Skip to content
Home » [NEW] Phrasal verb คืออะไร มีการใช้อย่างไร | prepositions คือ – NATAVIGUIDES

[NEW] Phrasal verb คืออะไร มีการใช้อย่างไร | prepositions คือ – NATAVIGUIDES

prepositions คือ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

1Break downเสีย, แบ่ง, ร้องไห้The car broke down in the middle of the street.
รถยนต์เสียกลางถนน2Break intoบุกรุก, พังเข้าไปSomeone broke into the office last night.
มีคนพังออฟฟิศเข้าไปเมื่อคืนนี้3Break offหยุดพูด, ยุติ, แยกออกEveryone broke off when the boss walked in.
ทุกคนหยุดพูดเมื่อหัวหน้าเดินเข้ามา4Break outหลบหนี, อุบัติHe broke out of the prison.
เขาหลบหนีออกจากคุก5Break upเลิกคบ, แยกทางWe should break up.
พวกเราควรเลิกกัน6Bring aboutทำให้เกิด, เป็นสาเหตุของThat speech brought about a change in public opinion.
การพูดคราวนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของความเห็นในหมู่สาธารณชน7Bring backเอากลับมา, เอามาคืน, ทำให้นึกถึงThe astronauts brought back some rocks from the moon.
เหล่านักบินอวกาศได้นำหินส่วนหนึ่งกลับมาจากดวงจันทร์8Bring downทำให้ลดลง, ทำให้สูญเสียอำนาจThese drugs can bring your heart rate down.
ยาเหล่านี้สามารถทำให้หัวใจเต้นช้าลงได้9Bring inเอาเข้ามา, ได้รับ, นำ (บางคน) เข้ามาช่วยThe police were brought in to prevent the violence.
ตำรวจถูกนำเข้ามาเพื่อป้องกันความรุนแรง10Bring outทำออกมาขาย, เผยออกมาShe has brought out a new book.
เธอทำหนังสือเล่มใหม่ออกมา11Bring upเลี้ยงดู, นำขึ้นมา, เปิดขึ้นมาMy mom brought up five children by herself.
แม่ของฉันเลี้ยงดูเด็กห้าคนให้เติบโตขึ้นเพียงลำพัง12Care forดูแล, ห่วงใยHe doesn’t know how to care for his pet.
เขาไม่รู้วิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงของเขา13Carry onทำต่อ, ดำเนินต่อYou shouldn’t carry on spending money like that.
คุณไม่ควรใช้เงินแบบนั้นต่อไป14Carry outทำตาม, ทำให้สำเร็จYou must carry out my orders.
คุณต้องทำตามคำสั่งของฉัน15Come aboutเกิดขึ้นWe are sure the change must come about slowly.
พวกเราแน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นอย่างช้าๆ16Come alongมาถึง, ไปด้วยกันDo you want to come along with us?
คุณอยากมาด้วยกันมั้ย17Come aroundมาหา, มาเยือน, เปลี่ยนความเห็น, คืนสติI will come around later.
ฉันจะมาหาใหม่นะ18Come backกลับมา, หวนคืนShe will never come back.
เธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว19Come downลดลง, ตกลงมาThe gold price will come down eventually.
ในท้ายที่สุดราคาทองคำก็จะตกลงมา20Come inมาถึง, เข้ามาDo you want to come in for a cup of coffee?
คุณอยากเข้ามาดื่มกาแฟซักถ้วยมั้ย21Come outออกมา, ปรากฏขึ้นThe new book will come out very soon.
หนังสือเล่มใหม่จะออกมาเร็วๆนี้22Come overมาเยี่ยมDo you want to come over this Saturday?
คุณอยากมาบ้านฉันวันเสาร์นี้มั้ย23Come upมาหา, โผล่ขึ้นมาMy boss came up and started talking to me.
หัวหน้าได้มาหาและเริ่มพูดกับฉัน24Find outค้นพบ, ค้นหาShe found out that her husband had been lying to her.
เธอค้นพบว่าสามีของเธอได้โกหกเธอ25Get backถอยไป, กลับ, ได้คืนThey got back to the office just in time.
พวกเขากลับออฟฟิศทันเวลาพอดี26Get downทำให้เศร้า, จดลง, ย่อลง, หมอบลงDon’t let these people get you down.
อย่าปล่อยให้คนเหล่านี้มาทำให้คุณรู้สึกแย่27Get inบุกรุกเข้าไปข้างใน, ได้รับเลือก, มาถึงThe thieves got in my house last night.
ขโมยได้บุกเข้ามาในบ้านของฉันเมื่อคืนนี้28Get offออกไป, เลิกงาน, ถอดGet off my house!
ออกไปจากบ้านของฉันนะ29Get onทำต่อ, สวมใส่He can’t get his jeans on.
เขาใส่กางเกงยีนส์ไม่เข้า30Get outออกไป, ออกนอกบ้าน, นำออกมาGet out of the kitchen!
ออกจากครัวนะ31Get throughติดต่อ, ผ่าน, ใช้จ่าย, ฝ่าฟันI tried to call the customer but couldn’t get through.
ฉันพยายามโทรหาลูกค้าแต่ไม่สามารถติดต่อได้32Get upยืนขึ้น, ลุกขึ้น, แรงขึ้นThe whole class got up and started clapping.
ทั้งห้องได้ยืนขึ้นและเริ่มปรบมือ33Give backคืนI will give your money back next month.
ฉันจะคืนเงินคุณในเดือนถัดไป34Give inยอมแพ้, ยอมรับThe government finally gave in to the protesters’ demands.
ท้ายที่สุดรัฐบาลก็ยอมอ่อนข้อต่อความต้องการของผู้ประท้วง35Give outแจก, หยุดทำงาน (เครื่องจักร, อวัยวะ)The school gave out free masks to its students.
ทางโรงเรียนได้แจกหน้ากากอนามัยให้กับนักเรียน36Give upยอมแพ้, เลิกI won’t give up easily.
ฉันจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ37Go alongยอมรับ, ไปด้วย, ดำเนินไปEveryone is expected to go along with the decision.
ทุกคนถูกคาดหวังว่าจะยอมรับการตัดสินใจ38Go aroundไปเยือน, กระจาย, หมุนLove makes the world go around.
ความรักทำให้โลกยังหมุนไปได้
(เป็นสำนวน แปลว่า ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะทำให้สิ่งต่างๆ รอบตัวดำเนินต่อไปได้)39Go backกลับ, ย้อนกลับไปIt started to rain, so we decided to go back.
ฝนเริ่มตก พวกเราจึงตัดสินใจกลับ40Go downลงไปข้างล่าง, ลดลงThe stock price went down by 10.2% last week.
ราคาหุ้นได้ลดลงมา 10.2% เมื่อสัปดาห์ก่อน41Go inเข้าไปข้างใน, ถูกบังYou should knock before you go in.
คุณควรเคาะประตูก่อนจะเข้าไปข้างใน42Go offออกจาก, หยุดทำงาน, ระเบิด, ยิงThe lights went off several hours last night.
ไฟดับเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อคืนนี้43Go onดำเนินต่อไปThe show must go on.
การแสดงจะต้องดำเนินต่อไป44Go outออกไปข้างนอก, คบกันเป็นแฟนTim used to go out with Ann.
ทิมเคยคบกับแอน45Go overเคลื่อน/เดินทางไป, ตรวจสอบ, ฝึกซ้อมYou should go over your work before you hand in.
คุณควรตรวจสอบงานของคุณก่อนที่จะส่ง46Go throughผ่าน, ตรวจสอบShe has been going through a bad time recently.
เธอได้ผ่านช่วงเวลาอันเร็วร้ายเมื่อไม่นานมานี้47Go upเพิ่มขึ้น, ไปทางเหนือ, สร้างThe price of silver is going up.
ราคาของเงินกำลังเพิ่มสูงขึ้น48Hold backยับยั้ง, ห้ามไว้, เก็บซ่อนไว้The police were unable to hold back the protestors.
ตำรวจไม่สามารถต้านผู้ชุมนุมไว้ได้49Hold onจับไว้, ถือเอาไว้, รอHe held on tightly to the handrails.
เขาจับราวไว้อย่างแน่น50Hold outทนรับมือ, ยื่นบางสิ่งออกมาWe can’t hold out against this army any longer.
พวกเราไม่สามารถทนต่อกรกับกองทัพนี้ต่อไปได้อีกแล้ว51Hold upยังอยู่ดี, ยังคงเข้มแข็ง, รับมือShe is holding up well under the pressure.
เธอรับมือกับความกดดันได้ดี52Look aroundเดินชม, มองหาDo you want to look around the gym?
คุณอยากเดินชมยิมหน่อยมั้ย53Look backมองย้อนกลับไป (อดีต), ย้อนกลับไปดูWhen I look back, I feel sad.
เมื่อฉันมองย้อนกลับไป ฉันก็รู้สึกเศร้า54Look downดูถูกYou shouldn’t look down on others.
คุณไม่ควรดูถูกคนอื่น55Look outระวัง, เฝ้าระวังLook out! There is a car coming.
ระวัง มีรถกำลังมา56Look upค้นหา, มองขึ้นมาI am looking up the word “selfie” in the dictionary.
ฉันกำลังมองหาคำว่า selfie ในพจนานุกรม57Make outจัดการได้/ทนอยู่ได้, มีเพศสัมพันธ์, กอดจูบHow did he make out while his parents were away?
เขาอยู่ได้ยังไงในขณะที่พ่อแม่ของเขาไม่อยู่58Make upแต่งขึ้นมาHe made up some excuse about his car breaking down.
เขาแต่งข้ออ้างว่ารถเสีย59Move backถอยกลับ, กลับไปยัง, ย้ายกลับWe are moving back to Thailand.
พวกเรากำลังจะย้ายกลับไทย60Move inย้ายเข้าไปอยู่My friend moved in here yesterday.
เพื่อนฉันย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้61Move onก้าวต่อไปข้างหน้า, หันไปเริ่มสิ่งใหม่You should move on from your relationship.
คุณควรจบความสัมพันธ์ปัจจุบัน (พร้อมเปิดรับความสัมพันธ์ใหม่)62Move outย้ายออกHis landlord has given him a month to move out.
เจ้าของที่ได้ให้เวลาเขาหนึ่งเดือนในการย้ายออก63Move upขยับขึ้นมา, เลื่อนขั้น, เลื่อนชั้นMy dad has been moved up to the position of manager.
พ่อของฉันได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นผู้จัดการ64Pick outเลือก, มองออกShe picked out the biggest apples for me.
เธอเลือกแอปเปิลลูกใหญ่ที่สุดให้ฉัน65Pick upรับ (ของหรือคน), รับโทรศัพท์, ดีขึ้นI called my aunt yesterday, but she didn’t pick up.
ฉันโทรหาป้าเมื่อวาน แต่เธอไม่ได้รับ66Point outชี้, ชี้ให้เห็นHe pointed out the dangers of smoking.
เขาชี้ให้เห็นถึงอันตรายของการสูบบุหรี่67Put backใส่กลับคืน, ทำให้ล่าช้าPlease put the books back when you have finished with them.
กรุณาเอาหนังสือใส่คืนที่เดิมเมื่อคุณใช้เสร็จแล้ว68Put downวางลง, หยุดHe was tired and wanted to put his bag down.
เขารู้สึกเหนื่อยและอยากวางกระเป๋าลง69Put inใช้, ยื่น, ซ่อมYou have to put in more effort to keep the relationship strong.
คุณต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการรักษาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น70Put offเลื่อนออกไปI can’t put off buying a new mobile phone any longer.
ฉันไม่สามารถเลื่อนการซื้อมือถือเครื่องใหม่ออกไปได้อีกแล้ว71Put onสวมใส่, เพิ่มTim put on his coat and went out.
ทิมได้สวมเสื้อโค้ทและออกไป72Put outปิดไฟ, วางไว้, ทำให้บาดเจ็บShe always puts out food for the stray cats.
เธอเอาอาหารวางไว้ให้แมวจรจัดเป็นประจำ73Put throughทำให้ต้องเผชิญกับ, โอนสายI am sorry to put you through the trouble.
ฉันขอโทษที่ทำให้คุณต้องเผชิญกับปัญหา74Put upยกขึ้น, ติดผนัง, ให้ที่พักพิง, สร้างStop and put your hands up.
หยุดและยกมือขึ้น75Set aboutเริ่มทำI will graduate and set about finding a job next month.
ฉันจะเรียนจบและเริ่มหางานในเดือนถัดไป76Set downจดลง, ระบุอย่างเป็นทางการHe set all these events down in his notebook.
เขาได้จดเหตุการณ์เหล่านี้ลงในสมุดของเขา77Set offเริ่มเดินทางWhat time do we set off tomorrow?
พวกเราจะออกเดินทางกันตอนไหน78Set outเริ่มทำบางสิ่งอย่างมีจุดมุ่งหมาย, เริ่มแผนการ, จัดวางSo many people set out to achieve their dreams.
ผู้คนหลายคนเริ่มเดินทางทำตามความฝัน79Set upจัดตั้ง, จัดเตรียม, นัดThey want to set up their own business.
พวกเขาอยากตั้งบริษัทของตัวเอง80Sit backนั่งอย่างสบายๆ, หยุดพยายามDon’t just sit back and wait for the opportunity.
อย่าเอาแต่นั่งคอยโอกาส81Sit downนั่งลงShe sat down on the sofa and played with her cat.
เธอนั่งลงบนโซฟาและเล่นกับแมวของเธอ82Sit upลุกขึ้นนั่ง (จากที่นอนอยู่)He sat up and reached for his phone.
เขาลุกขึ้นนั่งและเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์83Take backถอนคำพูด, คืนสินค้าYou should take the shoes back and get a refund.
คุณควรคืนรองเท้าและเอาเงินคืน84Take downนำลงมา, เอาออก, จดThey are taking down all the posters.
พวกเขากำลังเอาโปสเตอร์ทั้งหมดลง85Take inโดนหลอก, ให้ที่พักพิง, ทำความเข้าใจและจำDon’t be taken in by their promises.
อย่าโดนหลอกโดยคำสัญญาของพวกเขา86Take offถอด, เอาออก, บินขึ้น (เครื่องบิน)Please take off your hat.
กรุณาถอดหมวกของคุณออก87Take onจ้าง, รับงานมาทำ, รับหน้าที่Our company took on 50 new staff last year.
บริษัทของพวกเรารับพนักงานใหม่เข้ามา 50 คนเมื่อปีที่แล้ว88Take outนำออกมา, เอาออก, ซื้ออาหารไปกินนอกร้าน/ที่บ้านShe took out her wallet from her bag.
เธอเอากระเป๋าตังออกมาจากประเป๋า89Take overเข้าควบคุม, เข้าดำรงตำแหน่งThe company was taken over by its main competitor in 1990.
บริษัทถูกซื้อกิจการโดยคู่แข่งหลักเมื่อปี 199090Take upใช้พื้นที่, เข้ารับตำแหน่ง, เริ่มงานใหม่, เริ่มทำThis sofa takes up too much space.
โซฟาอันนี้กินพื้นที่มากเกินไป91Turn aroundเลี้ยวกลับ, หมุน, กลับมามีทิศทางที่ดีขึ้นTurn around and let me look at your back.
หมุนกลับหลังและให้ฉันดูด้านหลังของคุณหน่อย92Turn backหันหลังกลับ, ถอยกลับI think we should turn back before it gets dark.
ฉันคิดว่าพวกเราควรถอยกลับก่อนที่มันจะดึก93Turn downปรับลด, ปฏิเสธCan you turn the TV down?
คุณลดเสียงทีวีหน่อยได้มั้ย94Turn offปิดWe have to turn off the machine.
พวกเราต้องปิดเครื่องจักร95Turn onเปิดCan you teach me how to turn on the heater?
คุณช่วยสอนวิธีเปิดเครื่องทำความร้อนแก่ฉันหน่อยได้มั้ย96Turn outกลายเป็นว่า, ผลิต, ปิดThe weather turned out to be hotter than we thought.
กลายเป็นว่าอากาศร้อนกว่าที่พวกเราคิด97Turn overกลับด้านPlease turn the paper over.
กรุณาพลิกหน้ากระดาษ98Turn upปรับเพิ่ม, มาถึงCan you turn up the speakers?
คุณปรับเพิ่มเสียงลำโพงหน่อยได้มั้ย99Watch outระวังWatch out! A car is coming.
ระวัง รถกำลังมา100Work outออกกำลังกายMy grandpa works out every day.
ตาของฉันออกกำลังกายทุกวัน

[NEW] การใช้ Prepositions of time ในภาษาอังกฤษ | prepositions คือ – NATAVIGUIDES

Prepositions of time คือ คำบุพบทที่ใช้กับเวลา ที่ควรทราบได้แก่
กลุ่มที่ 1 : at, in, on
กลุ่มที่ 2 : during, for, while, since
กลุ่มที่ 3 : by, till/until, from..to, before, after
กลุ่มที่ 4 : on time, in time

กลุ่มที่ 1: at, in, on
1. ใช้ at ในกรณีต่อไปนี้
at + time เช่น
at 2 p.m.     at 6.30     at midnight     at noon (= at 12)
at lunchtime     at night     at midday     at this/that time
at dawn     at dusk
at + weekends เช่น at weekends     at the weekend
at + เทศกาล/วันหยุดนักขัตฤกษ์ เช่น at Christmas     at Easter
at + อายุ เช่น at the age of 14
ตัวอย่าง
A : Shall we go swimming at 3 p.m. ?
B : That’s fine.
ก – เราไปว่ายนํ้าด้วยกันตอนบ่าย 3 โมงดีไหม
ข – ตกลง
A : When could you swim ?
B : At the age of six.
ก – คุณว่ายน้ำเป็นเมื่อไร
ข – เมื่ออายุ 6 ปี

2. ใช้ in ในกรณีต่อไปนี้
in + ส่วนของวัน เช่น
in the morning     in the afternoon     in the evening
in + เดือน เช่น
in July     in March     in December     in August     in April
in + ปี เช่น
in 2000     in 1990     in 1968     in the year 2050     in 1948
in + ฤดูกาล เช่น
in (the) summer     in (the) winter     in (the) spring
in + ศตวรรษ เช่น
in the 20th century     in the 19th century
in + ช่วงเวลา เช่น
in Ramadan (ช่วงรอมฎอน ในศาสนาอิสลาม) in a week’s time
ตัวอย่าง
A : What will the world be like in the year 2050 ?
B : It will be overpopulated.
ก – โลกจะเป็นเช่นไรในปี ค.ศ. 2050
ข – ประชากรจะล้นโลก
A : What did Nostradamus say ?
B : He said World War III would break out in the 21st century.
ก – นอสตราดามุสกล่าวว่าอะไร
ข – เขากล่าวว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21

3. ใช้ on ในกรณีต่อไปนี้
on + วัน เช่น
on Monday     on Wednesday     on Christmas day
on + วัน + ส่วนของวัน เช่น
on Monday morning     on Wednesday night
on + วัน + วันที่ เช่น
on 4th June     on Monday, July 14     on December 1st
on + โอกาสพิเศษ เช่น  on my birthday     on that day
on + วันเฉลิมฉลอง เช่น
on New Year’s Day     on Christmas day
ตัวอย่าง
A : What will you be doing on New Year’s Day ?
B : We’ll be having a party.
ก – คุณจะทำอะไรในวันปีใหม่
ข – เราจะจัดงานเลี้ยง
A : Do you study on Saturday ?
B : No.
ก – คุณเรียนวันเสาร์หรือเปล่า
ข-ไม่

4. ไม่ใช้คำบุพบท at, on, in หน้าคำต่อไปนี้คือ next, last, every, all, each, some, any และ one
เช่น on next Monday X        next Monday /
in this evening X            this evening /
at every weekend X            every weekend /
in last summer X            last summer /
ตัวอย่าง
A :    What did you do last Friday ?
B :    We went to Rayong.
ก –    คุณทำอะไรเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ข –    เราไประยอง
A :    What do you usually do every weekend ?
B :    I usually play tennis.
ก –    ปกติคุณทำอะไรทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
ข –    ปกติผมเล่นเทนนิส

5. ไม่ใช้คำบุพบท at, on, in หน้าคำต่อไปนี้คือ tomorrow, yesterday เช่น
in tomorrow evening X
tomorrow evening /
at yesterday midnight X
yesterday midnight /
ตัวอย่าง
A : What are you doing tomorrow afternoon ?
B : I’m attending a business conference.
ก – คุณจะทำอะไรบ่ายวันพรุ่งนี้
ข – ผมจะเข้าประชุมธุรกิจ
A : What did you do yesterday evening ?
B : I went to the cinema.
ก – คุณทำอะไรเมื่อเย็นวานนี้
ข – ผมไปชมภาพยนตร์

6. ใช้ in เมื่อเอ่ยถึงช่วงเวลาในอนาคต เช่น in half an hour, in two weeks, in early April, in two months, in an hour
ตัวอย่าง
A : When will you finish your work ?
B : In an hour.
ก – คุณจะทำงานเสร็จเมื่อไร
ข – ในอีกหนึ่งชั่วโมง
We’re meeting in three weeks.
เราจะประชุมในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า

7. ใช้ in เพื่อบอกว่าในกิจกรรมหรือการกระทำนั้นๆ จะใช้เวลายาวนาน เท่าไร เช่น in an hour, in ten minutes, in a year, in ten years
ตัวอย่าง
I can walk from my home to the town center in only ten minutes. ผมสามารถเดินจากบ้านไปยังใจกลางเมืองได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที
We can drive from Chonburi to Bangkok in fifty minutes.
เราสามารถขับรถจากชลบุรีไปกรุงเทพโดยใช้เวลา 50 นาที
ข้อควรจำ ไม่ใช้ in, on, at กับช่วงเวลาที่มีคำว่า this, next, every, tomorrow, yesterday, last ประกอบด้วย
ตัวอย่าง
We are very busy this weekend.
เรายุ่งมากในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้
Do you work every Saturday?
คุณทำงานทุกวันเสาร์หรือเปล่า
He came to see me yesterday evening.
เขามาหาผมเมื่อเย็นวานนี้
They met me last Friday.
พวกเขาได้พบกันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

กลุ่มที่ 2 : during, for, while, since
1. ใช้ in หรือ during เมื่อเอ่ยถึงช่วงเวลา ทั้งสองคำนี้มีความหมายอย่างเดียวกัน
ตัวอย่าง
We were in Paris during/in the summer.
เราอยู่ในปารีสในช่วงฤดูร้อน
It rained during/in the night.
ฝนตกในช่วงกลางคืน

2. ใช้ during เมื่อกล่าวถึงการกระทำหรือกิจกรรมที่ดำเนินไปโดยตลอด ในช่วงเวลาหนึ่ง
ตัวอย่าง
ผิด We were in Rome in the whole of the summer.
ถูก We were in Rome during the whole of the summer.
เราอยู่ที่โรมตลอดช่วงฤดูร้อน
ผิด I’ll be in Paris in the whole of June.
ถูก I’ll be in Paris during the whole of June.
ผมจะอยู่ปารีสตลอดเดือนมิถุนายน

3. ใช้ during ไม่ใช้ in เมื่อกล่าวถึงกิจกรรม อาทิ การเยี่ยมเยียน (a visit) การทานอาหาร (a meal)
ตัวอย่าง
ผิด We visited the Colosseum in our visit to Rome.
ถูก We visited the Colosseum during our visit to Rome.
เราได้ไปชมโคลอสเซียมในช่วงที่เราไปเยือนกรุงโรม
ผิด In lunch I explained my plans.
ถูก During lunch I explained my plans.
ในช่วงที่ทานอาหารเที่ยง ผมได้อธิบายถึงแผนการของผม

4. ใช้ for เพื่อกล่าวถึงระยะเวลาที่ใช้ไปในการทำกิจกรรมหนึ่งๆ ว่า ยาวนานเท่าไร เช่น for two hours, for three weeks, for five years
ตัวอย่าง
It has been raining for two days.
ฝนตกมาตลอดเป็นเวลา 2 วันแล้ว
We were in Rome for ten days.
เราอยู่ที่กรุงโรมเป็นเวลา 10 วัน

5. สำหรับ while มีความหมายเช่นเดียวกับ during แต่ต่างกันตรงโครงสร้างคือ
during + noun            while+ clause

คำว่า clause (คลอส) หมายถึง ข้อความที่มีโครงสร้างเช่นเดียวกับ sentence (เซ็นเท้นซฺ) หรือ “ประโยค” นั่นคือประกอบด้วย “ภาคประธาน + ภาคกริยา + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย (ถ้ามี)”
ตัวอย่าง
I met Susan during my holidays.
I met Susan while I was on holiday.
ผมพบกับซูซานในช่วงที่ผมไปพักผ่อนวันหยุด
It started to rain during their picnic.
It started to rain while they were having a picnic.
ฝนได้ตกลงมาในช่วงที่พวกเขากำลังปิกนิก

6. ใช้ since (ซิ้นซฺ) ในความหมายว่า “ตั้งแต่” เมื่อเรากล่าวถึงจุดเริ่ม ต้นของเหตุการณ์หรือการกระทำ (starting point of the period) หากนำมาเทียบเคียงกับ for จะพบว่า for ใช้เพื่อบ่งบอกความยาวของช่วงเวลา (length of the period) และพบว่าตั้ง 2 คำมักจะถูกนำมาใช้ใน Present perfect tense
ตัวอย่าง
I have been waiting for two hours.
ผมรอมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
I have been waiting since 1 o’clock.
ผมรอมาตั้งแต่บ่ายโมง
He’s known her for six months.
เขาได้รู้จักเธอมาเป็นเวลา 6 เตอนแล้ว
He’s known her since April.
เขาได้รู้จักกับเธอมาตั้งแต่เดือนเมษายน

กลุ่มที่ 3 : by, till/until, from..to, before, after
1. ใช้ until (อันทิล) หรือ till (ทิล) ในความหมายว่า “จนกระทั่ง, จนถึง” (up to the time when)
ตัวอย่าง
I’ll stay here until/till Sunday.
ผมจะอยู่ที่นี่จนถึงวันอาทิตย์
He’ll be out until/till 11 o’clock.
เขาจะออกไปข้างนอกจนถึงเวลา 11.00 น.

2. ใช้ by (บาย) ในความหมายว่า “ไม่เกินเวลาที่เอ่ยถึงนั้น” (not later than)
ตัวอย่าง
I’ll have to leave here by Sunday.
ผมจะต้องออกจากที่นี่ไม่เกินวันอาทิตย์
He’ll be home by 11 o’clock.
เขาจะมาถึงบ้านไม่เกิน 11.00 น.

3. ใช้ from…to/until/till ในความหมายว่า “จากหรือตั้งแต่ (วัน, เวลา, เดือน, ปี, …) …จนถึง (วัน, เวลา, เดือน, ปี,…)”
ตัวอย่าง
The shop opens from 8.30 to 5.30 every day.
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 8.30 น. จนถึงบ่าย 5.30 น.
I’ll be on holiday from Monday until/till Friday next week.
ผมจะไปพักผ่อนวันหยุดตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์สัปดาห์หน้า

4. ใช้ before (บิฟอ) ในความหมายว่า “ก่อน” (earlier than that time or event)
ตัวอย่าง
We arrived home just before 2 o’clock.
เรามาถึงบ้านก่อนบ่าย 2 โมง
Can I see you before you go ?
ผมมาพบคุณก่อนที่คุณจะไปได้ไหม

5. ใช้ after (อัฟเทอะ) ในความหมายว่า “หลังจาก” (later than that time or event)
ตัวอย่าง
He was ill after eating the meal.
เขาป่วยหลังจากรับประทานอาหารเข้าไป
After dinner we went for a walk in the park,
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเราได้ออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ

กลุ่มที่ 4  on time, in time
1. ใช้ on time (ออน ไทมฺ) ในความหมายว่า “ตรงเวลา” (at exactly the right time)
ตัวอย่าง
The 10 o’clock train arrived on time.
รถไฟเที่ยว 10 นาฬิกา มาถึงตรงเวลา
You must attend class on time next time.
ครั้งหน้าคุณจะต้องเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลา

2. ใช้ in time (อิน ไทม) ในความหมายว่า “ทันเวลาพอดี” (early enough)
ตัวอย่าง
We arrived at the station in time to catch the train.
เรามาถึงสถานีทันเวลาพอดีที่จะขึ้นรถไฟ
I won’t be home in time for dinner today.
วันนี้ผมคงจะกลับไปไม่ทันทานอาหารเย็นได้ทันเวลา

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 42,327 times, 11 visits today)


Preposition คืออะไร ทำหน้าที่อะไรในภาษาอังกฤษ | ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฝึกเองเก่งเอง | OLEYJARUN


สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ OLEY JARUN EngPractice Channel นะครับ ติดตามช่องกด https://goo.gl/MSt11a
วันนี้เรามาฝึกภาษาอังกฤษกันครับ หัวข้อ Preposition คำบุพบท
Preposition บุพบท คือคำที่นำหน้าคำนาม สรรพนาม หรือกริยา เพื่อบ่งบอกเวลา สถานที่ ทิศทาง วิธีการ และเหตุผล
เช่น in on at by เป็นต้น
หลักการใช้ Preposition
Preposition บ่งบอกเวลา
I eat lunch at 11 o’clock.
ฉันกินอาหารกลางวัน เวลา 11 โมงเช้า
I eat pizza on Wednesday.
ฉันกินพิซซ่า ใน วันพุธ
I was born in 1984
ฉันเกิด ใน ปี 1984
Preposition บ่งบอกสถานที่
I eat pizza at home.
ฉันกินพิซซ่า ที่ บ้าน
I eat pizza at school.
ฉันกินพิซซ่า ที่ โรงเรียน
I live in Bangkok.
ฉันอาศัยอยู่ ใน กรุงเทพ
Preposition บ่งบอกทิศทาง
I walk to school.
ฉันเดิน ไปสู่ โรงเรียน (เดินไปโรงเรียน)
Preposition บ่งบอกวิธีการ
I go to school by car.
ฉันไปโรงเรียน โดย รถยนต์
I eat pizza by hands.
ฉันกินพิซซ่า ด้วย มือ
Preposition บ่งบอกเหตุผล
I eat to live.
ฉันกิน เพื่อ อยู่
I live to eat.
ฉันอยู่ เพื่อ กิน

ติดตามช่องกด https://goo.gl/MSt11a

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Preposition คืออะไร ทำหน้าที่อะไรในภาษาอังกฤษ | ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฝึกเองเก่งเอง | OLEYJARUN

Gerund หลัง Preposition: อยู่หลัง Prepo โอ้โห บางทีไม่ต้องแปล By KRUBIRD TOEIC


ตำแหน่งหลัง Preposition ปกติเป็นคำนามได้
แต่ไหง V.ing ถึงใช้แทนได้
ลงไปฟังที่มากันจ้า

Gerund หลัง Preposition: อยู่หลัง Prepo โอ้โห บางทีไม่ต้องแปล By KRUBIRD TOEIC

คำกริยาวิเศษณ์ Adverb | Conjunction | Preposition | Interjection  | คืออะไร ใช้อย่างไร


Adverb (กริยาวิเศษณ์)  Conjunction (คำสันธาน)
Preposition (คำบุรพบท)  Interjection (คำอุทาน) 
เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
CR.Ajarn Suparada
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…​
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…​
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…​
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…​
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…​
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…​
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…​

คำกริยาวิเศษณ์ Adverb | Conjunction | Preposition | Interjection  |  คืออะไร ใช้อย่างไร

สอน Pasts of speech – Preposition คำบุพบท คือ อะไร | TUENONG


เนื้อหา Pasts of speech Preposition (ตัวย่อ prep.) คือคำที่เอาไว้หน้า noun หรือ pronoun เพื่อเชื่อม noun หรือ pronoun นั้นกับคำอื่น เช่น about, after, as, at, before, by, for, in, into, of, on, to, with, without
รับน้องโมจิไปเลี้ยง ซื้อเลย !
https://line.me/S/sticker/14546743
อ่านเนื้อหา สอน preposition ฉบับเต็มบนเว็บไซต์ได้เลยที่
https://tuenong.compreposition/
อ่านเนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่
https://tuenong.com/
หรือ ติดตามข่าวสารอัพเดทล่าสุดได้ที่
Facebook Page : Tuenong

สอน Pasts of speech - Preposition คำบุพบท คือ อะไร | TUENONG

Preposition of Place | คำบุพบทบอกสถานที่ พร้อมประโยคตัวอย่าง


คำบุพบทบอกสถานที่ บอกตำแหน่งของสิ่งต่างๆ พร้อมประโยคตัวอย่างในคลิปค่ะ

Preposition of Place | คำบุพบทบอกสถานที่ พร้อมประโยคตัวอย่าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ prepositions คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *