Skip to content
Home » [NEW] Relative pronoun คืออะไร มีการใช้อย่างไร | สรรพนามคือ – NATAVIGUIDES

[NEW] Relative pronoun คืออะไร มีการใช้อย่างไร | สรรพนามคือ – NATAVIGUIDES

สรรพนามคือ: คุณกำลังดูกระทู้

Relative pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน เพราะมีรายละเอียดเยอะ และสามารถใช้ได้หลากหลายแบบ

สำหรับคนที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง relative pronoun ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้อ่านกันแบบง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Relative pronoun คืออะไร

Relative pronoun คือคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ ซึ่งได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น

The student who won the contest is my son.
นักเรียนคนที่ชนะการประกวดเป็นลูกชายของฉัน

จากประโยคตัวอย่าง

  • ถ้าเขียนแยกกันจะได้เป็น 2 ประโยคคือ The student is my son. He won the contest.
  • Relative pronoun ซึ่งในที่นี้ก็คือ who ทำหน้าที่เชื่อม 2 ประโยคนี้เข้าด้วยกัน โดยจะนำส่วน “won the contest” เข้าไปขยายคำว่า student ในประโยคแรก
  • เราจะเรียก “who won the contest” ว่า relative clause โดยจะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ student ทำให้เรารู้ว่ากำลังพูดถึงนักเรียนคนไหน

(Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun)

ภาพรวม relative pronoun

Relative pronounรายละเอียดการใช้ตัวอย่างประโยคWhoใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย)Neil Armstrong was the first person who walked on the moon.
นีล อาร์มสตรองเป็นบุคคลแรกที่เดินบนดวงจันทร์Whomใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ)This is Anne, whom you met at the seminar last week.
นี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อนWhoseใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ)I met a woman whose name is Sara.
ฉันได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งชื่อของเธอคือซาร่าWhichใช้กับสัตว์และสิ่งของI need help with this homework, which is due tomorrow.
ฉันต้องการความช่วยเหลือกับการบ้านอันนี้ มันต้องส่งพรุ่งนี้แล้วThatใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)This is the same bag that my mom has.
นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลยWhereใช้กับสถานที่I know a store where we can buy the phone cheaper.
ฉันรู้จักร้านที่เราสามารถซื้อโทรศัพท์ได้ถูกกว่าWhenใช้กับเวลาThere isn’t a day when I don’t think about her.
มันไม่มีซักวันเลยที่ฉันไม่ได้นึกถึงเธอWhyใช้กับเหตุผลI don’t know why he didn’t come.
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่มาการละ
relative
pronounเราสามารถละ relative pronoun ได้ เมื่อ relative pronoun แทนสิ่งที่เป็นกรรมThe person (who/whom/that) I met yesterday is Tim.
คนที่ฉันเจอเมื่อวานคือทิม

การใช้คอมม่า

การใช้คอมม่ากับ relative clause เราจะต้องรู้ก่อนว่า relative clause นั้นจำเป็นต่อประโยคหรือไม่

  • ถ้า relative clause เป็นส่วนที่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า defining clause หรือ restrictive clause) เราจะไม่ใช้คอมม่า
  • ถ้า relative clause เป็นส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า non-defining clause) เราจะใช้คอมม่า

ตัวอย่าง defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า)

This is the cat that I bought.
นี่คือแมวที่ฉันได้ซื้อมา
(ถ้าตัด “that I bought” ทิ้ง จะเหลือความหมายแค่ว่า “นี่คือแมว” ซึ่งจะเสียใจความสำคัญไป เลยถือว่าจำเป็น)

ตัวอย่าง non-defining clause (ไม่จำเป็น, ใช้คอมม่า)

John, who is my friend, is a chef at that restaurant.
จอห์น คนที่เป็นเพื่อนฉัน เป็นเชฟอยู่ที่ร้านอาหารร้านนั้น
(“who is my friend” เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจอห์น แต่ถ้าตัดออก ใจความสำคัญของประโยคก็ยังคงอยู่ เลยถือว่าไม่จำเป็น)

Relative pronoun ทุกตัวสามารถใช้ได้กับทั้ง defining และ non-defining clause ยกเว้น that กับ การละ relative pronoun ที่จะต้องใช้กับ defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า) เท่านั้น

พูดอีกแบบก็คือ เราจะไม่ใช้คอมม่า เมื่อใช้ relative pronoun เป็น that หรือเมื่อเราละ relative pronoun

หลักการใช้ relative pronoun

เรามาดูหลักการใช้ relative pronoun แต่ละตัว พร้อมกับตัวอย่างประโยคกัน

1. Who

ใช้ who แทนคนและสัตว์เลี้ยง

หลักๆแล้ว เราจะใช้ who กับคน แต่ก็อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย

I don’t like people who slam doors.
ฉันไม่ชอบคนที่ปิดประตูแรง
(who แทน people ซึ่งแปลว่า “ผู้คน”)

That is the cat who lives here.
นั่นคือแมวที่อาศัยอยู่ที่นี่
(who แทน cat ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง)

แต่เราจะไม่ใช้ who แทนสิ่งของ

This is the book that inspired me to be a teacher.
นี่คือหนังสือที่ทำให้ฉันอยากเป็นครู
(เราจะไม่ใช้ who กับสิ่งของ ซึ่งในที่นี้คือ book แต่เราจะใช้ which หรือ that แทน)

ใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม

เราสามารถใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม (สมัยก่อน เราจะใช้ who เป็นประธาน และใช้ whom เป็นกรรม แต่ในยุคหลังๆ ได้มีการหยวนให้ใช้ who เป็นกรรมได้ โดยเฉพาะในภาษาพูดหรือในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)

The woman who called me yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่โทรหาฉันเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นประธาน ซึ่งก็คือผู้หญิงที่โทรหาฉัน)

The woman who I called yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่ฉันโทรหาเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นกรรม ซึ่งก็คือผู้หญิงที่ฉันโทรหา)

2. Whom

ใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรม

เราจะใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรมในประโยค โดยเฉพาะการใช้ในภาษาเขียน และในภาษาที่เป็นทางการ (ในภาษาพูดและภาษาที่ไม่เป็นทางการ เราจะนิยมใช้ who มากกว่า)

He once had a lover whom he loved so much.
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีคนรักที่เขารักมาก

3. Whose

ใช้ whose แสดงความเป็นเจ้าของ แทนคน สัตว์ สิ่งของ

คำว่า whose เป็นคำที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ สามารถใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ อย่างเช่น

I talked to a parent whose child is very ill.
ฉันได้คุยกับผู้ปกครอง ซึ่งลูกของเค้านั้นป่วยมาก

We adopted a dog whose owner had passed away.
พวกเราได้รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งเจ้าของของมันได้เสียชีวิตไปแล้ว

The house whose roof is red belongs to me.
บ้านหลังที่มีหลังคาสีแดงนั้นเป็นของฉัน

4. Which

ใช้ which แทนสัตว์และสิ่งของ

เราจะใช้ which แทนสัตว์หรือสิ่งของ โดยจะใช้เป็นได้ทั้งประธานและกรรม

The elephant, which is very big, was seen near the village.
ช้างซึ่งตัวใหญ่มากได้ถูกพบเห็นอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน

She loves the cake which I bought.
เธอชอบเค้กที่ฉันซื้อมา

ใช้ which แทนทั้งประโยค

นอกจากการใช้ relative pronoun แทนคำนาม/คำสรรพนามแล้ว เรายังสามารถใช้แทนทั้งประโยคได้ด้วย โดยมักจะใช้ which

There is going to be a new election soon, which is good.
เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าดี
(which ในที่นี้แทนทั้งประโยค “There’s going to be a new election soon”)

5. That

ใช้ that แทนคน สัตว์ สิ่งของ

เราสามารถใช้ that แทนได้ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ทั้งที่เป็นประธานและเป็นกรรม แต่จะต้องใช้กับ defining clause เท่านั้น (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า)

ถ้าเทียบกันแล้ว การใช้ that จะฟังดูเป็นทางการน้อยกว่า who, whom และ which

The boy that talked to me is Jim.
เด็กผู้ชายที่พูดกับฉันคือจิม

I bought a new cat that is very cute.
ฉันซื้อแมวใหม่มา ซึ่งน่ารักมาก

Everyone loves the pizza that I made.
ทุกคนชอบพิซซ่าที่ฉันทำ

6. Where

ใช้ where แทนสถานที่

เราจะใช้ where แทนสถานที่ โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

The place where my aunt lives is beautiful.
ที่ที่ป้าฉันอยู่นั้นสวยนะ

7. When

ใช้ when แทนเวลา

เราจะใช้ when แทนเวลา โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

There will be a time when we must choose between what is easy and what is right.
มันจะมีเวลาที่เราต้องเลือกระหว่างสิ่งที่ง่ายกับสิ่งที่ถูกต้อง

8. Why

ใช้ why แทนเหตุผล

เราจะใช้ why แทนเหตุผล โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ

Do you know the reason why he was late?
คุณรู้เหตุผลที่เขามาสายมั้ย

9. การละ relative pronoun

ละ relative pronoun ได้เมื่อแทนกรรม

เมื่อใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ เรามักจะละ relative pronoun แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อ relative pronoun เป็นกรรม และ relative clause เป็น defining clause (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า) เท่านั้น

English is the language (which/that) I love.
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ฉันรัก

การใช้ preposition

การใช้ preposition (เช่น in, on, at, to, with) ใน relative clause ถ้าเป็น whose กับ which เราสามารถเอา preposition มาไว้หน้า relative pronoun หรือไว้ข้างหลังตามปกติก็ได้ เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม อย่างเช่น

The room which I sleep in has two windows. (preposition อยู่ในตำแหน่งปกติ)
The room in which I sleep has two windows. (preposition อยู่ข้างหน้า)
ห้องที่ฉันนอนมีหน้าต่างสองบาน

การนำ preposition มาไว้ข้างหน้า relative pronoun จะทำให้ภาษาฟังดูเป็นทางการมากกว่าการเอาไว้ข้างหลัง การใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เราจึงมักจะเอาไว้ข้างหลังมากกว่า

แต่ถ้าเป็น whom เราจะต้องเอา preposition มาไว้ข้างหน้าเท่านั้น

There was only one boy to whom she spoke.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย

สำหรับ relative pronoun ตัวอื่นๆอย่าง who, that, where, when, why เราจะใช้ preposition ในตำแหน่งข้างหลังตามปกติ

There was only one boy who she spoke to.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย

สรุปเรื่อง relative pronoun

  • Relative pronoun ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
  • เราจะใช้ relative pronoun ในการเชื่อมประโยคหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ
  • Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun
  • ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักมีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (จำเป็น) เราจะไม่ใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (I don’t like people who slam doors.)
  • ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักไม่ได้มีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (ไม่จำเป็น) เราจะใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (My father, who lives in Bangkok, is an engineer.)
  • Relative pronoun ส่วนใหญ่จะเป็นได้ทั้งประธานและกรรม ยกเว้น whom ที่จะเป็นได้แค่กรรมเท่านั้น
  • การใช้ relative pronoun เป็นกรรม เราสามารถละ relative pronoun ได้ เช่น The person (who/whom/that) I met yesterday is Tim.
  • การใช้ relative pronoun แทนสิ่งต่างๆ จะมีข้อกำหนดว่าเราจะใช้ตัวไหนแทนสิ่งใดได้บ้าง
    • คน – who, whom (กรรม), whose, that
    • สัตว์ – who (สัตว์เลี้ยง), whose, which, that
    • สิ่งของ, สิ่งไม่มีชีวิต, สิ่งที่เป็นนามธรรม – whose, which, that
  • Where, when, why เป็น relative pronoun ที่มีขอบเขตการใช้ค่อนข้างเฉพาะ โดยเราจะใช้ where แทนสถานที่ ใช้ when แทนเวลา และใช้ why แทนเหตุผล
  • เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม การใช้ preposition ใน relative clause กับ whose และ which เราสามารถนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whose กับ which ได้ แต่มักจะทำเฉพาะในการเขียนที่เป็นทางการ
  • เมื่อใช้ whom การใช้ preposition ใน relative clause เราจะนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whom

จบแล้วนะครับกับนิยามและหลักการใช้ relative pronoun ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[Update] Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | สรรพนามคือ – NATAVIGUIDES

Pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยและเป็นพื้นฐานในการเรียนแกรมม่าเรื่องอื่นๆ

ในบทความนี้ ชิววี่จะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun ว่ามันคืออะไร มีการใช้อย่างไร และมีตัวอย่างประโยคอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Pronoun คืออะไร

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น

John is my friend. He lives in the same town with me.
จอห์นเป็นเพื่อนฉัน เขาอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับฉัน

สังเกตว่า เราจะไม่ใช้ John ซ้ำในประโยคที่ 2 แต่จะเปลี่ยนไปใช้ he แทน คำว่า he ในที่นี้ก็คือ pronoun ซึ่งเป็นคำที่ใช้แทนคำนาม John นั่นเอง

ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

ตัวอย่างคำ pronoun มีอะไรบ้าง

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัว

Pronoun พื้นฐานจะมีอยู่ 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

Pronoun
ทำหน้าที่
เป็นประธานPronoun
ทำหน้าที่
เป็นกรรมPronoun
แสดงความเป็นเจ้าของPronoun สะท้อนIMeMineMyselfYouYouYoursYourself/YourselvesHeHimHisHimselfSheHerHersHerselfItItItsItselfWeUsOursOurselvesTheyThemTheirsThemselves

สำหรับ pronoun พื้นฐาน 7 ตัวนี้ ถ้าใช้เป็นประธานในประโยค เราจะต้องใช้รูปประธาน ซึ่งก็คือ I, you, he, she, it, we, they

She called me yesterday.
เธอโทรหาฉันเมื่อวาน

ถ้าใช้เป็นกรรม (ผู้ถูกกระทำ) ในประโยค เราจะต้องใช้รูปกรรม ซึ่งก็คือ me, you, him, her, it, us, them

I called her yesterday.
ฉันโทรหาเธอเมื่อวาน

ถ้าใช้บอกความเป็นเจ้าของ เราจะต้องใช้รูปแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs

This bag is hers.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเธอ

ถ้าประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน การใช้ pronoun เป็นกรรม เราจะต้องใช้รูปสะท้อน ซึ่งก็คือ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves

She can take care of herself.
เธอสามารถดูแลตัวเองได้

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น

Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose

Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none

Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

คำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2, 3

เราสามารถแบ่งประเภท pronoun เป็นสรรพนามบุรุษต่างๆได้ 3 ประเภท คือ

สรรพนามบุรุษที่ 1 (first-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด อย่างเช่นคำว่า

I – ฉัน
We – พวกเรา

สรรพนามบุรุษที่ 2 (second-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้ฟัง อย่างเช่นคำว่า

You – คุณ, พวกคุณ

สรรพนามบุรุษที่ 3 (third-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลอื่น (ผู้ที่อยู่นอกวงสนทนา) อย่างเช่นคำว่า

He – เขา
She – เธอ
It – มัน
They – พวกเขา

คำบุรุษสรรพนามกับแกรมม่า

ในภาษาอังกฤษ การใช้คำสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนหนึ่งหน่วย) อย่างเช่น he, she, it เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ เมื่อใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น is, does, has, คำกริยาที่เติม s/es)

She eats spicy food regularly.
เธอกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ

It is cute.
มันน่ารักจัง

แต่ถ้าเป็นคำสรรพนามพหูพจน์ หรือคำสรรพนามบุรุษอื่น เราจะต้องใช้คำกริยารูปพหูพจน์ (เช่น are, do, have, คำกริยาที่ไม่เติม s/es)

I eat spicy food regularly.
ฉันกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ

You are cute.
คุณน่ารักจัง

ตัวอย่าง pronoun ในประโยค

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยคการใช้ pronoun พื้นฐานทั้ง 7 ตัวกัน

1. I

I แปลว่า “ฉัน, ผม, ดิฉัน” ใช้เป็นประธานในประโยค

I want to be a lawyer.
ฉันอยากเป็นทนาย

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ me

My mom want me to be a lawyer.
แม่อยากให้ฉันเป็นทนาย

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของฉัน” เราจะใช้ mine

This pen is mine.
ปากกาด้ามนี้เป็นของฉัน

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “ฉัน” เราจะใช้กรรมเป็น myself

I believe in myself.
ฉันเชื่อในตัวฉันเอง

2. You

You แปลว่า “คุณ, พวกคุณ” ใช้เป็นประธานในประโยค

You are a good student.
คุณเป็นนักเรียนที่ดี

You are good students.
พวกคุณเป็นนักเรียนที่ดี

การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า you มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน

I don’t want you to be sad.
ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของคุณ/พวกคุณ” เราจะใช้ yours

My umbrella is broken. Can I borrow yours?
ร่มฉันพัง ขอฉันยืมของคุณได้มั้ย

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “คุณ/พวกคุณ” เราจะใช้กรรมเป็น yourself/yourselves

You should be proud of yourself.
คุณควรภูมิใจในตัวเอง

3. He

He แปลว่า “เขา” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศชาย) ใช้เป็นประธานในประโยค

Tim lives together with me. He is my roommate.
ทิมอาศัยอยู่ด้วยกันกับฉัน เขาเป็นรูมเมทของฉัน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ him

Tim is my roommate. I live together with him.
ทิมเป็นรูมเมทของฉัน ฉันอาศัยอยู่ด้วยกันกับเขา

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเขา” เราจะใช้ his

The black bag is mine, and the green one is his.
กระเป๋าใบสีดำเป็นของฉัน และใบสีเขียวเป็นของเขา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เขา” เราจะใช้กรรมเป็น himself

He called himself a clever man.
เขาเรียกตัวเองว่าคนฉลาด

4. She

She แปลว่า “เธอ” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิง) ใช้เป็นประธานในประโยค

She told me her secret.
เธอบอกความลับของเธอแก่ฉัน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ her

I told her my secret.
ฉันบอกความลับของฉันแก่เธอ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเธอ” เราจะใช้ hers

This book isn’t hers.
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของเธอ

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เธอ” เราจะใช้กรรมเป็น herself

She looks at herself in the mirror every morning.
เธอมองตัวเองในกระจกทุกเช้า

5. It

It แปลว่า “มัน” (ใช้กับสัตว์หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต) ใช้เป็นประธานในประโยค

This book is amazing. It was written by my uncle.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก มันถูกเขียนโดยคุณลุงของฉันเอง

การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า it มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน

This book is amazing. I just bought it yesterday.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก ฉันเพิ่งซื้อมันมาเมื่อวาน

คำว่า it แม้จะมีรูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเป็น its แต่เราจะไม่นิยมใช้กัน ถ้าจะใช้ ให้เราเลี่ยงไปใช้คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของแทน ซึ่งจะเขียนว่า its เหมือนกัน แต่เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง

This milk is past its expiration date.
นมอันนี้เลยวันหมดอายุแล้ว
(Its ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง เราจะไม่นิยมใช้คำว่า its เป็นคำสรรพนาม)

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “มัน” เราจะใช้กรรมเป็น itself

The cat is licking itself.
แมวกำลังเลียตัวมันเอง

6. We

We แปลว่า “พวกเรา” ใช้เป็นประธานในประโยค

We have been married for nearly three years.
พวกเราแต่งงานกันเกือบ 3 ปีแล้ว

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ us

The teacher told us to be quiet.
ครูบอกให้พวกเราเงียบ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเรา” เราจะใช้ ours

This land is ours.
ดินแดนแห่งนี้เป็นของพวกเรา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น ourselves

We have rights to protect ourselves.
พวกเรามีสิทธิที่จะป้องกันตัวเอง

7. They

They แปลว่า “พวกเขา” ใช้เป็นประธานในประโยค

They went on a trip to France last week.
พวกเขาไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ them

I had lunch with them yesterday.
ฉันกินข้าวเที่ยงกับพวกเขาเมื่อวาน

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเขา” เราจะใช้ theirs

This land isn’t theirs.
ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ของพวกเขา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น themselves

Many children have to look after themselves.
เด็กหลายๆคนต้องดูแลตัวเอง

เป็นยังไงบ้างครับกับ pronoun ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้จักและพอจะใช้ pronoun กันเป็นแล้ว ถ้ายังไงก็อย่าลืมหมั่นทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆด้วยนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


[ไทย] ชนิคของคำ นาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ สันธาน บุพบท อุทาน


ใหม่!! WINNER SHORTNOTE คอร์สเรียนออนไลน์ ติวเข้มหนังสือจากหนังสือ WINNER SHORTNOTE ให้น้องๆเตรียมพร้อมทุกสนามสอบ
⭐เนื้อหา WINNER SHORTNOTE ชนิดของคำ
คำนาม
คำสรรพนาม
คำกริยา
คำวิเศษณ์
คำสันธาน
คำบุพบท
คำอุทาน

⭐ดูจบแล้วกดกระดิ่ง เพื่อตั้งเตือน จะได้ไม่พลาด EP ถัดไป รับรองว่าจะจัดให้ทุกวิชาเลย!
TCAS ONET 9วิชาสามัญ นาม สรระพนาม กริยา วิเศษณ์ สันธาน บุพบท อุทาน
____________________________________________________________________
ฝากหนังสือจาก WINNER STUDY นะคะ ทุกเล่มตั้งใจเขียนโดยทีม นิสิตจุฬา
เพื่อสำหรับเตรียมสอบเข้าคณะที่ใช่มหาลัย ที่ชอบ
สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.ทาง LINE @winnerstudy
🍒WINNER SHORTNOTE
ครบ8วิชา ม.46(ไทย อังกฤษ สังคม วิทย์ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ใช้ได้ทุกสนามสอบ ทั้งใน โรงเรียน GAT PAT ONET 9 วิชาสามัญ
🍒WINNER 1000Q พันคิว วิทย์
รวม1000ข้อสอบ วิทย์ 4 วิชาม.46 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ดาราศาสตร์)
คล้ายข้อสอบจริงสุด โจทย์มี 3 ระดับ (ง่ายกลางยาก) ใช้สอบ ONET, PAT, 9 วิชาสามัญได้
เฉลยเข้าใจสุด และละเอียดมาก เหมือนได้ติวเตอร์ดีกรีจุฬาส่วนตัวตลอด 24 ชม.
🍒WINNER 1000Q พันคิว คณิต
รวม1000ข้อสอบ ตะลุยโจทย์คณิต ม.46​
คล้ายข้อสอบจริงสุด เหมือน PAT1 9วิชาสามัญ ONET
เฉลยละเอียดมาก ไม่ต้องไปติวก็เข้าใจ เหมือนมีติวเตอร์จุฬาอยู่ข้างๆ
ทำครบ ทำจบเล่ม สอบติดแน่!⭐️
ดูเพิ่มเติมได้ที่
YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCtSbwlAIU54zTlRco9q3u8A
IG: https://www.instagram.com/winnerstudyth/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

[ไทย] ชนิคของคำ นาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ สันธาน บุพบท  อุทาน

คำสรรพนาม


คำสรรพนาม

คำสรรพนาม – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4


พบสื่อการเรียนการสอนมากมายที่
http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4
เรื่อง คำสรรพนาม
ถ้าสื่อนี้ดีมีประโยชน์อยากให้ช่วยกดไลค์ หรือ กดติดตามครับ
จะได้มีคนเห็นสื่อการเรียนการสอนนี้มากขึ้น
เพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ในการเรียนการสอน
การทบทวน เป็นสื่อการสอน เป็นสื่อการเรียน ถือว่าท่าน
ได้ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนให้เด็กไทย หรือคนที่ยัง
ไม่รู้ว่ามีช่องเผื่อแพร่สื่อเหล่านี้ครับผม
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

คำสรรพนาม - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4

เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย


เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย

เรียกเป็นอะไร 10 ข้อ ลักษณะนามในวิชาภาษาไทย

คำสรรพนาม Pronoun | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร


Pronoun ( คำสรรพนาม ) คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง
CR.Ajarn Suparada
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
📌 เรียนภาษาอังกฤษ parts of speech คำนาม Noun คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=ViNTwawK5Bc\u0026t=512s
📌 คำคุณศัพท์ Adjective | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=C2k11x38yQc\u0026t=1s
📌 คำกริยา Verb | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=rAV5k89HOtM
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…​
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…​
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…​
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…​
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…​
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…​
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…​

คำสรรพนาม Pronoun  | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ สรรพนามคือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *