Skip to content
Home » [NEW] Present simple tense คืออะไร มีการใช้อย่างไร | โครงสร้างpresent simple – NATAVIGUIDES

[NEW] Present simple tense คืออะไร มีการใช้อย่างไร | โครงสร้างpresent simple – NATAVIGUIDES

โครงสร้างpresent simple: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Present simple tense เป็น tense พื้นฐานที่มีโครงสร้างเรียบง่ายมากที่สุด แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นหนึ่งใน tense ที่ใช้บ่อย และเป็นพื้นฐานของแกรมม่าหัวข้ออื่นๆอีกมากมาย

สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง present simple tense ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆแล้ว เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

Present simple tense คืออะไร

Present simple tense คือรูปคำกริยาที่ใช้กับข้อเท็จจริงทั่วไป สิ่งที่เป็นกิจวัตร หรือแผนการและตารางเวลา ซึ่งจะใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น go, come, eat) อย่างเช่น

I go to school every day.
ฉันไปโรงเรียนทุกวัน

แต่ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 เราจะต้องใช้คำกริยารูป s/es แทน (เช่น goes, comes, eats) อย่างเช่น

He goes to school every day.
เขาไปโรงเรียนทุกวัน

โครงสร้าง present simple tense

เมื่อเทียบกับ tense อื่นๆ present simple tense นั้นถือว่ามีโครงสร้างที่เรียบง่าย โดยหัวใจหลักอย่างหนึ่งของมันก็คือการใช้คำกริยาช่อง 1

แต่ present simple tense ก็มีความซับซ้อนนิดหน่อยตรงที่ว่า จะมีการใช้คำกริยารูป s/es ด้วย โดยจะมีหลักการคือ

  • ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ (เช่น we, they, boys, teachers, cats, pens) หรือเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1 และ 2 (I และ you) เราจะต้องใช้คำกริยารูปปกติ (เช่น go, come, eat)
  • ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (เช่น he, she, it, boy, teacher, cat, pen) เราจะต้องใช้คำกริยารูปที่เติม s/es (เช่น goes, comes, eats)

นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นในเรื่องชนิดของประโยคอีก ซึ่งประโยคแต่ละชนิด อย่างเช่น ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม ก็จะมีโครงสร้างและรายละเอียดการใช้ tense ที่ต่างกัน ซึ่งก็คือ

ทบทวนความรู้
Subject แปลว่า ประธาน
Verb แปลว่า คำกริยา
Object แปลว่า กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่นในประโยค I love you.
Complement แปลว่า ส่วนเติมเต็ม ซึ่งก็คือคำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน เวลาใช้มักจะตามหลัง linking verb (เช่น is, am, are, feel, seem) เช่นในประโยค I am a student.

ประโยคบอกเล่า

การใช้ present simple tense ในประโยคบอกเล่า จะมีโครงสร้างและตัวอย่างประโยคดังนี้

โครงสร้าง
Subject + verb 1 + (object/complement)

ตัวอย่างประโยคเช่น

I love my cat.
ฉันรักแมวของฉัน

The sun rises in the east.
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

ประโยคปฏิเสธ

การใช้ present simple tense ในประโยคปฏิเสธ จะมีโครงสร้างหลักๆ 2 แบบ คือ

1. ประโยคที่ใช้ verb to be เป็นคำกริยาหลัก

ถ้าประโยคมี verb to be (is, am, are) เป็นคำกริยาหลัก เราสามารถใช้ not หลัง verb to be ได้เลย โดยเราสามารถเขียนย่อ is not ให้เป็น isn’t และย่อ are not ให้เป็น aren’t ได้ แต่สำหรับ am not นั้น เราจะไม่ใช้รูปย่อ

โครงสร้าง
Subject + verb to be + not + (object/complement)

He isn’t an engineer.
เขาไม่ใช่วิศวกร
(รูปประโยคบอกเล่าคือ He is an engineer.)

They aren’t students.
พวกเขาไม่ได้เป็นครู
(รูปประโยคบอกเล่าคือ They are students.)

2. ประโยคที่ไม่ได้ใช้ verb to be เป็นคำกริยาหลัก

ถ้าประโยคมีคำกริยาหลักเป็นคำกริยาอื่นที่ไม่ใช่ verb to be เราจะใช้ do/does + not ไว้หน้าคำกริยาหลัก โดยเราสามารถเขียนย่อ do not เป็น don’t และย่อ does not ให้เป็น doesn’t ได้

โครงสร้าง
Subject + do/does + not + verb 1 + (object/complement)

(ในประโยคปฏิเสธที่ใช้ do/does เราจะใช้ does กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 และจะใช้ do กับประธานชนิดอื่นๆ และเราจะใช้คำกริยาหลัก เป็นคำกริยารูปปกติที่ไม่ได้เติม s/es เสมอ)

He doesn’t love me.
เขาไม่ได้รักฉัน
(รูปประโยคบอกเล่าคือ He loves me.)

Her friends don’t like me.
เพื่อนๆของเธอไม่ชอบฉัน
(รูปประโยคบอกเล่าคือ Her friends like me.)

ประโยคคำถาม

การใช้ present simple tense ในประโยคคำถาม จะมีโครงสร้างหลักๆ 2 แบบ คือ

1. ประโยคที่ใช้ verb to be เป็นคำกริยาหลัก

ถ้าประโยคมี verb to be (is, am, are) เป็นคำกริยาหลัก เราจะขึ้นต้นประโยคด้วย verb to be

โครงสร้าง
Verb to be + subject + (object/complement)?

ตัวอย่างประโยคเช่น

Is she angry?
เธอโกรธรึเปล่า
(รูปประโยคบอกเล่าคือ She is angry.)

Are they students?
พวกเขาเป็นนักเรียนรึเปล่า
(รูปประโยคบอกเล่าคือ They are students.)

2. ประโยคที่ไม่ได้ใช้ verb to be เป็นคำกริยาหลัก

ถ้าประโยคมีคำกริยาหลักเป็นคำกริยาอื่นที่ไม่ใช่ verb to be เราจะขึ้นต้นประโยคด้วย do/does แล้วคงคำกริยาหลักไว้หลังประธาน เหมือนประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง
Do/Does + subject + verb 1 + (object/complement)?

(ในประโยคคำถามที่ใช้ do/does เราจะใช้ does กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 และจะใช้ do กับประธานชนิดอื่นๆ และเราจะใช้คำกริยาหลัก เป็นคำกริยารูปปกติที่ไม่ได้เติม s/es เสมอ)

ตัวอย่างประโยคเช่น

Does he eat spicy food?
เขากินอาหารเผ็ดมั้ย
(รูปประโยคบอกเล่าคือ He eats spicy food.)

Do they speak English?
พวกเขาพูดภาษาอังกฤษมั้ย
(รูปประโยคบอกเล่าคือ They speak English.)

หลักการใช้ present simple tense

ใช้ present simple tense เมื่อใด

เราจะใช้ present simple tense เมื่อ

1. กล่าวถึงสิ่งที่เป็นจริงในปัจจุบัน

I am a student.
ฉันเป็นนักเรียน

Joe lives in Japan with his friend.
โจอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นกับเพื่อน

My parents own a restaurant.
พ่อแม่ฉันเป็นเจ้าของร้านอาหาร

2. กล่าวถึงสิ่งที่เป็นกิจวัตร

I play football every day.
ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน

The train leaves every morning at 7 a.m. 
รถไฟจะออกทุกๆเช้าตอน 7 โมง

We often watch movies together.
พวกเราดูหนังด้วยกันบ่อยๆ

3. กล่าวถึงข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ

The sun rises in the east.
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

Water boils at 100°C.
น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส

Students don’t generally have much money.
เด็กนักเรียนโดยทั่วไปแล้วไม่ได้มีเงินมาก

4. กล่าวถึงแผนการหรือตารางเวลา

The bus arrives at the bus stop every 15 minutes.
รถบัสจะมาถึงป้ายทุกๆ 15 นาที

The party starts at 9 o’clock.
ปาร์ตี้จะเริ่มตอน 9 โมง

The school term starts next month.
โรงเรียนจะเปิดเทอมในเดือนหน้า

5. ให้คำแนะนำ ข้อมูล หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ

To start the program, first you click the icon on the desktop.
ในการเริ่มโปรแกรม ก่อนอื่นให้คุณคลิกที่ไอคอนบนเดสก์ท็อป

First of all, you break the eggs and whisk with sugar.
ก่อนอื่นให้คุณตอกไข่และตีไข่กับน้ำตาล

You go straight along the road and turn right at the corner.
คุณตรงไปตามถนนแล้วเลี้ยวขวาตรงหัวมุม

(การให้คำแนะนำ หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ เราอาจละประธานได้ เช่น Go straight along the road and turn right at the corner. ซึ่งเราจะเรียกรูปประโยคที่ละประธานนี้ว่า imperative form)

เกร็ดความรู้
นอกจากกรณีเหล่านี้แล้ว เรายังสามารถใช้ present simple tense ในการเล่ามุขตลก หรือเล่าเรื่องราวต่างๆ (เช่น เรื่องราวชีวิต เรื่องราวคนอื่น เรื่องราวจากหนังสือ เรื่องราวจากหนัง) ได้อีกด้วย การใช้ present simple tense ในการเล่าเรื่อง จะช่วยให้เรื่องที่เล่านั้นดูสดใหม่และดูใกล้ตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้ past tense

คำบอกเวลากับ present simple tense

เนื่องจาก present simple tense จะถูกใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่เป็นกิจวัตร เราจึงมักจะเห็นคำบอกเวลาจำพวกคำบอกความถี่ (adverbs of frequency) ใน present simple tense บ่อยๆ ซึ่งคำเหล่านี้นั้นได้แก่

Adverbs of frequencyความหมายAlwaysเป็นประจำ, เสมอUsuallyมักจะNormallyโดยปกติGenerallyโดยปกติOftenบ่อยครั้งFrequentlyบ่อยครั้งSometimesบางครั้งOccasionallyเป็นครั้งคราวSeldomไม่ค่อยRarelyนานๆครั้งHardlyนานๆครั้งNeverไม่เคย

ตัวอย่างประโยคก็อย่างเช่น

I always wake up at 6 o’clock.
ฉันตื่นนอนตอน 6 โมงเป็นประจำ

Peter often takes notes during conference.
ปีเตอร์จดโน้ตบ่อยๆเวลาประชุม

He is never late.
เขาไม่เคยสาย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า adverbs of frequency นั้นจะถูกใช้ใน present simple tense บ่อยๆ แต่จริงๆแล้วก็สามารถใช้กับ tense อื่นๆได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

I always woke up at 6 o’clock when I was a student.
ฉันตื่นนอนตอน 6 โมงเป็นประจำ เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นนักเรียน
(เป็นกิจวัตรในอดีต ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว เราจึงใช้ past simple tense)

I will always love you.
ฉันจะรักคุณเสมอ
(เป็นการพูดถึงอนาคต เราจึงใช้ future simple tense)

สรุป present simple tense

  • Present simple tense คือรูปคำกริยาที่ใช้กับข้อเท็จจริงทั่วไป สิ่งที่เป็นกิจวัตร หรือแผนการและตารางเวลา ซึ่งจะใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น go, come, eat)
  • แต่ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (เช่น he, she, it, boy, teacher, cat, pen) เราจะต้องใช้คำกริยารูปที่เติม s/es (เช่น goes, comes, eats) แทน
  • ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม และประโยคปฏิเสธ จะมีโครงสร้างประโยคและรายละเอียดการใช้ tense ที่ต่างกัน สำหรับประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ ถ้าคำกริยาหลักไม่ใช่ verb to be เราจะต้องนำ do/does เข้ามาใช้ด้วย
  • เราจะใช้ present simple tense เมื่อ
    • กล่าวถึงสิ่งที่เป็นจริงในปัจจุบัน
    • กล่าวถึงสิ่งที่เป็นกิจวัตร
    • กล่าวถึงข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ
    • กล่าวถึงแผนการหรือตารางเวลา
    • ให้คำแนะนำ ข้อมูล หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ
    • ใช้เล่าเรื่องหรือเล่ามุขตลก เมื่อเราต้องการให้เรื่องนั้นดูสดใหม่หรือใกล้ตัวมากขึ้น
  • เรามักเจอคำบอกความถี่ (เช่น always, often, sometimes) ใน present simple tense บ่อยๆ เพราะเป็นคำที่ใช้บ่งบอกถึงความเป็นกิจวัตร แต่คำเหล่านี้ จริงๆแล้วก็สามารถใช้กับ tense อื่นๆได้ด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับใจความของประโยค

จบแล้วนะครับกับ present simple tense ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] หลักการใช้ Present Simple and Present Continuous ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย – Tuemaster เรียนออนไลน์ ม.ปลาย | โครงสร้างpresent simple – NATAVIGUIDES

ระหว่าง Present simple กับ Present continuous ว่าใช้งานต่างกันอย่างไร 

Present Simple Tense 

Present Simple Tense คือ การพูดถึงเรื่องทั่วไป เรื่องที่ทำซ้ำ ๆ ในปัจจุบัน

โครงสร้างประโยคของ Present Simple Tense 

– S + V.1 ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (He, She, It, The library, a dog, etc…) กริยาต้องเติม s/es 

He drives a taxi.
She eats pizza.
I live in Bangkok.

– S + Auxiliary Verb (กริยาช่วย) + V.1 (V.1 ไม่เติม s/es)

She can play tennis.
We must work hard.

โครงสร้าง Present Simple Tense

S+V1 (s,es)

Subject
Verb (s, es)

I, You, We,They
eat, go

He, She, It
eats, goes

หลักการใช้ Present Simple 

1. ใช้พูดถึงสิ่งที่เป็นความจริงทั่วไป (ทั้งเรื่องเกี่ยวกับตัวเราและความจริงตามธรรมชาติ)

I live in Bangkok. (ฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ)
The earth moves round the sun. (โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์)

2. ใช้พูดถึงนิสัย หรือกิจวัตรที่ทำเป็นประจำในปัจจุบัน

She eats fruit every day. (เธอกินผลไม้ทุกวัน)
I go to work by BTS. (ฉันไปทำงานโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส)

ข้อสังเกต: เหตุการณ์หรือการกระทำที่ทำเป็นประจำมักมีคำบอกความถี่ (Adverbs of frequency) แสดงอยู่ในประโยค 

3. ใช้พูดเกี่ยวกับสิ่งที่กำหนดไว้ว่าจะทำในอนาคต (มักเกี่ยวกับแผนงานและตารางเวลา)

Our holiday starts on the 11th August. (วันหยุดของพวกเราเริ่มต้นที่วันที่ 11 สิงหาคม)
The museum opens at 9.00 a.m. and closes at 5.00 p.m. (พิพิธภัณฑ์เปิดตอนเก้าโมงเช้าและปิดตอนห้าโมงเย็น)

4. ใช้เล่าเรื่องตลก สรุปเรื่องราวจากละคร ภาพยนตร์ นิยาย หรือรายงานการแข่งกีฬาแบบเรียลไทม์

In her new movie, Yaya plays a troubled woman. (ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ ญาญ่าเล่นเป็นนางร้าย)
Messi stops in mid-field and passes the ball to Suarez. (เมสซี่หยุดที่กลางสนามและผ่านบอลให้ซัวเรซ)

5. ใช้พูดแสดงความชอบ ความคิดเห็น ความรู้สึก โดยคำกริยาส่วนใหญ่ที่ใช้คือ like, love, prefer, know, understand, hate, need, want, believe, remember, see, hear, taste, smell, look

I need to know right now. (ฉันต้องรู้เดี๋ยวนี้)
Nadee likes eating dessert. (นาดีชอบกินของหวาน)
**eating ในที่นี่เป็น Gerund มีสถานะเป็นคำนาม หมายถึง การกิน

Present Continuous Tense

Present Continuous Tense คือ การพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในขณะนั้น แต่จะสิ้นสุดในไม่ช้า

โครงสร้าง present continuous tense

S + is, am, are + V ing

ประธาน + is, am, are + กริยาเติม ing

I
am
eating
He, She, It, A cat
is
eating
You, We, They, Cats
are
eating

โครงสร้างของ Present Continuous Tense

S + V to be (is, am, are) + V ing

She is talking to her friend.
I’m watching the movie.

หลักการใช้ Present Continuous Tense

1. ใช้พูดถึงสิ่งที่กำลังทำหรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะที่พูด

They are swimming in the pool. (พวกเขากำลังว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ)
He is having breakfast. (เขากำลังกินอาหารเช้า)

** เราสามารถเติมคำว่า just ข้างหน้า V ing เพื่อเน้นย้ำว่า กำลัง… ได้

He is just having breakfast.

2. ใช้พูดเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หรือต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ ซึ่งมักใช้กับกริยาที่มีการเคลื่อนที่

My dad is going to Tokyo on Friday. (พ่อของฉันกำลังจะไปโตเกียวในวันศุกร์)
I’m flying to Milan in September. (ฉันกำลังจะบินไปมิลานในเดือนกันยายน)

ข้อควรจำ: คำกริยาบางคำไม่สามารถเติม ing ใน Present Continuous ได้ กริยาเหล่านั้นเรียกว่า Stative Verbs เช่น hear, see, feel, understand, love เป็นต้น 

สรุปเรื่อง

เปรียบเทียบ Present Simple และ Present Continuous

หัวข้อ

Present Simple

Present Continuous

  โครงสร้างประโยค

 

  บอกเล่า

 

  – S + V1 (ประธานเอกพจน์ V1 เติม s/es)
  – S + กริยาช่วย + V1 (V1 ไม่เติม s/es)

  S + is/am/are + V-ing

  ปฏิเสธ

  – S +  don’t / doesn’t + V1
  – S + Vช่วย + not + V1
  **(V1 ไม่เติม s/es)
  Ex 1. I don’t like horror films.
          (ฉันไม่ชอบหนังสยองขวัญ)
  Ex 2. He doesn’t work on Monday.
          (เขาไม่ทำงานในวันจันทร์)
  Ex 3. She shouldn’t drive a car.
        (เธอไม่ควรขับรถ)

 

  S + is/am/are + not + V-ing

 

 

 

  Ex. We aren’t going home.
        (พวกเราไม่ได้กำลังจะกลับบ้าน)

 

  คำถาม

  – Do / Does + S + V1?
  – V ช่วย +  S + V1?
  **(V1 ไม่เติม s/es)

  Ex 1. Do you like coffee.
          (คุณชอบกาแฟไหม?)

  Ex 2. Can you swim?
          (คุณว่ายน้ำเป็นไหม?)

 

  Is/Am/Are + S + V-ing?

 

 

  Ex. Are you playing football in the evening?
      (เย็นนี้คุณจะเล่นฟุตบอลไหม?)

 

  คำถาม Wh – Question

  Who/What/Where/When/Why/How + do/does + S + V1?

  Ex. When do you want to meet me
       (คุณอยากพบฉันเมื่อไหร่?)

  Who/What/Where/When/Why/How + is/am/are + S + V-ing

  Ex. Where are you going to?
       (คุณกำลังจะไปไหน?)

  หลักการใช้

 
  1. พูดถึงสิ่งที่เป็นความจริงทั่วไป
  2. พูดถึงนิสัย หรือกิจวัตรที่ทำเป็นประจำในปัจจุบัน
  3. พูดถึงสิ่งที่กำหนดว่าจะทำในอนาคต
  4. สรุปเรื่องราวจากละคร ภาพยนตร์ นิยาย หรือรายงานการแข่งกีฬาแบบเรียลไทม์

  1.พูดถึงสิ่งที่กำลังทำหรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะที่พูด
  2.พูดเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หรือต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ

  ข้อควรระวัง

  1. ประธานเอกพจน์ (he, she, it, the library, etc.) V1 ต้องเติม s หรือ es
  2. ถ้าในโครงสร้างที่มีกริยาช่วย V1 ไม่ต้องเติม s หรือ es

  กริยาในกลุ่ม Stative Verbs ใช้ใน Present Continuous ไม่ได้ (เติม ingไม่ได้)

  ตัวอย่าง

 
  I play tennis. (สื่อว่าเล่นเทนนิสอยู่เสมอ เป็นกิจวัตรหรือสิ่งที่ทำเป็นประจำ เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ถาวร)

  Brother watches cartoons every day.
  (น้องชายดูการ์ตูนทุกวัน)

  I am playing tennis. (สื่อว่ากำลังเล่นเทนนิสอยู่ในขณะนั้น และจะจบเกมในไม่ช้า เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ชั่วคราว)

Brother is watching a film now.  
  (ตอนนี้น้องชายกำลังดูหนังอยู่)

 

ขอบคุณข้อมูล https://www.trueplookpanya.com/


50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense


50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense
คลิปนี้แยกออกมาจาก คลิป หลักการใช้ Present Simple Tense เพื่อให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาและฝึกเฉพาะตัวอย่างประโยค โดยไม่ต้องดูคลิปเต็มยาวๆค่ะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense

สรุป โครงสร้าง Present Simple Tense ม.1 | TUENONG ( PART 2/13)


เนื้อหา Present Simple Tense
อธิบายถึง โครงสร้าง Present Simple Tense ในภาษาอังกฤษ
ใช้กับเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง, กฎธรรมชาติ, กฎทางวิทยาศาสตร์, ข้อมูลข่าวสาร คือต้องเป็นจริงเสมอ
ใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น เทศกาลต่าง ๆ
ดูเนื้อหานี้แบบละเอียดได้เลยที่
www.tuenong.com/presentsimpletense/
อ่านเนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่
www.tuenong.com
หรือ ติดตามข่าวสารอัพเดทล่าสุดได้ที่
Facebook Page : Tuenong

สรุป โครงสร้าง Present Simple Tense ม.1 | TUENONG ( PART 2/13)

เพลงภาษาอังกฤษ – Present Simple Tense Song (หลงรัก Present Simple)


ใช้ทำนองดนตรีเพลง \”คนมีเสน่ห์\” พี่ป้าง นครินทร์ (ขออนุญาต และขอบคุณมา ณ ที่นี้)
โดยทีมงาน Design Style TBack
จัดทำสื่อวีดิโอขึ้นเพื่อการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ
หรือในระดับชั้นมัธยมตอนต้น

เพลงภาษาอังกฤษ - Present Simple Tense Song (หลงรัก Present Simple)

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.1 เรื่องหลักการใช้ Simple Present Tense+ Present Continuous Tense


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.1 เรื่องหลักการใช้ Simple Present Tense+ Present Continuous Tense

หลักการใช้งาน present simple tense ใช้อย่างไร ใช้เมื่อไหร่ l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น


เนื้อหาในวีดีโอจะเป็นรายละเอียด หลักการใช้งาน present simple tense น่ะครับ โดยจะอธิบายถึงโครงสร้างประโยค รูปแบบการใช้งาน present simple tense ว่าใช้อย่างไร และใช้เมื่อไหร่ พร้อมตัวอย่างประกอบ

หลักการใช้งาน present simple tense ใช้อย่างไร ใช้เมื่อไหร่ l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ โครงสร้างpresent simple

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *