Skip to content
Home » [NEW] O-net Pages 101 – 150 – Flip PDF Download | ความ หมาย ของ pronoun – NATAVIGUIDES

[NEW] O-net Pages 101 – 150 – Flip PDF Download | ความ หมาย ของ pronoun – NATAVIGUIDES

ความ หมาย ของ pronoun: คุณกำลังดูกระทู้

No Text Content!

ข้อ 1 บอกว่า ฉันชอบไปดูหนังสอื ในหอ้ งสมดุ หลงั เลกิ เรยี น ขอ้ นไ้ี มถ่ กู เพราะไมส่ อด 99 คล้องกับคำพูดของอษุ าเร่อื งเวลาทำการของหอ้ งสมุด ขอ้ 2 บอกวา่ หอ้ งสมดุ กลางเปดิ ตลอด 24 ชม. ขอ้ นถ้ี กู เพราะเปน็ ขอ้ มลู ทน่ี กั ศกึ ษา ใหมค่ วรจะทราบ อกี ทั้งยงั สอดคลอ้ งกับคำพดู ของอษุ าดว้ ย ข้อ 3 บอกวา่ เธอตอ้ งแสดงบัตรประจำตวั เมอ่ื หยิบหนงั สือขนึ้ มาดู ข้อนจ้ี งึ ไม่ถูก เพราะไมส่ มเหตุสมผล ข้อ 4 บอกวา่ หอ้ งสมุดมีวารสารวทิ ยาศาสตร์เปน็ จำนวนมาก ข้อนี้ไมถ่ ูกเพราะห้อง สมดุ ทอี่ ่ืนก็มวี ารสารวทิ ยาศาสตรเ์ ป็นจำนวนมากไดเ้ ช่นกัน โจทยข์ อ้ B คำตอบที่ถูกควรเป็นการแสดงความประทับใจหรอื ชืน่ ชม ขอ้ 1 บอกวา่ เขาทำได้อย่างไร ขอ้ นไี้ มถ่ ูกเพราะแสดงความไมเ่ ชอื่ เปน็ สง่ิ ท่ีเป็น ไปไม่ได้ ขอ้ 2 บอกวา่ ตายจรงิ ข้อน้ีไม่ถูกเพราะเปน็ คำอุทานแสดงการตกใจ ข้อ 3 บอกว่า แน่นอน ข้อนี้ไม่ถูก เพราะเป็นคำที่ใช้ในการสนับสนุน ยืนยันว่าเป็น เช่นนนั้ จรงิ ๆ ขอ้ 4 บอกว่า สะดวกจรงิ ๆ ข้อน้ีถูกเพราะเป็นการแสดงความประทบั ใจ8. สถานการณ์ พอลเลา่ ให้วณี าฟังถึงปญั หาของเขา พอล : A ตอ้ งมีใครบางคนได้เขา้ มาในหอ้ งทำงานของผม วณี า : B วา่ แตว่ า่ คณุ ไดต้ รวจสอบกบั เลขานุการของคณุ แลว้ หรอื ยงั คำตอบขอ้ A คือ 4 คำตอบข้อ B คือ 4 โจทยข์ อ้ A คำตอบจะต้องเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นและทำให้พอลเชื่อ ว่ามคี นเข้าไปในหอ้ งทำงานของเขา ขอ้ 1 บอกวา่ ผมอยากใหค้ ณุ หาเอกสารของผมทง้ั หมดเจอทนั เวลา ขอ้ นไ้ี มถ่ กู เพราะ ไม่สอดคลอ้ งกบั ประโยคตอ่ มาท่ีเขาพดู ข้อ 2 บอกวา่ รายงานเหล่านี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่สอดคล้องกบั เร่ืองทเี่ ขาสงสัยว่ามคี นเขา้ มาในห้องทำงาน ขอ้ 3 บอกวา่ ของสว่ นตวั ของผมเก็บอยา่ งดอี ย่ใู นตู้ ข้อน้ีไมถ่ กู เพราะคา้ นกับคำพูด ในประโยคตอ่ มา ขอ้ 4 บอกวา่ เอกสารสำคัญทั้งหมดหายไปจากแฟ้มของผม ข้อนี้ถูกเพราะสอด คลอ้ งกับคำพูดในประโยคต่อมา โจทยข์ อ้ B ควรจะเปน็ การแสดงความเสียใจท่ีเพื่อนประสบปญั หา ขอ้ 1 บอกว่า ถกู แลว้ ข้อนีไ้ มถ่ ูกเพราะเป็นการคลอ้ ยตามเหน็ ดว้ ย ขอ้ 2 บอกว่า นา่ เบือ่ ข้อนไี้ มถ่ กู แสดงความไม่มมี ารยาท ส่อความรำคาญ ขอ้ 3 บอกวา่ ไมเ่ ปน็ ไร ขอ้ นไ้ี มถ่ กู เพราะเปน็ คำพดู ทใ่ี ชใ้ นการตอบขอบคณุ ของคนอน่ื ขอ้ 4 บอกวา่ เสยี ใจทไ่ี ดย้ นิ ขา่ วน้ี ขอ้ นถ้ี กู เพราะเปน็ คำพดู ทแ่ี สดงความเหน็ อกเหน็ ใจ9. สถานการณ์ นกั เรียนต้องการทจ่ี ะพบมสิ เตอร์เบนสันซึ่งปน็ อาจารย์ นักเรยี น : ขอโทษครบั อาจารย์เบนสัน A อาจารยเ์ บนสัน : B โอไดส้ ิ ครไู ม่ได้ทำอะไรตอนนัน้ คำตอบข้อ A คอื 3 คำตอบขอ้ B คอื 2

โจทยข์ อ้ A ตอ้ งเป็นการนดั หมายเวลาทจ่ี ะมาพบอาจารย์ ขอ้ 1 บอกวา่ อาจารยจ์ ะไมม่ เี วลาใดวา่ งเลยหรอื ครบั ขอ้ นไ้ี มถ่ กู เพราะเปน็ คำพดู ทไ่ี มเ่ หมาะ สม เป็นการกลา่ วบททั้ง ๆ ทย่ี ังไม่ไดถ้ ามอาจารยเ์ ลยว่าจะว่างเม่ือไหร่ ขอ้ 2 บอกวา่ เวลาไหนทอ่ี าจารยจ์ ะวา่ ง ขอ้ นไ้ี มถ่ กู เพราะจะไมส่ อดคลอ้ งกบั คำพดู ของอาจารย์100 ท่ใี หไ้ ว้ ข้อ 3 บอกวา่ ผมอยากทราบว่าอาจารย์จะว่างตอนบา่ ย 2 โมงนไี้ หมครับ ข้อนถ้ี กู เพราะเปน็ การถามอย่างสุภาพและบ่งบอกเวลาที่ต้องการจะมาพบด้วย ซึ่งสอดคล้องกับคำตอบรับของ อาจารย์ ข้อ 4 บอกวา่ จะเป็นไรไหมครบั ถา้ ผมจะมาหาเม่อื อาจารย์วา่ ง ข้อนไี้ มถ่ ูกเพราะถงึ จะเปน็ การ ถามท่ีสุภาพแตค่ ำถามก็ไมส่ อดคล้องกับคำตอบของอาจารย์ โจทยข์ ้อ B คำตอบจะตอ้ งเปน็ เร่อื งเวลาทอี่ าจารย์ตอ้ งตรวจสอบกอ่ นว่าว่างหรอื ไม่ ขอ้ 1 บอกว่า เชญิ ทำ ข้อน้ไี มถ่ ูกเพราะไมท่ ราบว่าทำอะไร ขอ้ 2 บอกว่า ขอใหค้ รดู ูก่อน ขอ้ นถี้ ูกเพราะอาจารยจ์ ะตอ้ งตรวจสอบวา่ ว่างหรอื ไม่ตามเวลา ท่นี กั เรยี นขอมา ขอ้ 3 บอกวา่ เชิญมาดู ข้อนไ้ี มถ่ ูกเพราะไม่ทราบว่าจะให้นกั เรียนดอู ะไร ขอ้ 4 บอกวา่ ครูมีเวลาเยอะมาก ข้อนไี้ ม่ถูกเพราะไม่ไดบ้ อกวา่ ว่างหรอื ไม่ 10. สถานการณ์ มิสเตอร์ฮลิ คืนงานเขียนให้สุภา เขาให้เธอเกรดเอ มิสเตอร์ฮลิ : สภุ า นี่คืองานเขยี นของเธอ A สุภา : B มิสเตอร์ฮลิ : เธอสมควรได้มนัคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T คำตอบข้อ A คอื 4 คำตอบข้อ B คือ 2 โจทยข์ อ้ A คำตอบจะตอ้ งเกี่ยวกับงานเขยี นของสุภา ซึง่ ควรจะเป็นคะแนนที่ได้ ข้อ 1 บอกว่า พยายามไล่ตามให้ทันงานของเธอ ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่ได้มีความหมายสอด คล้องกบั สถาณการณ์ทนี่ ักเรียนไดเ้ กรดเอ ขอ้ 2 บอกว่า มใี ครช่วยเธอทำมันหรือเปล่า ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่สอดคล้องกับคำตอบรับของ สุภา ขอ้ 3 บอกว่า เธอควรใช้เวลามากกว่านี้ที่จะทำสิ่งนี้ ข้อนี้ไม่ถูกเพราะการใช้กริยาในรูปของ present tense แสดงว่าจะต้องเป็นงานที่ยังไม่ได้ทำ แต่ในบทสนทนานักเรียนส่งงานแล้ว และอาจารย์กำลังคืนงานทตี่ รวจเสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรยี น ข้อ 4 บอกว่า เธอทำได้เยี่ยมมาก ข้อนี้ถูกเพราะเป็นคำติชมที่อาจารย์จะต้องให้เมื่อคืนงาน นักเรยี น โจทย์ข้อ B จะต้องเปน็ คำตอบทีต่ อบรบั คำติชมของอาจารย์ ข้อ 1 บอกวา่ อาจารย์แนใ่ จหรือคะ ว่าชอบมัน ไม่ถกู เพราะเปน็ การย้อนถามอาจารย์ ขอ้ 2 บอกวา่ เปน็ ความกรณุ าของอาจารย์ ขอ้ นถ้ี กู เพราะเปน็ คำทแ่ี สดงการขอบคณุ เมอ่ื มใี คร ทำอะไรให้ และเราร้สู กึ ในความกรณุ าเมตตาของเขา ข้อ 3 บอกว่า ในเป็นงานที่ยากมาก ข้อนี้ไม่ถูกเพราะเป็นการบ่นแทนที่จะขอบคุณอาจารย์ ขอ้ 4 บอกว่า ฉันไม่เชื่อเธอ (ดิฉันไม่เชื่ออาจารย์หรอก) ข้อนี้ไม่ถูกเพราะเสียมารยาท เป็น การแสดงความไม่เช่ือคำพูดของอาจารย์ 11. โจทย์ A คำตอบ 4 โจทย์ B คำตอบ 2

โจทย์ A ต้องการคำนามเพราะเปน็ ส่วนท่ีให้ขอ้ มลู หรอื รายละเอียดของคำนามที่อยู่ 101 ขา้ งหน้า ไมใ่ ชป่ ระธานร่วมเพราะไมม่ ตี ัวเช่ือม แตม่ ีเคร่อื งหมาย , คัน่ ก่อนและหลัง , , (noun in opposition) คำตอบโจทย์ A คอื 4 once a small quiet village โจทย์ B ต้องการกริยา เพราะในประโยคยังไม่มีกริยาหลัก (main verb) ประธานของประโยคคอื Ban Na Nong คำตอบโจทย์ B คอื 2 is now a busy town12. โจทย์ A คำตอบ 3 โจทย์ B คำตอบ 4 โจทย์ A ต้องการคำเช่อื มทแี่ สดงวตั ถุประสงค์หรือเป้าหมาย คำตอบโจทย์ A คอื 3 In order to attract and keep เปน็ คำอธิบายขยายความของประโยคหลัก โจทย์ B ต้องการทดสอบการใช้ make + something + adjective และการเลือก ใชค้ ำศัพท์ pleasant / pleasing pleasing แปลว่า เปน็ ที่ชน่ื ชอบ pleasant แปลวา่ สนกุ สนาน คำตอบโจทย์ B คือ 4 have tried to make shopping as pleasant13. โจทย์ A คำตอบ 2 โจทย์ B คำตอบ 1 โจทย์ A ต้องการประธานของประโยค และกริยาเป็น present เพราะเป็นเรื่องจริง (fact) คำตอบโจทย์ A คือ 2 children must go โจทย์ B ตอ้ งการประโยคเช่ือมทมี่ กี ริยาใน tense เดียวกนั คือ present คำตอบโจทย์ B คอื 1 when they reach a certain age14. โจทย์ A คำตอบ 3 โจทย์ B คำตอบ 1 โจทย์ A ตอ้ งการประธานของประโยค รวมทง้ั preposition ทใ่ี ชไ้ ดก้ บั วธิ กี ารเดนิ ทาง คำตอบโจทย์ A คือ 3 John decided to travel by โจทย์ B ต้องการคำอธิบายที่เปน็ สาเหตุ คำตอบโจทย์ B คือ 1 since it would be difficult to find15. โจทย์ A คำตอบ 4 โจทย์ B คำตอบ 2 โจทย์ A ต้องการประโยคที่เป็นกรรมตามหลัง think และต้องการทดสอบเรื่อง การใช้ active / passive voice ด้วย คำตอบโจทย์ A คือ 4 that the meeting should not be held โจทย์ B หลงั จาก nor ประโยคทต่ี ามหลงั จะอยใู่ นรปู ประโยค inversion คอื สลบั ท่ี กนั ระหว่างประธานกบั กรยิ า คำตอบโจทย์ B คอื 2 should anything be said

16. โจทย์ A คำตอบ 2 โจทย์ B คำตอบ 3 โจทย์ A ต้องการคำทีใ่ ชใ้ นการเปรียบเทียบ เหมอื น / ไมเ่ หมือน ทเี่ ปน็ ตวั เชื่อมกับคำนาม ไมใ่ ชต่ ัวเชอื่ มระหว่างประโยค102 คำตอบโจทย์ A คือ 2 unlike coconut oil โจทย์ B จะต้องเป็นกรยิ าหลกั ของ butter คำตอบโจทย์ B คอื 3 is not good for people’s health 17. โจทย์ A คำตอบ 2 โจทย์ B คำตอบ 2 โจทย์ A ต้องการประธานของประโยคและกริยาหลัก และการใช้ present perfect tense เพราะตามหลัง as soon as ด้วยเหตกุ ารณท์ เ่ี กิดมากอ่ นแลว้ คำตอบโจทย์ A คือ 2 all the actors have had โจทย์ B ต้องการกริยาของประโยคหลกั และบรรยายเหตกุ ารณ์ทจ่ี ะเกิดขึ้นต่อไป คำตอบโจทย์ B คือ 2 will resume 18. โจทย์ A คำตอบ 2 โจทย์ B คำตอบ 1 โจทย์ A ต้องการกริยาหลักของประโยค คำตอบโจทย์ A คอื 2 are necessary to help โจทย์ B ต้องการทดสอบการใชก้ รยิ าซงึ่ ต้องอยใู่ นรปู แบบเดยี วกบั verb ที่มาข้างหนา้ ในทน่ี ้ี จะละ to ไว้ (are necessary to and ) คำตอบโจทย์ B คือ 1 and (to) improve your state of fitnessคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 19. โจทย์ A คำตอบ 3 โจทย์ B คำตอบ 2 โจทย์ A ตอ้ งการประธานและต้องการทดสอบ word order ด้วย คำตอบโจทย์ A คอื 3 About sixty percent of the students โจทย์ B ต้องการทดสอบการใช้ rest และ word order ท่ถี กู ตอ้ ง คำตอบโจทย์ B คือ 2 and the rest from the others 20. โจทย์ A คำตอบ 3 โจทย์ B คำตอบ 4 โจทย์ A ต้องการกรยิ าหลกั ของประโยค เป็นการบรรยายเหตุการณ์ที่เกดิ ข้ึนในอดตี tense ทถ่ี กู ต้องคือ past simple คำตอบโจทย์ A คอื 3 came to that small village โจทย์ B ตอ้ งการตัวเช่อื มทแ่ี สดงผล คำตอบโจทย์ B คอื 4 therefore its inhabitants were almost completely cut off 21. ส่วนทีไ่ มถ่ กู ตอ้ งคือ D escapes from a balloon D ผิดเพราะกริยาที่ตามหลัง watch จะต้องอยู่ในรูป verb-ing เพราะฉะนั้น คำตอบที่ถูก ไวยากรณ์คือ D 2 escaping from a balloon

ประโยคทถี่ ูกตอ้ งคือ The simplest way to understand how a jet engine works is to watch air escaping from a balloon.22. ส่วนทีไ่ ม่ถูกตอ้ งคือ D which Julian works 103 D ผดิ เพราะ supermarket เปน็ สถานท่ี เราจะใช้ pronoun where หรอื in which เชื่อมประโยค เพราะฉะนั้นคำตอบที่ถูกไวยากรณ์คือ D 1 in which Julian is working ประโยคท่ถี กู ต้องคอื The Benson family likes to shop at the supermarket in which Julian is working.23. ส่วนทไี่ มถ่ ูกตอ้ งคือ C if he is confident enough C ผิดตรงตัวเชื่อม if เพราะทำให้ความหมายผิดไปจากความจริง ตัวเลือกใน C ที่ ถกู ต้องคอื 2 unless he is confident enough ถ้า….ไม่ ประโยคทถ่ี กู ตอ้ งคอื No doctor will prescribe any new drug unless he is confident enough that it will work.24. สว่ นท่ไี ม่ถกู ต้องคอื C too strong that C ผดิ เพราะใช้ too…that เปน็ ตวั เชอ่ื มประโยคแทน so…that ตวั เลอื กใน C ทถ่ี กู ตอ้ ง คือ 4 so strong that ประโยคท่ถี กู ตอ้ งคือ A black hole is a region of space where the gravitational pull is so strong that nothing can escape.25. ส่วนทไี่ ม่ถูกต้องคือ C finalized C ผดิ เพราะ finalized เปน็ สกรรมกรยิ า ในประโยคนค้ี ำนามทอ่ี ยใู่ นตำแหนง่ ประธาน คือ decision ซึ่งเป็นการกระทำ ฉะนั้นประโยคจะต้องอยู่ในรูป passive voice ตัวเลอื กใน C ทีถ่ ูกต้องคอื 4 was finalized ประโยคท่ีถูกตอ้ งคอื The decision on the workers’ wage was finalized at the meeting which was held yesterday.26. สว่ นทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งคอื A had destroyed about 100 homes A ผดิ เพราะเปน็ เรอ่ื งอดตี ทจ่ี บสน้ิ ไปแลว้ tense ทใ่ี ชจ้ ะตอ้ งเปน็ past simple tense ตัวเลือกใน A ทเี่ ปน็ คำตอบท่ีถกู ต้องคือ 3 destroyed about 100 homes ประโยคท่ีถูกตอ้ งคอื In the years 1970, a tornado destroyed about 100 homes in a small town on the Mississippi River, and four residents were killed.27. ส่วนทไี่ มถ่ กู ตอ้ งคือ D would lose staff D ผดิ เพราะเปน็ การวางเงอ่ื นไขทเ่ี ปน็ สมมตฐิ านประเภทท่ี 1 และ the final result จะเปน็ ประธานของกรยิ า would lose ไมไ่ ด้ ตวั เลอื กใน D ทถ่ี กู ตอ้ งคอื 2 will be loss of staff

ประโยคทถ่ี ูกต้องคอื If present dissatisfaction over salaries continues, the final result will be loss of staff.104 28. ส่วนท่ีไม่ถูกตอ้ งคอื A whether all of the fat A ผดิ เพราะหลงั จาก belief ซงึ่ เปน็ ประธาน ขอ้ ความท่ตี ามมาจะเปน็ สว่ นขยายของ belief และเป็นประธานของ is unhealthy ด้วย ตวั เลือกใน A ท่ถี ูกตอ้ งคอื 3 that all fat ประโยคทีถ่ ูกต้องคอื The belief that all fat is unhealthy and should therefore be omitted. 29. สว่ นท่ีไมถ่ กู ต้องคอื B about the amount of time B ผิดเพราะหลังจาก complain จะต้องเป็นส่วนที่ขยาย complain และเป็นประธานของ relative pronoun which ตัวเลอื กใน B ทถ่ี ูกต้องคอื 4 that the amount of time ประโยคทถ่ี ูกต้องคือ Most students usually complain that the amount of time which they are allocated to work on a test is too short. 30. สว่ นทีไ่ ม่ถกู ต้องคอื C so that the C ผดิ เพราะหลังจาก such ซึ่งเป็น predetermierใช้นำหน้าคำนาม a large, rapidly growing population คำทใี่ ช้เชื่อมกบั ประโยคคอื that (such + n + that) ตวั เลอื กใน C ที่ถูกต้องคือ 3. that the ประโยคทีถ่ ูกต้องคอื The capital city has such a large, rapidly growing population that the governor cannot solve the problem of waste disposal there.คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T SECTION 2 Reading Ability (Nos. 31-70) Part 1: Vocabulary (Nos. 31-40) ข้อ 31-40 เปน็ ขอ้ สอบเติมคำในชอ่ งวา่ ง ไดต้ คี วามว่า self-esteem คือความรสู้ ึกภาคภมู ใิ จ ในตนเอง และรูส้ ึกว่าตนเองนน้ั มีคณุ คา่ ในแต่ละประโยคได้ตดั คำออก 1 คำ 31. Your self-esteem 31 everything you do…หมายความว่าความรูส้ กึ ภาคภมู ิใจ ในตนเอง 31 (มีอิทธิพลต่อ) ส่ิงทค่ี ุณทำทุกประการ… คำตอบ ข้อ 3 influences หมายถึง มอี ทิ ธิพลตอ่ ขอ้ 1 discovers หมายถึง ค้นพบ ขอ้ 2 examines หมายถงึ ตรวจสอบ ขอ้ 4 understands หมายถงึ เข้าใจ 32. It is, in fact, one of the most important 32 in your overall senses of well-being…ประโยคนี้หมายความว่า ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองเป็น 32 (ปัจจัย) ทส่ี ำคญั ทส่ี ดุ ประการหนงึ่ ท่ที ำใหร้ ู้สกึ พอใจในชวี ติ โดยรวมของตวั เอง (It หมายถงึ ความรสู้ ึก ภาคภูมใิ จในตนเอง)

คำตอบ ขอ้ 2 factors หมายถึง ปัจจัย 105 ข้อ 1 samples หมายถงึ ตวั อย่าง ขอ้ 3 properties หมายถงึ คุณสมบัติ ทรัพยส์ นิ ขอ้ 4 structures หมายถึง โครงสร้าง33. How well you feel physically, 33 and socially can affect your self-esteem. ประโยคน้ีหมายความวา่ ความรูส้ ึกท่ีดที างดา้ นรา่ งกาย 33 (จิตใจ) และสงั คม มผี ลกระทบต่อความรู้สึกภาคภูมใิ จในตนเองได้ คำตอบ ข้อ 2 mentally หมายถึง ทางด้านจิตใจ ข้อนี้มีตัวช่วยอยู่ใน ประโยคถัดไป คอื physical, mental, social health ข้อ 1 mindfully หมายถงึ ด้วยความระมัดระวัง ข้อ 3 spiritually หมายถงึ ดว้ ยจติ วิญญาณ ขอ้ 4 thoughtfully หมายถงึ อย่างไตรต่ รอง34 ….your 34 of self-esteem can directly affect your physical, mental, and social health. ประโยคนหี้ มายความว่า 34 (ระดบั ) ของความ ภาคภูมใิ จในตวั เอง มีผลกระทบโดยตรงตอ่ สุขภาพทางรา่ งกาย จติ ใจ และสังคม ของคณุ เอง คำตอบ ข้อ 3 level หมายถึง ระดับ ข้อ 1 area หมายถงึ อาณาบรเิ วณ พืน้ ที่ เนือ้ ท่ี เขต ขอ้ 2 limit หมายถงึ ขดี จำกดั จำนวนจำกดั ขอบเขต เขตจำกดั วงจำกัด ข้อ 4 range หมายถึง ขอบเขต ลำดบั แถว35. Some of the 35 about who you are…ประโยคน้ีหมายความว่า 35 (สงิ่ ท่สี ื่อให้รูว้ ่า) คุณเปน็ ใคร คำตอบ ข้อ 4 messages หมายถึง สารข้อมลู ทีเ่ ราส่อื ให้ผู้อื่น หรือผู้อ่ืน สอื่ ใหเ้ รารับทราบ หมายถงึ ปญั หา ขอ้ 1 problems หมายถงึ ทศิ ทาง แนวโนม้ วิธกี ารใช้ ขอ้ 2 directions หมายถงึ การอภปิ ราย การถกปญั หา การโตแ้ ยง้ ขอ้ 3 discussions หาเหตผุ ล36. They are called 36 messages. ข้อน้โี ยงมาจากขอ้ 35 They หมายถงึ “Some of the messages” ซง่ึ หมายถงึ ขอ้ มลู ทส่ี อ่ื ใหร้ เู้ รยี กวา่ เปน็ ขอ้ มลู 36 (ภายนอก) คำตอบ ข้อ 4 external หมายถึง ภายนอก ข้อน้มี ีตัวช้แี นะจากประโยค ถดั ไป ซึ่งมีคำว่า inside, internal ซึง่ มคี วามหมายตรงข้ามกบั external ขอ้ 1 special หมายถึง พเิ ศษ ขอ้ 2 usual หมายถงึ เปน็ ปกติ เป็นธรรมดา เปน็ ประจำ ขอ้ 3 actual หมายถึง ตามความเป็นจริง

37. Many people 37 their self-esteem on external factors… ประโยคนีห้ มาย ความวา่ คนสว่ นใหญจ่ ะมคี วามภาคภมู ใิ จในตนเองโดย 37 (ยึดถอื ) ปจั จยั ภายนอกเปน็ หลกั คำตอบ ขอ้ 3 base หมายถึง ยึดเปน็ หลกั106 ข้อ 1 fix หมายถึง ยดึ ให้ตดิ แน่น ทำใหต้ ดิ แน่น เกาะแน่น ข้อ 2 put หมายถงึ วาง ใส่ ข้อ 4 rest หมายถงึ วางบน หยุดนิง่ พักผอ่ นเอาแรง 38 … on external factors – on how they look, what they have, how they 38 ในประโยคนี้มี – หลงั คำว่า external factors เพ่อื เป็นการอธิบาย external factors คอื อะไร ซ่งึ ได้แก่ ลกั ษณะหน้าตาทา่ ทาง การปฏิบัติตวั และ 38 (การกระทำ) ตา่ ง ๆ ของเขา คำตอบ ข้อ 2 perform หมายถึง ทำ ขอ้ 1 hope หมายถึง หวงั ข้อ 3 improve หมายถึง ปรับปรุง ข้อ 4 feel หมายถงึ รู้สึก 39. In 39 , however, self-esteem comes from knowing, …ประโยคนีต้ อ้ งการ อธิบายวา่ 39 (ตามความเป็นจรงิ แล้ว) ความภาคภมู ิใจในตนเองเกิดจากอะไรหรอื มขี ้นึ ได้ อย่างไร คำตอบ ข้อ 3 reality หมายถึง ตามความเปน็ จริงแลว้ ข้อ 1 turn หมายถงึ จงึ มผี ลให้ จึงทําให้ ขอ้ 2 general หมายถงึ โดยทวั่ ไป ข้อ 4 conclusion หมายถึง สรุปได้ว่า โดยสรปุ 40 … knowing, 40 , and liking …ประโยคนเี้ ป็นข้อความต่อเน่ือง เป็นประโยคต่อจาก ข้อ 39 ซึ่งกล่าววา่ ความภาคภมู ใิ จในตนเองเกดิ จากการทต่ี นเองรู้ 40 (การยอมรับ) และ ความชอบในความเป็นตัวตนของตัวเองคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T คำตอบ ข้อ 4 accepting หมายถงึ การยอมรบั ขอ้ 1 caring หมายถึง การเอาใจใส่ ความหว่ งใย ความเอื้ออาทร ขอ้ 2 wanting หมายถึง ความต้องการ ข้อ 3 praising หมายถงึ การยกยอ่ ง PART 2: Reading comprehension Passage 1 เป็นข้อมลู เกย่ี วกบั ภัตตาคารท่ดี ีทสี่ ดุ ในซิดนยี ์ Alhambra ขายอาหารสเปนและมรี ะบำฟลาเมนโกแสดงให้ชมด้วย เปดิ ขายอาหารกลางวนั วนั จันทร์ถงึ วันศุกร์ และขายอาหารเย็นทุกวัน Darling Pavilion ขายอาหารออสเตรเลีย มบี รรยากาศชายทะเล เปิดขายอาหารกลางวนั และอาหารเย็นทุกวัน Ram & Rain ขายอาหารไทยแท้ มีรำไทยให้ดู มีร้านกาแฟอย่ชู น้ั บน เปดิ ขายอาหารกลางวนั วันอังคารถึง วนั ศุกร์ และอาหารเยน็ วนั อังคารถงึ วันเสาร์

Diamond Century 107 เปน็ ภตั ตาคารจนี ท่ชี ำนาญเร่อื งอาหารทะเลสด เปิดขายอาหารกลางวนั ตั้งแต่วัน จนั ทรถ์ ึงวนั เสาร์ และขายอาหารเย็นทุกวัน Florence’s ขายอาหารอติ าเลยี น เปิดขายอาหาร 24 ชว่ั โมง ขายอาหารเชา้ อาหารกลางวนั และอาหารเยน็ ทุกวนั Rani’s ขายอาหารอนิ เดีย เป็นการขายอาหารกลางแจ้ง เปดิ ขายอาหารกลางวันและอาหาร เยน็ ต้งั แตว่ ันจนั ทรถ์ ึงวนั เสาร์41. You can order fish, lobsters or prawns cooked in Chinese style at . คณุ สามารถส่ังปลา กงุ้ ปรงุ สุกตามแบบจนี ที่ คำตอบ ขอ้ 3 เพราะคณุ สามารถสง่ั อาหารปรงุ สกุ ตามแบบจนี ไดท้ ร่ี า้ น Dia- mond Century42. Customers can enjoy Spanish dancing at the restaurant with the telephone number “ ”. ลกู คา้ สามารถเพลิดเพลินกับการเตน้ รำแบบสเปนได้ท่ีภตั ตาคารทีม่ ีหมายเลขโทร ศัพท์ “ ” คำตอบ ข้อ 3 เพราะหมายเลขโทรศัพท์ 9976-2977 เป็นของภัตตาคาร Alhambra ซึ่งมีการเตน้ รำแบบสเปน43. The restaurant that serves only lunch and dinner every day is located at . ภัตตาคารทบ่ี ริการเฉพาะอาหารกลางวนั และอาหารเยน็ ทุก ๆ วัน ตัง้ อยทู่ ่ี คำตอบ ข้อ 1 เพราะภัตตาคารที่บริการอาหารกลางวันและเย็นทุกวัน คือ รา้ น Darling Pavilion ซึง่ ตง้ั อยทู่ ี่ 68 Darlinghurst Road44. The restaurant that is open all day and all night is . ภัตตาคารที่เปดิ บรกิ ารตลอดวันคือ คำตอบ ข้อ 4 เพราะภัตตาคาร Florence’s เปดิ บรกิ าร 24 ชวั่ โมง45. The restaurant that serves lunch only 4 days a week is the . ภัตตาคารทีบ่ ริการอาหารกลางวนั 4 วนั ตอ่ สัปดาห์ คอื คำตอบ ขอ้ 2 เพราะภตั ตาคารไทยเปดิ บรกิ ารอาหารกลางวนั 4 วนั ตอ่ สปั ดาห์Passage 2 เรื่องนี้เกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่งซึ่งทำตัวเป็นซานตาคลอสที่ไม่เคยปรากฏกายให้ใครเห็น เหตุที่เรียกว่าซานตาคลอสเพราะเขาได้แอบเอาเงินจำนวนมากกว่า 81 ล้านวอนมาให้เมืองหนึ่งในเกาหลีตอนใต้ ตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 2000 ในปนี ีเ้ ขาไดน้ ำเงนิ จำนวน 20 ล้านวอนใส่ในกล่อง และโทรบอกใหค้ นไปรบั เงนิ มา

46. The best headline for this news article would be… ขอ้ นใ้ี หเ้ ลอื กขา่ วพาดหวั ทด่ี ที ส่ี ดุ สำหรบั ขา่ วน้ี คำตอบ ขอ้ 1 เพราะเปน็ การเนน้ ทซ่ี านตา้ ผลู้ กึ ลบั ไดก้ ลบั มา ซง่ึ ซานตาเปน็ จดุ ทส่ี ำคญั ของเรอ่ื ง108 ข้อ 2 กล่องบรรจุเงินเปน็ จุดเลก็ ของเร่อื ง ไม่ใช่จุดเนน้ ขอ้ 3 เปน็ การสรปุ จำนวนเงนิ ทบ่ี รจิ าคทง้ั หมด แตใ่ นขา่ วระบวุ า่ จำนวนเงนิ ทบ่ี รจิ าค นัน้ มากกว่า 81 ลา้ นวอน ขอ้ 4 กลา่ วถงึ เงนิ ทพ่ี บในทจ่ี อดรถ ไมไ่ ดเ้ นน้ วา่ เปน็ เงนิ บรจิ าค แตอ่ าจเปน็ เงนิ อะไร กไ็ ด้ 47. The man who donated the money must be by people in the South Korean town. ขอ้ นเ้ี นน้ ทค่ี ำศพั ท์ ซง่ึ หมายถงึ วา่ คนทบ่ี รจิ าคเงนิ เปน็ ทเ่ี คารพนบั ถอื ของผไู้ ดร้ บั คำตอบ ขอ้ 1 looked up to หมายถึง นบั ถอื ขอ้ 2 looked into หมายถงึ ตรวจสอบ สอบสวน ข้อ 3 looked over หมายถึง ตรวจดู ข้อ 4 looked down to หมายถึง ดูถกู เหยียดหยาม 48. Staff at a residents’ centre…. ประโยคนี้หมายถึงผู้ที่พบเงิน 20 ล้านวอนจากผู้ที่ไม่ ประสงค์จะแสดงตัว คำตอบ ขอ้ 3 found the 20 million won from the anonymous benefactor ข้อ 1 เงิน 81 ล้านวอนเป็นยอดเงนิ ที่รบั บริจาค แต่ที่คนไปพบนัน้ เปน็ จำนวน 20 ลา้ นวอน ขอ้ 2 ค้นพบกลอ่ งใส่เงิน (ซึ่งในกลอ่ งอาจจะไมม่ ีเงิน) ขณะจอดรถ ในข่าวบอกแต่ เพยี งว่าเจอเงินในท่ีจอดรถ ไม่ใชข่ ณะจอดรถ ขอ้ 4 เหน็ ผู้ชายบริจาคเงินไว้ที่จอดรถ ในข่าวไม่ได้บอกว่าเห็นผู้ชายวางเงินไว้ แต่รู้จากโทรศัพท์ว่ามีเงินถกู วางไวใ้ นทจี่ อดรถ 49. “An anonymous benefactor” is ____. ข้อนถ้ี ามความหมายของคำศพั ท์คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T คำตอบ ข้อ 4 หมายถึง ผูท้ ใี่ ห้เงินโดยไม่เปิดเผยตนเอง ขอ้ 1 หมายถงึ ผ้ทู ีใ่ ห้เงนิ แกค่ นท่ีไม่รจู้ กั ขอ้ 2 หมายถึง คนท่ใี ห้เงินด้วยจดุ มุ่งหมายให้ผ้รู ับนำไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในทาง ท่ดี ี ข้อ 3 หมายถึง ผู้บริจาคท่ชี อบให้เงนิ แกอ่ งค์กร 50. The verb “spotted” means… ข้อนีต้ อ้ งการถามความหมายของคำศัพท์ spotted ซึ่ง เปน็ คำกริยา แปลวา่ “เหน็ ” คำตอบ ขอ้ 1 seen แปลว่า เหน็ ข้อ 2 known แปลว่า รจู้ กั ขอ้ 3 found แปลว่า พบ ขอ้ 4 discovered แปลวา่ คน้ พบ 51. Since the year 2000, a secret Santa in a South Korean town. ขอ้ น้ตี ้องการใหเ้ ตมิ ข้อมลู ว่าซานตา้ ผลู้ กึ ลบั ทำอะไร คำตอบ ขอ้ 4 ซานต้าไดบ้ ริจาคเงนิ มาแลว้ 10 คร้งั ซึ่งตรงตามขา่ ว ข้อ 1 ในขา่ วไม่ไดใ้ หท้ ุกวันครสิ ต์มาส ขอ้ 2 ในข่าวไม่ได้กลา่ ววา่ ใสเ่ งนิ ในกลอ่ งทกุ ครง้ั ขอ้ 3 ในขา่ วกลา่ ววา่ เงนิ บริจาคนน้ั มจี ำนวนมากกวา่ 81 ล้านวอน

Passage 3 109 เรอ่ื งนเ้ี ปน็ ผลวจิ ยั เกย่ี วกบั บรอคโคลซี ง่ึ ทำขน้ึ ในสหรฐั อเมรกิ า ผวู้ จิ ยั คน้ พบวา่ บรอคโคลีที่ปลูกในสภาวะที่เหมาะสมเพ่ิมภูมติ ้านทานมะเร็ง และอาจฆา่ เซลล์มะเร็งได้ และค้นพบวา่ตน้ บรอคโคลีที่งอกได้ 3 วันจะมีสารตา้ นมะเรง็ SGS เขม้ ขน้ กวา่ ตน้ แก่ ผู้คน้ พบนไี้ ดม้ ีการจดลิขสิทธิ์ และมกี ารจัดจำหนา่ ยในรา้ นสุขภาพบางแห่ง52. The best heading for this passage is ___. เรื่องน้ใี หเ้ ลือกหวั เร่ืองทีด่ ที ีส่ ดุ สำหรบั ข่าวน้ี คำตอบ ขอ้ 1 เพราะดูจากบรรทัดที่ 3-4 ในประโยคที่ 1 ซึ่งเป็นประโยคที่ ครอบคลมุ เนื้อหาของเรอ่ื งทง้ั หมด ขอ้ 2 เป็นคำตอบทก่ี ว้างไป ในเร่อื งเนน้ baby broccoli ข้อ 3 เปน็ รายละเอียดปลีกย่อย ขอ้ 4 เป็นข้อมูลทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง53. The verb “boost” can best be replaced by . ขอ้ นตี้ อ้ งการถามความ หมายของคำศัพท์ boost ซ่งึ เป็นคำกริยา ซงึ่ แทนไดด้ ้วยคำว่า “กระตุ้น” คำตอบ ข้อ 4 improve แปลว่า เพิ่ม ปรับให้ดีขึ้น เป็นความหมายที่ใกล้ เคียงทสี่ ุด ขอ้ 1 advance แปลวา่ ทำให้กา้ วหนา้ ขอ้ 2 preserve แปลว่า เก็บรกั ษา ขอ้ 3 expand แปลวา่ แผ่ขยาย54. In the passage, the world that means “producing the expected results” is . ข้อน้ีต้องการทราบถึงคำศพั ทใ์ นเน้อื เรอื่ งทมี่ คี วามหมายวา่ “กอ่ ให้เกิดผลดังคาด” คำตอบ ขอ้ 1 effective แปลว่า มีประสิทธิผล ซึง่ มีความหมายใกลเ้ คยี ง ทส่ี ุด ขอ้ 2 concentrated แปลว่า เขม้ ขน้ ขอ้ 3 patented แปลว่า จดสทิ ธบิ ตั ร ข้อ 4 available แปลวา่ มอี ยู่55. Thepronoun “them” refers to . ข้อนี้ต้องการทราบว่าคำสรรพนาม “them” หมายถึงคำศพั ท์ใดในเน้ือเรอ่ื ง คำตอบ ขอ้ 3 the seedlings พบคำตอบได้ในบรรทัดที่ 9 …seedlings are grown… ข้อ 1 salads หมายถึง สลดั ขอ้ 2 broccoli plants หมายถึง ต้นบรอคโคลี ข้อ 4 health foods หมายถึง อาหารสุขภาพ56. Thepassagecouldprobablybefoundinthesection .เน้ือเรอ่ื งประเภทน้ี มักพบไดใ้ นหมวดใด (ในนิตยสารตา่ งประเทศ) คำตอบ ข้อ 2 Natural Health เพราะเนือ้ เรอ่ื งน้ีเนน้ การบำรงุ สุขภาพดว้ ย อาหารธรรมชาติ

57. We can infer from the passage that SGS ขอ้ น้ตี ้องการให้สรปุ แบบตีความว่า SGS มคี ุณสมบัตอิ ย่างไร คำตอบ ขอ้ 1 พบคำตอบไดใ้ นบรรทดั 2-4 ในประโยคที่ 1110 58. “BroccoSprouts” can be bought at . ขอ้ น้ถี ามว่า BroccoSprouts ซ้ือได้ทใี่ ด คำตอบ ขอ้ 2 พบคำตอบนใี้ นประโยคสุดท้ายของเรื่องวา่ มีขายที่ร้านขายของชำหรอื รา้ นอาหารสุขภาพบางแห่งเท่านั้น 59. BroccoSprouts is a . ข้อนี้ต้องการถามวา่ BroccoSprouts คอื อะไร คำตอบ ข้อ 1 เพราะ BroccoSprouts เป็นชื่อยี่ห้อผลิตภัณฑ์สินค้าที่ทำมาจาก บรอคโคลี ขอ้ 2 manufacturer หมายถึง ผูผ้ ลติ ขอ้ 3 research title หมายถงึ หวั ข้อวจิ ัย ข้อ 4 health food store หมายถึง ร้านอาหารสุขภาพ แต่ BroccoSprouts เป็นตน้ กลา้ ไม่ใช่รา้ นอาหารสุขภาพ 60. According to the passage, the SGS in an ounce of young broccoli seedlings . ข้อน้ตี ้องการถามถงึ ปริมาณ SGSในตน้ กล้า 1 ออนซ์ คำตอบ ขอ้ 2 มีค่าเท่ากับปริมาณ SGSในบรอคโคลี 20 ออนซ์ พบคำตอบได้ใน บรรทัดที่ 7-8คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T Passage 4 Goal Setting Helps เร่ืองน้ีอธบิ ายว่าการตง้ั จุดหมายในการทำส่ิงใดจะช่วยให้ประสบผลสำเรจ็ ยอ่ หน้าท่ี 1 (paragraph 1) ในย่อหน้าน้ผี ้เู ขียนบอกว่าการออมเงนิ ถา้ จะออมให้ไดผ้ ลจะต้องมีแรงจูงใจ โดยอุปมาอุปมยั กบั เรื่องการคุมอาหาร คือถ้าเราจะไปงานเลี้ยงกบั เพอ่ื นเรากจ็ ะมแี รงจงู ใจทีท่ ำใหค้ มุ น้ำหนกั ได้ นอกจากน้เี รายังมเี ป้าหมายเพือ่ ให้บรรลผุ ลได้ ยอ่ หนา้ ที่ 2 (paragraph 2) สรปุ ได้วา่ เม่ือเรารู้ว่าการออมเงนิ ไม่ทำใหเ้ ราอดทำสง่ิ อื่นไปตลอดกท็ ำใหก้ ารออมของเราทำ ได้ง่ายข้นึ เมื่อบรรลุเปา้ หมายเราอาจจะเลิกออมเงนิ ได้ หรอื จะเปล่ียนเปา้ การออมกไ็ ด้ใหม่ ยอ่ หนา้ ที่ 3 และ 4 (paragraphs 3 and 4) ในสองย่อหน้านี้ผู้เขียนยกตัวอย่างกรณีของ Cynthia ที่ต้องการออมเงินเพื่อซื้อโต๊ะโบราณ ซึ่งราคาแพงเกินงบรายรับรายจ่ายของตัวเอง Cynthia ได้ตรวจสอบการใช้จ่ายของเธอและ พบว่าเธอใช้เงินซื้อหนังสือในแต่ละเดือนมากมาย เธอจึงหยุดซื้อหนังสือ แต่ขอยืมหนังสือที่ ต้องการอ่านจากหอ้ งสมดุ แทนการซอื้ ซ่ึงเป็นการลดรายจา่ ย เพราะต้องการการออมเงนิ 61. The word “incentive” (line 1) means . คำว่า “แรงจงู ใจ” หมายความว่า 1. power อำนาจ 2. strength ความแข็งแรง 3. motivation พลงั ขับเคล่อื น 4. willingness ความเต็มใจ

คำตอบคือ 3เพราะmotivationมีความหมายสอดคล้องกับincentiveและใช้ แทนกนั ได้ในประโยคในเนอ้ื เร่อื ง62. The phrase “around the corner” (line 3) as used in this passage 111 `means . วลี “around the corner” (บรรทัดท่ี 3) ท่ใี ช้ในเนื้อเรื่องนี้ หมายความวา่ 1. nearby อยู่ใกล้หรือใกลเ้ คียง (จะใช้บอกตำแหนง่ ทีต่ ัง้ ) 2. at a distance ทีร่ ะยะไกล (บอกระยะทางหรอื ระยะเวลา) 3. coming soon กำลังจะมาถงึ เรว็ ๆ นี้ (ใช้กับเวลา) 4. not long lasting ไมย่ นื ยาว ไมค่ งทนถาวร ไม่อยู่นาน คำตอบคือ 3 around the corner ในเนื้อเร่อื งเปน็ สำนวนหมายความว่ากำลงั จะมาถึง เรว็ ๆ น้ี63. According to the passage, in order to save money effectively, one should . ตามเนือ้ เร่อื ง ในการออมเงินใหไ้ ด้ผล เราควรจะ 1. give up all expenses หยดุ การใชจ้ า่ ยท้ังหมด 2. cut the family budget ตัดงบรายรับรายจา่ ยของครอบครวั 3. have a definite objective มเี ปา้ หมายท่แี น่นอน 4. change one’s lifestyle เปลย่ี นรปู แบบการใช้ชีวติ คำตอบคอื 3 เพราะจากตัวอย่างของแมคอินไทร์ทีแ่ สดงใหเ้ ห็นว่าการออมจะได้ผล ต้องมีเป้าหมายชัดเจน64. The writer compares the intention to save money with . ผเู้ ขียนได้เปรียบเทยี บความต้งั ใจในการออมเงนิ กบั 1. a school reunion การชุมนมุ ศิษย์เก่า 2. buying an antique การซ้อื วัตถโุ บราณ 3. short-term planning การวางแผนระยะส้นั 4. losing weight การลดนำ้ หนกั คำตอบคอื 4 ให้ดจู ากเนื้อเรื่องในประโยคที่ 365. The advantage of having a definite time limit is that you . ข้อไดเ้ ปรียบในการกำหนดเวลาที่แนน่ อนคือ คุณ 1. have more willpower to achieve your goal มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุ เปา้ หมายมากข้นึ 2. can give up after a certain time has passed สามารถยตุ ไิ ด้หลังจากเวลาไดผ้ ่านไประยะหนึ่ง 3. will get what you want more easily จะได้สิง่ ทีค่ ุณต้องการไดง้ ่ายย่งิ ขนึ้ 4. do not have to give up your intention ไม่จำเป็นต้องเลิกลม้ ความตง้ั ใจ ของคณุ คำตอบคือ 1 จากเนือ้ เรื่องในย่อหน้าท่ี 2 ประโยคที่ 1

66. The phrase “That approach” (line 8) refers to . วลี “วิธกี ารนนั้ ” (บรรทัดท่ี 8) หมายถึง 1. setting a new objective การกำหนดวัตถุประสงคใ์ หม่ 2. reapplying the strategy การนำกลยทุ ธม์ าใชอ้ ีก 3. searching for extra savings การหาวิธีทีจ่ ะออมเงินใหไ้ ด้มากขึ้น112 4. working toward a goal การดำเนนิ การเพื่อไปสู่เป้าหมาย คำตอบคอื 4 เปน็ การองิ ขอ้ มลู ในเนอ้ื เรอ่ื งจากยอ่ หนา้ ท่ี 1 และท่ี 2 คอื การทำใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายนน่ั เอง 67. Cynthia McIntyre was trying to save up money for . ซนิ เทยี แมคอนิ ไทร์ พยายามทจ่ี ะเก็บเงนิ สำหรับ 1. hardcover books หนงั สือปกแข็ง 2. the latest bestsellers หนงั สือขายดีเล่มล่าสดุ 3. an antique table โต๊ะโบราณตวั หนึ่ง 4. a kitchen gadget เคร่อื งใช้ในครวั ช้นิ หนง่ึ คำตอบคอื 3 เปน็ ขอ้ มูลในท่ีอยใู่ นยอ่ หน้าท่ี 3 ของเนอื้ เรอ่ื ง 68. It can be inferred from the passage that Cynthia McIntyre is a . จากเนื้อเร่อื งอนมุ านไดว้ ่า ซินเทยี แมคอนิ ไทร์ เปน็ 1. bookworm หนอนหนงั สอื 2. great shopper นักซื้อตัวยง 3. librarian บรรณารกั ษ์ 4. book reviewer ผวู้ ิจารณห์ นงั สือ คำตอบคือ 1 จากขอ้ มลู ในยอ่ หนา้ ท่ี 4 ของเนื้อเร่อื งคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 69. Cynthia achieved her goal because she . ซินเทยี บรรลเุ ป้าหมายของเธอ เพราะว่าเธอ . 1. no longer gave away books ไม่ใหห้ นงั สอื แกผ่ อู้ ืน่ อกี ตอ่ ไป 2. gave up her reading habit เลกิ นิสัยการอ่านของเธอ 3. seldom visited the local library ไมค่ ่อยไดไ้ ปห้องสมดุ ในละแวกบา้ น 4. temporarily stopped buying novels หยดุ ซื้อหนงั สอื นวนยิ ายชวั่ คราว คำตอบคอื 4 เพราะเปน็ เหตผุ ลทไ่ี ดก้ ารตคี วามในเนอ้ื เรอ่ื งในยอ่ หนา้ ท่ี 4 ประโยคท่ี 5 ทบ่ี อกว่า เธอไป เอาหนังสือจากห้องสมุดในละแวกบา้ นมาอา่ น 70. The purpose of the passage is to . จดุ ประสงคข์ องเน้อื เร่ืองนค้ี อื เพอ่ื 1. suggest a way to achieve a goal เสนอแนะวธิ ที ี่จะบรรลเุ ป้าหมาย 2. promote the value of money ส่งเสริมคา่ ของเงิน 3. support a search for savings สนับสนุนการแสวงหาเงนิ ออม 4. discourage unnecessary spending ยับยั้งการใชจ้ า่ ยทีไ่ มจ่ ำเป็น คำตอบคือ 1 เพราะเนื้อเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแนะวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายพร้อมยกตวั อยา่ ง

ข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน)รหัสวิชา 03 วชิ า คณิตศาสตร์สอบวันเสาร์ท่ี 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

114 สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) รหัสวชิ า 04 วิชา คณิตศาสตร์ สอบวนั เสาร์ท่ี 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 11.30 – 13.30 น. ช่อื -นามสกลุ เลขท่นี ่งั สอบ สถานทส่ี อบ ห้องสอบ คำอธิบาย 1. ข้อสอบวชิ าคณิตศาสตร์ (22 หนา้ ) : จำนวน 40 ขอ้ รวม 40 คะแนน 2. ก่อนตอบคำถามให้เขยี นชื่อ-นามสกลุ เลขที่นงั่ สอบ สถานทส่ี อบและหอ้ งสอบบนขอ้ สอบ 3. ให้ตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล เลขที่นั่งสอบ รหัสวิชาสอบในกระดาษคำตอบว่าตรงกับตัว ผูเ้ ขา้ สอบหรอื ไม่ กรณไี มต่ รง ให้แจง้ ผคู้ มุ สอบเพอื่ ขอกระดาษคำตอบสำรอง แลว้ กรอก ข้อความหรือระบายให้สมบูรณ์ 4. ในการตอบ ให้ใช้ดนิ สอดำเบอร์ 2B ระบายวงกลมตัวเลือกในกระดาษคำตอบให้เต็มวง (หา้ มระบายนอกวง) ถา้ ตอ้ งการเปลย่ี นตวั เลอื กใหม่ ตอ้ งลบใหส้ ะอาดจนหมดรอยดำแลว้ จึงระบายวงกลมตัวเลือกใหม่ 5. หา้ มนำข้อสอบและกระดาษคำตอบออกจากห้องสอบ 6. ไมอ่ นุญาตให้ผู้เขา้ สอบออกจากห้องสอบ ก่อนหมดเวลาสอบ 7. ไมอ่ นญุ าตใหผ้ คู้ มุ สอบเปดิ อา่ นขอ้ สอบคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T เอกสารนเ้ี ปน็ เอกสารสงวนลขิ สทิ ธข์ิ องสถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) ห้ามเผยแพร่ อ้างอิง หรือเฉลย ก่อนได้รับอนุญาต สถาบันฯ จะย่อยทำลายข้อสอบและ กระดาษคำตอบทงั้ หมด หลังจากประกาศผลสอบแล้ว 3 เดือน

สว่ นที่ 1 แบบระบายตวั เลือก แตล่ ะขอ้ มีคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 36 ขอ้ (ขอ้ 1–36) ข้อละ 1 คะแนน1.ให้ A = {1, 2, 3, . . .} และ B = {{1, 2}, {3, 4, 5}, 6, 7, 8, . . .} ข้อใดเป็นเท็จ 115 1. A−B มสี มาชกิ 5 ตวั 2. จำนวนสมาชิกของเพาเวอร์เซตของ B − A เท่ากับ 4 01 3. จำนวนสมาชิกของ (A − B) ∪ (B − A) เปน็ จำนวนคู่ 02 4. A ∩ B คือเซตของจำนวนนบั ท่ีมคี ่ามากกวา่ 5 03 042. พจิ ารณาการใหเ้ หตุผลตอ่ ไปน้ี 05 เหตุ 1) A 06 2) เหด็ เป็นพืชมดี อก ผล เหด็ เปน็ พชื ชนั้ สงู ขอ้ สรุปขา้ งตน้ สมเหตสุ มผล ถา้ A แทนข้อความใด 1. พืชชั้นสูงทุกชนิดมีดอก 2. พืชชน้ั สูงบางชนิดมดี อก 3. พืชมดี อกทุกชนิดเป็นพืชช้นั สูง 4. พชื มดี อกบางชนิดเป็นพืชชั้นสงู3 . พจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปน้ี ก. จำนวนทเี่ ป็นทศนยิ มไม่รจู้ บบางจำนวนเปน็ จำนวนอตรรกยะ ข. จำนวนท่เี ปน็ ทศนิยมไมร่ ่้จู บบางจำนวนเปน็ จำนวนตรรกยะ ขอ้ ใดถูกต้อง 2. ขอ้ ก. เทา่ นัน้ 1. ขอ้ ก. และข้อ ข. 4. ขอ้ ก. และขอ้ ข. ผดิ 3. ขอ้ ข. เท่านน้ 4. กำหนดให้ s, t, u และ v เปน็ จำนวนจริง ซึง่ s < t และ u < v พิจารณาข้อความตอ่ ไปน้ี ก. s − u < t − v ข. s − v < t − u ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. ข้อ ก. และข้อ ข. 2. ขอ้ ก. เทา่ น้ัน 3. ขอ้ ข.เท่านนั้ 4. ข้อ ก. และขอ้ ข. ผิด5 . ผลเฉลยของสมการ 2 5 − x = 1 อยใู่ นช่วงใด 2. (−6,−4) 1. (−10,−5) 4. (−3, 6) 3. (−4, 5) 6. ถผา้ลเฉ34ลยเหปน็น่งึผขลอเงฉสลมยกหานรึ่งนขีม้อคีงส่ามตกรงากรับ4ขx้อ2ใด+ bx − 6 = 0 เมือ่ b เปน็ จำนวนจริงแล้ว อกี 2 12 1. −2 2. 3. 12 4.

7 . ขอ้ ใดมีคา่ ต่างจากขอ้ อนื่ ((−−11))00..28 ((−−11))00.4 116 1. 2. 3. 4. 8 . ( 4 √3 − 5 √2 − 3√5 − 5 √2 + 4√3 − 3√5 )2 เทา่ กบั ข้อใด 1. 0 2. 180 3. 192 4. 200 9. ถา้ กำหนให้ a เป็นจำนวนจรงิ บวก และ n เปน็ จำนวนคบู่ วก พิจารณาขอ้ ความตอ่ ไปน้ี n(√n√aan)n= ก. = a ข. a ข้อใดถูกต้อง 2. ข้อ ก. เทา่ นั้น 1. ข้อ ก. และขอ้ ข. 4. ขอ้ ก. และขอ้ ข. ผิด 3. ข้อ ข. เทา่ นน้ั 10. ถ้า (x) = −x² + x + 2 แลว้ ขอ้ ใดสรปุ ถกู ต้อง 1. (x) ≥ 0 เมื่อ −1 ≤ x ≤ 2 2. จดุ วกกลับของกราฟของฟงั ก์ชนั อยู่ในจตุภาคที่สอง 3. ฟังก์ชัน มีคา่ สูงสดุ เท่ากบั 2 4. ฟงั กช์ นั มคี า่ ต่ำสดุ เท่ากบั 2 11. ความสมั พนั ธใ์ นข้อใดเปน็ ฟังก์ชนั 1. {(1, 2), (2, 3), (3, 2), (2, 4)} 2. {(1, 2), (2, 3), (3, 1), (3, 3)} 3. {(1, 3), (1, 2), (1, 1), (1, 4)} 4. {(1, 3), (2, 1), (3, 3), (4, 1)}คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 12. ถา้ (x) = √3 − x และ g(x) = −2 + x − 4 แลว้ D U R คือข้อใด 1. (−∞, 3] 2. [−2,∞) 3. [−2, 3] 4. (−∞, ∞) 13. กำหนดให้กราฟของฟังก์ชัน เปน็ ดงั น้ี ค่าของ 11 (−11) − 3 (−3) (3) คือขอ้ ใด 5 1. 57 2. 68 3. 75 4. 86 -10 -5 0 -5

14. รูปสามเหลยี่ มมุมฉากรปู หน่ึง มพี น้ื ท่ี 600 ตารางเซนตเิ มตร ถา้ ด้านประกอบมุมฉาก 117 ดา้ นหนง่ึ ยาวเปน็ 75% ของดา้ นประกอบมมุ ฉากอกี ดา้ นหนง่ึ แลว้ เสน้ รอบรปู สามเหลย่ี ม มมุ ฉากรปู นี้ ยาวก่ีเซนติเมตร 01 02 1. 120 2. 40 03 3. 60√2 4. 20√2 04 0515. ขบวนพาเหรดรปู สี่เหล่ียมผืนผา้ ขบวนหนึ่ง ประกอบด้วยผเู้ ดินเปน็ แถว แถวละเท่า ๆ กัน 06 (มากกวา่ 1 แถว และแถวละมากกว่า 1 คน) โดยมีเฉพาะผอู้ ยู่ริมด้านนอกทง้ั ส่ดี ้านของ ขบวนเทา่ นั้น ทสี่ วมชุดแดง ซงึ่ มีทั้งหมด 50 คน ถ้า x คือจำนวนแถวของขบวนพาเหรด และ N คอื จำนวนคนที่อยู่ในขบวนพาเหรดแล้ว ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. 31x − x² = N 2. 29x − x² = N 3. 27x − x² = N 4. 25x − x² = N16. รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองรูป มีขนาดเท่ากัน โดยมีเส้นทแยงมุมยาวเป็นสองเท่าของด้าน กว้าง ถา้ นำรูปสเี่ หลี่ยมผนื ผ้าทั้งสองมาวางตอ่ กันดงั รูป จุด A และจุด B อยหู่ ่างกนั เปน็ ระยะกีเ่ ทา่ ของดา้ นกวา้ ง 1. 1.5 2. 3 3. √2 4. 2√217. โดยการใชต้ ารางหาอตั ราส่วนตรีโกณมิตขิ องมมุ ขนาดต่าง ๆ ทก่ี ำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี sin cos 72º 0.951 0.309 73º 0.956 0.292 74º 0.961 0.276 75º 0.966 0.259 มมุ ภายในทม่ี ขี นาดเลก็ ทส่ี ดุ ของรปู สามเหลย่ี มทม่ี ดี า้ นทง้ั สามยาว 7, 24 และ 25 หนว่ ย มีขนาดใกลเ้ คียงกับข้อใดมากทสี่ ดุ 1. 15o 2. 16o 3. 17o 4. 18o18. มุมมุมหนึ่งของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากมีขนาดเท่ากับ 60 องศา ถ้าเส้นรอบรูปของรูป สามเหลี่ยมน้ยี าว 3 − √3 ฟุตแล้ว ดา้ นทีย่ าวเปน็ อันดับสองมคี วามยาวเทา่ กับขอ้ ใด 1. 2 − √3 ฟุต 2. 2 + √3 ฟตุ 3. 2√3 − 3 ฟตุ 4. 2√3 + 3 ฟตุ

19. กลอ้ งวงจรปดิ ซึ่งถกู ตดิ ตั้งอยู่สูงจากพน้ื ถนน 2 เมตร สามารถจับภาพไดต้ ่ำทส่ี ุดทมี่ มุ กม้ 45o และ สงู สุดทมี่ มุ ก้ม 30o ระยะทางบนพ้ืนถนนในแนวกลอ้ ง ทก่ี ล้องน้ีสามารถจับภาพไดค้ ือเท่าใด (กำหนดให้ √3 ≈ 1.73)118 1. 1.00 เมตร 2. 1.46 เมตร 3. 2.00 เมตร 4. 3.46 เมตร 20. กำหน1ด.ให−้ 1438 , 1, 21 , . . . เปน็ ลำดบั เลขคณติ ผลบวกของพจนท์ ่ี 40 และพจนท์ ่ี 42 เทา่ กบั ขอ้ ใด 2. −19 3. −37 4. −38 21.ใน 40 พจนแ์ รกของลำดบั = 3 + (−1) มีกพี่ จน์ ทมี่ ีค่าเท่ากบั พจน์ที่ 40 1. 10 2. 20 3. 30 4. 40 22. กำหนดให้ , , , . . . เป็นลำดบั เรขาคณติ ถา้ = 8 และ = −64 แล้วผลบวกของ 10 พจน์แรกของลำดบั นี้เทา่ กับขอ้ ใด 1. 2,048 2. 1,512 3. 1,364 4. 1,024 23. ทาสีเหรียญสามอันดังนี้ เหรียญแรกด้านหนึ่งทาสีขาว อีกด้านหนึ่งทาสีแดง เหรียญที่สองด้านหนึ่ง ทาสีแดง อีกดา้ นหนงึ่ ทาสฟี า้ เหรียญทส่ี ามดา้ นหนึง่ ทาสฟี า้ อกี ด้านหนง่ึ ทาสีขาว โยนเหรยี ญทง้ั สาม ข้นึ พร้อมกนั ความนา่ จะเปน็ ที่เหรียญจะขนึ้ หนา้ ตา่ งสีกนั ท้ังหมดเปน็ ดงั ขอ้ ใด 2. 14 1. 12 3. 18 4. 116 24. กล่องใบหนึ่งบรรจุสลากหมายเลข 1–10 หมายเลขละ 1 ใบ ถ้าสุ่มหยิบสลากจำนวนสองใบ โดย หยบิ ทีละใบแบบไม่ใส่คืน ความน่าจะเปน็ ทจ่ี ะหยิบได้สลากหมายเลขตำ่ กว่า 5 เพียงหน่งึ ใบเท่านน้ั เทา่ กับขอ้ ใดคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 1. 29 2. 185 3. 325 4. 11516 25. ในการวดั สว่ นสูงนักเรียนแตล่ ะคนในชั้น พบว่านกั เรียนทส่ี ูงทสี่ ุดสูง 177 เซนตเิ มตร และนักเรียนท่ี เตย้ี ท่ีสุดสงู 145 เซนตเิ มตร พจิ ารณาเซตของสว่ นสูงต่อไปน้ี S = {H H เป็นส่วนสงู ในหน่วยเซนติเมตรของนักเรียนในช้นั } T = {H 145 ≤ H ≤177 } เซตใดถอื เปน็ ปริภมู ิตวั อย่าง (แซมเปลิ สเปซ) สำหรบั การทดลองสุ่มน้ี 1. S และ T 2. S เท่านน้ั 3. T เทา่ น้ัน 4. ทงั้ S และ T ไม่เป็นปริภูมิตัวอยา่ ง

26. ในการเลอื กคณะกรรมการชดุ หนง่ึ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ประธาน รองประธาน และเลขานกุ าร อย่างละ 1 คน จากหญิง 6 คน และชาย 4 คน ความน่าจะเป็นที่คณะกรรมการชุดนี้ จะมีประธานและรองประธานเป็นหญิงเท่ากับขอ้ ใด 1 1198 11312 1. 2. 119 3. 4. 0127. ครูสอนวิทยาศาสตร์มอบหมายให้นักเรียน 40 คน ทำโครงงานตามความสนใจ หลงั จาก 02 ตรวจรายงานโครงงานของทุกคนแล้ว ผลสรุปเปน็ ดงั น้ี 03 04 ผลการประเมนิ จำนวนโครงงาน 05 ดเี ยีย่ ม 3 06 ดี 20 พอใช้ 12 ต้องแกไ้ ข 5 ขอ้ มูลทเี่ กบ็ รวบรม เพอื่ ใหไ้ ด้ผลสรปุ ขา้ งต้นเปน็ ขอ้ มูลชนิดใด 1. ขอ้ มูลปฐมภูมิ เชงิ ปริมาณ 2. ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภูมิ เชงิ ปรมิ าณ 3. ข้อมูลปฐมภูมิ เชิงคุณภาพ 4. ขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ เชงิ คุณภาพ28. ค่าเฉลย่ี เลขคณติ ของนำ้ หนกั ของพนกั งานบรษิ ทั แหง่ หนง่ึ เทา่ กบั 48.01 กโิ ลกรมั บรษิ ทั น้ี มพี นกั งานชาย 43 คน และพนกั งานหญงิ 57 คน ถา้ คา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของนำ้ หนกั พนกั งาน หญิงเท่ากบั 45 กิโลกรัม แลว้ นำ้ หนักของพนกั งานชายท้งั หมดรวมกันเท่ากบั ขอ้ ใด 1. 2,236 กิโลกรมั 2. 2,279 กิโลกรมั 3. 2,322 กโิ ลกรัม 4. 2,365 กิโลกรมั29. แผนภาพต้น-ใบของนำ้ หนักในหนว่ ยกรมั ของไขไ่ ก่ 10 ฟอง เป็นดงั นี้ ขอ้ สรปุ ใดเปน็ เทจ็ 1. ฐานนยิ มของน้ำหนกั ของไข่ไกม่ ีเพยี งค่าเดยี ว 2. ค่าเฉลยี่ เลขคณติ และมัธยฐานของนำ้ หนกั ของไข่ไก่มีคา่ เทา่ กัน 3. มีไข่ไก่ 5 ฟองท่มี ีน้ำหนกั นอ้ ยกว่า 70 กรัม 4. ไขไ่ กท่ ม่ี นี ำ้ หนกั สงู กวา่ ฐานนยิ ม มจี ำนวนมากกวา่ ไขไ่ กท่ ม่ี นี ำ้ หนกั เทา่ กบั ฐานนยิ ม

30. สำหรับขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณใด ๆ ทม่ี คี า่ สถติ ติ อ่ ไปน้ี คา่ สถติ ใิ ดจะตรงกบั คา่ ของขอ้ มลู คา่ หนง่ึ เสมอ 1. พสิ ยั120 2. คา่ เฉล่ยี เลขคณิต 3. มัธยฐาน 4. ฐานนิยม 31. ขอ้ มูลต่อไปนแ้ี สดงน้ำหนักในหนว่ ยกิโลกรัม ของนักเรยี นกลุ่มหนงึ่ 41, 88, 46, 42, 43, 49, 44, 45, 43, 95, 47, 48 คา่ กลางในขอ้ ใดเป็นค่าทเ่ี หมาะสมทจ่ี ะเปน็ ตัวแทนของขอ้ มลู ชดุ นี้ 1. มัธยฐาน 2. ฐานนยิ ม 3. คา่ เฉลยี่ เลขคณติ 4. คา่ เฉลยี่ ของคา่ สงู สุดและค่าตำ่ สุด 32. คะแนนสอบความร้ทู ัว่ ไปของนกั เรยี น 200 คน นำเสนอโดยใช้แผนภาพกลอ่ งดงั น้ี 10 12 16 18 24คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T ข้อใดเป็นเท็จ 1. จำนวนนักเรียนทท่ี ำได้ 12 ถึง 16 คะแนน มเี ทา่ กับ จำนวนนักเรียนที่ทำได้ 16 ถงึ 18 คะแนน 2. จำนวนนักเรยี นทท่ี ำได้ 12 ถึง 18 คะแนน มีเทา่ กับ จำนวนนกั เรียนที่ทำได้ 18 ถึง 24 คะแนน 3. จำนวนนักเรียนทท่ี ำได้ 10 ถึง 12 คะแนน มีเท่ากบั จำนวนนกั เรยี นท่ที ำได้ 18 ถงึ 24 คะแนน 4. จำนวนนักเรยี นทท่ี ำได้ 10 ถึง 16 คะแนน มเี ท่ากบั จำนวนนักเรียนที่ทำได้ 16 ถึง 24 คะแนน 33. จากการตรวจสอบลำดบั ทขี่ องคะแนนสอบของนาย ก และนาย ข ในวิชาคณิตศาสตรท์ ีม่ ีผเู้ ขา้ สอบ 400 คน ปรากฏวา่ นาย ก สอบไดค้ ะแนนอยใู่ นตำแหนง่ ควอรไ์ ทลท์ ่ี 3 และนาย ข สอบไดค้ ะแนน อยใู่ นตำแหน่งเปอรเ์ ซ็นไทลท์ ่ี 60 จำนวนนักเรยี นทสี่ อบได้คะแนนระหวา่ งคะแนนของนาย ก และ นาย ข มปี ระมาณกคี่ น 1. 15 คน 2. 30 คน 3. 45 คน 4. 60 คน

34. ข้อมูลชุดหนึ่ง มีบางสว่ นถกู นำเสนอในตารางตอ่ ไปนี้อนั ตรภาคชัน้ ความถ่ ี ความถี่สะสม ความถ่สี ัมพทั ธ์ 121 2–6 6 11 0.2 7–11 14 0.3 01 12–16 02 17–21 03 04 ชว่ งคะแนนใดเป็นช่วงคะแนนท่มี คี วามถส่ี ูงสดุ 05 1. 2–6 2. 7–11 06 3. 12–16 4. 17–2135. จำนวนผวู้ า่ งงานท่วั ประเทศในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2551 มจี ำนวนท้ังสนิ้ 4.29 แสนคน ตารางเปรียบเทียบอัตราการว่างงานในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2550 กับปี พ.ศ. 2551 เป็นดังน้ี พื้นทีส่ ำรวจ อัตราการวา่ งานในเดือนกนั ยายนภาคใต้ (จำนวนผูว้ า่ งงานตอ่ จำนวนผอู้ ยู่ในกำลงั แรงงานคูณ 100)ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอืภาคเหนอื ปีพ.ศ. 2550 ปพี .ศ. 2551ภาคกลาง 1.0 1.0(ยกเว้นกรงุ เทพมหานคร) 0.9 1.3กรงุ เทพมหานคร 1.5 1.2ทว่ั ประเทศ 1.3 0.9 1.2 1.2 1.2 1.1 พิจารณาข้อความตอ่ ไปนี้ ก. จำนวนผู้ว่างงานในภาคใต้ในเดือนกันยายนของปี พ.ศ. 2550 และของปี พ.ศ. 2551 เท่ากนั ข. จำนวนผู้อยู่ในกำลังแรงงานทั่วประเทศในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2551 มี ประมาณ 39 ล้านคน ขอ้ ใดถกู ต้อง 1. ขอ้ ก. และข้อ ข. 2. ข้อ ก. เทา่ นั้น 3. ข้อ ข. เทา่ นั้น 4. ข้อ ก. และข้อ ข. ผิด36. ในการใช้สถิติเพ่ือการตัดสินใจและวางแผน สำหรับเรือ่ งท่จี ำเป็นตอ้ งมกี ารใชข้ อ้ มูลและ สารสนเทศ ถ้าขาดข้อมูลและสารสนเทศดังกล่าว ผู้ตดั สินใจควรทำข้ันตอนใดกอ่ น 1. เกบ็ รวบรวมข้อมูล 2. เลือกวิธีวิเคราะหข์ ้อมลู 3. เลอื กวธิ ีเก็บรวบรวมขอ้ มูล 4. กำหนดขอ้ มลู ท่จี ำเป็นตอ้ งใช้

คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T122 ส่วนที่ 2 จำนวน 4 ขอ้ (ขอ้ 37-40) ขอ้ ละ 1 คะแนน คำอธิบาย 1. ขอ้ สอบสว่ นน้ี เปน็ ขอ้ สอบทม่ี คี ำตอบทถ่ี กู ตอ้ งเปน็ จำนวนเตม็ บวกหรอื ศนู ย์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ตัวเลขไม่เกิน 3 หลัก เม่ือเขียนในระบบฐานสบิ 2. ในการตอบให้ระบายตัวเลือกที่ตรงกับตัวเลขในแต่ละหลักของคำตอบ โดยต้องระบายตัว เลอื กทง้ั 3 หลกั คอื หลกั รอ้ ย หลกั สบิ และหลกั หนว่ ย ตามลำดบั (กรณที ค่ี ำตอบทต่ี อ้ งการ ตอบไมม่ ีเลขหลักใด ให้ระบายเลข 0 ในหลักนัน้ ) 3. ผูเ้ ขา้ สอบต้องระบายคำตอบไดถ้ ูกต้องทั้ง 3 หลกั จงึ จะไดค้ ะแนนในขอ้ นนั้ ๆ ตวั อย่างการระบายคำตอบ 1. ถา้ คำตอบทีต่ ้องการตอบคือ 0 ให้ระบายเลข 0 0 0 ในหลกั รอ้ ย หลักสบิ และหลักหนว่ ย ตามลำดบั 2. ถ้าคำตอบท่ตี ้องการตอบคือ 47 ใหร้ ะบายเลข 0 4 7 ในหลกั ร้อย หลักสบิ และหลักหน่วย ตามลำดบั 3. ถ้าคำตอบที่ตอ้ งการตอบคือ 209 ให้ระบายเลข 2 0 9 ในหลักรอ้ ย หลักสบิ และหลกั หน่วย ตามลำดับ 37. ในการสอบของนักเรยี นชั้นประถมศึกษากลุ่มหนึง่ พบวา่ มผี ู้สอบผ่านวชิ าตา่ ง ๆ ดังนี้ คณิตศาสตร ์ 36 คน สังคมศึกษา 50 คน ภาษาไทย 44 คน คณิตศาสตร์และสังคมศึกษา 15 คน ภาษาไทยและสังคมศกึ ษา 12 คน คณติ ศาสตร์และภาษาไทย 7 คน ทัง้ สามวชิ า 5 คน จำนวนผู้สอบผ่านอยา่ งน้อยหนง่ึ วชิ ามกี ีค่ น 38. ในสวนป่าแห่งหนึ่ง เจ้าของปลูกต้นยูคาลิปตัสเป็นแถวดังนี้ แถวแรก 12 ต้น แถวที่สอง 14 ต้น แถวทส่ี าม 16 ตน้ โดยปลกู เพม่ิ เชน่ น้ี ตามลำดบั เลขคณติ ถา้ เจา้ ของปลกู ตน้ ยคู าลปิ ตสั ไวท้ ง้ั หมด 15 แถว จะมีตน้ ยูคาลปิ ตัสในสวนปา่ นท้ี ้งั หมดกตี่ ้น 39. ตูน้ ิรภัยมรี ะบบล็อกที่เป็นรหัสประกอบด้วยเลขโดด 0 ถึง 9 จำนวน 3 หลัก จำนวนรหัสทั้งหมดที่มี บางหลักซำ้ กัน คือเทา่ ใด 40. จำนวนวธิ ใี นการจดั ให้หญงิ 3 คน และชาย 3 คน นั่งเรยี งกันเปน็ แถว โดยให้สามภี รรยาค่หู นึง่ นั่ง ตดิ กันเสนอ มที ้งั หมดกีว่ ิธี

เฉลย 123ข้อสอบคณติ ศาสตร์

ข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์สถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน)รหสั วิชา 05 วิชาวทิ ยาศาสตร์สอบวนั อาทิตย์ที่ 21 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2553

126 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) รหสั วิชา 05 วิชา วิทยาศาสตร์ สอบวนั อาทติ ยท์ ี่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 11.30 – 13.30 น. ชื่อ-นามสกลุ เลขทีน่ ง่ั สอบ สถานที่สอบ หอ้ งสอบ คำอธบิ าย 1. ข้อสอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ (37 หน้า) : จำนวน 86 ขอ้ รวม 80 คะแนน 2. กอ่ นตอบคำถามให้เขียนช่ือ-นามสกลุ เลขทนี่ ่งั สอบ สถานที่สอบและห้องสอบบนข้อสอบ 3. ใหต้ รวจสอบ ชอื่ -นามสกลุ เลขท่นี ง่ั สอบ รหสั วชิ าสอบในกระดาษคำตอบวา่ ตรงกบั ตวั ผูเ้ ข้าสอบหรือไม่ กรณีไมต่ รง ใหแ้ จ้งผคู้ มุ สอบเพือ่ ขอกระดาษคำตอบสำรอง แลว้ กรอก ข้อความหรอื ระบายใหส้ มบรู ณ์ 4. ในการตอบ ให้ใชด้ นิ สอดำเบอร์ 2B ระบายวงกลมตัวเลือกในกระดาษคำตอบใหเ้ ต็มวง (หา้ มระบายนอกวง) ถา้ ตอ้ งการเปลย่ี นตวั เลอื กใหม่ ตอ้ งลบใหส้ ะอาดจนหมดรอยดำแลว้ จึงระบายวงกลมตัวเลือกใหม่ 5. ห้ามนำข้อสอบและกระดาษคำตอบออกจากห้องสอบ 6. ไมอ่ นญุ าตใหผ้ เู้ ขา้ สอบออกจากห้องสอบ ก่อนหมดเวลาสอบ 7. ไมอ่ นญุ าตใหผ้ คู้ ุมสอบเปิดอา่ นขอ้ สอบคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T เอกสารนเ้ี ปน็ เอกสารสงวนลขิ สทิ ธข์ิ องสถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) ห้ามเผยแพร่ อ้างอิง หรือเฉลย ก่อนได้รับอนุญาต สถาบันฯ จะย่อยทำลายข้อสอบและ กระดาษคำตอบทัง้ หมด หลงั จากประกาศผลสอบแล้ว 3 เดือน

ขอ้ สอบมี 2 สว่ น จำนวน 86 ข้อ : คะแนนเต็ม 80 คะแนน 127ส่วนที่ 1 จำนวน 68 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 68 คะแนนส่วนท่ี 2 จำนวน 18 ขอ้ เป็นชดุ คำถาม 6 ชดุ ชุดละ 3 ข้อ ชุดละ 2 คะแนน 01 รวม 12 คะแนน 02 03สว่ นที่ 1 : แบบระบายตวั เลอื ก แตล่ ะข้อมีคำตอบท่ถี ูกต้องทีส่ ุดเพยี ง 04คำตอบเดยี ว ข้อ 1-68 : ขอ้ ละ 1 คะแนน 05 061. เซลล์ทมี่ ีสว่ นประกอบดังต่อไปน้ี : ดีเอ็นเอ ไรโบโซม เยอ่ื หุ้มเซลล์ เอนไซม์ และไมโท- คอนเดรีย เป็นเซลลข์ องสิ่งมชี วี ติ ในขอ้ ใด 1. แบคทีเรยี 2. พืชเทา่ น้นั 3. สตั ว์เท่าน้นั 4. อาจเปน็ ได้ท้ังพชื หรือสัตว์2. กระบวนการใดไมพ่ บในกระบวนการดดู นำ้ กลับทท่ี อ่ หนว่ ยไต 1. การแพร่ 2. ออสโมซสิ 3. เอนโดไซโทซสิ 4. การลำเลยี งแบบใชพ้ ลงั งาน3. เหตุใดผู้ดม่ื เครอื่ งด่มื ผสมแอลกอฮอลจ์ ึงมักปัสสาวะบอ่ ยกวา่ ปกติ 1. ไตทำงานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสูงข้นึ 2. การหลง่ั ฮอร์โมนวาโซเปรสซนิ ลดลง 3. แอลกอฮอล์เปน็ พิษต่อรา่ งกาย จึงถูกกำจดั ทิง้ อย่างรวดเร็ว 4. รา่ งกายควบคุมการทำงานของกลา้ มเนือ้ กระเพาะปสั สาวะไม่ได้4. การดืม่ น้ำส้มเปน็ ปรมิ าณมาก ทำใหเ้ ลอื ดมีสภาวะเปน็ กรดจรงิ หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด 1. เปน็ กรดจรงิ เพราะวติ ามนิ ซลี ะลายนำ้ ได้ 2. เป็นกรดจรงิ เพราะน้ำสม้ มรี สเปรีย้ วและมปี ริมาณกรดสูง 3. ไมเ่ ป็นกรด เพราะเลอื ดมีสมบตั เิ ปน็ สารละลายบัฟเฟอร์ 4. ไม่เป็นกรด เพราะรา่ งกายจะไดร้ ับอนั ตรายไดห้ ากเลือดมสี ภาวะเป็นกรด5. วธิ กี ารในข้อใดทใ่ี ชค้ วบคุมโรคไวรสั ในพืชไดผ้ ลดที สี่ ุด 1. การเผาทำลายพืช 2. การฉดี วัคซีน 3. การใชย้ าปฏชิ ีวนะ 4. การเพ่มิ ไนโตรเจนในดิน6. เมอื่ เชอื้ โรคเข้าสู่ร่างกายคน รา่ งกายจะมีปฏกิ ิรยิ าตอบสนองโดยสรา้ งสารใดมาต่อสู้ 1. ซีรุ่ม 2. แอนตเิ จน 3. ทอกซอยด ์ 4. แอนตบิ อดี7. เม่ือหยดน้ำเกลือลงบนสไลด์ทมี่ ีใบสาหร่ายหางกระรอกอยู่ จะสังเกตเห็นการเปลย่ี นแปล ของเซลลค์ ล้ายกับท่ีเกิดขึ้นเม่ือหยดสารใดมากที่สุดและเกดิ เร็วทสี่ ดุ 1. นำ้ กลั่น 2. น้ำเชือ่ ม 3. น้ำนมสด 4. แอลกอฮอล์

คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T8. ขอ้ ใดไม่ถกู ต้องเกี่ยวกับดเี อ็นเอ 1. ดเี อน็ เอพบได้ในคลอโรพลาสต์ 2. ดเี อน็ เอทำหน้าทก่ี ำหนดชนิดของโปรตีน128 3. สิง่ มชี ีวิตแต่ละชนิดมีปรมิ าณดีเอน็ เอไมเ่ ท่ากนั 4. ไนโตรเจนเบสชนดิ กวานีนและไซโทซนี จะจับคู่กนั ดว้ ยพนั ธะคู่เสมอ 9. ถา้ พอ่ มีหมเู่ ลอื ด B แม่มหี มเู่ ลือด A และมลี ูกชายที่มีหมู่เลอื ด O โอกาสท่ีจะได้ลูกสาวท่มี หี ม่เู ลือด O เปน็ เทา่ ใด 1. 1/2 2. 1/4 3. 1/8 4. 1/16 10. ข้อใดไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั โรคธาลสั ซีเมีย 1. เป็นโรคโลหติ จางชนดิ หน่ึง 2. ผปู้ ่วยเปน็ โรคธาลสั ซเี มียควรหลกี เลีย่ งอาหารทีม่ ธี าตุเหล็กสงู 3. เป็นโรคที่เกดิ จากความผดิ ปกติของยนี ที่ควบคมุ การสรา้ งโกลบนิ 4. ผู้ที่ไดร้ ับแอลลลี ผดิ ปกติจากพ่อหรอื แมเ่ พยี งฝา่ ยเดียวมโี อกาสเป็นโรคได้ 11. ขอ้ ใดถูกตอ้ งเกยี่ วกับมิวเทชนั 1. มีอัตราการเกดิ ไดส้ ูงตามธรรมชาติ 2. เกิดได้ทั้งระดับโครโมโซมและดเี อน็ เอ 3. เกิดข้ึนได้เฉพาะในเซลลท์ ีก่ ำลังแบง่ ตวั 4. มิวเทชนั ในเซลลท์ ุกชนิดสามารถถ่ายทอดไปยังร่นุ ลูกหลานได้ 12. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การโคลน 1. ได้สตั ว์ตวั ใหมท่ ี่มีเพศเดยี วกบั สัตวต์ น้ แบบ 2. เป็นการสรา้ งสตั ว์ตัวใหมโ่ ดยไมต่ ้องอาศัยเซลล์สืบพันธ์ุ 3. แฝดเหมอื นคอื ตวั อย่างของการโคลนทีเ่ กิดข้นึ ตามธรรมชาติ 4. แกะดอลลีเกดิ จากการโคลนโดยใชเ้ ซลล์บริเวณเต้านมเป็นต้นแบบ 13. ข้อใดจัดเป็นสงิ่ มีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 1. แตงโมไมม่ เี มลด็ 2. กล้วยไม้ทไ่ี ด้จากการเพาะเล้ียงเน้อื เย่ือ 3. แบคทเี รยี ทสี่ ามารถผลิตฮอรโ์ มนอนิ ซูลิน 4. กล้วยไมพ้ นั ธ์ใุ หม่ท่ไี ดจ้ ากการฉายรงั สีแกมมา 14. หลกั ฐานในข้อใดที่ไมส่ ามารถใช้ตรวจหาฆาตกรโดยใช้ลายพมิ พ์ดีเอน็ เอ 1. เสน้ ผม 2. ลายน้วิ มือ 3. คราบอสจุ ิ 4. คราบเลือด 15. ในระบบนิเวศซึ่งประกอบด้วย เหยี่ยว งู กระรอก หญ้า และตั๊กแตน สิ่งมีชีวิต ในข้อใด มีมวลชีวภาพนอ้ ยท่ีสุด 1. งู 2. เหยย่ี ว 3. หญา้ 4. กระรอกและตก๊ั แตน

16. กระบวนการเปลย่ี นแปลงแทนที่แบบใดนำไปสูก่ ารเกิดระบบนเิ วศหลังจากการระเบิดของ 129 ภเู ขาไฟบนเกาะหน่ึง 01 1. แบบปฐมภูมิ 02 2. แบบทตุ ยิ ภมู ิ 03 3. แบบตตยิ ภมู ิ 04 4. แบบจตรุ ภูมิ 0517. ข้อใดไม่นับวา่ เป็นส่วนหนง่ึ ของความหลากหลายทางชีวภาพ 06 1. ความหลากหลายของสปีชีส์ 2. ความหลากหลายของพันธกุ รรมในส่งิ มชี วี ติ 3. ความหลากหลายของแหลง่ ท่อี ย่ขู องสิ่งมีชีวติ 4. ความหลากหลายของสารเคมีตา่ ง ๆ รอบสงิ่ มีชวี ติ18. ทรัพยากรที่เกิดข้ึนทดแทนใหมไ่ ดใ้ นขอ้ ใดทีม่ นษุ ย์นำมาใชป้ ระโยชนม์ ากทส่ี ดุ ในปัจจบุ ัน 1. พลังงานนำ้ 2. พลงั งานลม 3. พลังงานจากคลื่น 4. พลังงานแสงอาทิตย์19. เมอ่ื มสี ารประกอบไนเตรตและฟอสเฟตสะสมอยใู่ นแหลง่ นำ้ เปน็ ปรมิ าณมาก ปรากฏการณ์ ใดจะเกิดขึน้ เป็นอนั ดับแรก 1. ปรมิ าณแพลงตอนสัตวจ์ ะเพ่ิมขน้ึ 2. จำนวนของแพลงตอนพชื สาหรา่ ย และพืชนำ้ จะเพ่ิมขึ้น 3. สารพิษตกคา้ ง เชน่ สารกำจดั แมลง จะมีปรมิ าณการสะสมสูงขนึ้ 4. ปรมิ าณสตั ว์น้ำ เช่น ปลา สัตวไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั อน่ื ๆ จะเพมิ่ ขึ้น20. สัตวป์ า่ ในขอ้ ใดมสี ถานภาพปัจจบุ ันแตกต่างไปจากขอ้ อืน่ ท้งั หมด 1. พะยนู ชา้ ง 2. ควายปา่ กระทงิ วัวแดง 3. นกเจา้ ฟา้ หญิงสริ นิ ธร กปู รี 4. นกแต้วแร้วทอ้ งดำ เลียงผาH ตารางธาตุLiNaK Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni CuRb Y Zr Nb Mo Tc Ru Rh Pd AgCs * Hf Ta W Re Os Ir Pt AuFr ** Rf Db Sg Bh Hs Mt Ds Rg*Lanthanides La Ce Pr Nd Pm Sm Eu Gd Tb Dy Ho Er Tm Yb Lu** Actinides Ac Th Pa U Np Pu Am Cm Bk Cf Es Fm Md No Lr

21. ขอ้ ความใดไมถ่ กู ตอ้ ง 1. กรดไรโบนิวคลอี ิกทำหนา้ ทใี่ นการสร้างโปรตนี 2. คาร์โบไฮเดรตชว่ ยให้การเผาไหม้ไขมันเปน็ ไปอย่างสมบูรณ์130 3. ปฏิกริ ยิ าการเตรยี มสบู่จากน้ำมันเรยี กวา่ “สะปอนนิฟเิ คชัน (saponification)” 4. โปรตีนเปน็ แหล่งพลังงานข้ันแรกของร่างกาย โดยโปรตนี 1 กรัม ใหพ้ ลังงาน 4 กโิ ลแคลอรี 2 2. การทดสอบสาร ก สาร ข สาร ค และ สาร ง ไดผ้ ลดงั น้ี หมายถึง ละลายในนำ้ หรอื ใหส้ ีน้ำเงนิ กบั ไอโอดนี หรอื เกิดตะกอนสีแดงอฐิ กับสารละลาย เบนดิ กิ ต์ หมายถงึ ไม่เปลย่ี นแปลง การทดสอบ การละลายน้ำ สารละลายไอโอดีน สารละลายเบนิดกิ ต์ HCl ตามดว้ ยสารละลายเบนดิ กิ ต์ สาร ก สาร ข สาร ค และ สาร ง ควรเป็นสารใดตามลำดับ 1. แป้งข้าวโพด นำ้ เชือ่ ม ใยไหม กลูโคส 2. แป้งผดั หนา้ ฟรักโทส ใยสำลี นำ้ ตาลทราย 3. แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย ใยบวบ ฟรักโทส 4. แป้งสาลี แอสพารแ์ ทม ใยแมงมุม กลโู คสคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 23. ปรมิ าณของไขมนั อิ่มตัว ไขมนั ไมอ่ มิ่ ตัว และสารอื่น ๆ ในนำ้ มันเปน็ ดงั ตาราง ชนดิ น้ำมนั /ไขมนั ไขมันอิ่มตัว (%) ไขมนั ไมอ่ มิ่ ตัว (%) อ่นื ๆ (%) 52 33 น้ำมันถวั่ เหลอื ง 15 0 14 นำ้ มนั มะพร้าว 86 24 53 นำ้ มนั ไก่ 23 2 50 ไขมันววั 48 ข้อใดสรปุ ไดถ้ ูกต้อง 1. ไขมันวัวจะเหม็นหนื เรว็ กวา่ น้ำมนั ไก่ 2. นำ้ มนั ถัว่ เหลอื งเหมน็ หืนช้ากว่านำ้ มนั มะพร้าว 3. นำ้ มนั ถ่ัวเหลืองเหมาะสำหรบั ทอดอาหารมากกวา่ นำ้ มันมะพรา้ ว 4. ถา้ ใช้น้ำมันที่มีจำนวนเท่ากัน น้ำมันถั่วเหลืองจะทำปฏิกิริยากับไอโอดีนโดยใช้ ปรมิ าณมากทีส่ ุด

24. กำหนดโครงสร้างของกรดอะมิโน A, B และ C โดย A และ B เปน็ กรดอะมโิ นจำเปน็ A BC 131 ขอ้ ความใดถูกต้อง 01 02 1. เพปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนทั้ง 3 ชนิด ข้างต้นโดยไม่มีกรดที่ซ้ำกันมีทั้ง 03 หมด 3 ชนดิ 04 2. เพปไทด์ท่เี กิดจากกรด A และกรด B ทำปฏกิ ริ ิยากับ CuSO4 ในสภาวะเบสให้ 05 สารสีมว่ ง 06 3. เพปไทดท์ ี่เกดิ จากกรด A กรด B และกรด C เปน็ ไตรเพปไทด์ทม่ี ีจำนวนพันธะ เพปไทด์ 3 พันธะ 4. ในร่างกายมนษุ ย์จะไม่พบโปรตนี ที่มกี รดอะมโิ น A และ B เป็นองค์ประกอบ25. กำหนดสาย X ของกรดดีออกซีไรโบนวิ คลีอิกชนดิ หน่งึ มีลำดับของเบสดังน้ี (A = อะดีนีน, C = ไซโตซนี , G = กวานีน, T = ไทมีน) สาย Y ทีเ่ ป็นค่ขู องสาย X จะมลี ำดบั เบสเป็นไปตามขอ้ ใด 1. 2. 3. 4. 26. ข้อใดถกู ต้องเกีย่ วกบั สมบตั ขิ องตวั ทำละลายในอุตสาหกรรมเคมีทไี่ ด้จากการกล่ันปิโตร- เลียม 1. มจี ดุ เดอื ดสูงกวา่ นำ้ มนั ดเี ซล 2. เปน็ สารไฮโดรคาร์บอนทล่ี ะลายนำ้ ได้ 3. มีสถานะเปน็ ของเหลวทอ่ี ุณหภูมแิ ละความดันปกติ 4. ประกอบดว้ ยสารไฮโดรคาร์บอนทีม่ ีจำนวนคารบ์ อนนอ้ ยกวา่ 5 อะตอม

27. เมือ่ นำยางชนิดหนึ่งที่มีสมบัติยืดหยุ่นมาเผาไฟ พบว่าเกิดแก๊สที่ละลายน้ำแล้วได้สารละลายที่มี ฤทธิ์เป็นกรด ชนดิ ของยางและแกส๊ ทเ่ี กิดขึ้นเปน็ ข้อใด132 ชนิดของยาง ควนั ทเี่ กดิ จากการเผา 1. ซลิ ิโคน SiO2 2. ยางวลั คาไนซ์ SO2 3. พอลิไวนลิ แอซเี ตท HCl 4. ไนลอน 66 NH3 28. ขอ้ ใดไม่มปี ฏกิ ริ ยิ าเคมเี กดิ ขนึ้ 1. การเค้ียวข้าวก่อนกลนื 2. การฟอกสบูใ่ นนำ้ กระด้าง 3. การทาแลก็ เกอรเ์ คลือบผวิ ไม้ 4. การผสมกลีเซอรอลกบั เอทานอล 29. ไฮโดรเจนเป็นแกส๊ ท่เี บาทีส่ ดุ ใช้ทำให้บอลลูนลอยตัวขึ้นในอากาศได้ แต่ในทางปฏิบัติจะใช้แก๊ส ฮเี ลียมซ่ึงหนกั กว่า เพราะเหตผุ ลหลกั ตามข้อใด 1. แก๊สไฮโดรเจนติดไฟไดง้ า่ ย 2. แก๊สไฮโดรเจนมีราคาแพงกวา่ แกส๊ ฮเี ลยี ม 3. ต้องใชแ้ กส๊ ไฮโดรเจนปรมิ าณมากกว่าการใช้ฮีเลยี ม 4. ฮเี ลยี มแยกได้จากธรรมชาติ แตแ่ ก๊สไฮโดรเจนตอ้ งผา่ นกระบวนการผลิต 30. ขอ้ ใดระบุชนดิ ของแก๊สและกรดทีเ่ กิดจากการนำแก๊สนนั้ ไปละลายในน้ำไดถ้ ูกต้อง 1. อเี ทน – กรดนำ้ สม้ 2. คลอรนี – กรดเกลือ 3. ไนโตรเจน – กรดไนตริก 4. ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ – กรดซัลฟวิ ริกคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 31. เไมด่อื อนอำกสไาซรดA์ COมา2(เgผ)าใสนาบรรAรยาใกนาปศฏอิกอรกิยซาิเขจา้ นงตO้น2ไม(g่ใ)ช่สจาะรไใดด้ไใอนนขอ้้ำตH่อ2ไOป(นgี้ ) และแก๊สคาร์บอน- 1. แก๊สไฮโดรเจน 2. แก๊สโซฮอล์ 3. แก๊สบิวเทน 4. แก๊สธรรมชาติ 32. สารละลาย X, Y และ Z ตา่ งกเ็ ป็นสารละลายใสท่ีไมม่ สี ี เมอ่ื นำแต่ละชนิดทีม่ ีความเขม้ ข้นและ ปริมาณเท่ากัน มาผสมกันท่อี ณุ หภูมิเปน็ 25oC ไดผ้ ลดงั ตาราง การผสมสารละลาย อณุ หภมู หิ ลังผสม (oC) ส่งิ ที่สงั เกตเหน็ สารละลายสีฟ้า X กบั Y 24 Y กบั Z 25 ใส ไม่มีสี

ขอ้ สรุปใดไมถ่ ูกต้อง 133 1. X กบั Y เกดิ ปฏิกิริยาคายความร้อน 2. Y กบั Z เปน็ สารละลายชนดิ เดยี วกนั 01 3. Y กบั Z ทำปฏิกริ ิยากนั โดยไม่คายความรอ้ น 02 4. Y กับ Z เปน็ สารละลายต่างชนดิ ทีไ่ มท่ ำปฏกิ ิริยากนั 03 04 33. ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ต้อง 05 06 1. สบู่ กำจัดไขมันไดเ้ พราะละลายในนำ้ แตไ่ มล่ ะลายน้ำมัน 2. การผสมยาลดกรดในกระเพาะลงในน้ำแลว้ เกิดแกส๊ แสดงว่ามีปฏกิ ริ ิยาเกิดขน้ึ 3. การต้มน้ำนมจะทำใหโ้ ปรตีนแปลงสภาพ ซ่งึ จะกลบั ส่สู ภาพเดิมไดเ้ มื่อเยน็ ลง 4. แบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้แผ่นตะกั่วและกรดซัลฟิวริก เมื่อใช้งานแผ่นตะกั่วจะทำ หน้าท่ีเป็นตวั เรง่ ปฏกิ ริ ิยา เพราะเมื่อใชง้ านเสรจ็ แลว้ แผน่ ตะก่ัวไมเ่ ปลย่ี นแปลง 34. ข้อใดทแี่ สดงว่าผวิ สมั ผัสมผี ลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยา 1. กระดาษฝอยติดไฟไดเ้ ร็วกว่าแผน่ กระดาษ 2. แผ่นสังกะสีปกติทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริกได้ช้ากว่าแผ่นสังกะสีที่มีลวด ทองแดงพันอยู่ 3. เครอ่ื งปฏกิ รณน์ วิ เคลยี รใ์ ชเ้ ชอ้ื เพลงิ ยเู รเนยี มทเ่ี ปน็ แทง่ ยาวทำใหม้ อี ายกุ ารใชง้ าน นานกว่าทใี่ ชเ้ ป็นก้อนเล็ก ๆ 4. แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีจำนวนแผ่นตะกั่วมากกว่าให้กำลังไฟฟ้าสูงกว่าที่มีจำนวน แผ่นน้อยกวา่ 35. ข้อใดทไ่ี มไ่ ดแ้ สดงว่าธรรมชาติของสารมผี ลตอ่ อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. เกลอื เม็ดดูดความชื้นเรว็ กว่าผลกึ น้ำตาลทราย 2. กระดาษมอี ายุการใช้งานนอ้ ยกวา่ พลาสติก 3. แบตเตอรปี่ รอท กบั แบตเตอรอ่ี ัลคาไลนม์ ีอายใุ ช้งานไม่เทา่ กัน 4. เหล็กท่อี ยู่ในอากาศและความชนื้ จะผุกรอ่ นไดเ้ รว็ กวา่ อะลมู เิ นียม 36. ไอออนบวกของไฮโดรเจน (H+) ขาดอนภุ าคมลู ฐานขอ้ ใด 1. โปรตอน 2. อเิ ลก็ ตรอน 3. นิวตรอน และ อเิ ลก็ ตรอน 4. โปรตอน และ อิเลก็ ตรอน37. ธาตุในขอ้ ใดท่ีเป็นไอโซโทปกับธาตุทม่ี สี ญั ลักษณเ์ ปน็ 151A 1. 152B 2. 162 B 3. 151B 4. 161B38. ธาตุ 3 ชนดิ มีสญั ลักษณด์ ังนี้ 48 A 1237B 1375C ขอ้ ใดเปน็ สตู รเคมขี องสารประกอบฟลอู อไรดข์ องธาตทุ งั้ สามชนดิ ตามลำดบั 1. AAAAFFFF22 BBBBF22F33FF 33 CCCFFF 22 2. CF 3. 4.

3 9. พจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี้ ก. เกลือแกงและโซดาไฟเป็นสารประกอบของโลหะหมู่ 1A ข. สารประกอบไอออนกิ ทม่ี ีสถานะเป็นของแขง็ สามารถนำไฟฟา้ ได้134 ค. โลหะแทรนซชิ นั มีสมบัติทางกายภาพเหมือนโลหะหมู่ 1A และ 2A ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง 1. ก และ ข 2. ข และ ค 3. ก และ ค 4. ก ข และ ค 40. ธาตกุ ัมมนั ตรงั สธี รรมชาติ X มีคร่งึ ชวี ติ เท่ากบั 5,000 ปี นกั ธรณีวิทยาค้นพบซากของสตั วโ์ บราณ ทม่ี ีปริมาณธาตุกัมมนั ตรังสี X เหลอื อยูเ่ พยี ง 6.25% ของปรมิ าณเร่ิมตน้ สตั วโ์ บราณน้มี ีชีวติ โดยประมาณเม่อื กีป่ มี าแลว้ 1. 10,000 ปี 2. 15,000 ปี 3. 20,000 ปี 4. 25,000 ปี 41. วตั ถอุ นั หนง่ึ เมอ่ื อยบู่ นโลกทม่ี สี นามโนม้ ถว่ ง พบวา่ มนี ำ้ หนกั เทา่ กบั ถา้ นำวตั ถนุ ไ้ี ปไวบ้ นดาว เคราะหอ์ ีกดวงพบว่ามนี ำ้ หนกั จงหามวลของวัตถนุ ี้ 1. 2. 3. 4. 42. วางเขม็ ทิศอันหนึง่ บนโต๊ะ เข็มทิศชี้ขึ้นในลักษณะดังรูป ถ้านำประจุบวกไปวางไว้ทางด้านซ้ายของ เข็มทศิ จะเกิดอะไรข้ึน 1. เข็มทศิ ชี้ไปทางขวา 2. เข็มทิศชี้ไปทางซา้ ย 3. เข็มทิศชี้ลง 4. เข็มทิศชี้ทางเดิมคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 43. ในรปู ซ้าย A และ B คือเส้นทางการเคลื่อนที่ของอนุภาค 2 อนุภาคที่ถูกยิงมาจาก จุด P ไปทาง ขวาเข้าไปในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก (ดูรูปซ้าย) ถ้านำอนุภาคทั้งสองไปวางลงในบริเวณที่มี สนามไฟฟา้ ดงั รปู ขวา จะเกดิ อะไรขน้ึ ( ด แทนสนามแมเ่ หลก็ ทม่ี ที ศิ พงุ่ เขา้ และตง้ั ฉากกบั กระดาษ) A P B สนามไฟฟา้ 1. A เคลื่อนที่ไปทางขวา ส่วน B เคล่อื นทไี่ ปทางซา้ ย 2. A เคลอ่ื นทไ่ี ปทางซา้ ย สว่ น B เคลอ่ื นทไ่ี ปทางขวา 3. ท้ัง A และ B ต่างกเ็ คล่อื นท่ีไปทางขวา 4. ทั้ง A และ B ตา่ งก็อยู่นิง่ กบั ท่ี

44. ยงิ อนุภาคอิเล็กตรอนเขา้ ไปในแนวตั้งฉากกับสนามไฟฟ้าสม่ำเสมอที่มีทิศพุ่งออกจากกระดาษ เส้นทางการเคล่ือนทขี่ องอิเล็กตรอนจะเป็นอย่างไร ( แทนทิศสนามไฟฟ้าพุ่งออกและต้งั ฉากกบั กระดาษ) 135 1. เบนขึ้น 01 2. เบนลง 02 3. เบนพ่งุ ออกจากกระดาษ 03 4. เบนพุง่ เข้าหากระดาษ 04อิเลก็ ตรอน 05 0645. โปรตอนและนิวตรอนสามารถอยรู่ วมกนั เปน็ นวิ เคลยี สได้ ด้วยแรงใด 1. แรงดงึ ดดู ระหว่างมวล 2. แรงไฟฟ้า 3. แรงแม่เหลก็ 4. แรงนวิ เคลยี ร์46. วัตถุเคลอื่ นท่ีเป็นเสน้ ตรง โดยมีตำแหนง่ ที่เวลาต่าง ๆ ดงั กราฟ ข้อใดคือการกระจดั ของวัตถุ ในชว่ งเวลา t = 0 วนิ าที จนถึง t = 8 วนิ าที 1. -8 เมตร 2. -4 เมตร 3. 0 เมตร 4. +8 เมตร47. ตอนเร่ิมต้นวัตถอุ ยู่หา่ งจากจดุ อ้างอิงไปทางขวา 4.0 เมตร เม่ือเวลาผ่านไป 10 วินาทีพบว่าวัตถุอยหู่ า่ งจากจดุ อ้างอิงไปทางซ้าย 8.0 เมตร จงหาความเรว็ เฉล่ยี ของวตั ถนุ ้ี 1. 0.4 เมตรตอ่ วินาที 2. 0.4 เมตรตอ่ วินาที ทางซา้ ย 3. 1.2 เมตรตอ่ วินาที 4. 1.2 เมตรต่อวินาที ทางซ้าย48. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ป็นการเคลอ่ื นทท่ี ่ีมขี นาดการกระจัดนอ้ ยทส่ี ดุ 1. เดนิ ไปทางขวาด้วยอัตราเร็วคงตัว 3 เมตรตอ่ วนิ าที เปน็ เวลา 4 วินาที 2. เดนิ ไปทางซ้ายดว้ ยอัตราเร็วคงตวั 4 เมตรต่อวินาที เป็นเวลา 3 วินาที 3. เดนิ ไปทางขวา 10 เมตร แลว้ เดนิ ยอ้ นกลบั มาทางซา้ ย 2 เมตร 4. ทง้ั สามขอ้ มีขนาดการกระจดั เท่ากนั หมด

49. ขอ้ ใดท่ีวตั ถมุ ีความเรง่ ไปทางซา้ ย 1. วตั ถุเคลื่อนทไ่ี ปทางขวาแล้วเคลื่อนทเี่ รว็ ขน้ึ 2. วัตถุเคลื่อนท่ไี ปทางขวาแลว้ เคลือ่ นทชี่ า้ ลง136 3. วัตถุเคลือ่ นท่ไี ปทางซ้ายแล้วเคล่อื นที่ช้าลง 4. วตั ถุเคลื่อนทไี่ ปทางซ้ายแล้วหยดุ 50. ลูกตุ้มนาฬิกาแกว่งแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย พบว่าผ่านจุดต่ำสุด ทุก ๆ 2.1 วินาที ความถี่ของการ แกว่งของลกู ตุม้ น้ีเปน็ ไปตามข้อใด 1. 0.24 เฮิรตซ์ 2. 0.48 เฮิรตซ์ 3. 2.1 เฮริ ตซ์ 4. 4.2 เฮิรตซ์คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 51. ผูกเชอื กเขา้ กบั จุกยาง แลว้ เหว่ียงให้จกุ ยางเคลื่อนทีเ่ ป็นวงกลมในแนวระดับเหนอื ศีรษะดว้ ยอัตรา เร็วคงตัว ข้อใดถูกต้อง 1. จุกยางมคี วามเรว็ คงตวั 2. จกุ ยางมคี วามเรง่ เปน็ ศนู ย์ 3. แรงทกี่ ระทำตอ่ จกุ ยางมที ิศเข้าสศู่ ูนย์กลางวงกลม 4. แรงที่กระทำต่อจกุ ยางมีทิศเดียวกบั ความเรว็ ของจกุ ยาง 52. ยิงลูกปืนออกไปในแนวระดบั ทำให้ลูกปืนเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ตอนที่ลูกปืนกำลังจะกระทบ พน้ื ขอ้ ใดถูกต้องท่สี ดุ (ไมต่ อ้ งคดิ แรงตา้ นอากาศ) 1. ความเรว็ ในแนวระดบั เปน็ ศนู ย์ 2. ความเร็วในแนวระดบั เท่ากบั ความเร็วตอนตน้ ทลี่ กู ปนื ถูกยิงออกมา 3. ความเรว็ ในแนวระดบั มขี นาดมากกว่าตอนทถี่ ูกยิงออกมา 4. ความเร็วในแนวระดับมขี นาดนอ้ ยกวา่ ตอนท่ถี ูกยงิ ออกมาแตไ่ มเ่ ป็นศนู ย์ 53. ในการทดลองเพ่ือสงั เกตผลของส่งิ กดี ขวางเมอ่ื คล่ืนเคล่อื นท่ีผ่าน เปน็ การศึกษาสมบัติตามขอ้ ใด ของคลืน่ 1. การหกั เห 2. การเลย้ี วเบน 3. การสะท้อน 4. การแทรกสอด 54. ทำให้เกิดคลื่นบนเส้นเชือกที่ปลายทั้งสองด้านถูกขึงตึง พบว่ามีความถี่และความยาวคลื่นค่าหนึ่ง ถา้ ทำใหค้ วามถีใ่ นการสนั่ เพ่ิมขน้ึ เปน็ 2 เทา่ ของความถีเ่ ดมิ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1. ความยาวคลน่ื บนเสน้ เชอื กลดลงเหลอื ครง่ึ หนง่ึ เนอ่ื งจากคลน่ื เคลอ่ื นทใ่ี นตวั กลางเดมิ 2. ความยาวคลน่ื บนเส้นเชอื กเพิ่มข้นึ เปน็ 2 เท่า เน่ืองจากปรมิ าณทง้ั สองแปรผันตามกนั 3. ความยาวคลนื่ บนเสน้ เชอื กเท่าเดมิ เน่ืองจากคล่นื เกิดบนตวั กลางเดมิ 4. ความยาวคลื่นบนเส้นเชือกเท่าเดิม แต่อัตราเร็วของคลื่นเพิ่มเป็นสองเทา่ ตามสมการ

55. วสั ดุท่ีใชใ้ นการบุผนงั โรงภาพยนตรม์ ผี ลในการลดปรากฏการณใ์ ดของเสียง 137 1. การหกั เห 2. การสะทอ้ น 3. การสัน่ พอ้ ง 4. ดอพเพลอร์ 0156. ข้อใดไม่ถูกตอ้ งเกย่ี วกับคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟา้ 02 1. คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ทกุ ชนิดมีอัตราเรว็ ในสญุ ญากาศเทา่ กนั 03 2. มีคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ บางชนดิ ต้องอาศยั ตวั กลางในการเดนิ ทาง 04 3. เมือ่ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเดินทางในตัวกลางที่เปลี่ยนไป อัตราเร็วของคลื่นจะ 05 06 เปลีย่ นไป 4. คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ เปน็ คลนื่ ทีม่ ีทงั้ สนามไฟฟ้าและสนามแมเ่ หล็ก57. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตใิ นข้อใดทีไ่ มม่ ีผลต่อการแผก่ ระจายของคล่นื วิทยุ 1. การเปลย่ี นขนาดของจดุ ดบั บนดวงอาทติ ย์ 2. การเกดิ แสงเหนือแสงใต้ 3. การเกิดนำ้ ข้ึนนำ้ ลง 4. การเกดิ กลางวนั กลางคนื58. ถา้ รังสีแกมมาพุ่งเข้าไปในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กซึ่งมีทิศตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของ รงั สีภายในสนามแม่เหลก็ ดงั กลา่ ว รงั สแี กมมามีแนวทางการเคล่ือนทเ่ี ป็นไปตามข้อใด 1. เบนไปด้านข้าง 2. เคลอื่ นทเ่ี ปน็ วงกลม 3. เคล่อื นท่ใี นแนวทางเดิม 4. ยอ้ นกลับทางเดิม59. ในทางการแพทย์ ไอโอดีน-131 นำมาใช้เพ่ือวตั ถปุ ระสงคต์ ามข้อใด 1. ตรวจการไหลเวียนของโลหิตในรา่ งกาย 2. ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ 3. รกั ษาโรคมะเร็ง 4. รกั ษาเนอ้ื งอกในสมอง60. แผ่นดินไหวทรี่ ้สู ึกไดใ้ นประเทศไทย มักจะมศี ูนย์เกดิ แผน่ ดนิ ไหวอยู่ในประเทศใด 1. ไทย 2. พม่า 3. ลาว 4. อนิ โดนีเซีย 61. ขอบทวีปใดมรี ูปร่างต่อกนั ไดพ้ อดี 1. ตะวนั ตกของแอฟริกา กบั ตะวันออกของอเมรกิ าใต้ 2. ตะวันตกของเอเชีย กับ ตะวันออกของอเมริกาเหนอื 3. ตะวันตกของยุโรป กับ ตะวันออกของเอเชีย 4. เหนอื ของออสเตรเลีย กบั ใต้ของอเมริกาใต้62. ข้อใดไม่ถูกตอ้ ง 1. ประเทศไทยมีแผน่ ดินไหวขนาดท่ีรู้สกึ ได้ โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ครั้งทุก ๆ 5 ปี 2. แผ่นดนิ ไหวในประเทศไทย มักเกิดในบรเิ วณแนวรอยเลอ่ื นมีพลงั 3. แนวรอยเลื่อนมพี ลังในประเทศไทยมจี ำนวนหลายสิบแนว 4. แนวรอยเลอ่ื นมพี ลงั ในประเทศไทยสว่ นใหญจ่ ะอยใู่ นภาคตะวนั ตกและภาคเหนอื

63. ปจั จุบันมภี ูเขาไฟท่มี พี ลงั อยูบ่ นโลกเปน็ จำนวนประมาณเท่าใด 1. 100 ลกู 2. 1,000 ลูก 3. 10,000 ลูก 4. 100,000 ลกู138 64. ข้อใดถกู ต้องเก่ยี วกบั ดาวฤกษท์ ่ีอยใู่ นกลมุ่ เดียวกนั เชน่ กลุ่มดาวนายพราน 1. ดาวฤกษท์ ุกดวงจะมีอายุใกล้เคยี งกัน 2. ดาวฤกษท์ กุ ดวงจะมอี ันดับความสว่างปรากฏใกล้เคยี งกัน 3. ดาวฤกษท์ กุ ดวงจะมีระยะห่างจากโลกใกลเ้ คยี งกัน 4. ดาวฤกษ์ทุกดวงจะมตี ำแหน่งท่ปี รากฏใกล้เคยี งกัน 65. ข้อใดไม่ถกู ต้องเกยี่ วกบั ดวงอาทิตย์ 1. มีอายุพอ ๆ กับโลก 2. มมี วลประมาณ 50% ของมวลของระบบสรุ ิยะ 3. องค์ประกอบสว่ นใหญ่เป็นไฮโดรเจน 4. จะมวี าระสุดทา้ ยเป็นดาวแคระดำ 66. เมอ่ื เกดิ สุรยิ ปุ ราคาเตม็ ดวง วนั นัน้ ควรจะเป็นวนั ใด 1. แรม 1 คำ่ 2. ข้นึ 15 ค่ำ 3. แรม 8 ค่ำ 4. แรม 15 ค่ำ 67. ข้อใดไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกับสถานอี วกาศนานาชาติ 1. วจิ ัยเทคโนโลยใี หม ่ๆ ทไี่ มส่ ามารถทำได้บนโลก 2. เจา้ หนา้ ทีใ่ นสถานจี ะอยู่ในสภาวะไร้นำ้ หนกั 3. อยใู่ นวงโคจรคา้ งฟ้า 4. มีเจา้ หน้าทปี่ ระจำการอยตู่ ลอดเวลา 68. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชนข์ องกระสวยอวกาศในปัจจุบนั 1. เพื่อการทอ่ งเทยี่ ว 2. เพ่ือสง่ ดาวเทยี มเขา้ ส่วู งโคจร 3. เพ่อื ใช้เป็นสถานีอวกาศ 4. เพ่อื ใชว้ จิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T ส่วนที่ 2 : แบบระบายตัวเลือก จำนวน 18 ข้อ (ข้อ 69-86) คะแนนรวม 12 คะแนน ข้อสอบต่อไปนี้เป็นชุดคำถาม 6 ชุด ชุดละ 3 ข้อ ชุดละ 2 คะแนน ซึ่งในแต่ละชุดต้องทำถูกทั้ง 3 ข้อ จึงจะได้คะแนน 2 คะแนน หากทำผิดข้อใดข้อหนึ่งที่อยู่ในชุดนั้น ๆ จะไม่ได้คะแนน ชุดท่ี 1 (ข้อ 69-71) 69. ไอออนของธาตุ X มจี ำนวนโปรตอน นิวตรอน และ อิเล็กตรอน เทา่ กับ 9, 10, 10 ตาม ลำดับ ธาตุ X มสี ัญลักษณ์เปน็ ไปตามขอ้ ใด 1. 199X 2. 291X 3. 1210X 4. 1211X

70. สารบริสทุ ธ์ขิ องธาตุ X ในข้อที่ 69 มีสตู รโมเลกลุ ตามข้อใด 1. NF22 2. OCl22 139 3. 4. 0171. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเกีย่ วกับสมบัตขิ องธาตุ X ในข้อที่ 69 02 1. สาร X มีสถานะเปน็ แก๊ส 03 2. ไอออนทเ่ี สถยี รของธาตุ X มปี ระจุ -1 04 3. ธาตุ X พบไดใ้ นบางสว่ นของรา่ งกายคน 05 4. ธาตุ X กับธาตุ Ca เกดิ เป็นสารประกอบท่มี ีสูตรเปน็ CaX 06ชุดท่ี 2 (ข้อ 72-74)72. ยูเรียเตรียมจากแก๊สแอมโมเนียและแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดด์ ้วยปฏิกริ ิยาดงั นี้ การทดลองในภาชนะปิดและช่ังนำ้ หนกั ยูเรยี ท่ีเกดิ ขึน้ ท่เี วลาต่างกนั ได้ผลดังตาราง เวลาทใ่ี ช้ (นาที) นำ้ หนกั ยเู รียที่เกดิ ขึ้น (กรมั ) 1 1.6 2 2.6 3 4 4 4.2 5 4.2 ขอ้ ใดสรุปไม่ถูกต้อง 1. ปฏิกิริยาสน้ิ สดุ หลังจากนาทที ี่ 4 2. อตั ราปฏิกริ ิยาลดลงเมื่อเวลาเพิม่ ข้นึ 3. อัตราปฏิกิรยิ าท่นี าทที ่ี 4 และนาทีที่ 5 มีค่าเทา่ กนั 4. อตั ราเฉลย่ี เม่ือปฏิกริ ยิ าสิ้นสุดพอดมี ีค่าเป็น1.05 กรมั ต่อนาที73. ตามปฏกิ ริ ยิ าในข้อ 72 ถ้าเริ่มต้นใช้แอมโมเนีย 3 โมล และคาร์บอนไดออกไซด์ 1 โมล เมอ่ื ปฏิกิริยาเกิดได้สมบูรณ์ แก๊สทุกชนิดที่อยู่ในภาชนะ จะมีจำนวนโมลโดยรวม ตาม ข้อใด 1. 1 โมล 2. 2 โมล 3. 3 โมล 4. 4 โมล74. ตามปฏกิ ริ ยิ าในขอ้ 72 ถา้ นำแกส๊ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทง้ั หมดพน่ ลงในนำ้ สารละลายทไ่ี ดเ้ ปน็ สารใน ข้อใด 1. กรดคารบ์ อนิก 2. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ 3. แอมโมเนียมคาร์บอเนต 4. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ และกรดคาร์บอนิก

ชุดที่ 3 (ข้อ 75-77) 75. โยนวตั ถุขึ้นในแนวดิง่ ในขณะที่วัตถกุ ำลังเคล่อื นที่ขนึ้ ข้อใดสรุปได้ถกู ต้อง140 1. ความเรง่ มีทศิ ขนึ้ 2. ความเรง่ มีทิศลง 3. ความเร่งเปน็ ศนู ย์ 4. ข้อมลู ไมเ่ พียงพอทจ่ี ะบอกทิศของความเรง่ 76. โยนวัตถขุ ึน้ ในแนวดง่ิ ในขณะที่วตั ถุอย่ทู ีจ่ ดุ สงู สุดพอดี ความเรง่ ของวัตถุมที ิศใด 1. ความเรง่ เปน็ ศูนย์ 2. ความเรง่ มีทศิ ขึ้น 3. ความเร่งมีทิศลง 4. ความเร่งกำลังเปล่ียนทศิ 77. โยนวัตถุขน้ึ ในแนวดิง่ ในขณะที่วัตถกุ ำลังเคลื่อนท่ีลง ความเร่งของวตั ถุมีทิศใด 1. ความเรง่ มีทศิ ข้ึน 2. ความเร่งมที ิศลง 3. ความเร่งเป็นศูนย์ 4. ข้อมลู ไม่เพียงพอทจี่ ะบอกทิศของความเรง่ ชดุ ที่ 4 (ขอ้ 78-80) 78. เม่อื เปิดให้ลำโพงทำงาน อนภุ าคของฝ่นุ ทอี่ ย่ดู า้ นหน้าของลำโพงดงั รปู จะมกี ารเคลื่อนทอี่ ยา่ งไร ฝุน่คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T ลําโพง 2. เสยี งเป็นคล่ืนรูปซายน์ 4. เสียงเป็นคลนื่ ตามยาว 1. เคล่อื นทอี่ อกจากลำโพง 2. ส่ันขนึ้ ลงในแนวด่ิง 3. สนั่ ไปมาในแนวระดับ 4. เคลื่อนที่ออกเปน็ รปู คล่ืน 79. เหตุผลสำหรับคำตอบในขอ้ ที่ 78 คอื ข้อใด 1. พลังงานเคล่ือนทีอ่ อกจากลำโพง 3. เสยี งเปน็ คล่นื ตามขวาง 80. คล่ืนเสียงเปน็ คลน่ื ชนิดใด 1. คลืน่ ตามยาว 2. คลื่นตามขวาง 3. คลน่ื ผสมทีม่ ที ้ังตามยาวและตามขวาง 4. คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้

ชดุ ที่ 5 (ขอ้ 81-83) 141 พิจารณาช้นั หนิ ท่วี างซอ้ นกันดงั รปู แลว้ ตอบคำถามข้อ 81 ถึง 83 01 ชน้ั ก กระดกู ช้าง ซากตน้ พชื (บนสดุ มตี น้ หญา้ ) 02 ชน้ั ข กระดูกช้าง ซากตน้ พชื หอยแครง 03 ชน้ั ค หอยแครง 04 ชน้ั ง แมงดาทะเล แอมโมไนต์ 05 ชน้ั จ แอมโมไนต์ 0681. ชั้นหินในข้อใดเกา่ แก่ทีส่ ดุ 1. ช้ัน ก 2. ชัน้ ข 3. ชน้ั ค 4. ชัน้ จ82. ฟอสซิลในขอ้ ใดทพ่ี บในตวั อยา่ งนท้ี ่สี ามารถใช้เป็นฟอสซลิ ดัชนไี ด้ 1. หอยแครง 2. แอมโมไนต์ 3. แมงดาทะเล 4. ชา้ ง83. ข้อใดถกู ตอ้ งเก่ยี วกบั สภาพของสถานท่แี ห่งน้ี 1. เคยเปน็ ทะเลมากอ่ น ปัจจบุ ันเป็นบก 2. เคยเป็นบกมากอ่ น แล้วเปน็ ทะเลในภายหลัง 3. ไม่เคยเป็นทะเลเลย 4. เป็นทะเลท้งั อดีตและปจั จบุ ันชดุ ที่ 6 (ข้อ 84-86)84. ขอ้ ใดเรียงลำดบั ความสวา่ งที่ปรากฏของดาวจากสวา่ งน้อยไปมากไดถ้ ูกตอ้ ง 1. ดาวศกุ ร์เม่อื สวา่ งทส่ี ุด ดวงจันทรเ์ มอื่ สว่างท่สี ดุ ดาวซรี ีอัส 2. ดาวซีรีอสั ดาวศุกรเ์ ม่อื สวา่ งท่ีสดุ ดวงจนั ทรเ์ ม่ือสวา่ งท่สี ดุ 3. ดาวศกุ ร์เมอ่ื สวา่ งทส่ี ุด ดาวซรี อี สั ดวงจนั ทร์เม่ือสว่างท่สี ุด 4. ดวงจนั ทรเ์ มื่อสว่างที่สุด ดาวศุกรเ์ ม่ือสวา่ งทีส่ ุด ดาวซีรอี สั85. ข้อใดถกู ต้องเก่ียวกับอันดับความสวา่ ง 1. มีคา่ เปน็ บวกเทา่ น้นั 2. คา่ มากแสดงวา่ สวา่ งมาก 3. ค่าเป็นศนู ยแ์ สดงวา่ ไม่มแี สงในตัวเอง 4. เปน็ ปรมิ าณทไี่ ม่มีหน่วย86. ขอ้ ใดถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั อนั ดบั ความสวา่ งของดาวศกุ รเ์ มอ่ื สวา่ งทส่ี ดุ กบั อนั ดบั ความสวา่ งของ ดวงอาทติ ย์ 1. คา่ ใกลเ้ คยี งกนั 2. ค่าของดาวศุกรม์ ากกว่า 3. ค่าของดาวศกุ ร์นอ้ ยกว่า 4. เปรยี บเทียบกนั ไม่ได้

เฉลย ข้อสอบ ิวทยาศาสต ์ร142 คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T

วิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา/ศิลปะ/การงานอาชพี ฯสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)รหัสวชิ า 06 วชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา/ศิลปะ/การงานอาชพี ฯสอบวันอาทิตย์ท่ี 21 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2553

144 สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน) รหสั วิชา 06 วชิ า สขุ ศึกษาและพลศึกษา/ศลิ ปะ/การงานอาชพี ฯ สอบวนั อาทติ ยท์ ี่ 21 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 14.30 – 16.30 น. ชือ่ -นามสกุล เลขทนี่ ง่ั สอบ สถานที่สอบ ห้องสอบ คำอธิบาย 1. ข้อสอบมีทัง้ หมด 3 ตอน ( 47 หนา้ ) ตอนที่ 1 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา : จำนวน 50 ขอ้ รวม 50 คะแนน ตอนที่ 2 ศลิ ปะ : จำนวน 40 ข้อ รวม100 คะแนน ตอนที่ 3 การงานอาชีพฯ : จำนวน 30 ข้อ รวม 30 คะแนน 2. กอ่ นตอบคำถามให้เขียนช่ือ-นามสกลุ เลขทน่ี ัง่ สอบ สถานท่ีสอบและหอ้ งสอบบนข้อสอบ 3. ให้ตรวจสอบ ชือ่ -นามสกลุ เลขท่ีนัง่ สอบ รหสั วชิ าสอบในกระดาษคำตอบวา่ ตรงกบั ตวั ผู้เข้าสอบหรอื ไม่ กรณไี มต่ รง ใหแ้ จง้ ผูค้ มุ สอบเพอื่ ขอกระดาษคำตอบสำรอง แล้วกรอก ขอ้ ความหรอื ระบายให้สมบรู ณ์ 4. ในการตอบ ให้ใชด้ นิ สอดำเบอร์ 2B ระบายวงกลมตวั เลือกในกระดาษคำตอบใหเ้ ต็มวง (หา้ มระบายนอกวง) ถา้ ตอ้ งการเปลย่ี นตวั เลอื กใหม่ ตอ้ งลบใหส้ ะอาดจนหมดรอยดำแลว้ จึงระบายวงกลมตวั เลือกใหม่ 5. หา้ มนำขอ้ สอบและกระดาษคำตอบออกจากหอ้ งสอบ 6. ไม่อนุญาตให้ผู้เขา้ สอบออกจากหอ้ งสอบ กอ่ นหมดเวลาสอบ 7. ไมอ่ นุญาตให้ผู้คมุ สอบเปดิ อ่านขอ้ สอบคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T เอกสารนเ้ี ปน็ เอกสารสงวนลขิ สทิ ธข์ิ องสถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) ห้ามเผยแพร่ อ้างอิง หรือเฉลย ก่อนได้รับอนุญาต สถาบันฯ จะย่อยทำลายข้อสอบและ กระดาษคำตอบทง้ั หมด หลงั จากประกาศผลสอบแลว้ 3 เดือน

ตอนท่ี 1 : สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา : จำนวน 50 ข้อ รวม 50 คะแนน 145แบบระบายตัวเลอื ก แตล่ ะขอ้ มคี ำตอบท่ถี กู ตอ้ งทสี่ ุดเพียงคำตอบเดยี วจำนวน 50 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน 01 021. อาการเย่อื หุม้ สมองอกั เสบสว่ นมากเกิดจากการติดเชอื้ ไวรสั ทที่ ำให้เกดิ โรคตอ่ ไปน้ี 03 ยกเว้นขอ้ ใด 04 05 1. โรคคางทูม 2. โรคปอดบวม 06 3. โรคอีสกุ อีใส 4. โรคหัด2. หนู ำ้ หนวกเกิดจากการติดเชอื้ อะไร 1. เช้อื รา 2. เช้ือไวรสั 3. เชอ้ื แบคทเี รีย 4. เช้ือไวรัสและแบคทีเรยี3. ข้อใดเป็นประโยชน์ของการรู้จักตนเองและการยอมรบั ผู้อนื่ 1. ทำให้มสี มาธิเรียนได้คะแนนดี 2. ทำให้เข้าใจความแตกตา่ งระหว่างบุคคล 3. ทำใหค้ บเพอ่ื นตา่ งเพศได้โดยไมม่ ีปัญหา 4. ทำให้รู้จกั ใชค้ วามรคู้ วามสามารถของตนเองใหเ้ ปน็ ประโยชน์4. การวางแผนดแู ลสุขภาพเพอ่ื ให้มีสขุ ภาพดีดว้ ยการรับประทานอาหารครบทกุ หมู่ และออก กำลังกายด้วยการเดิน ข้อใดจะได้ประโยชน์มากทีส่ ุด 1. กระดูกยาวขึ้น 2. กระดูกแข็งแรงขึน้ 3. กลา้ มเน้ือโตข้ึน 4. เอน็ และขอ้ ต่อแข็งแรงข้นึ5. เม่อื ถูกล่วงละเมดิ ทางเพศควรปรึกษาใครเปน็ อันดบั แรก 1. เพ่อื นสนิท 2. ครูประจำชน้ั 3. อาจารยแ์ นะแนว 4. ผู้ปกครอง6. ลักษณะใดท่ีบุคคลตอ้ งการคบเปน็ เพ่ือนมากท่ีสดุ 1. ย้มิ แยม้ แจ่มใส 2. เอือ้ เฟอื้ เผอ่ื แผ่ 3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา 4. พดู จาไพเราะ7. ข้อใดเปน็ ค่านิยมทดี่ ใี นเรอ่ื งเพศ 1. ไม่ชงิ สกุ กอ่ นหา่ ม 2. มคี นรกั หลายคน เป็นคนมเี สนห่ ์ 3. การถูกเน้ือตอ้ งตัวระหว่างชายและหญิงเปน็ เรอ่ื งธรรมดา 4. ควรทดลองอยูร่ ว่ มกันก่อนแตง่ งาน8. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วัฒนธรรมไทยเกี่ยวกับเรือ่ งเพศ 1. การดแู ลบา้ นเปน็ หน้าทีข่ องสามีและภรรยา 2. ผชู้ ายท่แี ตง่ งานแลว้ ต้องซ่อื สตั ยต์ อ่ ภรรยา 3. เป็นหญิงต้องรกั นวลสงวนตวั 4. สามีเปน็ ช้างเทา้ หน้า ภรรยาเปน็ ชา้ งเท้าหลงั

คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T9. ขอ้ ใดเป็นสถานการณ์เส่ยี งตอ่ การมีเพศสมั พนั ธม์ ากที่สดุ 1. เท่ียวกลางคืนกบั เพศตรงข้าม 2. การแตง่ กายยว่ั ยุใหเ้ กิดอารมณท์ างเพศ 3. ดม่ื ของมึนเมา 4. การดูสอ่ื เกยี่ วกบั เพศสัมพนั ธ์146 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่คุณสมบัติของกล้ามเน้อื 1. มกี ารตอบสนองต่อสง่ิ เร้า 2. มีความสามารถยดื ตัวและหดตัวได้ 3. มีจำนวนเส้นใยคงที่ 4. ทำหน้าท่ยี ดึ โครงรา่ งของร่างกาย 11. นักว่ิงระยะสน้ั ทำการฝกึ ซ้อมทกุ วนั ร่างกายจะพฒั นาเสน้ ใยกล้ามเนือ้ สใี ดมากทสี่ ดุ 1. สขี าว 2. สีแดง 3. สีชมพู 4. สเี หลือง 12. ในขณะเล่นกีฬา นักกีฬาใชก้ ลา้ มเนือ้ ชนดิ ใดมากที่สุด 1. กล้ามเนอื้ เรียบ 2. กล้ามเน้ือลาย 3. กลา้ มเน้ือหัวใจ 4. กล้ามเนอื้ แดง 13. นักกฬี าออกกำลังกายแบบลุก-นัง่ (Sit-up) เปน็ ประจำจะชว่ ยเพม่ิ สมรรถภาพทางกายของกลา้ ม เนือ้ สว่ นใด 1. กลา้ มเนอื้ ต้นขา 2. กลา้ มเน้อื หลงั 3. กลา้ มเนื้อคอ 4. กลา้ มเน้ือหนา้ ทอ้ ง 14. ในการสร้างสมรรถภาพทางกายท่ดี ี นกั เรียนจะตอ้ งปฏิบัติตนอย่างไร 1. รบั ประทานผักผลไมม้ าก ๆ 2. รบั ประทานเนื้อสตั ว์มาก ๆ 3. ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวนั 4. พกั ผ่อนให้เพียงพอ 15. อตั ราการเต้นของหัวใจขณะพกั ของนักกีฬาว่ิงระยะไกล ควรเป็นข้อใด 1. 50 – 60 ครงั้ ตอ่ นาที 2. 60 – 70 ครัง้ ตอ่ นาที 3. 70 – 80 ครั้งตอ่ นาท ี 4. 80 – 90 ครั้งตอ่ นาที 16. ศลิ ปะปอ้ งกันตวั ชนดิ ใดทมี่ ีปรัชญาป้องกันตัวเม่ือถกู กระทำกอ่ น 1. ยโู ด 2. ไอคิโด 3. เทควนั โด 4. มวย 17. กฬี าใดท่ีมกี ารนับคะแนนการแข่งขนั แตกตา่ งจากกีฬาอน่ื 1. แบดมนิ ตนั 2. วอลเลย์บอล 3. เทนนสิ 4. เทเบลิ เทนนิส 18. การแข่งขันกีฬายิมนาสติก ประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ ประเภทชายและหญิงมีความแตกตา่ ง ในข้อใด 1. ชายใช้เวลาแสดงน้อยกว่าหญงิ มดี นตรีประกอบ 2. ชายใชเ้ วลาแสดงนอ้ ยกวา่ หญิง ไมม่ ีดนตรปี ระกอบ 3. หญิงใช้เวลาแสดงนอ้ ยกว่าชาย มดี นตรปี ระกอบ 4. หญิงใชเ้ วลาแสดงนอ้ ยกว่าชาย ไม่มดี นตรีประกอบ

19. การแขง่ ขนั กฬี าเทนนสิ เมอ่ื ตอ้ งแขง่ ขนั กนั ในระบบ ไทเบรก (Tie Break) คะแนนในขอ้ ใด มีผลแพช้ นะ 1. 7 : 6 2. 6 : 4 147 3. 9 : 8 4. 8 : 6 20. การแสดงกระบีก่ ระบองมลี ำดบั ข้นั ตอนอยา่ งไร 1. การขน้ึ พรหม การถวายบงั คม การรำ การเดนิ แปลง การตี 2. การถวายบงั คม การข้ึนพรหม การรำ การเดินแปลง การตี 3. การข้นึ พรหม การรำ การถวายบังคม การเดินแปลง การตี 01 4. การถวายบงั คม การรำ การขึ้นพรหม การเดินแปลง การตี 02 0321. ในการเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล ขอ้ ใดปฏิบตั ไิ ม่ถูกตอ้ ง 04 05 1. ผู้เลน่ ในทีมถกู ลกู บอลได้ 3 คร้ัง 06 2. ผเู้ ลน่ คนหน่ึงถกู ลูกบอลได้ 2 คร้ัง ติดตอ่ กนั ไมไ่ ด้ 3. สง่ ลูกเริ่มเล่นถูกตาข่ายลงในแดนดี ให้เล่นตอ่ ไป 4. ผู้เลน่ ในทมี ถกู ลูกตบใส่ศีรษะ ทมี นน้ั สามารถเล่นลกู ไดอ้ กี 3 ครงั้22. สมใจแข่งขันเซปักตะกร้อรายการหนึ่ง ผู้ตัดสิน ขานลูกออก คู่แข่งขันไม่เห็นด้วยกับการ ขานของผูต้ ดั สนิ สมใจเห็นวา่ ลูกนัน้ ดี สมใจควรปฏบิ ตั ิอย่างไร 1. ไมแ่ สดงความคดิ เหน็ 2. บอก คู่แขง่ ขันว่าลูกออก 3. บอก ผตู้ ัดสินวา่ ลูกออก 4. บอก ผู้ตดั สินวา่ ลกู ดี23. ในการเป็นผู้ชมกีฬายิมนาสตกิ ท่ีดี ข้อใดไม่ควรปฏบิ ตั มิ ากที่สุด 1. ไปถึงสนามหลงั การแข่งขัน 2. ลุกเดนิ ไป-มา ในขณะมีการแขง่ ขัน 3. นำอาหาร และเคร่อื งด่ืม เข้าไปในบริเวณนั่งชม 4. ปรบมอื แสดงความยินดีกบั นกั กฬี าทก่ี ำลงั แสดง24. ขอ้ ใดเปน็ สทิ ธิในการปฏิบตั ิงานของลูกจา้ งตามพระราชบัญญตั คิ ุม้ ครองแรงงาน 1. ลกู จ้างที่ทำงานล่วงเวลาตอ้ งมีเวลาพักจากงานปกตไิ ม่นอ้ ยกวา่ 20 นาที 2. ลูกจา้ งตอ้ งมีเวลาพักจากการทำงานปกตไิ มน่ ้อยกว่า 2 ชวั่ โมงต่อวัน 3. ลูกจ้างท่ีทำงานซ่งึ มคี วามเสยี่ งสูงให้มีเวลาทำงานปกตวิ นั ละ 6 ชัว่ โมง 4. ลกู จ้างต้องมีวันหยุดประจำสัปดาห์อยา่ งนอ้ ย 2 วนั 25. ข้อใดเปน็ การป้องกนั ปญั หาจากมลพษิ ทางขยะที่ดีทส่ี ดุ 1. มีการกำจัดขยะโดยการฝงั กลบ 2. จัดการแยกขยะกอ่ นนำไปทำลาย 3. สร้างโรงงานเผาขยะท่มี ีประสทิ ธภิ าพ 4. ทกุ คนช่วยกันลดการใชพ้ ลาสตกิ 26. ขอ้ ใดจดั เปน็ โรคติดต่ออันตรายระหวา่ งประเทศทีพ่ บการระบาดขึ้นอีกหลังจากหยดุ การ ระบาดไประยะหนง่ึ 1. ไข้หวดั นก 2. ไข้ทรพษิ 3. โรคซารส์ 4. กาฬโรคปอด

27. ข้อใดเป็นอาการที่บ่งบอกวา่ นักเรียนกำลังประสบกับปัญหาความเครยี ด 1. เหง่อื ออกมาก หวั ใจเตน้ เร็ว หายใจหอบ 2. นอนกดั ฟัน ไม่มีสมาธิ เบอื่ อาหาร148 3. ทอ้ งเสีย ปวดเมอ่ื ยเนือ้ ตัว มอื สนั่ 4. นอนกรน ใจส่ัน เหนื่อยงา่ ย 28. ข้อใดจัดวา่ เป็นกิจกรรมนันทนาการ 1. วาดรปู ยามว่างไวข้ าย 2. ออกกำลงั กายเพื่อลดความอว้ น 3. ไปดกู ารแข่งขันฟุตบอลหลังเลกิ เรยี น 4. ฝกึ หดั วา่ ยนำ้ เพื่อตอ้ งการไปเทยี่ วชายทะเล 29. ปจั จยั ท่ีสำคญั ท่ีสดุ ของการมภี ูมิต้านทานโรคของรา่ งกาย 1. ยนี 2. อาหาร 3. การพกั ผ่อน 4. การออกกำลงั กาย 30. ข้อใดเปน็ องคป์ ระกอบของรา่ งกาย (Body composition) ทีม่ มี ากทีส่ ุด 1. น้ำในรา่ งกาย 2. กลา้ มเน้อื 3. ไขมัน 4. กระดูก 31. หากมผี ู้มาขอคำแนะนำเรื่องวธิ ีการเลอื กหมวกกันนอ็ กทถ่ี ูกตอ้ ง นักเรยี นจะแนะนำอยา่ งไร 1. เลอื กหมวกท่ีมสี สี ดใส มสี ายรัดใตค้ าง 2. เลอื กหมวกที่มีน้ำหนกั เบา ขนาดใหญก่ ว่าศีรษะเล็กน้อย 3. เลือกหมวกทีม่ ีกระจกกนั ลมดา้ นหนา้ มีท่ีระบายอากาศ 4. เลอื กหมวกที่ด้านในบดุ ้วยโฟมอยา่ งดี มลี วดลายเห็นชัด 32. เหตุใดการใช้กระบวนการทางประชาสงั คมจึงทำให้ชมุ ชนเข้มแข็ง 1. เพราะชาวบา้ นสว่ นใหญ่สามารถสรา้ งวธิ กี ารพงึ่ พาตนเอง 2. เพราะคนในหมบู่ า้ นจำนวนมากรวมกลมุ่ กนั ทำงานให้ชมุ ชน 3. เพราะเจา้ หนา้ ที่มคี วามม่ันใจในศกั ยภาพการทำงานของชาวบ้าน 4. เพราะประชาชนทกุ ภาคสว่ นมีความรว่ มมือกันในการแกป้ ญั หาของชุมชนคู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O – N E T ม. 6, G A T / P A T 33. ข้อใดเปน็ “คา่ นิยม” ที่อาจเป็นสาเหตใุ ห้เกิดความรนุ แรงในสงั คม 1. การใหค้ วามสำคญั กับผทู้ ่ีแสดงความรนุ แรงที่เด่นชดั ในสังคม 2. การเพิกเฉยไม่ใสใ่ จกับเรื่องราวความรุนแรงท่เี กิดข้นึ ในสงั คม 3. การไมใ่ หค้ วามสำคัญกบั การเป็นคนดมี ีคณุ ธรรม จริยธรรม 4. การยอมรับการกระทำรุนแรงของคนดงั ในสังคม 34. สารเสพตดิ ประเภทใดทจ่ี ดั เป็นกลมุ่ เดยี วกับ “ยาไอซ์” 1. กญั ชา มอร์ฟีน เฮโรอีน 2. ยาบา้ แอลเอสด ี แอมเฟตามีน 3. โคเคน แอลเอสดี เหลา้ แห้ง 4. เอกซต์ าซ ี ฝิ่น แอมเฟตามนี

[NEW] หลักการใช้ some กับ any พร้อมตัวอย่างประโยค | ความ หมาย ของ pronoun – NATAVIGUIDES

คำว่า some และ any เป็นคำภาษาอังกฤษที่เราพบเจอได้บ่อยมากๆ แต่ถึงแม้จะเจอบ่อย หลายๆคนก็อาจจะยังงงกับเจ้าสองคำนี้อยู่ นั่นก็เพราะสองคำนี้มีความหมายและวิธีใช้ที่ค่อนข้างหลากหลายนั่นเอง

ในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับคำว่า some และ any ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทั้งความหมาย วิธีการใช้ และตัวอย่างประโยค มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กัน ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

หลักการใช้ some

คำว่า some มีความหมายและการใช้ที่หลากหลาย ซึ่งหลักๆแล้วจะมีดังนี้

Some แปลว่า บาง…

Some มีความหมายว่า “บาง…” เช่น บางส่วน บางคน ฯลฯ โดยจะมีการใช้แบ่งได้คร่าวๆ 3 แบบ

1. ใช้บอกปริมาณ

Some ในกรณีนี้จะมีความหมายว่า “บางส่วน” หรือ “จำนวนหนึ่ง” ใช้พูดถึงสิ่งที่มีปริมาณมากกว่าหนึ่งหน่วย หรือพูดถึงบางส่วนของสิ่งนั้น แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ามีปริมาณเท่าใด

คำว่า some ในความหมายนี้ จะทำหน้าที่เป็น determiner เวลาใช้จะต้องอยู่หน้าคำนาม (determiner คือคำที่ใช้กำกับคำนาม ทำหน้าที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับคำนาม เช่น บอกปริมาณ ตัวอย่าง determiner คำอื่นเช่น a, an, the, many, much, any) อย่างเช่น

Some cake แปลว่า เค้กบางส่วน
Some apples แปลว่า แอปเปิลจำนวนหนึ่ง
Some idea แปลว่า ความคิดบางอัน

ตัวอย่างประโยค

I ate some ice cream yesterday.
เมื่อวานฉันกินไอศกรีมไปบางส่วน

Joe gave me some good advice.
โจให้คำแนะนำบางอย่างกับฉัน

ทั้งนี้ การใช้ some ในความหมายนี้ เราจะใช้กับคำนามนับไม่ได้ หรือคำนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์เท่านั้น ถ้าเป็นคำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ เราจะใช้ a หรือ an แทน อย่างเช่น

I bought a pen.
ฉันซื้อปากกาหนึ่งด้าม
(เนื่องจาก pen เป็นคำนามนับได้ เราจึงไม่ใช้ I bought some pen. แต่เราสามารถใช้ I bought some pens. ได้ ถ้าเราซื้อมาหลายด้าม)

2. ใช้กับคำนามที่ไม่เจาะจง

เราสามารถใช้ some เมื่อกล่าวถึงบุคคลหรือสิ่งใดๆ โดยที่ไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าเป็นคนไหนหรือสิ่งไหน เช่น

Some person ใครบางคน
Some cat แมวบางตัว
Some method บางวิธี

Some ในความหมายนี้จะทำหน้าที่เป็น determiner ต้องใช้หน้าคำนามเช่นกัน

ตัวอย่างประโยค

Some person came to see you yesterday.
มีใครบางคนมาหาคุณเมื่อวานนี้

There should be some ways to solve this problem.
มันน่าจะมีบางหนทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้

3. ใช้แทนคำนาม

เรายังสามารถใช้ some เป็น pronoun (คำที่ใช้แทนคำนาม) ได้อีกด้วย โดย some ในกรณีนี้จะมีความหมายว่า “บางส่วน” หรือ “จำนวนหนึ่ง” เหมือน some ที่ใช้บอกปริมาณ

ตัวอย่างประโยค

I have just made sandwiches. Would you like some?
ฉันเพิ่งทำแซนด์วิชเสร็จ คุณจะกินหน่อยมั้ย
(ถ้าแปลตรงๆจะเป็น “คุณจะกินบางส่วนมั้ย” แต่เพื่อให้เป็นธรรมชาติ เราเลยเปลี่ยนคำ)

Some of his works are very exceptional.
งานบางชิ้นของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก

Some แปลว่า ปริมาณมาก

เรายังสามารถใช้ some เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งไหนมี “ปริมาณมาก” ได้อีกด้วย คำว่า some ในความหมายนี้จะทำหน้าที่เป็น determiner การใช้จะต้องใช้หน้าคำนาม

ตัวอย่างประโยค

It will be some time before I forget it.
มันคงจะต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนที่ฉันจะลืมมันได้

It normally takes some effort to be fluent in second language.
ปกติแล้วมันจะต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการที่จะใช้ภาษาที่สองได้คล่อง

Some แปลว่า ดีเยี่ยม

Some มีอีกความหมายว่า “ดีเยี่ยม” ทำหน้าที่เป็น determiner เช่นเดียวกัน

ตัวอย่างประโยค

That was some concert last night!
คอนเสิร์ตเมื่อคืนนี่สุดยอดจริงๆ

That was some Friday night dinner, wasn’t it?
อาหารเย็นเมื่อคืนวันศุกร์นั้นวิเศษณ์ไปเลย ว่ามั้ย

Some แปลว่า ประมาณ

เราสามารถใช้ some ไว้หน้าจำนวนตัวเลข ซึ่งจะแปลว่า “ประมาณ”

ตัวอย่างประโยค

Some 500 people went to the event.
มีคนประมาณ 500 คนไปร่วมงาน

I worked there for some 10 years.
ฉันทำงานที่นั่นประมาณ 10 ปี

Some แปลว่า เล็กน้อย

Some ยังสามารถแปลว่า “เล็กน้อย” ได้อีกด้วย โดยจะทำหน้าที่เป็น adverb คำว่า some ในความหมายนี้จะถูกใช้ใน American English เป็นหลัก และถือว่าเป็นคำที่ไม่เป็นทางการ

ตัวอย่างประโยค

I am feeling some better.
ฉันรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

We could work some and then have lunch.
เรามาทำงานกันซักหน่อยแล้วค่อยไปกินข้าวเที่ยงก็ได้นะ

หลักการใช้ any

คำว่า any จะมีความหมายและการใช้แบ่งได้หลักๆดังนี้

Any แปลว่า บ้าง

Any มีความหมายว่า “บ้าง” หรือ “สักนิด” ทำหน้าที่เป็น determiner ต้องใช้หน้าคำนาม คำว่า any ในความหมายนี้ มักจะใช้กับประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม

ตัวอย่างประโยค

Are there any cookies left?
มีคุ้กกี้เหลือบ้างมั้ย

I haven’t play any mobile games recently.
ช่วงที่ผ่านมาฉันไม่ได้เล่นเกมมือถือเลยสักนิด

Any ในความหมายนี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็น pronoun ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามได้อีกด้วย

ตัวอย่างประโยค

I looked around for a bottle of water, but there wasn’t any.
ฉันมองหาน้ำขวด แต่มันไม่มีเลย

Have you read any of her books?
คุณได้อ่านหนังสือของเธอบ้างมั้ย

Any แปลว่า อันไหนก็ได้

Any ยังสามารถแปลว่า “อันไหนก็ได้” หรือ “อะไรก็ตาม”

ตัวอย่างประโยค

Any food is fine in moderation.
อาหารอะไรก็โอเคหมดถ้ากินแต่พอดี

Any light color is good with black.
สีอ่อนไม่ว่าจะสีไหนก็เข้ากับสีดำได้หมด

Any ในความหมายนี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็น pronoun ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามได้อีกด้วย

ตัวอย่างประโยค

You can choose any of these t-shirts.
คุณสามารถเลือกเสื้อเชิ้ตอันไหนก็ได้

She is rich. She can buy any of these luxury clothes.
เธอรวย เธอสามารถซื้อเสื้อผ้าแพงๆอันไหนก็ได้

Any แปลว่า แม้แต่น้อย

Any ยังมีอีกความหมายคือ “แม้แต่น้อย” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น adverb คำว่า any ในความหมายนี้มักจะถูกใช้กับประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม

ตัวอย่างประโยค

This movie isn’t any good.
หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดีเลยแม้แต่น้อย

Can’t you walk any faster?
คุณเดินเร็วขึ้นอีกสักหน่อยไม่ได้หรอ

Some กับ any ต่างกันอย่างไร

การใช้ some และ any เป็น determiner (คำที่ใช้กำกับคำนาม) ที่ใช้บอกปริมาณ (บางส่วน, จำนวนหนึ่ง, บ้าง, สักนิด) เราจะใช้กับประโยคคนละชนิดกัน

เราจะใช้ some กับประโยคบอกเล่า

I have some money.
ฉันมีเงินอยู่บ้าง
(เราจะไม่ใช้ I have any money.)

และจะใช้ any กับประโยคปฏิเสธ

I don’t have any money.
ฉันไม่มีเงินสักนิดเลย
(เราจะไม่ใช้ I don’t have some money.)

สำหรับประโยคคำถาม เรามักจะใช้ any

Do you have any money?
คุณมีเงินบ้างหรือเปล่า

แต่เราก็อาจใช้ some แทนได้ ถ้าเราคาดหวังว่าผู้ตอบจะตอบว่าใช่ หรือคาดหวังว่าเค้าจะมีในสิ่งที่เราถาม

Do you have some money?
คุณมีเงินบ้างหรือเปล่า

หรือเมื่อคำถามนั้นเป็นการยื่นข้อเสนอ การขอร้อง หรือการเสนอแนะ

Would you like some tea?
คุณจะรับชาหน่อยมั้ย

Can I have some coffee?
ฉันขอกาแฟได้มั้ย

Why don’t we buy some new clothes?
ทำไมพวกเราไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่สักหน่อยล่ะ

สรุปก็คือเรามักจะใช้ some ในประโยคบอกเล่า และใช้ any ในประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม แต่ก็มีข้อยกเว้น คือเราสามารถใช้ some กับประโยคคำถามได้ ถ้าเราคาดหวังว่าเค้าจะตอบว่าใช่ หรือคำถามนั้นเป็นการยื่นข้อเสนอ การขอร้อง หรือการเสนอแนะ

เปรียบเทียบการใช้ some/any, a/an และ many/much

สำหรับคนที่ยังสับสนว่าในการบอกปริมาณ ตอนไหนเราควรใช้ some/any ตอนไหนควรใช้ a/an และตอนไหนควรใช้ many/much เรามาดูสรุปการเปรียบเทียบกันเลย

การใช้ a กับ an

ในการบอกปริมาณ เราจะใช้ a และ an เมื่อสิ่งนั้นมีปริมาณหนึ่งหน่วย โดยจะใช้ an เมื่อคำตามหลังนั้นขึ้นต้นด้วย a, e, i, o, u และจะใช้ a กับคำอื่นๆ

I bought an apple.
ฉันซื้อแอปเปิลหนึ่งลูก
(Apple ขึ้นต้นด้วยตัว a เราจึงใช้ an)

I bought a banana.
ฉันซื้อกล้วยหนึ่งลูก
(Banana ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย a, e, i, o, u เราจึงใช้ a)

การใช้ many กับ much

เราจะใช้ many กับ much เพื่อสื่อว่าสิ่งนั้นมีปริมาณมาก โดยเราจะใช้ many กับคำนามที่นับได้ และใช้ much กับคำนามที่นับไม่ได้

I have many friends.
ฉันมีเพื่อนหลายคน
(Friend เป็นคำนามนับได้)

I had so much fun.
ฉันรู้สึกสนุกมาก
(Fun เป็นคำนามนับไม่ได้)

การใช้ some กับ any

เราจะใช้ some กับ any ซึ่งแปลว่า บางส่วน, จำนวนหนึ่ง, บ้าง, สักนิด เมื่อคำนามนั้นเป็นคำนามนับได้และเป็นพหูพจน์

(เรามักจะใช้ some กับประโยคบอกเล่า และใช้ any กับประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม)

I can lend you some pencils.
ฉันให้คุณยืมดินสอบางส่วนได้นะ
(Pencil เป็นคำนามนับได้)

He doesn’t have any siblings.
เขาไม่มีพี่น้องเลยสักคน
(Sibling เป็นคำนามนับได้)

หรือเมื่อคำนามนั้นเป็นคำนามนับไม่ได้

We just want to have some fun.
พวกเราแค่อยากสนุกกันบ้างเท่านั้นเอง
(Fun เป็นคำนามนับไม่ได้)

Do you have any money?
คุณมีเงินบ้างหรือเปล่า
(Money เป็นคำนามนับไม่ได้)

สรุปง่ายๆก็คือ

  • ปริมาณหนึ่งหน่วย (เอกพจน์) และเป็นคำนามนับได้ ใช้ a (ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย a, e, i, o, u) หรือ an (ขึ้นต้นด้วย a, e, i, o, u)
  • ปริมาณมาก และเป็นคำนามนับได้ ใช้ many
  • ปริมาณมาก และเป็นคำนามนับไม่ได้ ใช้ much
  • บางส่วน จำนวนหนึ่ง สักนิด และเป็นคำนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ ใช้ some หรือ any
  • บางส่วน จำนวนหนึ่ง สักนิด และเป็นคำนามนับไม่ได้ ใช้ some หรือ any

เป็นยังไงบ้างครับกับวิธีใช้ some, any และคำอื่นที่เกี่ยวข้องในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


สรุป Parts Of Speech แบบเข้าใจง่าย – [ By : English – Kru Per ]


PartsOfSpeech เรียนภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สรุป Parts Of Speech แบบเข้าใจง่าย - [ By : English - Kru Per ]

ไหนเล่าซิ๊ l Vlog 84 Daily Vlog 3 คน 3 สไตล์ ทำอะไรกันบ้างใน 1 วัน!? ☀️🌙


ไหนเล่าซิ๊คลิปนี้ จะพาไปดู Morning \u0026 Night Routine ☀️🌙
ตื่น ยัน นอน !! เราทำอะไรกันบ้าง ??
🧸😇🌈
ดูแลตัวเองยังไง 💘✨ 🏃🏼‍♀️
ใช้ Skincare แบบไหน 🧖🏻‍♀💄
ใน 1 วันเรากินอะไร ☕️🥣🍴💊
เป็น Daily vlog อัพเดทชีวิตกันว่าช่วงนี้ ปาย ยิป เนะ
พวกเราทำอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยยย เพลิน แน่ นอน ep. นี้
เพราะ มาคนละมู้ดกันเลย ~ ha ha ha 🤣🤣
stayhome skincare vlog
lifeextensionthailand บำรุงผิว
เซรั่มวิตามินซี เซรั่มหน้าใส
vikkaskincare น้ำตบเห็ดพิโค่Picolotion

สนใจติดต่องาน : ไหนเล่าซิ๊​​​ Anoandfriends
FB Page: ไหนเล่าซิ๊ www.facebook.com/nailaosii/
IG : @nailaosii www.instagram.com/nailaosii/
Youtube : Ano and friends : ไหนเล่าซิ๊

Instagram ยิป ปาย เนะ
เนะอโณทัย​​​ : @nae_anothai (https://bit.ly/2KrnnQC​​​)
ยิปซีคีรติ​​​ : @gypsykeerati (https://bit.ly/2RViCDi​​​)
ปายสิตางค์​​​ : @pai_sitang (https://bit.ly/3eR0nZw​​​)

Video by @chuvub
“คลิปวีดีโอนี้ ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน
ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่
นอกจากจะได้รับอนุญาตจากผู้จัดทำคลิปเท่านั้น”

ไหนเล่าซิ๊ l Vlog 84 Daily Vlog 3 คน 3 สไตล์ ทำอะไรกันบ้างใน 1 วัน!? ☀️🌙

PRONOUN ‖ What is a Pronoun? ‖ Introduction ‖ Examples of Pronoun


Pronoun Examples IntroductionOfPronoun PartsOfSpeech
PARTS OF SPEECH
LESSON 2 INTRODUCTION TO PRONOUN
Definition of pronoun
: any of a small set of words in a language that are used as substitutes for nouns or noun phrases and whose referents are named or understood in the context
Why Pronouns Are Important
Pronouns, also known as “I,” “they,” “she,” “he,” “we,” “hers” and many others, are a part of our daily English language. We use pronouns as a way to identify or refer to someone.

PRONOUN ‖ What is a Pronoun? ‖ Introduction ‖ Examples of Pronoun

Possessive adjectives and pronouns


Learn how to use possessive adjectives and pronouns in English.

Possessive adjectives and pronouns

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.1 เรื่อง Possessive Adjective VS Possessive Pronoun


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.1 เรื่อง Possessive Adjective VS Possessive Pronoun

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ความ หมาย ของ pronoun

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *