Skip to content
Home » [Update] | การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] | การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การนัดหมาย (Making Appointments)

  • I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)

  • Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)

  • Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)

  • Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)

  • Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)

  • Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)

 

นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)

  • Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)

  • Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)

  • How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)

  • Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)

  • When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)

  • Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)

  • Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)

  • What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)

  • Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)

  • Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)

  • What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)

  • Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)

  • Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)

  • Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)

  • I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)

 

การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)

  • I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)

  • I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)

  • I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)

  • I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)

  • I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)

  • I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)

  • I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)

 

ตัวอย่างที่ 1 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

A        :         Good morning. I would like to make an appointment to see Mr. Smith. (สวัสดีครับ ผมอยากจะขอนัดพบคุณสมิธ)

B        :         When do you want to see him? (คุณต้องการพบเขาเมื่อไรครับ)

A        :         Is Friday at 9.00 a.m. convenient for him? (วันศุกร์ 9 โมงเช้าสะดวกสำหรับเขาไหมครับ)

B        :         Let me see first …. OK. Your appointment will be Friday at 9.00 a.m. (ผมขอดูก่อนนะ …. ตกลงครับ การนัดหมายของคุณคือ วันศุกร์ 9 โมง)

A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

 

ตัวอย่างที่ 2 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

(A = Somsri , B = Somchai)

A        :         Good morning, may I speak to khun Somchai, please? (สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับคุณสมชาย ครับ)

B        :         Hello, this is Somchai speaking. (สวัสดีครับ ผมสมชายพูดครับ)

A        :         This is Somsri, Mr. Somkiat’s secretary. He would like to make an appointment with you sometime next week. (ดิฉัน สมศรีค่ะ เป็นเลขานุการของคุณสมเกียรติ คุณสมเกียรติต้องการนัดพบคุณสัปดาห์หน้าค่ะ)

B        :         On what business he has with me? (เขาต้องการพบผมในเรื่องธุรกิจอะไรครับ)

A        :         He has a new proposal to present to you. (เขามีข้อเสนอใหม่ที่จะนำเสนอคุณค่ะ)

B        :         Certainly. I’m available on Tuesday from 10 to 12 in the morning. Could he come to see me at my office by that time? (ได้สิ ผมว่างวันอังคาร ตั้งแต่ 10-12 โมงเช้า เขาจะมาพบที่ออฟฟิตผมได้ไหมล่ะ)

A        :         Yes, he can. Thank you sir. (ได้ค่ะ เขาไปได้ ขอบคุณมากค่ะ)

B        :         OK. Bye. (ตกลงนะ สวัสดี)

[Update] การถาม-ตอบเรื่องเวลา ภาษาอังกฤษ | การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

คําศัพท์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถาม-ตอบเรื่องเวลา

วิธีพูดเมื่อจะถามถึงเวลา พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1. What’s the time?
2. What time is it please?
3. What time do you make it?

วิธีการตอบ พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1. It’s …
2. It’s just coming up to …
3. I make it …

วิธีบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
8.00น. = eight o’clock / eight a.m.
8.05น. = five ( minutes ) past eight / eight oh five
8.15น. = a quarter past eight / eight fifteen
8.25น. = twenty five ( minutes )
8.30น. = half past eight
8.40น. = twenty (minutes) to nine / eight forty
8.45น. = a quarter to nine / eight forty five
8.58น. = Two minutes to nine / eight fifty eight

หลักในการบอกเวลาภาษาอังกฤษก็คือ

1. สมมุติว่าเราใช้ 8 โมงเป็นหลัก ถ้า 8 โมงพอดีก็จะบอกว่า eight o’clock ” o’clock “เทียบได้กับ “โมง” ในภาษาไทย

2. ถ้าใน 8 โมงไปกี่นาทีก็จะต้องบอกว่า “กี่นาทีเลย 8 โมง” ตามวิธีพูดของภาษาอังกฤษซึ่งกลับกันกับภาษาไทย “เลย”ก็คือ”ผ่าน” ดังนั้น จึงเป็น ten minutese past eight o’clock แต่ในภาษาพูดจริงๆก็ตัดคำที่ไม่จำเป็นออกได้แก่ กับ เป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจกันเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ จึงเป็น ten past eight

3. แต่ถ้าเป็น 15 นาทีกับ 30 นาทีซึ่งเป็นหนึ่งใน4กับ1ใน2ของชั่วโมงนั้น ภาษาอังกฤษเขามีคำเฉพาะเรียกว่า quarter หรือ half คงจะให้คล้ายกับที่เราเรียก 25 สตางค์ ว่า 1 สลึง และ 30 นาทีที่เรียกว่าครึ่งชั่วโมงนั้นเอง
ดังนั้นถ้า 8.15 ก็จะเป็น a quarter past eight และ 8.30 เป็น half past eight

4. อย่างไรก็ตาม การใช้คำว่า past หรือ กี่นาทีเลย 8 โมง ตะใช้ถึงแค่ 30 นาที หรือ half ต่อจากนั้นต้องตั้งลำใหม่ คือใช้วิธีดูว่าอีกกี่นาทีจะถึงชั่วโมงหน้าคือ 9 โมง
“ถึง” นี้ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “to” นอกนั้นอิงตามเดิมเลยนะครับ
เพราะฉะนั้น 8.35 จึงเป็น twenty – five to nine และ 8.45 เป็น a quarter to nine
แต่ใน USA นิยมใช้ after แทน past และคำว่า of แทนคำว่า to

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันผู้คนนิยมใช้ระบบบอกเวลาเป็น 24 ชั่วโมง (the twenty-four hour clock) กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในตารางเวลาการเดินทางต่างๆ ซึ่งมีวิธีอ่านที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
08.00 hrs. = oh eight hundred hours
11.30 hrs. = eleven thirty
12.00 hrs. = twelve hundred hours / midday / noon
13.15 hrs. = thirteen fifteen hours
17.00 hrs. = seventeen hundred hours
21.05 hrs. = twenty – one oh five hours
24.00 hrs. = twenty – four hundred hours / midnight

วิธีการอ่านและการเขียนวันที่และเดือน

1. คนอังกฤษส่วนใหญ่จะเขียนวันที่ก่อนแล้วตามด้วยเดือน ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
11th February. / 11 February โดยอ่านว่า the eleventh of February

2. คนอเมริกันส่วนใหญ่จะเขียนเดือนก่อนแล้วค่อยวัน ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
February 11th / February 11 โดยอ่านว่า February (the) eleventh คือจะมี the หรือไม่มีก็ได้

วิธีเขียนวันเดือนปีเป็นตัวเลข
11th February 1996 อ่าน the eleventh of February , nineteen ninety – six
เขียนเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 3 แบบนะครับ
1. แบบอังกฤษ 11/2/96 หรือ 11-2-96 หรือ 11.2.96
2. แบบอเมริกา 2/11/96 หรือ 2-11-96 หรือ 2.11.96
3. แบบมาตราฐานระหว่างประเทศ 96-02-11 หรือ 96 02 11 เรียงจาก ปี-เดือน-วัน


อ่านเวลา ในภาษาอังกฤษ | How to tell time


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ การเทียบเสียงสระ ภาษาอังกฤษ ไทย
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

อ่านเวลา ในภาษาอังกฤษ | How to tell time

บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ การใช้ am pm ต่างกันยังไง o’clock ใช้ยังไง เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฟรี


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ การถามเวลา ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไรได้บ้าง o’clock คำอ่าน อ่านว่าอะไร ใช้ตอนไหนได้บ้าง a.m. กับ p.m. ต่างกันอย่างไร ใช้ยังไง ใช้ตอนไหน ตัวอย่างการใช้ วิธีการใช้เพื่อบอกเวลา พร้อมรูปนาฬิกาและตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ มากมาย รวมถึงการใช้ quarter และ past กับการถามตอบ เรื่องเวลา
รวมวิดีโอฝึกฟัง ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLrstMNlAK0Iu3XViE08wFLjyxyRFFhKYl
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บทสนทนาภาษาอังกฤษ ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100% โดย อาจารย์ต้นอมร

บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ การใช้ am pm ต่างกันยังไง o'clock ใช้ยังไง เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฟรี

การบอกเวลาภาษาอังกฤษ English by Kruthian


การบอกเวลาภาษาอังกฤษ English by Kruthian

Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (2/2)


คริสโตเฟอร์ ไรท์ เสนอ \”เคล็ดลับ\” วิธีการบอกวันที่ และเวลาทุกรูปแบบที่เราต้องเจอในวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งระบบ วัน/เดือน/ปี อย่างที่ใช้กันในหลายประเทศ และระบบ เดือน/วัน/ปี ที่ชาวอเมริกันนิยมใช้ รวมถึงการบอก \”เวลา\” ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังสับสน อาจารย์คริสจึงนำเสนอเคล็ดลับวิธีการบอกเวลา ทั้ง \”แบบง่าย\” และ \”แบบ (ไม่) ยาก (จนเกินไป)\” ติดตามได้ในรายการ Click
เคล็ดลับวิชา 10 หัวข้อในตำราเรียนที่ต้องรู้แต่เข้าใจยาก มาทำเป็นรายการสั้น ดูสนุก เข้าใจง่าย ในรายการ Click : ภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง Mahidol Channel
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (2/2)

บอกเวลาภาษาอังกฤษแบบง่าย(ที่สุดในโลก) | Tina Academy Ep.33


บอกเวลาภาษาอังกฤษแบบง่าย(ที่สุดในโลก)
รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://goo.gl/ZJVvgr
Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
Line ID: https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
@hxr4999x

บอกเวลาภาษาอังกฤษแบบง่าย(ที่สุดในโลก) | Tina Academy Ep.33

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *