บอก เวลา เป็น ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ หรือ Telling time in English กันค่ะ” ไปลุยกันเลย
Table of Contents
บทนำ
ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษานะคะ ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้
- British English แบบบริติช
- American English แบบอเมริกัน
โครงสร้างประโยคคำถาม
ประโยคคำถาม เพื่อถามถึงเวลา เช่น
ถามเวลาแบบ Direct question:
What time is it right now?
= ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว
เรามักจะเจอคำถามในลักษณะนี้ในสถานการณ์แบบเป็นกันเอง ภาษาที่ใช้จะดูใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนเราที่ถามทาง หรือ คนใกล้ตัว คุณพ่อ คุณแม่ เป็นต้น
ถามเวลาแบบ Indirect question: Can I know…= ขอทราบ/ถาม หน่อย…
Can you tell me what time it is?
= ขอถามหน่อยว่ากี่โมงแล้วExcuse me, can I know what time it is?
= ขอโทษนะ ขอทราบหน่อยว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว
การถามเวลาในรูปแบบประโยคลักษณะ Indirect questions นี้ ประโยคของเราจะดูเป็นทางการและสุภาพมากยิ่งข้น
บอกเวลาแบบ British English
ใน British English จะใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง โดยจะใช้เลข 1 -12 ตามด้วยคำบอกเวลา a.m. และ p.m. ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษนั่นเองค่า
การใช้ a.m. และ p.m.
a.m. = ante meridiem ใช้กับเวลา หลังเที่ยงคืน จนถึง ก่อนเที่ยงวัน
(00.01 a.m. – 11.59 a.m.)p.m. = post meridiem ใช้กับเวลาหลังเที่ยงวัน จนถึง ก่อนเที่ยงคืน
(12.00 p.m. – 11.59 p.m.)
หากว่าต้องการบอกเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา หรือพูด a.m. และ p.m. ตามด้วยเวลาต่างๆ ก็ได้ เช่นกันค่ะ
11.00 a.m. = eleven o’clock in the morning
แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า
05.00 p.m. = five o’clock in the afternoon
แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น
การใช้ to กับเวลาที่จะมาถึง (แสดงว่าตอนที่พูดยังไม่ถึงเวลานั้น)
เวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกิน 30 นาทีมาแล้ว ให้บอกนาทีที่เหลือก่อนจะถึงชั่วโมงถัดไป ตามด้วย “to” และชั่วโมงถัดไป เช่น
08.40 p.m. = twenty to nine
แปลว่า อีกยี่สิบนาทีจะถึงเก้านาฬิกาแล้ว
สำหรับ การบอกเวลาแบบ British English หากนาฬิกาเป็นเวลา 15 นาทีหรือ 45 นาที ให้ใช้คำว่า a quarter และหากเป็น 30 นาที ให้ใช้ half เช่น
06.15 a.m. = a quarter past six
07.30 a.m. = a half past thirty
การใช้ “past”
past เป็นคำคุณศัพท์ เมื่อใช้กับการบอกเวลา จะแปลว่า ผ่าน….มา……แล้ว โดยส่วนมากจะใช้กับเวลาที่ผ่านล่วงเลยมาไม่ถึง 30 นาที เช่น
10.20 a.m. = twenty past ten
แปลว่า ผ่านสิบนาฬิกามามายี่สิบนาทีแล้ว
ถือว่าเป็นการบอกเวลาทางอ้อม เพราะว่าไม่บอกมาตรงๆ มักจะเจอรูปแบบประโยคนี้ในสถานการณ์ปกติ ที่ไม่เร่งรีบ ในชั้นเรียน แต่อาจจะไม่ใช่การถามเวลาก่อนเที่ยงที่น้องๆหิวข้าว เป็นต้น
บอกเวลาแบบ American English
ซึ่ง American English จะมีการใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยจะใช้ตั้งแต่ตัวเลข 0 ไปจนถึง ตัวเลข 24 และส่วนใหญ่จะไม่มี a.m. และ p.m. ให้ยุ่งยาก ตามสไตล์ easy going ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนอเมริกันเลยทีเดียว ง่ายๆ ไม่ทำให้ยุ่งยาก
วิธีการบอกเวลาของชาวอเมริกันคือ ให้บอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที โดยทั่วมักจะในกรณีที่เป็นทางการมากๆ เช่น
เวลา 21.15 น. = twenty-one fifteen
เวลา 08.09* น. = eight O nine
ขออธิบายเพิ่มเติม:
*ใช้เสียง O อ่านว่า โอ จะใช้ แทนเลข 0 ใน American English
นอกจากนี้ยังมีคำวิเศษณ์เพื่อประมาณเวลา อีกด้วย เช่น about หรือ nearly ซึ่งแปลว่า ประมาณ หรือ เกือบๆ เช่น
เวลา 09.05 น. =It’s about nine o’clock (แม้ว่าจะผ่านมาแล้วตั้ง 5 นาทีก็ตาม)
เวลา 10.28 น. = It’s nearly half past ten (แม้ว่าจะยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ตาม)
บอกเวลาตอนเที่ยง
ในเวลาเที่ยงคืนหรือเที่ยงวัน สามารถใช้คำว่า “midnight” หรือ “midday / noon” แทนเลข 12 ได้ เช่น เวลา 00:00 น. แทนช่วงเวลานี้ ว่า midnight หรือ เวลา 12:00 น. แทนช่วงเวลานี้ว่า midday or noon
ส่วนในการพูดอย่างเป็นทางการ สามารถใช้ “a.m.” หรือ “p.m.” ประกอบได้อยู่เหมือนเดิม
เช่น เวลา 05:15 น. บอกได้ว่า
It is five fifteen a.m.
= เป็นเวลา ตีห้า สิบห้านาที
แต่ถ้าไม่เป็นทางการมาก เช่นบอกเวลาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน
ก็สามารถพูดได้ว่า It is ten fifteen. (ไม่ต้องบอก a.m. ก็ได้ แต่หากช่วงเวลาที่คุยเป็นกลางวัน เพื่อนก็จะเข้าใจไปโดยปริยายว่า มันคือเวลา สิบโมง สิบนาที )
ในกรณีที่ลืมว่า ควรจะใช้ a.m. หรือ p.m. ดี ให้ใช้วลีบอกเวลา เพ่อให้ผู้ที่เราพูดด้วยรู้ว่าเรากำลังบอกเวลาช่วงไหน โดยใช้ in/at แล้วตามด้วยช่วงเวลา เช่น
in the morning = ช่วงเช้า
at midday = เที่ยงวัน
at midnight = เที่ยงคืน
in the afternoon = ตอนบ่าย
in the evening = ตอนเย็น
at night = ตอนกลางคืน
แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่ แต่คนที่เลือกใช้ก็คือตัวเราเอง ครูแนะนำให้ดูบริบทการใช้ให้มากนะคะ เช่นตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้นะคะ
Situation I: At the train station (สถานการณ์เกิดที่ลานชาลาสถานีรถไฟ)
Romeo: Excuse me sir, what time is it now?
= ขอโทษนะครับ ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้วTom: It’s a half past ten.
= ตอนนี้ผ่านสิบนาฬิกามาครึ่งชั่วโมงแล้วครับRome: Thank you sir. When will the next train arrive?
= ขอบคุณครับ แล้วรถไฟเที่ยวถัดไปจะมากี่โมงครับTom: It will arrive in a minute.
= เดี๋ยวก็มาแล้วครับ
Situation II: At NokAcademy School (สถานการณ์เกิดที่โรงเรียน นกอะคาเดมี)
Nestie: Jenny, what time is it now?
= เจนนี่ ตอนนี้กี่โมงแล้วJenny: It’s 9 O’ clock. Why did you ask?
= ตอนนี้เก้าโมง ถามทำไมNestie: Oh my gosh, we need to go now.
= โอ้ มาย กอด เราต้องไปตอนนี้เลยJenny: Why?
= ทำไมล่ะNestie: The class was already begun 10 minutes ago.
= ชั้นเรียนเริ่มเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว (เราเข้าชั้นเรียนสาย 10 นาทีแล้ว)
น้องๆนักเรียนทุกคน อย่าลืมทบทวนบทเรียน ได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ See you again next time.
+2
[NEW] การถาม-ตอบเรื่องเวลา ภาษาอังกฤษ | บอก เวลา เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES
คําศัพท์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถาม-ตอบเรื่องเวลา
วิธีพูดเมื่อจะถามถึงเวลา พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1. What’s the time?
2. What time is it please?
3. What time do you make it?
วิธีการตอบ พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1. It’s …
2. It’s just coming up to …
3. I make it …
วิธีบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
8.00น. = eight o’clock / eight a.m.
8.05น. = five ( minutes ) past eight / eight oh five
8.15น. = a quarter past eight / eight fifteen
8.25น. = twenty five ( minutes )
8.30น. = half past eight
8.40น. = twenty (minutes) to nine / eight forty
8.45น. = a quarter to nine / eight forty five
8.58น. = Two minutes to nine / eight fifty eight
หลักในการบอกเวลาภาษาอังกฤษก็คือ
1. สมมุติว่าเราใช้ 8 โมงเป็นหลัก ถ้า 8 โมงพอดีก็จะบอกว่า eight o’clock ” o’clock “เทียบได้กับ “โมง” ในภาษาไทย
2. ถ้าใน 8 โมงไปกี่นาทีก็จะต้องบอกว่า “กี่นาทีเลย 8 โมง” ตามวิธีพูดของภาษาอังกฤษซึ่งกลับกันกับภาษาไทย “เลย”ก็คือ”ผ่าน” ดังนั้น จึงเป็น ten minutese past eight o’clock แต่ในภาษาพูดจริงๆก็ตัดคำที่ไม่จำเป็นออกได้แก่ กับ เป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจกันเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ จึงเป็น ten past eight
3. แต่ถ้าเป็น 15 นาทีกับ 30 นาทีซึ่งเป็นหนึ่งใน4กับ1ใน2ของชั่วโมงนั้น ภาษาอังกฤษเขามีคำเฉพาะเรียกว่า quarter หรือ half คงจะให้คล้ายกับที่เราเรียก 25 สตางค์ ว่า 1 สลึง และ 30 นาทีที่เรียกว่าครึ่งชั่วโมงนั้นเอง
ดังนั้นถ้า 8.15 ก็จะเป็น a quarter past eight และ 8.30 เป็น half past eight
4. อย่างไรก็ตาม การใช้คำว่า past หรือ กี่นาทีเลย 8 โมง ตะใช้ถึงแค่ 30 นาที หรือ half ต่อจากนั้นต้องตั้งลำใหม่ คือใช้วิธีดูว่าอีกกี่นาทีจะถึงชั่วโมงหน้าคือ 9 โมง
“ถึง” นี้ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “to” นอกนั้นอิงตามเดิมเลยนะครับ
เพราะฉะนั้น 8.35 จึงเป็น twenty – five to nine และ 8.45 เป็น a quarter to nine
แต่ใน USA นิยมใช้ after แทน past และคำว่า of แทนคำว่า to
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันผู้คนนิยมใช้ระบบบอกเวลาเป็น 24 ชั่วโมง (the twenty-four hour clock) กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในตารางเวลาการเดินทางต่างๆ ซึ่งมีวิธีอ่านที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
08.00 hrs. = oh eight hundred hours
11.30 hrs. = eleven thirty
12.00 hrs. = twelve hundred hours / midday / noon
13.15 hrs. = thirteen fifteen hours
17.00 hrs. = seventeen hundred hours
21.05 hrs. = twenty – one oh five hours
24.00 hrs. = twenty – four hundred hours / midnight
วิธีการอ่านและการเขียนวันที่และเดือน
1. คนอังกฤษส่วนใหญ่จะเขียนวันที่ก่อนแล้วตามด้วยเดือน ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
11th February. / 11 February โดยอ่านว่า the eleventh of February
2. คนอเมริกันส่วนใหญ่จะเขียนเดือนก่อนแล้วค่อยวัน ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
February 11th / February 11 โดยอ่านว่า February (the) eleventh คือจะมี the หรือไม่มีก็ได้
วิธีเขียนวันเดือนปีเป็นตัวเลข
11th February 1996 อ่าน the eleventh of February , nineteen ninety – six
เขียนเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 3 แบบนะครับ
1. แบบอังกฤษ 11/2/96 หรือ 11-2-96 หรือ 11.2.96
2. แบบอเมริกา 2/11/96 หรือ 2-11-96 หรือ 2.11.96
3. แบบมาตราฐานระหว่างประเทศ 96-02-11 หรือ 96 02 11 เรียงจาก ปี-เดือน-วัน
Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (2/2)
คริสโตเฟอร์ ไรท์ เสนอ \”เคล็ดลับ\” วิธีการบอกวันที่ และเวลาทุกรูปแบบที่เราต้องเจอในวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งระบบ วัน/เดือน/ปี อย่างที่ใช้กันในหลายประเทศ และระบบ เดือน/วัน/ปี ที่ชาวอเมริกันนิยมใช้ รวมถึงการบอก \”เวลา\” ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังสับสน อาจารย์คริสจึงนำเสนอเคล็ดลับวิธีการบอกเวลา ทั้ง \”แบบง่าย\” และ \”แบบ (ไม่) ยาก (จนเกินไป)\” ติดตามได้ในรายการ Click
เคล็ดลับวิชา 10 หัวข้อในตำราเรียนที่ต้องรู้แต่เข้าใจยาก มาทำเป็นรายการสั้น ดูสนุก เข้าใจง่าย ในรายการ Click : ภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง Mahidol Channel
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
Telling Time บอกเวลาภาษาอังกฤษแบบง่าย
ฟังไปเรื่อยๆ ศัพท์อังกฤษ 200 คำที่ใช้จริงบ่อยที่สุด
ติดตามแฟนเพจครูเชอรี่ได้ที่ https://www.facebook.com/cherry.englishbright/
Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (1/2)
คริสโตเฟอร์ ไรท์ เสนอ \”เคล็ดลับ\” วิธีการบอกวันที่ และเวลาทุกรูปแบบที่เราต้องเจอในวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งระบบ วัน/เดือน/ปี อย่างที่ใช้กันในหลายประเทศ และระบบ เดือน/วัน/ปี ที่ชาวอเมริกันนิยมใช้ รวมถึงการบอก \”เวลา\” ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังสับสน อาจารย์คริสจึงนำเสนอเคล็ดลับวิธีการบอกเวลา ทั้ง \”แบบง่าย\” และ \”แบบ (ไม่) ยาก (จนเกินไป)\” ติดตามได้ในรายการ Click
เคล็ดลับวิชา 10 หัวข้อในตำราเรียนที่ต้องรู้แต่เข้าใจยาก มาทำเป็นรายการสั้น ดูสนุก เข้าใจง่าย ในรายการ Click : ภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง Mahidol Channel
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/
การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ Telling the Time (แบบอังกฤษและอเมริกัน) | English Kids สนุก ep.1
ภาษาอังกฤษ การบอกเวลา ถามตอบเวลา tellingthetime การบ้านภาษาอังกฤษ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ บอก เวลา เป็น ภาษา อังกฤษ