กริยาช่องสอง: คุณกำลังดูกระทู้
ตื่นนอนแต่เช้า ก็เอากระเป๋าสะพายบนบ่า ก็คงต้องไปข้างหน้า ไปตามดอกไม้ว่าหายไปไหน…
ร้องกันไปจนจบเพลงแล้วขอถามว่า ตื่นนอน สะพาย ต้องไป ตามหา คำศัพท์เหล่านี้ เรียกว่าอะไร?
คำศัพท์ที่ว่ามานี้ ก็คือ คำกริยา (Verb) บอกการกระทำ นอกจากนี้ยังรวมไปถึง บอกอาการ ความมีอยู่ หรือสภาวะความเป็นอยู่ อีกด้วย
Table of Contents
1. Action verb (กริยาแสดงการกระทำ)
หรือ dynamic verb บอกอากัปกิริยา การเคลื่อนไหว ประกอบด้วย Transitive verb และ Intransitive verb
Transitive verb ว่าง่ายๆ ก็คือคำกริยาที่ต้องมีกรรมมาต่อท้าย ไม่ว่าจะเป็นคำนาม วลี หรือคำสรรพนาม เพื่อสื่อถึง คนหรือสิ่งของที่ถูกกระทบกระเทือนด้วยการกระทำของคำกริยานี้ โดยเขาว่ากันว่า สิ่งของจะเป็นกรรมที่ถูกกระทำตรงๆ ก่อน ส่วนคนเป็นกรรมที่ถูกกระทำรองลงมา
ตัวอย่าง Chakrit gave Kemika a diamond ring on their wedding day. หรือ Chakrit gave a diamond ring to Kemika on their wedding day.
แปลว่า ชาคริตมอบแหวนให้เขมิกาในวันแต่งงานของเขาทั้งคู่
คำอธิบาย กริยาในประโยคนี้ ก็คือ ให้ ให้อะไรล่ะจ๊ะ ให้แหวนเพชรงามๆ ให้ใครล่ะคะ แก่เขมิกา ว่าที่ภรรยาไงล่ะ มีกรรมมารับกริยา แบบตรงๆ นั่นคือแหวน กรรมรองๆ นั่นคือ คน ชื่อเขมิกา
สรุปแบบชัดๆ จัดปาย กรรมรองอยู่หน้ากรรมตรง คนอยู่หน้าสิ่งของ หรือมี to เชื่อม ของก็อยู่หน้าคนได้
Intransitive verb ตรงข้ามกับอันแรก ทว่าอันนี้ไม่ต้องมีกรรมมารับ จบแค่กริยาก็เข้าใจแล้ว
ตัวอย่าง Yada is sleeping.
แปลว่า ญาดากำลังนอนหลับ
คำอธิบาย ญาดานอนอยู่นะ รู้ยัง!! แค่นี้ก็เข้าใจแล้วว่าคนๆนี้นอนหลับอยู่ ก็พอจะมโนภาพออกมาได้หรอกหนา
2. Stative verb (กริยาแสดงสภาวะ)
คำกริยาที่มากกว่าการกระทำ มักจะเกี่ยวข้องกับความคิด ความสัมพันธ์ ประสาทสัมผัส การวัด อารมณ์หรือความรู้สึก การแสดงความเป็นเจ้าของ ดังนี้
agree, appear, believe, belong, concern, consist, contain, depend, deserve, disagree, dislike, doubt, feel, fit, hate, hear, imagine, impress, include, involve, know , like, love, matter, mean, measure, mind, need, owe, own, prefer, promise, realize, recognize, remember, seem, sound, suppose, surprise, understand, watch, weigh, wait
ตัวอย่าง This crown belongs to Zin.
แปลว่า มงกุฎนี้เป็นของซิน
คำอธิบาย belong เป็นคำกริยาเติม s เพราะประธาน This crown (มงกุฎนี้) มีสิ่งเดียว อันเดียว อะไรเดี่ยวๆเดียวๆ โดยทั่วไปกริยาต้องเติม s ส่วน belong แปลว่า เป็นเจ้าของ แสดงถึงสภาวะ การเป็นเจ้าของ ซึ่งคำกริยา ก็วางตามต่อ ประธานแบบนี้แหละนะ
แต่++ บางคำใช้ได้ทั้งกริยาบอกอาการและกริยาบอกสภาวะ แบบว่าเป็นไบ ฮึ ได้ทั้งสอง ซะงั้น ดังนี้เลย be, have, see, taste, think
ตัวอย่าง Arisa has a boyfriend. (Action verb)
แปลว่า อริสามีเพื่อนชายคนหนี่ง
ตัวอย่าง Arisa has a good time. (Stative verb)
แปลว่า อริสามีช่วงเวลาดีๆ
คำอธิบาย ประโยคแรกบอกอาการ บอกการกระทำ ประโยคที่สองบอกสภาวะความรู้สึก
3. Auxiliary verb (กริยาช่วย)
หรือ helping verb ใช้คู่กับคำกริยาหลักนะขอรับ ทุกท่าน แล้วจำเป็นต้องมีในประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม นะคร๊าบ โดยส่วนใหญ่มีสามแบบ ดังนี้
V.to be (is, am, are, was, were, been)
V. to do (do, does, did)
V.to have (have, has, had)
ตัวอย่าง Toon doesn’t get tried.
แปลว่า ตูนไม่เหน็ดเหนื่อย
คำอธิบาย does เติม not เป็น doesn’t แปลว่า ไม่ ใช้ในรูปประโยคปฏิเสธ วางไว้ข้างหน้า กริยาแท้ หรือกริยาจริง หรือกริยาที่บอกความหมายของประโยค ส่วน get (ได้รับ) บวกกับ tried (เหนื่อย) รวมเป็น ได้รับความเหน็ดเหนื่อย พอวาง ไม่ อยู่ข้างหน้า ก็กลายเป็น ไม่ได้รับความเหน็ดเหนื่อย พี่ตูน สู้ๆๆ ว่าง่ายๆจะปฏิเสธหรือตั้งคำถาม อย่าลืมใช้กริยาช่วย V. to be, V. to do, V. to have เด้อค่าเด้อ
4. Modal verb (กริยาช่วย)
แต่ แต่ แต่ช้าแต่ ต่างกับกริยาช่วยอันแรก ตรงที่มันมีความหมาย ในตัวมันเองนะคร้า ดังนี้
can, could, may, might, must, ought to, shall, should, will, would
ตัวอย่าง Will you run with Toon?
แปลว่า คุณจะวิ่งกับตูนไหม
คำอธิบาย กริยาช่วย will (จะ) เห็นป่ะ มีความหมายในตัวเองนะ รวมกับ กริยาแท้ run (วิ่ง) แปลได้ว่า คุณจะวิ่ง with Toon (กับตูน) ขยายให้สวยงาม เป็นคำถามท้าทาย แบบแมนๆไปเลยว่า คุณจะวิ่งกับพี่ตูนไหวมั้ย
5. Phrasal verb (กริยาวลี)
ก็บอกแล้วว่า เป็นวลี ธรรมดาที่ไหน จำไว้ กริยารวมกับบุพบท หรือกริยารวมกับวิเศษณ์ เอ้าๆๆ ตามมาดูกันใกล้ๆ ไปเลย
ตัวอย่าง Fan bing bing dresses up like an angle.
แปลว่า ฟ่านปิงปิงแต่งตัวสวยราวกับนางฟ้า
คำอธิบาย dress (แต่งตัว) เป็นกริยา ตามต่อด้วย up (ขึ้น) เป็นบุพบท รวมแล้วว่า แต่งตัวส้วยสวย
6. Irregular verb (กริยาสามช่อง)
กริยาช่องสาม ห้า เจ็ด ไม่ใช่!! สามช่อง กริยาช่องแรกที่ใช้กับเหตุการณ์ปัจจุบัน กริยาช่องสองที่ใช้กับอดีตที่จบไปแล้ว และกริยาช่องสามใช้ในรูปของ Past Participle ลองมาทวนความรู้เก่าสักหน่อยไหม?
eat, ate, eaten รับประทาน
drink, drank, drunk ดื่ม
grow, grew, grown เติบโต
go, went, gone ไป
ตัวอย่าง Jessica bought new sunglasses yesterday.
แปลว่า เจสสิกาได้ซื้อแว่นตาอันใหม่เมื่อวานนี้
คำอธิบาย bought (ได้ซื้อ) เป็นกริยาช่องสอง สามช่อง ท่องไป!! buy bought bought
เนื่องจาก เจสบอกว่าได้ซื้อมาเมื่อวานนี้นะคะ ย้ำ เมื่อวานนี้ จึงต้องใช้กริยา แสดงเหตุการณ์ที่เป็นอดีตนั่นคือ กริยาช่องสอง bought นั่นเอง ง่ายๆ จบสวยๆ
[NEW] ผันช่องกริยาของ”to full”- ผันกริยาในภาษาอังกฤษด้วยการผันกริยาของ bab.la | กริยาช่องสอง – NATAVIGUIDES
Indicative
they
you
we
you
are fulling
they
are fulling
you
are fulling
we
is fulling
are fulling
you
am fulling
they
you
we
you
were fulling
they
were fulling
you
were fulling
we
was fulling
were fulling
you
was fulling
have fulled
they
have fulled
you
have fulled
we
has fulled
have fulled
you
have fulled
have been fulling
they
have been fulling
you
have been fulling
we
has been fulling
have been fulling
you
have been fulling
had fulled
they
had fulled
you
had fulled
we
had fulled
had fulled
you
had fulled
had been fulling
they
had been fulling
you
had been fulling
we
had been fulling
had been fulling
you
had been fulling
will full
they
will full
you
will full
we
will full
will full
you
will full
will be fulling
they
will be fulling
you
will be fulling
we
will be fulling
will be fulling
you
will be fulling
will have fulled
they
will have fulled
you
will have fulled
we
will have fulled
will have fulled
you
will have fulled
Future perfect continuous
I
will have been fulling
you
will have been fulling
he/she/it
will have been fulling
we
will have been fulling
you
will have been fulling
they
will have been fulling
กริยา3ช่อง และ เทคนิคการท่องกริยา3ช่อง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
กริยา3ช่อง และ เทคนิคการท่องกริยา3ช่อง ในคลิปนี้เรามาจะมาทำความเข้าใจกับกริยา3ช่องและลิสคำกริยา3ช่อง เราจะมาฝึกท่องคำศัพท์ไปพร้อมๆกัน เพื่อช่วยทำให้เราออกเสียงได้ถูกต้อง และ ยังรวมไปถึงเทคนิคการฝึกท่องกริยา3ช่องภาษาอังกฤษด้วย irregular verb และ regular verb คืออะไร คลิปนี้มีคำตอบ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
กริยา3ช่อง ภาษาอังงกฤษ eng123
กริยา 3 ช่อง ( Irregular Verb ) ตอน E – K
กริยา 3 ช่อง ตอน EK
eat
fall
feel
fight
find
fly
forget
forgive
get
give
go
grow
hang
have
hear
hit
hide
hold
hurt
keep
know
จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀
กริยาช่อง 2 ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
เรียนคอร์สออนไลน์: http://www.learningtreeuk.com
ติดตามทางเฟสบุ๊ค: http://www.facebook.com/learninguk
ติดต่อสอบถาม: https://line.me/R/ti/p/%40ttw7272u
และไลน์ของครูพิม pimolwan1984
ภาษาอังกฤษ ป.6 เรื่อง กริยาช่อง 2 By ครูเกษราวัลย์ เชียรธานรักษ์
ภาษาอังกฤษ ป.6
เรื่อง กริยาช่อง 2
By ครูเกษราวัลย์ เชียรธานรักษ์
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยาช่องสอง