Skip to content
Home » [Update] การใช้ Such as, E.g., I.e., For example, For instance และ Ex เพื่อยกตัวอย่างในภาษาอังกฤษ | เครื่องหมายภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] การใช้ Such as, E.g., I.e., For example, For instance และ Ex เพื่อยกตัวอย่างในภาษาอังกฤษ | เครื่องหมายภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เครื่องหมายภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

การเขียนบทความ เรื่องราว จดหมาย ข้อความ หรือเรื่องประเภทอื่น ๆ  หลายครั้งที่เราต้องยกตัวอย่างขึ้นมาประกอบ เพื่อให้เข้าใจความหมายได้ดียิ่งขึ้น ในภาษาอังกฤษ มีคำที่ใช้เพื่อบอกว่าตัวอย่างของสิ่งที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น มีตัวอย่างอะไรบ้าง ความหมายของคำเหล่านี้จะหมายถึง ตัวอย่างเช่น เช่น ได้แก่ นั่นคือ กล่าวคือ บทความนี้จะกล่าวถึงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เพื่อในประโยคที่ต้องการยกตัวอย่างมาประกอบ ได้แก่คำว่า

  • Such as
  • E.g
  • I.e.
  • For example
  • For instance
  • Ex.

Such as

  • Such as หมายถึง ได้แก่ หรือ ตัวอย่างเช่น
  • ใช้ในประโยคภาษาอังกฤษ เมื่อต้องการยกตัวอย่าง

ตัวอย่างเช่น

English is spoken in many countries, such as England, Australia and Canada.
ภาษาอังกฤษใช้พูดกันในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ ออสเตรเรีย และแคนาดา

Foods such as noodles and curry are my favorite meals.
อาหาร เช่น ก่วยเตี๋ยวและแกงกะหรี่ เป็นอาหารที่ฉันชื่นชอบ

Countries such as Sweden have a long record of welcoming refugees from all over the world.
ประเทศ เช่น สวีเดน มีประวัติอันยาวนานในการรับผู้ลี้ภัยจากทั่วโลก

I like tropical fruits, such as durians, jackfruits and mangoes
ฉันชอบผลไม้เมืองร้อน เช่น ทุเรียน ขนุน และมะม่วง

รูปแบบการใช้

1. ใช้ในประโยคภาษาอังกฤษเมื่อต้องการยกตัวอย่าง
2. Such as + noun (Such as ตามด้วยคำนาม หรือกลุ่มคำ(วลี))
3. หลังคำว่า such as ไม่ต้องมีเครื่องหมายคอมม่า
4. ก่อนหน้าคำว่า such as ในบางประโยคต้องมีเครื่องหมายคอมม่า บางประโยคไม่ต้องมี เป็นเรื่องของ Restrictive Clause

4.1 ประโยคที่ไม่ต้องมีเครื่องหมายคอมม่าก่อนหน้าคำว่า such as
ถ้า such as ใช้อธิบายคำนาม หรือสรรพนาม ซึ่งมักจะเป็นคำเดี่ยว ๆ กรณีนี้ไม่ต้องมี คอมม่าก่อนหน้าคำว่า such as

ตัวอย่างประโยค

Foods such as noodles and curry are my favorite meals.
อาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยว และแกงกระหรี่ เป็นมื้อโปรดของฉัน

จากตัวอย่าง such as noodle and curry are my favorite meals. ใช้เพื่ออธิบายคำว่า “foods” ซึ่งเป็นคำนามเพียงคำเดียว ในกรณีนี้ไม่ต้องมีเครื่องหมายคอมม่าก่อนหน้าคำว่า such as

4.2 ประโยคที่ต้องมีเครื่องหมายคอมม่าอยู่หน้า such as
การใช้ such as ในรูปแบบนี้เป็นการใช้ sush as เพื่อยกตัวอย่างประกอบประโยคที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ใช่ คำนามเดี่ยว ๆ

ตัวอย่างประโยค

English is spoken in many countries, such as England, Australia and Canada.
ภาษาอังกฤษใช้พูดกันในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ ออสเตรเรีย และแคนาดา

จากตัวอย่าง such as England, Australia and Canada ใช้ยกตัวอย่างประกอบ ประโยคที่กล่าวไปข้างต้นคือ English is spoken in many countries

ป.ล. ควรศึกษาเรื่อง Restrictive Clause เพิ่มเติม

E.g.

  • E.g. หมายถึง เช่น หรือ ตัวอย่างเช่น
  • E.g. เป็นตัวย่อจากภาษาละตินของคำว่า ‘exempli gratia’ ซึ่งความหมายตรงกับภาษาอังกฤษกับคำว่า “for example”
  • ใช้เพื่อยกตัวอย่าง สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นว่ามีอะไรบ้าง

ตัวอย่างเช่น

I love to eat vegetables, e.g., carrots, morning glory, and broccoli.
ฉันชอบกินผัก ตัวอย่างเช่น แครอท ผักบุ้ง และบล็อกโคลี่

In this building, you’re allowed to have pets, e.g. cats and dogs.
ในตึกนี้ คุณได้รับอนุญาติให้เลี้ยงสัตว์ได้ เช่น แมว และ หมา

You should eat more food that contains a lot of fiber, e.g., vegetables, fruit, and whole grains
คุณควรทานอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะ ๆ ตัวอย่างเช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช

รูปแบบการใช้

  1. วางอยู่ตรงกลางประโยค เพื่อใช้เชื่อมประโยค
  2. E.g. + noun (e.g. ตามหลังด้วยคำนาม หรือกลุ่มคำ(วลี))
  3. ก่อน e.g. ต้องมีเครื่องหมาย , คั่นหลังจบประโยคก่อนหน้า
  4. หลัง e.g. ถ้าใช้เป็น e.g., (มีเครื่องหมายคอมม่าตาม) เป็นการเขียนแบบอเมริกัน
    – They sell computer components, e.g., motherboards, graphic cards, CPUs.
  5. หลัง e.g. ถ้าไม่มีเครื่องหมายคอมม่าตาม ใช้เป็น e.g. เป็นการเขียนแบบอังกฤษ
    – They sell computer components, e.g. motherboards, graphic cards, CPUs.

I.e.

  • i.e. หมายถึง นั่นคือ กล่าวคือ ซึ่งก็คือ หรือ เรียกอีกอย่างว่า
  • i.e. เป็นคำย่อจากภาษาละติน id est หรือมีความหมายในภาษาอังกฤษว่า “in other word” (เรียกอีกอย่างว่า) หรือ “that is” (นั่นคือ)
  • ใช้เมื่อต้องการอธิบายประโยคที่กล่าวไปแล้วเพิ่มเติม โดยใช้คำว่า นั่นคือ กล่าวคือ หรือ ซึ่งก็คือ ในการเชื่อมประโยค

ตัวอย่างเช่น

I am a vegetarian, i.e., I don’t eat meat.
ฉันเป็นคนกินอาหารมังสวิรัติ นั่นคือ ฉันไม่กินเนื้อ

The hotel is closed during low season, i.e., from April to October.
โรงแรมปิดทำการในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ซึ่งก็คือ จากเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม

I like Japanese food, i.e., sushi.
ฉันชอบกินอาหารญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ ซูชิ

Consistent exercise is necessary to maintain health, i.e., three to four times per week.
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีความจำเป็น เพื่อบำรุงรักษาสุขภาพ นั่นคือ สามถึงสี่ครั้งต่อสัปดาห์

รูปแบบการใช้

1. วางอยู่ตรงกลางประโยค เพื่อใช้เชื่อมประโยค
2. i.e. + noun (i.e. ตามหลังด้วยคำนาม หรือกลุ่มคำ(วลี))
3. ก่อน i.e. ต้องเครื่องหมายคอมม่า คั่นหลังจบประโยคก่อนหน้า
4. หลัง i.e. ถ้าใช้เป็น i.e., (มีเครื่องหมายคอมม่าตาม) เป็นการเขียนแบบอเมริกัน
– I like Japanese food, i.e., sushi.
5. หลัง i.e. ถ้าไม่มีเครื่องหมายคอมม่าตาม เขียนเป็น i.e. เป็นการเขียนแบบอังกฤษ
– I like Japanese food, i.e. sushi.

For example

  • For example หมายถึง ตัวอย่างเช่น
  • มีความหมายที่มีความชัดเจนอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เมื่อต้องการยกตัวอย่าง ก็คือการใช้คำว่า for example
  • โดยมากมักใช้ในการขึ้นต้นประโยค แต่ก็สามารถใช้วางอยู่กลางประโยคเพื่อเชื่อมประโยคได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น

Children should eat less fast food. For example, they should avoid eating burgers and chips.
เด็ก ๆ ควรกินอาหารฟาสฟูดส์น้อยลง ตัวอย่างเช่น พวกเขาควรหลีกเลี่ยงการกินเบอเกอร์และมันฝรั่งทอด

Our app has several features you will love. For example, you can use voice commands.
แอพของเรามีฟีเจอร์หลายอย่างที่คุณจะต้องชอบ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้

Calcium is in green leafy vegetables, for example, broccoli, kale and spinach.
แคลเซียมมีอยู่ในผักใบเขียว ตัวอย่างเช่น บล็อกโคลี่ คะน้าใบหยิก และผักโขม

I like water sports, for example, swimming, scuba diving, and jet skiing.
ฉันชอบกีฬาทางน้ำ เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ และเจ็ตสกี

วิธีใช้

1. For example + subject + verb (For example + ประธาน + กริยา)
2. For example + noun (For example + คำนาม)
3. สามารถใช้ได้ทั้ง ขึ้นต้นประโยค และวางอยู่ตรงกลางเพื่อเชื่อมประโยคได้
4. ถ้าใช้ขึ้นต้นประโยค ต้องมีคอมม่า คั่นอยู่ข้างหลัง For example
5. ถ้าวางอยู่ตรงกลางประโยค ประโยคก่อนหน้าต้องมีเครื่องหมายคอมม่าคั่นเมื่อจบประโยค และหลังคำว่า for example ต้องมีคอมม่าคั่นอีกที

For instance

มีวิธีการใช้เหมือน for example สามารถใช้แทน For example ได้เลย

มีวิธีการใช้เหมือน for example สามารถใช้แทน For example ได้เลย

Ex.

  • Ex. ไม่ใช่ตัวย่อของคำว่า example แต่พบเห็นการใช้ ex. ในการยกตัวอย่างได้บ่อยครั้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้
  • Ex. หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคำย่อของคำว่า example  แต่ที่จริงแล้ว เป็นคำย่อของคำว่า excercise ซึ่งแปลว่าแบบฝึกหัด

ตัวอย่างเช่น

See ex. 2.
ดูที่แบบฝึกหัดที่ 2

Please refer to ex. 3.
กรุณาอ้างอิงแบบฝึกหัดที่ 3

[Update] วิธีการใช้เครื่องหมาย colon ( : ) แบบละเอียดยิบ! | เครื่องหมายภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

หลายคนคงเคยเห็นและได้ยินชื่อเรียกของเครื่องหมาย “โคลอน” (colon) ที่มีหน้าตาแบบนี้  : “ กันอยู่บ้างนะคะ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้หลักการ วิธีใช้เครื่องหมายโคลอนนี้ว่าสามารถใช้ตอนไหน ใช้กับอะไรได้บ้าง

วันนี้พวกเรา DailyEnglish จะพาทุกคนมาเรียนรู้หลักการใช้เครื่องหมาย Colon ( : ) กัน เพราะจริงๆแล้วไอ้เครื่องหมายนี้มีวิธีการใช้จริงๆ ไม่กี่อย่างเท่านั้นเองค่ะ รับรองว่าไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิด

colonusage

กฎข้อที่ 1a  ใช้เพื่อแจกแจงสิ่งต่างๆ เพื่ออธิบายว่ามีสิ่งใดบ้างที่ต้องการพูดถึง จำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าเขียนตัวแรกสุดเป็นพิมพ์ใหญ่นะคะ หลังเครื่องหมายโคลอน ( : ) ให้ใช้พิมพ์เล็กอย่างเดียวโลด  (ยกเว้น เป็นนามชี้เฉพาะ ชื่อสถานที่ คน อะไรแบบนี้)

ตัวอย่างเช่น

You may be required to bring many things: sleeping bags, pans, utensils, and warm clothing. (คุณอาจจำเป็นต้องนำของไปหลายอย่าง นั่นก็คือ ถุงนอน, กระทะ, เครื่องใช้ต่างๆ และ เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น)
I want the following items: butter, sugar, and flour. (ฉันต้องการสิ่งของต่อไปนี้ ได้แก่ เนย น้ำตาล และแป้ง)
I need an assistant who can do the following: input data, write reports, and complete tax forms. (ฉันต้องการผู้ช่วยที่สามารถทำสิ่งดังต่อไปนี้ กรอกข้อมูล เขียนรายงาน และกรอกข้อมูลภาษี)

กฎข้อที่ 1b   หลังจากเครื่องหมายโคลอน ( : )  จะไม่ใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ไม่ว่าจะตามด้วยคำ (word) วลี (phrase) หรือประโยคไม่สมบูรณ์ (incomplete sentences) ยกเว้นเป็นคำนามชี้เฉพาะ

ตัวอย่างเช่น

He got what he worked for: a promotion (= คำ)
He got what he worked for: a promotion that paid a higher wage. (= วลี)

กฎข้อที่ 2 หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องหมายโคลอน ( : )  ถ้าเราต้องการไล่รายชื่อบางสิ่ง ในกรณีที่มีกริยา หรือบุพบทบอกตำแหน่งอยู่ด้านหลัง

ตัวอย่างเช่น

อย่าใช้  I want: butter, sugar, and flour.
ให้ใช้เป็น  I want butter, sugar, and flour. จะเหมาะสมกว่า

แต่ถ้าอยากใช้ : จริงๆ ให้เปลี่ยนเป็น
       Here is what I want: butter, sugar, and flour.

หรืออีกหนึ่งตัวอย่าง

อย่าใช้ I’ve seen the greats, including: Barrymore, Guinness, and Streep.
ให้ใช้ว่า I’ve seen the greats, including Barrymore, Guinness, and Streep.

แต่ถ้าอยากใช้ : จริงๆ ให้เปลี่ยนเป็น
        I’ve seen the greats: Barrymore,Guinness and Streep.

กฎข้อที่ 3 สามารถใช้เครื่องหมายโคลอน( : ) แล้วตามด้วยลิสท์รายชื่อของบางสิ่งทีละอัน โดยเรียงเป็นข้อๆทีละบรรทัด มีตัวอักษร ตัวเลข หรือจุดนำหน้าได้

*** การใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่นำหน้าหรือจบด้วยเครื่องหมายแสดงการจบประโยคต่างๆก็แล้วแต่กรณีไป อย่าง ถ้าในข้อนั้นๆเป็นประโยคก็ขึ้นต้นด้วยพิมพ์ใหญ่ก็อาจตามด้วยจุดฟูลสต็อป หรือเป็นเครื่องหมายอื่นๆก็ได้  ไม่ได้มีกฎบังคับที่ตายตัวขนาดนั้นในเรื่องนี้

ตัวอย่างเช่น

I want an assistant who can do the following:

  1. input data
  2. write reports
  3. complete tax forms

หรือ

The following are requested:

  • Wool sweaters for possible cold weather.
  • Wet suits for snorkeling.
  • Introductions to the local dignitaries.

หรือ

These are the pool rules:

  1. Do not run.
  2. If you see unsafe behavior, report it to the lifeguard.
  3. Did you remember your towel?
  4. Have fun!

 

กฎข้อที่ 4 ใช้เครื่องหมายโคลอน ( : ) แทนที่เซมิโคลอน ( ; )ได้ระหว่าง independent clause และ independent clause ด้วยกัน ในกรณีที่ independent clause อันที่สองนั้นทำหน้าที่อธิบาย ขยายความ ให้ตัวอย่างประกอบ หรือ ถอดความ independent clause ด้านหน้า

ตัวอย่างเช่น

He got what he worked for: he really earned that promotion. (เขาได้รับในสิ่งที่เขาทำไป นั่นคือ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง)

**** เรื่องของการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่หลังเครื่องหมายโคลอน นักเขียนและบรรณาธิการหลายคนเห็นสมควรว่าการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เป็นสิ่งที่ควรกระทำหากสิ่งที่ตามหลังเครื่องหมายโคลอนเป็นเรื่องทั่วไป หรือคำกล่าวที่เป็นจริง

ตัวอย่างเช่น

Remember the old saying: Be careful what you wish for. (ให้จำคำโบราณที่ว่า ระวังในสิ่งที่คุณหวังอยากจะได้)

กฎข้อที่ 5 ใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ในคำแรกของประโยคหรือคำพูดที่สมบูรณ์ที่ดึงมาจากที่อื่นหลังเครื่องหมายโคลอน ( : )

ตัวอย่างเช่น            The host made an announcement: “You are all staying for dinner.”

 

กฎข้อที่ 6 ใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่หลังเครื่องหมายโคลอนในกรณีที่หลังเครื่องหมายโคลอน ( : ) มีประโยคที่สมบูรณ์มากกว่าหนึ่งประโยค

ตัวอย่างเช่น       Dad gave us these rules to live by: Work hard. Be honest. Always show up on time.

กฎข้อที่ 7 ถ้าข้อความที่อ้างมามีมากกว่าหนึ่งประโยคขึ้นไป นักเขียนและบรรณาธิการหลายคนมักใช้เครื่องหมายโคลอน ( : ) นำหน้าแทนเครื่องหมายคอมมา (,)

ตัวอย่างเช่น       Dad often said to me: “Work hard. Be honest. Always show up on time.”

กฎข้อที่ 8 เพื่อขยายข้อความที่คัดมาจากแหล่งอื่น โดยขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายโคลอน ( : )  รูปแบบหนึ่งคือย่อหน้าไปประมาณหนึ่งนิ้วครึ่งทั้งทางด้านซ้ายและขวาจากขอบกระดาษ หรือเว้นวรรคเฉพาะทางด้านซ้ายก็ได้ โดยทั้งสองแบบไม่ต้องใส่เครื่องหมายคำพูด (“ “)

ตัวอย่างเช่น

The author of Touched, Jane Straus, wrote in the first chapter:

Georgia went back to her bed and stared at the intricate patterns of burned moth wings in the translucent glass of the overhead light. Her father was in “hyper mode” again where nothing could calm him down.

กฎข้อที่ ใช้เครื่องหมายโคลอน( : ) แทนเครื่องหมายคอมมา (,) ตามหลังคำขึ้นต้นในจดหมายธุรกิจ แม้แต่ตอนเขียนถึงใครก็ตามโดยใช้ชื่อจริงของเขาหรือเธอเฉยๆ บางคนอาจเห็นการใช้เครื่องหมายคอมมา ก็ใช้ได้นะคะ แต่ใช้ในงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก

ตัวอย่างเช่น

Dear Ms. Rodriguez: (แบบเป็นทางการมาก)
Dear Dave, (แบบไม่เป็นทางการ)

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.grammarbook.com/punctuation/colons.asp


คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit


คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit
คำศัพท์อังกฤษ ภาษาอังกฤษ กีฬาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ เพลง 1 ปีมี 12 เดือน by KidsOnCloud


มาเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของเดือนทั้ง 12 เดือน กันนะคะเด็กๆ

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ เพลง 1 ปีมี 12 เดือน by KidsOnCloud

การเรียก​ สัญลักษณ์​ หรือ เครื่อง​หมาย ในภาษาอังกฤษ​ Sign​/ Symbol #เรียน​ภาษาอังกฤษ​


อีฟได้รวบรวม​สัญลักษณ์​ที่ให้บ่อยในภาษาอังกฤษ​มาให้ดูค่ะ​ เชิญ​ชมค่ะ..
ภาษาอังกฤษ​ เรียน​ฟรี​ภาษาอังกฤษ​

การเรียก​ สัญลักษณ์​ หรือ เครื่อง​หมาย ในภาษาอังกฤษ​ Sign​/ Symbol #เรียน​ภาษาอังกฤษ​

18 คำศัพท์พื้นฐาน | ทางคณิตศาสตร์ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษ


วิดีโอนี้เกี่ยวกับ คำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เครื่องหมายทางคณิตสาตร์

18 คำศัพท์พื้นฐาน | ทางคณิตศาสตร์ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษ

วิธีการใช้ เครื่องหมายวรรคตอน ในภาษาอังกฤษ | Punctuation


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ การเทียบเสียงสระ ภาษาอังกฤษ ไทย
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

วิธีการใช้ เครื่องหมายวรรคตอน ในภาษาอังกฤษ | Punctuation

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เครื่องหมายภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *