Skip to content
Home » [Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | love yourself คำอ่าน – NATAVIGUIDES

[Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | love yourself คำอ่าน – NATAVIGUIDES

love yourself คำอ่าน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Pronoun   (คำสรรพนาม)    คือคำที่มีไว้สำหรับ(พูด,เขียน)แทนชื่อของคน,สัตว์,สิ่งของ,และสถานที่เพื่อป้องกันมิให้กล่าวชื่อนั้นซ้ำๆซากๆ ซึ่งเป็นการฟังไม่ไพเราะ

Pronoun   มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันคือ

  1. Personal Pronoun บุรุษสรรพนาม
  2. Possessive  Pronoun  สามีสรรพนาม
  3. Definite   Pronoun  นิยมสรรพนาม
  4. Indefinite  Pronoun  อนิยมสรรพนาม
  5. Interrogative  Pronoun   ปฤจฉาสรรพนาม
  6. Relative  Pronoun  ประพันธ์สรรพนาม
  7. Reflexive  Pronoun  สรรพนามสะท้อนหรือเน้น
  8. Distributive Pronoun  วิภาคสรรพนาม
  9. 1. Personal Pronounบุรุษสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของผู้พูด, ผู้ฟัง, และผู้ที่ถูกกล่าวถึง  ซึ่งมีอยู่ 2  พจน์  3  บุรุษ คือ

 

 

เอกพจน์

พหูพจน์

บุรุษที่     1

I

we

บุรุษที่     2

you

you

บุรุษที่     3

he,   she,    it

the

 

 

Personal   Pronoun   แบ่งได้  5  รูป คือ

รูปที่  1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่  4

รูปที่ 5

I

Me

My

mine

myself

We

us

Our

ours

ourselves

You

you

Your

yours

yourself

He

him

his

his

himself

she

her

Her

hers

herself

It

It

its

its

itself

they

them

there

theirs

themselves

 

  1. Possessive Pronoun สามีสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือบุรุษสรรพนามรูปที่  4  นั่นเอง  เวลาใช้ไม่ต้องมีนามตามหลัง  มีหน้าที่ 3 อย่างคือ

2.1     เป็นประธานของกิริยาในประโยค  เช่น Your   book  is green,  mine is red.

2.2     เป็นส่วนสมบูรณ์ของกิริยา   เช่น  this  pencil is mine, that one is your.

2.3     ใช้เรียงตามหลังบุรพบท(คำเชื่อมคำ) เพื่อเน้นความเป็นเจ้าของให้ชัดเจนขึ้นได้เช่น  A   friend  of  yours  was  killed  last  night.    

  1. 3.  Definite Pronounนิยมสรรพนาม  คือสรรพนามที่ชี้เฉพาะและใช้แทนนามได้ ที่นิยมใช้แพร่หลายมีอยู่ 6 ตัวคือ  (รวมทั้ง which ด้วย)

                    this,   that,   one      3   ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์.

                   These,    those,  ones   3    ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นพหูพจน์.

*นิยมสรรพนามนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของกิริยาในประโยคได้ตามแต่ จะ ใช้งาน.

  1. 4.   Indefinite pronounอนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้นคนนี้โดยตรง  (ตรงข้ามกับ Definite Pronoun)  ได้แก่คำว่า  some,  any,  all,  someone,  somebody,  anybody,  few,  everyone,  many,  nobody,   everybody,  other……etc.

*ข้อสังเกต ทั้งนิยมสรรพนามและอนิยมสรรพนาม  ถ้าใช้โดยมีคำนามอื่นตามหลังจะกลายเป็นคำคุณศัพท์ไป  แต่ถ้าใช้โดยไม่มีคำนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นนิยมสรรพนามหรืออนิยมสรรพนาม.

  1.  5. Interrogative pronounปฤจฉาสรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม  และต้องไม่มีนามตามหลังด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นปฤจฉาสรรพนาม  ได้แก่    Who  ,  whom,  whose  ,  what,  which     ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้.
  • Who   (ใคร)   ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นประธานของกิริยาในประโยคได้ บางครั้งก็เป็นกรรมได้ เช่น.   Who   is  standing   there  ? ใครกำลังยืนอยู่ที่นั่น?.
  • Whom (ใคร)  ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นกรรมของกิริยาหรือบุรพบท  (บางครั้งใช้ Who แทน).เช่น Whom  do  you  love ?  คุณรักใคร ?.
  • Whose (ของใคร)  ใช้ถามถึงเจ้าของ  และต้องเป็นบุคคลเท่านั้น เช่น.  Whose  is  the  car ?  รถคันนี้เป็นของใคร
  • What (อะไร)   ใช้ถามถึงสิ่งของเป็นได้ทั้งประธานและกรรม  เช่น:-

                       –  ถ้าเป็นประธานต้องไม่ใช้กริยาอะไรมาช่วยทั้งสิ้น เช่น What  delayed  you ?  

                          อะไรทำให้คุณล่าช้า.

–  ถ้าเป็นกรรมต้องมีกริยาช่วยตัวอื่นมาร่วมด้วย และวางไว้หลัง What เช่น What  

    do you want ?

  • Which  (สิ่งไหน อันไหน)  ใช้ถามถึงสัตว์, สิ่งของ, เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  ถ้าเป็นประธานไม่ต้องใช้กริยาอื่นมาช่วย  Which  is  the  best?  อันไหนดีที่สุด ?.(อนึ่งปฤจฉาสรรพนาม Whose ,which,  what นี้  ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังก็เป็นคุณศัพท์ไป   ถ้าไม่มีนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นปฤจฉาสรรพนาม)   
  1. 6. Relative  Pronounประพันธ์สรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้แทนที่อยู่ข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยค ซึ่งอาจเป็นประธานของประโยคหลังได้ด้วย  ได้แก่ Who,  Whom,   Whose, Which,  Where,  what,  when, why,  that .
  • Who  (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้กระทำด้วย เช่น The  man  who  came  here  last  week  is  my  cousin.  ชายผู้ซึ่งมาที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน.
  • Whom (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เช่น The  boy  whom  you  saw  yesterday  is  my  brother. เด็กชายผู้ซึ่งคุณพบเมื่อวานนี้เป็นน้องชายของผม.
  • Whose(ผู้ซึ่ง…..ของเขา)   ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนามที่ตามหลัง ดังนั้นเมื่อมี Whose ก็ต้องมีนามตามหลัง Whose เสมอ  เช่น  The  girl  whose  father  is  a  teacher  goes  to  school  every  day.   เด็กหญิงผู้ซึ่งพ่อของเขาเป็นครูนั้นไปโรงเรียนทุกวัน.(เป็นคำแสดง ความ เป็นเจ้าของ Father).
  • Which  (ที่,ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นสัตว์ สิ่งของ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม   The  animal            which  has  wing  is  a  bird.  สัตว์ที่มีปีกนั้นคือนก(เป็นประธานของอนุประโยค  has  wings) The  kitten  which  I  gave  to  my  aunt  is  very  naughty.  ลูกแมวซึ่งฉันให้แก่คุณป้าของฉันไปนั้นซุกซนมาก.(เป็นกรรมของกริยา  gave  ในอนุประโยค  I gave  to  my  aunt).
  • Where (อันเป็นที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสถานที่ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  The  night  club is  the  place  where  is  not  suitable  for children. ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ(เป็นประธานของอนุประโยค is  not  suitable  for  children )  The  hotel  is  the  place  where  I  like  best .  โรงแรมเป็นสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุด.(เป็นกรรมของ like).
  • What (อะไร,สิ่งที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสิ่งของ นามที่ What ไปแทนทำหน้าที่เป็นประพันธ์สรรพนามนั้นไม่ต้องปรากฏให้เห็นอยู่ข่างหน้าเหมือนประพันธ์สรรพนามตัวอื่น ทั้งนี้เพราะถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจแล้ว เช่น I  know  what  is  in  the  box.  ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนี้.
  • When (เมื่อ,ที่)  ใช้แทนนามที่เกี่ยวกับเวลา ,วัน,  เดือน,ปี  เช่น  Sunday  is  the  day  when  we  don’t  work.  วันอาทิตย์คือวันที่เราไม่ทำงาน.
  • Why (ทำไม)   ใช้แทนนามที่เป็นเหตุผล  (ส่วนมากใช้แทน reason ) เช่น This  is  the  reason  why  I  go  to  Hong  Kong. นี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไปฮ่องกง. 
  • That  (ที่,ซึ่ง)   ใช้แทนคน, สัตว์, สิ่งของ, และสถานที่ได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 4  ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อันได้แก่  :-
  1.  เป็นนามที่มีคุณสมบัติสูงสุดมาขยายอยู่ข้างหลัง เช่น  He is the tallest  man  that  I   have  ever seen. เขาเป็นคนสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา.   
  2. เป็นนามที่มีเลขจำนวนนับที่มาขยายอยู่ข้างหน้า  เช่น China  is  the  first  country  that  I am  going  to  visit. จีนเป็นประเทศแรกที่ข้าพเจ้าจะไปเที่ยว.
  3. เป็นนามที่มีคุณศัพท์บอกปริมาณมาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น She has much money  that  she  give  me.  หล่อนมีเงินอยู่มากที่หล่อนจะให้ผม. 
  4.  เป็นสรรพนามผสมต่อไปนี้ตัวใดตัวหนึ่งปรากฏอยู่แล้ว คือsomeone,  somebody,  something,  anyone,  anything,  anybody,  anyone,  everything,  no  one,  nothing,  etc.  เช่น    There  is  nothing that  I can  do  for  you.   ไม่มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้.
  5. 7.  Reflexive   Pronounสรรพนามสะท้อนหรือเน้น  ได้แก่บุรุษสรรพนามที่ 5  นั่นเอง  อันได้แก่   myself,  yourself,  ……. Themselves.   เวลาใช้มีวิธีใช้  4  อย่างคือ  :-
  6. เรียงไว้หลังประธาน  เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำกิจนั้นด้วยตนเอง เช่น  I   myself  study  English.   ผมเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง.
  7. เรียงไว้หลังกริยา เมื่อบอกว่าผลการกระทำนั้นเกิดจากผู้กระทำเองเช่น   I  will  punish  myself  if  I do  mistakes  ผมจะลงโทษตัวเอง  หากผมทำผิด. 
  8. เรียงไว้หลังกรรม  เมื่อต้องการเน้นกรรมนั้นเช่น   I   spoke   to  the  President   himself .  ผมได้พูดกับตัวท่านประธานาธิบดีเอง.
  9. เรียงไว้หลังบุรพบท by วางไว้สุดประโยคทุกครั้งไป เมื่อต้องการแสดงว่าประธานผู้นั้นกระทำกิจนั้นโดยลำพังคนเดียว เช่น   Pranee makes her dress by herself.
  10. 8.  Distributive   Pronounวิภาคสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามในการแบ่งหรือจำแนกออกเป็นครึ่งหนึ่ง, สิ่งหนึ่ง, หรือตัวหนึ่ง  วิภาคสรรพนามที่นิยมใช้กันมากคือ

each   แต่ละ,  either   คนใดคนหนึ่ง,   neither  ไม่ใช่ทั้งสอง  หรือไม่ใช่ทั้งสอง  เช่น

  There  are  ten  boy each   has  one  hundred  bath.   มีเด็กอยู่ 10  คน  แต่ละคนมีเงินอยู่คนละ  100  บาท.

*   ข้อสังเกต   วิภาคสรรพนามถ้าใช้ลอยๆเป็นสรรพนาม  แต่ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังจะเป็นคุณศัพท์     

                      

Article

                 Article   คือ คำที่ใช้นำหน้านาม    คือคำนามในภาษาอังกฤษทุกตัว เวลาพูด-เขียนจะต้องมี Article นำหน้าทั้งสิ้น(ยกเว้นบางตัวที่จะกล่าวต่อไป) 

                   Article  มีอยู่ 2 ชนิดคือ

  1. Indefinite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายทั่วไป  อันได้แก่  A  , An.
  2. Definite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายชี้เฉพาะ  ได้แก่  The .

                                 

หลักทั่วไปของการใช้   A

                  คือเมื่อ  A  นำหน้านามใดนามนั้นต้องมีลักษณะครบ  4  ประการ อันได้แก่

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป เช่นa book, a man, a bus, a pen

*  ข้อยกเว้น  ห้ามใช้  A นำหน้า  คือนามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  แต่อ่านออกเสียงสระที่อยู่ถัดไป  นามตัวนั้นให้ใช้  AN  นำหน้าแทน  (มี   H  เท่านั้น)

หลักทั่วไปของการใช้  AN

     คือเมื่อ  AN  นำหน้านามใด  นามนั้นจะต้องมีลักษณะครบ 4  ประการ คือ

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ คือ   A ,  E ,  I ,  O ,  U.
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป

               *  ข้อยกเว้น   ห้ามใช้   AN  นำหน้าคือ  นามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยสระ  แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ”ย”  นามตัวนั้นให้ใช้  A  นำหน้าแทน  (มี   U  และ  E  เท่านั้น).

           นามต่อไปนี้ห้ามใช้ทั้ง A  และ AN  นำหน้าเด็ดขาด

  1. นามที่นับไม่ได้ทุกชนิด
  2. นามพหูพจน์ทุกชนิด

                      

หลักทั่วไปของการใช้  THE

          คำว่า The แปลว่า นั้น,นี้ คือเป็นการชี้เฉพาะถึงสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว   ซึ่ง The ใช้นำหน้านามได้ทุกชนิด ทุกประเภท  นั่นคือ

  1. เป็นนามเอกพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  2. เป็นนามพหูพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  4. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ    ก็ใช้  The  นำหน้าได้ (แต่ให้อ่านว่า ดิ )
  5. เป็นนามที่นับได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  6. เป็นนามที่นับไม่ได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  7. แต่นามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะต้องมีความหมายชี้เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น.

            The water in the bottle is very poor. น้ำที่อยู่ในขวดนี้เย็นมาก.

            นามต่อไปนี้ห้ามใช้ the  นำหน้า

  1. นามที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
  2. นามที่ระบุไว้ในหัวข้อว่าห้ามใช้  the  นำหน้า (ซึ่งมีข้อห้ามมากมายแต่จะไม่กล่าวถึง เช่น อาการนาม,ชื่อเฉพาะของคน,ชื่อถนน ,ชื่อวัน, เดือน, ปี, ลัทธิ,ศาสนา เป็นต้นซึ่ง ห้ามใช้ ทั้ง a, an,และthe นำหน้า)

     * อนึ่งแม้ลักษณะของประโยคจะไม่มีคำบ่งชี้เฉพาะเอาไว้  แต่ถ้านามนั้นเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง  ก็ให้ใช้ the  นำหน้าได้ เช่น

When you go out, don’t forget to close a door. เมื่อคุณออกไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานไหนก็ได้)นะ.

When you go out, don’t forget to close the door. เมื่อคุณไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานนั้น)นะ.

การใช้  a, an, the แบบระคน

–       ถ้านามนั้นไม่มีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมาขยายอยู่ข้างหลังให้ใช้    a,  an   ทันที เช่น

A boy like to see monkey. เด็กชอบดูลิง.

–       ถ้านามนั้นมีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมา ขยายอยู่ข้างหลัง ให้ใช้    the   ทันที เช่น

The man in this room is our teacher. ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็นครูของเรา.

           * มีหลักพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ  นามใดก็ตามที่เป็นเอกพจน์นับได้  ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้เติม a  , an  ทันที  แต่ถ้านามนั้นถูกยกขึ้นมากล่าวอีกเป็นครั้งที่   2  ให้เติม   the   ทันทีเช่น

   A black cat, the cat is fat. แมวตัวหนึ่งสีดำ แมวตัวนั้นอ้วน

*   อนึ่งยังมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับคำนามบางตัวว่านามตัวใดใช้เฉพาะ a, an และนามตัวใดใช้เฉพาะ the   ซึ่งเป็นคำนามพิเศษ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง

 

[Update] เนื้อเพลงของBTS | love yourself คำอ่าน – NATAVIGUIDES

! โปรดนำไปออกพร้อมเครดิต !

궁금해

How’s your day Oh tell me

โมดึน เก คุงกึมแฮ

How’s your day Oh tell me

ผมอยากรู้ทุกอย่าง วันนี้คุณเป็นไงบ้าง บอกผมมาสิ

뭐가

행복하게

하는지

Oh text me

มวอกา นอล
แฮงบกฮาเก ฮานึนจี

Oh text me

แล้วอะไรทำให้คุณมีความสุขล่ะ ส่งข้อความมาหาผมสิ

Your every picture

머리맡에

두고

싶어

oh bae

Your every picture

แน มอรีมาเท ทูโก ชีพอ

oh bae

รูปทุกรูปของคุณ, ผมอยากจะมีมันไว้ข้างๆหมอน

oh

ที่รัก

Come be my teacher

모든

가르쳐줘

Your 1 your 2

Come be my teacher

เน โทดึน คอล ทา คารือชยอจวอ

Your 1 your 2

มาเป็นครูของผมสิ สอนผมทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณ เรื่องที่

เรื่องที่

2

Listen my my baby

나는

하늘을

높이

날고

있어

Listen my my baby

นานึน

ชอ ฮานือรึล โนพี นัลโก อีซอ

ฟังผมนะที่รัก ผมบินสูงขึ้นไปบนฟ้า

(

그때

니가

내게

줬던

날개로

คือแต นีกา แนเก
จวอซดอน ดู นัลแกโร

ด้วยปีกทั้งสองที่คุณให้ผมมา

이제

여긴

너무

높아

눈에

맞추고

싶어

อีเจ ยอกิน นอมู
โนพา

นัน แน นูเน นอล
มัจชูโก ชีพอ

แต่ตอนนี้มันสูงเกินไป ผมอยากให้คุณมองตาผม

Yeah you makin’ me a boy with luv

Yeah you makin’ me a boy with luv

ใช่แล้ว คุณทำให้ผมเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความรัก

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

You got me high so fast

전부를

함께하고

싶어

You got me high so fast

เน ชอนบูรึล ฮัมเกฮาโก ชีพอ

คุณทำให้ผมบินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมอยากจะทำทุกอย่างกับคุณ

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

You got me fly so fast

이제

조금은

알겠어

You got me fly so fast

อีเจ โชกือมึน นา อัลเกซอ

คุณทำให้ผมบินอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว

Love is nothing stronger

Love is nothing stronger

ไม่มีอะไรแข็งแกร่งกว่าความรัก

(Than a boy with) than a boy with love

(Than a boy with) than a boy with love

เว้นแต่ผู้ชาย…ผู้ชายที่มีความรัก

Love is nothing stronger

Love is nothing stronger

ไม่มีอะไรแข็งแกร่งกว่าความรัก

(Than a boy with) than a boy with love

(Than a boy with) than a boy with love

เว้นแต่ผู้ชาย…ผู้ชายที่มีความรัก

알게

이후

ya

삶은

온통

ya

นอล อัลเก ดเวน อีฮู

ya

แน
ซัลมึน อนทง นอ

ya

ตั้งแต่ตอนที่ผมพบคุณ

ya

ชีวิตของผมจะมีแค่คุณ

ya

사소한

사소하지

않게

만들어버린

너라는

ซาโซฮัน เก
ซาโซฮาจี อันเก

มันดึลรอบอริล
นอรานึน บยอน

คุณคือดวงดาวที่เปลี่ยนเรื่องธรรมดาเป็นเรื่องที่พิเศษ

하나부터

열까지

모든

특별하지

ฮานาบูทอ ยอลกาจี
โมดึน เก ทึกบยอลฮาจี

จากสิ่งแรกตามด้วยอื่นๆ
ทุกสิ่งกลายเป็นความพิเศษ

너의

관심사

걸음걸이

말투와

사소한

작은

습관들까지

นอเอ กวานซิมซา กอรึมกอรี
มัลทูวา

ซาโซฮัน จากึน
ซึบกวานดึลกาจี

สิ่งต่างๆที่คุณสนใจ
ทางที่คุณเดินหรือการพูด รวมทั้งทุกนิสัยเล็กๆน้อยๆของคุณด้ว

(HOPE WORLD)

말하지

너무

작던

내가

영웅이

거라고

(

Oh nah)

ทา มัลฮาจี นอมู
จักดอน

แนกา ยองอุงอี ดเวน คอราโก

(Oh nah)

ทุกคนบอกว่าผมเคยเป็นเด็กน้อยและตอนนี้ผมกลายเป็นฮีโร่

(Oh nah)

말하지

운명

따윈

처음부터

아니었다고

(

Oh nah)

นัน มัลฮาจี
อุนมยอง ตาวีน

ชออึมบุทอ แน เก อานีออซดาโก

(

Oh
nah)

ผมบอกว่าบางสิ่งเหมือนเป็นโชคชะตามันไม่เคยเป็นของผม

(Oh nah)

세계의

평화

(

No way)

거대한

질서

(

No
way)

เซกเยเอ พยองฮวา

(No way)

คอแดฮัน ชิลซอ

(

No way)

สันติภาพของโลก

(

ไม่มีทาง

)

กฎระเบียบ

(

ไม่มีทาง

)

그저

지킬

거야

(

Boy with luv)

คือจอ นอล ชีคิล
คอยา นัน

(

Boy with luv)

ผมแค่จะทำให้คุณปลอดภัย (เป็นผู้ชายที่มีความรัก)

Listen my my baby 

나는

 

 

하늘을

 

높이

 

날고

 

있어

Listen my my baby

 นานึน 

ชอ ฮานือรึล โนพี นัลโก อีซอ

ฟังผมนะที่รัก ผมบินสูงขึ้นไปบนฟ้า

(

그때

 

니가

 

내게

 

줬던

 

 

날개로

คือแต นีกา แนเก จวอซดอน ดู นัลแกโร

ด้วยปีกทั้งสองที่คุณให้ผมมา

이제

 

여긴

 

너무

 

높아

 

 

 

눈에

 

 

맞추고

 

싶어

อีเจ ยอกิน นอมู โนพา

 

นัน แน นูเน นอล มัจชูโก ชีพอ

แต่ตอนนี้มันสูงเกินไป ผมอยากให้คุณมองตาผม

Yeah you makin’ me a boy with luv

Yeah you makin’ me a boy with luv

ใช่แล้ว คุณทำให้ผมเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความรัก

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

You got me high so fast

 

 

전부를

 

함께하고

 

싶어

You got me high so fast

 

เน ชอนบูรึล ฮัมเกฮาโก ชีพอ

คุณทำให้ผมบินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมอยากจะทำทุกอย่างกับคุณ

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

You got me fly so fast

 

이제

 

조금은

 

 

알겠어

You got me fly so fast

 

อีเจ โชกือมึน นา อัลเกซอ

คุณทำให้ผมบินอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว

Love is nothing stronger

Love is nothing stronger

ไม่มีอะไรแข็งแกร่งกว่าความรัก

(Than a boy with) than a boy with love

(Than a boy with) than a boy with love

เว้นแต่ผู้ชาย…ผู้ชายที่มีความรัก

Love is nothing stronger

Love is nothing stronger

ไม่มีอะไรแข็งแกร่งกว่าความรัก

(Than a boy with) than a boy with love

(Than a boy with) than a boy with love

เว้นแต่ผู้ชาย…ผู้ชายที่มีความรัก

까놓고

말할게

나도

모르게

힘이

들어가기도

했어

ทุก กาโนโก
มัลฮัลเก นาโด โมรือเก ฮีมี ดึลรอกากีโด แฮซอ

ผมจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
บางครั้งผม

높아버린

sky

커져버린

hall

때론

도망치게

해달라며

기도했어

โนพาบอริน

sky

คอจยอบอริน

hall

แตรน
โดมังชาเก แฮดัลรามยอ กีโดแฮซอ

ท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป
ฮอลที่ขยายใหญ่ บางครั้งผมอ้อนวอนขอให้ผมหนีไป

But

너의

상처는

나의

상처

깨달았을

다짐했던걸

นอเอ
ซังชอนึน นาเอ ซังชอ แกดาราซึล แต นา ดาจิมแฮซดอนกอล

But

แต่ความเจ็บปวดของคุณก็คือความเจ็บปวดของผม
เมื่อผมตระหนักถึงมัน ผมก็สาบานกับตัวเอง

니가

이카루스의

날개로

태양이

아닌

너에게로

Let me fly

นีกา จุน อีการูซือเอ นัลแกโร แทยองงี อานิน นอเอเกโร

Let me fly

ด้วยปีกของ

อิคารัส*

ที่คุณให้ผม ไม่ได้ไปทางดวงอาทิตย์แต่จะไปทางคุณ
ให้ผมบินนะ

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

I’ve waited all my life

전부를

함께하고

싶어

I’ve waited all my life

เน
ชอนบุรึล ฮัมเกฮาโก ชีพอ

ผมรอมาทั้งชีวิต ผมอยากจะทำทุกอย่างกับคุณ

Oh my my my oh my my my

Oh my my my oh my my my

Looking for something right

이제

조금은

알겠어

Looking for something right

อีเจ โชกึมมึน นา อัลเกซอ

มองหาสิ่งที่ใช่ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว

I want something stronger

I want something stronger

ผมต้องการอะไรที่แข็งแกร่งมากขึ้น

than a moment love

Than a momentthan a moment love

Than a moment

than a moment love

มากกว่าช่วงเวลา มากกว่าช่วงเวลาแห่งรัก

Love is nothing stronger

Love is nothing stronger

ไม่มีอะไรแข็งแรงไปกว่าความรัก

(Than a boy with) than a boy with luv

(Than a boy with) than a boy with luv

เว้นแต่กว่าผู้ชาย…ผู้ชายที่เต็มไปด้วยความรัก

*อิคารัส

 

ในตำนานเทพเจ้ากรีก อิคารัสสามารถบินได้ด้วยปีกที่สร้างโดยดีดาลัส (Daedalus) ผู้เป็นพ่อ โดยสร้างปีกด้วยขนนกติดกันด้วยขี้ผึ้ง ก่อนที่จะบิน ดีดาลัสเตือนลูกชายไม่ให้บินเข้าใกล้พระอาทิตย์หรือทะเลจนเกินไป แต่ด้วยความตื่นเต้นอิคารัสก็บินสูงขึ้นจนใกล้พระอาทิตย์ ความร้อนของพระอาทิตย์ก็ละลายขึ้ผึ้งที่เชื่อมขนนกบนปีกของอิคารัส เมื่อไม่มีปีกอิคารัสก็ตกจากท้องฟ้าลงไปทะเลและจมน้ำตาย

*หมายเหตุ เนื้อเพลงทั้งในblog และในyoutube เราอ้างอิงจากใน mv นะคะ อาจะไม่ตรงตามในแอพสตรีมเพลงหรืออัลบั้มนะคะ ถ้ามีโอกาสเราจะทำแยกให้อีกอันนึงค่ะ

เนื้อเพลง BTS Boy with luv thai sub TH sub

แปลเพลง BTS Boy with luv sub thai ซับไทย

คำอ่าน BTS Boy with love thai sub ไทยซับ

 작은 것들을 위한 시

 BTS Boy with love sub thai เนื้อเพลง

พบข้อผิดพลาดหรือสงสัยตรงไหนบอกได้เลยนะคะ

ฝากช่องเราด้วยค่ะ


[คำอ่านไทย + แปลไทย] Love Yourself – Justin Bieber cover by J Fla


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

[คำอ่านไทย + แปลไทย] Love Yourself - Justin Bieber cover by J Fla

Justin Bieber – Love Yourself – (Cover by Kyson Facer)


Watch: Justin Bieber Love Yourself (Cover by Kyson Facer)
Thanks for all of the support! 🙂
My Social Media: Instagram: http://instagram.com/kysonfacer Twitter: https://twitter.com/kysonfacer
Produced by: David Kidd
Social Media: @davidkiddmusic
Contact: [email protected]
Filmed By: Chris David
http://www.twitter.com/ChrisDavid315
http://[email protected]

Justin Bieber - Love Yourself - (Cover by Kyson Facer)

Baby คำอ่านไทย+แปลไทย


ขอบคุณคลิปต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=bW0DUIMIS7g

Baby คำอ่านไทย+แปลไทย

Shane Filan – Beautiful In White (Official Video)


Taken from the ‘Love Always’ album available now from: http://smarturl.it/LoveAlways
Follow Shane Filan on
http://www.shanefilan.com
https://twitter.com/ShaneFilan
https://www.facebook.com/Shanefilanofficial
http://www.instagram.com/Shanefilanofficial
http://vevo.ly/wflPAE
ShaneFilan BeautifulInWhite Vevo Pop

Shane Filan - Beautiful In White (Official Video)

💡ฝึกแบบนี้แต่แรก ป่านนี้พูดคล่องไปแล้ว🇬🇧


สาธิตเรียนแต่งประโยคเทคนิคครูส้ม
พื้นฐานน้อยมาก อยากพูดเป็น ฝึกที่นี่ !
____________
➟ 🇬🇧 คอร์สภาษาอังกฤษ 🇬🇧 www.englishfitandfirm.net
➟ ตัวอย่างสไตล์การสอนครูส้ม
https://www.youtube.com/watch?v=bwu778BTcMw\u0026list=PLQDByO7h40Pr3mGPhfHzruLF2zQdmII5\u0026ab_channel=EnglishFitandFirm
➟ คลิปบทเรียนสั้นๆสไตล์ครูส้ม
⟿ ✨Facebook:
https://www.facebook.com/EnglishFitandFirm/
⟿ ✨IG:
https://www.instagram.com/eng_som_o/?hl=en
⟿ ✨YouTube:
https://www.youtube.com/channel/UCKoHHFMpTvk84IdG3GoNnfQ

ฝึกแต่งประโยค คิดภาษาอังกฤษ เรียนเพื่อสื่อสาร

💡ฝึกแบบนี้แต่แรก ป่านนี้พูดคล่องไปแล้ว🇬🇧

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ love yourself คำอ่าน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *