Skip to content
Home » [Update] | ถูกกระทำ – NATAVIGUIDES

[Update] | ถูกกระทำ – NATAVIGUIDES

ถูกกระทำ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

1.8K viewed

Active Voice and Passive Voice

 

หลาย ๆ ครั้งเราก็สงสัยว่าประโยคหนึ่งๆ อะไรเป็นประธาน อะไรเป็นกรรม ซึ่งโดยปกติแล้วในประโยคก็จะมีการเรียง ประธาน + กริยา  + กรรม คือ ประธานกระทำต่อกรรม

กลับกันรูปแบบประโยคอีกแบบหนึ่งคือ ประธานของประโยคถูกกระทำ กรรมใดที่มีคือประธานของประโยคนั่นเอง แล้วอะไรคือข้อแตกต่าง หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

  1. Active Voice

    คือ

    ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง

    โดยมีกรรมมารับหรือไม่มีกรรมมารับประโยคก็ได้ซึ่งมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ

    ดังนี้

Subject + Verb (ประธาน + กริยา)

 

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษแบบย่อ คือ

S. + V.

 

โดยทั่วไป สามารถเขียนโครงสร้างประโยคออกเป็นแบบต่างๆ แบ่งตามกาลเวลา และขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความหมายที่ต้องการสื่อ โดยในภาษาอังกฤษจะใช้หลักโครงสร้าง tense ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะแบ่งเป็น 12 tense ซึ่งเป็นโครงสร้างสำหรับอดีต 3 แบบ ปัจจุบัน 3 แบบ และอนาคต 3 แบบ

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับปัจจุบัน คือ

Present simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอดีต คือ

Past Simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคต คือ

Future Simple

2. Passive Voice คือ กรรมวาจก เป็นประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นประโยคที่นำเอาคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ ที่ถูกกริยาของประโยคกระทำ มาวางไว้ข้างหน้าประโยค เป็นประธานของประโยค โดยมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ ดังนี้

 

             Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle)

             ประธาน + กริยา to be + กริยาช่องที่ 3

 

             โครงสร้างประโยค Passive Voice แบบย่อ คือ

             S. + V. to be + V.3

โครงสร้างหลักของ Passive voice คือ Subject + Verb to be + Verb 3 ซึ่งมีความแตกต่างของแต่ละ tense อิงตามโครงสร้าง tense แบบ active voice โดยสามารถทำประโยค passive voice ได้ง่ายๆ เพียงแค่นำ V. to be ไว้หน้ากริยา แล้วทำกริยานั้นให้กลายเป็นช่องที่ 3 ดูได้จากโครงสร้าง และตัวอย่างประโยค passive voice ทั้ง 12 tenses ต่อไปนี้

  Passive voice ใน Tense ตระกูล Present (ปัจจุบัน)

 

present simple tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + Verb 3

ตัวอย่าง The lessons are taught (by Lisa) today.

 

present continuous tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + being + Verb 3

ตัวอย่าง The car is being fixed (by Peter) right now.

 

present perfect tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + Verb 3

ตัวอย่าง It has been sent.

 

present perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง They have been being interviewed since 9 a.m.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Past (อดีต)

 

past simple tense

โครงสร้าง Subject + was, were + Verb 3

ตัวอย่าง They were informed.

 

past continuous tense

โครงสร้าง Subject + was, were + being + Verb 3

ตัวอย่าง They were being warned.

 

past perfect tense

โครงสร้าง Subject + had + been + Verb 3

ตัวอย่าง He had been hit before he became disable.

 

past perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + had + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง It had been being built for three years.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Future (อนาคต)

 

future simple tense

โครงสร้าง Subject + will + be + Verb 3

ตัวอย่าง You will be loved forever.

 

future continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + be + being + Verb 3

ตัวอย่าง It will be being made when you come tomorrow.

 

future perfect tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + Verb 3

ตัวอย่าง It will have been read by tomorrow.

 

future perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง The stories will have been being told for 20 minutes when you arrive.

การเปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็น Passive Voice

1.ให้เอากรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานในประโยค Passive Voice ถ้าเป็นคำนามไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าคำสรรพนามให้เป็นเปลี่ยนเป็นรูปกรรม

2.ให้เปลี่ยน Verb to be อยู่ใน Tense เดียวกับกริยาหลักของประโยค Active Voice และผันตามประธานในประโยค Passive Voice

3.กริยาหลักในประโยค Active Voice ควรเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 3

4.ต่อด้วย by + ประธานในประโยค Active Voice ที่เปลี่ยนรูปกรรม ถ้าเป็นคำนามให้คงรูปเดิม แต่คำสรรพนามให้เปลี่ยนเป็นรูปกรรมก่อน

 

ตัวอย่างเช่น

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น is , am , are

เช่น She drinks milk.

Milk is drunk by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (is,am,are) + being

เช่น She is eating oranges.

Oranges are being eaten by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (has,have) + been

เช่น He has written these letters.

These letters have been written by him.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น was, were

เช่น She drinks milk.

Milk was drunk by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Continouns ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (was,were) + being

เช่น She was eating oranges.

Oranges were being eaten by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น had been

เช่นHe had written these letters.

These letters had been written by him.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + be

เช่น She will do her homework.

Her homework will be doneby her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น

(will,shall) + be + being

เช่น She will be sending a letter.

A letter will be being sent by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + have + been

เช่น They will have cleaned this room this weekend.

This room will have been cleaned by them this weekend.

 

 

การเปลี่ยนประโยคคำถาม

Active Voice

เป็น

Passive Voice

 

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย Helping Verb

1.เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.เปลี่ยนประโยคบอกเล่าจาก Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Helping Verb ขึ้นต้นประโยคและตามด้วยประธาน กริยา และส่วนอื่นๆ ต่อไป

ตัวอย่างเช่น

Does she buy this book ?

ขั้น 1   She buys this book.

ขั้น 2   This book is bought by her.

ขั้น 3   Is this book bought by her ? (Passive Voice)

 

ถ้าประโยคคำถามขึ้นต้นด้วย Question Word

1.ให้เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Question Word เป็นคำขึ้นต้นประโยคและตามด้วย helping verb ประธาน กริยาและส่วนอื่น ๆ ต่อไป ยกเว้น คำว่า Who ในประโยค Active Voice ให้เปลี่ยนเป็น By whom ในประโยค Passive Voice

เช่น   Who sees her ?

ขั้น 1.  Who sees her.

ขั้น 2.  She is seen by whom.

ขั้น 3.  By whom is she seen?

 

Which car do you buy?

ขั้น 1.  You buy which car.

ขั้น 2, 3  Which car is bought by you ?

 

Verbs Expressing Emotion หมายถึง กริยาที่แสดงความรู้สึก เช่น interest , amuse , bore , please , frighten , excite , tire , astonish , surprise , disappoint , etc. ลักษณะการใช้กริยาเหล่านี้ คือ

1.ใช้เป็น Verb ในรูป Active Voice (Subj + V + obj) แปลว่า ทำให้   

เช่น This car interests me. แปลว่า รถคันนี้ทำให้ฉันสนใจ

2.ใช้ใน present participle (V-ing) แปลว่า น่า เมื่อมีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อบุคคลหรือสิ่งใด ให้เติม -ing หลัง Verb นั้น

เช่น John is boring . แปลว่า จอห์นเป็นคนน่าเบื่อ

This book is interesting . แปลว่า หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ

3.ใช้เป็น Adj หรือในรูป Passive Voice เรียก Past participle adjective คือ adj ที่มาจาก past participle (Subj + Verb to be +past participle adj + prep) แปลว่า รู้สึก เมื่อบุคคลใดมีความรู้สึกอย่างไรต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น เติม ed หลัง Verb และมี preposition ตาม

เช่น John is bored with her.

แปลว่า จอห์น เบื่อเธอ

 

She is interested in this book .

แปลว่า เธอ สนใจในหนังสือเล่มนี้

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี (อ.ต้นอมร) http://www.tonamorn.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9/active-passive-voice/

[NEW] | ถูกกระทำ – NATAVIGUIDES

การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ คือ การกระทำการที่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายและเป็นการกระทำผ่านหรือโดยอาศัยคอมพิวเตอร์ในการกระทำความผิด ซึ่งมีวัตถุประสงค์มุ่งต่อระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลของคอมพิวเตอร์ หรือบุคคล

แฮคเกอร์ (Hacker) นั้นมีความหมายอยู่ 2 แบบ โดยส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงคำคำนี้จะเข้าใจว่า หมายถึง บุคคลที่พยายามที่จะเจาะเข้าระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ในอีกความหมายหนึ่งซึ่งเป็นความหมายดั้งเดิม จะหมายถึง ผู้ใช้ความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายหรือในด้านลบ เช่น สำรวจเครือข่ายเพื่อตรวจหาเครื่องแปลกปลอม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการที่เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

  • ระดับความชำนาญ => แฮคเกอร์ (Hacker) มีความรู้ความชำนาญสูงทั้งในการใช้คอมพิวเตอร์ และการเจาะระบบคอมพิวเตอร์
  • แรงจูงใจ => เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงระบบให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • เป้าหมายของการโจมตี => แล้วแต่ที่แฮคเกอร์ (Hacker) ติดตามหรือสนใจ

แคร็คเกอร์ (Cracker) คือบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์พยายามที่จะเจาะเข้าระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาศัยช่องโหว่หรือจุดอ่อนเพื่อทำลายระบบ

  • ระดับความชำนาญ => แครร็คเกอร์ (Cracker) มีความรู้ความชำนาญสูงทั้งในการใช้คอมพิวเตอร์ และการเจาะระบบคอมพิวเตอร์
  • แรงจูงใจ => แข่งขันกับผู้อื่นเพื่อแสดงความสามารถในการทำลายระบบ แคร็คเกอร์ (Cracker) จะภูมิใจถ้าเขาสามารถเจาะเข้าระบบได้มากกว่าผู้อื่น
  • เป้าหมายของการโจมตี => แล้วแต่ที่แคร็คเกอร์ (Cracker) ติดตามหรือสนใจ

Script kiddy

[

แก้ไข

]

สคริปต์คิดดี้ส์ (Script – Kiddies) คือแฮคเกอร์ (Hacker) หรือ แฮคกิง (Hacking) ประเภทหนึ่งมีจำนวนมากประมาณ 95 % ของแฮคกิง (Hacking) ทั้งหมด ซึ่งยังไม่ค่อยมีความชำนาญ ไม่สามารถเขียนโปรแกรมในการเจาะระบบได้เอง อาศัย Download จากอินเทอร์เน็ต

  • ระดับความชำนาญ => สคริปต์คิดดี้ส์ (Script – Kiddies) มีความรู้ความชำนาญต่ำ
  • แรงจูงใจ => เพื่อให้ได้การยอมรับหรือต้องการที่จะแสดงความรู้ความสามารถ
  • เป้าหมายของการโจมตี => แล้วแต่ที่สคริปต์คิดดี้ส์ (Script – Kiddies) ติดตามหรือสนใจ ส่วนมากเป็นผู้ใช้งานหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป
  • ระดับความรุนแรง => มีอันตรายมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็ก มีเวลามาก ใช้เวลาในการทดลอง และมักไม่เข้าใจในเทคโนโลยีที่ตัวเองใช้โจมตีว่าจะสร้างความเสียหายมากน้อยขนาดไหน

สายลับทางคอมพิวเตอร์ (Spy) คือบุคคลที่ถูกจ้างเพื่อเจาะระบบและขโมยข้อมูล โดยพยายามไม่ให้ผู้ถูกโจมตีรู้ตัว

  • ระดับความชำนาญ => สายลับทางคอมพิวเตอร์ (Spy) มีความรู้ความชำนาญสูงมากทั้งในการใช้คอมพิวเตอร์ และการเจาะระบบคอมพิวเตอร์
  • แรงจูงใจ => เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน
  • เป้าหมายของการโจมตี => การโจมตีมีความเฉพาะเจาะจงตามที่ถูกจ้าง

พนักงาน (Employee) คือ พนักงานภายในองค์กร หรือเป็นบุคคลลภายในระบบที่สามารถเข้าถึงและโจมตีระบบได้ง่าย เพราะอยู่ภายในระบบ

  • ระดับความชำนาญ => มีระดับความชำนาญหลากหลายระดับ แล้วแต่ผู้โจมตีแต่ละคนนั้นจะชำนาญด้านไหน
  • แรงจูงใจ => อาจมีแรงจูงใจจาก
1. แสดงให้เห็นว่าองค์กรมีจุดอ่อน
2. แสดงความสามารถของตัวเองเนื่องจากถูกประเมินค่าต่ำเกินไป หรืออาจเกิดความไม่พอใจในการพิจารณาผลงาน
3. ผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น ถูกจ้างจากคู่แข่ง
  • เป้าหมายของการโจมตี => ระบบขององค์กรที่ตนเองได้ทำงานอยู่

ผู้ก่อการร้าย (Terroist) คือกลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่มีความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ภยันตราย แก่บุคคลอื่น หรือองค์กรต่างๆ

  • ระดับความชำนาญ => ความชำนาญสูง คาดเดาวิธีการได้ยาก
  • แรงจูงใจ => เพื่อก่อการร้าย
  • เป้าหมายของการโจมตี => เป้าหมายไม่แน่นอน อาจเป็นระบบเล็กๆ หรือขนาดใหญ่ เช่น ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า

ที่พบบ่อยๆ ได้แก่

Social Engineering

[

แก้ไข

]

Password Guessing

[

แก้ไข

]

  • Password เป็นสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ความเป็นตัวตนของผู้ใช้งาน เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใช้มักกำหนดโดยใช้คำง่ายๆ เพื่อสะดวกในการจดจำ สาเหตุจากต้องเปลี่ยนบ่อย หรือมี Password หลายระดับ หรือระบบห้ามใช้ Password ซ้ำเดิม Password ที่ง่ายต่อการเดา ได้แก่ สั้น ใช้คำที่คุ้นเคย ใช้ข้อมูลส่วนตัว ใช้ Password เดียวทุกระบบ จด Password ไว้บนกระดาษ ไม่เปลี่ยน Password ตามระยะเวลาที่กำหนด
  • Password Guessing คือการเดา Password เพื่อเข้าสู่ระบบ

Denial of Service ( DOS

[

แก้ไข

]

Denial of Service (การโจมตีโดยคำสั่งลวง) คือการโจมตีลักษณะหนึ่งที่อาศัยการส่งคำสั่งลวงไปร้องขอการใช้งานจากระบบและการร้องขอในคราวละมากๆเพื่อที่จะทำให้ระบบหยุดการให้บริการ แต่การโจมตีแบบ Denial of Service สามารถถูกตรวจจับได้ง่ายโดย Firewall หรือ IDS และระบบที่มีการ Update อยู่ตลอดมักจะไม่ถูกโจมตีด้วยวิธีนี้ ซึ้งมีบางกรณีก็ตรวจจับได้ยากเนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับการทำงานของ Software จัดการเครือข่าย เนื่องจากสามารถถูกตรวจจับได้ง่ายปัจจุบันการโจมตีในลักษณะนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบการโจมตีไปสู่แบบ Distributed Denial of Service (DDOS)[1] คือการอาศัย คอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องโจมตีระบบในเวลาเดียวกัน

คือ การพยายามให้ได้มาซึ่ง Key เพราะ Algorithm เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว เพื่อถอดข้อมูลที่มีการเข้ารหัสอยู่ ซึ่งการ Decryption อาจใช้วิธีการตรวจสอบดูข้อมูลเพื่อวิเคราะห์หา Key โดยเฉพาะการใช้ Weak Key ที่จะส่งผลทำให้ได้ข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน ทำให้เดา Key ได้ง่าย ควรใช้ Key ความยาวอย่างน้อย 128 bit หรืออาจใช้หลักทางสถิติมาวิเคราะห์หา Key จากตัวอักษรที่พบ

Birthday Attacks

[

แก้ไข

]

  • เมื่อเราพบใครสักคนหนึ่ง มีโอกาสที่จะเกิดวันเดียวกัน 1 ใน 365 ยิ่งพบคนมากขึ้นก็ยิ่งจะมีโอกาสซ้ำกันมากยิ่งขึ้น
  • การเลือกรหัสผ่านวิธีการที่ดีที่สุดคือการใช้ Random Key แต่การ Random Key นั้นก็มีโอกาสที่จะได้ Key ที่ซ้ำเดิม

Man in the middle Attacks

[

แก้ไข

]

  • การพยายามที่จะทำตัวเป็นคนกลางเพื่อคอยดักเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยที่คู่สนทนาไม่รู้ตัว มีทั้งการโจมตีแบบ Active จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล การโจมตีแบบ Passive จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล และการโจมตีแบบ Replay Attack ข้อความจะถูกเก็บไว้ระยะเวลาหนึ่งแล้วค่อยส่งต่อ
  • ป้องกันโดยการเข้ารหัสข้อมูล ร่วมกับ Digital Signature
  • การเลือกใช้เครื่องมือ => เครื่องมือที่จะใช้ในการเจาะระบบไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Hardware หรือ Software ก็ตาม
  • การสำรวจข้อมูลเป้าหมาย => เป็นการสำรวจเป้าหมายเบื้องต้นเพื่อใช้ในการวางแผนการโจมตีว่าเป้าหมายนั้นใช้ ระบบ (OS) อะไร มีพอร์ทไหนบ้างที่เปิดอยู่
  • การสแกนเครือข่าย => เป็นทดสอบว่าเครื่องเป้าหมายเปิดอยู่หรือไม่ โดยมาจะนิยมใช้คำสั่ง ping เพื่อทดสอบว่าเครื่องนะมีสถานะออนไลน์หรือไม่ แต่ในบางกรณีอาจใช้วิธี telnet ไปยังเครื่องเป้าหมายที่ port 80, 25 เพื่อหลบเลี่ยงการกรองคำสั่ง ping ของ router หรือ firewall
  • การสแกนพอร์ต => เป็นการตรวจสอบช่องทางที่จะเข้าโจมตีเป้าหมาย ว่า สามารถเข้าไปสู่เครื่องเป้าหมายในช่องทางใดบ้าง
  • การโจมตี => ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเข้าโจมตีในรูปแบบที่ต้องการ
  • สแกนเพื่อหาจุดอ่อน (Vulnerability Scanning) ควรทำจากหลายๆจุด จากทั้งภายในและภายนอก ในส่วนของ DeMilitalized Zone (DMZ) [2] ด้วย
  • เมื่อพบช่องโหว่ให้ทำการ Update Patch เพื่ออุดช่องโหว่นั้น

ตัวอย่างเครื่องมือที่เป็น Software ที่ใช้รักษาความปลอดภัย ส่วนมากจะเป็น Software ที่ใช้สแกนเพื่อหาจุดอ่อน (Vulnerability Scanning) และประเมินความเสี่ยงของระบบนั้นๆ

  • GFI LANguard Network Security Scanner (N.S.S.) [3] [4]
  • eEye Retina Network Security Scanner
  • Microsoft Baseline Seurity Analyser (MBSA) [5]
  • Nessus Security Scanner [6]

การที่เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น การแอบดูข้อมูลผู้อื่น การลบ แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้น

ตัวอย่างกฎหมายที่ใช้กับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ของต่างประเทศบางส่วน

1. การห้ามแทรกแซงความเป็นส่วนตัว (Privacy Right)
2. การคุ้มครองเสรีภาพทางความคิด/การแสดงความคิดเห็น/การแสดงออก/สื่อ (Freedom of Belief/Freedom of Press/Freedom of Expression)
1. ความผิดเพื่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้โดยใช้อินเทอร์เน็ตหรือวิธีการอื่นใดหรือใช้ข้อมูลหรือโปรแกรมที่มีอำนาจไม่ให้ทำเช่นนั้น
2. หรือมีอำนาจในการเข้าใช้แต่ใช้เกินขอบเขตอำนาจ

ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง (ICCPR : International Covenant on Civil and Political Rights) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2539 (ICCPR ได้รับการรับรองจากสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2519) และมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2540 โดยมีสาระสำคัญในส่วนของการใช้ Internet ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้น ซึ่งสิทธิมนุษยชนทั้ง 2 ประการ ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ไว้ในมาตราดังนี้

1. มาตรา 35 สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ ส่วนตัว
2. มาตรา 36 เสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย
3. มาตรา 37 เสรีภาพทางความคิดในการถือศาสนา/ความเชื่อ
4. มาตรา 45 เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
5. มาตรา 46 เสรีภาพของสื่อ

จากทั้งกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง (ICCPR : International Covenant on Civil and Political Rights) และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 จะให้สิทธิประชาชนคนไทยเข้าถึงข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ได้อย่างมีเสรีภาพ แต่การกระทำนั้นต้องไม่ไปก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นจนเกินไปมิฉะนั้นก็เป็นการกระทำผิดกฎหมายได้

และนอกจาก ICCPR และ รัฐธรรมนูญ แล้วประเทศไทยยังมีกฎหมายที่สามารถนำมาปรับใช้กับผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ได้ดังต่อไปนี้

ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ได้ทำการเจาะระบบเข้าสู่เครื่องผู้อื่นนั้นแล้วทำให้ผู้อื่นเสียหาย ผู้ที่เป็นเจ้าของเครื่องผู้นั้นสามารถเรียกรร้องค่าเสียหายต่อผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นผู้ที่กระทำละเมิดต่อตนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในมาตรา 420 และในบางครั้งผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์นั้นจะมีสิทธิเข้าถึงระบบแต่ถ้าการใช้สิทธิเกินในส่วนที่ตนมีอยู่ก็เป็นการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในมาตรา 421 ได้

สำหรับในทางอาญานั้นต้องดูที่ว่าการกรทำความผิดนั้นครบองค์ประกอบหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนมากการกระทำความผิดผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์นั้นมีอายุอยู่ในช่วงใด

1. อายุอยู่ต่ำกว่า 7 ปี ไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 73
2.อายุมากกว่า 7 ปี แต่ไม่เกิน 14 ปี ไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 74
3.อายุมากกว่า 14 ปี แต่ไม่เกิน 17 ปี มีความผิดแต่ได้รับโทษ กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 75
4.อายุมากกว่า 17 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี มีความผิดแต่ได้รับโทษ สองในสามหรือกึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 76
5. อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป รับโทษตามความผิดนั้นๆ
1.เป็นการกระทำความผิดที่มีวัตถุประสงค์มุ่งต่อระบบคอมพิวเตอร์

ตามพระราชบัญญัตินี้ความผิดที่มุ่งตรงต่อระบบคอมพิวเตอร์นั้บแบ่งออกดังนี้

* การกระทำความผิดตาม มาตรา 5 คือ การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบการเข้าถึงนั้นไม่จำกัดว่าเข้าถึงในระดับใดทั้งระดับกายภาพ หรือผู้กระทำผิดดำเนินการด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อให้ได้รหัสผ่านนั้นมาและสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้โดยนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเอง และหมายความรวมถึงการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ แม้ตัวบุคคลที่เข้าถึงจะอยู่ห่างโดยระยะทางกับเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สามารถเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ตนต้องการได้ นอกจากนั้นยังหมายถึงการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ดังนั้นจึงอาจหมายถึง การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ หรือ9 ส่วนประกอบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ถูกบันทึกเก็บไว้ในระบบเพื่อใช้ในการส่งหรือโอนถึงอีกบุคคลหนึ่ง เช่นข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ส่วนวิธีการเข้าถึงนั้นรวมทุกวิธีการไม่ว่าจะเข้าถึงโดยผ่านทางเครือข่ายสาธารณะ และยังหมายถึงการเข้าถึงโดยผ่านระบบเครือข่ายเดียวกันด้วยก็ได้ นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึงการเข้าถึงโดยการติดต่อสื่อสารแบบไร้สาย (wireless communication) อีกด้วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 6 คือ การล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะไม่ว่าการรู้ถึงมาตรการป้องกันนั้นจะได้มาโดยชอบหรือไม่ก็ตาม และนำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยเป็นที่จะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 10 คือ การขัดขวางการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.เป็นการกระทำความผิดที่มีวัตถุประสงค์มุ่งต่อข้อมูลของคอมพิวเตอร์
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 7 คือ การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีการป้องกันไว้เป็นพิเศษโดยมิชอบ ซึงการเข้าถึง วิธีการเข้าถึง ตลอดถึงชอ่งทางในการเข้าถึงนั้นมีส่วนคล้ายกับความผิดตามมาตรา 5 ดังที่ได้กล่าวไว้ในส่วนต้นแล้ว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 8 คือ การดักรับข้อมูลที่อยู่ระหว่างการรับการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 9 คือ การแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นนการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมทั้งหมดหรือบ่างส่วนก็ตาม และผู้แก้ไขนั้นไม่มีสิทธิแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 11 คือ การส่งข้อมูล หรือ E-mail ให้ผู้อื่น โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูล โดยทำให้ผู้ที่รับข้อมูลนั้นเกิดความรำคาญ หรือรบกวนผู้อืนนั้นเอง การกระทำนี้ในปัจจุบันเราเรียกการกระทำนี้ว่า Spam Mail ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
3.เป็นการกระทำความผิดที่มีวัตถุประสงค์มุ่งต่อบุคคล
*การกระทำความผิดตาม มาตรา 12 คือ เป็นลักษณะกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองผู้ที่ถูกการกรบกวนตาม มาตรา 9 หรือ มาตรา 10 โดยมีลักษณะเป็นการเพิ่มโทษ ถ้าเป็นความเสียหายเกิดขึ้นกับบุคคล จะเพิ่มโทษเป็น โทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท และถ้าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ จะเพิ่มโทษเป็นจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 14 คือ เป็นการนำข้อมูลปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข้อมูลที่มีลักษณะเป็นอันลามก เข้าสู่ระบบ แล้วทำให้เกิดความเสียหายความมั่นคงของประเทศหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
* การกระทำความผิดตาม มาตรา 16 คือ การนำภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น เข้าสู่รระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เป็นการนำเข้าโดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด และความผิดตามมาตรานี้ยอมความได้
  • จตุชัย แพงจันทร์, Master in Security, (นนทบุรี: อินโฟเพรส, 2550), หน้า 71 ถึง หน้า 111


ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น รูปถูกกระทำ | Nisensei


ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น Nisensei

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น รูปถูกกระทำ | Nisensei

JLPT N4 -ep58- วิธีผันรูปถูกกระทำภาษาญี่ปุ่น


JLPT N4 -ep58- วิธีผันรูปถูกกระทำภาษาญี่ปุ่น

เธอติดอยู่ในลิฟต์กับไอ้หื่น โดนจัดหนัก3วัน3คืน | สปอยหนัง


เธอติดอยู่ในลิฟต์กับไอ้หื่น โดนจัดหนัก3วัน3คืน | สปอยหนัง
เมื่อสาวสวยประจำบริษัทต้องมาเจอกับชายแปลกหน้าที่สุดแสนจะอัธยาศัยดี ในตึกสูงใหญ่ที่ไร้ผู้คน ในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนวันหยุดยาวและลิฟต์ที่พวกเขาใช้ ก็ดันเกิดเสียขึ้นมา ทำให้พวกเขาติดอยู่ในลิฟกัน2ต่อ2 3 วันในลิฟต์ 3 คืนกับคนแปลกหน้า ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็นไร้การช่วยเหลือใดๆ
กดซัพพอร์ต เป็นกำลังใจ ให้ช่อง\”6xDuck\”ในการทำคลิปต่อๆไป
https://www.youtube.com/channel/UCPyHqp2s1T9tueK0m8N2eA/join
⭐ ติดตามผลงาน 6xDuck ได้ที่ ⭐
Youtube : https://www.youtube.com/c/6xduck
Facebook : https://www.facebook.com/6xDuck/
เป็นกำลังใจ♥️ให้กันง่ายๆแค่
กดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ และคอมเม้นมาพูดคุยกันได้นะครับ
🙏ขอขอบคุณจากใจ ♥️ ที่ติดตามรับชมครับ 🙏
⭐ สนใจติดต่อโฆษณาหรือเป็นสปอนเซอร์ ⭐
inbox = https://www.facebook.com/6xDuck/
สปอยหนัง 6xDuck เล่าหนัง

เธอติดอยู่ในลิฟต์กับไอ้หื่น โดนจัดหนัก3วัน3คืน | สปอยหนัง

[Official MV] ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย (Stay Cool!) : กระแต อาร์ สยาม | Kratae Rsiam


โหลดเสียงรอสาย : 223666
ดาวน์โหลด MP3 : http://goo.gl/T7ABdu
iTunes : https://goo.gl/XeNvbF
facebook : http://fb.com/RsiamMusicPage
รวมเพลงฮิต กระแต อาร์ สยาม : https://www.youtube.com/playlist?list=PLYuR9gPDgFJ68rTy2FlegbqaFSMrovUO8
กระแต อาร์ สยาม ณ จุดนี้การันตีเรื่องเต้นยับ FreeFireถ่าอ้ายมาเฮ็ด DanceQueen
จุดที่ …คนที่ชอบเพลงสนุกๆ รอมันส์กับเธออย่างใจจดใจจ่อ
จุดที่…คนชอบเต้น Cover เตรียมแกะท่าเต้นของเธอแบบไม่ได้นัดหมาย
จุดที่…คนทั้งประเทศ จะได้มีความสุขกับงานเพลงที่เรียกว่าคุณภาพอย่างเต็มปากเต็มคำ
และแน่นอนซิงเกิลล่าสุด “ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย” (Stay Cool !) จะสร้างปรากฎการณ์นั้นอีกครั้ง!! DanceQueen

ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย ( Stay Cool !)
คำร้อง : สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา
ทำนอง/เรียบเรียง : อนุชา อรรจนาวัฒน์
อยู่อยู่ก็เสียหลัก โดนคนรักกันมาหลอก ก็มันทั้งช้ำมันทั้งช๊อคน้ำตาก็แตกกระจาย
ก็คนมันช้ำหนัก ต้องหลบไปพักใจ ก็เฮิร์ทนี่หว่าโดนทิ้งนี่หน่าจะให้ลั้นลาอย่างไร
เป็นอะไรอ่ะ ยิ้มเข้าสิ แคร์ไปอะไรคนไม่รักดี กลัวอะไรอ่ะ ลุกขึ้นสิ ทำให้เขาเสียดายเซ่ เซ่
ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องสวยไม่ต้องแคร์อะไร เพรียวเพรียวเข้าไว้เป๊ะรอไว้ก่อน
ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องเซี๊ยะไม่ต้องเพลียอะไร เอาให้แซ่บเข้าไว้สวยอย่าไปยอมพักผ่อน
ต้องเอาให้เริ่ดค่ะ ทั้งหน้าและทรงผม ต้องสวยให้สาสวยให้สมน้ำหน้าที่ทิ้งไป
ก็อย่าไปเสียหลัก ไม่รักก็ไปไป๊ ก็เรื่องของเข เรื่องของเขาเดี๋ยวเราก็มีใหม่
เป็นอะไรล่ะ ยิ้มเข้าสิ แคร์ไปทำไมคนไม่รักดีอ่ะ กลัวอะไรอ่ะ ลุกขึ้นสิ ทำให้เค้าเสียดายเซ่เซ่
(ซ้ำ )
ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องสวยไม่ต้องแคร์อะไร เพรียวเพรียวเข้าไว้เป๊ะรอไว้ก่อน
ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องเซี๊ยะไม่ต้องเพลียอะไร เอาให้แซ่บเข้าไว้สวยตื่นยันล้มตัวนอน
ซึมซึมเซาเซาไม่ได้นะ ให้มันดูโทรมโทรมไม่ได้นะ ถ้ามีคนดีดีมาเจอตอนนี้ โอ๊ยตายตาย
มาเต็มมาเต็มเข้าไว้ ให้มันดูดีดีเข้าไว้ ทำให้คนทิ้งเราอุทานว่าไม่ไม่ไม่
(ซ้ำ ,)
กระแตอาร์สยาม อาร์สยาม ถ่าอ้ายมาเฮ็ด
ติดตาม RsiamMusic
http://www.youtube.com/user/rsiammusic?sub_confirmation=1

[Official MV] ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย (Stay Cool!) : กระแต อาร์ สยาม | Kratae Rsiam

ถูกกระทำโดยผู้ชำนาญ : ต็อง วิตติวัต [Official MV] – Mono Music Cafe


▼ iTunes : http://bit.ly/MonoMusicCafeVariousArtist
♫ Deezer : http://www.deezer.com/album/7852129
♫ KKBOX : http://kkbox.fm/Gd06zJ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://facebook.com/MonoMusic

\”คุณจะทำอย่างไร?
ถ้าหัวใจถูกวางกับดักรักโดยผู้ชำนาญ\”
เพลงถูกกระทำโดยผู้ชำนาญ
เพลงของคนตกหลุมรัก
โดย ต็อง วิตติวัต
Mono Music Cafe โปรเจคที่หยิบเอาบทเพลงของค่าย Mono Music ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในรอบ 5 ปี เอามาเรียบเรียงดนตรีใหม่ในบรรยากาศแบบผ่อนคลาย สบาย ๆ เหมือนได้นั่งอยู่ในร้านกาแฟสุด Chic ที่ Tokyo ย่าน Shibuya
เราเปรียบบทเพลงเป็นเมนูเครื่องดื่มในคาเฟ่ชั้นเลิศที่ปรุงโดยทีมเพลงที่พิถีพิถัน
ทุกขั้นตอนจากสังกัด Fellow Music ในเครือ Mono Music
หลังจากลองชิมลาเต้ร้อน \”ผ่านมาให้แค่จำ แอน ธิติมา\”และคาปูชิโน่รสนุ่ม\”รักโง่ ๆ ติ๊ก Playgroung\” จากMono Music Cafeกันไปแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่ใช่คอกาแฟอาจจะกำลังมองหาช็อกโกแลตร้อน ที่บ่งบอกถึงนิสัยง่าย ๆ สบาย ๆ ตกหลุกรักใครได้ในทุกสถานการณ์ เข้ากับเพลง \”ถูกกระทำโดยผู้ชำนาญ\” ผ่านน้ำเสียงฟังสบาย ของ ต็อง วิตติวัต ลูกชายของวินัย พันธุรักษ์ แห่งวง The Impossibleให้ความรู้สึกของอาการตกหลุมรักที่แสนจะอบอุ่น เพียงแค่เธอคนนั้นยิ้มให้กันก็สามารถทำให้ช็อกโกแลตร้อนแก้วนี้หอมกรุ่นทั่วทั้งร้านขึ้นมาได้ในทันที
แวะมาชิมช็อคโกแลตร้อน ๆ …\”ถูกกระทำโดยผู้ชำนาญ จาก ต็อง วิตติวัต\”เพลงรักน่ารักที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโตยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ และพบกับเมนูอื่น ๆ จาก Mono Music Cafe ได้ในเร็ว ๆ นี้
Executive Supervisor : รัชพล จิตพึงธรรม
Executive Producer : ม.ล. พิทยากรณ์ รัชนี
Producer : ม.ล. พิทยากรณ์ รัชนี
CoProducer : ชินวุฒิ วัฒนาสัจจา
Lyrics : Greennus
Melody : Greennus
Arrangement : ชินวุฒิ วัฒนาสัจจา
Recording Engineer : ม.ล. พิทยากรณ์ รัชนี
Vocal Director : ม.ล. พิทยากรณ์ รัชนี
Digital Edited : ม.ล. พิทยากรณ์ รัชนี
Recorded at Guess Music Studio, A More Studio
Mixed and Mastered : วารุศ รินทรานุกูล
Mixed and Mastered at Sevendogs Studio
MUSIC IDENTITY
0803957878
Copyright | Music Identity

ถูกกระทำโดยผู้ชำนาญ : ต็อง วิตติวัต [Official MV] - Mono Music Cafe

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ถูกกระทำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *