู้และฝึกใช้ให้ถูกโอกาส | ก็ แล้วแต่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ก็ แล้วแต่ ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

สำหรับคนที่หัดพูด ฝึกฝนภาษาอังกฤษกันใหม่ๆ เพื่อไม่ให้น่าเบื่อเกินไป เรามีสำนวนภาษาอังกฤษเก๋ๆ แต่ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ มาฝากค่ะ จะเอาไปตั้งสถานะในเฟซบุ๊ก เวิ่นเว้อในสถานะของ Line หรือจะเอาไปโพสต์ไว้ใน Instagram ก็ไม่ว่ากัน ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง รวม ภาษาอังกฤษที่เจอบ่อยๆ ที่อยากให้ฝึกลองใช้งานกัน

Table of Contents

ภาษาอังกฤษที่เจอบ่อยๆ

บอกให้ใจเย็นๆ ภาษาอังกฤษ

Chill out : ใจเย็น, สงบสติอารมณ์หน่อย
Don’t get me wrong : อย่าเข้าใจผิด
Keep going : พยายามต่อไปเรื่อยๆ , เดินหน้าต่อ

To be honest, honestly : พูดตรงๆเลยนะ , บอกตรงๆ
Come to the point : พูดตรงๆ เลยดีกว่า , พูดให้ตรงประเด็น

I’m going either way : ชั้นจะทำทุกอย่าง , ยอมทำทุกทาง , ทำทุกทางไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

be my guest : ตามสบาย , ตามใจ , ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ
fall asleep : เผลอหลับ , ผลอยหลับ

Go ahead : ทำต่อไป , ต่อเลย , เชิญ.. (ตัวอย่าง A : I’ve got something to tell you (เอบอกชั้นมีอะไรจะบอก) B : Alright go ahead  (บีตอบ เอาสิพูดไปเลย))

9 สำนวนชวนเที่ยว

ดูเพิ่มเติม EnglishAfternoonz @TutorMe

Take ..

Take a chance : เสี่ยงดู , ลองซักครั้ง
Take your time : ไม่ต้องรีบร้อน
Take it easy : อย่าไปคิดมาก, ใจร่มๆ

I’m done : ชั้นพอแล้ว ( Enough )
Give up : เลิกแล้ว , ไม่ทำแล้ว, ถอยดีกว่า
Messed up : พลาด , เละเทะ , ทำพัง
Count me in : ขอแจมด้วย , ไปด้วยคน , ชั้นเอาด้วย

Hang in there : สู้ๆ , อย่ายอมแพ้
Get over it : ทำใจ , ลืมมันไปซะ
Never mind : ช่างมันเหอะ
No sweat , Not a big deal : ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต, อย่าไปสนใจ
Freak out : กลัวเว่อร์ๆ

ฉันเศร้า..

I’m so blue : ฉันเศร้าอยู่นะ , วันนี้โคตรมืดมนเลย
Why not? : ไหงงั้นอ่ะ ? ทำไมจะไม่ได้?
What going on  : อันนี้ใช้เหมือน What happened เกิดอะไรขึ้นเหรอ เป็นอะไรไปเหรอ

Have a blast : อันนี้ใช้อวยพรวันเกิดประมาณว่า สนุกให้มันระเบิดเถิดเทิงไปเลย

Hang on : รอแป๊บ (ใช้เหมือน Hold on)
Come on : ไม่เอาน่า , มานี่มา , เถอะน่า
It’s up to you : แล้วแต่คุณ

Whatever : อันนี้ใช้ตอบตอนเซ็งๆ แบบขี้เกียจจะเถียงจะคุยด้วยแล้ว ก็ whatever แปลว่า เออก็แล้วแต่ , ช่าง….

What a nice dress : ชุดสวยเริ่ด
What a good story : ช่างเป็นเรื่องราวที่ดีจริงๆ

What in the world : แปลห่ามๆ หน่อย ว่า “อะไรของมันวะ” , “มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” , ใช้เหมือน WTF แล้วก็ what the hell.

Get spoiled : ของเสียหมด , เสียหาย , พัง
Eat up : กินๆ เข้าไป
Can’t imagine : นึกไม่ออกเลย
Got it : เข้าใจแล้ว

Don’t fool me : อย่ามาหลอกกัน
Better than nothing : ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
Catch you later : ไว้ค่อยคุยกันใหม่ , ไว้เจอกันคราวหน้า
Don’t cross the line : อย่าล้ำเส้น

Figure out : คิดออกแล้ว , คิดให้ออก , คิดได้ (ตัวอย่าง: He talked so much but still I can’t figure it out what was his point เขาพูดมากเหลือเกิน แต่ชั้นก็ยังคิดไม่ออก จับใจความไม่ได้เลยว่าเค้าต้องการสื่ออะไร)

I’m all in : ทุ่มสุดตัว , ทุ่มหมดตัว ประโยคนี้ใช้เวลาที่อยากบอกใคร ประมาณว่าความรัก ครั้งนี้เราทุ่มสุดตัวเลยนะ

ข้อคิดดีๆ บางสิ่งเกี่ยวกับชีวิตเรา : ) เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง

สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ

Keep in touch , Be in touch : ติดต่อกันไว้ อย่าหายไปไหน

I’ll keep eyes on you : ฉันจะจับตาดูคุณไว้เลย (ตัวอย่าง Don’t flirt with another girls, I’ll keep eyes on you อย่าไปจีบคนอื่นนะ ชั้นจะจับตาดูคุณไว้เลย)

Keep in mind : จำใส่ใจไว้เลย

Behave! : ทำตัวให้มันดีๆหน่อย , เลิกทำตัวงี่เง่าซะที

You really piss me off : คุณทำให้ฉันโมโหสุดๆ เลย

I’m doing alright so far : จนถึงตอนนี้ฉันยังสุขสบายดีอยู่ (เอาไว้ตอบตอนที่คนถามทำนองว่า how have you been lately ? คุณเป็นยังไงบ้าง บางครั้งกับคนที่เพิ่งหักอกเราแล้วนานๆ จะส่งข้อความมาแนวถามไถ่ห่วงใย ว่าหลังจากที่ผมทิ้งคุณไปแล้ว คุณเป็นยังไงบ้าง )

Never better : ดีสุดๆ (เอาไว้ตอบเวลาคนถามว่า how you doing ? Are you alright ? ความหมายประมาณว่า ไม่เคยรู้สึกดีอย่างงี้มาก่อนเลย

Don’t be upset : อย่าหัวเสีย , อย่าอารมณ์เสีย

Fed up : สุดจะทนแล้ว , เบื่อ , เอือมระอา

Get the hell out of my life : ออกไปจากชีวิตชั้นเลย

As ever : เหมือนเคยๆ (เวลาคนถามว่าเป็นยังไงบ้าง how are u เราตอบได้ว่า as ever ก็เดิมๆ อ่ะแหล่ะ )

Of cause not : แน่นอนว่าไม่่ใช่อย่างงั้น ( A: Do you think I’m ugly? B: Of cause not! เอถาม คุณคิดว่าชั้นน่าเกลียดหรือเปล่า บี ก็ ตอบว่า เฮ้ย แน่นอนว่าผมไม่ได้คิดอย่างงั้นเลยจริงๆ )

Definitely : ใช้เหมือน yes , sure , แปลว่าใช่ , แน่นอน , จริงๆเชียว ใช้เมื่อเราเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย

Indeed : ใช้เล่ย, จริงแท้ , ( A : ​I think you are very beautiful B : Indeed !!!! เอบอกผมว่าคุณสวยมากๆ บีบอก อ่ะ แน่นอนชั้นสวยอยู่แล้ว )

Seriously ? : พูดจริงดิ่ , เอาจริงป่ะเนี่ย ?

Do you mind ? : รังเกียจไม๊ (ตัวอย่าง Do you mind telling me how old are you ? รังเกียจไม๊ถ้าจะถามว่าคุณอายุเท่าไหร่ ) และถ้าอีกคนอยากจะบอกอายุเค้าให้ตอบว่า no i do not mind , ถ้าไม่อยากบอกก็ตอบว่า yes I mind ประมาณว่าเอ่อชั้นไม่อยากบอกอ่ะ)

Age ago : นานมากๆแล้ว , เป็นชาติแล้ว (I’ve been waiting for you age ago ฉันรอคุณมาเป็นชาติแล้ว)

You are mean : คุณใจแคบจัง ใช้ได้ทั้งแนวหยอกล้อและด่าจริงจัง

I won’t let you down : ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่

Don’t let me down : อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ

Not much to talk : ไม่มีอะไรจะคุยมากนัก

Don’t be bothered : อย่าใส่ใจ , ไม่ต้องสนใจหรอก , ไม่ต้องคิดให้ยุ่งยากไป

Sorry to bother you : ขอโทษที่รบกวน

You never give me credit : คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเลย

ช่างมันเหอะ

Let it be : ช่างมัน , ปล่อยมันไป
Deal with it : จัดการมันให้ได้, ทำใจซะแล้วอยู่กับมันให้ได้
Look ! : ฟังนะ , ฟังให้ดี

Watch your mouth, Mind your language : ระวังปากหน่อย , ระวังคำพูด

I have a crush on you : ฉันหลงรักคุณเข้าแล้ว
Do me a favor : ขอร้อง , ทำอะไรให้อย่างสิ
Sick of : เบื่่อเต็มทีแล้ว

Are we good now ? : เราดีกันแล้วนะ ? เราไม่มีปัญหาต่อกันใช่ไม๊?

Head over heels : หลงหัวปักหัวปำ
The night still young : ราตรีนี้ยังอีกยาว

Put yourself in other’s shoes : เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา

Can’t believe it : เหลือเชื่อจริงๆ

สำนวนภาษาอังกฤษ ที่ใช้กันบ่อยๆ พร้อมคำแปล

Love takes time : ความรักต้องใช้เวลา
Get used to : ทำตัวให้ชินซะ
For good = Forever ตลอดกาล
Cut it out = Stop (ใช้เมื่อมีการโต้เถียงกัน เป็นการสั่งว่าให้พอได้แล้ว หรือ เลิกทำแบบนี้ซะที)

No wonder : อย่างไม่ต้องสงสัย , ไม่สงสัยเลย

Don’t wanna get involved : ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หรือ I don’t get involved ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยว, ไม่ยุ่ง

Blame on me : โทษฉันคนเดียว

There’s nothing to do with me : ชั้นไม่เกี่ยวด้วยเลย = I’m not a part of it ชั้นไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย

แชร์ไว้อ่านได้ใช้แน่นอน..

บทความแนะนำ

[NEW] เทคนิคเขียนภาษาอังกฤษ ให้เป๊ะเหมือนฝรั่งเขียนเอง!(ไม่ยากอย่างที่คิด คุณก็ทำได้) | ก็ แล้วแต่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

พูดถึงการเขียน แม้จะเป็นภาษาไทย ก็ยากแล้วสำหรับหลายๆ คน และถ้าอยู่ดันในสถานการณ์ที่ต้อง เขียนภาษาอังกฤษ ล่ะ เราจะทำยังไงดีนะ? 

ถ้าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้และรู้สึกไม่มั่นใจกับการเขียน วันนี้เรามีตัวช่วยดีๆ มาฝากกันค่ะ

ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขียน Essay เขียนเรียงความ เขียนบทความ เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เขียน Landing Page เขียนขายของ เรามี Tips ดีๆ มาฝากที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายค่ะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวซักนิดนึงนะคะ ตัวเรานั้นเรียนโรงเรียนไทยมาทั้งชีวิต และยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเรียนหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศนานๆ มาก่อน แต่เพราะมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง ที่ผ่านมาเคยทำโปรเจกต์ร่วมกับชาวต่างชาติ เขียนข่าว เขียนบทความภาษาอังกฤษ และล่าสุดก็ได้ร่วมก่อตั้ง Justoneclub.com เป็นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าสำหรับคนที่รักการพัฒนาตัวเอง และตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าในหลากหลายประเทศทั่วโลก

ที่สำคัญคือไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสมัยนี้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีมากมาย ส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรีด้วยค่ะ บทความนี้จะเน้นแนะนำเครื่องมือสำคัญๆ ที่มีประโยชน์ น่าเชื่อถือ ใช้แล้วช่วยเราได้เยอะมากๆ

แนะนำเครื่องมือช่วยเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือช่วยตรวจเช็คแกรมม่าและการสะกดคำ

Grammar หรือ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยเรียนมากันเยอะที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเขียนได้อย่าง Perfect หมดจดไม่มีที่ติ บางครั้งเราทราบแต่ก็อาจจะเผลอสะกดผิดบ้าง เช่น ลืมเติม s ต่อท้าย verb

Grammarly ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีเวอร์ชันใช้งานฟรี และรองรับการใช้งานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน..

  • Native app บนเครื่อง Mac

  • Add-in สำหรับโปรแกรม Microsoft Office บน Windows

  • Web application สามารถใช้งานได้เลยบนเว็บบราวเซอร์ ไม่จำกัด OS

หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นดังภาพนี้

เขียนภาษาอังกฤษ เช็คแกรมมาร์ grammarly

Grammarly มันสามารถช่วยเช็คแกรมมาร์ให้เรา พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขให้ เราสามารถเขียนเอกสารในโปรแกรม หรือจะ Import ไฟล์ Word (.docx) เข้าไปก็ได้ แล้วมันก็จะช่วยเช็คให้ว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง พร้อมบอกเราว่าต้องปรับยังไง รูปด้านล่างคือตัวอย่างผลลัพธ์หลังจากที่เราอัปโหลดไฟล์ Press Release ที่เราเคยเขียนใน Microsoft Word เข้าไป

use-grammarly-for-techsauce-press-release

ตามรูปคือ มันช่วยบอกเราว่าเรามีจุดที่ลืมเติม s อยู่ และมีจุดที่ลืมเติมคำนำหน้า ในที่นี้โปรแกรมช่วยแนะนำให้ด้วยว่า ควรใช้คำว่า the

นอกจากการแปะข้อความ หรืออัปโหลดไฟล์แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่อยากชี้คือ Grammarly ยังมีเวอร์ชัน Google Chrome Extension และ Firefox Add-on ด้วยนะ ซึ่งความหมายคือ มันจะช่วยเช็คแกรมมาร์ให้ทุกๆ การพิมพ์ของเราเวลาเราเล่นอินเทอร์เน็ตเลย!

ตัวอย่างนี้คือการติดตั้งบน Chrome และกำลังเปิดหน้าอีเมลเอาไว้อยู่ มันจะถามเราว่าอยากให้เช็คข้อความในอีเมลไหม? นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเหมือน Dictionary อังกฤษ-อังกฤษ ช่วยแสดงผล Definition และ Synonym ในตัวได้อีกด้วย

grammarly-on-browser

 

Shifu แนะนำ

การติดตั้งบน Browser นั้นสะดวกมากๆ เพราะแปลว่าไม่ว่าจะเป็นอีเมล เขียนสเตตัสเฟซบุ๊ก

เขียนบล็อก

บน

WordPress

มันก็จะตามอ่านและให้คำแนะนำกับเรา แน่นอนว่ามันสะดวกมาก แต่ก็อาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไปบ้าง แม้ใน Policy จะระบุว่าเขาจะไม่แชร์ข้อมูลให้ปาร์ตี้ที่สามก็ตาม แต่ตัวโปรแกรมเอง ก็มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อการปรับปรุง Product อันนี้ก็แล้วแต่ทางผู้ใช้จะลองพิจารณาดูค่ะ

เครื่องมือช่วยเช็คความอ่านง่ายของการเขียน

บางทีเรื่องที่คนกังวลอาจจะไม่ใช่เรื่องของ Grammar แต่อาจจะเป็นเรื่องการสื่อสารให้ตรงประเด็น ถ้าคุณเขียนแล้วประโยคออกมางงๆ เช่น รูปประโยคซับซ้อนเกินไป เครื่องมืออีกตัวที่คุณใช้ช่วยได้คือ Hemingway สามารถใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ หรือจะโหลด Desktop App ก็ได้

ภาพด้านล่างนี้สาธิตการใช้งาน Hemingway มันสามารถไฮไลท์บอกได้ว่าการเรียบเรียงให้ง่ายต่อการอ่าน (Readability) ของข้อความของเรานั้น ทำได้ดีแค่ไหน รวมถึงช่วยไฮไลท์จุดที่คุณควรลองดูเพื่อปรับให้มันง่ายขึ้น โดยเฉพาะประโยคที่ได้รับไฮไลต์สีเหลืองและสีแดง คือประโยคที่ค่อนข้างเป็นรูปประโยคที่ซับซ้อน 

เครื่องมือนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับงานเขียนบทความออนไลน์ในภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป ซึ่งความง่ายในการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ มากกว่าความสวยหรูของประโยค แต่เราอยากบอกว่า ไม่ต้องถึงกับยึดตามคำแนะนำมากก็ได้ เพราะมันจะแนะนำให้เราไม่ใส่ Adverb หรือ Passive voice เยอะเกินไป (ซึ่งเขาถือว่ามันทำให้ประโยคซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วสองอย่างนี้ก็มีประโยชน์มากในการแต่งประโยค) โดยส่วนตัวเรามองว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับใช้ช่วยเช็คคร่าวๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

คิดชื่อเรื่องบทความภาษาอังกฤษดีๆ ไม่ออก

“ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” พวกเราได้เคยเขียนแนะนำการตั้งชื่อบทความไปตั้งแต่บล็อกแรกๆ การตั้งชื่อสำคัญมากเพราะมันเป็นสิ่งแรกที่คนเห็น แต่ก็ยากไม่ใช่เล่นเลย แล้วทีนี้ถ้าเราต้องเขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษล่ะ ถามว่ามีอะไรที่พอเข้ามาช่วยเราได้บ้างไหม ข่าวดีคือมีค่ะ และลิงก์เหล่านี้คือเครื่องมือที่สามารถใช้ช่วยได้

Shifu แนะนำ

อันที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อช่วยนักเขียนที่เริ่มคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ไว้ใช้หาไอเดียในการเขียนบล็อกได้ ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็สามารถใช้ในการหาไอเดียได้เช่นกัน แถมเมื่อได้ไอเดียแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังช่วยให้ได้เห็นไกด์ไลน์ หรือสไตล์การตั้งชื่อบทความ ที่นักเขียนสากลนิยมใช้อีกด้วย

บทความภาษาอังกฤษ

ภาพด้านบนนี้แสดงตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จาก HubSpot‘s Blog Topic Generator เมื่อขอไอเดียในการเขียนเรื่อง Inbound Marketing หรือ Blogging ก็จะเห็นสไตล์การตั้งชื่อบทความภาษาอังกฤษ ว่านิยมเขียน Copywriting กันในรูปแบบไหน

ช่วยเขียน Rewrite หรือ Paraphrase เพื่อให้สละสลวยขึ้น

หลายๆ ครั้ง ความยากในการสื่อสารไม่ใช่เรื่องความถูกผิดของภาษา แต่เป็นเรื่องระดับภาษา ว่าที่เขียนมามันสละสลวยไหม ภาษาออกมาเป็นโทนที่เราต้องการสื่อสารหรือเปล่า โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ถูก หรือ ผิด เยอะเลยค่ะ

โชคดีที่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยี AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ ออกมาเป็น Products ให้เราเลือกใช้ ซึ่งเจ้า AI เหล่านี้สามารถช่วยแนะนำการเขียนให้กับเราได้ค่ะโดยตัวที่อยากจะขอแนะนำ มีชื่อว่า Quillbot เป็นอีกตัวที่สามารถเริ่มต้นใช้ได้เลยฟรี

จากหน้าจอเมนู Paraphraser นี้ จะเห็นว่าเราสามารถเลือก Mode การเขียนได้แบบ เช่น โหมดแบบครีเอทีฟ โหมด Formal (เป็นทางการ) โหมดเขียนให้สั้นเอง (เดิมเขียนยาวไป อยากย่อ) โหมดเขียนยาวๆ (เดิมเขียนสั้นไป อยากขยาย) เป็นต้น

ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์

อีกหนึ่งความโหดของ AI Content Writer ในปัจจุบัน คือการพัฒนาให้ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำมารีวิวให้ดู พร้อมๆ กับแชร์เทคนิคการเขียนตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ในหัวข้อถัดไปให้ด้วยค่ะ

แชร์เทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือส่วนใหญ่ที่ได้แนะนำไป สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบ ในขณะเดียวกันก็มีเครื่องมือแบบเฉพาะกิจด้วย  และนอกจากเรื่องเครื่องมือแล้ว ความจริงการรู้จักและเข้าใจ “หลักการสื่อสาร” ที่เหมาะสมกับรูปแบบนั้นๆ คืออีกหัวใจที่สำคัญไม่แพ้เรื่องทักษะด้านภาษาโดยตรงค่ะ

เขียนเมลภาษาอังกฤษ

ปัจจุบัน Email provider ต่างๆ เริ่มมีฟังก์ชัน Quick reply หรือฟังก์ชันแนะนำการเขียนมาให้ใช้งาน ถ้าใครใช้ Gmail อยู่ จะพบว่าเมื่อเราเริ่มพิมพ์ลงไป มันจะสามารถแนะนำคำหรือประโยคที่เป็นที่นิยมเขียนมาให้ด้วย (เรียกว่า Smart compose feedback) หลังจากที่ลองใช้มาสักระยะ คิดว่า AI นี้ของ Gmail เก่งใช้ได้เลยค่ะ แนะนำภาษามาได้ตรงกับรูปแบบภาษาที่นิยมใช้เขียนในอีเมลกัน

อย่างเช่นช่วงที่ขึ้นต้นประโยคแรกๆ ในอีเมล คนนิยมเขียนเพื่อตอบรับอีกฝ่าย เช่น ในที่นี้เขาแนะนำมาเป็น It’s good to hear from you.

หรือช่วงปิดท้ายอีเมล เมื่อมีคำว่า Look ขึ้นประโยคมา Gmail ก็เดาทางต่อว่าเราน่าจะอยากเขียนประโยคนี้

โดยรวมแล้วจึงทำให้การเขียนอีเมลง่ายและเร็วขึ้นค่ะ โดยปกติจะเราเองก็จะเขียนใน Gmail ลงไปเลย และตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย Grammarly ต่ออีกหน่อย

Shifu แนะนำ

ความจริง Gmail มีฟีเจอร์ Check spelling ด้วยค่ะ ถ้าเข้าบน Desktop จะอยู่ในเมนูสามจุดด้านซ้ายล่าง ได้ลองใช้แล้ว พบว่าสามารถตรวจสอบการเขียนผิดได้เบื้องต้น แต่ยังตรวจได้ละเอียดไม่เท่า Grammarly เช่น การเช็คว่าคำนามนี้ ต้องต่อท้ายด้วย s หรือไม่ต้อง ด้วย ed หรือไม่ต้อง

อีกเรื่องที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ แม้โปรแกรมต่างๆ จะช่วยเช็คและแนะนำได้เบื้องต้น แต่การเขียน Effective email นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องเรียนรู้ตัวอย่างดีๆ เพิ่มเติมกันต่อด้วยนะคะ โดยปกติแล้วอีเมลควรเขียนด้วยรูปประโยคที่อ่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้ Complex sentence (ซึ่งใช้ Hemingway ช่วยดูได้ค่ะว่า Complex เกินไปหรือเปล่า) อีเมลควรชัดเจนว่าอยากบอกอะไร Next step คืออะไร เป็นต้น

การเขียนบทความภาษาอังกฤษ

จริงอยู่ที่ AI Content Writer เหล่านี้รองรับความสามารถในการเขียนบทความแล้ว โดยสามารถนำเสนอได้ถึงระดับไอเดียหัวข้อบทความ รวมไปถึง Outline ก็ทำได้โอเคเลย อย่างในเคสนี้คือเราแค่ใส่ประเด็นลงไปว่า ‘English Writing’ โปรแกรมก็แนะนำชื่อบทความและ Outline มาเสร็จสรรพ

ทั้งนี้ เราไม่แนะนำวิธีนี้เท่าไรนะคะ เราคิดว่าดูเป็นไอเดียได้ แต่คนเขียนควรจะเป็น Leader ที่กำหนดทิศทางด้วยตัวเอง โดยปกติเราจะเขียนบทความขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วใช้โปรแกรมในการช่วยตรวจสอบ ช่วย Paraphrase บางประโยค

อีกเรื่องคือ บางคนชอบเขียนบทความเป็นภาษาไทยแล้วเอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย Google Translate จากนั้นก็อาจจะใช้โปรแกรม Paraphrase ต่อ วิธีนี้ก็ทำได้ แต่โดยส่วนตัวยังเชียร์ให้คิดและเขียนด้วยตัวเองเป็นภาษาอังกฤษเลยแต่แรก จะดีที่สุดค่ะ

Shifu แนะนำ

ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการเขียนบทความ อาจเริ่มต้นฝึกเขียนบทความในภาษาที่ตัวเองถนัดก่อน และถ้าอยากเรียนรู้วิธีการและเทคนิคการเขียนบทความตั้งแต่มือใหม่จนฝึกเป็นมืออาชีพ ขอแนะนำ คอร์สเรียน Content Writing for Beginners คอร์สนี้ และ คอร์ส Digital Copywriting สำหรับการเขียนก็อปปี้ค่ะ

การเขียน Essay หรือเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ

สำหรับการเขียน Essay หรือ เรียงความ คำแนะนำจะไม่ต่างกับการเขียนบทความมากนัก แต่ขอให้บริบทเพิ่มเติมคือ ในการเขียนบทความเพื่อลงในบล็อกต่างๆ ความง่ายในการอ่านจะมีความสำคัญ ในขณะที่เรียงความหรือ Essay มักจะใช้ในเชิงวิชาการ เช่น เพื่อการสมัครเรียนต่อ อาจต้องการรูปประโยคที่สละสลวยและโชว์ความ Advanced English มากกว่า

ในบริบทที่เราเคยเขียน Essay จริงจังเพื่อสอบชิงทุน เราจะไม่ได้ใช้เพียงแค่ตัวเอง+AI Tools แต่จะขอรับ Feedback จากเพื่อนๆ คนอ่านและผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วย

เขียน Copywriting หรือข้อความเพื่อการตลาด

ในบรรดา Use Case ทั้งหมด โดยส่วนตัวคิดว่าอันนี้ยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เพราะ Copywriting เป็นเรื่องของการกระตุ้นความสนใจ ซึ่งความถูกต้องของภาษาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือความน่าสนใจ เรายังคงใช้หลักการเดียวกันกับการเขียน Digital Copywriting ภาษาไทย ตามที่เราเองก็เคยทำคอร์สเรียนสอน แต่สิ่งที่ทำเพิ่มก็คือมีการใช้ AI Writer ช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะใน Use Case ที่ต้องการนำไปใช้งานจริง

Shifu แนะนำ

โปรแกรมที่ชื่อ Writesonic เป็นตัวที่เราพบว่ามีฟีเจอร์เพื่อการเขียนขายของและเขียนเพื่อการตลาดเยอะดีค่ะ เลือกได้ว่าต้องการเขียนสำหรับ Channel ไหน เลือกได้ทั้ง Facebook Ads, Google Ads, LinkedIn Ads, Ecommerce Copy, YouTube Copy เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาดูงานต่างๆ เพราะก็อปปี้เป็นเรื่องของความครีเอทีฟ เราไม่ได้เชื่อใจโปรแกรมอย่างเดียว 100% แต่ Research ดูคนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันว่าเขาเขียนกันประมาณไหน กลุ่มเป้าหมายของเราใกล้เคียงกันกับใคร เป็นต้น

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม

ใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึกที่ละสไตล์

แม้ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์เขียนบทความสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก่อนหน้ามาบ้างแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้เวลาปรับตัวไม่น้อยตอนเราเริ่มต้นเขียนบทสัมภาษณ์สไตล์แบบไม่เป็นทางการ เรายังไม่ชินกับแนว Lifestyle (สำหรับภาษาอังกฤษ) เพราะเดิมทีที่ประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัย จะเน้นสาย Acedemic writing มากกว่า ตอนนั้นเราจึงต้องปรับตัวนิดนึง อ่านบล็อกแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ตอนที่ต้องเขียนแนว PR ก็เช่นกัน เราต้องเรียนรู้ใหม่เยอะมาก มันจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าฝึกเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้นจริงๆ นะ

ฝึกให้ครบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวัน

ถึงแม้งานของเราจะเน้นที่การเขียนเป็นหลัก แต่เราก็ยังพบว่าการฝึกฟังและพูดนั้นมีส่วนช่วยด้วย หลักๆ แล้วมันช่วยให้เรา “คิดเป็นภาษาอังกฤษ” มากขึ้น นั่นเอง คอนเทนต์ที่ทำมาเพื่อการฟัง เพื่อการพูด การอ่าน การเขียน ก็มีความแตกต่างกันไป เพิ่มความหลากหลายของสไตล์เข้าไปในสมองมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นที่ไดอารี่สั้นๆ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนของเรา อันที่จริงแล้วมันคือสเตตัสบน Facebook นั่นเอง ซึ่งเราเขียนแบบกึ่งไดอารี่ เมื่อเราเปรียบเทียบสเตตัสเก่าๆ กับสเตตัสใหม่ๆ เราก็เห็นว่าตัวเองเขียนดีขึ้นจริงๆ  หากอยากฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถลองเริ่มจากสเตตัสภาษาอังกฤษก็ได้นะ หรือจะเขียนเก็บไว้ดูเอง เป็นไดอารี่สั้นๆ ก็ได้ค่ะ Seth Godin ก็เป็นคนนึงที่เขียนบล็อกแล้วมีคนติดตามเยอะมาก แม้ว่าบล็อกของเขาจะเป็นสไตล์ไดอารี่สั้นๆ ก็ตาม

หาคนช่วยตรวจ

วิธีการจัดการกับความไม่มั่นใจที่ดีที่สุด คือการหาคนช่วยตรวจ ถ้าให้ดี ควรเป็นคนที่สามารถแลกเปลี่ยนกันและกันได้ คือ คุณขอเขาช่วยเล็กๆ น้อยๆ  และเขาก็ขอคุณช่วยบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน

แต่ก่อนจะหาคนตรวจ ให้อากู๋ Google ช่วยตรวจให้ด้วยก็ได้ แทบทุกครั้งที่เขียน เรามักจะมีคำที่ไม่แน่ใจเรื่องวิธีการใช้ ซึ่งเราก็สามารถศึกษาการใช้คำเหล่านี้ก่อน โดยการเซิร์จอ่านเอาได้ อย่างเรื่อง Preposition มักจะเป็นเรื่องที่คนไทยใช้ผิดบ่อย เช่น Interested ต้องใช้คู่กับ in; I am interested in marketing ไม่ใช่ I am interested about marketing เป็นต้น

ทดสอบภาษาอังกฤษ

สำคัญคือต้อง ‘รู้’ ว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’ อะไร

สำคัญสุดคือตัวคอนเทนต์

ภาษา คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร และเครื่องมือน้ันมีไว้ให้ใช้งาน ไม่ได้มีไว้ให้กลัว

ภาษาเป็นเครื่องมือนึง แต่สาระจริงๆ คือตัวคอนเทนต์ ครั้งหนึ่งเราจะเขียนบทความเกี่ยวกับซอฟแวร์สัญชาติญี่ปุ่นตัวหนึ่ง เราหาข้อมูลภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงตัดสินใจหาเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วใช้ Google Translate ช่วยแปลเอา ผลลัพธ์การแปลอาจจะยังไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ แต่เมื่อเราได้อ่านแล้ว เราก็พึงพอใจกับเนื้อหา และพบว่าบทความนี้มีคุณค่ากับเรา ในการทำงานเองก็เหมือนกัน ถ้าเชื่อว่าตัวเองมีเนื้อหาที่ดี ก็ลงมือเลย ภาษาเดี๋ยวค่อยๆ พัฒนากันไปได้

สรุป

บทความนี้เราเขียนโดยแบ่งเป็นเคสการใช้งานหลักๆ ที่หลายๆ คนต้องเจอในการเขียนภาษาอังกฤษ โดยเน้นการแนะนำโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแนะนำความคิดเห็นเพิ่มเติมจากประสบการณ์ส่วนตัว ยังไงก็ตาม การเรียนภาษาอังกฤษและฝึกเขียนฝึกใช้บ่อยๆ ยังคงเป็นพื้นฐานความรู้ที่สำคัญมากๆ ที่เราไม่อยากให้ละเลยกัน

หวังว่าบทความจะมีประโยชน์เพื่อให้คุณพร้อมลุยตลาด International ไปด้วยกันนะคะ 🙂

ตาคุณแล้ว

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ขอให้คุณลองเริ่มต้นเขียนภาษาอังกฤษ เริ่มจาก Caption สเตตัสต่างๆ ไล่ไปสู่ไดอารี่ จนกระทั่งเขียนบทความภาษาอังกฤษได้ และอย่าลืมเข้าไปดูเครื่องมือต่างๆ ที่เราแนะนำและลองใช้ดูนะคะ

ใครที่ได้ลองเล่น ลองใช้ ลองทำตามแล้ว เป็นยังไงกันบ้างคะ? นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้หรือได้ลอง มาแชร์ความรู้ด้วยกันได้ที่คอมเมนต์ใต้บทความนี้เลยค่ะ 🙂

New call-to-action


Flags of All Countries of the World with Names 3th part music by Klimpers


Subscribe my videos,please.Thank you.
كل الأعلام والأناشيد من العالم العربي
Flags of All Countries of the World with Names 3th part music by Klimpers

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Flags of All Countries of the World with Names 3th part music by Klimpers

132 บทที่ ๘ ลัคนา ตอนที่ ๑


ลัคนา หมายถึง ตัวตนของเจ้าชะตา ถือเป็นหัวใจสำคัญของดวงชะตา ที่จะต้องพิจารณาก่อนเรื่องอื่นใด แม้จะมีการพิจารณาเรื่องอื่นๆ เช่น คู่ครอง , การงาน , การเงิน , ที่อยู่อาศัย ก็จำต้องดูจุดสัมพันธ์นั้นๆ กับลัคนา หรือ ดาวเจ้าเรือนลัคนา (ตนุลัคน์) ด้วยเสมอ เพราะความสำคัญเช่นนี้ โหรโบราณจึงเรียกชื่อเต็มๆ ว่า “ลัคนาธิปติ” แปลว่า “ลัคนาผู้เป็นใหญ่”
ลัคนาได้มาจากการคำนวณโดยใช้เวลาเกิดของเจ้าชะตา และสมผุสอาทิตย์อุทัย หรือ พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าในวันที่เกิด ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาท้องถิ่นมาบวก หรือ มาลบกับเวลาเกิดซึ่งเป็นเวลานาฬิกา แล้วแต่กรณี รายละเอียดในเรื่องนี้ได้เกริ่นเอาไว้บ้างแล้วในบทที่ ๔ เรื่อง การผูกดวงชะตา ส่วนเนื้อหารายละเอียดและวิธีการคำนวณหานั้น ต้องขอยกไว้ไม่นำมากล่าว ณ ที่นี้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องทำความเข้าใจกันอย่างมากทีเดียว
เมื่อคำนวณหาลัคนาว่าอยู่ในราศีใดแล้ว ราศีนั้นจะเป็นที่ตั้งของ ภพที่ ๑ หรือ เรือนลัคนา อันเป็นภพหลักที่มีความสำคัญสูงสุด เกษตรประจำราศีที่ลัคนาตั้งอยู่ เราเรียกว่า “ดาวเจ้าเรือนลัคน์” หรือ “ตนุลัคน์” จะเป็นตัวบ่งบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ของเจ้าชะตา ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปร่างหน้าตา อุปนิสัยใจคอ ชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพร่างกาย โรคภัยไข้เจ็บ แม้กระทั่ง “อายุขัย” ของเจ้าชะตา ก็ต้องพิจารณาจากลัคนา หรือ ดาวเจ้าเรือนลัคน์ เป็นสำคัญ
ในดวงชะตาที่มีดาวเจ้าเรือนลัคน์เป็นเกษตร อยู่ร่วมกับลัคนา เราเรียกว่า “เกษตรกุมลัคน์” จะเป็น ดวงชะตาชั้นเดียว คือ ไม่สามารถตรวจสอบในชั้นอื่นๆ ได้อีก หากจะเกิดเหตุดีร้ายประการใดกับเจ้าชะตาแล้ว มักจะคงเส้นคงวา ดีก็ดีใจหาย ร้ายก็ร้ายน่าดู ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดาวบาปเคราะห์ หรือศุภเคราะห์ ที่มาเกาะกุม ทำมุมให้คุณให้โทษแก่ลัคนา และดาวเจ้าเรือนลัคนานั้นด้วย
ในดวงชะตาที่มีดาวเจ้าเรือนลัคน์ไปอยู่ในภพอื่นๆ ก็จะต้องให้ความหมายไปในด้านที่เกี่ยวข้องกับภพนั้นๆ เราเรียกลักษณะเช่นนี้ว่า “สัมพันธภาพของลัคนากับเรือนอื่นๆ” ดังจะอธิบายและให้ความหมาย เพื่อนำไปใช้ในการพยากรณ์ ดังนี้
ดาวเจ้าเรือนลัคนากุมลัคนา หรือ เกษตรกุมลัคน์ ถือว่าให้คุณ แม้จะเป็นบาปเคราะห์ก็ตาม ย่อมให้คุณ แม้จะให้โทษก่อน หรือหลังก็ตาม บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ ทำสิ่งใดมักราบรื่น เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง มักพึ่งตนเองมากกว่าอาศัยการพึ่งพาผู้อื่น หากได้กระแสที่ดีจากศุภเคราะห์ในมุมที่ให้คุณ (กุม,โยค,เล็ง หรือ ร่วมธาตุ) หรือล้อมหน้าล้อมหลัง ก็จะส่งผลให้มีวาสนาบารมี ชีวิตมีแต่ความสุขสบาย แต่ในทางตรงกันข้าม หากเป็นบาปเคราะห์มาทำมุมให้โทษ (กุม,เล็ง,กากะบาด, ปลายหอก บีบเรือน หรือล้อมหน้าล้อมหลัง) อย่างนี้แม้จะเกิดมามีวาสนาบารมี แต่วิถีชีวิตอาจหักโค่น บางรายตายก่อนวัยอันสมควร หรือประสบเคราะห์กรรมที่เลวร้ายในภายหลัง
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพกฎุมพะ เจ้าชะตามักจะต้องไปข้องแวะในเรื่องของเอกสารการเงิน การติดต่อสื่อสาร การค้ำประกัน การพูด การเจรจา การประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ภพนี้เป็นภพที่เรียกว่า “ศูนยพาหะ” หากเจ้าเรือนลัคนาเป็นดาวบาปเคราะห์ ก็จะให้โทษ หรือชักนำไปในความหมายของบาปเคราะห์นั้น จะให้โทษแก่เจ้าชะตา และในเรื่องเกี่ยวกับภพที่ ๒ ทั้งหมดที่กล่าวมา ในทางตรงข้ามหากเป็นศุภเคราะห์ก็จะให้คุณ หลายรายมีฐานะความเป็นอยู่ดี และร่ำรวย ทำอะไรก็ราบรื่น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดาวเจ้าเรือนการเงิน หรือ จำนวนดาวศุภเคราะห์ หรือ บาปเคราะห์ที่อยู่ในเรือนการเงิน หรือทำมุมให้คุณให้โทษแก่ดาวเจ้าเรือนการเงินด้วย
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพสหัชชะ มักจะเดินทางไปไหนมาไหน พบปะเกี่ยวข้องกับผู้คนมากหน้าหลายตา ชอบเข้าสังคม หรือ ทำตัวเด่นในสังคม
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพพันธุ มักจะข้องแวะหรือเกี่ยวข้องพัวพันกับบ้าน ที่อยู่อาศัย การเดินทาง พี่ๆ น้องๆ ท้องเดียวกัน ชอบที่จะทำอะไร หรือมีความเห็นคล้อยตามไปกับพี่ๆ น้องๆ หรือมักคิดถึงพี่น้องพ่อแม่ก่อนตนเองเสมอ
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพปุตตะ ชีวิตมักเกี่ยวข้องผูกพันกับเด็กๆ สัตว์เลี้ยง หรือมีบริวารมาก เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีย์ในเรื่องของความรัก มักมีโชคในด้านการเสี่ยง หรือจับฉลากชิงรางวัล
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพอริ มักจะพบกับปัญหาอุปสรรคศัตรู ทำอะไรมักติดขัดก่อนเสมอ ชีวิตไม่ราบเรียบ มีคนคอยขัดขวาง กลั่นแกล้ง ไม่ชอบขี้หน้า ใช้หรือไหว้วานผู้หนึ่งผู้ใด แม้จะทำโดยอำนาจหน้าที่ ก็มักจะไม่ได้รับความร่วมมือด้วยดี
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพปัตนิ มักเกี่ยวข้องพัวพันกับคนรัก คู่ครอง เพศตรงข้าม มีอารมณ์รักใคร่ เพ้อคำนึงถึงแต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ชอบที่จะให้ฝ่ายตรงข้ามมาสนใจ หรือเอาอกเอาใจ ส่วนใหญ่มักจะมีคู่มากกว่า ๑ คน บางรายมีมากมาย ชนิดที่หาคู่เป็นตัวเป็นตนไม่ได้ก็มี
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพมรณะ ต้องระวังให้มาก ชีวิตมักประสบกับความล้มเหลว ผิดหวัง หลายคนอายุสั้น หรือสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง มักมีโรคประจำตัว ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมาน หลายคนต้องข้องแวะกับเรื่องของความเป็นความตาย เช่น เป็นหมอ พยาบาล นักเสี่ยงภัย สัปเหร่อ เจ้าหน้าที่เก็บศพ ฯลฯ เป็นต้น
ดาวเจ้าเรือนลัคน์อยู่ในภพศุภะ มักมีวาสนาบารมีเป็นที่ยกย่องนับหน้าถือตา ทำสิ่งใดมักจะราบรื่น ประสบความสำเร็จ หลายคนข้องแวะกับเรื่องต่างประเทศ หรือต่างแดน

132 บทที่ ๘ ลัคนา ตอนที่ ๑

วลาดและนิกิ เรื่องราวของของเล่นตลกที่มีชุดสำหรับเด็ก


ชุดวิดีโอที่มีของเล่นและเครื่องแต่งกายสำหรับเด็ก
สมัครสมาชิกช่อง!
Vlad \u0026 Niki ร้านค้า: https://vladandniki.com/
แอปพลิเคชันของเราบน Google Play:
https://play.google.com/store/apps/details?id=me.apptivise.vladnikita
แอพของเราใน App Store:
https://apps.apple.com/us/app/vladniki/id1497525407
VLAD Instagram https://www.instagram.com/Vlad.super.Vlad/
NIKITA Instagram https://www.instagram.com/nikitoys_official/

วลาดและนิกิ   เรื่องราวของของเล่นตลกที่มีชุดสำหรับเด็ก

แล้วแต่ เอาที่สบายใจ ภาษาอังกฤษว่าไง ??


สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ https://lin.ee/uVp0whL (@ajarnadam)
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
ภาษาอังกฤษ อาจารย์อดัม AjarnAdam

แล้วแต่ เอาที่สบายใจ ภาษาอังกฤษว่าไง ??

รวม 500 ประโยคภาษาอังกฤษ ฝึกพูด พร้อมคำอ่าน พื้นฐาน ง่ายๆ เริ่มจากศูนย์ ไม่มีพื้นฐาน ก็เรียนได้ ฟรี


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
เรียนภาษาอังกฤษ ฝึกพูด 500 ประโยคภาษาอังกฤษ สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ถามตอบ พร้อมคำอ่าน คนไม่มีพื้นฐานกสามารถเรียนได้ ฝึกฟังภาษาอังกฤษ ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ด้วยตัวเอง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี กับ อ.ต้นอมร
Basic Daily English Conversation : 500 English Phrases and Sentences
รวมวิดีโอฝึกฟัง ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLrstMNlAK0Iu3XViE08wFLjyxyRFFhKYl
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บทสนทนาภาษาอังกฤษ ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100% โดย อาจารย์ต้นอมร

รวม 500 ประโยคภาษาอังกฤษ ฝึกพูด พร้อมคำอ่าน พื้นฐาน ง่ายๆ เริ่มจากศูนย์ ไม่มีพื้นฐาน ก็เรียนได้ ฟรี

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ก็ แล้วแต่ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *