Skip to content
Home » [Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | ลักษณะนามของถนน – NATAVIGUIDES

[Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | ลักษณะนามของถนน – NATAVIGUIDES

ลักษณะนามของถนน: คุณกำลังดูกระทู้

Pronoun   (คำสรรพนาม)    คือคำที่มีไว้สำหรับ(พูด,เขียน)แทนชื่อของคน,สัตว์,สิ่งของ,และสถานที่เพื่อป้องกันมิให้กล่าวชื่อนั้นซ้ำๆซากๆ ซึ่งเป็นการฟังไม่ไพเราะ

Pronoun   มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันคือ

  1. Personal Pronoun บุรุษสรรพนาม
  2. Possessive  Pronoun  สามีสรรพนาม
  3. Definite   Pronoun  นิยมสรรพนาม
  4. Indefinite  Pronoun  อนิยมสรรพนาม
  5. Interrogative  Pronoun   ปฤจฉาสรรพนาม
  6. Relative  Pronoun  ประพันธ์สรรพนาม
  7. Reflexive  Pronoun  สรรพนามสะท้อนหรือเน้น
  8. Distributive Pronoun  วิภาคสรรพนาม
  9. 1. Personal Pronounบุรุษสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของผู้พูด, ผู้ฟัง, และผู้ที่ถูกกล่าวถึง  ซึ่งมีอยู่ 2  พจน์  3  บุรุษ คือ

 

 

เอกพจน์

พหูพจน์

บุรุษที่     1

I

we

บุรุษที่     2

you

you

บุรุษที่     3

he,   she,    it

the

 

 

Personal   Pronoun   แบ่งได้  5  รูป คือ

รูปที่  1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่  4

รูปที่ 5

I

Me

My

mine

myself

We

us

Our

ours

ourselves

You

you

Your

yours

yourself

He

him

his

his

himself

she

her

Her

hers

herself

It

It

its

its

itself

they

them

there

theirs

themselves

 

  1. Possessive Pronoun สามีสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือบุรุษสรรพนามรูปที่  4  นั่นเอง  เวลาใช้ไม่ต้องมีนามตามหลัง  มีหน้าที่ 3 อย่างคือ

2.1     เป็นประธานของกิริยาในประโยค  เช่น Your   book  is green,  mine is red.

2.2     เป็นส่วนสมบูรณ์ของกิริยา   เช่น  this  pencil is mine, that one is your.

2.3     ใช้เรียงตามหลังบุรพบท(คำเชื่อมคำ) เพื่อเน้นความเป็นเจ้าของให้ชัดเจนขึ้นได้เช่น  A   friend  of  yours  was  killed  last  night.    

  1. 3.  Definite Pronounนิยมสรรพนาม  คือสรรพนามที่ชี้เฉพาะและใช้แทนนามได้ ที่นิยมใช้แพร่หลายมีอยู่ 6 ตัวคือ  (รวมทั้ง which ด้วย)

                    this,   that,   one      3   ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์.

                   These,    those,  ones   3    ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นพหูพจน์.

*นิยมสรรพนามนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของกิริยาในประโยคได้ตามแต่ จะ ใช้งาน.

  1. 4.   Indefinite pronounอนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้นคนนี้โดยตรง  (ตรงข้ามกับ Definite Pronoun)  ได้แก่คำว่า  some,  any,  all,  someone,  somebody,  anybody,  few,  everyone,  many,  nobody,   everybody,  other……etc.

*ข้อสังเกต ทั้งนิยมสรรพนามและอนิยมสรรพนาม  ถ้าใช้โดยมีคำนามอื่นตามหลังจะกลายเป็นคำคุณศัพท์ไป  แต่ถ้าใช้โดยไม่มีคำนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นนิยมสรรพนามหรืออนิยมสรรพนาม.

  1.  5. Interrogative pronounปฤจฉาสรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม  และต้องไม่มีนามตามหลังด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นปฤจฉาสรรพนาม  ได้แก่    Who  ,  whom,  whose  ,  what,  which     ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้.
  • Who   (ใคร)   ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นประธานของกิริยาในประโยคได้ บางครั้งก็เป็นกรรมได้ เช่น.   Who   is  standing   there  ? ใครกำลังยืนอยู่ที่นั่น?.
  • Whom (ใคร)  ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นกรรมของกิริยาหรือบุรพบท  (บางครั้งใช้ Who แทน).เช่น Whom  do  you  love ?  คุณรักใคร ?.
  • Whose (ของใคร)  ใช้ถามถึงเจ้าของ  และต้องเป็นบุคคลเท่านั้น เช่น.  Whose  is  the  car ?  รถคันนี้เป็นของใคร
  • What (อะไร)   ใช้ถามถึงสิ่งของเป็นได้ทั้งประธานและกรรม  เช่น:-

                       –  ถ้าเป็นประธานต้องไม่ใช้กริยาอะไรมาช่วยทั้งสิ้น เช่น What  delayed  you ?  

                          อะไรทำให้คุณล่าช้า.

–  ถ้าเป็นกรรมต้องมีกริยาช่วยตัวอื่นมาร่วมด้วย และวางไว้หลัง What เช่น What  

    do you want ?

  • Which  (สิ่งไหน อันไหน)  ใช้ถามถึงสัตว์, สิ่งของ, เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  ถ้าเป็นประธานไม่ต้องใช้กริยาอื่นมาช่วย  Which  is  the  best?  อันไหนดีที่สุด ?.(อนึ่งปฤจฉาสรรพนาม Whose ,which,  what นี้  ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังก็เป็นคุณศัพท์ไป   ถ้าไม่มีนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นปฤจฉาสรรพนาม)   
  1. 6. Relative  Pronounประพันธ์สรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้แทนที่อยู่ข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยค ซึ่งอาจเป็นประธานของประโยคหลังได้ด้วย  ได้แก่ Who,  Whom,   Whose, Which,  Where,  what,  when, why,  that .
  • Who  (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้กระทำด้วย เช่น The  man  who  came  here  last  week  is  my  cousin.  ชายผู้ซึ่งมาที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน.
  • Whom (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เช่น The  boy  whom  you  saw  yesterday  is  my  brother. เด็กชายผู้ซึ่งคุณพบเมื่อวานนี้เป็นน้องชายของผม.
  • Whose(ผู้ซึ่ง…..ของเขา)   ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนามที่ตามหลัง ดังนั้นเมื่อมี Whose ก็ต้องมีนามตามหลัง Whose เสมอ  เช่น  The  girl  whose  father  is  a  teacher  goes  to  school  every  day.   เด็กหญิงผู้ซึ่งพ่อของเขาเป็นครูนั้นไปโรงเรียนทุกวัน.(เป็นคำแสดง ความ เป็นเจ้าของ Father).
  • Which  (ที่,ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นสัตว์ สิ่งของ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม   The  animal            which  has  wing  is  a  bird.  สัตว์ที่มีปีกนั้นคือนก(เป็นประธานของอนุประโยค  has  wings) The  kitten  which  I  gave  to  my  aunt  is  very  naughty.  ลูกแมวซึ่งฉันให้แก่คุณป้าของฉันไปนั้นซุกซนมาก.(เป็นกรรมของกริยา  gave  ในอนุประโยค  I gave  to  my  aunt).
  • Where (อันเป็นที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสถานที่ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  The  night  club is  the  place  where  is  not  suitable  for children. ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ(เป็นประธานของอนุประโยค is  not  suitable  for  children )  The  hotel  is  the  place  where  I  like  best .  โรงแรมเป็นสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุด.(เป็นกรรมของ like).
  • What (อะไร,สิ่งที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสิ่งของ นามที่ What ไปแทนทำหน้าที่เป็นประพันธ์สรรพนามนั้นไม่ต้องปรากฏให้เห็นอยู่ข่างหน้าเหมือนประพันธ์สรรพนามตัวอื่น ทั้งนี้เพราะถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจแล้ว เช่น I  know  what  is  in  the  box.  ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนี้.
  • When (เมื่อ,ที่)  ใช้แทนนามที่เกี่ยวกับเวลา ,วัน,  เดือน,ปี  เช่น  Sunday  is  the  day  when  we  don’t  work.  วันอาทิตย์คือวันที่เราไม่ทำงาน.
  • Why (ทำไม)   ใช้แทนนามที่เป็นเหตุผล  (ส่วนมากใช้แทน reason ) เช่น This  is  the  reason  why  I  go  to  Hong  Kong. นี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไปฮ่องกง. 
  • That  (ที่,ซึ่ง)   ใช้แทนคน, สัตว์, สิ่งของ, และสถานที่ได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 4  ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อันได้แก่  :-
  1.  เป็นนามที่มีคุณสมบัติสูงสุดมาขยายอยู่ข้างหลัง เช่น  He is the tallest  man  that  I   have  ever seen. เขาเป็นคนสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา.   
  2. เป็นนามที่มีเลขจำนวนนับที่มาขยายอยู่ข้างหน้า  เช่น China  is  the  first  country  that  I am  going  to  visit. จีนเป็นประเทศแรกที่ข้าพเจ้าจะไปเที่ยว.
  3. เป็นนามที่มีคุณศัพท์บอกปริมาณมาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น She has much money  that  she  give  me.  หล่อนมีเงินอยู่มากที่หล่อนจะให้ผม. 
  4.  เป็นสรรพนามผสมต่อไปนี้ตัวใดตัวหนึ่งปรากฏอยู่แล้ว คือsomeone,  somebody,  something,  anyone,  anything,  anybody,  anyone,  everything,  no  one,  nothing,  etc.  เช่น    There  is  nothing that  I can  do  for  you.   ไม่มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้.
  5. 7.  Reflexive   Pronounสรรพนามสะท้อนหรือเน้น  ได้แก่บุรุษสรรพนามที่ 5  นั่นเอง  อันได้แก่   myself,  yourself,  ……. Themselves.   เวลาใช้มีวิธีใช้  4  อย่างคือ  :-
  6. เรียงไว้หลังประธาน  เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำกิจนั้นด้วยตนเอง เช่น  I   myself  study  English.   ผมเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง.
  7. เรียงไว้หลังกริยา เมื่อบอกว่าผลการกระทำนั้นเกิดจากผู้กระทำเองเช่น   I  will  punish  myself  if  I do  mistakes  ผมจะลงโทษตัวเอง  หากผมทำผิด. 
  8. เรียงไว้หลังกรรม  เมื่อต้องการเน้นกรรมนั้นเช่น   I   spoke   to  the  President   himself .  ผมได้พูดกับตัวท่านประธานาธิบดีเอง.
  9. เรียงไว้หลังบุรพบท by วางไว้สุดประโยคทุกครั้งไป เมื่อต้องการแสดงว่าประธานผู้นั้นกระทำกิจนั้นโดยลำพังคนเดียว เช่น   Pranee makes her dress by herself.
  10. 8.  Distributive   Pronounวิภาคสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามในการแบ่งหรือจำแนกออกเป็นครึ่งหนึ่ง, สิ่งหนึ่ง, หรือตัวหนึ่ง  วิภาคสรรพนามที่นิยมใช้กันมากคือ

each   แต่ละ,  either   คนใดคนหนึ่ง,   neither  ไม่ใช่ทั้งสอง  หรือไม่ใช่ทั้งสอง  เช่น

  There  are  ten  boy each   has  one  hundred  bath.   มีเด็กอยู่ 10  คน  แต่ละคนมีเงินอยู่คนละ  100  บาท.

*   ข้อสังเกต   วิภาคสรรพนามถ้าใช้ลอยๆเป็นสรรพนาม  แต่ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังจะเป็นคุณศัพท์     

                      

Article

                 Article   คือ คำที่ใช้นำหน้านาม    คือคำนามในภาษาอังกฤษทุกตัว เวลาพูด-เขียนจะต้องมี Article นำหน้าทั้งสิ้น(ยกเว้นบางตัวที่จะกล่าวต่อไป) 

                   Article  มีอยู่ 2 ชนิดคือ

  1. Indefinite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายทั่วไป  อันได้แก่  A  , An.
  2. Definite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายชี้เฉพาะ  ได้แก่  The .

                                 

หลักทั่วไปของการใช้   A

                  คือเมื่อ  A  นำหน้านามใดนามนั้นต้องมีลักษณะครบ  4  ประการ อันได้แก่

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป เช่นa book, a man, a bus, a pen

*  ข้อยกเว้น  ห้ามใช้  A นำหน้า  คือนามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  แต่อ่านออกเสียงสระที่อยู่ถัดไป  นามตัวนั้นให้ใช้  AN  นำหน้าแทน  (มี   H  เท่านั้น)

หลักทั่วไปของการใช้  AN

     คือเมื่อ  AN  นำหน้านามใด  นามนั้นจะต้องมีลักษณะครบ 4  ประการ คือ

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ คือ   A ,  E ,  I ,  O ,  U.
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป

               *  ข้อยกเว้น   ห้ามใช้   AN  นำหน้าคือ  นามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยสระ  แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ”ย”  นามตัวนั้นให้ใช้  A  นำหน้าแทน  (มี   U  และ  E  เท่านั้น).

           นามต่อไปนี้ห้ามใช้ทั้ง A  และ AN  นำหน้าเด็ดขาด

  1. นามที่นับไม่ได้ทุกชนิด
  2. นามพหูพจน์ทุกชนิด

                      

หลักทั่วไปของการใช้  THE

          คำว่า The แปลว่า นั้น,นี้ คือเป็นการชี้เฉพาะถึงสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว   ซึ่ง The ใช้นำหน้านามได้ทุกชนิด ทุกประเภท  นั่นคือ

  1. เป็นนามเอกพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  2. เป็นนามพหูพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  4. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ    ก็ใช้  The  นำหน้าได้ (แต่ให้อ่านว่า ดิ )
  5. เป็นนามที่นับได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  6. เป็นนามที่นับไม่ได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  7. แต่นามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะต้องมีความหมายชี้เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น.

            The water in the bottle is very poor. น้ำที่อยู่ในขวดนี้เย็นมาก.

            นามต่อไปนี้ห้ามใช้ the  นำหน้า

  1. นามที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
  2. นามที่ระบุไว้ในหัวข้อว่าห้ามใช้  the  นำหน้า (ซึ่งมีข้อห้ามมากมายแต่จะไม่กล่าวถึง เช่น อาการนาม,ชื่อเฉพาะของคน,ชื่อถนน ,ชื่อวัน, เดือน, ปี, ลัทธิ,ศาสนา เป็นต้นซึ่ง ห้ามใช้ ทั้ง a, an,และthe นำหน้า)

     * อนึ่งแม้ลักษณะของประโยคจะไม่มีคำบ่งชี้เฉพาะเอาไว้  แต่ถ้านามนั้นเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง  ก็ให้ใช้ the  นำหน้าได้ เช่น

When you go out, don’t forget to close a door. เมื่อคุณออกไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานไหนก็ได้)นะ.

When you go out, don’t forget to close the door. เมื่อคุณไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานนั้น)นะ.

การใช้  a, an, the แบบระคน

–       ถ้านามนั้นไม่มีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมาขยายอยู่ข้างหลังให้ใช้    a,  an   ทันที เช่น

A boy like to see monkey. เด็กชอบดูลิง.

–       ถ้านามนั้นมีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมา ขยายอยู่ข้างหลัง ให้ใช้    the   ทันที เช่น

The man in this room is our teacher. ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็นครูของเรา.

           * มีหลักพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ  นามใดก็ตามที่เป็นเอกพจน์นับได้  ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้เติม a  , an  ทันที  แต่ถ้านามนั้นถูกยกขึ้นมากล่าวอีกเป็นครั้งที่   2  ให้เติม   the   ทันทีเช่น

   A black cat, the cat is fat. แมวตัวหนึ่งสีดำ แมวตัวนั้นอ้วน

*   อนึ่งยังมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับคำนามบางตัวว่านามตัวใดใช้เฉพาะ a, an และนามตัวใดใช้เฉพาะ the   ซึ่งเป็นคำนามพิเศษ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง

 

[NEW] PANTIP.COM : K4943977 ทำไมถนนวิทยุ ถึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Wireless Road(ถนนไร้สาย?) ล่ะครับ [การศึกษา] | ลักษณะนามของถนน – NATAVIGUIDES

    ความคิดเห็นที่ 12

    ถนนวิทยุ สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๖๓ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “ถนนวิทยุ” แต่ฝรั่ง (ชาติอังกฤษ) เรียกกันตั้งแต่สมัยนั้นแล้วว่า “Wireless Road”  เช่นเดียวกับ ถนนเจริญกรุงสร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๐๔ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นถนนสายแรกของประเทศไทย เมื่อสร้างเสร็จใหม่ ๆ นั้น ยังไม่ได้พระราชทานนาม จึงเรียกกันทั่วไปว่า ถนนใหม่ และชาวยุโรปเรียกว่า นิวโรด (New Road) ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามถนนว่า ถนนเจริญกรุง  ชื่อ” New Road” ก็ยังคงใช้กันอยู่จนปัจจุบัน

    ชื่อ “Wireless Road” และ ” New Road” จึงเป็นชื่อที่ฝรั่งใช้เรียกกันตั้งแต่แรก หาใช่คนไทยบัญญัติขึ้นมาเองไม่

    จากคุณ :
    เพ็ญชมพู
    – [
    8 ธ.ค. 49 16:05:45

    ]

 


ประมวลภาพ #ม็อบ14พฤศจิกา64 ผู้ชุมนุมถูกยิงเจ็บ 2 ขณะเคลื่อนขบวนไปสถานทูตเยอรมนี


ยังมีปฏิกิริยาต่อเนื่องหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง เมื่อวานกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้นัดรวมตัวกัน สุดท้ายถูกยิงบาดเจ็บระหว่างการเคลื่อนขบวน 2 คน
เดิมผู้ชุมนุมนัดกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 15 นาฬิกา และจะเคลื่อนขบวนไปที่ท้องสนามหลวง ทำให้ทางเจ้าหน้าที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางเป็นแนวป้องกันที่สนามหลวงตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์
และต่อมามีการปิดกั้นเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำให้ผู้ชุมนุมเปลี่ยนจุดนัดหมายจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาเป็นที่แยกปทุมวันแทน
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมในนาม \”ผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์\” ทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่หน้าหอศิลป์กทม. ตั้งแต่เวลา 15 นาฬิกา มีการนำหุ่นฟางคุมด้วยผ้าดำ ให้มีลักษณะคล้ายชุดครุยตุลาการ มีใบหน้าของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แขวนโดยรอบวงเวียนสกายวอร์คหน้าหอศิลป์ กทม. ต่อมามีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ทุบทำลายศาลพระภูมิและเผาหุ่นฟาง
เวลา 16:30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนขบวนจากแยกปทุมวัน เพื่อเคลื่อนไปยังสถานทูตเยอรมี จากนั้นเคลื่อนขบวนโดยใช้เส้นทาง ถ.พระราม 1 มุ่งหน้าแยกราชประสงค์
เมื่อไปถึงแยกเฉลิมเผ่า ก่อนถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจตรึงกำลังอยู่เต็มพื้นที่พร้อมรถจีโน่ และเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ผู้ชุมนุมจึงเลี้ยวขวา ไปใช้ถนนอังรีดูนังต์แทน
เวลา 17:10 น.เมื่อหัวขบวนผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้เกิดเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิดขึ้นหลายครั้ง ผู้ชุมนุมพากันหาที่กำบังและหมอบลง ไม่กี่นาทีจากนั้นรถพยาบาลได้เข้ามารับผู้บาดเจ็บไปส่ง รพ.จุฬาฯ
ซึ่งต่อมา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเปิดเผยว่า มีผู้ถูกยิง 2 คน คนแรกเป็นชายอายุ 23 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณลิ้นปี่ กระสุนเข้าปอด อีกคน เป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงเข้าช่วงไหปลาร้า ซึ่งจากลักษณะบาดแผล เชื่อว่าเกิดจากกระสุนปืน และเรียกร้องให้ตำรวจชี้แจงเรื่องนี้โดยเร็ว
ซึ่งต่อมาก็มีคลิปเหตุการณ์ชุลมุนบริเวณหน้าสถาบันนิติเวชวิทยาออกมา ซึ่งตำรวจมีการยิงกระสุนยาง คาดว่าเป็นช่วงที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ผู้ชุมนุมที่เหลือยังคงเดินเท้าไปยังสถานทูตเยอรมนีต่อ และไปถึงสถานทูตในเวลา 18.15 น. ซึ่งทางสถานทูตได้อนุญาตตัวแทนผู้ชุมนุม 3 คน เข้าไปยื่นหนังสือและพูดคุยในสถานทูต ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตัวแทนทั้งสามคนก็ออกมา และถ่ายทอดสิ่งที่พูดคุยกับทางสถานทูตให้ผู้ชุมนุมทราบ
จากนั้นแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.53 น. อย่างไรก็ตาม ก่อนยุติการชุมนุม ช่วงเวลา 18:40 น. มีเสียงดังคล้ายประทัดบริเวณสะพานไทยเบลเยี่ยม ต่อมาพบว่ามีการโยนลูกกระทบลงมา 2 ลูก ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณหน้าแข้ง 1 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/program/265914

เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ประมวลภาพ #ม็อบ14พฤศจิกา64 ผู้ชุมนุมถูกยิงเจ็บ 2 ขณะเคลื่อนขบวนไปสถานทูตเยอรมนี

คำบอกจำนวนและลักษณะนาม


คำบอกจำนวนและลักษณะนาม

MAN’R X BEARING – หน้าสุดท้ายของปฏิทิน (Official MV )


Song : หน้าสุดท้ายของปฏิทิน
Artist : MAN’R X BEARING
Lyrics : MAN’R
Mixed \u0026 Mastered : MAN’R
MV : ต้องเต
ติดต่องาน
ID LINE manrr15
เฟสบุ๊ค แมน’ อาร์
ติดตามความเคลื่อนไหว
https://www.facebook.com/manlovettx​
https://www.instagram.com/manr_29/​
เป็นหน้าสุดท้ายของปฏิทิน
ปีนี้ช้ำมาเกือบทั้งปี
เรื่องความรักไม่ค่อยจะดี
เดือนธันวามันหนาวทุกที
พูดเรื่องเคาน์ดาวก็น่าตลก
นั่งมองตัวเองที่หน้ากระจก
เห็นเธอกับเขารักกับจนข้ามปี
ใต้หมอกและแสงไฟ
ในยามวิไลของค่ำคืน
เจอะเธออยู่กับใคร
มันสุดหัวใจจะกลับคืน
ปีนี้มันปีอะไร
ทำไมฉันต้องมาทนฝืน
เจอแต่คนใจร้าย
เธออยู่กับเขา
เธอคงสบายใจกว่าในตอนที่อยู่กับฉัน
ต่อให้รักเท่าไร
แต่ผลสุดท้ายต้องจากกัน
เพียงแค่คำร่ำลา
เธอก็ไม่มีสักครั้ง
เธอช่างไปได้ง่ายดาย
ฉันก็คนไม่ใช่ก้อนหิน
ถึงเธอรักเขาก็มีน้ำตา
แต่เธอก็ทำเป็นเย็นชา
เหมือนคนไม่เคยรักกัน
เพียงจากกันไม่นานและเธอก็ลืมถ้อยคำ
()
BEARING
คิดถึงเธอแม้ว่าใครจะเข้ามา
เตือนหัวใจอย่าไปรักใครซะดีกว่า
แค่เรื่องเธอฉันยังคงมีน้ำตา
ถึงมันจะผ่านไปนาน
เวลาไม่ช่วยอะไรฉันเลย
จนเวลาล่วงเลย
แต่ใจเจ้าเอยยังคงรัก
จนเมื่อเดือนกุมภา
เธอใจดวงนี้ยังช้ำนัก
หรือต้องถึงเมษา
ฉันจึงจะเจอกับความรัก
ที่เขาไม่หลอกลวง
จนเวลาล่วงเลย
ไปนานแสนนานยังคงรอ
เพียงแค่เจอคนรักจริง
ที่เข้ามาทิ้งก็คงพอ
แค่ใครสักคนที่เข้าใจ
() ()
ตอนนี้เดือนกุมภา
วันวาเลนไทน์ แต่มีน้ำตา
คิดถึงเธอช่วงเวลาในปีที่แล้วยังมีเธอ
ช่อดอกไม้ที่ให้ไป
เธอยังเก็บมันเอาไว้ไหม
แต่ว่าปีนี้ฉันเสียใจ
วันวาเลนไทน์ ไม่มีเธอ
ดาวน์โหลดเพลง \”หน้าสุดท้ายของปฏิทิน\” โทร 4922309472 ได้ทั้งริงโทน เต็มเพลง และเสียงรอสาย
Line Melody : https://melody.line.me/melody/28656
🎧 รับฟังได้แล้วทาง Music Streaming
Youtube Music : https://music.youtube.com/watch?v=VITGHIeIOr8
Spotify : https://open.spotify.com/track/52F7ZKSLbX4C4MEANQyqDP
JOOX : https://www.joox.com/th/single/tdg8Du0AdE11bguVhX+m5g==
Apple Music : https://music.apple.com/th/album/1554276362
Tidal Music : https://tidal.com/browse/track/173868787
เป็นหน้าสุดท้ายของปฏิทิน
จนว่าเดือนกุมภา
แมนอาร์

MAN'R X BEARING - หน้าสุดท้ายของปฏิทิน (Official MV )

เรื่องลักษณะนาม ม.3


เรื่องลักษณะนาม  ม.3

เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย


เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย

เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ลักษณะนามของถนน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *