Skip to content
Home » [Update] | ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ – NATAVIGUIDES

[Update] | ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ – NATAVIGUIDES

ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

วันนี้ Eng Breaking มาพร้อมกับคู่มือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ที่มีทั้งหมด 12 หัวข้อที่น่าสนใจรับรองว่าถ้าคุณใช้ประโยคเหล่านี้เป็นคุณสามารถโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ สร้างการสื่อสารที่ดีได้อย่างแน่นอน

Table of Contents

1. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย Greetings- การแนะนำและคำทักทาย

Hello/ HiสวัสดีHow’s your day going?เป็นอย่างไรบ้าง?Hello, my name is….สวัสดีฉันชื่อ…  How are you?เป็นอย่างไรบ้าง?Hey man, Nice to meet you. เฮ้ เพื่อนยินดีที่ได้รู้จัก  Good to see you!ดีใจที่ได้เจอHi, how’s tricks?เป็นอย่างไรบ้าง?What’s your name?คุณชื่ออะไร?How do you do? สวัสดี (ไม่ได้แปลตรงตัวตามตัวอักษรว่า คุณทำอย่างไร)  Whazzup?ทำอะไรอยู่How’s life?ชีวิตเป็นไงบ้าง?What’s up? What’s new?, or What’s going on? มีอะไร? มีอะไรใหม่? หรือเกิดอะไรขึ้น?How’s it going?เป็นไงบ้าง?Where are you from?คุณมาจากไหนHow long will you stay here?คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?Where do you live now?ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่ไหนHave a nice day for you!ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะAre you here on vacation?คุณมาที่นี่เพื่อพักร้อนใช่ไหม?Haven’t seen you for ages.นานมาแล้วไม่เห็นคุณ(สำนวน “in ages” หรือ “for ages” แปลว่า เป็นเวลานาน)  This is my name cardนี่คือนามบัตรของฉันHave a good one ขอให้มีวันที่ดีSee you soon!แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้

2. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Family – ประโยคเกี่ยวกับครอบครัว

Do you want to see pictures of my family?คุณอยากดูรูปภาพครอบครัวของฉันไหม?How’s the family? How’s everybody doing?         ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างHave you got a big family?คุณมีครอบครัวใหญ่ใช่ไหม?Have you got any brothers or sisters?คุณมีพี่ชายหรือพี่สาว?How many people are there in your family?ครอบครัวคุณมีสมาชิกกี่คน?There are six people in my familyครอบครัวของฉันมีหกคน

3. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Jobs – ประโยคเกี่ยวกับงาน

Are you available for the meeting on …?คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา…มั้ยI wish I could help, but I’m busy right now.ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะCan / Could I remind you to…?ขอฉันเตือนเธอสักนิดนะว่า…Hope you don’t forget to do it.ฉันหวังว่าเธอจะไม่ลืมทำมันนะCould I have your advice on this?ฉันขอคำแนะนำจากคุณได้ไหม?That sounds like a great plan!ฟังดูแผนนี้ยอดเยี่ยมจังCan you join the meeting on..?คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา…ได้มั้ยWhat time does the meeting start?  ประชุมเริ่มกี่โมงCan I take a day off? ฉันขอลาซักวันได้มั้ย  Which room is the meeting in?ห้องที่กำลังมีประชุมอยู่ไหน?Don’t forget to do it.อย่าลืมทำเรื่องนี้Would you mind photocopying this bill for me?จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะรบกวนคุณถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ที  Do you have a minute?ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย                 Would you mind sending the presentation to me?  รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อยI want to remind you about …ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่อง…  Please don’t forget to do this.อย่าลืมทำมันนะI’d like to remind you about…ฉันต้องการเตือนคุณเกี่ยวกับ …You will remember to finish it, won’t you?เธอจำได้ว่าต้องทำมันให้เสร็จใช่ไหมI’m looking forward to working together.ฉันรอคอยที่จะทำงานร่วมกันกับคุณStick on the plan that…ตามแผนที่วางไว้คือ…                                     

Eng Breaking แนะนำประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Things Are Good – ชื่นชม

Good job!ทำได้ดีมาก!You’re a genius.คุณเป็นอัจฉริยะGood for you!ดีสำหรับคุณ!You’re doing fine.คุณทำได้ดีGreat!ดีมากYou are really pretty.คุณน่ารักจริงๆGood thinking.เป็นความคิดที่ดีYou look great today.วันนี้คุณดูดีมากThat’s it!นั่นแหล่ะ! (ต้องเป็นอย่างนั้น)You’re on the right track now!คุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว!That’s the best ever.นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดYou’re looking so beautiful today.วันนี้คุณดูสวยงามมากThat’s not bad! นั่นไม่เลวเลย!I love your new dress.ฉันชอบชุดใหม่ของคุณThat’s really nice มันดีจริงๆHow thoughtful ช่างคิด,ครุ่นคิด,รอบคอบ

5. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Ways To Say Sorry – วิธีการพูดคำขอโทษ

Whoops. Sorryอ๊ะ ขอโทษSorry to butt in ….ขอโทษที่พูดขัดจังหวะ….I’m (so / very / terribly) sorry หรือ I’m terribly sorryฉันขอโทษจริงๆSorry to interrupt, but…..ขออภัยที่จะขัดจังหวะ แต่…I’m sorry I’m lateฉันขอโทษที่มาสายPardon (me).ยกโทษให้ฉันSorry to bother youขอโทษที่รบกวนคุณThat’s my fault.นั่นเป็นความผิดของฉันSorry. I didn’t mean to do that ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นMy bad/My fault.ฉันไม่ดี / ความผิดของฉันSorry for keeping you waitingขออภัยที่ทำให้คุณต้องรอPlease excuse my (ignorance).กรุณาให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉัน

คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้เพื่อตอบกลับเมื่อคนอื่นพูดคำขอโทษกับคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยเช่น
Don’t worry about it. – อย่าไปกังวล, อย่าไปคิดมาก
Please don’t blame yourself. –อย่าโทษตัวเอง
It’s not your fault. – ไม่ใช่ความผิดของคุณ
That’s all right – ไม่เป็นไร หรือ ทุกอย่างยังโอเค
Think nothing of it. – ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกนะ
No problem – ไม่เป็นไร
Never mind. It doesn’t really matter. – ไม่ต้องคิดมากไม่เป็นไร

6. Ways To Say Thank You for someone – การพูดขอบคุณใครสักคน

Thank you very much.ขอบคุณมากๆThanks a million for…!ขอบคุณล้านครั้งสำหรับ … !How thoughtful.คุณรอบคอบจังThere are no words to show my appreciation!ไม่มีคำพูดใดที่แสดงความขอบคุณของฉัน!That’s so kind of you.คุณดีกับฉันจังI am most grateful ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่สุดThank you, without your supportขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI really appreciate itฉันซาบซึ้งกับเรื่องนี้จริงๆ

อย่าพลาดวิดีโอนี้นะ >> จะอธิบายบางอย่างในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างไร

7. Giving An Opinion – ให้ความคิดเห็น

As far as I’m concerned…ตามความเห็นของฉัน / เท่าที่ฉันรู้…..What I’m trying to say is….สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคือWhat are your views on…?คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้What is your opinion about that?เรื่องนั้นคุณมีความเห็นว่าอย่างไรWhat are your ideas ?คุณรู้สึกยังไงกับสิ่งนั้นTo my mind…ฉันคิดว่า….What’s your opinion?คุณมีความคิดเห็นอย่างไรI think we should…ฉันคิดว่า เราควร…

8. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Hobby – ประโยคเกี่ยวกับงานอดิเรก

What is your hobby? งานอดิเรกของคุณคืออะไรI’m really into it.ฉันหลงใหลในสิ่งนั้นมากๆI relax by…ฉันผ่อนคลายด้วยI’m addicted to itฉันติดสิ่งนั้นมากๆIf I’m not working, I…ถ้าฉันไม่ทำงานฉัน …Why did you start your hobby?ทำไมคุณถึงเริ่มงานอดิเรกของคุณMy hobbies are…งานอดิเรกของฉันคือ…How many hours a week do you spend on your hobby?คุณใช้เวลากับงานอดิเรกของคุณกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์?I wouldn’t mind a…ฉันจะไม่รังเกียจ …I’m crazy about it. ฉันคลั่งไคล้มันI could use a…ฉันต้องการI’d really like / I’d love a day off.ฉันชอบมาก / ฉันชอบวันหยุด

ผู้เรียนภาษาอังกฤษจะไม่ควรพลาดกับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

9. Asking For Help and Suggest Giving Help – การขอความช่วยเหลือและแนะนำการให้ความช่วยเหลือ

Can I help you?ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้างGive me a hand with this, will you?คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?Could you help me for a second? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม

Help! / Help me!ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยI need some help, please.ฉันต้องการความช่วยเหลือโปรด ช่วยฉันหน่อยThanks for your help. ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI can’t manage. Can you help?ฉันจัดการไม่ได้ คุณช่วยได้ไหมIt’s my pleasure.ด้วยความยินดี

10. Sentences about Shopping – ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
เกี่ยวกับการช็อปปิ้ง

Are you open on…?
ร้านเปิดตอน…ใช่ไหม?What is the total?
ทั้งหมดเท่าไหร่?Buy one get one free
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งWhat is the price after the discount?
ราคาหลังลดแล้วคือเท่าไห่รCan you give me any off?
คุณลงราคาหน่อยได้ไหม?Would you like anything else?
คุณต้องการอย่างอื่นอีกไหมDo you sell any…? or Do you have any…?
คุณมีขาย….ไหม?That’s cheap!
ถูกมากเลย!That’s good value
นั่นมีมูลค่าที่ดีThat’s too expensive!
มันแพงเกินไป!

11. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย On The Phone

Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง? ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ?
Can I speak to … please?ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ย
Could I ask who’s calling, please? ฉันขอถามได้ไหมว่าใครโทรมา
Can I leave a message for him/her? – ฉันสามารถฝากข้อความถึงเขา ได้หรือไม่?
Could you please take a message? Please tell her/him that…คุณช่วยส่งข้อความได้ไหม กรุณาบอกเธอว่า…

Sure, one moment please. –แน่นอนอยู่แล้ว รอฉันสักครู่
Thanks for getting back to me. ขอบคุณที่ติดต่อกลับ
Leave a message after the beep. ฝากข้อความหลังจากเสียงสัญญาณ
Leave a message.ฝากข้อความไว้
I’ll call you later. ฉันจะโทรกลับทีหลัง
I’ll call you back when I’m free. ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง

I’m sorry, she/he’s not here today. Can I take a message? ขอโทษนะคะ เขาไม่อยู่ที่นี่วันนี้ กรุณาฝากข้อความเอาไว้ได้ไหม
I’m sorry, we have a bad connection.  Could you speak a little louder, please? ขอโทษนะคะ เหมือนสัญญาณจะไม่ดี กรุณาพูดให้ดังหน่อยได้ไหม
Good morning/afternoon/evening.  This is (your name) at/ calling from (company name).  Could I speak to ….? – สวัสดี.ฉันชื่อ … โทรจาก… ฉันสามารถคุยกับ…. ได้ไหม?
Is there anything else I can help you with?……Okay, thanks for calling.  –มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม? … ขอบคุณมากที่โทรหา

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยช่วยคุณมั่นใจมากขึ่้นในการสื่อสาร

ยกตัวอย่างบทสนทนามีใช้ประโยคที่ใช้บ่อย

บทสนมนาในการเจอกันครั้งแรกกับ การใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยบทสนมนาถามตอบเกี่ยวกับงานอดิเรก กับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยMike: Good morning, nice to see you, I’m Mike What’s yours?
สวัสดีตอนเช้า ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อ Mike แล้วคุณละครับ
Ning: You can call me Ning. — เรียกผมว่า Ning ได้นะครับ
Mike: You speak English very well. — คุณพูดภาษาอังกฤษดีมากเลยนะครับ
Ning: Oh, a little — อ่ะ ได้นิดหน่อยครับ
Mike: Where are you from Ning? — คุณมากจากไหนครับ Ning?
Ning: I’m from Japan — ผมมาจากญี่ปุ่นครับ 
Mike:  Are you here on vacation? — คุณมาเที่ยวหรอครับ
Ning: No, I’m not. I’m here working — ไม่ครับ ผมมาทำงานที่นี่ครับ
Mike: what are you doing? — คุณทำงานอะไรครับ
Ning: I’m a journalist — ผมเป็นนักข่าวครับ
Mike: How long will you stay here? — คุณจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ
Ning: A week, nice to meet you Mike — หนึ่งสัปดาห์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับไมค็
Mike:  Me too , This is my name card — เช่นกันครับ นี่คือนามบัตรของผม
Ning: Thank you — ขอบคุณครับNing: Tell me, what do you enjoy doing in your spare time Mike? 
บอกผมได้ไหมครับว่าคุณชอบทำอะไรในเวลาว่างครับไมค์? 
Mike: Well, I like painting and I also collected a lot of other things. What
about you? — อ่ะ ผมชอบวาดรูป และสะสมบางอย่างครับ แล้วคุณละครับ ?
Ning: I like painting too and playing piano. — ผมชอบวาดรูปและเล่นเปียโน
Mike: You know how to playing piano? — คุณเล่นเปียโนเป็นด้วยหรอ
Ning: Yes, I do. — ครับ ผมเล่นได้
Mike: How interesting! When did you learn how to do that?
ดีจังเลย คุณเรียนเปียโนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Ning:  I learned by myself when I was 15 years old
ผมเรียนเองนะครับ ตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี
Mike: It’s so amazing. –มันช่างยอดเยี่ยมมาก

เยี่ยมเลยครับ 

ทั้งหมดดังกล่าวคือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่ Eng Breaking ฝากไว้ให้ผู้เรียนทุกท่าน หวังว่าคุณจะใช้ได้มีประโยชต์ต่อการทำงาน การเรียน อย่าลืมติดตามเว็บไซน์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของ EngBreaking.co.th เพื่อได้รับข้อมูล และสารดีๆ ทางภาษาอังกฤษทุกวัน

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[Update] 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 3 เดือน | ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ – NATAVIGUIDES

การสื่อสารมีความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารจะมีทั้งการฟังและพูด เพื่อสร้างบทสนทนาและสามารถโต้ตอบได้อย่างเข้าใจ แต่ปัญหาของผู้เรียนส่วนใหญ่จะเจอในการสื่อสารคือฟังได้แต่ตอบไม่ได้ พูดไม่ออก เรียนไปตั้งนานแต่ไม่เห็นการพัฒนา ทำให้รู้สึกว่าเรียนไปก็เสียเวลาไปเปล่า ๆ ดังนั้นวันนี้ทาง EngBreaking.co.th จะเปิด 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือน จริงหรือไม่ ? ต้องดู !

1.เปลี่ยนจากการคิดเป็นภาษาไทยเป็นคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อนพูดทุกครั้ง

ถ้าผู้เรียนคนใดอยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง เราต้องคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อน เช่น เมื่ออยากจะพูดกับเพื่อนว่า

  • นานแล้วไม่เจอเธอเลย สบายดีไหม ?

เราจะคิดเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่มีความหมายเดียวกันคือ

  • “Hi, Long time no see, How are you?”

จากนั้นลองคิดเกี่ยวกับคำตอบที่จะได้รับ ฝึกคิดตั้งแต่ประโยคสั้น ๆ ก่อน ถึงจะลองฝึกคิดประโยคยาว ตั้งแต่ง่ายจนถึงยากเพื่อท้าทายตัวเอง และเป็นการฝึกฝนที่จะช่วยได้หลายอย่าง ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณเอง เช่น การโต้ตอบเร็วขึ้นเพราะจะไม่ต้องแปลหรือคิดเป็นภาษาไทยก่อนพูดเหมือนเดิม และสามารถเดาไว้ก่อนคำถามหรือคำตอบที่คุณอาจจะเจอในแต่ละกรณี ทำให้ตอนที่เราสื่อสารกับใครเราก็มั่นใจ พูดได้เร็วเพราะสมองได้ฝึกและคุ้นเคยกับศัพท์หรือประโยคเหล่านั้นอยู่แล้ว

Eng Breaking แนะนำวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ

2.ต้องกล้าพูดภาษาอังกฤษ

ผู้เรียนบางคนชอบคิดว่าเมื่อเราเรียนแกรมมาเก่งแล้วเราถึงจะพูดก็ได้ แต่ความคิดแบบนี้ผิดมากเพราะตอนที่เราพูด ไม่จำเป็นที่ต้องพูดให้ถูกไวยากรณ์ 100% และถ้าเราไม่ฝึกพูดบ่อยและยิ่งมีความล่าช้าในการฝึกพูด ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเมื่อต้องพูด เราคิดว่าเราจะพูดได้นะเพราะเราเคยเรียนศัพท์และไวยากรณ์นั้นไปแล้ว แต่เราไม่เคยได้ฝึกพูดจริง ๆ เมื่อถึงเวลาใช้งาน พอถึงเวลากลับพูดไม่ออก ดังนั้นอย่าลังเลในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ต้องกล้าพูด กล้าท้าทายตัวเอง ถึงจะเก่งได้

3. ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษในหลายกรณีที่แตกต่างกัน

“Use It or Lose It” เป็นสำนวนอังกฤษที่มีความหมายว่า สิ่งใดไม่ได้ใช้ กำลังก็จะลูญหาย คุณค่าก็จะลดลง เช่นเดียวกันกับการฝึกฝนเรียนภาษาอังกฤษ หากไม่มีการนำออกมาใช้พัฒนา ความสามารถที่มีก็จะหายไปในที่สุด ดังนั้นต้องหมั่นเติมความรู้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะให้ไม่ถูกลดทอนไปและใช้งานไม่ได้ในที่สุด

หมั่นฝึกพูดให้หลากหลายและบ่อยขึ้น ถ้าเรียนรู้คำศัพท์มามากมาย แต่ไม่ทำไปใช้งาน การพัฒนาก็ไม่เกิดขึ้น ควรที่จะรู้จักการเรียนรู้ในรูปแบบอื่น ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่มากขึ้น รู้จักการท้าทาย อย่ากลัวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่ก้าวหน้า ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความกลัวที่จะก้าวข้ามมานั่นเอง

4.เรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างสร้างสรรต์

ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอะไรก็ตามถ้าเรามีความสร้างสรรค์ในการเรียน รู้จักประยุกต์การเรียน ถึงแม้จะเรียนคนเดียวแต่รู้จักออกแบบการเรียนให้ดูสนุกก็ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ เช่น ฝึกฝนกับกระจก หรือร้องเพลงตามศิลปินที่ชอบ

และในปัจจุบัน ก็มีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยในการเรียนรู้ควบคู่ไปการสร้างความบันเทิง เช่น Tiktok ที่มักจะมีชาเลนจ์ คอนเทนต์ที่น่าสนใจที่อัปเดตอยู่เสมอ ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษดูไม่ยากและน่าเรียนมากขึ้น การเรียนรู้ไปกับเพื่อน ๆ ก็จะช่วยเพิ่มความสนุกได้มากขึ้น กับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น บอร์ดเกม ที่เป็นที่นิยม หรือแอปพลิเคชั่นที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็นำมาเล่นสนุกด้วยกันเป็นทีมได้เช่นกัน

ฝึกพูดภาษาอังกฤษถูกต้องสามารถเก่งได้ในสามเดือน

5.มีแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษที่ดี น่าเชื่อถือใช้ตลอดการเรียน

ตอนนี้เราสามารถหาได้ทุกอย่างได้ในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Blog, Vlog, Youtube เว็บไซต์ต่าง ๆ แต่ก็ใช่ว่าแต่ละแหล่งจะเชื่อถือได้และได้ผล ดังนั้นก็ควรศึกษาแหล่งข้อมูลเหล่านั้นให้ดี ๆ ว่ามีประโยชน์จริง ๆ อย่างเว็บ EngBreaking.co.th ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษในแบบฉบับสมบูรณ์ รองรับผู้เรียนทุกระดับตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยาก มีการจัดสรรเนื้อหาในบทเรียนให้เหมาะสมแก่ผู้เรียนแต่ละคน

6.เลียนแบบตามคนอื่นเป็นวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม

ถ้าคุณชอบน้ำเสียงของใคร คุณสามารถเรียนตามเขาได้หรือเรียกได้ว่าวิธีการเลียนแบบตามคนอื่นที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายคนที่เคยใช้และประสบความสำเร็จได้ การเรียนแบบนี้ง่ายมาก ๆ กับสามขั้นตอนคือ

  • ขั้นตอนที่หนึ่ง คุณต้องเลือกคนที่คุณชอบ มีน้ำเสียงดี ออกเสียงภาษาอังกฤษแบบชัดเจน
  • ขั้นตอนที่สอง พูดตามคำพูดของเขาแบบที่ละประโยคสั้นๆ 
  • ขั้นตอนที่สาม ปรับความเร็ว การขึ้นลงของเสียงตามคนพูดในวิดีโอ แล้วฝึกพูดตามประโยคยาวๆ ถ้าตอนแรกเราฟังก่อนแล้วพูดตาม แต่ถึงขึ้นตอนที่สามนี้เราลองพูดตามไปเลยเหมาะกับจังหวะ ถ้าขยันใช้วิธีแบบนี้เราจะสามารถเลียนสำเนียงต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว

7.ลองฝึกใช้วิธี Tongue Twisters แบบสนุกๆ เพื่อฝึกพูดไว

ในภาษาอังกฤษมักจะมีศัพท์ที่อ่านออกเสียงยาก แต่ผู้เรียนจะไม่ต้องกังวลอีกแล้วเพราะเรามีเทคนิคเพื่อช่วยให้คุณปรับการออกเสียงให้ดียี่งขึ้นที่ได้เรียกว่า “Tongue Twisters” ที่หมายถึงสิ่งที่ทำให้ลิ้นบิดเบี้ยว หรือจริงๆ ก็คือเจ้าสิ่งนี้มันทำให้ลิ้นของเราอ่อน พูดได้เพราะมากขึ้นนั้นเอง
คุณสามารถฝึกออกเสียงตามวิธี “Tongue Twisters” โดยการอ่านประโยคละสามถึงห้ารอบหรือจนถึงเมื่อไหร่รู้สึกว่าโอเคแล้วเพื่อฝึกทักษะการพูดของตัวเองให้ดีขึ้นดังนี้

  • How can a clam cram in a clean cream can? ที่หมายถึง “หอยตลับเข้าไปแออัดยัดกันอยู่ในกระป๋องครีมสะอาด ๆ ได้ยังไงกัน” ช่วยคุณแยกระหว่างการออกเสียง /kl/ กับ /kr/ 
  • Send toast to ten tense stout saints’ ten tall tents. ที่หมายถึง “เอาขนมปังอบไปส่งที่เต็นท์สูงสิบหลังของพวกนักบุญอวบอ้วนที่ดูเคร่งเครียดสิบคน” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง /s/ กับเสียง /t/ ซึ่งเป็นพยัญชนะฐานฟันทั้งคู่
  • If Stu chews shoes, should Stu choose the shoes he chews? ที่หมายถึง “ถ้าสตูเคี้ยวรองเท้า มันก็ควรจะเลือกรองเท้าที่มันเคี้ยวหรือเปล่า” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง sh กับ ch ให้ชัดเจน กับหลายประโยคที่ผู้เรียนสามารถเก็บเอาไว้ฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านได้เช่น
  • Can you can a can as a canner can can a can? ฝึกออกเสียง เสียง /k/
  • I wish to wish the wish you wish to wish, but if you wish the wish the witch wishes, I won’t wish the wish you wish to wish. ฝึกออกเสียง sh กับ ch 
  • Santa’s short suit shrunk. ฝึกเสียง s กับ sh ซึ่งเป็นเสียงประเภท sibilant ทั้งคู่
  • Big purple bags were bought by the big picky people from

    Bilbao

    . ฝึกออกเสียง /b/ กับ /p/

8. เรียนรู้วลีแทนการเรียนรู้แต่ละคำ

การที่เราเรียนรู้เพิ่มวลีจะช่วยคุณในการพูดภาษาอังกฤษอย่างกล้วยๆ คำพูดจะออกมาแบบธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้นเราควรทราบวลีที่ต่างชาติมักจะใช้กันบ่อยดังนี้

come up /kʌm/ with something แปลว่า ก่อให้เกิด, ปรากฏ
clean up /kliːn/ แปลว่า
ทำความสะอาด
come about  แปลว่า
สิ่งที่เกิดขึ้น
bring in something /brɪŋ/ แปลว่า
นำบางสิ่งบางอย่าง, เอามาให้
turn off /tɜːn/  แปลว่า ปิด
turn on something แปลว่า
เปิดบางสิ่งบางอย่าง
grow up /ɡrəʊ/  แปลว่า
โตขึ้น
keep up /kiːp/  แปลว่า
ทำต่อไป
look after /lʊk/ sb/sth แปลว่า
ดูแล
show up /ʃəʊ/ แปลว่า
แสดงขึ้นมา
stay behind /steɪ/  แปลว่า
อยู่ข้างหลัง
look up to sb แปลว่า
เคารพ
find out (something) /fɑɪnd/ แปลว่า
หา (บางสิ่งบางอย่าง)
wake up /weɪk/ แปลว่า 
ตื่นนอน

ยกตัวอย่างเช่น

:

What do you want to be when you grow up? แปลว่า คุณอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น?
How did you find out about the party? แปลว่า คุณทราบเกี่ยวกับปาร์ตี้ได้อย่างไร?
How many people showed up to the meeting? แปลว่า มีคนเข้าร่วมประชุมกี่คน

จากตัวอย่างดังนี้เราจะเห็นเลยว่าในภาษาอังกฤษเราก็มีหลากหลายวิธีเพื่อจะตั้งคำถามหรือตอบโดยการใช้ศัพท์หรือวลีที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคำที่ต่างชาตินิยมกันใช้ เราควรทราบเพื่อเลียนแบบตามได้ถูก มีความก้าวหน้าสำหรับทักษะการพูดภาษาอังกฤษของตนเอง

9. ไม่หยุดการเก็บกศัพท์ใหม่

สำหรับการพูดภาษาอังกฤษถ้าเราไม่ขยันเสริมสร้างคลังคำศัพท์ของตัวเราเอง เราก็จะพูดไม่ได้แน่นอน เพราะตอนที่ขาดศัพท์จะฟังไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดว่าหมายความว่าอะไร จากการฟังไม่ออกก็ทำให้จะตอบไม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากพูดเก่งนอกจากต้องฝึกฟังและหัดสำเนียงตามให้เก่ง นอกจากนี้ก็ต้องหมั่นเก็บตกศัพท์ใหม่ไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีคลังศัพท์เยอะยิ่งใช้คำพูดได้ธรรมชาติและพูดได้คล่อง ได้ไวเหมือเจ้าของภาษา

10. ต้องพัฒนาทักษะการพูดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

อย่าพึ่งหยุดการพัฒนาในทักษะการพูดของตัวเองโดยคิดว่าเราสื่อสารได้แล้ว หรือแค่นั้นแค่นี้คือพอแล้ว เพราะสำหรับการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เราต้องขยันอัปเดตศัพท์ใหม่ถ้าจากพื้นฐานเราพูดได้แล้วแต่เรื่องแกรมมายังไม่ค่อยมั่นใจ ถึงจุดใดจุดหนึ่งถ้าคุณอยากเป็นช่างพูด พูดเก่งคุณควรใช้เวลาเพิ่มสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ “part of speech” หรือเข้าใจกันง่ายๆ คือชนิดของศัพท์เพื่อได้รู้ว่าคำไหนเป็น คำนาม คำกริยา หรือ คำคุณศัพท์ เพื่อใช้ในการพูดหรือเขียนให้ถูก เพราะตอนสื่อสารทั่วไปคุณไม่ต้องใส่ใจแกรมมามาก แต่เมื่อคุณอยากสอบพูดแน่นอนว่าคุณต้องการทราบไวยากรณ์และเรียงศัพท์ให้ถูกถึงจะได้คะแนนสูงสุด คุณสามารถเข้า google translater หรือ youTube เพื่อดูวิธีการออกเสียงของศัพท์แต่ละคำที่คุณต้องการ ฝึกออกเสียงตามและตั้งประโยคกับศัพท์นั้นด้วยเพื่อจดจำได้ยาวนานขึ้น

11. เรียนจากทุกคน และหาเพื่อนใหม่เพื่อช่วยกันฝึกพูด

“Make a new friend” หรือเข้าใจได้ว่าการหาเพื่อนใหม่ผู้ที่ก็ชอบการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกับคุณ จะเป็นคนต่างชาติหรือเป็นคนไทยที่เก่งภาษาอังกฤษก็ได้ คุณสามารถเรียนรู้ตามวิธีการออกเสียงหรือวิธีการตั้งประโยคของเพื่อนคนเก่ง เป็นวิธีการฝึกทักษะการพูดได้เร็วอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผล

มีหลากหลายหัวข้อให้คุณกับเพื่อนสามารถหยิบมาใช้ สร้างเป็นบทสนทนากันเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

หัวข้อเกี่ยวกับ Hobbies ที่เสามารถถามตอบเกี่ยวกับเรื่องงานอดิเรกของเพื่อนหรือพูดเกี่ยวกับงานอดิเรกของเราเช่น

  • What are your hobbies?
  • Why do you like your hobbies so much?
  • How often do you do these hobbies?
  • How long have you been doing these hobbies, and how did you get started?

หัวข้อเกี่ยวกับ Work การทำงาน หรือที่ทำงานที่คุณสามารถเลือกถามตอบเกี่ยวกับ

  • What work do/did you do?
  • How do/did you like the work?
  • What is your dream job?
  • What is your general view about work? Why?

หัวข้อเกี่ยวกับ Shopping ใช้ในการเดินเล่นที่ตลาด หรืออยากหค้นหา ซื้ออะไรบางอย่างคุณสามรถฝึกพูดภาษาอังกฤษกับประโยคคำถามเหล่านี้

  • Do you enjoy shopping? Why/why not?
  • What is your favorite shop? Why?
  • In your city, where is a good place to go shopping?

ถ้าไม่มีสภาพแวดล้อมสำหรับการสื่อสารเลยส่งผลมให้พูดไม่เก่ง งั้นคุณลองหาหรือสร้างสภาพแวดล้อมเองโดยวิธีการลองหาเพื่อนสักคนที่เก่งภาษาอังกฤษเพื่อให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ยังมีหลากหลายหัวข้อที่เราสามารถเอามาใช้กันได้ไม่ยากเมื่อคุณมีการเตรียมพร้อมในหลากหลายหัวข้อทั้งศัพท์และวิธีการตั้งคำถามและตอบรับรองว่าเมื่อคุณพูดคุณจะพูดได้ไว เพราะได้ผ่านการฝึกใช้มาก่อน และฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษมาก่อนแล้ว

12. อยากพูดดีต้องฟังให้ดีก่อน (จริงไหม?)

คุณเชื่อไหมว่าถ้าเราฟังไม่ดีเราก็จะพูดไม่ดีเหมือนกัน ? เพราะตอนที่เราฟังไม่ออกเราก็จะโต้ตอบแบบมั่นใจไม่ได้ แถมฟังไม่ออกจะไม่รู้วิธีการออกเสียงของศัพท์ให้ถูกต้องโดยซ้ำ ดังนั้นทักษะการพูดกับฟังต้องการฝึกใช้กันบ่อยๆ ฝึกไปพร้อมกันถึงจะเก่งได้
วิธีการฝึกฟังดีๆ ที่ทำที่ไหนก็ได้คือ

การพูดเป็นหนึ่งในสี่ทักษะสำคัญมากในเรียนภาษาใดภาษาหนึ่ง

13. จดจำเทคนิคการตอบคำถาม / คำตอบจะฝังอยู่ในคำถามเสมอ

คุณรู้ไหมว่าทักษะการตอบที่ดีคือจับ Keyword และคำตอบจะมีอยู่ในคำถามตลอด ดังนั้นตอนที่เราสื่อสารเราควรตั้งใจฟังคำถามที่คนอื่นเขาถามเราว่าเป็นประเภทคำถามแบบไหน ถึงจะหาคำตอบที่ตรงกันอย่างเช่น

ถ้าเขาถามคำถามโดยคำแรกเป็น “Does he…” เราจะตอบเป็นแบบ Yes, He does.

หรือถามแบบ Can she…?  เราจะตอบเป็นแบบ  Yes, she can.

หรือถามแบบ  It is…? เราจะตอบเป็นแบบ   Yes, it is. ง่ายๆ ที่แค่เราตั้งใจและจับใจความหมายของคำถาม หรือประเภคของคำถามเราจะตอบได้ถูกต้องเสมอเป็นอย่างไรกันบ้างกับ 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือนจาก Eng Breaking อย่าลืมกดติดตามเว็บไซต์ของเราเพื่อได้รับโปรโมชั่นคอรสเรียนดี ๆ แถมเคล็ดลับเด็ดต่าง ๆ เพื่อช่วยคุณพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีที่สุด Eng Breaking เชื่อว่าคุณทำได้แน่นอน ยินดีที่จะตอบทุกข้อสงสัยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับผู้เรียนทั่วประเทศ

ความคิดเห็น 635 รายการ

 


บทเรียนการฟังภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน – ปรับปรุงทักษะการฟังภาษาอังกฤษของคุณ


ลองฝึกฟังภาษาอังกฤษที่พูดตามธรรมชาติกัน!
🎧 วิธีเรียนรู้
1. คุณจะได้ยินเสียงสองครั้งที่ความเร็วมาตรฐาน
2. มีคำบรรยายบนหน้าจอพร้อมเสียงช้าๆ
—————————————
วลีภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน การฝึกพูดช้า ๆ และง่าย ๆ
https://youtu.be/Z2IRvKH4tY
600 วลีสำคัญในภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/TfXHrAfVEQo
บ่งบอกตัวตนของคุณเป็นภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/nAVk_KU_1Mw แบบฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบช้าและง่าย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

บทเรียนการฟังภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน - ปรับปรุงทักษะการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

Ep1 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! -ปรับพื้นฐานเรียนภาษาอังกฤษ


EP.1เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน!
เปลี่ยนเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่าย ใครๆก็เรียนได้จากที่บ้าน ไม่ต้องจ่ายค่าคอร์สเป็นหมื่น
สอนโดยคนที่เคยเกลียดภาษาอังกฤษและคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนยาก เรียนไม่รู้เรื่อง จึงเข้าใจจุดอ่อนของคนไทยเป็นอย่างดี คอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน!
เป็นคอร์สยอดนิยม ที่มีผู้เรียนประสบความสำเร็จจากการเริ่มต้นสนทนาภาษาอังกฤษได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแบบได้ผลจริง หากคุณจริงจัง ตั้งใจเรียนให้จบทุกๆอีพี และนำมันไปฝึกใช้สนทนาในชีวิตจริง
เนื้อหาในคอร์สนี้จะแบ่งเป็น 5 บทด้วยกัน+ เพิ่มบทพิเศษ Ep.6 ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 เพื่อทบทวนความรู้จาก Ep.15 ให้คุณจำได้แม่นยิ่งกว่าเดิม
EP.1 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! รู้จักคำกริยา verbs ต่างๆ
link ทางเข้า Ep.1 https://youtu.be/MkhxmOkWa4A
EP.2 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! การตั้งคำถาม
link ทางเข้า Ep.2 https://youtu.be/ijjgOOObmDY
EP.3 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! การตอบคำถามภาษาอังกฤษ
link ทางเข้า Ep.3 https://youtu.be/WmekyMfrD1I
Ep.4 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! ภาษาอังกฤษกับเวลา
link ทางเข้า Ep.4 https://youtu.be/uSU1mUJ8H7I
Ep.5 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! พูดอังกฤษให้มีอรรถรส!
link ทางเข้า Ep.5 https://youtu.be/FOa4Jh3DoEI
บทพิเศษ EP.6 เพื่อการทบทวนความจำและเพิ่มเทคนิคเรียนพูดภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม บทนี้จะแบ่งออกเป็นสองตอนนะคะ
Ep.6 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! – ทบทวน+เพิ่มเทคนิค ตอนที่1
link ทางเข้า ตอนที่1 Ep.6 https://youtu.be/OXPO4Q447os
Ep.6 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! – ทบทวน+เพิ่มเทคนิค ตอนที่2 link ทางเข้า ตอนที่2 Ep.6 https://youtu.be/WRIoyITnb5c

Links ช่องทางการติดต่อ Alej
สามารถกดติดตามเพื่อพูดคุยและหาทางเข้ากลุ่มเรียนภาษาอังกฤษได้นะคะ
ในfacebook จะมีการไลฟ์บทเรียนพิเศษที่ไม่ควรพลาด ไม่ได้อัพลงยูทูป จะมีเฉพาะในเพจ facebook เท่านั้นค่ะ
Facebook Page
https://www.facebook.com/alejmakeup/
@Alejmakeup
Instagram /IG
https://www.instagram.com/alejknowz/
Id : Alejknowz
Facebook Group : กลุ่มเรียนภาษาอังกฤษตริ๊ดติสท์
สามารถไปคุยภาษาอังกฤษกับเพื่อนๆคนไทยที่กำลังหัดเรียนด้วยกันได้นะคะ
มีแบบฝึกหัดและเฉลย ซ่อนอยู่ในอัลบั้มนะจ๊ะ
https://www.facebook.com/groups/learntidtid/
ถ้าเรียนแล้วชอบ คิดว่าคอร์ส เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน เป็นเรื่องดี มีประโยชน์ อย่าละเลยที่จะสละเวลากด Like And Share ออกไปเยอะๆ เพื่อให้ เพื่อนๆ น้องๆ หรือ พ่อ แม่ ลูก หลาน ได้มีโอกาสเรียนฟรี ไม่ต้องไปเสียค่าคอร์สแพงๆ เพื่อเสริมทักษะและพัฒนาการพูดภาษาอังกฤษกันนะคะ

Ep1 เรียนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 30 วัน! -ปรับพื้นฐานเรียนภาษาอังกฤษ

30 ประโยค คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน สำหรับพ่อแม่ สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
วิดีโอสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ฝึกฟัง ฝึกพูด 30 ประโยค คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน สำหรับใช้ฝึกฟัง ฝึกพูดภาษาอังกฤษ กับลูก เพื่อเป็นครอบครัวสองภาษา เทคนิคสอนลูกให้เก่งภาษาอังกฤษ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/\r
\r
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary\r
\r
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ\r
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/\r
\r
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม\r
https://instagram.com/ajtonamorn\r
\r
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100%

30 ประโยค คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน สำหรับพ่อแม่ สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ

เพลงสากล ไว้ฟังเวลาทำงาน Part. 19 [HD]


✘ กด SUBSCRIBE และ 🔔 เพื่อติดตามวิดีโอของ Music Splash เป็นคนแรก ✘
• Music Splash Channel •
https://www.youtube.com/c/MusicSplash
📥 Download : http://url.ie/138cv
🔓 Password : musicsplash
📸 Picture from unsplash.com by Yeshi Kangrang
วิดีโอนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงใน YouTube เท่านั้น มิได้มีเจตนา
ละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด หากต้องการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
แนะนำให้อุดหนุนของแท้ที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามลิขสิทธิ์
🎥 ขอบคุณสำหรับการรับชมและรับฟังนะครับ 📼
MusicSplash

เพลงสากล ไว้ฟังเวลาทำงาน Part. 19 [HD]

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris


เรามาฝึกฟังและฝึกพูดภาษาอังกฤษจากหนัง/ซีรี่ย์กันค่ะ ซึ่งในคลิ๊ปนี้เป็นซีรี่ย์ชื่อว่า Emily in Paris มาลองอฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริงจากหนังเรื่องนี้กันเลยค่ะ
learnenglishfrommovies เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *