Skip to content
Home » [NEW] PANTIP.COM : H11755842 อยากได้คำปรึกษาเรื่องทุน ป.โท ที่ต่างประเทศครับ [ศึกษาต่อต่างประเทศ] | อยาก เรียน ต่อ ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

[NEW] PANTIP.COM : H11755842 อยากได้คำปรึกษาเรื่องทุน ป.โท ที่ต่างประเทศครับ [ศึกษาต่อต่างประเทศ] | อยาก เรียน ต่อ ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

อยาก เรียน ต่อ ต่าง ประเทศ: คุณกำลังดูกระทู้

ความคิดเห็นที่ 16

TAIST ICTES/AE Master Degree Scholarship (FULL Scholarship) ทุนเรียนปริญญาโท รับสมัครด่วน
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11772322/K11772322.html#1

TAIST ICTES/AE Master Degree Scholarship (FULL Scholarship)
ทุนเรียนปริญญาโท รับสมัครด่วน
http://www.nstda.or.th/taist_tokyo_tech

Thailand Advanced Institute of Science and Technology
(TAIST Tokyo Tech ICTES Program)

Three Programs
สาขาที่เปิดรับสมัคร (Programs Availabilities)

1. วิศวกรรมยานยนต์ (Automotive Engineering : AE)
2. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อระบบสมองกลฝังตัว
(Information and Communication Technology for Embedded Systems : ICTES)
3. วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมขั้นสูงเพื่อความยั่งยืน
(Advanced and Sustainable Environmental Engineering : EnvE.)

Important Dates:

Application period : Now – 5 March 2012
English Test : 8 March 2012 (Time 09:00 – 10:30 am.)
Interview Date : 8 March 2012 (Time 11:00 am. onwards)
Announcement : 16 March 2012 (via website)

Application form can be downloaded from http://www.nstda.or.th/taist_tokyo_tech.
The documents required are listed in the application form.

Mail all documents to [email protected]
Recommendation letters can be submitted later.

Eligibility of Applicants:

   Applicants must hold a Bachelor’s degree of either Engineering or Science in an appropriate discipline (Automotive, Mechanical, Electrical, Metallurgical, Control, Electronic, Chemistry, Physics, Mathematics, Materials, Geology, Environmental, Industrial, Agro-Industrial, Forestry, Production Forestry, Computer etc.) or to be awarded the Bachelor’s degree before starting the Master’s degree program.
   Applicants must have the grade point average (GPA) of at least 2.75 or 2 years experience in relevant research and work as specified by the Executive Committee.

Characteristics:

   All students will receive scholarships for studying this program for two years.
   NSTDA will award scholarships to all TAIST Tokyo Tech students for the first year of their study.
   The students who work with NSTDA researchers will receive a scholarship for the second year for the second year of their study.
   A number of professors from Tokyo Tech will come and give lectures to the students and also advise the students in the second year of study.
   All lectures are conducted in English.
   The students do their research work at four national research institutes; NECTEC, MTEC, BIOTEC, and NANOTEC (NSTDA).
   The students will be registered at a host universities (SIIT or KU), and the same time at TAIST Tokyo Tech.
   Thai professors are co-lecturers and advisors of the students.
   The lectures are conducted at National Science and Technology Development Agency (NSTDA), Thailand Science Park (TSP), where the TAIST Tokyo Tech office is located.
   TAIST Tokyo Tech accepts students not only from Thailand or Asian countries but also from all over the world.
   Full-time students as well as part-time students from the industry, both of which will greatly benefit from the unique learning environment which this program is designed to provide.
   After graduation to further pursue a doctoral study at Thai universities or at Tokyo Institute of Technology or other Japanese universities.

Contact Person

Ms. Chanya Chaiyanont
Office of Tokyo Institute of Technology (THAILAND) (Tokyo Tech – THAILAND)
http://www.ttot.ipo.titech.ac.jp/index.html
P-205 Thailand Science Park
111 Thailand Science Park,
Phahonyothin Road, Klong 1, Klong Luang, Pathumthani 12120
Tel: 66-2-564-8016-18 FAX: 66-2-564-8019
e-mail: [email protected]
e-mail: [email protected]

Ms. Chayanan Lertjarupong ([email protected])
Thailand Advance Institute of Science and Technology – Tokyo Tech)
(TAIST – Tokyo Tech)
National Science and Technology Development Agency (NSTDA)
111 Thailand Science Park,
Phahonyothin Road, Klong 1, Klong Luang, Pathumthani 12120
Tel: 02-564-7000 (Ext. 1683)    FAX: –
e-mail: [email protected]

Ms. Krittaya Vijitsanguan
Office of Tokyo Institute of Technology (THAILAND) (Tokyo Tech – THAILAND)
http://www.ttot.ipo.titech.ac.jp/index.html
P-205 Thailand Science Park
111 Thailand Science Park,
Phahonyothin Road, Klong 1, Klong Luang, Pathumthani 12120
Tel: 66-2-564-8016-18 FAX: 66-2-564-8019
e-mail: [email protected]

Ms. Nachcha Rodphotong
Assoc. Prof. Dr. Thanaruk Theeramunkong
School of Information, Computer and Communication Technology
Sirindhorn International Institute of Technology, Thammasat University
Tel: (02)-501-3505(-20) Ext. 2002, 2012, 2004
Fax: (02)-501-3505(-20) Ext. 2001
http://www.nstda.or.th/taist_tokyo_tech/

จากคุณ : ทะเลโปรแกรมเมอร์ [Bloggang]
เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 19:06:11 [แก้ไข]

จากคุณ
:
lovelypriest

เขียนเมื่อ
:
1 มี.ค. 55 00:02:43

Table of Contents

[NEW] เรียนหมอใน 6 ประเทศดัง ต่างกันยังไงบ้าง | อยาก เรียน ต่อ ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

หนึ่งในสาขาการเรียนยอดฮิตที่

พี่พิซซ่า

ได้รับอีเมลคำถามแทบทุกวันเลยคือสาขาแพทยศาสตร์ค่ะ มีน้องๆ สนใจไปเรียนต่อแพทย์ในต่างประเทศเยอะมากจริงๆ ฉะนั้นวันนี้พี่ก็เลยทำสรุปรวมเส้นทางการเรียนหมอของ 6 ประเทศฮิตๆ มาฝากค่ะ

     อธิบายก่อนว่าการเรียนจบหลักสูตรแพทย์กับการได้ทำงานเป็นแพทย์จริงๆ เป็นคนละเรื่องกันนะคะ เรียนจบแล้วไม่ได้หมายความว่าจะทำงานรักษาคนไข้จริงๆ ได้ทันทีค่ะ แต่ละประเทศจะมีการสอบเพื่อรับใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพอีกที อยากทำงานเป็นหมอที่ประเทศไหน ก็ต้องตรวจสอบระเบียบเกี่ยวกับการสอบใบประกอบฯ ของประเทศนั้นก่อนนะคะ

     อย่างถ้าอยากกลับมาเป็นหมอที่เมืองไทย ก็ต้องจบจากสถาบันที่แพทยสภาไทยรับรอง แล้วก็ต้องสอบใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ผ่านทั้ง 3 ขั้นก่อนถึงจะทำงานเป็นหมอจริงๆ ได้ ฉะนั้นประเด็นหลักของบทความนี้คือจะแนะนำเส้นทางถึงการได้รับปริญญาแพทยศาสตร์เท่านั้นค่ะ

สหรัฐอเมริกา

     การเรียนแพทย์ที่อเมริกาจะเรียนหลังจบปริญญาตรีค่ะ ถ้าใครอยากเรียนแพทย์ที่นี่ต้องท่องไว้ว่า

“วางแผนล่วงหน้า 2 ระดับ”

เพราะต้องคิดมาก่อนว่าอยากเรียนแพทย์ที่ไหน แล้วค่อยเลือกเรียนปริญญาตรีในสาขาที่ทำให้เราไปสมัครโทแพทย์ต่อได้ค่ะ

     จริงอยู่ว่าโรงเรียนแพทย์ส่วนมากในอเมริกาจะไม่กำหนดว่าต้องจบตรีสาขาอะไร แต่ก็มีบางโรงเรียนค่ะที่ระบุว่าต้องจบสาขาชีววิทยา, เคมี หรือชีวเคมีเท่านั้น บางโรงเรียนอาจกำหนดว่าต้องลงเรียนวิชามนุษยศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, และเลขมาด้วย ฉะนั้นให้ดูข้ามไปก่อนว่าโรงเรียนแพทย์ที่อยากเข้ามีข้อกำหนดอะไรแบบนี้รึเปล่า บางที่บังคับด้วยซ้ำว่าต้องเรียนปี 3-4 ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาเท่านั้น

     หลังจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไปสอบข้อสอบที่เรียกว่า

MCAT

ค่ะ เป็นข้อสอบสำหรับใช้สมัครเข้าเรียนโรงเรียนแพทย์ ถ้าได้รับเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์ก็จะใช้เวลาเรียนอีก 4 ปีค่ะ จบแล้วจะได้รับวุฒิ

Doctor of Osteopathic Medicine (D.O.)

หรือวุฒิ

Doctor of Medicine (M.D.)

ค่ะ แล้วแต่ว่าโรงเรียนนั้นจะเรียกว่าอะไร

     พอได้วุฒิ D.O หรือ M.D. แล้วถึงจะสอบใบประกอบวิชาชีพได้ แต่ก็ต้องไปเรียนแพทย์เฉพาะทางเพิ่มอีก 3-8 ปีแล้วแต่สาขาค่ะ การเรียนในระดับนี้ก็คือจะได้ลองทำงานในโรงพยาบาลจริงๆ เลยเป็นหลัก แต่ก็ต้องดูระเบียบของแต่ละมลรัฐอีกทีว่ามีข้อกำหนดเพิ่มเติมอะไรบ้างถึงจะทำให้กลายเป็นหมอจริงๆ ประจำมลรัฐนั้นๆ ได้

แคนาดา

     ขยับมาที่ประเทศเพื่อนบ้านของอเมริกากันค่ะ การเรียนแพทย์ในแคนาดาอาจจะเดาทางยากนิดนึงตรงที่มีไม่กี่มหาวิทยาลัยที่รับนักศึกษาต่างชาติมาเรียนหมอค่ะ แถมต้องเช็กกันปีต่อปีเลยว่ารับหรือไม่ เพราะบางมหาวิทยาลัยเปลี่ยนนโยบายไปมากันเป็นรายปีค่ะ บางปีรับบางปีไม่รับ

     ส่วนเกณฑ์การรับสมัครเข้าเรียนก็แล้วแต่กฎของแต่ละรัฐอีกด้วยค่ะ จริงอยู่ว่าส่วนมากจะแนะนำให้จบปริญญาตรีสายวิทย์มาก่อนแล้วค่อยสมัครเข้าโรงเรียนแพทย์ แต่ก็มีบางแห่งที่อินดี้อยู่เหมือนกัน เช่น โรงเรียนแพทย์หลายแห่งในเขตเวสเทิร์นแคนาดารับนักศึกษาที่จบปริญญาตรีปี 2 แต่โรงเรียนแพทย์หลายแห่งในออนทาริโอรับนักศึกษาที่จบปี 3 ในขณะที่โรงเรียนแพทย์ในมานิโทบารับนักศึกษาที่จบตรีเรียบร้อยแล้วเท่านั้น แถมมีโอกาสเปลี่ยนกฎกันทุกปีเช่นกัน หลายคนเลยเลือกที่จะเรียนตรีสาขาด้านชีววิทยาให้จบไปเลยตั้งแต่ต้นแล้วค่อยมาสมัคร เพื่อความชัวร์สุดๆ

     ส่วนเรื่องข้อสอบเข้าแพทย์ แคนาดารับคะแนนสอบ

MCAT

เช่นเดียวกับอเมริกาค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับเหมือนกันทุกมหาวิทยาลัย 55555 ส่วนมากจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนแบบไบลิงกัว หรือมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตรแพทย์เป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่มีธีมมหาวิทยาลัยเน้นด้านภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยพวกนี้จะไม่ดูผลสอบ MCAT ค่ะ เพราะการเรียนด้วยหลักสูตรของฝรั่งเศสไม่มีข้อสอบแบบนี้ เลยตัดทิ้งไปด้วยเลย

     ถ้าเข้าโรงเรียนแพทย์ได้แล้วก็จะเรียนต่อไปอีก 3-5 ปีค่ะ ขึ้นกับแต่ละมหาวิทยาลัยและดูว่ามีความรู้อะไรมาก่อนหน้าบ้าง จบแล้วก็จะได้วุฒิ

Doctor of Medicine (M.D.)

หรือ

Doctor of Medicine and Master of Surgery (M.D., C.M.)

แล้วแต่มหาวิทยาลัยจะเรียก เสร็จแล้วค่อยไปต่อแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์ประจำบ้านอีกที

สหราชอาณาจักร

     ข้ามมาฝั่งยุโรปกันบ้างค่ะ การเรียนแพทย์ของสหราชอาณาจักรจะเริ่มตั้งแต่ ป.ตรีเลย คล้ายๆ ของไทยค่ะ โดยจะเรียนตรีกัน 6 ปี แต่ก่อนจะได้เรียนตรีก็จะลำบากสำหรับนักเรียนไทยนิดๆ ค่ะ นั่นคือวุฒิ ม.6 ของไทยไม่สามารถเข้าตรีที่สหราชอาณาจักรได้ทันที จำเป็นต้องมีคะแนน A-level หรือไม่ก็ต้องเรียนคอร์สปรับพื้นฐานสำหรับเรียนแพทย์โดยเฉพาะก่อน ตรงนี้ต้องดูระเบียบของแต่ละมหาวิทยาลัยอีกทีด้วยนะคะว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆ รับวุฒิแบบไหนบ้าง มีบางที่ที่ต้องใช้ทั้ง A-level และคอร์สปรับพื้นฐานด้วยค่ะ

     นอกจากนี้ก็ต้องสอบเข้าสำหรับเรียนแพทย์โดยเฉพาะด้วยค่ะ ส่วนมากจะรับผลสอบ

UKCAT

หรือ

BMAT

กัน แต่ไม่ได้แปลว่าสอบอันไหนก็ได้นะคะ ต้องเช็กด้วยว่ามหาวิทยาลัยที่เราจะสมัครรับผลสอบไหน เนื่องจากมักรับแค่ผลสอบประเภทเดียว ใช้แทนกันไม่ได้

     หลังจบปริญญาตรี 6 ปีก็จะได้รับวุฒิ

Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery (มักย่อเป็น MBBS และ MBChB)

ค่ะ ซึ่งก็ยังเป็นหมอจริงๆ ไม่ได้เลยเช่นกัน ต้องไปเรียน Foundation program ต่ออีก 2 ปี หลังจากนั้นค่อยฝึกเฉพาะทางเพิ่มอีก ก็จะกินระยะเวลาแตกต่างกันไปขึ้นกับสาขาที่เลือกค่ะ

ออสเตรเลีย

     ข้ามมาอีกทวีปนึงแต่ยังเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเช่นกันค่ะ การเรียนแพทย์ในออสเตรเลียก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองเช่นกันค่ะ เพราะ

มีสอนทั้งในระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท

ค่ะ บางมหาวิทยาลัยมีทั้ง 2 ระดับ บางที่เปิดแค่ระดับเดียว ต้องเช็กดีๆ เช่นกันค่ะ

     สำหรับระดับปริญญาตรี ใช้เวลาเรียน 5-6 ปีค่ะ จบแล้วส่วนมากจะได้วุฒิ

Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery

แต่การสมัครเข้าเรียนใช่ว่าจบ ม.6 แล้วจะได้เข้าตรีทันทีกันเลยนะคะ เพราะการพิจารณาจะดูรายละเอียดมากกว่าตัววุฒิค่ะ ถ้าจบ ม.6 สายวิทย์ มีวิชาชีวะและเคมีเยอะ เรียนได้เกรด 4 ทุกวิชา แบบนี้ก็มีโอกาสได้เรียนปี 1 ทันที แต่ถ้าจบ ม.6 แบบไม่ค่อยมีวิชาสายวิทย์หรือมีแต่เกรดไม่ดี ก็อาจจะโดนมหาวิทยาลัยแจ้งกลับมาว่าให้ไปเรียนคอร์สเฉพาะทางเพิ่ม หรือให้เรียนอนุปริญญาเพิ่มไปก่อนค่ะ

     นอกจากนี้หลายมหาวิทยาลัยบังคับใช้ผลสอบ

ISAT

เพิ่มด้วย ข้อสอบ ISAT คือข้อสอบแอดมิชชั่นสำหรับนักเรียนต่างชาติที่อยากมาเรียนในออสเตรเลียค่ะ นอกจากนี้ยังมีข้อสอบ UMAT อีก UMAT คือข้อสอบเฉพาะทางสำหรับใครที่อยากเรียน ป.ตรีแพทย์ในออสเตรเลีย ปกติจะให้เฉพาะนักเรียนในประเทศสอบ แต่ถ้าใครเล็งว่าจะอยู่ต่อยาวๆ ก็สามารถสอบด้วยได้เช่นกัน

     ส่วนการเรียนระดับปริญญาโท จะรับเฉพาะคนที่จบปริญญาตรีสาขาที่เกี่ยวข้องมาแล้วค่ะ (แต่บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ระบุสาขา) ใช้เวลาเรียน 4 ปี จบแล้วจะได้วุฒิที่แต่ละมหาวิทยาลัยมีชื่อเรียกต่างกันไป แต่ทั้งหมดคือเทียบเท่ากับวุฒิ

Doctor of Medicine (MD)

แบบของอเมริกาค่ะ

     ส่วนการสมัครเข้าเรียนระดับปริญญาโทจะต้องมีผลสอบ

GAMSAT

หรือผลสอบ

MCAT

ด้วยค่ะ และเช่นเคย เช็กดีๆ ว่ามหาวิทยาลัยที่จะสมัครรับผลสอบตัวไหนด้วยนะคะ

     พอจบไม่ว่าจะหลักสูตร MBBS หรือ MD ก็ต้องไปฝึกงานต่อ 1 ปี ฝึกแพทย์ประจำบ้านอีกหลายปี และฝึกแพทย์เฉพาะทางอีกหลายปีด้วยค่ะ ระหว่างที่ยังฝึกฝนอยู่จะได้ตำแหน่งเป็น Junior Medical Officer ถ้าผ่านการฝึกเฉพาะทางและเก็บประสบการณ์ได้ครบแล้วถึงจะได้เป็น Senior ค่ะ หลายปีเลยแหละกว่าจะได้เป็น

นิวซีแลนด์

     ประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียอย่างนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยน้อยมากกกกก ฉะนั้นแต่ละสถาบันจะมีโควตาระบุเลยว่ารับนักศึกษาต่างชาติมาเรียนแพทย์ได้กี่คน ส่วนมากโควตาจะเป็นเลขตัวเดียวแทบทุกปีเลยค่ะ ฉะนั้นการแข่งขันจัดว่าสูงมาก

     เส้นทางการเรียนแพทย์ของที่นี่เริ่มตั้งแต่ปริญญาตรีค่ะ สำหรับนักเรียนไทยถ้าจบวุฒิ ม.6 จำเป็นต้องจบปี 1 เพิ่มด้วยนะคะถึงจะสมัครเรียนปริญญาตรีได้ ถ้าจะเรียนแพทย์ต้องเลือกเรียนปี 1 ในสาขา

Health Sciences First Year

เท่านั้นค่ะ วิชาปี 1 นี้เป็นวิชาเตรียมตัวสำหรับเรียนแพทย์ ต้องทำคะแนนในปี 1 นี้ให้ดีถึงจะสมัครไปเรียนแพทย์ต่อได้ในปี 2 แล้วก็เรียนแพทย์ต่อรัวๆ ไปถึงปี 6 ค่ะ

     เรียนจบมาจะได้รับวุฒิ

Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery (MB ChB)

ค่ะ แล้วก็ค่อยไปฝึกต่อเพิ่มเติมในหลักการเดียวกับประเทศอื่นๆ เพื่อให้ทำงานเป็นแพทย์ได้จริงๆ

ประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรป

     บอกก่อนว่าแค่ส่วนใหญ่แต่ไม่ใช่ทุกประเทศนะคะ ใน EU จะมีข้อตกลงด้านการศึกษาร่วมกันอยู่ค่ะ ซึ่งผลจากข้อตกลงนี้คือทำให้การศึกษาในระดับอุดมศึกษามีมาตรฐานเท่าเทียมกันทั่วยุโรปค่ะ สามารถโอนหน่วยกิตย้ายไปมาได้ แต่สำหรับสาขาแพทยศาสตร์ก็มีความเฉพาะทางอยู่ ทำให้ไม่เหมือนกันเป๊ะซักเท่าไหร่ค่ะ

     สำหรับประเทศในแถบยุโรปตะวันออก อย่าง

เช็ก ฮังการี โปแลนด์

จะเป็นประเทศที่มีหลักสูตรแพทยศาสตร์ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ สาขานี้ช่วยดึงดูดนักเรียนจากต่างประเทศได้ดีมากๆ เลยแหละ สำหรับระดับปริญญาตรีจะเรียน 6 ปี จบแล้วได้วุฒิ

MBBS

ค่ะ (บางที่เรียก

MD

แต่ก็เหมือนกัน) ซึ่งการสมัครเข้าเรียนส่วนมากจะรับวุฒิ ม.6 ของไทยเลย แต่ว่าจะต้อง

สอบแอดมิชชั่นเ

ข้าไปก่อนนะคะ วิชาที่สอบก็มักเป็นชีววิทยา, เคมี, เลข และภาษาอังกฤษ

     ส่วนใครที่จบตรีมาแล้ว ก็ลงเรียน MD หลักสูตร 4 ปี ต่อได้เลย จบมาจะได้รับวุฒิเดียวกันกับคนจบ 6 ปีค่ะ แต่จำนวนสถาบันที่เปิดสอนระดับนี้มีน้อยกว่าแบบปริญญาตรีอีกนะคะ ต้องตั้งใจหาดีๆ จริงๆ แค่หามหาวิทยาลัยที่เปิดสอนแพทย์แบบใช้ภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างหายากแล้วค่ะในแต่ละประเทศ มักมีกันประเทศละไม่ถึง 5 มหาวิทยาลัย

     แต่ถ้าอย่างฟินแลนด์หรือสวีเดน จะมีหลักสูตรแพทย์โครงสร้างของตัวเองค่ะ แถมใช้ภาษาของตัวเองในการเรียนการสอน ฝรั่งเศสก็เช่นกัน หรืออย่างเยอรมนีมีหลักสูตรสากลแต่ก็ใช้ภาษาเยอรมันในการสอน ส่วนอิตาลีเองก็มีหลักสูตรภาษาอังกฤษอยู่ แต่มีน้อยและต้องสอบข้อสอบ IMAT โดยเฉพาะของตัวเองก่อนเข้าเรียนด้วย

    แถมท้าย    

ประเทศอื่นๆ ที่มีหลักสูตร MBBS

     จริงๆ มีอีกหลายประเทศเลยนะคะที่มีหลักสูตรแพทย์แบบ MBBS ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ฟิลิปปินส์ จีน รัสเซีย หรือประเทศในแถบคาริบเบียน แต่ก็ไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีมาตรฐานที่ดีค่ะ ตัวหลักสูตรในหน้ากระดาษค่อนข้างจะเหมือนกันกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่หลายมหาวิทยาลัยในประเทศนั้นๆ อาจทำได้ไม่ถึงตามมาตรฐานสากล เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ดีๆ ก่อนสมัครเรียนนะคะ

     นอกจากนี้บางที่บอกว่าสอนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ แต่จริงๆ คนสอนอาจพูดภาษาถิ่นผสมกับภาษาอังกฤษไปมา หรือมีบางวิชาที่ไม่ได้สอนด้วยภาษาอังกฤษก็ได้ เน้นอีกรอบว่าให้เช็กดีๆ ก่อนสมัคร โดยลองสอบถามจากผู้ที่เรียนจบสถาบันนั้นๆ มาโดยตรงค่ะ

เกาหลีใต้

     เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศที่พี่ได้รับคำถามมาค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ แต่หลักสูตรแพทย์ในเกาหลีสอนเป็นภาษาเกาหลีนะคะ แล้วก็แอดมิชชันเข้าไปตั้งแต่ปริญญาตรีเลย ฉะนั้นภาษาเกาหลีต้องระดับสูงและต้องแข่งขันมากๆ เลยค่ะ การเรียนใช้เวลา 6 ปีเหมือนของไทย

    

อีกเรื่องที่ต้องระวังสำหรับการเรียนหมอในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว ก็คือเรื่องโอกาสเข้าเรียนที่ค่อนข้างต่ำค่ะ ยิ่งถ้าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐจะยิ่งสนับสนุนคนในประเทศเขาก่อน ฉะนั้นจะมีโควตาให้นักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนต่ำมากๆ เลย ลองเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ให้ดีก่อนเลือกสมัครเรียนนะคะ


ทำงานที่ออสได้เงินเดือนละแสน?💸🇦🇺 รีวิวการทำงาน,วิธีสมัครงาน Uber (อ่อนภาษา) Ep.3 | Juneissaree


สวัสดีค่ะ เราจะมารีวิวการทำงาน,การหางาน,ค่าแรงที่ได้ เป็นประสบการณ์(ของเรา) หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลไปประเทศออสเตรเลียนะค้าา💘
ค่าแรงขั้นต่ำ/ชม.การทำงานวีซ่านักเรียน
ประสบการณ์การทำงานในออส
วิธีหางาน
ขั้นตอนการสมัครงานร้านอาหารไทย,Uber
Link สมัคร UberEat
https://www.uber.com/a/signup/drive/d…
Link ขอ Police check
https://www.nationalcrimecheck.com.au…
Instagram : https://instagram.com/juneniissum?utm…
Facebook : https://www.facebook.com/jissaree/
Contact me
[email protected]
LINE : juneniissum (for work)
Facebook page : June Issaree
ออสเตรเลีย เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อต่างประเทศ Melbourne Australia
เรียนภาษา ทำงานในต่างประเทศ ย้ายประเทศกันเถอะ Ubereats

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ทำงานที่ออสได้เงินเดือนละแสน?💸🇦🇺 รีวิวการทำงาน,วิธีสมัครงาน Uber (อ่อนภาษา) Ep.3 | Juneissaree

ทดลองเป็นเด็กออสซี่ก็อยากดูหมีโคอาล่าอ่า | WJMILD x SYDNEY EP.1


มาต่อกันรัวๆ กับคลิปนี้ ที่มายด์จะพาทุกคนไปเที่ยวซิดนีย์!! ออสเตรเลียยยย ประเทศเกาะกลางทะเลที่มีสัตว์โลกน่ารักเต็มไปโหมดดดดดด โคอาล่าเอย จิงโจ้เอย ช้างจากประเทศไทยเอย!! ไฮไลท์คือหาดของเค้าที่ชิวมาก ชิวที่สุดเลยเว้ยแก อ่ะ เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะ ไปดูเอง!
ปล. ขอเป็นกำลังใจให้ประเทศออสเตรเลียที่เพิ่งประสบอัคคีภัยไปเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยนะคะ ขอให้ปลอดภัยกันทุกคน รวมถึงน้องโคอาล่าด้วย ;__;
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กด subscribe กดกระดิ่ง กดหัวใจ กดเลิฟ กดฟหกกด่าสหห ขอบคุณค่า จุ๊บๆ ❤️❤️❤️
——————————————————And here’s the recently trip we traveled together, Sydney in Australia! Lots of cute animals in Taronga Zoo and Bondi beach which you can’t miss! Let’s see what I found there 😉
Thank you for all the love and support! It means so much to us to continue making new videos for you guys!❤️
Ps. Praying for Australia🙏🏻💙 We feel so sad to see those bad news due to the fire, drought and animal injuries. This climate change is so serious guys. We hope that everything there is gonna be fine. Send love from us.
ขอบคุณเสื้อผ้าจาก @missselfridge_th
wjmild Australia Sydney หมีโคล่า

ทดลองเป็นเด็กออสซี่ก็อยากดูหมีโคอาล่าอ่า | WJMILD x SYDNEY EP.1

อยากเรียนต่างประเทศต้องทำยังไง !? แบบคนงบน้อย!! แบบคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ!! | Fiata paweena


ขออนุญาติอัพเดท IG และ Facebook เพจนะคะ
IG: Fiata paweena
Facebook: Fiata paweena
ใครมีคำถามสามารถ ไปติดต่อได้ที่เพจ Facebook นะคะ
สวัสดีคะ เฟียสนะคะ
เพื่อนๆ เคยสังสัยกันไหมคะ ว่าคนที่เค้ามาเรียนต่างประเทศ เค้ามากันยังไง แล้วมันมีขั้นตอนยังไงบ้าง หรือ ถ้าเรางบน้อยทำยังถึงจะมีโอกาสไปเรียนเมืองนอก หรือ มีโอกาสไปลองใช้ชีวิตในต่างแดนนดูบ้าง!? ลองมาฟังประสบการณ์ส่วนตัวของเฟียสกันดูนะคะ เพื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ใครหลายๆคน ที่กำลังหาหนทางในการมาอยู่ต่างประเทศกันคะ ^^
ชีวิตต่างแดน เรียนเมืองนอก เรียนต่อต่างประเทศ ชีวิตในเยรมันนี เยอรมัน ออแพร์ ออแพร์เยอรมัน วีซ่าเรียนภาษา
———————————————
Song credit
Knock Knock Twice

อยากเรียนต่างประเทศต้องทำยังไง !? แบบคนงบน้อย!! แบบคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ!! | Fiata paweena

VLOG ทัวร์มหาลัย แชร์ประสบการณ์การใช้จ่ายยังไงให้คุ้มในต่างประเทศ


สวัสดีค่าาา 🙂
หลังจากที่ไม่ได้ทำทัวร์มหาลัยมานานมากแล้ว วันนี้เพลงก็กลับมา พร้อมทัวร์มหาลัย เฉพาะ Spot ที่เพลงชอบมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะมาเรียน, มานั่งเล่น, มาอ่านหนังสือ, หรือมานั่งทำงาน ก็ตาม วันนี้เพลงก็ได้พาทุกคนไปทุกๆที่ที่เพลงชอบไปตลอด4ปีที่เรียนที่นี้มาเลยนะคะ และแถมมาแชร์ประสบการณ์เรื่องการใช้จ่ายของเพลง ว่าเพลงมาเรียนที่นี่เพลงต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วมีวิธีการจ่ายเงินยังไงให้คุ้มค่า ไม่ต้องเสียค่าแลกเงินแพงๆ หรือเสียค่าธรรมเนียมการกดเงินที่ตู้ATMต่างประเทศอีกด้วย เพลงก็หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากคลิปนี้กันน้า~~

Let’s be friends:)
Instagram: @nycsm.pn
Snapchat : npcpleng
Facebook : Napatchat Chanakit
Tiktok : @nycsmpn

VLOG ทัวร์มหาลัย แชร์ประสบการณ์การใช้จ่ายยังไงให้คุ้มในต่างประเทศ

ใช้ชีวิตอยู่ USA 🇺🇸 ดีจริงหรอ ?? | เล่าประสบการณ์ส่วนตัว #เล่าประสบการณ์ #ชีวิตในอเมริกา #ggigie


สิ่งที่เล่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของจี้เองที่ใช้ชีวิตอยู่เป็นพลเมืองของเขาเลย และอยากมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ
Instagram: ggigie
ติดต่องาน
0985326569 คุณโอม
0997496959 คุณน้ำ

ใช้ชีวิตอยู่ USA 🇺🇸 ดีจริงหรอ ?? | เล่าประสบการณ์ส่วนตัว  #เล่าประสบการณ์ #ชีวิตในอเมริกา #ggigie

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ อยาก เรียน ต่อ ต่าง ประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *