Skip to content
Home » [NEW] Relative pronoun คืออะไร มีการใช้อย่างไร | การใช้ which กับ that – NATAVIGUIDES

[NEW] Relative pronoun คืออะไร มีการใช้อย่างไร | การใช้ which กับ that – NATAVIGUIDES

การใช้ which กับ that: คุณกำลังดูกระทู้

Relative pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน เพราะมีรายละเอียดเยอะ และสามารถใช้ได้หลากหลายแบบ

สำหรับคนที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง relative pronoun ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้อ่านกันแบบง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Relative pronoun คืออะไร

Relative pronoun คือคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ ซึ่งได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น

The student who won the contest is my son.
นักเรียนคนที่ชนะการประกวดเป็นลูกชายของฉัน

จากประโยคตัวอย่าง

  • ถ้าเขียนแยกกันจะได้เป็น 2 ประโยคคือ The student is my son. He won the contest.
  • Relative pronoun ซึ่งในที่นี้ก็คือ who ทำหน้าที่เชื่อม 2 ประโยคนี้เข้าด้วยกัน โดยจะนำส่วน “won the contest” เข้าไปขยายคำว่า student ในประโยคแรก
  • เราจะเรียก “who won the contest” ว่า relative clause โดยจะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ student ทำให้เรารู้ว่ากำลังพูดถึงนักเรียนคนไหน

(Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun)

ภาพรวม relative pronoun

Relative pronounรายละเอียดการใช้ตัวอย่างประโยคWhoใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย)Neil Armstrong was the first person who walked on the moon.
นีล อาร์มสตรองเป็นบุคคลแรกที่เดินบนดวงจันทร์Whomใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ)This is Anne, whom you met at the seminar last week.
นี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อนWhoseใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ)I met a woman whose name is Sara.
ฉันได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งชื่อของเธอคือซาร่าWhichใช้กับสัตว์และสิ่งของI need help with this homework, which is due tomorrow.
ฉันต้องการความช่วยเหลือกับการบ้านอันนี้ มันต้องส่งพรุ่งนี้แล้วThatใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)This is the same bag that my mom has.
นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลยWhereใช้กับสถานที่I know a store where we can buy the phone cheaper.
ฉันรู้จักร้านที่เราสามารถซื้อโทรศัพท์ได้ถูกกว่าWhenใช้กับเวลาThere isn’t a day when I don’t think about her.
มันไม่มีซักวันเลยที่ฉันไม่ได้นึกถึงเธอWhyใช้กับเหตุผลI don’t know why he didn’t come.
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่มาการละ
relative
pronounเราสามารถละ relative pronoun ได้ เมื่อ relative pronoun แทนสิ่งที่เป็นกรรมThe person (who/whom/that) I met yesterday is Tim.
คนที่ฉันเจอเมื่อวานคือทิม

การใช้คอมม่า

การใช้คอมม่ากับ relative clause เราจะต้องรู้ก่อนว่า relative clause นั้นจำเป็นต่อประโยคหรือไม่

  • ถ้า relative clause เป็นส่วนที่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า defining clause หรือ restrictive clause) เราจะไม่ใช้คอมม่า
  • ถ้า relative clause เป็นส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า non-defining clause) เราจะใช้คอมม่า

ตัวอย่าง defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า)

This is the cat that I bought.
นี่คือแมวที่ฉันได้ซื้อมา
(ถ้าตัด “that I bought” ทิ้ง จะเหลือความหมายแค่ว่า “นี่คือแมว” ซึ่งจะเสียใจความสำคัญไป เลยถือว่าจำเป็น)

ตัวอย่าง non-defining clause (ไม่จำเป็น, ใช้คอมม่า)

John, who is my friend, is a chef at that restaurant.
จอห์น คนที่เป็นเพื่อนฉัน เป็นเชฟอยู่ที่ร้านอาหารร้านนั้น
(“who is my friend” เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจอห์น แต่ถ้าตัดออก ใจความสำคัญของประโยคก็ยังคงอยู่ เลยถือว่าไม่จำเป็น)

Relative pronoun ทุกตัวสามารถใช้ได้กับทั้ง defining และ non-defining clause ยกเว้น that กับ การละ relative pronoun ที่จะต้องใช้กับ defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า) เท่านั้น

พูดอีกแบบก็คือ เราจะไม่ใช้คอมม่า เมื่อใช้ relative pronoun เป็น that หรือเมื่อเราละ relative pronoun

หลักการใช้ relative pronoun

เรามาดูหลักการใช้ relative pronoun แต่ละตัว พร้อมกับตัวอย่างประโยคกัน

1. Who

ใช้ who แทนคนและสัตว์เลี้ยง

หลักๆแล้ว เราจะใช้ who กับคน แต่ก็อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย

I don’t like people who slam doors.
ฉันไม่ชอบคนที่ปิดประตูแรง
(who แทน people ซึ่งแปลว่า “ผู้คน”)

That is the cat who lives here.
นั่นคือแมวที่อาศัยอยู่ที่นี่
(who แทน cat ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง)

แต่เราจะไม่ใช้ who แทนสิ่งของ

This is the book that inspired me to be a teacher.
นี่คือหนังสือที่ทำให้ฉันอยากเป็นครู
(เราจะไม่ใช้ who กับสิ่งของ ซึ่งในที่นี้คือ book แต่เราจะใช้ which หรือ that แทน)

ใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม

เราสามารถใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม (สมัยก่อน เราจะใช้ who เป็นประธาน และใช้ whom เป็นกรรม แต่ในยุคหลังๆ ได้มีการหยวนให้ใช้ who เป็นกรรมได้ โดยเฉพาะในภาษาพูดหรือในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)

The woman who called me yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่โทรหาฉันเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นประธาน ซึ่งก็คือผู้หญิงที่โทรหาฉัน)

The woman who I called yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่ฉันโทรหาเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นกรรม ซึ่งก็คือผู้หญิงที่ฉันโทรหา)

2. Whom

ใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรม

เราจะใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรมในประโยค โดยเฉพาะการใช้ในภาษาเขียน และในภาษาที่เป็นทางการ (ในภาษาพูดและภาษาที่ไม่เป็นทางการ เราจะนิยมใช้ who มากกว่า)

He once had a lover whom he loved so much.
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีคนรักที่เขารักมาก

3. Whose

ใช้ whose แสดงความเป็นเจ้าของ แทนคน สัตว์ สิ่งของ

คำว่า whose เป็นคำที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ สามารถใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ อย่างเช่น

I talked to a parent whose child is very ill.
ฉันได้คุยกับผู้ปกครอง ซึ่งลูกของเค้านั้นป่วยมาก

We adopted a dog whose owner had passed away.
พวกเราได้รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งเจ้าของของมันได้เสียชีวิตไปแล้ว

The house whose roof is red belongs to me.
บ้านหลังที่มีหลังคาสีแดงนั้นเป็นของฉัน

4. Which

ใช้ which แทนสัตว์และสิ่งของ

เราจะใช้ which แทนสัตว์หรือสิ่งของ โดยจะใช้เป็นได้ทั้งประธานและกรรม

The elephant, which is very big, was seen near the village.
ช้างซึ่งตัวใหญ่มากได้ถูกพบเห็นอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน

She loves the cake which I bought.
เธอชอบเค้กที่ฉันซื้อมา

ใช้ which แทนทั้งประโยค

นอกจากการใช้ relative pronoun แทนคำนาม/คำสรรพนามแล้ว เรายังสามารถใช้แทนทั้งประโยคได้ด้วย โดยมักจะใช้ which

There is going to be a new election soon, which is good.
เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าดี
(which ในที่นี้แทนทั้งประโยค “There’s going to be a new election soon”)

5. That

ใช้ that แทนคน สัตว์ สิ่งของ

เราสามารถใช้ that แทนได้ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ทั้งที่เป็นประธานและเป็นกรรม แต่จะต้องใช้กับ defining clause เท่านั้น (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า)

ถ้าเทียบกันแล้ว การใช้ that จะฟังดูเป็นทางการน้อยกว่า who, whom และ which

The boy that talked to me is Jim.
เด็กผู้ชายที่พูดกับฉันคือจิม

I bought a new cat that is very cute.
ฉันซื้อแมวใหม่มา ซึ่งน่ารักมาก

Everyone loves the pizza that I made.
ทุกคนชอบพิซซ่าที่ฉันทำ

6. Where

ใช้ where แทนสถานที่

เราจะใช้ where แทนสถานที่ โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

The place where my aunt lives is beautiful.
ที่ที่ป้าฉันอยู่นั้นสวยนะ

7. When

ใช้ when แทนเวลา

เราจะใช้ when แทนเวลา โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

There will be a time when we must choose between what is easy and what is right.
มันจะมีเวลาที่เราต้องเลือกระหว่างสิ่งที่ง่ายกับสิ่งที่ถูกต้อง

8. Why

ใช้ why แทนเหตุผล

เราจะใช้ why แทนเหตุผล โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

Do you know the reason why he was late?
คุณรู้เหตุผลที่เขามาสายมั้ย

9. การละ relative pronoun

ละ relative pronoun ได้เมื่อแทนกรรม

เมื่อใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ เรามักจะละ relative pronoun แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อ relative pronoun เป็นกรรม และ relative clause เป็น defining clause (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า) เท่านั้น

English is the language (which/that) I love.
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ฉันรัก

การใช้ preposition

การใช้ preposition (เช่น in, on, at, to, with) ใน relative clause ถ้าเป็น whose กับ which เราสามารถเอา preposition มาไว้หน้า relative pronoun หรือไว้ข้างหลังตามปกติก็ได้ เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม อย่างเช่น

The room which I sleep in has two windows. (preposition อยู่ในตำแหน่งปกติ)
The room in which I sleep has two windows. (preposition อยู่ข้างหน้า)
ห้องที่ฉันนอนมีหน้าต่างสองบาน

การนำ preposition มาไว้ข้างหน้า relative pronoun จะทำให้ภาษาฟังดูเป็นทางการมากกว่าการเอาไว้ข้างหลัง การใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เราจึงมักจะเอาไว้ข้างหลังมากกว่า

แต่ถ้าเป็น whom เราจะต้องเอา preposition มาไว้ข้างหน้าเท่านั้น

There was only one boy to whom she spoke.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย

สำหรับ relative pronoun ตัวอื่นๆอย่าง who, that, where, when, why เราจะใช้ preposition ในตำแหน่งข้างหลังตามปกติ

There was only one boy who she spoke to.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย

สรุปเรื่อง relative pronoun

  • Relative pronoun ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
  • เราจะใช้ relative pronoun ในการเชื่อมประโยคหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ
  • Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun
  • ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักมีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (จำเป็น) เราจะไม่ใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (I don’t like people who slam doors.)
  • ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักไม่ได้มีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (ไม่จำเป็น) เราจะใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (My father, who lives in Bangkok, is an engineer.)
  • Relative pronoun ส่วนใหญ่จะเป็นได้ทั้งประธานและกรรม ยกเว้น whom ที่จะเป็นได้แค่กรรมเท่านั้น
  • การใช้ relative pronoun เป็นกรรม เราสามารถละ relative pronoun ได้ เช่น The person (who/whom/that) I met yesterday is Tim.
  • การใช้ relative pronoun แทนสิ่งต่างๆ จะมีข้อกำหนดว่าเราจะใช้ตัวไหนแทนสิ่งใดได้บ้าง
    • คน – who, whom (กรรม), whose, that
    • สัตว์ – who (สัตว์เลี้ยง), whose, which, that
    • สิ่งของ, สิ่งไม่มีชีวิต, สิ่งที่เป็นนามธรรม – whose, which, that
  • Where, when, why เป็น relative pronoun ที่มีขอบเขตการใช้ค่อนข้างเฉพาะ โดยเราจะใช้ where แทนสถานที่ ใช้ when แทนเวลา และใช้ why แทนเหตุผล
  • เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม การใช้ preposition ใน relative clause กับ whose และ which เราสามารถนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whose กับ which ได้ แต่มักจะทำเฉพาะในการเขียนที่เป็นทางการ
  • เมื่อใช้ whom การใช้ preposition ใน relative clause เราจะนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whom

จบแล้วนะครับกับนิยามและหลักการใช้ relative pronoun ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] [Grammar Tips] หลักการใช้ Relative Clause แบบจัดเต็ม | การใช้ which กับ that – NATAVIGUIDES

มีน้องๆอยากให้อธิบายเกี่ยวกับ Relative clause และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง น้องคนใดที่กำลังงงๆกับเรื่องนี้ แวะเข้ามาก่อนนะคะ

Relative Clause

Relative clause คืออะไร?

Relative clause คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกับ Adjective นั่นคือขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า, relative clause จะช่วยให้เรารู้ว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ คือ สิ่งใด หรือ ใครกันแน่ ทั้งนี้ Relative Clause เวลาใช้จะตามหลัง Relative Pronoun (who, whom, which, that, whose) และสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ

  1. Defining Relative Clause

  2. Non-defining Relative Clause

วิธีสร้างประโยคในรูปแบบ Relative Clause

ลองสมมุติว่า มีชายคนหนึ่งกำลังพูดกับเจนนี่ ถ้าน้องๆอยากรู้ว่าใครที่กำลังพูดกับเจนนี่ หากจะลองถามเพื่อน น้องๆอาจจะถามว่า

A man is talking to Jenny. Do you know the man?

ผู้ชายกำลังคุยกับเจนนี่ คุณรู้จักผู้ชายคนนั้นไหม?

ฟังดูแปลกไหมคะ? งานนี้ relative clause จะมาเป็นพระเอกช่วยให้ประโยคฟังดูราบรื่นขึ้นค่ะ โดยปกติเวลาจะเปลี่ยนประโยค 2 ประโยคให้เป็น Relative Clause เราจะดึงเอาส่วนที่เป็นประโยคหลักมาก่อนในที่นี้ก็คือ เราอยากรู้ว่าผู้ชายคือใคร ดังนั้น ประโยคหลักคือ :

Do you know the man…

จากประโยคข้างต้น เราไม่มีทางรู้เลยว่าผู้ชายที่พูดถึงเป็นใคร ดังนั้นเราจึงต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติม A man is talking to Jenny ใช้ A man เฉพาะในส่วนประโยคแรก และในส่วนที่สองเราแทนที่ด้วย relative pronoun (ใช้ who ในกรณีอ้างถึงบุคคล) ดังนั้นประโยคจะเปลี่ยนเป็น

Do you know the man who is talking to Jenny?

คุณรู้จักผู้ชายที่กำลังคุยกับเจนนี่ไหม?

พอเห็นภาพของการใช้งาน Relative Clause แล้วใช่ไหมคะ? ทีนี้ลองมาดูว่า Relative Clause ทั้งสองประเภท ใช้ต่างกันอย่างไรกันดีกว่าค่ะ

 

Defining and non defining

Defining และ Non-defining

เราใช้ defining relative clause เพื่อบอกถึงสิ่งที่เรากำลังพูดถึง (หากขาดไปก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าพูดถึงอะไร) เช่น

  • I like the woman who lives next door.

    (ถ้าเราไม่บอกว่า

    ‘who lives next door’

    ก็จะไม่ทราบเลยว่าหมายถึงผู้หญิงคนไหน).

 

เราใช้ non-defining relative clause บอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมของสิ่งที่เรากำลังพูดถึง (เราไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลนี้เพื่อที่จะเข้าใจว่าพูดถึงอะไร) เช่น

  • I live in London, which has some fantastic parks.

    (ทุกคนทราบดีว่าลอนดอนอยู่ที่ไหน ดังนั้น

    ‘which has some fantastic parks’

    ถือเป็นข้อมูลเพิ่มเติม จะมีหรือไม่มีก็ได้).

 

ลองมาดูรูปแบบการใช้ Defining relative clauses กันค่ะ
Defining Relative Clause โดยปกติแล้วจะมีลักษณะดังนี้
1. ทำหน้าที่คล้ายคำคุณศัพท์ (Adjective) เพื่อไปขยายนามที่อยู่ข้างหน้า ให้ได้ใจความสมบูรณ์และชัดเจนว่า หมายถึง ใคร สิ่งไหน หรือ ของใคร เป็นต้น
2. ไม่มีเครื่องหมาย comma (,) คั่นระหว่างนามกับ Defining Relative Clause
3. จะขึ้นต้นด้วยคำสรรพนาม (Relative Pronoun) ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับนามที่ขยาย เช่น ถ้าขยายนามที่เป็นคน Relative Pronoun ก็ต้องเป็นคำที่ใช้แทนคน ฯลฯ

 หน้าที่ของ Relative Pronoun จะมีหน้าที่อยู่ 3 ประการหลัก คือ

  1. ทำหน้าที่เป็นประธาน มี 2 แบบ คือ

1.1  ถ้าเป็นคนใช้ who เช่น

  • I’m looking for a secretary who can use a computer well.

ฉันกำลังมองหาเสมียนที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี

  • She has a son who is a doctor.

เธอมีลูกชายคนหนึ่งที่เป็นหมอ

1.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของใช้ which หรือ that เช่น

  • We bought a house which / that is 200 years old.

เราซื้อบ้านซึ่งอายุ 200 ปี

  • The iPad which / that is on the table is from America.

ไอแพด ตัวที่อยู่บนโต๊ะ มาจากอเมริกา

2 ทำหน้าที่เป็นกรรม มี 2 แบบ คือ

2.1 ถ้าเป็นคนใช้ whom เช่น

  • The woman whom I talked to yesterday is our new boss.

ผู้หญิงที่ฉันคุยด้วยเมื่อวานคือเจ้านายใหม่ของเรา

 

2.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของ ใช้ which หรือ that เช่น

  •  

    I like the puppy which Gabriel bought last week.

ฉันชอบลูกสุนัขที่กาเบรียลซื้อมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

3 ทำหน้าที่เป็นเจ้าของ มี 2 แบบ คือ

3.1 เป็นคน ใช้ whose เช่น

  • The man whose car is blue is Mark.

ผู้ชายที่รถของเขาสีน้ำเงินคือ มาร์ค

 

3.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของให้ใช้ of which เช่น

  • The cabinet of which drawer is broken has already been repaired.

ตู้ที่ลิ้นชักเสียมีคนมาซ่อมแล้ว

 

คราวนี้มาดู Relative อีกตัวที่เหลือ ก็คือ Non-defining relative Clause มีลักษณะที่สำคัญ อยู่ 3 ประการนะคะ
    1. เป็น clause ที่เพิ่มเข้ามา ไม่มีความจำเป็น แก่ใจความในประโยค เพียงแต่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้ความละเอียดมากขึ้น
    2. ต้องมีเครื่องหมาย comma ข้างหน้าและข้างหลัง clause เสมอ
    3. ต้องใช้ relative pronouns ซึ่งไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น who, whom ,whose หรือ which เท่านั้น จะใช้ that ไม่ได้เลย

ตัวอย่างเช่น 

  • My boss, who is very nice, lives in Manchester.

  • My sister, who I live with, knows a lot about cars.

  • My bicycle, which I’ve had for more than ten years, is falling apart.

 

ตัวอย่างและรูปแบบการใช้งาน Relative Pronouns

relative pronoun
use
example

who
subject or object pronoun for people
I told you about the woman who lives next door.

which
subject or object pronoun for animals and things
Do you see the cat which is lying on the roof?

which
referring to a whole sentence
He couldn’t read which surprised me.

whose
possession for people animals and things
Do you know the boy whose mother is a nurse?

whom
object pronoun for people, especially in non-defining relative clauses (in defining relative clauses we colloquially prefer who)
I was invited by the professor whom I met at the conference.

that
subject or object pronoun for people, animals and things in defining relative clauses (who or which are also possible)
I don’t like the table that stands in the kitchen.

ตัวอย่างและรูปแบบการใช้งาน Relative Adverbs 

Relative adverb (where/when/why) จะถูกใช้แทนที่ Relative Pronoun และ Preposition ลองดูประโยคตัวอย่างจะเห็นภาพชัดขึ้นนะคะ

That’s the restaurant in which we had dinner last night.
→ That’s the restaurant where we had dinner last night. 

relative adverb
meaning
use
example

when
in/on which
refers to a time expression
the day when we met him

where
in/at which
refers to a place
the place where we met him

why
for which
refers to a reason
the reason why we met him

OXBRIDGE

Institute


วิธีการใช้ This That These Those l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น l แกรมม่าภาษาอังกฤษที่ควรรู้ ป.3 ป.4


วิธีใช้ This That These Those ใช้งานอย่างไรให้ถูกต้อง
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ควรรู้
เยี่ยมชม Blog ของเรา: https://goo.gl/JthDFX
ติดตามช่องของเราได้ที่: https://goo.gl/Svd65u
============================================
แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ เพิ่มเติม
============================================
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ: https://goo.gl/EUg17d
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน: https://goo.gl/cFosez
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/pv6srr
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nYNBAx
คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: http://bit.ly/2nYJBA2
เกมส์ผ่อนคลายสมอง: https://goo.gl/TE4kJS
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สัตว์ต่างๆ: https://goo.gl/o7LmPY
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/nxPQEj
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ รูปร่าง รูปทรงเรขาคณิต: https://goo.gl/qpbF3q
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สี color: https://goo.gl/ZuE2YB
เกมส์ฝึกภาษาอังกฤษ: https://gooXgl/Z7uE8G
แอพเรียนภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nsZE7Y

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

วิธีการใช้ This That These Those l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น l แกรมม่าภาษาอังกฤษที่ควรรู้ ป.3 ป.4

Do กับ Make ใช้ต่างกันอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

Do กับ Make ใช้ต่างกันอย่างไร

การใช้ Direct speech กับ Indirect speech | Eng ลั่น [by We Mahidol]


เวลาเราอ่านหรือเขียนหนังสือภาษาอังกฤษ เราจะได้พบกับรูปประโยคของ Direct Speech และ Indirect Speech กันบ่อยมาก ๆ แต่เราก็ยังสับสนอยู่ดีว่าการเขียนรูปประโยคที่ถูกต้องของทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันยังไง
วันนี้พี่คะน้า รุ่นพี่วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล จะมาอธิบายการเขียนรูปแบบประโยคของ Direct Speech และ Indirect Speech ที่ถูกต้องในแบบฉบับที่สั้นกระชับและเข้าใจง่าย พร้อมแบบทดสอบท้ายคลิป เมื่อดูจบแล้วจะสามารถเขียนรูปประโยคทั้ง Direct Speech และ Indirect Speech ได้อย่างถูกต้องมั่นใจแน่นอน
DirectSpeech IndirectSpeech Engลั่น WeMahidol Mahidol
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
TikTok : https://www.tiktok.com/@wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

การใช้ Direct speech กับ Indirect speech | Eng ลั่น [by We Mahidol]

CareTalk x CareClubHouse : “Metaverse” โลกก้าวไป แต่นายกไทยยังใช้ทหารปลูกผักชี!?


“Metaverse” โลกก้าวไป แต่นายกไทยยังใช้ทหารปลูกผักชี!?
.
.
ในขณะที่มนุษยชาติกำลังมุ่งหน้าสู่ “Metaverse” โลกเสมือนจริงที่สร้างจากเทคโนโลยีอันซับซ้อน เพื่อเชื่อมโลกดิจิทัลกับโลกความเป็นจริงเข้าด้วยกัน
.
โลกที่แข่งขันกันพัฒนา Quantum Computing, Cryptocurrency และ AI เพื่อช่วยให้ชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
.
โลกที่ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์สภาพดินฟ้าอากาศ ปรับภูมิประเทศ เพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตทางการเกษตร อย่างอิสราเอลซึ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อพลิกทะเลทรายให้เป็นแปลงการเกษตร และบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
.
แต่ตัดภาพกลับมาที่นายกฯ ไทย แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร��พงด้วยการให้ทหารไปปลูกผักชี! (โอ้ พระเจ้า)
.
พบกันในครั้งนี้ พี่โทนี่จะพูดถึงเรื่องราวของเทคโนโลยีล้ำหน้าที่กำลังเป็นที่สนใจไปทั่วโลกอย่าง Metaverse จนถึงเรื่อง “ข้าวถูกแต่ผักแพง” ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเราขณะนี้
.
และแน่นอนว่า พี่โทนี่จะมาไขข้อสงสัยต่างๆที่ค้างคาใจใครหลายๆ คน \”ให้กระจ่าง\”
.
ใครมีข้อสงสัยเตรียมเอาไว้ถามได้เลยกับรายการ CareTalk x Care Clubhouse ในหัวข้อ
“Metaverse” โลกก้าวไป แต่นายกไทยยังใช้ทหารปลูกผักชี!?
แล้วพบกัน…
.
Metaverse
เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร
คิดเคลื่อนไทย

CareTalk x CareClubHouse : “Metaverse” โลกก้าวไป แต่นายกไทยยังใช้ทหารปลูกผักชี!?

การใช้ is am are be was were been หรือ verb to be – English Tips EP.6


is am are be was were been หรือที่ภาษาแกรมม่าร์เรียกว่า verb to be เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับประโยคในภาษาอังกฤษ คนที่เพิ่งเริ่มเรียนอาจจะยังใช้ถูกผิด สลับกันไปมา และยังไม่เข้าใจว่าบางคำนั้นใช้ยังไงกันแน่
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz

การใช้ is am are be was were been หรือ verb to be - English Tips EP.6

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การใช้ which กับ that

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *