Skip to content
Home » [Update] จัดมา 6 เพลง ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลในยุค 70-80’s พร้อมคำแปล ฟังไปร้องได้ทุกคนแน่นอนจ้า | ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก – NATAVIGUIDES

[Update] จัดมา 6 เพลง ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลในยุค 70-80’s พร้อมคำแปล ฟังไปร้องได้ทุกคนแน่นอนจ้า | ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก – NATAVIGUIDES

ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

จัดมาอีกบทความ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอเลิกจากงานประจำ มาแนะนำ 5 เพลงสากลยุค70-80 เพื่อฝึกษาภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล ความหมาย ฟังกันได้ร้องตามได้ทุกคนแน่นอน (Practice english with retro songs 70-80’s

)

หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้า ได้มาบอกเล่า เก้าสิบ แนะนำเพลงภาษาอังกฤษสากลในยุค 60’s เพื่อฝึกภาษาอังกฤษกันไปแล้ว เรียกว่าน่าจะถูกใจและฝึกร้องร้องคลอตามกันได้ไม่น้อยนะคะ หรือบางคน ถ้าร้องไม่ได้ ก็สามารถลิปซิงค์ (Lip Sing) อ้าปากคลอไปตามเสียงเพลงได้ด้วย เรียกว่าสามารถสร้างความเพลิดเพลินจำเริญใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนต่อผู้ฟังได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

 

ส่วนบทความในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาคุณผู้อ่าน รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ หรือผู้ที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ มาฝึกร้องเพลงกันต่อกับเพลงสากลในยุค 70-80’s ซึ่งมีบทเพลงไพเราะ เพราะพริ้ง สุดสวิงริงโก้ เฮโลขับขาน ร้าวรานถึงทรวงในอยู่หลายเพลง รวมท้งเป็นที่รู้จัก คุ้นหูกันมาเป็นอย่างดี แถมเนื้อหาฟังเข้าใจง่าย ที่หลายๆคนสามารถร้องตามได้ ส่วนจะมีเพลงอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านและร้องตาม Youtube กันได้เลยจ้า


1.When will I see you again 

Youtuber upload by AUGUSTUS66ful 

1.Song : When Will I see  you again (เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง)

– Artist : The Three Degree (ต้นฉบับศิลปิน,นักร้อง : วงเดอะ ทรี ดีกรี) 


– To released on Year : 1974  (ปี พ.ศ.2517) 

หนึ่งในเพลงอมตะ สุดคลาสสิคยุค 70’s  กับวงน้องร้อง 3 สาวอเมริกัน ที่โด่งดังไปทั่วโลก  เนื้อหาเพลงไพเราะ เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน สมัยอดีตผู้คนนิยมฟังผ่านวิทยุ หรือไปฟังที่ภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีนักร้องเพลงสากล  หากใครมีเงินมากหน่อยก็สามารถซื้อแผ่นเสียงมาเปิดฟังได้


เนื้อเพลงและคำแปล


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will we share precious moments?

เมื่อไหร่เราจะได้แบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าด้วยกัน


Will I have to wait forever?

ฉันจะต้องรอไปตลอดกาลเลยไช่ไหม


Will I have to suffer? (Suffer)

ฉันจะต้องทนทุกข์อีกนานหรือเปล่า


And cry the whole night through?

และร้องให้ตลอดไปทั้งคืนเลยไช่ใหม


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will our hearts beat together?

เมื่อไหร่นะหัวใจของเราสุขอุราไปด้วยกัน 

Are we in love or just friends?

เรากำลังรักกันอยู่ หรือว่าเราเป็นแค่เพียงกันเท่านั้น 


Is this my beginning or is this the end?

นี่คือจุดเริ่มต้นความรักของฉัน หรือว่านี่คือจุดสิ้นสุดความรักกันแน่ 


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

Hah, hoo

(Precious moments)

ช่วงเวลาอันมีค่า 


Are we in love or just friends?

เรากำลังรักกันอยู่ หรือว่าเราเป็นแค่เพียงกันเท่านั้น 

Is this my beginning or is this the end? (Is this the end?)

นี่คือจุดเริ่มต้นความรักของฉัน หรือว่านี่คือจุดสิ้นสุดความรักกันแน่ 

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

Sweet, sweet love of mine

ความรักแสนหวานชื่น รื่นอุราของฉัน


(When will I see you again?) Come on, come on

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง   รีบมาเลย รีบมาเลย 

(When will I see you again?) Tell me when

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง  บอกฉันหน่อยเถอะว่าจะมาเหมื่อไหร่ 

(When will I see you again?) My sweet love, oh, yes

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง  ที่รักของฉัน 

(When will I see you again?) Ooh, yeah

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

—————————————————————————————–

2.Song : Sha-La-La-La-La ( เพลง ชาลาลาลาล่า)


Youtube/upload by gordonpihl

2.Song : Sha-La-La-La-La (ชาลาลาลาล่า)

– Artist : Walkers (ต้นฉบับศิลปิน,นักร้อง : วงว็อกเกอร์) 



– To released on Year : 1973   (ปี พ.ศ.2516)

เป็นเพลงดังอมตะในยุค 70 อีกหนึ่งเพลงสากล ซึ่งเป็นที่รู้จักและร้องกันมาถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงเข้าใจง่าย ร้องได้ทุกคน

เนื้อเพลงดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม 

แปลความหมายเพลง Sha-La-La-La-La ( เพลง ชาลาลาลาล่า)

There’s a girl in my mind and he knows I’m thinkin’ of her
มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอยู่ในใจของฉัน และเขาก็รู้ดีว่าฉันคิดถึงเขา

All my way to the day and the night the stars shine above me.
ตลอดเวลาเมื่อดวงดาวส่องแสงสว่างอยู่เบื้องบน

She’s been gone for some time but I know I truly love her.
แธอจากฉันไปสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ฉันก็รู้ดีว่าฉันรักเธอด้วยใจจริง

And I’m singing a song, hoping she’ll be back when she hears it.
และฉันก็ร้องเพลง, หวังว่าเธอคงจะกลับมาเมื่อเธอได้ยินมัน

My heart goes shalala lala, shalala in the morning.
หัวใจคุณเต้นร้องออกไปว่า ชาลาลาลาลา ชาลาลา ในตอนเช้า

Oh oh oh shalala lala, shalala in the sunshine.
โอ้..โอ้..โอ้..ชาลาลา ลาลา, ชาลาลา ในตอนกลางวัน

Sha la la la la, sha la la lala in the evening.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา ในตอนเย็น

Shalala lala shalala lala just for you.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา เพื่อเธอเท่านั้น

If your love’s gone away just like mine you feel like crying.
เมื่อคนรักของคุณนั้นจากไปเหมือนกับฉัน คุณก็คงรู้สึกอยากจะร้องไห้

Sing along maybe once maybe twice, let’s try it together.
มาร้องเพลงนี้ด้วยกันสักหนึ่งครั้ง หรืออาจจะสองครั้งก็ได้, มาลองร้องไปพร้อมๆ กันนะ

Some sweet day no one knows she’ll return and you’ll be happy.
ใครจะไปรู้ว่า อาจจะมีวันที่แสนหวานเกิดขึ้น เมื่อคุณนั้นหวนกลับมา แล้วคุณก็จะมีความสุข

Shout it sweet in a song, listen to your heart it is singin’
ร้องตะโกนกับเพลงอันแสนหวานนี้, ฟังซิ หัวใจของคุณมันก็กำลังร้องเพลง

Your heart goes shalala lala, shalala in the morning.
หัวใจคุณเต้นร้องออกไปว่า ชาลาลาลาลา ชาลาลา ในตอนเช้า

Oh oh oh shalala lala, shalala in the sunshine.
โอ้..โอ้..โอ้..ชาลาลา ลาลา, ชาลาลา ในตอนกลางวัน

Shalala lala, shalala lala in the evening.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา ในตอนเย็น

Shalala lala shalala lala just for you.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา เพื่อคุณเท่านั้น
——————————————–



Youtube/Upload by Dionne Warwick
 

3.Song : That’s What Friend Are For (นั้นคือความหมายของคำว่าเพื่อน)

– Artist : Dionne Warwick, Elton John, Gladys Knight, and Stevie Wonder. (รวมศิลปิน 4 นักร้องชื่อดัง)
– To released on Year : 1982 (ปี พ.ศ.2525)
เพลงสากลอันโด่งดังในยุค 80 ที่ร้องกันทั่วโลก เนื้อเพลง มีความหมาย เข้าใจง่าย เพลงแบบสบายๆ
แปลเพลง That’s What Friends Are For

And I never thought I’d feel this way
และฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉันนั้นจะรู้สึกในแบบนี้


And as far as I’m concerned
และเท่าที่ที่ฉันนั้นกังวล


I’m glad I got the chance to say
ฉันยินดีที่ตัวฉันเองก็มีโอกาสที่ได้พูดออกไปด้วย

That I do believe I love you
โดยฉันเชื่อเหลือเกินว่าฉันรักคุณ

And if I should ever go away
และหากฉันควรที่จะเดินจากไป

Well then, close your eyes and try
จากนั้น คุณพยามปิดตาของคุณลง

To feel the way we do today
เพื่อที่จะรู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันในวันนี้

And then if you can remember
และเพื่อให้คุณนั้นจดจำมันได้

Keep smilin’, keep shinin’
จงยิ้มต่อไป และเปล่งใสให้สดใสต่อไป

Knowin’ you can always count on me for sure
ฉันรู้นะว่า คุณนั้นเชื่อใจฉันได้เสมอ

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

For good times and bad times
ที่จะอยู่ทั้งในช่วงเวลาที่ดี และช่วงเวลาที่เลวร้าย

I’ll be on your side forevermore
ฉันจะอยู่ข้าง ๆ คุณไปตลอด

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

Well, you came and opened me
แล้วเมื่อคุณเข้ามา ก็เปิดโอกาสให้ฉัน

And now there’s so much more I see
และตอนนี้มีสิ่งมากมายที่ฉันนั้นได้พบเจอ

And so, by the way, I thank you
ยังไงก็ตามฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณ

Oh, and then, for the times when we’re apart
ในหลาย ๆ ครั้งที่เรานั้นไม่ได้อยู่ด้วยกัน

Well then, close your eyes and know
แต่ปิดตาของคุณลง และรับรู้

These words are comin’ from my heart
ถึงคำพูดเหล่านี้ที่ออกมาจากหัวใจของฉัน

And then if you can remember, oh
แล้วหากคุณนั้นจดจำมันได้

Keep smiling, keep shining
จงยิ้มต่อไป และเปล่งแสงให้สดใสต่อไป

Knowing you can always count on me for sure
ฉันรู้ว่าคุณนั้นเชื่อใจฉันได้เสมอ

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

In good times, in bad times
ที่จะอยู่ทั้งในช่วงเวลาที่ดี และช่วงเวลาที่เลวร้าย

I’ll be on your side forevermore
ฉันจะอยู่ข้าง ๆ คุณไปตลอด

Oh, that’s what friends are for, oh
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

Ha ha, that’s what friends are for)
(นั่นและคือความหมายของคำว่าเพื่อน)

On me for sure
เชื่อใจฉันได้แน่นอน

Count on me for sure
ไว้ใจฉันได้เสมอ

Count on me for sure
และก็พึ่งพาฉันได้แน่นอน

That’s what friends are for
นั่นแหละคือความหมายของ “คำว่าเพื่อน”

Keep smilin’, keep shinin’
จงยิ้ม และเฉิดฉายให้สดใสแบบนี้ต่อไปนะ

——————————————————————————–
4.Have you ever seen the rain

Youtube/ Upload by Juando Aguilar


4.Song : Have you ever seen the rain (คุณเคยเห็นสายฝนหรือเปล่า)



– Artist : Creedence Clearwater Revival (กลุ่มนักร้อง วงครีเดนซ์เคลียร์วอเทอร์รีไววัล)



– To released on Year: 1970 (ปี พ.ศ.2513)



อีกหนึ่งเพลงชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงสุดปัง และรู้กันมาตลอดกาลถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงออกแนวสไตล์ร็อคคันทรี ฟังสบายๆ เข้าใจง่าย ร้องตามได้ทุกคน

เนื้อเพลง(lyrics)

Someone told me long ago, there’s a calm before the storm.
มีผู้บอกฉันนานแล้วว่า ท้องฟ้าจะเงียบสงบก่อนที่จะมีพายุ

I know, and it’s been comin’ for some time.
ฉันรู้แล้ว, และเคยเห็นมันปรากฎเองแล้วด้วยบางครั้ง

When it’s over, so they say, it’ll rain a sunny day.
เมื่อมันผ่านไป,เขาก็กล่าวกันว่า ฝนจะตกในวันแดดจ้า

I know, shinin’ down like water.
ฉันรู้แล้ว,แสงส่องสว่างลงมาเหมือนกับสายฝน

I want to know, have you ever seen the rain?
ฉันอยากรู้,ว่าเธอเคยเห็นฝนหรือเปล่า

I want to know, have you ever seen the rain
ฉันอยากรู้,ว่าเธอเคยเห็นฝนหรือเปล่า

comin’ down on a sunny day?
ตอนที่ฝนตกตอนแดดออก

Yesterday, and days before, sun is cold and rain is hard.
เมื่อวาน,และเมื่อวันก่อน,แสงอาทิตย์นั้นมืดลง และฝนก็ตกหนัก

I know, been that way for all my time.
ฉันรู้ ว่ามันเป็นเช่นนั้นเหมือนที่เคยเป็นตลอดมา

‘Til forever on it goes through the circle fast and slow,
มันจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดไป ผ่านวัฏจักรไปเรื่อยๆ ช้าบ้าง เร็วบ้าง ตามโอกาส

I know, and it can’t stop, I wonder.
ฉันรู้ และฉันก็แค่สงสัยว่ามันคงจะเป็นไปเรื่อย ๆไม่มีวันจบสิ้นแน่นอน

I want to know, have you ever seen the rain?
ฉันอยากรู้,ว่าคุณเคยเห็นฝนหรือเปล่า

I want to know, have you ever seen the rain
ฉันอยากรู้,ว่าคุณเคยเห็นฝนหรือเปล่า

comin’ down on a sunny day?
ตอนที่ตกตอนแดดออก

———————————————————–

5.I just call to say I love you 

Youtube/ Upload by no 


5.Song : I just call to say I love you (ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันรักคุณนะ)



– Artist : Stevie Wonder (ศิลปิน สตีฟ วันเดอร์)



– To released on Year:1984 (ปี พ.ศ.2527)




หนึ่งในศิลปินนักร้องผู้พิการทางสายซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในยุค 80 โดยเฉพาะเพลง I just call to say I love you เป็นเพลงไพเราะ ฟังเข้าใจง่าย และร้องตามได้ทุกคน

แปลความหมายของเพลง I just call to say I love you 


No New Year’s Day to celebrate
ไม่ใช่วันปีใหม่ ที่จะต้องมาเฉลิมฉลอง

No chocolate covered candy hearts to give away
ไม่มีลูกอมหัวใจเคลือบช็อคโกแลตที่มอบให้

No first of Spring, no song to sing
ไม่ใช่วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ และไม่มีเพลงใด ๆ ที่จะร้อง

In fact here’s just another ordinary day
ในความเป็นจริง ตอนนี้ก็แค่เป็นวันหนึ่งที่แสนจะธรรมดา

No April rain, no flowers bloom
ไม่ใช่สายฝนในเดือนเมษายน ไม่ใช่ช่วงเวลาของดอกไม้ที่เบ่งบาน

No wedding Saturday, within the month of June
ไม่มีงานแต่งงานในวันเสาร์ในเดือนมิถุนายน

But what it is, is something true
แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เป็นความจริง

Made up of these three words that I must say to you
เป็นสิ่งที่สร้างมาจากคำสามคำ ที่ฉันนั้นต้องพูดกับคุณให้ได้

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่าฉันนั้นรักคุณ

I just called to say how much I care
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณนะ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

No summer’s high
ไม่ใช่ช่วงมึนเมาในฤดร้อน

No warm July
ไม่ใช่เดือนกรกฎาคมที่แสนอบอุ่น

No harvest moon to light one tender August night
ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวงในฤดูเก็บเกี่ยว ที่ฉายแสงครั้งหนึ่งในค่ำคืนเดือนสิงหาคม

No autumn breeze
ไม่มีสายลมของฤดูใบไม้ร่วง

No falling leaves
ไม่ใช่ปลิดปลิวของใบไม้ที่ร่วงหล่นมา

Not even time for birds to fly to southern skies
และก็ไม่ใช่ แม้แต่จะเป็นเวลาที่เหล่านกนั้นบินถลาออกไปยังฟากฟ้าทางทิศใต้

No Libra sun
ไม่ใช่ช่วงของตุลา

No Halloween
ไม่ใช่วันฮาโลวีน

No giving thanks to all the Christmas joy you bring
ไม่ใช่การมอบคำขอบคุณกับช่วงแห่งความสุขของคริสต์มาสทั้งหมดที่คุณมอบให้

But what it is, though old so new
แต่ สิ่งนี้นั้นเป็น สิ่งที่ผ่านมาจากอดีตและยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน

To fill your heart like no three words could ever do
ที่จะเติมเต็มหัวใจของคุณ ดั่งเช่นคำสามคำนั้น

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณนะ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

Of my heart
จากหัวใจของฉันจริงๆ

Of my heart
จากหัวใจส่วนลึกของฉันจริงๆ
————————————————————————-

6.Top of The world


Youtube/ Upload by Billy Rees


6.Song : Top of The world (เหนือสิ่งอื่นใดในโลกนี้)

– Artist : Carpenters (ศิลปิน นักร้อง วงคาเพนเทอร์ )
– To released on Year : 1972 (ปี พ.ศ.2515)

เพลงภาษาอังกฤษสุดไพเราะอีกหนึ่งเพลงในยุค 70 ที่ยังครองใจ และร้องคลอตามกันได้มาถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงมีความหมายที่ดี ฟังแบบสบายๆ เพื่อย้อนวันวาน

แปลความหมายของเพลง Top of The world (อยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้)

Such a feelin’s coming over me
มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นจากใจของฉัน

There is wonder in most ev’ry thing I see,
ทุกสิ่งที่ฉันเห็นล้วนเป็นความมหัศจรรย์ที่สุด

Not a cloud in the sky got the sun in my eyes,
ในห้วงฟ้าที่ไร้ซึ่งเมฆหมอก มีเพียงแค่ดวงตะวันในดวงตาของฉัน

And I won’t be surprised if it’s a dream.
หากบอกว่านี่เป็นความฝัน ฉันก็จะไม่แปลกใจเลย

Ev’rything I want the world to be,
ทุกสิ่งที่ฉันอยากให้โลกใบนี้เป็นไป

Is now coming true especially for me,
หรือมันกำลังจะเป็นจริงสำหรับฉันแล้วในตอนนี้

And the reason is clear -It’s because you are here,
แล้วเหตุผลก็เด่นแล้วชัดว่า เป็นเพราะคุณอยู่ที่นี่ด้วยนั้นเอง 

You’re the nearest thing to heaven that I’ve seen
คุณนั้นเป็นเหมือนแดนสวรรค์มากที่สุด เท่าที่ฉันเคยได้เจอมา

I’m on the top of the world lookin’
ตอนนี้ฉันอยู่บนเหนือสิ่งอื่นใดของโลกใบนี้ และกำลังมองลงมา

down on creation and the only explanation I can find
สิ่งเดียวที่ฉันพอจะอธิบายได้ 

Is the love that I’ve found, ever since you’ve been around
นั่นก็เพราะว่าฉันได้พบกับความรักแล้วล่ะ และนับตั้งแต่เธอได้เข้ามาในชีวิตฉัน

Your love’s put me at the top of the world
รักของเธอทำให้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้


Something in the wind has learned my name,
มีบางสิ่งในสายลมที่พัดผ่าน ก็จักรู้ชื่อฉันแล้ว


and it’s tellin’ me that things are not the same,
และบอกกับฉันว่าสิ่งเหล่านั้นว่า มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

In the leaves on the trees and the touch of the breeze,
จะเป็นใบไม้ที่อยู่ต้นไม้ทั้งหลาย เพื่อสัมผัสรับอากาศที่ดีเลิศ

there’s a pleasin’ sense of happiness for me.
สำหรับฉันแล้ว นั้นถือเป็นสัมผัสแห่งความสุขยิ่งนัก

There is only one wish on my mind,
ในใจฉันนี้มีความปรารถนาเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

When this day is through I hope that I will find,
คือเมื่อผ่านวันนี้ไป ฉันหวังเพียงได้พบว่า

That tomorrow will be just the same for you and me,
พรุ่งนี้จะมีเธอและฉันอยู่ด้วยกันอีก

All I need will be mine if you are here.
ขอเพียงมีเธออยู่ที่นี่ นั่นคือทุกสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว

I’m on the top of the world lookin’
ตอนนี้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ และก็กำลังมองลงมา 

down on creation and the only explanation I can find
สิ่งเดียวที่ฉันพอจะอธิบายได้ นั่นก็คือฉันได้พบกับความรักแล้ว

Is the love that I’ve found, ever since you’ve been around
นับตั้งแต่เธอได้เข้ามาในชีวิตฉัน

Your love’s put me at the top of the world
รักของเธอทำให้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดของโลกใบนี้

เนื้อเพลงดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม

และสำหรับบทเพลงภาษาอังกฤษสากลในยุค 70-80’s ที่ได้นำเสนอและนำมาให้ฟังพร้อมเนื้อเพลงและคำแปลไว้ในบทความบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์ สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ หรือน้องๆนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังมองหาเพลงอังกฤษความหมายดีๆ ฟังเข้าใจและร้องตามได้ง่ายๆกันอยู่ไม่น้อยนะคะ หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป…..จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

———————————————————————————————
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้

ท่องโลกกว้าง แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองเชสกี้ กรุมลอฟ

ชมเมืองเก่ามรดกโลก มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองระนอง

ลองไปแช่น้ำแร่ เช่ารถนั่งแลชมทะเลสวยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตามไปกันเลยจ้า

เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้

มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย

แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ

มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย

เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม

เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้

แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัท

ด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

[Update] จัดมา 6 เพลง ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลในยุค 70-80’s พร้อมคำแปล ฟังไปร้องได้ทุกคนแน่นอนจ้า | ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก – NATAVIGUIDES

จัดมาอีกบทความ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอเลิกจากงานประจำ มาแนะนำ 5 เพลงสากลยุค70-80 เพื่อฝึกษาภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล ความหมาย ฟังกันได้ร้องตามได้ทุกคนแน่นอน (Practice english with retro songs 70-80’s

)

หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้า ได้มาบอกเล่า เก้าสิบ แนะนำเพลงภาษาอังกฤษสากลในยุค 60’s เพื่อฝึกภาษาอังกฤษกันไปแล้ว เรียกว่าน่าจะถูกใจและฝึกร้องร้องคลอตามกันได้ไม่น้อยนะคะ หรือบางคน ถ้าร้องไม่ได้ ก็สามารถลิปซิงค์ (Lip Sing) อ้าปากคลอไปตามเสียงเพลงได้ด้วย เรียกว่าสามารถสร้างความเพลิดเพลินจำเริญใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนต่อผู้ฟังได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

 

ส่วนบทความในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาคุณผู้อ่าน รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ หรือผู้ที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ มาฝึกร้องเพลงกันต่อกับเพลงสากลในยุค 70-80’s ซึ่งมีบทเพลงไพเราะ เพราะพริ้ง สุดสวิงริงโก้ เฮโลขับขาน ร้าวรานถึงทรวงในอยู่หลายเพลง รวมท้งเป็นที่รู้จัก คุ้นหูกันมาเป็นอย่างดี แถมเนื้อหาฟังเข้าใจง่าย ที่หลายๆคนสามารถร้องตามได้ ส่วนจะมีเพลงอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านและร้องตาม Youtube กันได้เลยจ้า


1.When will I see you again 

Youtuber upload by AUGUSTUS66ful 

1.Song : When Will I see  you again (เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง)

– Artist : The Three Degree (ต้นฉบับศิลปิน,นักร้อง : วงเดอะ ทรี ดีกรี) 


– To released on Year : 1974  (ปี พ.ศ.2517) 

หนึ่งในเพลงอมตะ สุดคลาสสิคยุค 70’s  กับวงน้องร้อง 3 สาวอเมริกัน ที่โด่งดังไปทั่วโลก  เนื้อหาเพลงไพเราะ เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน สมัยอดีตผู้คนนิยมฟังผ่านวิทยุ หรือไปฟังที่ภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีนักร้องเพลงสากล  หากใครมีเงินมากหน่อยก็สามารถซื้อแผ่นเสียงมาเปิดฟังได้


เนื้อเพลงและคำแปล


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will we share precious moments?

เมื่อไหร่เราจะได้แบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าด้วยกัน


Will I have to wait forever?

ฉันจะต้องรอไปตลอดกาลเลยไช่ไหม


Will I have to suffer? (Suffer)

ฉันจะต้องทนทุกข์อีกนานหรือเปล่า


And cry the whole night through?

และร้องให้ตลอดไปทั้งคืนเลยไช่ใหม


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will our hearts beat together?

เมื่อไหร่นะหัวใจของเราสุขอุราไปด้วยกัน 

Are we in love or just friends?

เรากำลังรักกันอยู่ หรือว่าเราเป็นแค่เพียงกันเท่านั้น 


Is this my beginning or is this the end?

นี่คือจุดเริ่มต้นความรักของฉัน หรือว่านี่คือจุดสิ้นสุดความรักกันแน่ 


When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

Hah, hoo

(Precious moments)

ช่วงเวลาอันมีค่า 


Are we in love or just friends?

เรากำลังรักกันอยู่ หรือว่าเราเป็นแค่เพียงกันเท่านั้น 

Is this my beginning or is this the end? (Is this the end?)

นี่คือจุดเริ่มต้นความรักของฉัน หรือว่านี่คือจุดสิ้นสุดความรักกันแน่ 

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

When will I see you again?

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

Sweet, sweet love of mine

ความรักแสนหวานชื่น รื่นอุราของฉัน


(When will I see you again?) Come on, come on

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง   รีบมาเลย รีบมาเลย 

(When will I see you again?) Tell me when

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง  บอกฉันหน่อยเถอะว่าจะมาเหมื่อไหร่ 

(When will I see you again?) My sweet love, oh, yes

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง  ที่รักของฉัน 

(When will I see you again?) Ooh, yeah

เมื่อไหร่ฉันจะได้พบคุณอีกครั้ง

—————————————————————————————–

2.Song : Sha-La-La-La-La ( เพลง ชาลาลาลาล่า)


Youtube/upload by gordonpihl

2.Song : Sha-La-La-La-La (ชาลาลาลาล่า)

– Artist : Walkers (ต้นฉบับศิลปิน,นักร้อง : วงว็อกเกอร์) 



– To released on Year : 1973   (ปี พ.ศ.2516)

เป็นเพลงดังอมตะในยุค 70 อีกหนึ่งเพลงสากล ซึ่งเป็นที่รู้จักและร้องกันมาถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงเข้าใจง่าย ร้องได้ทุกคน

เนื้อเพลงดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม 

แปลความหมายเพลง Sha-La-La-La-La ( เพลง ชาลาลาลาล่า)

There’s a girl in my mind and he knows I’m thinkin’ of her
มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอยู่ในใจของฉัน และเขาก็รู้ดีว่าฉันคิดถึงเขา

All my way to the day and the night the stars shine above me.
ตลอดเวลาเมื่อดวงดาวส่องแสงสว่างอยู่เบื้องบน

She’s been gone for some time but I know I truly love her.
แธอจากฉันไปสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ฉันก็รู้ดีว่าฉันรักเธอด้วยใจจริง

And I’m singing a song, hoping she’ll be back when she hears it.
และฉันก็ร้องเพลง, หวังว่าเธอคงจะกลับมาเมื่อเธอได้ยินมัน

My heart goes shalala lala, shalala in the morning.
หัวใจคุณเต้นร้องออกไปว่า ชาลาลาลาลา ชาลาลา ในตอนเช้า

Oh oh oh shalala lala, shalala in the sunshine.
โอ้..โอ้..โอ้..ชาลาลา ลาลา, ชาลาลา ในตอนกลางวัน

Sha la la la la, sha la la lala in the evening.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา ในตอนเย็น

Shalala lala shalala lala just for you.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา เพื่อเธอเท่านั้น

If your love’s gone away just like mine you feel like crying.
เมื่อคนรักของคุณนั้นจากไปเหมือนกับฉัน คุณก็คงรู้สึกอยากจะร้องไห้

Sing along maybe once maybe twice, let’s try it together.
มาร้องเพลงนี้ด้วยกันสักหนึ่งครั้ง หรืออาจจะสองครั้งก็ได้, มาลองร้องไปพร้อมๆ กันนะ

Some sweet day no one knows she’ll return and you’ll be happy.
ใครจะไปรู้ว่า อาจจะมีวันที่แสนหวานเกิดขึ้น เมื่อคุณนั้นหวนกลับมา แล้วคุณก็จะมีความสุข

Shout it sweet in a song, listen to your heart it is singin’
ร้องตะโกนกับเพลงอันแสนหวานนี้, ฟังซิ หัวใจของคุณมันก็กำลังร้องเพลง

Your heart goes shalala lala, shalala in the morning.
หัวใจคุณเต้นร้องออกไปว่า ชาลาลาลาลา ชาลาลา ในตอนเช้า

Oh oh oh shalala lala, shalala in the sunshine.
โอ้..โอ้..โอ้..ชาลาลา ลาลา, ชาลาลา ในตอนกลางวัน

Shalala lala, shalala lala in the evening.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา ในตอนเย็น

Shalala lala shalala lala just for you.
ชาลาลา ลาลา,  ชาลาลา ลาลา เพื่อคุณเท่านั้น
——————————————–



Youtube/Upload by Dionne Warwick
 

3.Song : That’s What Friend Are For (นั้นคือความหมายของคำว่าเพื่อน)

– Artist : Dionne Warwick, Elton John, Gladys Knight, and Stevie Wonder. (รวมศิลปิน 4 นักร้องชื่อดัง)
– To released on Year : 1982 (ปี พ.ศ.2525)
เพลงสากลอันโด่งดังในยุค 80 ที่ร้องกันทั่วโลก เนื้อเพลง มีความหมาย เข้าใจง่าย เพลงแบบสบายๆ
แปลเพลง That’s What Friends Are For

And I never thought I’d feel this way
และฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉันนั้นจะรู้สึกในแบบนี้


And as far as I’m concerned
และเท่าที่ที่ฉันนั้นกังวล


I’m glad I got the chance to say
ฉันยินดีที่ตัวฉันเองก็มีโอกาสที่ได้พูดออกไปด้วย

That I do believe I love you
โดยฉันเชื่อเหลือเกินว่าฉันรักคุณ

And if I should ever go away
และหากฉันควรที่จะเดินจากไป

Well then, close your eyes and try
จากนั้น คุณพยามปิดตาของคุณลง

To feel the way we do today
เพื่อที่จะรู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันในวันนี้

And then if you can remember
และเพื่อให้คุณนั้นจดจำมันได้

Keep smilin’, keep shinin’
จงยิ้มต่อไป และเปล่งใสให้สดใสต่อไป

Knowin’ you can always count on me for sure
ฉันรู้นะว่า คุณนั้นเชื่อใจฉันได้เสมอ

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

For good times and bad times
ที่จะอยู่ทั้งในช่วงเวลาที่ดี และช่วงเวลาที่เลวร้าย

I’ll be on your side forevermore
ฉันจะอยู่ข้าง ๆ คุณไปตลอด

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

Well, you came and opened me
แล้วเมื่อคุณเข้ามา ก็เปิดโอกาสให้ฉัน

And now there’s so much more I see
และตอนนี้มีสิ่งมากมายที่ฉันนั้นได้พบเจอ

And so, by the way, I thank you
ยังไงก็ตามฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณ

Oh, and then, for the times when we’re apart
ในหลาย ๆ ครั้งที่เรานั้นไม่ได้อยู่ด้วยกัน

Well then, close your eyes and know
แต่ปิดตาของคุณลง และรับรู้

These words are comin’ from my heart
ถึงคำพูดเหล่านี้ที่ออกมาจากหัวใจของฉัน

And then if you can remember, oh
แล้วหากคุณนั้นจดจำมันได้

Keep smiling, keep shining
จงยิ้มต่อไป และเปล่งแสงให้สดใสต่อไป

Knowing you can always count on me for sure
ฉันรู้ว่าคุณนั้นเชื่อใจฉันได้เสมอ

That’s what friends are for
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

In good times, in bad times
ที่จะอยู่ทั้งในช่วงเวลาที่ดี และช่วงเวลาที่เลวร้าย

I’ll be on your side forevermore
ฉันจะอยู่ข้าง ๆ คุณไปตลอด

Oh, that’s what friends are for, oh
นั่นคือความหมายของมิตรภาพ

Ha ha, that’s what friends are for)
(นั่นและคือความหมายของคำว่าเพื่อน)

On me for sure
เชื่อใจฉันได้แน่นอน

Count on me for sure
ไว้ใจฉันได้เสมอ

Count on me for sure
และก็พึ่งพาฉันได้แน่นอน

That’s what friends are for
นั่นแหละคือความหมายของ “คำว่าเพื่อน”

Keep smilin’, keep shinin’
จงยิ้ม และเฉิดฉายให้สดใสแบบนี้ต่อไปนะ

——————————————————————————–
4.Have you ever seen the rain

Youtube/ Upload by Juando Aguilar


4.Song : Have you ever seen the rain (คุณเคยเห็นสายฝนหรือเปล่า)



– Artist : Creedence Clearwater Revival (กลุ่มนักร้อง วงครีเดนซ์เคลียร์วอเทอร์รีไววัล)



– To released on Year: 1970 (ปี พ.ศ.2513)



อีกหนึ่งเพลงชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงสุดปัง และรู้กันมาตลอดกาลถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงออกแนวสไตล์ร็อคคันทรี ฟังสบายๆ เข้าใจง่าย ร้องตามได้ทุกคน

เนื้อเพลง(lyrics)

Someone told me long ago, there’s a calm before the storm.
มีผู้บอกฉันนานแล้วว่า ท้องฟ้าจะเงียบสงบก่อนที่จะมีพายุ

I know, and it’s been comin’ for some time.
ฉันรู้แล้ว, และเคยเห็นมันปรากฎเองแล้วด้วยบางครั้ง

When it’s over, so they say, it’ll rain a sunny day.
เมื่อมันผ่านไป,เขาก็กล่าวกันว่า ฝนจะตกในวันแดดจ้า

I know, shinin’ down like water.
ฉันรู้แล้ว,แสงส่องสว่างลงมาเหมือนกับสายฝน

I want to know, have you ever seen the rain?
ฉันอยากรู้,ว่าเธอเคยเห็นฝนหรือเปล่า

I want to know, have you ever seen the rain
ฉันอยากรู้,ว่าเธอเคยเห็นฝนหรือเปล่า

comin’ down on a sunny day?
ตอนที่ฝนตกตอนแดดออก

Yesterday, and days before, sun is cold and rain is hard.
เมื่อวาน,และเมื่อวันก่อน,แสงอาทิตย์นั้นมืดลง และฝนก็ตกหนัก

I know, been that way for all my time.
ฉันรู้ ว่ามันเป็นเช่นนั้นเหมือนที่เคยเป็นตลอดมา

‘Til forever on it goes through the circle fast and slow,
มันจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดไป ผ่านวัฏจักรไปเรื่อยๆ ช้าบ้าง เร็วบ้าง ตามโอกาส

I know, and it can’t stop, I wonder.
ฉันรู้ และฉันก็แค่สงสัยว่ามันคงจะเป็นไปเรื่อย ๆไม่มีวันจบสิ้นแน่นอน

I want to know, have you ever seen the rain?
ฉันอยากรู้,ว่าคุณเคยเห็นฝนหรือเปล่า

I want to know, have you ever seen the rain
ฉันอยากรู้,ว่าคุณเคยเห็นฝนหรือเปล่า

comin’ down on a sunny day?
ตอนที่ตกตอนแดดออก

———————————————————–

5.I just call to say I love you 

Youtube/ Upload by no 


5.Song : I just call to say I love you (ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันรักคุณนะ)



– Artist : Stevie Wonder (ศิลปิน สตีฟ วันเดอร์)



– To released on Year:1984 (ปี พ.ศ.2527)




หนึ่งในศิลปินนักร้องผู้พิการทางสายซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในยุค 80 โดยเฉพาะเพลง I just call to say I love you เป็นเพลงไพเราะ ฟังเข้าใจง่าย และร้องตามได้ทุกคน

แปลความหมายของเพลง I just call to say I love you 


No New Year’s Day to celebrate
ไม่ใช่วันปีใหม่ ที่จะต้องมาเฉลิมฉลอง

No chocolate covered candy hearts to give away
ไม่มีลูกอมหัวใจเคลือบช็อคโกแลตที่มอบให้

No first of Spring, no song to sing
ไม่ใช่วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ และไม่มีเพลงใด ๆ ที่จะร้อง

In fact here’s just another ordinary day
ในความเป็นจริง ตอนนี้ก็แค่เป็นวันหนึ่งที่แสนจะธรรมดา

No April rain, no flowers bloom
ไม่ใช่สายฝนในเดือนเมษายน ไม่ใช่ช่วงเวลาของดอกไม้ที่เบ่งบาน

No wedding Saturday, within the month of June
ไม่มีงานแต่งงานในวันเสาร์ในเดือนมิถุนายน

But what it is, is something true
แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เป็นความจริง

Made up of these three words that I must say to you
เป็นสิ่งที่สร้างมาจากคำสามคำ ที่ฉันนั้นต้องพูดกับคุณให้ได้

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่าฉันนั้นรักคุณ

I just called to say how much I care
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณนะ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

No summer’s high
ไม่ใช่ช่วงมึนเมาในฤดร้อน

No warm July
ไม่ใช่เดือนกรกฎาคมที่แสนอบอุ่น

No harvest moon to light one tender August night
ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวงในฤดูเก็บเกี่ยว ที่ฉายแสงครั้งหนึ่งในค่ำคืนเดือนสิงหาคม

No autumn breeze
ไม่มีสายลมของฤดูใบไม้ร่วง

No falling leaves
ไม่ใช่ปลิดปลิวของใบไม้ที่ร่วงหล่นมา

Not even time for birds to fly to southern skies
และก็ไม่ใช่ แม้แต่จะเป็นเวลาที่เหล่านกนั้นบินถลาออกไปยังฟากฟ้าทางทิศใต้

No Libra sun
ไม่ใช่ช่วงของตุลา

No Halloween
ไม่ใช่วันฮาโลวีน

No giving thanks to all the Christmas joy you bring
ไม่ใช่การมอบคำขอบคุณกับช่วงแห่งความสุขของคริสต์มาสทั้งหมดที่คุณมอบให้

But what it is, though old so new
แต่ สิ่งนี้นั้นเป็น สิ่งที่ผ่านมาจากอดีตและยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน

To fill your heart like no three words could ever do
ที่จะเติมเต็มหัวใจของคุณ ดั่งเช่นคำสามคำนั้น

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมาบอกว่า ฉันนั้นรักคุณนะ

I just called to say how much I care
ฉันก็โทรมา เพียงเพื่อบอกว่าฉันนั้นเป็นห่วงมากมายเพียงใด

I just called to say I love you
ฉันก็แค่โทรมา เพื่อพูดออกไปว่า ฉันรักคุณนะ

And I mean it from the bottom of my heart
และนั่นคือความตั้งใจของฉัน จากเบื้องลึกสุดหัวใจ

Of my heart
จากหัวใจของฉันจริงๆ

Of my heart
จากหัวใจส่วนลึกของฉันจริงๆ
————————————————————————-

6.Top of The world


Youtube/ Upload by Billy Rees


6.Song : Top of The world (เหนือสิ่งอื่นใดในโลกนี้)

– Artist : Carpenters (ศิลปิน นักร้อง วงคาเพนเทอร์ )
– To released on Year : 1972 (ปี พ.ศ.2515)

เพลงภาษาอังกฤษสุดไพเราะอีกหนึ่งเพลงในยุค 70 ที่ยังครองใจ และร้องคลอตามกันได้มาถึงปัจจุบัน เนื้อหาเพลงมีความหมายที่ดี ฟังแบบสบายๆ เพื่อย้อนวันวาน

แปลความหมายของเพลง Top of The world (อยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้)

Such a feelin’s coming over me
มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นจากใจของฉัน

There is wonder in most ev’ry thing I see,
ทุกสิ่งที่ฉันเห็นล้วนเป็นความมหัศจรรย์ที่สุด

Not a cloud in the sky got the sun in my eyes,
ในห้วงฟ้าที่ไร้ซึ่งเมฆหมอก มีเพียงแค่ดวงตะวันในดวงตาของฉัน

And I won’t be surprised if it’s a dream.
หากบอกว่านี่เป็นความฝัน ฉันก็จะไม่แปลกใจเลย

Ev’rything I want the world to be,
ทุกสิ่งที่ฉันอยากให้โลกใบนี้เป็นไป

Is now coming true especially for me,
หรือมันกำลังจะเป็นจริงสำหรับฉันแล้วในตอนนี้

And the reason is clear -It’s because you are here,
แล้วเหตุผลก็เด่นแล้วชัดว่า เป็นเพราะคุณอยู่ที่นี่ด้วยนั้นเอง 

You’re the nearest thing to heaven that I’ve seen
คุณนั้นเป็นเหมือนแดนสวรรค์มากที่สุด เท่าที่ฉันเคยได้เจอมา

I’m on the top of the world lookin’
ตอนนี้ฉันอยู่บนเหนือสิ่งอื่นใดของโลกใบนี้ และกำลังมองลงมา

down on creation and the only explanation I can find
สิ่งเดียวที่ฉันพอจะอธิบายได้ 

Is the love that I’ve found, ever since you’ve been around
นั่นก็เพราะว่าฉันได้พบกับความรักแล้วล่ะ และนับตั้งแต่เธอได้เข้ามาในชีวิตฉัน

Your love’s put me at the top of the world
รักของเธอทำให้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้


Something in the wind has learned my name,
มีบางสิ่งในสายลมที่พัดผ่าน ก็จักรู้ชื่อฉันแล้ว


and it’s tellin’ me that things are not the same,
และบอกกับฉันว่าสิ่งเหล่านั้นว่า มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

In the leaves on the trees and the touch of the breeze,
จะเป็นใบไม้ที่อยู่ต้นไม้ทั้งหลาย เพื่อสัมผัสรับอากาศที่ดีเลิศ

there’s a pleasin’ sense of happiness for me.
สำหรับฉันแล้ว นั้นถือเป็นสัมผัสแห่งความสุขยิ่งนัก

There is only one wish on my mind,
ในใจฉันนี้มีความปรารถนาเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

When this day is through I hope that I will find,
คือเมื่อผ่านวันนี้ไป ฉันหวังเพียงได้พบว่า

That tomorrow will be just the same for you and me,
พรุ่งนี้จะมีเธอและฉันอยู่ด้วยกันอีก

All I need will be mine if you are here.
ขอเพียงมีเธออยู่ที่นี่ นั่นคือทุกสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว

I’m on the top of the world lookin’
ตอนนี้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ และก็กำลังมองลงมา 

down on creation and the only explanation I can find
สิ่งเดียวที่ฉันพอจะอธิบายได้ นั่นก็คือฉันได้พบกับความรักแล้ว

Is the love that I’ve found, ever since you’ve been around
นับตั้งแต่เธอได้เข้ามาในชีวิตฉัน

Your love’s put me at the top of the world
รักของเธอทำให้ฉันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดของโลกใบนี้

เนื้อเพลงดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม

และสำหรับบทเพลงภาษาอังกฤษสากลในยุค 70-80’s ที่ได้นำเสนอและนำมาให้ฟังพร้อมเนื้อเพลงและคำแปลไว้ในบทความบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์ สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ หรือน้องๆนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังมองหาเพลงอังกฤษความหมายดีๆ ฟังเข้าใจและร้องตามได้ง่ายๆกันอยู่ไม่น้อยนะคะ หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป…..จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

———————————————————————————————
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้

ท่องโลกกว้าง แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองเชสกี้ กรุมลอฟ

ชมเมืองเก่ามรดกโลก มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองระนอง

ลองไปแช่น้ำแร่ เช่ารถนั่งแลชมทะเลสวยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตามไปกันเลยจ้า

เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้

มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย

แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ

มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย

เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม

เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้

แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัท

ด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย


โทรผิดหรือว่าคิดฮอด เอ๋ พจนา [Official MV]


เพลง : โทรผิดหรือว่าคิดฮอด
ศิลปิน : เอ๋ พจนา อาร์ สยาม
อัลบั้ม : อีสานตลาดแตก
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของศิลปิน อาร์ สยาม ได้ที่ http://www.rsiamonline.com
โหลดเพลงนี้ได้แล้วที่ 223 662
\”เอ๋ พจนา อาร์ สยาม\” เป็นขุนพลเพลงอีสานอีกคนหนึ่งที่แฟนเพลงให้การต้อนรับ ยังคงความเป็นนักร้องลูกทุ่งอีสานเสียงมหาเสน่ห์ อยู่ในใจแฟนเพลงอย่างต่อเนื่อง เอ๋ พจนา ถือว่า เป็นนักร้องยอดนิยมระดับต้น ๆของอีสาน เคยทำยอดจำหน่าย อัลบั้ม ยุคเทปคาสเซ็ท ในยุคก่อนยอดขายเกินล้านมาแล้ว กับสองบทเพลงใหม่ล่าสุดในอัลบั้มนี้ ที่จะสร้างความประทับใจให้แฟนเพลงอีกครั้ง กับเพลง \”โทรผิดหรือว่าคิดฮอด\” เพลงช้าหวานซึ้งของหนุ่มที่มีความหลังฝังใจกับเธอคนนี้ ห่างหายทิ้งกันไปมีคนใหม่ จู่ๆเธอก็โทรเข้ามาหา นี่เธอโทรมาเพราะยังมีเยื่อใยคิดถึงกัน หรือเพราะเธอโทรผิดเบอร์กันแน่ อย่าให้ความหวังลมๆแล้งๆ ช่วยบอกให้หายข้องใจทีว่า โทรผิดหรือว่าคิดฮอด
เอ๋พจนาอาร์สยาม อาร์สยาม

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

โทรผิดหรือว่าคิดฮอด เอ๋ พจนา [Official MV]

โทรมาว่ารัก, Someone, มากมาย : บี้ สุกฤษฎิ์ | THE STAR 12 ประกาศผล Week 5 | ช่อง one 31


รับชมช่อง one ที่หมายเลข 31
ดูฟรี คมชัด ทั่วประเทศ
ชม Online ได้ทาง : http://www.onehd.net/live
ดูย้อนหลังที่แรกทาง : http://www.onehd.net/replay
ติดตามข่าวสารจากช่อง one
Fan Page : https://www.facebook.com/gmmonetv
Instagram : https://instagram.com/onehdthailand
Twitter : https://twitter.com/onehdthailand

โทรมาว่ารัก, Someone, มากมาย : บี้ สุกฤษฎิ์ | THE STAR 12 ประกาศผล Week 5 | ช่อง one 31

The Parkinson – จะบอกเธอว่ารัก (Tell Her That I love) | (OFFICIAL LYRIC)


Digital Download โทร 491544 55
iTunes : http://apple.co/1PlYf6j
LINE MUSIC : https://lin.ee/b9U4Mq2
KKBOX : http://goo.gl/vYlD0G
Deezer : http://goo.gl/TwT1ex
Artist : The Parkinson
Single : จะบอกเธอว่ารัก (Tell Her That I love)
Label : Spicy Disc (สไปร์ซซี่ ดิสก์)
Credit
Producer : (Karn) Nipat Kamjornpreecha
Vocal / Guitar : (Karn) Nipat Kamjornpreecha
Bass : (Toe) Natthawit Odaki
Drum : (Beer) Arithat Kueajitkulanun
Lyric \u0026 Music : (Karn) Nipat Kamjornpreecha
Arrange : The Parkinson
Recording : The Parkinson Studio , Music In Park Studio
Mixed And Mastered : Woody Pornpitaksuk @ Westside Mastering
ทุกอย่างมีจังหวะและเวลา คำว่ารักก็เช่นเดียวกัน ยิ่งนานยิ่งรู้สึก ยิ่งนานยิ่งมีความหมาย เมื่อถึงวันหนึ่งเราได้กล้าบอกรักใครสักคนในช่วงที่รักนั้นมีความหมายมากเกินกว่าจะเก็บไว้คนเดียว เพลงนี้จะเป็นสื่อกลาง เปิดโอกาสให้ทุกคนกล้าบอกรัก ไปพร้อมๆกับพวกเขา ‘The Parkinson’ ครั้งนี้ขอนำเสนอเพลงรักที่ทำให้ทุกคนต้องอยู่ในอาการรักแบบเก็บเอาไว้จนล้นใจ จนมันถึงเวลาที่ต้องบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ โดยซิงเกิลนี้จะมีกลิ่นไอความเป็น Blueeyed Soul ซึ่งพวกเขาสามารถเติมเต็มความเป็น Soul อย่างเต็มรูปแบบได้ด้วยเครื่องดนตรี 3 ชิ้น คือ กีต้าร์ เบส กลอง บวกกับน้ำเสียงทรงเสน่ห์แฝงความอบอุ่น ทำให้ซิงเกิลนี้ยิ่งมีความกลมกล่อม และโรแมนติคมากขึ้นไปอีก รับรองได้ว่าใครที่ฟังแล้วจะต้องหลงรักเสน่ห์ดนตรีในรูปแบบของพวกเขาอย่างแน่นอน
เมื่อคำว่ารักนั้นมีพลังมากพอที่จะทำให้ใครอีกคนรู้สึกได้ว่า ‘มีคนรักเขาแค่ไหน’ ให้ส่งคำนั้นออกไป….. จะบอกเธอว่า……\”รัก\”
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
https://fb.com/theparkinson
https://fb.com/Spicydiscrecord
IG : SPICYDISC
IG : THEPARKINSON
IG : KARN_THEPARKINSON
IG : ODAKI_THEPARKINSON
IG : KIDDISCO
จะบอกเธอว่ารัก
TheParkinson
SPICYDISC

The Parkinson - จะบอกเธอว่ารัก (Tell Her That I love) | (OFFICIAL LYRIC)

ใครจะดีเหมือนแฟนเก่าเธอ – คิม คฑายุทธ Ft .โอม วงทัพห้า 「Official MV」


ใครจะดีเหมือนแฟนเก่าเธอ
นักร้อง : คิม คฑายุทธ Ft. โอม วงทัพห้า
คำร้อง/ทำนอง : โชเล่ย์ ชคัทพล ไปตะน้อง
เรียบเรียง : เสก ผานชื่น
สังกัด : LerMusic
ถ่ายทำ/ตัดต่อ : LerMusic \u0026 Production
โทร 0937380249 (คิม คฑายุทธ)
ติดต่องานแสดง : 0937380249
ก็ใครมันจะไปดีเหมือนแฟนเก่าเธอ
ใครมันจะไปดีเหมือนคนที่ทิ้งเธอ
ตอนเธอเสียใจ ฉันคนนี้ไม่ใช่เหรอ
ที่มันทำให้เธอกลับมายิ้มได้
วันนั้นเธอมีน้ำตา เธอโดนเขาทิ้งมา
แค่เพียงได้มองตาก็รู้ว่าเธอไม่เหลือใคร
เป็นฉันที่คอยดูแล ที่คอยรักษาแผลใจ
ทำให้เธอยิ้มได้ อีกครั้ง
แต่เหมือนเธอ ไม่เคยจะลืมเขาไปได้เลย
บอกว่าเขาดีอย่างนั้น ตอนคบกันดีอย่างนี้
มันพอกันที
ก็ใครมันจะไปดีเหมือนแฟนเก่าเธอ
ใครมันจะไปดีเหมือนคนที่ทิ้งเธอ
ตอนเธอเสียใจ ฉันคนนี้ไม่ใช่เหรอ
ที่มันทำให้เธอกลับมายิ้มได้
ใครมันจะไปดีเหมือนคนๆ นั้น
คนที่ทำให้เธอร้องไห้อยู่ทุกวัน
ไอ้คนอย่างฉันดีไปก็เท่านั้น
เมื่อทั้งหัวใจเธอนั้น ไม่เคยลืมเขา
คนทำดีไม่ได้ดี เธอไม่ลืมเขาสักที
ยังจะชมเขาแสนดี มันตลกสิ้นดี
ตอนที่เธอเจ็บช้ำใครกันที่คอยรักษา
พอตอนที่เธอหายฉันก็กลายเป็นหมา
แต่เหมือนเธอ ไม่เคยจะลืมเขาไปได้เลย
บอกว่าเขาดีอย่างนั้น ตอนคบกันดีอย่างนี้
มันพอกันที
ก็ใครมันจะไปดีเหมือนแฟนเก่าเธอ
ใครมันจะไปดีเหมือนคนที่ทิ้งเธอ
ตอนเธอเสียใจ ฉันคนนี้ไม่ใช่เหรอ
ที่มันทำให้เธอกลับมายิ้มได้
ใครมันจะไปดีเหมือนคนๆ นั้น
คนที่ทำให้เธอร้องไห้อยู่ทุกวัน
ไอ้คนอย่างฉันดีไปก็เท่านั้น
เมื่อทั้งหัวใจเธอนั้น
ก็ใครมันจะไปดีเหมือนแฟนเก่าเธอ
ใครมันจะไปดีเหมือนคนที่ทิ้งเธอ
ตอนเธอเสียใจ ฉันคนนี้ไม่ใช่เหรอ
ที่มันทำให้เธอกลับมายิ้มได้
ใครมันจะไปดีเหมือนคนๆ นั้น
คนที่ทำให้เธอร้องไห้อยู่ทุกวัน
ไอ้คนอย่างฉันดีไปก็เท่านั้น
เมื่อทั้งหัวใจเธอนั้น ไม่เคยลืมเขา
เมื่อทั้งหัวใจเธอนั้น ไม่เคยลืมเขา

ใครจะดีเหมือนแฟนเก่าเธอ -  คิม คฑายุทธ Ft .โอม วงทัพห้า 「Official MV」

อยากให้รู้ว่ารักเธอ Cover | พิม ฐิติยากร


เพลง : อยากให้รู้ว่ารักเธอ
ศิลปิน : Joni Anwar
Cover : พิม ฐิติยากร
ด้วยเหตุใดก็ตาม เธอไม่เคยรับรู้
ได้เจอสักเท่าไหร่ แต่เหมือนไกล ไกลห่างกัน
ได้แค่มองหน้าเธอ ทำได้เพียงแค่นั้น
หัวใจที่แอบฝัน อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว
หากเธอรู้ใจ หากเธอรู้ตัว เธอจะเข้าใจกันรึเปล่า
ก็ไม่รู้เลย แต่ต้องพูดไป และจะมาเพื่อกวนใจคำถามเดียว
แค่อยากรู้รังเกียจกันไหม ขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นเลย
อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากจะเจอคนเดิมที่เคยที่เจอในเมื่อวาน
หากพรุ่งนี้ทุกอย่างหมุนไป ฉันคนหนึ่งจะยืนตรงที่เก่า
อยู่เพื่อบอกเธอ คำที่ค้างใจ ต่อให้มัน
จะไม่มีวันเป็นจริงเลยก็ตาม อยากให้รู้ว่ารักเธอ
อยากให้หันมาหน่อย อยากให้มองหน้ากัน
ถ้าเธอไม่หวั่นไหวกับสายตาคนอย่างฉัน
ไม่บังคับใจเธอ หากเจอคนที่ฝัน หวังเพียงใครคนนั้น
จะใกล้เคียงคนอย่างฉัน
หากเธอรู้ใจ หากเธอรู้ตัว เธอจะเข้าใจกันรึเปล่า
ก็ไม่รู้เลย แต่ต้องพูดไป และจะมาเพื่อกวนใจคำถามเดียว
แค่อยากรู้รังเกียจกันไหม ขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นเลย
อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากจะเจอคนเดิมที่เคยที่เจอในเมื่อวาน

Vocal : พิม ฐิติยากร
Guitar : Foo

บันทึกเสียง มิกซ์ ถ่ายทำ : S1 Production
สถานที่ S1 Studio
pimthitiii อยากให้รู้ว่ารักเธอ โตมากับอาร์เอส

YouTube | https://bit.ly/2GQ3G5x
Facebook | http://bit.ly/2KuSH2F
Instagram | http://bit.ly/2tEsxRv

อยากให้รู้ว่ารักเธอ Cover | พิม ฐิติยากร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *