คํานําหน้าชื่อภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้
Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่มีไว้สำหรับ(พูด,เขียน)แทนชื่อของคน,สัตว์,สิ่งของ,และสถานที่เพื่อป้องกันมิให้กล่าวชื่อนั้นซ้ำๆซากๆ ซึ่งเป็นการฟังไม่ไพเราะ
Pronoun มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันคือ
- Personal Pronoun บุรุษสรรพนาม
- Possessive Pronoun สามีสรรพนาม
- Definite Pronoun นิยมสรรพนาม
- Indefinite Pronoun อนิยมสรรพนาม
- Interrogative Pronoun ปฤจฉาสรรพนาม
- Relative Pronoun ประพันธ์สรรพนาม
- Reflexive Pronoun สรรพนามสะท้อนหรือเน้น
- Distributive Pronoun วิภาคสรรพนาม
- 1. Personal Pronounบุรุษสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของผู้พูด, ผู้ฟัง, และผู้ที่ถูกกล่าวถึง ซึ่งมีอยู่ 2 พจน์ 3 บุรุษ คือ
เอกพจน์
พหูพจน์
บุรุษที่ 1
I
we
บุรุษที่ 2
you
you
บุรุษที่ 3
he, she, it
the
Personal Pronoun แบ่งได้ 5 รูป คือ
รูปที่ 1
รูปที่ 2
รูปที่ 3
รูปที่ 4
รูปที่ 5
I
Me
My
mine
myself
We
us
Our
ours
ourselves
You
you
Your
yours
yourself
He
him
his
his
himself
she
her
Her
hers
herself
It
It
its
its
itself
they
them
there
theirs
themselves
- Possessive Pronoun สามีสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือบุรุษสรรพนามรูปที่ 4 นั่นเอง เวลาใช้ไม่ต้องมีนามตามหลัง มีหน้าที่ 3 อย่างคือ
2.1 เป็นประธานของกิริยาในประโยค เช่น Your book is green, mine is red.
2.2 เป็นส่วนสมบูรณ์ของกิริยา เช่น this pencil is mine, that one is your.
2.3 ใช้เรียงตามหลังบุรพบท(คำเชื่อมคำ) เพื่อเน้นความเป็นเจ้าของให้ชัดเจนขึ้นได้เช่น A friend of yours was killed last night.
- 3. Definite Pronounนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ชี้เฉพาะและใช้แทนนามได้ ที่นิยมใช้แพร่หลายมีอยู่ 6 ตัวคือ (รวมทั้ง which ด้วย)
this, that, one 3 ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์.
These, those, ones 3 ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นพหูพจน์.
*นิยมสรรพนามนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของกิริยาในประโยคได้ตามแต่ จะ ใช้งาน.
- 4. Indefinite pronounอนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้นคนนี้โดยตรง (ตรงข้ามกับ Definite Pronoun) ได้แก่คำว่า some, any, all, someone, somebody, anybody, few, everyone, many, nobody, everybody, other……etc.
*ข้อสังเกต ทั้งนิยมสรรพนามและอนิยมสรรพนาม ถ้าใช้โดยมีคำนามอื่นตามหลังจะกลายเป็นคำคุณศัพท์ไป แต่ถ้าใช้โดยไม่มีคำนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นนิยมสรรพนามหรืออนิยมสรรพนาม.
- 5. Interrogative pronounปฤจฉาสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม และต้องไม่มีนามตามหลังด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นปฤจฉาสรรพนาม ได้แก่ Who , whom, whose , what, which ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้.
- Who (ใคร) ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นประธานของกิริยาในประโยคได้ บางครั้งก็เป็นกรรมได้ เช่น. Who is standing there ? ใครกำลังยืนอยู่ที่นั่น?.
- Whom (ใคร) ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นกรรมของกิริยาหรือบุรพบท (บางครั้งใช้ Who แทน).เช่น Whom do you love ? คุณรักใคร ?.
- Whose (ของใคร) ใช้ถามถึงเจ้าของ และต้องเป็นบุคคลเท่านั้น เช่น. Whose is the car ? รถคันนี้เป็นของใคร
- What (อะไร) ใช้ถามถึงสิ่งของเป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น:-
– ถ้าเป็นประธานต้องไม่ใช้กริยาอะไรมาช่วยทั้งสิ้น เช่น What delayed you ?
อะไรทำให้คุณล่าช้า.
– ถ้าเป็นกรรมต้องมีกริยาช่วยตัวอื่นมาร่วมด้วย และวางไว้หลัง What เช่น What
do you want ?
- Which (สิ่งไหน อันไหน) ใช้ถามถึงสัตว์, สิ่งของ, เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น ถ้าเป็นประธานไม่ต้องใช้กริยาอื่นมาช่วย Which is the best? อันไหนดีที่สุด ?.(อนึ่งปฤจฉาสรรพนาม Whose ,which, what นี้ ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังก็เป็นคุณศัพท์ไป ถ้าไม่มีนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นปฤจฉาสรรพนาม)
- 6. Relative Pronounประพันธ์สรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนที่อยู่ข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยค ซึ่งอาจเป็นประธานของประโยคหลังได้ด้วย ได้แก่ Who, Whom, Whose, Which, Where, what, when, why, that .
- Who (ผู้ซึ่ง) ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้กระทำด้วย เช่น The man who came here last week is my cousin. ชายผู้ซึ่งมาที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน.
- Whom (ผู้ซึ่ง) ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เช่น The boy whom you saw yesterday is my brother. เด็กชายผู้ซึ่งคุณพบเมื่อวานนี้เป็นน้องชายของผม.
- Whose(ผู้ซึ่ง…..ของเขา) ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนามที่ตามหลัง ดังนั้นเมื่อมี Whose ก็ต้องมีนามตามหลัง Whose เสมอ เช่น The girl whose father is a teacher goes to school every day. เด็กหญิงผู้ซึ่งพ่อของเขาเป็นครูนั้นไปโรงเรียนทุกวัน.(เป็นคำแสดง ความ เป็นเจ้าของ Father).
- Which (ที่,ซึ่ง) ใช้แทนนามที่เป็นสัตว์ สิ่งของ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม The animal which has wing is a bird. สัตว์ที่มีปีกนั้นคือนก(เป็นประธานของอนุประโยค has wings) The kitten which I gave to my aunt is very naughty. ลูกแมวซึ่งฉันให้แก่คุณป้าของฉันไปนั้นซุกซนมาก.(เป็นกรรมของกริยา gave ในอนุประโยค I gave to my aunt).
- Where (อันเป็นที่) ใช้แทนนามที่เป็นสถานที่ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น The night club is the place where is not suitable for children. ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ(เป็นประธานของอนุประโยค is not suitable for children ) The hotel is the place where I like best . โรงแรมเป็นสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุด.(เป็นกรรมของ like).
- What (อะไร,สิ่งที่) ใช้แทนนามที่เป็นสิ่งของ นามที่ What ไปแทนทำหน้าที่เป็นประพันธ์สรรพนามนั้นไม่ต้องปรากฏให้เห็นอยู่ข่างหน้าเหมือนประพันธ์สรรพนามตัวอื่น ทั้งนี้เพราะถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจแล้ว เช่น I know what is in the box. ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนี้.
- When (เมื่อ,ที่) ใช้แทนนามที่เกี่ยวกับเวลา ,วัน, เดือน,ปี เช่น Sunday is the day when we don’t work. วันอาทิตย์คือวันที่เราไม่ทำงาน.
- Why (ทำไม) ใช้แทนนามที่เป็นเหตุผล (ส่วนมากใช้แทน reason ) เช่น This is the reason why I go to Hong Kong. นี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไปฮ่องกง.
- That (ที่,ซึ่ง) ใช้แทนคน, สัตว์, สิ่งของ, และสถานที่ได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 4 ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันได้แก่ :-
- เป็นนามที่มีคุณสมบัติสูงสุดมาขยายอยู่ข้างหลัง เช่น He is the tallest man that I have ever seen. เขาเป็นคนสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา.
- เป็นนามที่มีเลขจำนวนนับที่มาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น China is the first country that I am going to visit. จีนเป็นประเทศแรกที่ข้าพเจ้าจะไปเที่ยว.
- เป็นนามที่มีคุณศัพท์บอกปริมาณมาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น She has much money that she give me. หล่อนมีเงินอยู่มากที่หล่อนจะให้ผม.
- เป็นสรรพนามผสมต่อไปนี้ตัวใดตัวหนึ่งปรากฏอยู่แล้ว คือsomeone, somebody, something, anyone, anything, anybody, anyone, everything, no one, nothing, etc. เช่น There is nothing that I can do for you. ไม่มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้.
- 7. Reflexive Pronounสรรพนามสะท้อนหรือเน้น ได้แก่บุรุษสรรพนามที่ 5 นั่นเอง อันได้แก่ myself, yourself, ……. Themselves. เวลาใช้มีวิธีใช้ 4 อย่างคือ :-
- เรียงไว้หลังประธาน เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำกิจนั้นด้วยตนเอง เช่น I myself study English. ผมเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง.
- เรียงไว้หลังกริยา เมื่อบอกว่าผลการกระทำนั้นเกิดจากผู้กระทำเองเช่น I will punish myself if I do mistakes ผมจะลงโทษตัวเอง หากผมทำผิด.
- เรียงไว้หลังกรรม เมื่อต้องการเน้นกรรมนั้นเช่น I spoke to the President himself . ผมได้พูดกับตัวท่านประธานาธิบดีเอง.
- เรียงไว้หลังบุรพบท by วางไว้สุดประโยคทุกครั้งไป เมื่อต้องการแสดงว่าประธานผู้นั้นกระทำกิจนั้นโดยลำพังคนเดียว เช่น Pranee makes her dress by herself.
- 8. Distributive Pronounวิภาคสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามในการแบ่งหรือจำแนกออกเป็นครึ่งหนึ่ง, สิ่งหนึ่ง, หรือตัวหนึ่ง วิภาคสรรพนามที่นิยมใช้กันมากคือ
each แต่ละ, either คนใดคนหนึ่ง, neither ไม่ใช่ทั้งสอง หรือไม่ใช่ทั้งสอง เช่น
There are ten boy each has one hundred bath. มีเด็กอยู่ 10 คน แต่ละคนมีเงินอยู่คนละ 100 บาท.
* ข้อสังเกต วิภาคสรรพนามถ้าใช้ลอยๆเป็นสรรพนาม แต่ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังจะเป็นคุณศัพท์
Article
Article คือ คำที่ใช้นำหน้านาม คือคำนามในภาษาอังกฤษทุกตัว เวลาพูด-เขียนจะต้องมี Article นำหน้าทั้งสิ้น(ยกเว้นบางตัวที่จะกล่าวต่อไป)
Article มีอยู่ 2 ชนิดคือ
- Indefinite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายทั่วไป อันได้แก่ A , An.
- Definite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายชี้เฉพาะ ได้แก่ The .
หลักทั่วไปของการใช้ A
คือเมื่อ A นำหน้านามใดนามนั้นต้องมีลักษณะครบ 4 ประการ อันได้แก่
- เป็นนามเอกพจน์
- เป็นนามนับได้
- เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
- เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป เช่นa book, a man, a bus, a pen
* ข้อยกเว้น ห้ามใช้ A นำหน้า คือนามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แต่อ่านออกเสียงสระที่อยู่ถัดไป นามตัวนั้นให้ใช้ AN นำหน้าแทน (มี H เท่านั้น)
หลักทั่วไปของการใช้ AN
คือเมื่อ AN นำหน้านามใด นามนั้นจะต้องมีลักษณะครบ 4 ประการ คือ
- เป็นนามเอกพจน์
- เป็นนามนับได้
- เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ คือ A , E , I , O , U.
- เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป
* ข้อยกเว้น ห้ามใช้ AN นำหน้าคือ นามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยสระ แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ”ย” นามตัวนั้นให้ใช้ A นำหน้าแทน (มี U และ E เท่านั้น).
นามต่อไปนี้ห้ามใช้ทั้ง A และ AN นำหน้าเด็ดขาด
- นามที่นับไม่ได้ทุกชนิด
- นามพหูพจน์ทุกชนิด
หลักทั่วไปของการใช้ THE
คำว่า The แปลว่า นั้น,นี้ คือเป็นการชี้เฉพาะถึงสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว ซึ่ง The ใช้นำหน้านามได้ทุกชนิด ทุกประเภท นั่นคือ
- เป็นนามเอกพจน์ ก็ใช้ The นำหน้าได้
- เป็นนามพหูพจน์ ก็ใช้ The นำหน้าได้
- เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ก็ใช้ The นำหน้าได้
- เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ ก็ใช้ The นำหน้าได้ (แต่ให้อ่านว่า ดิ )
- เป็นนามที่นับได้ ก็ใช้ The นำหน้าได้
- เป็นนามที่นับไม่ได้ ก็ใช้ The นำหน้าได้
- แต่นามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะต้องมีความหมายชี้เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น.
The water in the bottle is very poor. น้ำที่อยู่ในขวดนี้เย็นมาก.
นามต่อไปนี้ห้ามใช้ the นำหน้า
- นามที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
- นามที่ระบุไว้ในหัวข้อว่าห้ามใช้ the นำหน้า (ซึ่งมีข้อห้ามมากมายแต่จะไม่กล่าวถึง เช่น อาการนาม,ชื่อเฉพาะของคน,ชื่อถนน ,ชื่อวัน, เดือน, ปี, ลัทธิ,ศาสนา เป็นต้นซึ่ง ห้ามใช้ ทั้ง a, an,และthe นำหน้า)
* อนึ่งแม้ลักษณะของประโยคจะไม่มีคำบ่งชี้เฉพาะเอาไว้ แต่ถ้านามนั้นเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง ก็ให้ใช้ the นำหน้าได้ เช่น
When you go out, don’t forget to close a door. เมื่อคุณออกไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานไหนก็ได้)นะ.
When you go out, don’t forget to close the door. เมื่อคุณไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานนั้น)นะ.
การใช้ a, an, the แบบระคน
– ถ้านามนั้นไม่มีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมาขยายอยู่ข้างหลังให้ใช้ a, an ทันที เช่น
A boy like to see monkey. เด็กชอบดูลิง.
– ถ้านามนั้นมีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมา ขยายอยู่ข้างหลัง ให้ใช้ the ทันที เช่น
The man in this room is our teacher. ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็นครูของเรา.
* มีหลักพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ นามใดก็ตามที่เป็นเอกพจน์นับได้ ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้เติม a , an ทันที แต่ถ้านามนั้นถูกยกขึ้นมากล่าวอีกเป็นครั้งที่ 2 ให้เติม the ทันทีเช่น
A black cat, the cat is fat. แมวตัวหนึ่งสีดำ แมวตัวนั้นอ้วน
* อนึ่งยังมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับคำนามบางตัวว่านามตัวใดใช้เฉพาะ a, an และนามตัวใดใช้เฉพาะ the ซึ่งเป็นคำนามพิเศษ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง
Table of Contents
[NEW] หลักการใช้ Capital Letter ง่ายๆ 5 ข้อ | คํานําหน้าชื่อภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES
เวลาเขียนภาษาอังกฤษ เคยสับสนไหมครับว่า เอ…คำนี้ต้องใช้ capital letter (ตัวอักษรใหญ่) ไหมนะ เช่น จะเขียน Mother’s Day หรือ mother’s day ดี หรือระหว่าง Oxford Street กับ Oxford street เขียนแบบไหนถึงจะถูกต้อง บทความนี้จะทำให้คุณสับสนมากขึ้น เอ้ย! หายสับสนว่ากรณีไหนบ้างต้องใช้ capital letter กรณีไหนบ้างไม่ต้องใช้
การใช้ capital letter ให้ถูกต้องนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ใส่ใจเวลาพิมพ์แชทกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว แต่เวลาเขียนจดหมาย บทความ หรืองานเขียนใดๆ ที่เป็นทางการ การใช้ capital letter ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ หรืออาจทำให้สื่อสารผิดพลาดได้
การใช้ capital letter มีหลักง่ายๆ 5 ข้อ คือ
1. ใช้ capital letter เมื่อขึ้นต้นประโยค
นั่นคือ ตัวอักษรแรกของคำแรกในประโยคจะต้องเป็นตัวอักษรใหญ่ เช่น
- She watched Game of Thrones with me last night. (เธอดูมหาศึกชิงบัลลังก์กับฉันเมื่อคืนนี้)
- I met a girl this morning. Her name was Arya. (ฉันพบเด็กสาวคนหนึ่งเมื่อเช้านี้ เธอชื่ออาร์ยา)
แต่สำหรับประโยคที่ตามหลังเครื่องหมาย colon * (:) และ semicolon (;) ไม่ต้องใช้ capital letter เช่น
- He got what he deserved: he was dumped. (เขาได้รับในสิ่งที่สมควรได้ เขาถูกทิ้ง)
- Some people write with a pen; others write with a pencil. (บางคนเขียนด้วยปากกา แต่บางคนเขียนด้วยดินสอ)
* ยกเว้นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ให้ใช้ capital letter เมื่อขึ้นต้นประโยคหลังเครื่องหมาย colon
He got what he deserved: He was dumped.
ข้อยกเว้นอีกข้อคือคำว่า I (ฉัน) ต้องใช้ตัวอักษรใหญ่เท่านั้นไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประโยค เช่น
Do I know you? (ฉันรู้จักคุณเหรอ)
2. คำนามเฉพาะ (proper noun)
ให้ใช้ capital letter เมื่อเขียนคำนามเฉพาะ คำนามเฉพาะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ได้แก่
- ชื่อ นามสกุล และคำนำหน้าชื่อ เช่น Jon Snow (จอน สโนว์), Mr Potter (คุณพอตเตอร์), Professor Dumbledore (ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์)
- เดือนและวัน เช่น Sunday (วันอาทิตย์), Friday (วันศุกร์), February (เดือนกุมภาพันธ์), December (เดือนธันวาคม)
- ฤดู ได้แก่ Spring (ฤดูใบไม้ผลิ), Summer (ฤดูร้อน), Autumn/Fall (ฤดูใบไม้ร่วง), Winter (ฤดูหนาว)
- วันสำคัญ เช่น Mother’s Day (วันแม่), Christmas (วันคริสต์มาส), New Year’s Day (วันปีใหม่), Valentine’s Day (วันวาเลนไทน์)
- ชื่อประเทศ เช่น Thailand (ประเทศไทย), England (ประเทศอังกฤษ), Scotland (ประเทศสก็อตแลนด์), France (ประเทศฝรั่งเศส)
- ชื่อรัฐ ชื่อเมือง และชื่อเขตการปกครองต่างๆ เช่น California (รัฐแคลิฟอร์เนีย), London (กรุงลอนดอน), Edinburgh (กรุงเอดินบะระ), Oxfordshire (มณฑลอ๊อกซฟอร์ดเชอร์)
- ชื่อแม่น้ำ ทะเล ทะเลสาบ และมหาสมุทร เช่น the Thames (แม่น้ำเทมส์), the Mekong (แม่น้ำโขง), the Pacific (มหาสมุทรแปซิฟิก)
- ชื่อพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่างๆ เช่น the Bosphorus (ช่องแคบบอสฟอรัส), the Himalayas (เทือกเขาหิมาลัย), the Alps (เทือกเขาแอลป์), the Sahara (ทะเลทรายสะฮารา)
- ชื่อสัญชาติและภาษา เช่น Thai (คนไทย ภาษาไทย), English (คนอังกฤษ ภาษาอังกฤษ), Italian (คนอิตาเลียน ภาษาอิตาเลียน)
- ชื่อถนน ตึก สวน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น the Empire State Building (ตึกเอ็มไพร์สเตต), Central Park (สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค), the Eiffel Tower (หอไอเฟล)
3. ชื่อเรื่อง เช่น ชื่อหนังสือ ชื่อบทความ
ใช้ตัวอักษรใหญ่ขึ้นต้นคำประเภท noun (คำนาม), verb (คำกริยา), adjective (คำคุณศัพท์), adverb (คำวิเศษณ์), subordinating conjunction (เช่น because, that, as) แต่ไม่ต้องใช้ตัวอักษรใหญ่ขึ้นต้นคำประเภท article (คำนำหน้านาม ได้แก่ a, and, the), preposition (คำบุพบท เช่น in, on, at), coordinating conjunction (เช่น for, and, but, or) ตัวอย่างเช่น
“Harry Potter and the Cursed Child” (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป)
จากตัวอย่างจะเห็นว่าทุกคำยกเว้น and และ the ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรใหญ่
อย่างไรก็ตามบทความในปัจจุบันเริ่มนิยมใช้ capital letter แค่คำแรกของชื่อเท่านั้น เช่น “Energy solutions for a sustainable world”
นอกจากนี้ตามปกหนังสือหรือโปสเตอร์ภาพยนตร์ ชื่อเรื่องจะถูกเขียนเป็นตัวอักษรใหญ่ทั้งหมด เช่น “HARRY POTTER AND THE CURSED CHILD” ซึ่งการเขียนแบบนี้ก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าเราไปเขียนชื่อเรื่องที่อื่น แนะนำให้เขียนตามหลักการเขียนชื่อเรื่องที่กล่าวมา
4. คำย่อต่างๆ
คำย่อต่างๆ โดยเฉพาะคำย่อชื่อนิยมใช้ capital letter ตัวอย่างเช่น
UN = United Nations (สหประชาชาติ)
NATO = North Atlantic Treaty Organization (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ)
ASEAN = Association of Southeast Asian Nations (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคำย่อทุกคำจะใช้ตัวอักษรใหญ่ ตัวอย่างคำยกเว้น เช่น cm = centimetre/centimeter (เซนติเมตร) หรือบางคำย่อก็ใช้ตัวอักษรใหญ่เพียงบางตัวอักษร เช่น PhD = Doctor of Philosophy (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต หรือผู้ที่ได้รับปริญญาเอก)
5. ใช้เพื่อเน้นคำ
ในกรณีนี้ผู้เขียนจงใจไม่เขียนตามหลักข้างต้นเพื่อเน้นคำ กลุ่มคำ หรือประโยคโดยการเขียนตัวอักษรใหญ่ทั้งหมด เช่น HELP! (ช่วยด้วย) STOP! (หยุดนะ) เมื่อลองเปรียบเทียบกับการเขียนแบบปกติ Help! Stop! จะเห็นว่าให้ความรู้สึกต่างกันเวลาอ่าน
การใช้ตัวอักษรใหญ่ทั้งหมดอ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการตะโกน ดังนั้นจึงไม่ควรเขียนตัวอักษรใหญ่ติดกันยาวๆ โดยไม่จำเป็น แบบนี้ I’M SO HAPPY TODAY. I GOT PROMOTED AND WON THE £14 MILLION LOTTERY JACKPOT. จะเห็นว่าอ่านยากและดูไม่สุภาพ ทั้งยังอาจทำให้ผู้อ่านรำคาญอีกด้วย
ลองทบทวนหลัก 5 ข้อนี้แล้วเอาไปใช้กันดูครับ จริงๆ แล้วการใช้ capital letter ยังมีหลักยิบย่อยอีกหลายข้อ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะอ่านข่าวหรือบทความภาษาอังกฤษเยอะๆ และสังเกตว่า capital letter ต้องใช้ในกรณีไหนบ้าง จะได้เขียนได้ถูกต้อง (และคนอ่านไม่แอบบ่นในใจ)
เรียนภาษาอังกฤษกับ Text-And-Talk คำนำหน้าชื่อ Titles Mr. / Mrs. /Miss /Ms.
อีก week หนึ่งกับภาษาอังกฤษกับครูลูกครึ่งนะคะ ครั้งนี้เรามาพูดถึงคำนำหน้าชื่อภาษาอังกฤษกันค่ะ
Mr. = Naii = นาย
Mrs. = Nang = นาง
Miss = Nang Sao = นางสาว
Ms. = ไม่ระบุว่าเป็นนางหรือนางสาว
ถ้าเขียนแบบประเทศอังกฤษไม่ต้องมีจุดก็ได้นะจ๊ะ เช่น Mr / Mrs / Ms
Are you married? = Tangg Ngarn Reu Young ? แต่งงานหรือยัง
I’m single. = Chan Young Soad = ฉันยังโสด
Location: TextAndTalk Academy www.textandtalk.com
Music: Popular by MIKA
Facebook: TextAnd Talk
Facebook: English Training Thailand อบรมภาษาอังกฤษ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
Mr. / Mrs. / Ms. / Miss ใช้ต่างกันยังไง? | SPEAK English with PRANG
คำนำหน้าชื่อ ในภาษาอังกฤษ อย่าง Mr. / Ms. / Mrs. / Miss 🤦♀ ที่ผ่านมาจำสลับกันหรือเปล่า!!? 🤷♂ มาดูกันว่ามันคืออะไร ใช้ต่างกันยังไงนะ??
V
🧔 \”Mr.\”
อ่านว่า มิสเตอร์
: คำนำหน้า \”ผู้ชาย\” (นาย)
👧 \”Miss\”
อ่านว่า มิส
: คำนำหน้า \”ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน\” (นางสาว)
👩🦰 \”Ms.\”
อ่านว่า มิส (ลงท้ายเสียงเป็น z)
: คำนำหน้า \”ผู้หญิง\” ที่ไม่ระบุว่าแต่งงานหรือยังไม่แต่งงาน (นางสาว/นาง)
👰 \”Mrs.\”
อ่านว่า มิสซิส
: คำนำหน้า \”ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว\” (นาง)
V
…ดูเทคนิคการใช้และตัวอย่าง ในคลิปเล้ยย!
_______________________
SPEAK English with PRANG ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับปราง 👄
\”ติดตามช่องทางต่างๆ\”
Facebook: https://web.facebook.com/speakenglish.prang
Instagram: speakenglish_prang
.
คำนำหน้าชื่อ ms mr mrs miss นาง นาย นางสาว คุณ พูดภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ สนทนาภาษาอังกฤษ SpeakEngish Prang ปราง
การตัดคำนำหน้าชื่อ Excel
การตัดคำ นำหน้าชื่อ ออก
นางสาว = (6)
นาย = (3)
[อังกฤษ] Article การใช้ a an the เรื่องง่ายๆที่เจอในข้อสอบประจำ
ใหม่!! WINNER SHORTNOTE คอร์สเรียนออนไลน์ ติวเข้มหนังสือจากหนังสือ WINNER SHORTNOTE ให้น้องๆเตรียมพร้อมทุกสนามสอบ
⭐เนื้อหา WINNER SHORTNOTE วันนี้มาเพิ่มความรู้ เรื่อง Article
การใช้ A An The
คำนามที่ห้ามใช้ A An The
⭐ดูจบแล้วกดกระดิ่ง เพื่อตั้งเตือน จะได้ไม่พลาด EP ถัดไป รับรองว่าจะจัดให้ทุกวิชาเลย!
TCAS 9วิชาสามัญ ONET GAT อังกฤษ
____________________________________________________________________
ฝากหนังสือจาก WINNER STUDY นะคะ ทุกเล่มตั้งใจเขียนโดยทีม นิสิตจุฬา
เพื่อสำหรับเตรียมสอบเข้าคณะที่ใช่มหาลัย ที่ชอบ
สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.ทาง LINE @winnerstudy
🍒WINNER SHORTNOTE
ครบ8วิชา ม.46(ไทย อังกฤษ สังคม วิทย์ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ใช้ได้ทุกสนามสอบ ทั้งใน โรงเรียน GAT PAT ONET 9 วิชาสามัญ
🍒WINNER 1000Q พันคิว วิทย์
รวม1000ข้อสอบ วิทย์ 4 วิชาม.46 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ดาราศาสตร์)
คล้ายข้อสอบจริงสุด โจทย์มี 3 ระดับ (ง่ายกลางยาก) ใช้สอบ ONET, PAT, 9 วิชาสามัญได้
เฉลยเข้าใจสุด และละเอียดมาก เหมือนได้ติวเตอร์ดีกรีจุฬาส่วนตัวตลอด 24 ชม.
ดูเพิ่มเติมได้ที่
YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCtSb…
IG: https://www.instagram.com/winnerstudyth/
Les Articles คำนำหน้านามในภาษาฝรั่งเศส คืออะไร และใช้ยังไงกันนะ
La classe de français de Gabriel / ห้องเรียนภาษาฝรั่งเศสของน้องกาเบรียล
คลาสแรกนี้ หนูจะมาสอนคำนำหน้านามในภาษาฝรั่งเศส หรือ Les articles ครับ
เพื่อนๆพี่ๆเคยสังเกตไหมครับว่าทำไมในภาษาฝรั่งเศสถึงเจอคำเหล่านี้บ่อยจัง : Un, Une, Des, La, Le, Les คำเหล่านี้คือคำนำหน้านามนั่นเองครับ หนูจะมาอธิบายและยกตัวอย่างคร่าวๆถึงวิธีใช้ครับ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คํานําหน้าชื่อภาษาอังกฤษ