Skip to content
Home » [Update] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | has been แปลว่า – NATAVIGUIDES

[Update] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | has been แปลว่า – NATAVIGUIDES

has been แปลว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

นามนับได้ – นามนับไม่ได้ – คุณรู้ไหมว่า คำนามใดคือคำนามนับได้และคำนามใดคือคำนามที่นับไม่ได้ ส่วนไวยากรณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองผ่านนะคะ เนื่องจากคำนามทั้ง 2 กลุ่มนี้มีหลักการใช้คำนำหน้าและคำกิริยาที่แตกต่างกันวันนี้เราจะมาดูกันว่าคำนามเหล่านี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร ใช้ในกรณีไหน พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย

เพื่อความเข้าใจอย่างง่ายดาย บทความเกี่ยกับ คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นี้ของเราจะได้แบ่งเป็น สี่ส่วนเนื้อหาหลักๆ ที่ผู้เรียนสามารถติดตามง่ายๆ ดังนี้

  1. คำนามนับได้ (Countable Nouns) คืออะไร
  2. คำนามนับไม่ได้(Uncountable Nouns) คืออะไร
  3. วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
  4. แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ พร้อมข้อเฉลย

ก่อนอื่นเราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดกันนะคะ

Table of Contents

1 – คำนามนับได้ (Countable Noun) คืออะไร

ในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้ (Countable Noun) กันนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ สำหรับคำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ เข้าใจง่ายๆ คือคำนามที่เราสามารถนับและระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน คำนามเหล่านั้นจะเรียกว่า Countable Noun แปลเป็นไทยโดยตรงคือคำนามนับได้

  • Singular: (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียวชิ้นเดียว
  • Plural: (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป

หากอยู่ในรูปเอกพจน์ คำนามนับได้เหล่านี้จะใช้ “a” หรือ “an” นำหน้า หากต้องการทราบจำนวนของคำนามนับได้เหล่านี้ จะถามโดยใช้ “How many?” ตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์ เช่น

เอกพจน์พหูพจน์one dogtwo dogsone horsetwo horsesone ideatwo menone shoptwo ideasone mantwo shopsOne BoyThree boysOne BirdFour BirdsOne BookTwo booksOne pencilFive pencils

ตัวอย่างเช่น

  • She has three dogs. แปลว่า เธอมีสุนัขสามตัว
  • I own a house. แปลว่า ฉันเป็นเจ้าของบ้าน
  • I would like two books please. แปลว่า ฉันต้องการหนังสือสองเล่มโปรด
  • How many friends do you have? แปลว่า คุณมีเพื่อนกี่คน?

คำนามนับได้ (Countable Noun) มีสองประเภคคือ (single) และ  (plural) คำนามนับได้แบบ single พูดถึงจำนวนน้อยคือ 1 ที่มักจะอยู่ด้านหลังของคำว่า  “a/an” หรือ one. ยกตัวอย่างเช่น a pen, one table,…

ส่วนคำนามนับได้แบบ plural พูดถึงจำนวนตั้งแต่ 2 ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น pens, tables,…

ถ้าอยากเปลี่ยนจากคำนามนับได้ single เป็นคำนามนับได้แบบ plural ง่ายมากๆ แค่เพิ่มตัว ‘s’ในตัวอักษรสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น: pen → pens, table → tables,…

แต่ก็มีบ้างคำศัพท์อยู่ในกรณีพิเศษเช่น

  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้าย (ลงท้ายด้วย) เป็น CH, SH, S, X, O ต้องเพิ่ม “es” เข้าตัวอักษรสุดท้าย
    เช่น: a class → classes, a bus → Buses, Brush →Brushes, Math → Matches, Box→ Boxes, Fox → Foxes
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น Y เมื่ออยากเปลี่ยนเป็นคำนาม plural เราจะเปลี่ยนตัวอักษร “y” เป็น “i” และเพิ่ม “es”
    เช่นคำว่า: a candy → candies,  City→ Cities, Duty→Duties, Day → Days, Boy → Boys, Key → Keys
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น F, FE, FF เราลบทิ้งไปและเอาตัว “ves” แทนตัวอักษรสุดท้าย.
    ยกตัวอย่างเช่น: A knife → knives
  • เติม “es” ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย “o” และหน้า “o” เป็นพยัญชนะ
    เช่น: radio → radios, Bamboo → Bamboos, Photo→ Photos, Piano→ Pianos

หมายเหตุ:

มีคำนามบ้างคำที่อยู่ในกรณีพิเศษ หมายถึงว่ามันจะไม่ตามเกณ์ที่พูดดังกล่าว ลองดูตามตารางดังต่อไปนี้กันนะคะ 

คำนาม singleคำนาม pluralความหมายภาษาไทยmanmenผู้ชายwomanwomenผู้หญิงchildchildrenเด็กsheepsheepแกะtoothteethฟันfootfeetเท้าbacteriumbacteriaแบคทีเรียfishfishปลา

2 – คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คืออะไร

สำหรับ Uncountable Noun หรือคำนามนับไม่ได้นี้มีหลากหลายคนพูดถีงเพราะได้เอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันบ่อยมาก คุณสามารถบันทึกการอธิบายที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดดังนี้

คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  เป็นคำนามที่คุณเจอบ่อยเช่นนม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม  ฟางหญ้า เป็นต้น  จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด เป็นคำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ ทั้งหมดเรียกชื่อว่า Uncountable Noun  หรือคำนามนับไม่ได้นั้นเอง

หรืออีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คือคำนามนับไม่ได้ เช่นแนวคิด หรือปริมาณ หรือเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถนับได้ หรือไม่มีรูปร่างแน่นอนจึงทำให้ไม่สามารถนับได้ (เช่น ของเหลว ผง ก๊าซ เป็นต้น)  คำนามนับไม่ได้จะใช้คู่กับคำกิริยาที่อยู่ในรูปเอกพจน์ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคำนามนับไม่ได้เหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์

ยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพชัดๆ ดังนี้สำหรับ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  tea, sugar ,water, air,rice ,knowledge, beauty, anger, fear, love, money, research, safety, evidence

ถ้าจะแบ่งตามประเภทของคำนามเราลองมาดูกันว่ามีคำนามใดบ้างที่ไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษตามตารางดังนี้

GeneralFoodSubjects/ FieldsAstractHomeworkFoodMathematicsAdviceEquipmentFlourEconomicsHelpLuggageMeatPhysiscFunClothingRiceEthicsRecreationFurnitureCakeCivicsEnjoymentMachineryBreadArtInfomationGoldIce cremArchitectureKnowledgeSliverCheeseMusicNewsCottonToastPhotographyPatienceGlassPastaGrammarHappinessJewelrySpaghettiChemistryProgressPerfumeButterHistoryConfidenceSoapOilCommerceCouragePaperHoneyEngineeringEducationWoodSoupPoliticsIntelligencePetrolFishSociologySpaceGasolineFruitPsychologyEnergyBaggageSaltVocabularyLaughterHairTeaArchaeologyPeaceTrafficCoffeePoetryPride

WeatherSportsLanguagesActivitesThunderGolfEnglishSwimmingLightningTennisPortugueseWalkingSnowBaseballHindiDrivingRainBasketballArabicJoggingSleetCricketJapaneseReadingIceHockeyKoreanWritingHeatRugbySpanishListeningHumidityChessFrenchSpeakingHailPokerRussianCookingWindBridgeItalianSleepingLight/HebrewStudyingDarkness/ChineseWorking

เพราะมีเป้าหมายในการใช้งานที่แตกต่างกันเลยคำนามที่นับไม่ได้ไม่ใช้กับ “a”, “an” แทนเป็น ถามโดยใช้ “How much?” จะช่วยคุณทราบปริมาณของคำนามที่นับไม่ได้

 หากต้องการระบุปริมาณของคำนามนับไม่ได้ จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มด้วยการใช้คำเหล่านี้ เช่น some, a lot of, much, a bit of, a great deal of เป็นต้น หรือใช้คำที่บอกปริมาณอย่างเจาะจง เช่น a cup of, a bag of, 1kg of, 1L of, a handful of, a pinch of, an hour of, a day of.

ตัวอย่างเช่น

  • There has been a lot of research into the causes of this disease. แปลว่า มีงานวิจัยมากมายถึงสาเหตุของโรคนี้
  • He gave me a great deal of advice before my interview. แปลว่า เขาให้คำแนะนำมากมายก่อนการสัมภาษณ์
  • Can you give me some information about uncountable nouns? แปลว่า คุณช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้หน่อยได้ไหม
  • Measure 1 cup of water, 300g of flour, and 1 teaspoon of salt. แปลว่า ตวงน้ำ 1 ถ้วยแป้ง 300 กรัมและเกลือ 1 ช้อนชา
  • How much rice do you want? แปลว่า คุณต้องการข้าวเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามยังมีอีกสอง-สามวิธีสำหรับคำนามนับไม่ได้ที่จะรวมกับวลีภาษาอังกฤษอื่น ๆ เพื่อให้กลายเป็นคำนามที่นับได้เช่น

1. บางเรื่องที่ไม่สามารถนับได้ แต่เก็บไว้ในกล่องหรือบรรจุหีบห่อ … จะกลายเป็นคำนามที่นับได้
– ง่ายๆ เช่นคำว่า a cup of tea – แก้วชาหนึ่ง. (น้ำชาเราจะนับไม่ได้แต่ถ้าใส่ในแก้วหนึ่งเราก็จะนับได้แล้วใช่ไหมคะ

2. สำหรับคำนามที่นับไม่ได้เช่น food, money, meat, sand, water,… ถ้าเราตั้งเป็นประโยคเช่น
– This is one of the foods that my younger brother likes very much แปลว่า นี่เป็นหนึ่งในอาหารที่น้องชายของฉันชอบมาก

3. เป็นคำนามที่มีหลายความหมาย ถ้าแปลตามความหมายว่า “เวลา” “time” เป็นคำนามนับไม่ได้ แต่ถ้าแปลว่า “จำนวนครั้ง” “time” จะปิดเป็นคำนามที่นับได้
– ตัวอย่างเช่น

  • Yesterday, I didn’t have enough time to finish my homework  แปลว่า เมื่อวานนี้ฉันมีเวลาพอที่จะทำการบ้านให้เสร็
  • I go jogging three times a week  แปลว่า  ฉันไปจ็อกกิ้งสามครั้งต่อสัปดาห์

3 – วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับได้

ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราใช้ “a / an” ก่อนคำนามเอกพจน์เพื่อแสดงถึงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วน “few/a few” ใช้ก่อนหน้าคำนามพหูพจน์เพื่อแสดงถึงปริมาณเล็กๆ น้อยๆ และ “many” สำหรับพหูพจน์ที่มีมากกว่าสอง ตามตารางดังนี้

aa student, a pencil, a bike,…manymany books, many pens,…fewfew bananas, few answer questions,…a fewa few topics, a few chairs,…

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับไม่ได้

เช่นเดียวกับคำนามที่นับได้คำนามที่นับไม่ได้ยังมีคำ และวลีเช่น “มาก” (many), “litlle / a little” (นิดหน่อย), a little bit of (a little).

muchmuch money, much oil,…littlelittle milk,…a littlea little money,…a little bit ofa little bit of ink,…

คำใช้ได้กับทั้งคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้เฉพราะกับคำนามนับได้ หรือคำนามนับไม่ได้ก็ยังมีกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ได้ทั้งสองเช่น  ‘the, some, any, no, a lot of, lots of, plenty of, enough.

ตัวอย่างเช่น

Countable Noun: the cats, some desks, any rooms, a lot of pets…
Uncountable Noun: some sugar, no money, plenty of milk…

หมายเหตุสิ่งที่ทำให้หลายคนสับสน

คำนามนับได้บางคำ (ในภาษาอื่น) กลับกลายเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ หากพบเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้กฏการใช้คำนามนับไม่ได้กับคำนามนับได้เหล่านั้น คำนามในกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อย คือ accommodation, advice, baggage, behavior, bread, furniture, information, luggage, news, progress, traffic, travel, trouble, weather, work

ตัวอย่างเช่น

  • I would like to give you some advice. แปลว่า ฉันขอคำแนะนำของคุณหน่อยค่ะ
  • How much bread should I bring? แปลว่า ฉันควรนำขนมปังเท่าไหร่
  • I didn’t make much progress today. แปลว่า ฉันไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในวันนี้
  • This looks like a lot of trouble to me. แปลว่า ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากสำหรับฉัน
  • We did an hour of work yesterday. แปลว่า เราทำงานเมื่อวานนี้หนึ่งชั่วโมง

ปรดระวังการใช้ hair ซึ่งเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแล้วคำนี้จะอยู่ในรูปเอกพจน์ แต่หากกล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง สามารถใช้ในรูปพหูพจน์ได้

ตัวอย่างเช่น

  1. She has long blond hair. แปลว่า เธอมีผมสีบลอนด์ยาว
  2. The child’s hair was curly. แปลว่า ผมของเด็กนั้นหยิก
  3. I washed my hair yesterday. แปลว่า ฉันสระผมเมื่อวานนี้
  4. My father is getting a few grey hairs now. (กล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง) 
  5. I found a hair in my soup! (กล่าวถึงเส้นผมเส้นหนึ่ง)

4 – แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้

เรามาลองทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกันเพื่อช่วยจดจำบทเรียนได้ดีขึ้นนะคะ อย่าพึ่งเปิดส่วนข้อเฉลยมาดูค่ะ เราต้องพยายามทำเอง ตามความเข้าใจของตัวเองก่อน แล้วเทียบกับข้อเฉลยดูว่าเราทำถูกผิดขนาดไหน นะคะ แบบฝึกหัดนี้สามารถหาเจอในเน็ตได้ง่ายๆ ค่ะ สำหรับผู้เรียนท่านไหนที่อยากทำแบบฝึกหัดเพิ่มให้ชินก็สามารถหาทำด้วยต้วเองง่ายๆ นะคะ

แบบฝึกหัดที่ 1: ลองดูคำนามเหล่านี้เป็นคำนามประเภทไหน

คำนามนับได้ (Countable Noun) หรือคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นะคะ

  1. tea →
  2. butter →
  3. song →
  4. living room →
  5. hour →
  6. coffee →
  7. child →
  8. homework →
  9. key →
  10. orange →

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

  1. If you want to know the news, you can read paper/ a paper.
  2. I had two tooths/teeth pulled out the other day.
  3. Light/a light comes from the sun.
  4. I was very busy, and I didn’t have time/ a time for

    breakfast

    today.

  5. Sue was very helpful. She is always willing to give us some very useful advice/advices everytime we need.
  6. Did you raise these tomato/tomatoes in your garden?
  7. We were very

    unfortunate

    . We had bad luck/a bad luck.

  8. I had to buy a/some bread for breakfast.
  9. Bad news don’t/doesn’t make people happy.
  10. My hair is/ My hairs are too long. I should have it/them cut three days ago.

แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนให้ประโยคเหล่านี้ได้สมบูนณ์และถูกต้อง

1. Study the next three (chapter).
2. Can you recommend some good (book)?
3. I had two (tooth) pulled out the other day.
4. You can always hear (echo) in this mountain.
5. They are proud of their (son-in-law).
6. Did you raise these (tomato) in your garden?
7. I think we need two (radio).
8. My (foot) really hurt.
9. The (roof) of these houses are tiled.
10. Get me two (loaf) of bread.

แบบฝึกหัดที่ 4: แก้คำผิดในประโยคเหล่านี้ให้ประโยคได้สมบูรณ์

1. There are many dirts on the floor. แปลว่า มีสิ่งสกปรกมากมายบนพื้น
2. We want more fuels than that. แปลว่า เราต้องการเชื้อเพลิงมากกว่านั้น
3. He drank two milks. แปลว่า เขาดื่มนมสองแก้ว
4. Ten inks are needed for our class. แปลว่า จำเป็นต้องใช้หมึกสิบอันสำหรับชั้นเรียนของเรา
5. He sent me many foods. แปลว่า เขาส่งให้ฉันอาหารเยอะมากมาย
6. Many golds are found there. แปลว่า พบทองคำจำนวนมากที่นั่น
7. He gave me a great deal of troubles. แปลว่า เขาทำให้ฉันมีปัญหามากมาย
8. cows eat glasses. แปลว่า พวกวัวกินยาเยอะแยะ
9. The rain has left many waters. แปลว่า ฝนตกน้ำหลักมาก
10. I didn’t have many luggages. แปลว่า ฉันไม่มีกระเป๋าเดินทางมากมาย

ข้อเฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. tea →Uncountable Noun เพราะมันเป็นน้ำที่เราจะเอามานับไม่ได้แน่นอน
  2. butter →Uncountable Noun ที่หมายถึงว่า เนย เป็นอาหารที่นับไม่ได้ถ้าไม่ระบุว่าอยู่ในกี่ห่อ หรือกี่กล่อง
  3. song →Countable Noun ที่สามารถนับได้ง่ายๆ ว่ามีทั้งหมดกี่เพลง
  4. living room →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เช่นในบ้านหลังหนึ่งจะมีห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกกี่ห้อง ห้องนอนกี่ห้อง ประมาณนั้น
  5. hour →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เหมือนกันว่าใช้กี่ชั่วโมงแล้ว
  6. coffee →Uncountable Noun ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหรือเป็นฝงที่เรานับไม่ได้ถ้าไม่แจ้งว่าบรรจุที่ไหน
  7. child →Countable Noun เป็นคำนามที่นับได้เพราะหมายถึงเด็กน้อย
  8. homework →Uncountable Noun เป็นคำนามที่นับไม่ได้
  9. key →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้
  10. orange →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้เพราะเป็นสิ่งของที่เราเห็นได้ จับได้และมันชัดเจนอยู่แล้ว

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. A paper
  2. Teeth
  3. Light
  4. Time
  5. Advice
  6. Tomatoes
  7. Bad luck
  8. Some
  9. Doesn’t
  10. My hair is

แบบฝึกหัดที่ 3:

  1. Chapters
  2. Books
  3. Teeth
  4. Echoes
  5. Sons-in-law
  6. Tomatoes
  7. Radios
  8. Feet
  9. Roofs
  10. Loaves

แบบฝึกหัดที่ 4:

  1. There is much dirt on the floor.  
  2. We want more fuel than that.
  3. He drank two glasses of milk.
  4. Ten pens are needed for our class.
  5. He sent me much food.
  6. Much gold is found there.
  7. He gave me a lot of trouble.
  8. Cows eat glass.
  9. The rain has left much water.
  10. I didn’t have much luggage.

ว่าอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์ดีๆ และรู้จักวิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) มันเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ถือว่าไม่ค่อยยากนะคะ แต่ก็ไม่ควรมองผ่านเพราะเป็นคำนามที่มักจะใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในการสื่อสารประจำวันถึงการเขียนบทความต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ติดตามเราเพื่ออัพเดทสารข้อมูลดีๆ ทุกวันนะคะ แชร์กันประสบการณ์เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking!

[NEW] ทั้งหมดเกี่ยวกับ Passive Voice ฉบับจัดเต็ม พร้อมอธิบายละเอียดสุดๆ! | has been แปลว่า – NATAVIGUIDES

Passive Voice คืออะไร แล้วมีหลักการใช้ยังไงบ้าง บทความเดียวนี้จะช่วยคุณหาทุกคำตอบเกี่ยวกับ Passive Voice ตั้งแต่หลักการใช้  Passive Voice ครบทั้ง 12 Tenses มาฝากกัน รับรองว่าเรียนได้อย่งกล้วยๆ จดจำได้ง่าย ใช้งานได้ดีแน่นอน

Passive Voice คืออะไร??

สำหรับ Passive Voice จะมีหลายๆ การอธิบาย แต่วันนี้ Eng Breaking จะสรุปให้คุณเข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Passive-Voice พร้อมตัวอย่างประโยคให้เห็นภาพได้ชัดดังนี้

เมื่อคุณเจอประโยคหนึ่งที่มีโครงสร้างของประโยคที่ประธาน “เป็นผู้ถูกกระทำ” นั้นจะเป็นประโยค Passive-Voice  เช่น

You should do your homework. แปลว่า  คุณควรทำการบ้าน

แต่ถ้าเปลี่ยนประโยคนั้นเป็นประโยค passive voice เราสามารถเขียนเป็นแบบนี้เลย Your homework should be done. แปลว่า การบ้านของคุณควรทำ เห็นไหมคะ ในประโยคนนี้ “homework” จะเป็นสี่งที่ถูกระทำ คือจพได้ทำให้เสร็จเรียบร้อยโดย “Your” หมายถึง คุณนะคะ แต่ในบ้างกรณีอย่างที่บอกแล้วว่า passive-voice นั้นจะเน้น ผู้ถูกกระทำ ดังนั้นใครเป็นคนทำไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะรู้ๆกันโดยนัยนะคะ

ถ้าพูดถึง passive voice ในภาษาอังกฏษเราก็ต้องพูดถึง Active Voice คือประธานเป็น “ผู้กระทำ” เอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือประโยคโครงสร้างแบบปกติที่เราใช้กัน เช่น

– Mary walks to school every Monday. (แมรี่ “เดิน” เอง)
– The teacher asked students to discuss the topic. (คุณครู “สั่ง” เอง)

รายละเอียดเกี่ยวกับความแตกต่างระกว่าง passive-voice และ Active Voice เดี๋ยวจะได้เขียนรายละเอียดในส่วนต่อไปนะคะ เพื่อช่วยให้คุณแยกให้ออกประโยคไหนคือ passive-voice และ ประโยคไหนเป็น Active Voice.

ตัวอย่างเกี่ยวกับ passive voice

  • My son was bitten by a dog จะเห็นเลยว่าในประโยคนี้ประธานเป็นผู้ที่ถูกกระทำคือ My son แต่ถ้าเราใช้เป็นประโยคแบบว่า A dog bit my son ประธานจะเปลี่ยนเป็น A dog เป็ยสีงที่กระทำ ดังนั้น My son was bitten by a dog เป็นประโยค passive voice ส่วน A dog bit my son เป็นปรพะโยค Active Voice.

ยกตัวอย่างเพิ่มเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ง่ายเกี่ยวกับเรื่องของ passive voice ดังนี้

  • The cheese cake was eaten เป็น ประโยค passive-voice  (Tom ate the

    cheesecake

    เป็น ประโยค Active Voice.)

  • His letter hasn’t been read yet  เป็น ประโยค passive voice   (Mina hasn’t read his letter yet เป็น ประโยค Active Voice.)
  • The report will be finished soon เป็น ประโยค passive-voice   (He will finish the report soon เป็น ประโยค Active Voice.)

โครงสร้าง Passive Voice

เคยสงสัยกันไหมว่าประโยค Passive-Voice มีรูปร่าง หน้าตาเป็นอย่างไร ทำอย่างไรเพื่อสังเกตประโยคนั้นๆ เป็นประโยค Passive Voice ? คำตอบจะมีดังต่อไปนี้

โครงสร้าง passive-voice หลักๆเลย  จะต้องมี Verb to be กำกับด้วยเสมอ (is, am, are, was, were, been) เขียนเป็นแบบนี้นะคะ V. to be + V.3  เห็นไหมคะในโครงสร้างประโยคนี้ส่วนคำนามที่อยู่ข้างหน้านั้น “โดนกระทำ” เช่น

– Eric read the novel in one day. แปลว่า Eric อ่านนิยายจบในวันเดียว นี่เป็นประโยคActive เพราะในประโยคนี้เน้นคำนามที่เป็นคนทำ คือ Eric เป็นผู้กระทำ
– แต่ถ้าเขียนตามโครงสร้างของ Passive เราจะมีประโยคอื่น คือ  The novel was read in one day. แปลว่า นิยายอ่านจบภายในวันเดียว ในประโยคนี้เน้นที่คำนามที่ถูกกระทำ คือหนังสือ และเข้าใช่กันเองว่าผู้กระทำคือ คนๆ หนึ่ง ไม่ใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เหมือนที่พูดด้านบนนะคะ

โครงสร้าง Passive Voice ใน tense ต่างๆ

ถ้าโครงสร้าง Passive-Voice จะเป็นแค่ V. to be + V.3  มันคงง่ายแล้วใช้ไหมคะ แต่ในไวยากรณ์ภาษาอังกฏษมีทั้งหทด 12 tense เลยนะคะ ถ้าเรียนไม่หมด แต่ก็ต้องเลือก tense ที่สำคัญๆ มา 5-7  tense  มักจะใช้บ่อยมาเรียนรู้กันเลยนะคะ เพื่อแก้ปัญหาคือเจอความสับสน ซับซ้อนของ Passive-Voice จะยังเกิดขึ้นเมื่อมันไปอยู่ใน tense ต่างๆ ทำให้หลายคนเริ่มมองไม่ออกว่าสรุปนี่คือ “โครงสร้าง Passive” รึเปล่านะ?

ไปดูโครงสร้าง Passive-Voice ในแต่ละ tense พร้อมกับ Eng Breaking กันดังต่อไปนี้ มีทั้งประโยคสรุปสั้นๆ และตารางให้เห็นชัดเลยนะคะ รับรองเข้าใจทั้งง่าย เข้าใจทั้งเร็ว ทั้ง Happy กับการเรียนภาษาอังกฏษด้วยตัวเองนะคะ

1. Present Simple (Passive): is/am/are + V.3
ในนั้นส่วน is/am/are คือหน้าตาของ V. to be ใน Present Simple

2. Present Con. (Passive): is/am/are + being +V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย เพื่อให้โครงสร้าง Present Con. ยังเหมือนเดิมคือ V. to be + V.ing

3. Present Perfect (Passive): has/have been + V.3
ในนั้นส่วน ของเดิม has/have + V.3 เลย เพราะงั้นต้องผัน V. to be ให้เป็น V.3 แทนก็คือ been เพื่อให้โครงสร้างหลักยังเป็น has/have + V.3 เหมือนเดิม แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

4. Past Simple (Passive): was/were + V.3
ในนั้นส่วน was/were คือหน้าตาของ V. to be ใน Past Simple (คือผัน V. to be ให้เป็นช่อง 2 ตามโครงสร้าง Past Simple ที่เป็น V.2)

5. Past Con. (Passive): was/were + being + V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย และไม่ต้องผันเป็นอดีต เพราะข้างหน้า (was/were) ผันไปแล้ว

6. Past Perfect (Passive): had been + V.3
ในนั้นส่วน ผัน V. to be ให้เป็น V.3 คือ been แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

7. Future Simple (Passive): will be + V.3
ในนั้นส่วน แค่เพิ่ม be + V.3 ไปตามหลัง will ที่ใช้ be เพราะตามหลัง will ต้องใช้ V.ไม่ผัน (ของ V. to be ก็คือ be)

8. Future Con. (Passive): will be + being + V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย

9. Future Perfect (Passive): will have been + V.3
ในนั้นส่วน ผัน V. to be ให้เป็น V.3 คือ been แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

สรุปเป็นตารางให้จดจำได้ง่ายๆ ตามนี้

โครงสร้าง passive voice ของ Present TenseSimS + is am are + V3ConS + is am are + being + V3PerS + have has + been + v3Per ConS + have has + been + being + V3

โครงสร้าง passive voice ของ Past TenseSimS + was were + v3ConS + was were + being + V3PerS + had + been + v3Per ConS + had + been + being + V3

โครงสร้าง passive voice ของ Future TenseSimS + will + be + V3ConS + will + be + being + V3PerS + will + have + been + v3Per ConS + will + have + been + being + V3

สรุปหลักการผันโครงสร้าง Passive

– ต้อง keep โครงสร้างเดิมไว้ด้วย
– ต่อท้ายเพิ่มโครงสร้าง Passive โดยถ้าต้องผัน จะผันที่ V. to be แทน (V.3 ข้างหลังไม่ต้องแตะค่ะ)

เชื่อว่าหลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูตัวอย่างประโยคทั้ง Active และ Passive Voice กันค่ะ

Passive Voice ต่างจาก Active Voice ยังไง?

ความแตกต่างของ Active กับ Passive Voice ขอแยกเป็นหัวข้อย่อยตามตาราง แยกออกระหว่าง โครงสร้างประโยค, จุดเด่นของ V. และ ความหมาย ดังต่อไปนี้

โครงสร้างประโยคPassive VoiceActive Voice S + V. to be + V.3 (สำคัญคือต้องมี V. to be + V.3 ที่แสดงความเป็น Passive)S + V (ประธาน + กริยา)

จุดเด่นของ V.Passive VoiceActive VoiceV ผันได้ แต่ต้องอยู่ในโครงสร้าง V. to be + V.3 เสมอ (เพื่อคงความเป็น Passive ไว้)V ผันตาม tense ได้ปกติ

ความหมายPassive VoiceActive VoiceS + V. to be + V.3 = ประธาน “โดนกระทำ” S + V = ประธาน “ทำกริยา”

สรุปง่ายๆ เพื่อจดจำได้นาน เกี่ยวกับเรื่อง Passive Voice ต่างจาก Active Voice ยังไง ตามนี้นะคะ

  • PASSIVE VOICE หมายถึง ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ 
  • ACTIVE VOICE หมายถึง ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำหรือแสดงกริยาโดยตรง
  • วิธีจำง่าย Active ทำเอง Passive ถูกท นะคะ จำได้แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ

วิธีการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice

เราสามารถเปลี่ยนประโยคหนึ่งจาก Active Voice เป็น Passive Voice ได้ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้นะคะ

  • นำกรรมในประโยค Active เปลี่ยนไปเป็นประธานของประโยค Passive
  • ใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง คล้อยตามประธาน
  • เปลี่ยนคำกริยาแท้ให้เป็น กริยาช่อง 3 (Verb3)
  • นำประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมของประโยค Passive โดยวางไว้หลัง by

ตัวอย่าง Active Voice เป็น Passive Voice ที่ใช้ใน Tense ต่างๆ

Present Simple Tense

  • Active: John writes a book. แปลว่า John เขียนหนังสือ จากนั้นรู้เลยว่า ประธานคือ John เป็นผู้กระทำ
  • Passive: That book is written by John. แต่สำหรับประโยคนี้จะเห็นเลยว่าประธานคือ หนังสือที่ได้เขียนมาโดย John. ดังนั้น หนังสือเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ

Past Simple Tense

  • Active: John wrote that book last year. แปลว่า John เขียนหนังสือเล่มนั้นเมื่อปีที่แล้ว
  • Passive: That book was written by John last year. แปลว่า หนังสือเล่มนั้นเขียนโดยจอห์นเมื่อปีที่แล้ว

Future Simple Tense

  • Active: John will write a book next year. แปลว่า จอห์นจะเขียนหนังสือในปีหน้า
  • Passive: That book will be written by John next year. แปลว่า หนังสือเล่มนั้นจะเขียนโดยยอห์นในปีหน้า

Present Continuous Tense

  • Active: John is writing a book. แปลว่า John กำลังเขียนหนังสือ
  • Passive: A book was being written by John. แปลว่า หนังสือเล่มหนึ่งกำลังเขียนโดย John

ตัวอย่างของ Passive Voice ในข้อสอบ Toeic

ตัวอย่างข้อสอบที่มักจะเจอบ่อยๆ ในข้อสอบ Toeic เรื่องของ passive voice พร้อมเฉลย

That novel __________ (write) by a famous artist.

สำหรับข้อที่ 1 นี้เราควรจะใช้คำว่า “was written” ประโยคสมบูรณ์คือ 

That novel was written by a famous artist. แปลว่านิยายเรื่องนั้นเขียนโดยศิลปินชื่อดัง

The milk ____________ (deliver) every day.

สำหรับข้อที่ 2 นี้เราควรจะใช้คำว่า “is delivered” ประโยคสมบูรณ์คือ

The milk is delivered every day. แปลว่า น้ำนมได้ส่งมาทุกวัน

 His car needs __________ (repair).

สำหรับข้อที่ 3 นี้เราควรจะใช้คำว่า “reparing/to be repaired” ประโยคสมบูรณ์คือ

 His car needs reparing/to be repaired. แปลว่า รถของเขาต้องการการซ่อมแซม

ตัวอย่างข้อสอบที่มักจะเจอบ่อยๆ ในข้อสอบ Toeic เรื่องของ passive voice

เปลี่ยนประโยคต่อไปนี้เป็น passive voice แต่ความหมายไม่เปลี่ยน

1. Mr. James teaches them vocabularies. แปลว่า Mr. James สอนคำศัพท์ให้พวกเขา

passive voice: They are taught vocabularies by Mr. James แปลว่า พวกเขาได้รับการสอนคำศัพท์โดย Mr. James

2. You should do your homework. แปลว่า  คุณควรทำการบ้าน

passive voice: Your homework should be done. แปลว่า การบ้านของคุณควรทำ

3. This bill includes service. แปลว่า บิลนี้รวมค่าบริการ

passive voice: Service is included by this bill. แปลว่า ค่าบริการรวมอยู่ในใบเรียกเก็บเงินนี้

4. Nobody told him that his parents came back. แปลว่า  ไม่มีใครบอกเขาว่าพ่อแม่กลับมา

passive voice: He wasn’t told that his parents came back. แปลว่า เขาไม่ได้บอกให้รู้ว่าพ่อแม่กลับมา

5. They used this fans all day. แปลว่า  พวกเขาใช้พัดลมนี้ทั้งวัน

passive voice: This fans were used all day. แปลว่า พัดลมนี้ได้เอามาใช้ไปทั้งวัน

หลักการใช้ passive voice

  • passive voice ก็คือ การนำกรรมของประโยค active voice มาเป็นประธานของประโยคนั่นเอง หรือเข้าใจได้ง่ายๆ คือ หลักการใช้ Passive Voice คือ ใช้เน้นผู้ถูกกระทำ ไม่เน้นผู้กระทำนั่นเอง  
  • บางที่ Passive voice อาจอยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ  เช่น This coffee isn’t made by Bob. แปลว่า กาแฟแก้วนี้ไม่ได้ถูกชงโดยบ๊อบ หรือคำถามก็ได้ เช่น  Is this coffee made by Tom? แปลว่า กาแฟแก้วนี้ถูกชงโดยทอมรึเปล่า?
  • นอกจากนั้นแล้ว เราก็สามารถใช้ passive voice ในรูปของ tense อะไรก็ได้ ตามสถานการณ์การใช้ของเรา

ว่าอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับเรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Passive Voice รู้แล้วใช่ไหมคะว่า Passive Voice คืออะไร หลักการใช้งานเป็นอย่างไรโดยตารางที่ช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น  โครงสร้าง ประโยค อธิบายละเอียดสุดๆ จาก Eng Breaking ของเรา Passive voice นิยมใช้ทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน โดยเฉพาะในภาษาหนังสือพิมพ์จะใช้บ่อยมากเลยอย่าพลาดกับส่วนไวยากรณ์ภาษาอังกฏษที่สำคัญนี้ และอย่าลืมติดตามเพื่อแชร์ประสบหการณ์ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกันนะคะ ไว้เจอกันในบทความต่อไป อย่าพลาดนะคะ

ความคิดเห็น 635 รายการ

 


Eat กับ Have ใช้แทนกันไม่ได้ 100% !! #อดัมไลฟ์


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Eat กับ Have ใช้แทนกันไม่ได้ 100% !! #อดัมไลฟ์

Die Scheef! Roxette – It must have been Love (Live in Concert)


Roxette It must have been Love

Die Scheef! Roxette - It must have been Love  (Live in Concert)

Charlie Puth – \”How Long\” [Official Video]


Voicenotes Available Now: https://Atlantic.lnk.to/VoicenotesID
Download and Stream \”How Long\”: https://Atlantic.lnk.to/HowLongID
Exclusive VoiceNotes Merchandise Bundles Available Here: http://smarturl.it/VoiceNotesD2CYT
Follow Charlie:
http://www.charlieputh.com
http://www.twitter.com/charlieputh
http://www.facebook.com/charlieputh
http://www.instagram.com/charlieputh

2018 HONDA CIVIC TOUR PRESENTS CHARLIE PUTH VOICENOTES
with Hailee Steinfeld
Tickets: http://www.HondaCivicTour.com
VIP: https://www.charlieputh.com/tour
HondaCivicTour
VoicenotesTour
VoicenotesTour Dates:
Toronto ON, Vienna VA, Irving TX are not affiliated with Honda Civic Tour
07/11 – Toronto, ON – Budweiser Stage
07/13 – Boston, MA – Blue Hills Bank Pavilion
07/16 – New York, NY – Radio City Music Hall
07/19 – Uncasville, CT – Mohegan Sun Arena
07/21 – Gilford, NH – Bank of New Hampshire Pavilion
07/22 – Saratoga Springs, NY – Saratoga Performing Arts Center
07/24 – Camden, NJ – BB\u0026T Pavilion
07/25 – Vienna, VA – Wolf Trap
07/27 – Charlotte, NC – PNC Music Pavilion
07/28 – Raleigh, NC – Coastal Credit Union Music Park at Walnut Creek
07/31 – Chicago, IL – Huntington Bank Pavilion at Northerly Island
08/02 – Clarkston, MI – DTE Energy Music Theatre
08/03 – Cincinnati, OH – Riverbend Music Center
08/05 – Noblesville, IN – Ruoff Mortgage Music Center
08/06 – Maryland Heights, MO – Hollywood Casino Amphitheatre
08/08 – St. Paul, MN – Xcel Energy Center
08/09 – Kansas City, MO – Starlight Theatre
08/11 – Albuquerque, NM – Isleta Amphitheater
08/12 – Las Vegas, NV – Pearl Concert Theater
08/14 – Los Angeles, CA – Greek Theatre
08/15 – Irvine, CA – FivePoint Amphitheatre
08/17 – Mountain View, CA – Shoreline Amphitheatre
08/18 – Stateline, NV – Lake Tahoe Outdoor Arena at Harvey’s
08/20 – Chula Vista, CA – Mattress Firm Amphitheatre
08/21 – Phoenix, AZ – AkChin Pavilion
08/23 – Irving, TX – Toyota Music Factory
08/24 – The Woodlands, TX – Cynthia Woods Mitchell Pavilion
08/26 – Rogers, AR – Walmart Amp (Arkansas Music Pavilion)
08/28 – Nashville, TN – Ascend Amphitheater
08/29 – Alpharetta, GA – Verizon Wireless Amphitheatre at Encore Park
08/31 – Tampa, FL – MIDFLORIDA Credit Union Amphitheatre
09/01 – West Palm Beach, FL – Coral Sky Amphitheatre at The South Florida Fairgrounds

Charlie Puth - \

VIETSUB | MV MÊ | THÁI TỪ KHÔN


TháiTừKhôn caixukun 蔡徐坤 迷
VIETSUB | MV MÊ | THÁI TỪ KHÔN
___
Trans: Cainii
Time: Cainii, Nguyệt Âm
Type: Nguyệt Âm, Dylin
Enc: Dylin
___
Link blog: https://www.facebook.com/wanderaroundandseecaixukun
Link video: https://share.api.weibo.cn/share/239063417.html?weibo_id=4663730740137560\u0026fbclid=IwAR0h9AjOUlCAS2cQ8o_YFLa_5ujiOygMiSLLchUsLHbDMXenEzUv2u24W0o

VIETSUB | MV MÊ | THÁI TỪ KHÔN

Rod Stewart – Have You Ever Seen The Rain (Official Video)


Rod Stewart’s official live video for ‘Have You Ever Seen The Rain’. Click to listen to Rod Stewart on Spotify: http://smarturl.it/RSSpot?IQid=RSSTR
As featured on Still The Same… Great Rock Classics Of Our Time. Click to buy the track or album via iTunes: http://smarturl.it/RSRCiTunes?IQid=RSSTR
Google Play: http://smarturl.it/RSSTRPlay?IQid=RSSTR
Amazon: http://smarturl.it/RSRCAm?IQid=RSSTR
More Great Classic Rock videos here: http://smarturl.it/ClassicRocks?IQid=…
More from Rod Stewart
Fooled Around And Fell In Love: https://youtu.be/Z4RmgDa5_dI
It’s Over: https://youtu.be/MAE35c5WRXY
Forever Young: https://youtu.be/PGznEXXWdoo
Follow Rod Stewart
Website: http://www.rodstewart.com/
Facebook: https://www.facebook.com/rodstewart
Twitter: https://twitter.com/rodstewart
Subscribe to Rod Stewart on YouTube: http://smarturl.it/ROSSub?IQid=RSSTR

Lyrics:
Someone told me long ago
There’s a calm before the storm,
I know,
It’s been comin’ for some time.
When it’s over, so they say,
It’ll rain a sunny day,
I know,
Shinin’ down like water.
I want to know, have you ever seen the rain?
I want to know, have you ever seen the rain
Comin’ down on a sunny day?\”

Rod Stewart - Have You Ever Seen The Rain (Official Video)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ has been แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *