Skip to content
Home » [Update] ตัวอย่างการใช้ Present Perfect Continuous | ตัวอย่างประโยคpresent perfect – NATAVIGUIDES

[Update] ตัวอย่างการใช้ Present Perfect Continuous | ตัวอย่างประโยคpresent perfect – NATAVIGUIDES

ตัวอย่างประโยคpresent perfect: คุณกำลังดูกระทู้

Present perfect continuous (เพรเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ คอนทินิวเอิส) หรือ บางคนเรียก Present perfect progressive (เพสเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ โพรเกรสซิฟวฺ) มีรูปและการใช้ดังนี้

รูปของ Present Perfect Continuous
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาโทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย ภาคประธาน (Subject ซับเจ็กทฺ) คือคำนามหรือสรรพนามที่ทำ หน้าที่เป็นผู้กระทำในอาการกิริยานั้นๆ
have เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นพหูพจน์ (มีจำนวนมากกว่าหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนาม ได้แก่ I, We, They
has เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนเพียงหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนามได้แก่ He, She, It
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย (object or modifier อ็อบเจ็กทฺ ออ โมดิไฟเออะ) คือส่วนที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์
ตัวอย่าง
I have been working for two hours.
ผมทำงานมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่า ทำงานโดยไม่ได้หยุดเลย
จนถึงบัดนี้)
He has been watching TV since 8 p.m.
เขาชมโทรทัศน์มาตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้ว (แสดงว่า ชมมาตลอดตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถังบัดนี้)

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + haven’t/hasn’t + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย   
อธิบาย haven’t คือรูปย่อของ have not ซึ่ง have ถูกทำให้รูปปฏิเสธ โดยเติม not ข้างหลัง
hasn’t คือรูปย่อของ has not ซึ่ง has ถูกทำให้เป็นรูปปฏิเสธโดยเติม not ข้างหลัง
ตัวอย่าง
I haven’t been working for two hours.
ผมไม่ได้ทำงานมาตลอดเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่าไม่ได้ทำงานใดเลย จนถึงบัดนี้)
She hasn’t been washing clothes since she came back.
เธอไม่ได้ซักเสื้อผ้าเลยนับตั้งแต่ที่เธอกลับมา

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Have/Has + ภาคประธาน + been + กริอาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย Have เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม I, We, You, They หรือ นามพหูพจน์ เช่น My friends, Mr. and Mrs. Brown เป็นต้น

Has เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม He, She, It หรือนามเอกพจน์ เช่น Mr.Brown, My friend เป็นต้น

ท้ายประโยคคำถาม ต้องมีเครื่องหมาย ? (question – mark) ด้วย
ตัวอย่าง
Have you been doing a lot of cooking ?
คุณปรุงอาหารได้เยอะแล้วยัง (ตั้งแต่เริ่มปรุงมาจนถึงบัดนี้)
Has Helen been living here long ?
เฮเลนได้มาอาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง (ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้)

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When. Where, Why, How long …. ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย       
ยกเว้น “Who” ซึ่งแบ่งได้ 2 โครงสร้างคือ
Who + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคประธานของประโยค
Who + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing + ส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคกรรมของประโยค
ตัวอย่าง
How long have you been working for the company ?
คุณทำงานกับบริษัทนี้มานานเท่าใดแล้ว (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน) Where have you been sleeping lately?
คุณไปนอนที่ไหนมาเมื่อเร็วๆ นี้ (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน)
Susan has been waiting for Thomas for two hours.
A : Who has been waiting for Thomas for two hours ?
B : Susan.
ก – ใครที่รอโทมัสมาเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง
ข – ซูซาน
A : Who has Susan been waiting for two hours ?
B : Thomas.
ก – ใครคือผู้ที่ซูซานรอคอยมานานถึง 2 ชั่วโมง
ข – โทมัส

การใช้ Present Perfect Continuous
1. ใช้แสดงช่วงเวลา (duration) ของกิจกรรมหรือการกระทำที่ได้เกิดขึ้น มาในอดีต และดำเนินสืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่ขาดช่วง ปกติมักมีคำ หรือวลีที่แสดงเวลา (time expressions) อาทิ for (เป็นเวลา) since (ตั้งแต่) until now (จนถึงบัดนี้) all moming/evening/night/day/week/month/ year (ตลอด เช้า/บ่าย/เย็น/ กลางคืน/วัน/สัปดาห์/เดือน/ปี up to now (จนถึงเดี๋ยวนี้) all my life (ตลอดชีวิต) so far (ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา) recently/ lately (เมื่อไม่นานมานี้) อยู่ภายในประโยค
ตัวอย่าง
I have been sitting here since seven o’clock.
ผมนั่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 7 โมงแล้ว
It has been raining all day. It is still raining right now.
ฝนตกตลอดทั้งวัน จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังคงตกอยู่
Has Mr. Smith been working in the office all day?
นายสมิธทำงานในที่ทำงานตลอดทั้งวันใช่ไหม
Susan has been waiting for a bus for an hour.
ซูซานรอคอยรถประจำทางมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว

หมายเหตุ (1) since (ซิ้นซฺ) ในที่นี้หมายถึง “ตั้งแต่” แสดงจุดใดจุดหนึ่งของเวลา (a point of time) อาทิ since 4:00 (ตั้งแต่บ่าย 4 โมง) since this morning (ตั้งแต่เช้านี้) since last week (ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว) since then(ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) เป็นต้น

(2) for (ฟอร์) ในที่นี้หมายถึง “เป็นระยะเวลา” แสดงปริมาณมากน้อยของเวลา (an amount of time) อาทิ for five minutes (เป็นระยะเวลา 5 นาที) for two days (เป็นระยะเวลา 2 วัน) for several years (เป็นระยะเวลาหลายปี) เป็นต้น

(3) all (ออล) ในที่นี้หมายถึง “ตลอดช่วงเวลา” วางหน้าคำที่แสดงช่วงเวลาหนึ่ง (a time period) อาทิ all evening (ตลอดช่วงเย็น) all week (ตลอดสัปดาห์) all semester long (ตลอดภาคการศึกษา) เป็นต้น

2. ใช้แสดงการกระทำหรือกิจกรรมที่ดำเนินเรื่อยมาในอดีตจนจบสิ้นเมื่อไม่นานมานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระทำนั้นยังมีผลให้แลเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ตัวอย่าง
It has been snowing before now.
หิมะตกมาตลอดก่อนหน้านี้ (ตอนนี้หยุดตกแล้ว แต่ยังมีหิมะให้แลเห็น ทั่วไปบนพื้น)
Have you been running ? You look hot.
คุณวิ่งมาใช่ไหม ดูท่าทางคุณจะร้อน (ตอนนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว)
We have been reviewing our software development program. เราทำการทบทวนโปรแกรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ (ทำมาตั้งแต่อดีต และปัจจุบันยังแลเห็นผลของการกระทำนั้น)

3. ใช้เพื่อกล่าวถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ (repeated actions or situations) ในช่วงเวลาหนึ่งๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน หรือเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานมานี้
ตัวอย่าง
I have been having driving lessons for six months.
ผมเรียนขับรถยนต์มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว (เรียนมาตลอด ปัจจุบันก็ ยังคงเรียนอยู่)
How long have you been living in New York?
คุณอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กมานานเท่าไรแล้ว (อาศัยอยู่โดยตลอด)

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 29,519 times, 1 visits today)

[NEW] หลักการใช้ Present Perfect Tense ฉบับเข้าใจง่าย | ตัวอย่างประโยคpresent perfect – NATAVIGUIDES

คราวก่อนได้เริ่มเล่าเหล่าลูกหลานตระกูล present มาพอสมควร ขอแนะนำไวยากรณ์ต่อไปที่ควรรู้หลังจากรู้เกี่ยวกับกิจวัตร หรือสิ่งที่กำลังทำ ไปแล้ว แล้วถ้าจะบอกว่า ทำเสร็จแล้วล่ะจะใช้โครงสร้างยังไง?

นี่ล่ะค่ะ เลยนำเรามาสู่ tense เรื่องต่อไปของเรา Present Perfect Tense นั่นเอง

12021938_990524284332192_1679220823_n

มาดูกันที่โครงสร้างกันก่อนเช่นเคยนะคะ เผื่อใครยังนึกหน้าตาไม่ออก

Subject (ประธาน) + have/has + Past participle verb

*Past participle คือ กริยาช่องที่ 3 ที่เราชอบเรียกกันนั่นแหละค่ะ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการและที่เจ้าของภาษาเค้ารู้จักคือ Past particle

โครงสร้างประโยค
Subject
have/has
Past participle (กริยาช่องที่ 3)

ประโยคบอกเล่า
I/You/We/They
have
been to France.

He/She/It
has
been to France.

โครงสร้างประโยค
Subject
have/has
not
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

*(yet)

ประโยคปฏิเสธ
I/You/We/They
have
not
been to France.
yet.

He/She/It
has
been to France.

โครงสร้างประโยค
Have/Has
Subject
*(ever)
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

*(yet)

ประโยคคำถาม
Have
I/you/we/they
ever
been to France?
yet ?

Has
he/she/it
been to France?

โครงสร้างประโยค
Wh questions
Have/Has
Subject
Past participle

(กริยาช่องที่ 3)

ประโยคคำถาม Wh-
Why
have
I/you/we/they
been to France?

When
has
he/she/it
been to France?

*คำในวงเล็บจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะคะ เป็น option เสริมให้ดูสละสลวยมากขึ้น

Note: กริยาที่เห็นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะคะ Subject บางตัวนำมาใช้กับกริยานี้ไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูความเหมาะสมอีกที

Tense นี้ฟังแต่ชื่ออาจดูน่ากลัวเพราะไม่คุ้นหู และดูจากโครงสร้างที่ต้องรู้เรื่องกริยา Past participle ก็อาจทำหลายคนส่ายหน้า โบกมือบ๊ายบายกันแล้ว แต่ความจริงแล้วเป็น Tense ที่ใช้เยอะกันมากจนน่าตกใจ ไอ้ Present Perfect tense นี่มันใช้สำหรับกรณีหลักๆกรณีเดียว นั่นคือ

เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว แต่เกี่ยวโยงถึงปัจจุบัน อาจจะดำเนินต่อถึงอนาคตก็ได้

เป็น Tense ที่อ้างถึงเวลาปัจจุบัน ณ ขณะที่พูดอยู่ แต่กล่าวถึงสิ่งที่ได้ทำผ่านมาในอดีต เหมือนการมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์หรือเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ส่งผลกับเราในปัจจุบันขณะพูด

เช่น I have already had breakfast (ฉันทานข้าวเช้ามาเรียบร้อยแล้ว ณ ขณะที่พูดก็รู้สึกอิ่มพุงกางอยู่)
Thomas and James have been to Brazil (โทมัสและเจมส์เคยไปบราซิลมาแล้ว เป็นประสบการณ์ที่โทมัสกับเจมส์เคยไปลัลลาด้วยกันมา)

ประโยคตัวอย่างข้างต้นนี้ล้วนแล้วแต่พูดถึงสิ่งที่ทำในอดีตและจบไปแล้ว

แต่ที่ว่ายังมีผลเกี่ยวเนื่องกับปัจจุบัน มันก็คือ ณ ขณะที่พูดนั้นเหตุการณ์ที่พูดถึงดำเนินเสร็จแล้วในช่วงหนึ่เท่านั้น ที่ว่ากินข้าวก็เป็นความรู้สึกว่ายังอิ่มอยู่นะ หรือการไปบราซิลที่เป็นประสบการณ์ยังมีความรู้สึกคิดถึงที่นั่นอยู่

อาจจะยังงงๆ ว่ามันยังไงกันล่ะ ? ลองดูประโยคตัวอย่างด้านล่างนี้เพิ่มดูนะคะ

I have met a lot of people in the last few years (ฉันเจอผู้คนมากมายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ณ ขณะที่พูดปัจจุบันนี้ฉันก็ยังเจอคนแล้วเท่านี้ อนาคตค่อยว่ากัน)

We have not had any problems so far. (เราไม่มีปัญหาอะไรเลยตั้งแต่คราวนู้นยันตอนที่พูดอยู่นี้  อนาคตก็อาจจะเจอปัญหาก็ว่ากันไป)

I have lost my wallet. (ฉันทำกระเป๋าตังค์หาย ณ ขณะที่พูดปัจจุบันกระเป๋าก็ยังหายอยู่ อนาคตก็อาจจะเจอไม่เจอไม่รู้)

ทุกอย่างใน Present Perfect จะเกี่ยวเนื่องเห็นชัดในปัจจุบันที่ว่าแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นและจบไปแล้ว ผลของมันยังเห็นได้ในปัจจุบัน

สิ่งที่เรามักจะเห็นบ่อยๆกับประโยค Present Perfect ก็คือคำว่า

ever(เคย)       just (เพิ่งจะ)             already (เสร็จแล้ว)             และ             yet (ยัง)

เช่น Have you ever tried Padthai before? (เธอเคยกินผัดไทแล้วหรือยัง)
I have just had lunch. (ฉันเพิ่งจะทานข้าวกลางวันไปเอง)
He has already left. (ณ เวลานี้เขาออกไปแล้ว)
I have written an email, but I haven’t sent it yet. (ฉันเขียนอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ส่ง)

บางครั้ง Present Perfect  นี้มักจะมาคู่กับ Past Simple ที่พูดถึงเรื่องราวในอดีตเป็นตัวช่วยในการขยายเนื้อความเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วจบไปแล้วจริงๆ

ตัวอย่างเช่น

I have been to Thailand for two years. I went to Bangkok , Khonkhan and Chiang Mai. I also tried many Thai foods and learned Thai language.

ประโยคแรก ใช้ Present Perfect เพื่อบอกว่าฉันเคยอยู่ประเทศไทยมา 2 ปี แล้วจึงตามด้วยประโยค Past Simple ที่ช่วยอธิบายประโยคแรก ว่าฉันไปกรุงเทพ ขอนแก่น และเชียงใหม่มา แล้วยังเคยกินอาหารไทยเยอะแยะแถมยังได้เรียนภาษาไทยอีกด้วย

บางครั้งใน Present Perfect เลยมีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวด้วยว่าทำตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือทำมาเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ จนถึงเวลา ณ ขณะที่พูด

โดยจะใช้คำว่า since (ตั้งแต่ปีไหน วันไหน เดือนไหน etc.) และ for (กี่ปี กี่วัน กี่เดือน  etc.)

เช่น Your sister has grown a lot since the last time we met. (น้องสาวของเธอโตขึ้นมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน)

My Chinese has improved since I moved to China. (ภาษาจีนของฉันดีขึ้นมากตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาอยู่ที่จีน)

have stayed in Nan for ten years. (ฉันเคยอาศัยอยู่ที่น่านมาได้ 10 ปีแล้ว)
You have played computer games for three hours. (เธอเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์มาได้ 3ชั่วโมงแล้วนะ)

เป็นยังไงบ้างคะ ดูแล้วอาจซับซ้อนนิดหน่อย หลักๆก็จำไว้แค่ว่าถ้าประโยคที่เราจะพูดหรือเขียนเป็นสิ่งที่ เพิ่งจะทำ(just) หรือ เคยทำ(ever) หรือ ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว (already) หรือ ยังไม่เคยทำ (yet) ก็ไม่ต้องคิดมาก เอา Present Perfect ที่เราได้เรียนกันวันนี้ไปใช้ได้เลย ทีนี้ก็จะไม่เป็นภาระให้แค่ Present Simple หรือ Past Simple อีกต่อไป เหลือแค่ลองเอาไปใช้ดูนะคะ ผิดถูกก็ว่าค่อยๆแก้กันไป แต่ให้ได้ใช้ได้ฝึก

ท่องไว้นะคะ Practice makes perfect!


present perfect tense ประโยคบอกเล่า คำถาม ปฏิเสธ แต่งประโยค by ดร.พี่นุ้ย


เรียนภาษาอังกฤษ
ดร.พี่นุ้ย สมิตา หมวดทอง
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ NuiEnglish
เกียรตินิยมอันดับ 1 อักษร จุฬาฯ
นักเรียนทุน ก.พ. และทุนรัฐบาลอังกฤษ
พสบ. 26 กองทัพบก
พขส.2 สถาบันพระปกเกล้า
FA 7 สถาบันพระปกเกล้า
พคบ.10 กอ.รมน
กรรมการสงเคราะห์ สถานพินิจสมุทรสาคร
The Startup Ready Batch3
SIP 44 ธนาคารกรุงเทพ
http://www.nuienglish.com
http://www.facebook.com/nuienglish

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

present perfect tense ประโยคบอกเล่า คำถาม ปฏิเสธ แต่งประโยค by ดร.พี่นุ้ย

Present Perfect


In this video, students learn two common uses of the present perfect tense. They also learn the difference between regular and irregular past participles. For more videos and lessons, visit us at https://esllibrary.com.
Link to lesson: https://esllibrary.com/courses/88/lessons/1597
Subscribe to ESL Library’s YouTube channel: https://www.youtube.com/c/Esllibrary
Follow us for more great content!
Instagram: https://www.instagram.com/esllibrary/
Facebook: https://www.facebook.com/ESLlibrary/
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/esllibrary/
Twitter: https://twitter.com/ESLlibrary/
Pinterest: https://ar.pinterest.com/esllibrary/

Present Perfect

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉


จำไม่เคยได้ ❌ โครงสร้าง Present Perfect 🔥
ออกสอบบ่อยสุด!! ทำยังไงให้รอด⁉ คลิปนี้มีคำตอบ
.
แจกกลอน ไปท่องจำ แต่งอย่างดี!‼
จำโคตรง่าย ท่องครั้งเดียวก็จำได้ ใช้ได้จริงในห้องสอบ
ไม่อยากตกม้าตาย รีบกดแชร์ ⚠ ครูดิวเตือนแล้วนะคะ
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อ่อนแกรมม่า!🚫 ถ้ายังไม่มั่นใจว่า TOEIC จะรอด
ต้องเริ่มติวได้แล้ว!!
‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อยากได้คะแนนสูงๆ✨ให้ครูดิวติวให้ชัวร์ ตั้งแต่ตอนนี้!!
การันตีผล 750+ ไปสอบแล้วไม่ถึง ยินดีให้เรียนซ้ำฟรี!
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
📍สนใจสมัครคอร์ส 💬
📍สอบถามรายละเอียดคอร์สกับแอดมิน ได้ทาง
📍Inbox : m.me/TOEICKruDew
📍ทดลองเรียนฟรี : www.opendurian.com/toeic_krudew
📍Add Line : https://lin.ee/nrn6h06
📍IG\u0026TikTok : @krudewtoeic
‍‍ ‍‍ ‍‍
toeic krudewtoeic ติวtoeic grammar english

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉

การใช้Just already yetในประโยคPresent Perfect


การใช้just,already,yetในประโยคpresent perfect

การใช้Just already yetในประโยคPresent Perfect

50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense


50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense
คลิปนี้แยกออกมาจาก คลิป หลักการใช้ Present Simple Tense เพื่อให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาและฝึกเฉพาะตัวอย่างประโยค โดยไม่ต้องดูคลิปเต็มยาวๆค่ะ

50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่างประโยคpresent perfect

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *