Skip to content
Home » [Update] คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่ และชื่อห้องในโรงเรียน | การเข้าสังคม ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่ และชื่อห้องในโรงเรียน | การเข้าสังคม ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การเข้าสังคม ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

มาเรียนรู้คำศัพท์ใกล้ตัวน้องๆ วัยเรียนกัน  กับ คำศัพท์ภาษาอังกฤษสถานที่ ชื่อห้อง หมวด แผนกต่างๆ ในโรงเรียน ไว้เป็นความรู้ เวลาเดินผ่าน หรือมองเห็นป้ายต่างๆ

มาเรียนรู้คำศัพท์ใกล้ตัวน้องๆ วัยเรียนกัน  กับ คำศัพท์ภาษาอังกฤษสถานที่ ชื่อห้อง หมวด แผนกต่างๆ ในโรงเรียน ไว้เป็นความรู้ เวลาเดินผ่าน หรือมองเห็นป้ายต่างๆ ในโรงเรียน จะได้ทราบความหมาย หรือนำไปใช้พูดได้อย่างถูกต้อง ลองมาดูพร้อมๆ กันซิว่า จะมีคำอะไรกันบ้าง

Table of Contents

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

ป้ายบอกสถานที่ และชื่อห้องในโรงเรียน

School Director : ผู้อำนวยการ

Deputy Director, Academic Affairs : รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

Deputy Director, Student Welfare : รองผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง

Deputy Director, General Administration : รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรการ

Deputy Director, Student Affairs : รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน

Deputy Director, General Administration And Finance : รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรการและการเงิน

Deputy Director, Budgeting And Planning : รองผู้อำนวยการฝ่ายงานงบประมาณและแผน

Deputy Director, Human Resources : รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานบุคคล

Academic Department : ฝ่ายวิชาการ

Student Welfare Department : ฝ่ายปกครอง

General Administration Department : ฝ่ายธุรการ

General Administration And Finance Department : ฝ่ายธุรการและการเงิน

Budgeting And Planning Department : ฝ่ายงานงบประมาณและแผน

Student Affairs Department : ฝ่ายกิจการนักเรียน

Human Resources Department : ฝ่ายบริหารงานบุคคล

Kindergarten Section/ Early Years : แผนกปฐมวัย

Primary Section : แผนกประถมศึกษา

Secondary Section : แผนกมัธยมศึกษา

Thai Language Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

Foreign Languages Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

Science Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

Mathematics Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

Health and Physical Education Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา

Arts Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

Social studies, Religion and Culture Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

Career and Technology Department : กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

Kindergarten 1 (K1) : อนุบาล 1

Kindergarten 2 (K2) : อนุบาล 2

Kindergarten 3 (K3) : อนุบาล 3

Primary 1 (P1) : ประถมศึกษาปีที่ 1

Primary 2 (P2) : ประถมศึกษาปีที่ 2

Primary 3 (P3) : ประถมศึกษาปีที่ 3

Primary 4 (P4) : ประถมศึกษาปีที่ 4

Primary 5 (P5) : ประถมศึกษาปีที่ 5

Primary 6 (P6) : ประถมศึกษาปีที่ 6

Secondary 1 (S1) : มัธยมศึกษาปีที่ 1

Secondary 2 (S2) : มัธยมศึกษาปีที่ 2

Secondary 3 (S3) : มัธยมศึกษาปีที่ 3

Secondary 4 (S4) : มัธยมศึกษาปีที่ 4

Secondary 5 (S5) : มัธยมศึกษาปีที่ 5

Secondary 6 (S6) : มัธยมศึกษาปีที่ 6

Arts Room : ห้องศิลปะ

Meeting Room : ห้องประชุม

Music Room : ห้องดนตรี

Offices : สำนักงาน

Library : ห้องสมุด

Classroom : ห้องเรียน

Computer Room : ห้องคอมพิวเตอร์

Science Lab : ห้องปฏิบัติการ

First Aid Room : ห้องปฐมพยาบาล

Resource Center : ห้องแหล่งเรียนรู้

Audio And Visual Aids Room : ห้องโสตทัศนูปกรณ์

Counselling Office : ห้องแนะแนว

Workshop : โรงฝึกงาน (ช่าง)

Agricultural Plots : สวนเกษตร

Gymnasium : โรงพลศึกษา

Cafeteria/ Canteen : โรงอาหาร

Playground : สนามเด็กเล็ก

Swimming Pool : สระว่ายน้ำ

Basketball Court : สนามบาสเกตบอล

Football Field : สนามฟุตบอล

Volleyball Court : สนามวอลเลย์บอล

Toilets : ห้องน้ำ

Ladies/ Women/ Female : ผู้หญิง

Gentlemen / Men/ Male : ผู้ชาย

Science Room : ห้องวิทยาศาสตร์

Staff Room : ห้องพักครู

Hall : หอประชุม

Grand Hall : หอประชุมใหญ่

Auditorium : หอประชุมใหญ่ (แบบโรงหนัง)

School Zone : เขตโรงเรียน

Drop-Off And Pick-Up Point : สถานที่จอดรถรับส่งนักเรียน

Entrance : ทางเข้า

Exit : ทางออก

Bike Lane : ช่องจักรยาน

Parking Lot : ที่จอดรถ

Keep Left : เดินชิดซ้าย

Keep Right : เดินชิดขวา

Keep Clean : โปรดรักษาความสะอาด

Keep off the Grass : ห้ามเดินลัดสนาม

Keep Quiet : กรุณาอย่าส่งเสียงดัง

Do Not Litter : ห้ามทิ้งขยะ

No Entry : ห้ามเข้า / ห้ามผ่าน

No Parking : ห้ามจอด

No Double Parking : ห้ามจอดซ้อนคัน

Foods And Drinks are not Allowed / No Foods and Drinks : ห้ามนำอาหารเข้ามา

Pets are not Allowed / No Pets : ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามา

Smoking is not Allowed / No Smoking : ห้ามสูบบุหรี่

Taking Photo is not Allowed / No Photos : ห้ามถ่ายรูป

Mobile Phones are not Allowed / No Mobile Phones : ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ

Please Turn Off Your Mobile Phones : กรุณาปิดมือถือ

No Cheating : ห้ามลอกข้อสอบ

Do Not Disturb : ห้ามรบกวน

ที่มาข้อมูลจาก สถาบันภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

[Update] ภาษาอังกฤษ ม. 4 การใช้ Yes/No Question | การเข้าสังคม ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ภาษาอังกฤษ ม. 4 การใช้ Yes/No Question

การถามเพียงเพื่อต้องการคำตอบแค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” รูปประโยคคำถามเช่นนี้ในภาษาอังกฤษก็คือ Yes-No Question ซึ่งการสร้างประโยคเช่นนี้มีหลักดังนี้

หลักการถาม-ตอบ คำถาม Yes/No Question

ถามนำขึ้นต้นด้วย Verb to be

ถ้าประโยคนั้นมี Verb to be ให้นำมาวางข้างหน้าได้เลย ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี้

Is
ประโยคบอกเล่า : He is a teacher. (เขาคือคุณครู)

ประโยคคำถาม : Is he a teacher? (เขาคือคุณครูใช่ไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, he is. (ใช่ เขาเป็น)

การตอบ “ไม่” : No, he isn’t. (ไม่ เขาไม่ได้เป็น)

Are
ประโยคบอกเล่า : You are Japanese.(คุณเป็นคนญี่ปุ่น)

ประโยคคำถาม :  Are you Japanese? (คุณเป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes. I’m.(ใช่ ฉันเป็น)

การตอบ “ไม่” : No, I’m not. (ไม่ ฉันไม่ได้เป็น)

Was
ประโยคบอกเล่า : He was a doctor. (เขาเคยเป็นหมอ)

ประโยคคำถาม : Was he a doctor? (เขาเคยเป็นหมอหรือ?)

การตอบ “ใช่” :  Yes, he was. (ใช่ เขาเป็น)

การตอบ “ไม่” : No, he wasn’t. (ไม่ เขาไม่ได้เป็น)

Were
ประโยคบอกเล่า : They were at school yesterday. (เมื่อวาน พวกเขาอยู่ที่โรงเรียน)

ประโยคคำถาม : Were they at school yesterday? (เมื่อวาน พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่า?)

การตอบ “ใช่” :  Yes, they were. (ใช่ พวกเขาอยู่)

การตอบ “ไม่” : No, they weren’t. (ไม่ เขาไม่ได้อยู่) 

                                                            
ถามขึ้นต้นด้วย Verb to do

ถ้าประโยคที่เราจะถามไม่มี Verb to be ให้นำ Verb to do มาใช้นำหน้าประโยค โดยใช้รูปเอกพจน์หรือพหูพจน์ตามประธาน ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี้

Do
ประโยคบอกเล่า : You know her name. (คุณรู้จักชื่อของเธอ)

ประโยคคำถาม : Do you know her name? (คุณรู้จักชื่อของเธอไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, I do. (ค่ะ ฉันรู้จัก)

การตอบ “ไม่” : No, I don’t. (ไม่ ฉันไม่รู้จัก)

Does
ประโยคบอกเล่า : She plays the piano. (เธอเล่นเปียโน)

ประโยคคำถาม : Does she play the piano? (เธอเล่นเปียโนไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, she does. (ค่ะ เธอเล่นเปียโน)

การตอบ “ไม่” : No, she doesn’t. (ไม่ค่ะ เธอไม่ได้เล่นเปียโน)

Did
ประโยคบอกเล่า : You walked to school yesterday. (คุณเดินไปโรงเรียนเมื่อวาน?)

ประโยคคำถาม : Did you walk to school yesterday? (เมื่อวานนี้คุณเดินไปโรงเรียนหรือเปล่า?)

การตอบ “ใช่” : Yes, I did. (ค่ะ ฉันเดินไปโรงเรียน)

การตอบ “ไม่” : No, I didn’t. (ไม่ ฉันไม่ได้เดินไปโรงเรียน)

**ข้อสังเกต เมื่อเราใช้ Do, Does หรือ Did อย่าลืมเปลี่ยนรูปกาลและพหูพจน์/เอกพจน์ตามประธานด้วยค่ะ

ถามขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย

หากประโยคนั้นมีกริยาช่วยตัวอื่น ๆ เช่น Can, Could, Will, Would, Shall, Should ให้เอาคำกริยาเหล่านี้ขึ้นต้นแล้วตามด้วยประโยคคำถาม เช่น

Can
ประโยคบอกเล่า : You can speak Chinese. (คุณพูดภาษาจีนได้)

ประโยคคำถาม : Can you speak Chinese? (คุณพูดภาษาจีนได้ไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, I can. (ค่ะ ฉันพูดได้)

การตอบ “ไม่” : No, I can’t. (ไม่ค่ะ ฉันพูดไม่ได้)

Will
ประโยคบอกเล่า : You will go with us. (คุณก็จะไปกับพวกเราด้วย)

ประโยคคำถาม : Will you go with us? (คุณจะไปกับพวกเราด้วยไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, I will. (ค่ะ ฉันจะไปด้วย)

การตอบ “ไม่” : No, I won’t. (ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ไปด้วย)

Could
ประโยคบอกเล่า : You could tell me your name. (คุณจะบอกชื่อของคุณให้ฉันทราบ)

ประโยคคำถาม : Could you tell me your name? (คุณจะบอกชื่อของคุณให้ฉันทราบได้ไหม?)

การตอบ “ใช่” : Yes, I could. (ค่ะ ฉันบอกได้)

การตอบ “ไม่” : No, I couldn’t. (ไม่ค่ะ ฉันบอกไม่ได้)

 

 


คำถามสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค Part 1


สวัสดีค่ะ มาตามที่ขอไว้นะคะ วันนี้เจน่าห์รวบรวมคำถามและประโยคตัวอย่างที่ใช้ในการสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย หรือเข้าเรียนที่โรงเรียนต่างๆ โดยเจน่าห์แบ่งคลิปคำถาม 11 ข้อเป็น 2 parts ค่ะเนื่องจากคลิปยาวเกิน คลิปที่ 2 จะโพสสัปดาห์หน้านะคะ ขอชี้แจงนิดนึงนะคะ คำถาม 11 ข้อนี้เป็นเพียงแค่ 11 ข้อในร้อยๆข้อที่เขาอาจดึงมาถามเรา และ wording ในการถามอาจแต่งต่างกันบ้าง ไว้รอบต่อๆไปเจน่าห์จะรวบรวมนำคำถามอื่นๆมาแชร์นะคะ สำหรับคำตอบในคลิปนี้ เจน่าห์เตรียมมาแบบ pattern และเป็นตัวอย่างเท่านั้น เจน่าห์แนะนำให้เพื่อนๆเตรียมตัวและฝึกฝนเยอะๆเพื่อเตรียมความพร้อมค่ะ หากสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าจะตอบว่าอะไรให้ลองถามคนใกล้ตัวที่มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ถามครู ถามเพื่อนต่างชาติ หรือถามเจน่าห์ก็ได้ค่ะ ถ้าชอบก็กด Like ชอบมากๆก็ช่วย share, subscribe และกด bell และอยากเรียนภาษาตากาล็อกเพิ่มฝาก comment ไว้ให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ Cheers!
——————————————————————————————————————
สำหรับการ Subscribe
เพื่อนๆจะต้อง sign up หรือสมัครอีเมล์ของ Gmail ก่อนค่ะ แล้วเข้าไปที่หน้าหลักของ YouTube พิมพ์ “Learn English with TextAndTalk” ที่ช่องค้นหา และเมื่อเข้า page ของเจน่าห์แล้ว ตรงข้างบนทางขวามือจะเห็นปุ่ม Subscribe หรือเมนูภาษาไทยเรียกว่า ‘สมัครสมาชิก’ FREE! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ทำไมต้อง Subscribe ก็เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆค่ะ และเมื่อสมัครแล้วอย่าลืมกดรูป bell หรือกระดิ่ง Notification Bell ด้วยนะคะ เพราะทุกๆครั้งที่เจน่าห์ up clip ใหม่ๆ Clip ของเจน่าห์จะขึ้นที่ page ของเพื่อนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องมา Search หากันทุกครั้ง และจะได้ไม่ลืมกันนะอิอิ ^^
——————————————————————————————————————
ตามหาเจน่าห์ที่อื่นๆได้ที่ Follow me:
Instagram: exchangeswithjeynah
Facebook: https://www.facebook.com/Exchangeswit…

สนใจเรียน at my school: TextAndTalk Academy
Facebook: English Training Thailand (รับเป็นวิทยากรและจัดเทรนนิ่งให้หน่วยงานและองค์กร) https://www.facebook.com/EnglishTrain…
Website: www.textandtalk.com

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำถามสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค Part 1

ความหรูหรา ไทยกินขาด! เปิด 7 ความแตกต่างระหว่าง ไทย vs เวียดนาม ในมุมมองของชาวต่างชาติ


ความหรูหรา ไทยกินขาด! เปิด 7 ความแตกต่างระหว่าง ไทย vs เวียดนาม ในมุมมองของชาวต่างชาติ
Thailand Vs Vietnam: 7 Differences You Might Not Know | TopMent Thailand
ความคิดเห็น ต่างชาติ ท่องเที่ยว TopMent Thailand ไทย เวียดนาม
ที่มา : https://bit.ly/3DhKqHp
แปลและเรียบเรียง : TopMent Thailand

ความหรูหรา ไทยกินขาด! เปิด 7 ความแตกต่างระหว่าง ไทย vs เวียดนาม ในมุมมองของชาวต่างชาติ

เอ้าา!! ใครอยากสมัครเรียนต่อประเทศอังกฤษมาดูขั้นตอนกันเลยจ้า with Eng Ver. l By ~ Pleng’s Diary ~


คลิปนี้มาอย่างมีสาระที่สุดในรอบปีค่า วันนี้เพลงมาบอกวิธีและขั้นตอนการสมัครเรียนต่อประเทศอังกฤษ มีทั้งเรื่องเอกสารอะไรบ้างที่ต้องใช้? ควรติดต่อกับเอเจนซี่ที่ไหน? ต้องสอบอะไรบ้าง? ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ ทั้งค่าเทอม ค่าหอพัก ค่ากินอยู่อีกสารพัด วันนี้เพลงก็มาตอบทุกๆคำถามในวันนี้กันนะค้า
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นมหาลัยที่อังกฤษ
Transcript
IELTS UKVI score
Diploma
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นทำวีซ่า
Passport
CAS จากมหาวิทยาลัย
Transcript
Diploma
IELTS UKVI score
Visa Application
Picture White Background for Visa (2inch)
สูติบัตร
บัตรประชาชน
ทะเบียนบ้าน
ใบรับรองการทำงานของผู้ปกครอง
ใบรับรองการเงิน
Bank Statement
I.O.M (ตรวจปอด)
มีเท่านี้นะถ้าจำไม่ได้ผิด
อันนี้เป็นเอเจนซี่ที่เพลงแนะนำค่ะ
Name: Gouni
Facebook: Gouni Thailand
Tel: 02 117 9563
IG: @gouniofficial
ส่วนใครอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือดูความเป็นอยู่ที่อังกฤษก็ไปกดติดตามChannelของพี่พีชด้วยน้า อันนี้เพลงแนะนำเอง เพราะเพลงดูเองแล้วเพลงได้ความรู้มาเยอะเพลงเลยอยากแชร์เผื่อทุกคนยังไม่เคยดูกัน
Youtube Channel: SACROSS PEACHII
Editing Program
Final Cut Pro x
Camera
Sony a5100
Let’s be friends:)
Instagram: https://www.instagram.com/im.palengnpc/
Snapchat : npcpleng
Facebook : https://www.facebook.com/PlengsDiary/
Ask.fm : @plengnpc

เอ้าา!! ใครอยากสมัครเรียนต่อประเทศอังกฤษมาดูขั้นตอนกันเลยจ้า with Eng Ver. l By ~ Pleng's Diary ~

English Social Life ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม ep1. Everyday English


English Social Life ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม ep1. Everyday English
สาระความรู้พื้นฐาน วิชาภาษาอังกฤษ พต31001
หลักสูตร กศน. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
วัตถุประสงค์ / ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. ออกเสียงพยัญชนะ sh ch ได้
2. ออกเสียงหนักเบาได้
3. ออกเสียงตามระดับสูงต่ำได้
4. พูดแสดงความรู้สึกในโอกาสต่างๆ ได้
วิทยากร : นางสาวไอวีญาย์ ปักษาเจริญกุล

English Social Life ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม ep1. Everyday English

ฝึกฟังพร้อมอ่านซับภาษาอังกฤษ


สำหรับคนที่เริ่มต้นฟังและอ่านภาษาอังกฤษ
David Burkus
Management researcher

ฝึกฟังพร้อมอ่านซับภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การเข้าสังคม ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *