เบาๆ ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้
308
SHARES
รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษ คําอ่าน คําแปล ที่ใช้บ่อย 350 คำที่ใช้บ่อยๆ บางคนอาจคิดว่า เอ๋ บางคำทำไมมันดูเหมือนจะไม่ใช่ ตรงนี้ก็ขอบอกว่าคำที่นำมานี้อ้างอิงจากคลังคำศัพท์ของฝรั่งนะครับ เขาว่าบ่อยก็บ่อยตามเขาล่ะกัน
จะว่าเป็นคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานก็ได้ครับ เพราะเป็นการรวบรวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ศึกษากัน นักเรียนก็เอาไปท่องจำให้ได้เลยเชียว ถ้าขยันหน่อยไม่กี่วันก็คงจำได้หมดแล้ว
สำหรับคนที่อ่านไม่ออกก็มีตัวช่วยอยู่นะครับ ซึ่งได้จัดพิมพ์คำอ่านและคำแปลให้แล้วเรียบร้อย สามารถนำไปใช้ได้ทั้งวัยเรียน และวัยทำงาน หรือจะเอาไปเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับน้องๆ ม.1 ก็ยังได้เลย บางคนอาจจะว่าง่าย แต่อย่าลืมว่า มีเด็กๆบางคนบอกว่ามันก็ยังยากอยู่ดีครับคุณครู
Table of Contents
คําศัพท์อังกฤษพื้นฐานที่ใช้บ่อยสุด 350 คำ
มาศึกษาคําศัพท์ ภาษาอังกฤษไปพร้อมๆกันเลยครับ คำที่พิมพ์ดำคือคำที่ต้องเน้นเสียงครับ (stress)
a อะ หนึ่ง
about อะเบ๊า ประมาณ, เกี่ยวกับ
above อะบั๊ฝ บน
act แอ๊ค แสดง
add แอด บวก
after อ๊าฟเทอะ หลังจาก
again อะเก๊น อีกครั้ง
against อะเก๊นสท ต้าน, พิง
air แอ อากาศ
all ออล ทั้งหมด
also ออลโซ ด้วย, เช่นกัน
always อ๊อลเวส เสมอ
and แอนด และ
another อะนั๊ธเธอ อีกหนึ่ง
answer แอ๊นเซอะ ตอบ, คำตอบ
any เอ๊นนิ ใดๆ, เลย
area แอ๊เรีย พื้นที่
as แอส เท่ากัน, ราวกับ
ask อาสค ถาม
at แอ๊ท ที่, เวลา
back แบ๊ค หลัง, กลับ
base เบส ฐาน
be บี เป็น อยู่ คือ
because บิค๊อส เพราะว่า
before บิฟ๊อ ก่อน
begin บิกิ๊น เริ่ม
best เบสท ดีที่สุด
better เบ็ทเทอะ ดีกว่า
between บิทวีน ระหว่าง
big บิ๊ก ใหญ่
bird เบิด นก
black แบลค สีดำ
body บ๊อดิ ร่างกาย
book บุ๊ค หนังสือ
both โบธ ทั้งคู่
boy บอย เด็กชาย
build บิลด สร้าง
but บัท แต่
by บาย โดย
call คอล เรียก, โทร
can แคน สามารถ, กระป๋อง
car คา รถยนต์
care แค สนใจ
carry แค๊ริ ถือ, ลำเลียง
cause คอส สาเหตุ
center เซ๊นเทอะ ศูนย์กลาง
change เชนจ เปลี่ยน
city ซิ๊ททิ เมือง
class คลาส ห้องเรียน
close โคลส ปิด
cold โคลด หนาว
color คั๊ลเลอะ สี
come คัม มา
complete คัมพลีท สมบูรณ์
country คั๊นทริ ประเทศ
cover คั๊ฝเฝอะ ปก, ปกคลุม
cross ครอส ข้าม
cut คัท ตัด
day เด วัน
differ ดิ๊ฟเฟอะ แตกต่าง
direct ไดเร๊คท ควบคุม
do ดู ทำ
dog ดอก หมา
down ดาวน ลง
draw ดรอ วาด
during ดิ๊วริง ช่วงระหว่าง
each อีช แต่ละ
early เอ๊อลิ แต่เช้า
earth เอิธ โลก
eat อีท กิน
end เอนด จบ
enough อินั๊ฟ เพียงพอ
even อี๊ฟวัน แม้, ซ้ำยัง
ever เอ๊ฝเฝอะ เคย
every เอ๊ฝริ ทุกๆ
example อิกซ๊ามพัล ตัวอย่าง
eye อาย ตา
face เฟส หน้า
family แฟ๊มลิ ครอบครัว
far ฟา ไกล
fast ฟาสท เร็ว
father ฟ๊าเธอะ พ่อ
feel ฟีล รู้สึก
few ฟิว สองสาม
find ไฟด ค้นพบ, ค้นหา
fire ไฟร ไฟ
first เฟิสท ที่หนึ่ง, แรก
fish ฟิช ปลา
follow ฟ๊อลโล ติดตาม
food ฟูด อาหาร
for ฟอ สำหรับ
form ฟอม รูปแบบ
friend เฟรนด เพื่อน
from ฟรอม จาก
get เก็ท ได้รับ, ไปถึง
girl เกิล เด็กหญิง
give กีฝ ให้
go โก ไป
good กูด ดี
govern กั๊ฝฝัน ปกครอง
great เกรท ยอดเยี่ยม
ground กราวด พื้น
group กรูพ กลุ่ม
grow โกร โต
half ฮาฟ ครึ่ง
hand แฮนด มือ
happen แฮ๊พพัน เกิดขึ้น
happy แฮ๊พพิ มีความสุข
hard ฮาด ยาก
have แฮฝ มี
he ฮี เขา
head เฮด หัว
hear เฮีย ได้ยิน
help เฮ็ลพ ช่วย
her เฮอ หล่อน
here เฮีย ที่นี่
high ไฮ สูง
him ฮิม เขา
his ฮิส ของเขา
hold โฮลด ถือ
home โฮม บ้าน
horse ฮอส ม้า
hot ฮ็อท ร้อน
hour เอาเวอะ ชั่วโมง
house เฮาส์ บ้าน
how ฮาว อย่างไร
I ไอ ฉัน
idea ไอเดี๊ย ความคิด
if อิฟ ถ้า
in อิน ใน
it อิท มัน
just จัสท เพิ่งจะ, เพียงแค่
keep คีพ เลี้ยง
kind ไคด ใจดี, ชนิด
king คิง ราชา
know โน รู้
land แลนด ดินแดน
large ลาจ กว้างใหญ่
last ลาสท สุดท้าย
late เลท สาย
lay เล วาง
learn เลิน เรียนรู้
leave ลีฝ ออกไป
left เล็ฟท ซ้าย
less เล็ส น้อยกว่า
let เล็ท ให้
letter เล็ทเทอะ จดหมาย
life ไลฟ ชีวิต
light ไลท์ ไฟ, เบา
like ไลค ชอบ
line ไลน เส้น
list ลิสท รายชื่อ
listen ลิ๊สซัน ฟัง
little ลิ๊ททัล เล็ก
live ลิฝ อาศัยอยู่
long ลอง ยาว, นาน
look ลุค มอง
love ลัฝ รัก, ความรัก
low โล ต่ำ
main เมน สำคัญ
make เมค ทำ
man แมน ผู้ชาย
many เม๊นนิ มาก
map แม็พ แผนที่
mark มาค เครื่องหมาย
may เม อาจจะ
me มี ฉัน
mean มีน หมายถึง
measure เม๊เชอะ วัด
might ไมท อาจจะ
mile ไมล ไมล์
money มั๊นนิ เงิน
more มอ มาก, มากกว่า
morning ม๊อนิง ตอนเช้า
most โมสท ส่วนมาก
mother มัธเธอะ แม่
mountain เม๊าทัน ภูเขา
move มูฝ เคลื่อน, ย้าย
much มัช มาก
music มิ๊วสิค ดนตรี
must มัสท ต้อง
my มาย ของฉัน
name เนม ชื่อ
near เนีย ใกล้
need นีด ต้องการ
never เน๊ฝเฝอะ ไม่เคย
new นิว ใหม่
next เน็กซ ถัดไป
night ไนท กลางคืน
no โน ไม่
not น็อท ไม่
notice โน๊ทิส สังเกต
now นาว ตอนนี้
number นั๊มเบอร์ หมายเลข
of ออฟ ของ, ด้วย
off ออฟ จาก, ไกล
often อ๊อฟัน บ่อยๆ
old โอลด เก่า, แก่
on ออน บน
once วันซ หนึ่งครั้ง
only โอ๊นลิ เท่านั้น
open โอ๊พัน เปิด
or ออ หรือ
order อ๊อเดอะ สั่ง
other อั๊ธเธอะ อื่น
our เอ๊าเวอะ ของพวกเรา
out เอ้า นอก
over โอ๊เฝอะ บน
own โอน เป็นเจ้าของ
page เพจ หน้า
paper เพ๊เพอะ กระดาษ
part พาท ส่วน
pass พาส ผ่าน
pattern แพ๊ททัน รูบแบบ
people พี๊พัล คน
person เพ๊อซัน บุคคล
picture พิ๊คเชอะ ภาพ
piece พีซ ชิ้น
place เพลส สถานที่
plant แพลนท พืช
play เพล เล่น
point พอยท ชี้, จุด, คะแนน
port พอท ท่าเรือ
press เพรส กด
problem พร๊อบลัม ปัญหา
product พร๊อดัค ผลผลิต
pull พุล ดึง
put พุท วาง
question คเว๊สชัน คำถาม
rain เรน ฝนตก
reach รีช มาถึง
read รีด อ่าน
ready เร๊ดดิ พร้อม
real รีล จริง
red เรด สีแดง
remember รีเม๊มเบอะ จำได้
right ไรท ขวา, ถูกต้อง
river ริ๊เวอะ แม่น้ำ
road โรด ถนน
rock ร๊อค หิน
room รูม ห้อง
round เราด กลม
rule รูล กฎ
run รัน วิ่ง
same เซม เหมือนกัน
say เซ พูด
school สกูล โรงเรียน
sea ซี ทะเล
second เซ๊คัน ที่สอง
see ซี เห็น
seem ซีม ดูเหมือน
self เซลฟ เอง
sentence เซ๊นเทนส ประโยค
serve เซิฟ บริการ
set เซ็ท จัด
several เซ็ฝรัล มากมาย
she ชี หล่อน
ship ชิพ เรือใหญ่
short ชอร์ท สั้น
should ชูด ควรจะ
show โช แสดง
side ไซด ด้าน
simple ซิ๊มพัล ง่าย
sing ซิง ร้องเพลง
size ไซซ ขนาด
slow สโล ช้า
small สมอล เล็ก
so โซ ดังนั้น
some ซัม บาง(คน, อัน, ตัว)
song ซอง เพลง
soon ซูน เร็วๆนี้
sound เซาด เสียง
spell สเป็ล สะกด
stand สแตนด ยืน
start สตารท เริ่มต้น
state สเตท รัฐ
step สเต็ป ก้าว, ขั้นตอน
still สติล ยังคง, นิ่ง
story สต๊อริ เรื่องราว
study สตั๊ดดิ เรียน
such ซัช เช่นนั้น
sun ซัน พระอาทิตย์
sure ชัว มั่นใจ
table เท๊บัล โต๊ะ
take เทค เอา
talk ทอค สนทนา
tell เท็ล บอก
than แดน กว่า
that แด็ท นั่น, ว่า
the เดอะ –
their แด ของพวกเขา
them เด็ม พวกเขา
then เด็น ต่อมา
there แด ที่นั่น
these ดีส เหล่านี้
they เด พวกเขา
thing ธิง สิ่งของ
think ธิงค คิด
this ดิส นี่
those โดส เหล่าโน้น
though โด แม้ว่า
thought ธอท ความคิด
through ธรู ผ่าน
time ไทม เวลา
to ทู สู่, ที่จะ
together ทุเก๊เธอะ ด้วยกัน
too ทู เช่นกัน
top ท๊อพ บน, ยอด
toward ทุวัดส ไปยัง
travel แทรวัล เดินทาง
tree ทรี ต้นไม้
true ทรู จริง
try ทราย พยายาม
turn เทิน หมุน, เลี้ยว
under อั๊นเดอ ล่าง
understand อั๊นเดอสแตน เข้าใจ
until อันทิ๊ล กระทั่ง
up อัพ บน
us อัส พวกเรา
use ยูส ใช้
very เว๊ริ มาก
walk วอค เดิน
want ว๊อนท ต้องการ
war วอ สังคราม
watch ว็อทช มอง, ดู
water ว๊อเทอะ น้ำ
way เว ทาง, วิธี
we วี พวกเรา
well เว็ล ดี
what ว็อท อะไร, สิ่งที่
when เว็น เมื่อไหร่, เมื่อ
where แว ที่ไหน, ที่
which วิช อันไหน, ซึ่ง
while ไวล ขณะ
white ไวท ขาว
who ฮู ใคร, ผู้ที่
whole โฮล ทั้งหมด
why วาย ทำไม, สาเหต
will วิล จะ
wind วินด ลม
with วิธ กับ, ที่มี, ด้วย
without วิธเธ๊า ไม่มี
wood วูด ไม้
word เวิด คำ
work เวิค ทำงาน, งาน
world เวิลด โลก
write ไรท เขียน
year เยีย ปี
you ยู คุณ
young ยัง วัยรุ่น
เป็นไงบ้างครับ คํา ศัพท์ ภาษา อังกฤษ คํา อ่าน คํา แปล ง่ายๆที่นำมาฝากกัน อ้อ มีบางคนเขียนไม่ค่อยถูกกัน เขียนว่า “คําสับภาษาอังกฤษ” ไม่ถูกนะครับ อันนี้เป็นคำอ่านนะครับ
ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…
คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…
[Update] มาดู 10 คำด่าภาษาอังกฤษ ถึงไม่ได้ใช้ก็ควรรู้เอาไว้ | เบาๆ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES
ออกตัวก่อนเลยว่าหัวข้อที่เราจะนำเสนอในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เอาไปด่าฝรั่ง หรือพูดจาดูถูกใครๆเค้านะคะ แต่อย่างว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ได้ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องไวยากรณ์ถูกต้องแล้วจบ แต่เราต้องเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม และบริบททั่วไปด้วยเพื่อเข้าใจภาษาอังกฤษและใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่ง “คำด่าภาษาอังกฤษ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลายคนอาจจะถามว่า ทำไมคำด่าถึงมีส่วนช่วยในการเรียนและเข้าใจวัฒนธรรมของฝรั่งล่ะ?
ลองนึกถึงตอนเราดูหนังหรือซีรี่ย์ฝรั่งดูนะคะ ลองนึกตามว่าในหนังเรื่องนั้นตัวละครทุกตัวเค้าพูดจาไพเราะเพราะพริ้งกันตลอดเวลาเลยหรือเปล่า แล้วลองนึกถึงตัวเราเองว่าโดยปกติเราพูดใช้คำสุภาพตลอดเลยหรือเปล่าแม้แต่ตอนอยู่กับเพื่อน พอจะเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยคะ บางครั้งในการพูดปกติของคนเราก็ต้องมีการด่า การสบถบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเพิ่มอรรถรสในบทสนทนา
งั้นไม่ต้องรอช้า มาเริ่มจากคำเนื้อหาเบาๆใสๆ ไม่มีอะไรมาก แล้วค่อยเพิ่มระดับกันขึ้นไปเรื่อยๆกันดีกว่านะคะ
คำด่าภาษาอังกฤษ
Damn (แดม)
คำนี้ได้ยินบ่อยกันเลยใช่มั้ยคะ เอะอะก็ damn เอะอะก็ damn กันอยู่นั่นแหละ เจอหลายที่ด้วย ในพจนานุกรมจะบอกว่าคำนี้เทียบเท่าคำว่า “ให้ตายเถอะ” แต่ในหลายบริบทคำนี้ก็ให้ความหมายที่ต่างออกไป สรุปมันแปลว่าอะไรกันแน่นะ
1) คำสบถที่แสดงความเจ็บปวด ความเศร้า หรือความโกรธ
เช่น God dammit / damn / dammit (ประมาณว่า โอ้ย! โธ่เว้ย! ให้ตายสิ! อันนี้พอพูดแล้วจะเหมือนเจ้าของภาษาเพิ่มขึ้นอีกนิด)
2) แสดงความผิดหวัง หรือหัวเสียกับการกระทำของคนอื่น
เช่น A: Hey man, I lost your phone. ( แกชั้นทำมือถือแกหายอ่ะ)
B: Damn you! (โธ่ไอ้บ้าเอ๊ย! หรือ ให้ตายสิ)
3) ใช้แสดงความรู้สึกว่าบางสิ่งสุดยอด ตื่นตาตื่นใจ
เช่น A: Whoa, check out the sunrise! (ว้าว ดูพระอาทิตย์ขึ้นนั่นสิ)
B: Damn! (ถ้าเทียบกับภาษาไทยคงเหมือนคำว่า โอ้วจอร์ช มันยอดมากกก)
4) ใช้แสดงความผิดหวังหรือท้อใจ
เช่น A: I can’t find my key ( ฉันหากุญแจฉันไม่เจออ่ะแก)
B: Damn… (ความหมายในบริบทนี้จะประมาณว่า โธ่เอ้ย แล้วตามด้วยเสียงถอนหายใจพรืดอย่างหนักใจ เอาอีกแล้วแกทำหายอีกแล้ว!)
5) ใช้แสดงความรู้สึกว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่
เช่น A: Hey, what do you want for dinner? (นี่ เย็นนี้แกอยากกินอะไรอ่ะ)
B: I don’t give a damn. (ความหมายในที่นี้จะเหมือนคำว่า อะไรก็ได้ หามาเหอะ กินหมด)
6) ใช้เพื่อให้ความรู้สึกเชิงลบกับบางสิ่ง
เช่น That damn teacher gave us a ton of homework. (ไอ้ครูคนนั้นนี่สั่งการบ้านเยอะเกินไปแล้วนะ!)
Hell (เฮล)
ถ้าเปิดพจนานุกรมความหมายตรงตัวคำนี้คือ นรก แดนอเวจีที่ร้อนระอุ มีต้นงิ้ว มีคนทำผิดโดนลงโทษอยู่ แหม คำอะไรช่างเหมาะแก่การนำมาสาปแช่งซะเหลือเกิน ลองมาดูกันนะคะว่าคำนี้เค้าสามารถมีความหมายในเชิงไหนได้บ้าง
1) ใช้สื่อความหมายว่าเหตุการณ์บางอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
เช่น A: Hey man, do you think Yaya will go out with me?
(เฮ้ย แกว่าน้องญาญ่าเค้าจะยอมไปเที่ยวกับฉันป่ะวะ)
B: Yeah, when hell freezes over.
(แปลตรงตัวคือ น้องเค้าไปแน่ ตอนนรกจะกลายเป็นน้ำแข็งอะนะ หรือพูดง่ายๆคือ ฝันไปเหอะเอ็ง โอกาสเป็นศูนย์ถึงติดลบ)
2) ใช้แสดงความโกรธ
เช่น A: I want to break up with you. (ฉันเลิกกับเธอ)
B: Go to hell. (ค่ะ ตรงตัวเลยก็คือ ไปลงนรกซะ หรือไปตายซะนั่นเอง )
3) ใช้บอกว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ
เช่น A: I can’t find a condom. (ฉันหาถุงยางไม่เจอ)
B: To hell with it! (จากบริบทนี้ก็เหมือนกับคำว่า ช่างแ-่งเถอะน่า ในภาษาไทย เหตุการณ์คับขันแบบนี้ก็ช่างมันเหอะ)
4) ใช้ในการตอบคำถามพวก Yes/No question
เช่น A: Do you want to come to Yoga class on Sunday? (เธอๆ มาเรียนโยคะวันอาทิตย์ด้วยกันปะ)
B: Hell yeah! (จัดไป!) / Hell no! (ไม่อ๊าววว!)
Ass (แอสฺ)
ความหมายตรงตัวคือ ก้น พบเห็นบ่อยๆก็ asshole มักจะใช้อธิบายคนๆหนึ่งในทางไม่ดีเท่าไหร่ (แหงล่ะ)
1) ใช้ด่าคนว่าโง่
เช่น A: Did you see Johnny pick his nose on TV? (นายเห็นที่จอนนี่แคะขี้มูกตอนออกทีวีมั้ย)
B: Yeah, he made an ass out of himself. (เออสิ เขาทำให้ตัวเองให้ดูโง่ไปเลย)
2) ใช้บอกว่าคนๆหนึ่งมีนิสัยแย่ หรือเลวร้ายมาก
เช่น A: That dude just knocked my paper out of my hands and didn’t stop to help or even apologize. (ไอ้หมอนั่นชนฉันจนงานหล่นหมด และไม่ช่วยเก็บหรือขอโทษด้วยซ้ำ)
B: What an ass(hole). (ประมาณว่า ไอ้บ้านี่! / โคตรเลว! หรืออาจหยาบกว่านั้นอีกหนึ่งสเต็ป)
3) ใช้บอกจำนวนที่มาก หรือเยอะ มีค่าเท่ากับคำว่า โคตรเยอะ
เช่น There was an ass load of parent there last night. (เมื่อคืนมีผู้ปกครองมาที่นั่นโคตรเยอะ)
4) อีกวิธีในการชมว่าเจ๋ง
เช่น That movie was bad ass. (หนังเรื่องนั้นโคตรเจ๋งเลย)
5) ใช้ตอบโต้คนที่อยากได้บางสิ่งจากเราแต่เราไม่อยากให้
เช่น A: Hey you! Get back here. (เฮ้ยแก! กลับมานี่นะ)
B: Kiss my ass (ไม่ได้แปลว่าให้ “มาจูบก้นฉันสิ” นะคะ แต่เป็นลักษณะของการท้าทายมากกว่า อารมณ์เหมือน “ไม่เว้ย” หรือ “ไม่มีวันซะหรอก”)
6) ใช้เพื่อขยายคำวิเศษณ์ (Adjective) ต่างๆ ให้ดูรุนแรงหรือให้ความรู้สึกมากขึ้น
เช่น Dude, check out those hot ass bitches!” (เฮ้พวก ดูสาวๆสุดฮอตพวกนั้นสิ)
Damn, look at those ugly ass teeth! (ให้ตายเถอะ ดูฟันมันสิ โคตรน่าเกลียดเลย)
Get ready for this hard ass test! (เตรียมพร้อมทำข้อสอบบรมโคตรยากนี้ซะ)
Piss (พิซฺ)
เป็นคำหยาบของคำว่า ฉี่ (Pee / Urine)
1) ใช้แสดงความโกรธ
เช่น I’m pissed off! (ฉันโกรธแล้วนะเว้ยยย)
2) ใช้แทนคำว่าเมา (drunk) แต่นิยมใช้กันในอังกฤษ อเมริกาไม่ใช้คำนี้
เช่น He was pissed last night. (เมื่อคืนเขาโคตรเมาเลย)
3) ใช้สำหรับการขับไล่ไสส่งเมื่ออยากอยู่คนเดียวอย่างหยาบ
เช่น A: Hey, you want some help? (เฮ้ยแก มีอะไรให้ช่วยมั้ย)
B: Piss off. (ไปไกลๆเลยปะ หรืออย่างหยาบก็คือไสหัวไปเลย)
4) เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อบอกว่าฝนตกขนาดไหน
เช่น It’s pissing down rain. (ฝนตกหนักมาก)
Bitch (บิทชฺ)
คำนี้มักเป็นคำด่าที่ใช้กับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ อาจบอกว่าเทียบเท่าคำว่า อี แบบ อีนั่น อีนี่ ความหยาบระดับสูงพอสมควรเลยค่ะ
1) ไว้ด่า
เช่น A: These pants are too big, mosquitoes keep biting me. I don’t like this place. (กางเกงตัวนี้ใหญ่ไป ยุงก็คอยแต่จะกัดฉัน ฉันไม่ชอบที่นี่เลย)
B: Hey, stop your bitching (นี่ หยุดบ่นได้แล้วดีออก!)
2) อาจหมายถึงการบ่น
เช่น My wife just bitched me out over the phone. (เมียฉัยเพิ่งจะบ่นฉันผ่านโทรศัพท์เมื่อกี้นี้เอง)
3) ใช้บอกว่าเจ๋ง หรือ สนุก
เช่น Dude, the party was bitching last night! (งานปาร์ตี้เมื่อคืนโคตรมันส์เลย!)
4) เอาไว้ใช้ตอบกลับความเห็นโง่ๆ
เช่น A: Give me $20. (เอาเงินมาให้ฉัน 20 ดอลลาร์หน่อย)
B: Bitch please. (บริบทนี้ก็จะเป็นเชิงบอกว่า จะบ้าเหรอ ฝันไปเถอะแก)
5) หมายถึงที่นั่งตรงกลางของเบาะรถ
เช่น Hey Jim, you’ve got to ride bitch because you’re the smallest. (จิม แกต้องนั่งตรงกลางนะเพราะแกตัวเล็กสุด)
6) หมายถึงการตบด้วยหลังมือ
เช่น Did you see that? She just got bitch slapped! (แกเห็นมั้ย ยัยนั่นเพิ่งโดนตบด้วยหลังมือไปน่ะ)
Cock (ค็อก) / Dick (ดิ้กคฺ)
คำว่า cock มีอีกความหมายคือไก่ตัวผู้ แต่ที่แน่ๆส่วนใหญ่คนทั่วไปเค้าไม่ได้เข้าใจกันอย่างนั้นหรอกค่ะ เมื่อได้ยินสองคำนี้ ความหมายตรงๆคืออวัยวะเพศชายค่ะ คือถ้าโดนด่าคำนี้ก็คงไม่น่าอภิรมย์แน่ๆ แต่ที่เอามาใช้ก็มีในหลายบริบทเหมือนกัน
1) ใช้ในกรณีที่ผู้ชายถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธหรือตัดโอกาสในการที่จะไปเที่ยวด้วยกัน
เช่น A: Dude, that girl just grabbed her friend and took her away. (เฮ้ยเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะมาดึงมือเพื่อนเธอแล้วพาออกเอง)
B: What a cock block. (ในบริบทนี้จะหมายถึงว่า อดแอ้มแล้วล่ะแก)
2) ใช้อธิบายคนนิสัยเสีย หรือเห็นแก่ตัว
เช่น That dick took up two parking spots. (ไอ้บ้านั่นเอาที่จอดรถไปสองที่เลย ดูมันสิ อันนี้คือระดับความหยาบแบบน่ารัก ของจริงมันหยาบมากกว่านี้อีกนะคะ)
Moron (โมรอน)
คำนี้ถ้าแปลตรงตัวคือคนโง่หรือ stupid นั่นแหละ แต่เราจะเอาไว้ใช้ด่าพวกไม่รู้จักกาลเทศะ ชอบทำอะไรงี่เง่าในเวลาที่ไม่เหมาะสมก็ได้ค่ะ
เช่น A: Did you see that guy talking on the phone? This is a funeral for God’s sake! (เห็นไอ้หมอนั่นคุยโทรศัพท์เปล่า กลางงานศพนะเนี่ยให้ตายเถอะ)
B: Yeah…he’s a moron! (เออจริง โคตรงี่เง่าเลยว่ะ)
Shit (ชิทฺ)
ความหมายตรงตัวเลยก็คือ อุจจาระ หรือมูลเสียต่างๆ เป็นอีกหนึ่งคำที่ใช้กันบ่อยและมีความหมายที่หลากหลาย ประกอบกับคำหลายๆคำให้อารมณ์ได้ดี
1) อาจใช้อธิบายได้ทั้งแย่มาก และเยี่ยมมาก
เช่น That movie was shit. (หนังเรื่องนั้นโคตรห่วยเลย)
That movie was the shit (หนังเรื่องนั้นโคตรดี)
เพียงแค่เติม the ความหมายก็กลายเป็นคนละเรื่อง ชีวิตเปลี่ยนเลย
2) เป็นคำอุทานในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง หรือ ไม่อยากให้เกิดขึ้น
เช่น Holy shit! (เฮ้ยยย!)
3) หมายถึงการเมาหัวราน้ำ
เช่น A: You seemed pretty drunk last night… (แกดูเมามากเลยนะเมื่อคืนนี้)
B: Yeah, I was totally shit-faced. (ก็ใช่ เมื่อคืนฉันโคตรเมาเลย)
4) ใช้แทนคำว่า ไม่ ในแบบที่ค่อนข้างหยาบคาย
เช่น A: Excuse me sir, would you mind filling out a quick survey? (ขอโทษทีครับ คุณช่วยกรุณาตอบแบบสอบถามของเราหน่อยได้ไหมครับ)
B: Eat shit! (อันนี้ไม่ได้ไล่ให้ไปทานอุจจาระใคร แต่เป็นลักษณะของการบอกว่าไม่เว้ย แบบหยาบสุดๆ)
5) ใช้พูดถึงความซวย
เช่น A: Oh no, my cell phone died! (โอไม่นะ มือถือฉันพัง)
B: Damn, you’re shit out of luck! (ให้ตายสิ แกนี่โคตรซวยจริงๆ)
6) ใช้ด่าคนที่โง่
เช่น Hey dumb shit / Shit brains! (โดยรวมคือหมายถึงด่าว่าไอ้โง่ หรือไอ้หน้าโง่)
7) อาจหมายถึงการใจเย็นและพยายามมองข้ามปัญหาให้ได้
เช่น Stop crying, man. Get your shit together. (หยุดร้องไห้ได้แล้วเพื่อน ปล่อยๆมันไปเถอะ)
8) ใช้พูดแทนบางสิ่งบางอย่าง
เช่น I ain’t got time for this shit! (ฉันไม่มีเวลากับอะไรพวกนี้หรอกนะ)
9) ใช้แสดงออกว่าไม่น่าเชื่อถือ หรือไร้สาระ
เช่น A: I have three girlfriends. (ฉันมีแฟนสามคนเชียวนะ)
B:Bullshit! (ไร้สาระน่า อย่ามาโกหก)
10) ใช้แทนเรื่องทั่วๆไป หรือสิ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไร
เช่น A: What were you guys talking about? (เมื่อกี้พวกนายพูดเรื่องอะไรกันน่ะ)
B: Oh, we were just shooting the shit. (อ๋อ เราก็พูดอะไรกันเรื่อยเปื่อยน่ะ)
11) หมายถึง ปัญหาใหญ่
เช่น A: The cops are coming! (เฮ้ย ตำรวจมา)
B: Damn, we’re in deep shit. (ให้ตายเหอะ เรากำลังจะเจอปัญหาใหญ่แล้ว ซวยแล้วอย่านี้ก็สามารถแปลได้)
12) มีความหมายว่าเลวร้ายมาก
เช่น A: Have you tried my cake? (เธอลองกินเค้กของฉันหรือยัง)
B: Yeah, it tastes like shit. (ลองแล้ว รสชาติแย่มากก)
13) ใช้เน้นคำว่า มากมาย
เช่น I got a shit ton of work done today. (วันนี้ฉันทำงานเสร็จไปเยอะมาก คำว่า ton นี่ก็มีความหมายว่าเยอะอยู่แล้ว พอเติมคำว่า shit เข้าไปก็จะดูมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ)
Cunt (คันทฺ) / Pussy (พุซซี่)
สองคำนี้เป็นคำหยาบ มีความหมายเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง และนอกจากนี้แล้วคำว่า pussy ยังแปลว่า คนปอดแหก หรือ คนขี้กลัวได้อีกด้วยนะ
เช่น He screamed like a girl when he saw that snake. What a pussy. (พอเห็นงูปุ๊บไอ้นี่ร้องเสียงหลงเลย โคตรขี้ป๊อดอะ)
แต่ใน Australia จะเป็นคนละเรื่องกัน เพราะคำนี้ก็สามารถเอามาอธิบายสิ่งที่มีขนฟูและอ่อนนุ่มได้
เช่น pussy cat ก็จะแปลว่าเจ้าแมวขนฟู
และแล้วก็มาถึงคำสุดท้าย…
Fuck (ฟัคฺ)
คำนี้ความหมายตามพจนานุกรมคือการมีเพศสัมพันธ์ แต่มักนำมาใช้ในคำอุทานทั่วไป หรือเอามาขยาย หรืออธิบายแทบจะทุกสิ่ง มักจะเจอคำนี้เป็นทั้งคำขยาย หรือทำตัวมันเองให้เป็น adjective, adverb, adverb ที่ขยาย adjective, คำนาม, เป็นส่วนหนึ่งของคำๆหนึ่ง พูดง่ายๆคือเป็นได้ทุกอย่างที่เราต้องการในประโยค โห คำบ้าอะไรสารพัดนึกจริงๆ
เพียงเติมคำว่า fuck เข้าไปทุกอย่างจะดูมีอารมณ์ ความรู้สึกรุนแรง ทั้งในทางดีและเลวขึ้นมาทันที
เช่น I fucking hate you. (ฉันโคตรจะเกลียดเธอเลย)
I fucking love you. (ฉันโคตรจะรักเธอเลย)
I don’t give a fuck about your problem (ฉันไม่แยแสเกี่ยวกับปัญหาของแกทั้งสิ้น เรื่องของแกป่ะวะ)
What the fuck? (อะไรวะเนี่ย)
I guess I’m totally fucked now. (ฉันคิดว่าฉันเจอปัญหาใหญ่แล้วว่ะ)
ประโยคพวกนี้ความหมายต่างกันสุดขั้ว แต่ล้วนแล้วแต่เอาคำว่า fuck เข้ามาเป็นส่วนประกอบให้รูสึกถึงความรู้สึกสุดโต่งทั้งชอบ เกลียด เป็นปัญหา ห่วงใย กังวล หรืออะไรก็ตาม
การเรียน “คำด่าภาษาอังกฤษ” ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องว่าเรียนเพื่อนำไปใช้ด่าใคร แต่เพื่อทำให้การพูดของเราดูธรรมชาติหรือเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น เหมือนที่เราเห็นในซีรีย์ฝรั่งที่เค้ามักจะใช้คำเหล่านี้เสมอในการพูดคุยกัน และเรียนเพื่อรู้ไว้ว่าไอ้ที่เราได้ยินเนี่ย เค้าด่าเราจริงๆ หรือมันมีความหมายบางอย่างที่เราไม่รู้แฝงอยู่ อย่างที่บอก ทุกอย่างต้องดูบริบทโดยรวมด้วยนะคะ
การเรียนรู้คำเหล่า จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและพูดภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่คำพวกนี้ไม่ใช่ว่าเอาไว้ใช้ได้ทั่วไป คงไม่มีใครพูดคำหยาบกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก หรือเวลานำเสนองานในที่ประชุมหรอก รู้ไว้เอาไปใช้ได้บ้างแต่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อย เพราะใช้ไปนานๆก็จะพูดกันติดปาก สร้างบุคลิกที่ไม่ดีต่อสายตาคนอื่นที่มองเรานะคะ ทางที่ดีเก็บไว้พูดกับเพื่อนสนิทจริงๆก็พอเนาะ ^ ^
รวมเพลงสากลเพราะๆฟังสบายๆเวลาทำงานเพลินๆ | Chill Songs Playlist | (sleep, study, relax…)
►Copyright Notice:
If you do not want your work \”Music or Photo\” appear in the video, please contact with me ([email protected]) and I will delete the video immediately. Thank you
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
เพลงสากล 2020 🍇 รวมเพลงสากล เพราะๆ ฟังก่อนนอน เพลงฮิต2020 ฟังสบาย เพลงชิวๆ HD
►Thanks for watching. If you like video please \”SUBSCRIBE\” \”LIKE\” \”SHARE\” \”COMMENT\”
►Subscribe for more: https://www.youtube.com/channel/UCcKm6m_NWanfsZVo8M209_w
►Twitter:
►Facebook:
► None of these images, music \u0026 video clips were created/owned by us.
► This video is purely fanmade, if you (owners) want to remove this video, please CONTACT US DIRECTLY before doing anything. We will respectfully remove it.
แบบฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบช้าและง่าย
600 วลีสำคัญในภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/TfXHrAfVEQo
แบบฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบช้าและง่าย
Slow and Easy English Conversation Practice
Tเพลงสากล 2020 – รวมเพลงเพราะ ไม่มีโฆษณา ฟังเวลาทำงาน ชิวๆ เพลงฮิต ฟังสบาย คลายเครียด
►Thanks for watching. If you like video please \”SUBSCRIBE\” \”LIKE\” \”SHARE\” \”COMMENT\”
►Subscribe for more: https://www.youtube.com/channel/UCcKm6m_NWanfsZVo8M209_w
►Twitter:
►Facebook:
► None of these images, music \u0026 video clips were created/owned by us.
► This video is purely fanmade, if you (owners) want to remove this video, please CONTACT US DIRECTLY before doing anything. We will respectfully remove it.
Singular – เบาเบา
Music video by Singular performing Bao Bao (Tender). (C) 2010 Sony Music Entertainment Operating (Thailand)
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เบาๆ ภาษาอังกฤษ