Skip to content
Home » [NEW] Grammar: หลักการใช้ Verb to have | have to แปล ว่า – NATAVIGUIDES

[NEW] Grammar: หลักการใช้ Verb to have | have to แปล ว่า – NATAVIGUIDES

have to แปล ว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

Verb to have หนึ่งในกริยาพื้นฐานสำคัญในภาษาอังกฤษ ที่เราจะได้เจอบ่อย ๆ แต่ก็ยังคงมีความสับสนและใช้งานผิด เพราะมีหลายความหมายทำได้หลายหน้าที่ ดังนั้นมาตีซี้กับ Verb to have กันเถอะ

รูปของ Verb to have

Subject/Tenses

Present Tenses

Past Tenses

Continuous Tenses

  I/You/We/They
  และประธานพหูพจน์อื่น ๆ

have

had

having

  He/She/it
  และประธานเอกพจน์อื่น ๆ

has

had

having

** have ในความหมายว่า “มี” เป็น Stative verbs แสดงความเป็นเจ้าของ จะใช้ใน Continuous tenses ไม่ได้ (เติม -ing ไม่ได้) แต่ถ้าในความหมายว่า “กิน” เป็น Dynamic verbs สามารถใช้ในรูป -ing ได้

 

Verb to have นอกจากมีความหมายว่า “มี” แล้ว ยังใช้ในความหมายอื่น ๆ เช่น “กิน” ได้ด้วย อีกทั้งจัดอยู่ในกลุ่ม Primary auxiliary verbs คือ ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งกริยาหลักและกริยาช่วย (เช่นเดียวกับ Verb to be และ Verb to do)

หลักการใช้ Verb to have

1. Verb to have ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (Main Verbs)

Verb to have เมื่อทำหน้าที่เป็นกริยาหลักจะมีความหมายว่า “มี” และ “กิน”
Has ใช้กับ He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น ๆ
Have ใช้กับ I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ
Had เป็นรูปอดีตของ Have/Has ใช้ได้กับประธานทุกตัว

Ex.1 : I have a new job. (ฉันมีงานใหม่)
Ex. 2 : The dog has a black tail. (หมามีหางสีดำ)
Ex.3 : Tom had a big house. (ทอมเคยมีบ้านหลังใหญ่)
Ex. 4 : Mom and I have dinner at 7.00 pm. (แม่และฉันกินมื้อเย็นตอนหนึ่งทุ่ม)

นอกจากนี้ have/has got ก็มีความหมายว่า “มี” เช่นเดียวกัน เพียงแต่ have/has got เป็นการพูดแบบ British English ซึ่งพบในภาษาพูดมากว่าในภาษาเขียน เช่น

I have a new job. = I have got a new job. (ฉันมีงานใหม่)
Tom has a luxury car. = Tom has got a luxury car. (ทอมมีรถหรู)

หลักการทำเป็นประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
     เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถามต้องใช้กริยาช่วย Verb to do เข้ามาช่วย **จำให้แม่น! Verb to have ที่เป็นกริยาหลักห้ามใส่ not หลัง have/has

ประโยคปฏิเสธ

I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ + don’t have…
He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น + doesn’t have…

Ex. 1 : I don’t have any time. (ฉันไม่มีเวลาเลย)
Ex. 2 : My boyfriend doesn’t have a car. (แฟนฉันไม่มีรถ)

ประโยคคำถาม

Yes/No Questions : Do + I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ + have….?
                            Does + He/She/it และประธานเอกพจน์อื่น ๆ + have…?
Wh-Questions : What/When/Where/Who/How + do + I/you/we/they+ have…?
                       What/When/Where/Who/How + does + he/she/it + have…?

Ex. 1 : Do you have any good books for studying English? (คุณมีหนังสือดี ๆ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษบ้างไหม?)
Ex. 2 : Does Nid have any brothers or sisters? (นิดมีพี่ชายน้องชายหรือพี่สาวน้องสาวบ้างไหม?)
Ex. 3 : Where do you usually have lunch? (ปกติคุณทานมื้อกลางวันที่ไหน?)

**ประธานเอกพจน์ เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธใช้ doesn’t และประโยคคำถามใช้ does แล้ว ให้เปลี่ยน has กลับมาเป็น have นั่นเป็นเพราะว่า has คือรูปเติม s ของ have (ตามหลักไวยากรณ์ ใน Present Simple Tense ประธานเอกพจน์ V.1 ต้องเติม s/es เมื่อเป็นประโยคปฏิเสธหรือคำถาม กริยาจะกลับมาอยู่ในรูป V.1 ปกติ)

2. Verb to have ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verbs)

2.1. เป็นกริยาช่วยใน Perfect Tense

โครงสร้างประโยค Present Perfect Tense : Subject + have/has/had + V.3…
โครงสร้างประโยค Past Perfect Tense : Subject + had + V.3…
โครงสร้างประโยค Future Perfect Tense : Subject + will have + V.3…

Ex. 1 : I have worked hard this week. (สัปดาห์นี้ฉันทำงานหนัก)
Ex. 2 : She has been a teacher for over 20 years. (เธอเป็นครูมากว่า 20 ปี)
Ex. 3 : Tom had read the book before he watched a film. (ทอมอ่านหนังสือก่อนที่เขาดูหนัง)
Ex. 4 : We will have gone when you arrive. (พวกเราคงจะไปแล้วเมื่อคุณมาถึง)

เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธสามารถใส่ not ตามหลัง Verb to have ได้เลย (have not = haven’t, has not = hasn’t, had not = hadn’t) ส่วน Future Perfect Tense เปลี่ยน will have เป็น won’t have

Ex. 1 : We haven’t seen Tom. (พวกเราไม่เห็นทอม)
Ex. 2 :  She won’t have spoken to Mark. (เธอคงจะไม่พูดกับมาร์ก)

เมื่อทำเป็นประโยคคำถาม Yes/No Questions นำ Verb to have มาขึ้นต้นประโยค

Ex. 1 : Have you washed your face today? (วันนี้คุณได้ล้างหน้าหรือเปล่า?)
Ex. 2 : Has he met the manager? (เขาได้พบผู้จัดการหรือเปล่า?)

2.2. ใช้ have/has/had to ในความหมายว่า ต้อง

โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had to + V.1….

Ex. 1 : Nida has to do it by herself. (นิดาต้องทำมันด้วยตัวเอง)
Ex. 2 : I have to get up early. (ฉันต้องตื่นแต่เช้า)

2.3. ใช้ในประโยคที่แสดงถึงการกระทำที่ไม่ได้กระทำด้วยตัวเอง (Causative form) มี 2 ประเภท คือ

1. Have someone do something ให้ใครเป็นคนทำบางอย่างให้ผู้พูด
    โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had + ผู้กระทำ + V.1

Ex. 1 : I have my son wash my car. (ฉันให้ลูกชายล้างรถของฉัน)
Ex. 2 : Tom has his wife cook every day. (ทอมให้ภรรยาของเขาทำอาหารทุกวัน)
Ex. 3 : They will have the painter paint their house. (พวกเขาจะให้ช่างทาสีมาทาสีบ้านของพวกเขา)

2. Have something done ให้ใครทำบางอย่างโดยไม่ได้พูดถึงตัวผู้กระทำ
    โครงสร้างประโยค : Subject + have/has/had + สิ่งที่ถูกกระทำ + V.3

Ex. 1 : I have my hair cut every three months. (ฉันตัดผมทุกสามเดือน: คนอื่นหรือช่างตัดผมเป็นคนตัด)
Ex. 2 : He had his watch fixed. (เขาเอานาฬิกาไปซ่อมมา : คนอื่นหรือช่างเป็นคนซ่อม)

2.4. สำนวนที่ใช้ Verb to have ตามด้วย a + verb จะทำให้กริยานั้นกลายเป็นคำนาม และแปลความหมายตามคำกริยาที่ตามหลัง

Ex. 1 : I want to have a rest. (ฉันต้องการพักผ่อน)
Ex. 2 : He has a walk along the streets to kill time. (เขาเดินไปตามท้องถนนเพื่อฆ่าเวลา)

นอกจากยังมีสำนวนที่ใช้ Verb to have อีกมากมายและเราคุ้นเคยกันดีอย่าง have a good time. แปลว่า สนุก, have a nice day. ขอให้เป็นวันที่ดี, have one’s own way. แปลว่า เอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งเราจะนำมาแนะนำกันในครั้งต่อ ๆ ไป หลังจากนี้ขอให้สนุกกับการใช้ Verb to have นะคะ

 

 

[NEW] Grammar: หลักการใช้ Must – Have to และ Mustn’t – Don’t have to | have to แปล ว่า – NATAVIGUIDES

Must กับ Have to เรื่อง “ต้อง…” ที่สงสัยว่า Must ต้องแบบไหน Have to ต้องอย่างไร แล้วถ้าไม่ต้องอย่าง Mustn’t กับ Don’t have to ล่ะ ใช้ต่างกันอย่างไร มาไขข้อสงสัยกับ หลักการใช้ Must – Have to และ Mustn’t – Don’t have to 

must 

must ใช้ในกรณีที่เราคิดเองว่าต้องทำ โครงสร้างคือ must + verb infinitive (กริยาช่อง1) เช่น

I must go to the hospital. 
(ฉันต้องไปโรงพยาบาล : เป็นความคิดของเราเองที่ว่าต้องไป เพราะอาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายเลยต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล)

I must stop smoking.
(ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่ : ตัวเราต้องการเลิกเอง) 

I must finish this work today.
(ฉันต้องทำงานนี้ให้เสร็จวันนี้ : ตัวเราคิดเองว่าจะทำให้เสร็จวันนี้) 

I must go to supermarket today. Because cosmetic sale finishes today.
(ฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตวันนี้ เพราะเครื่องสำอางลดราคาวันนี้วันสุดท้ายแล้ว) 

That movie is very funny! You must watch it!
(หนังเรื่องนั้นสนุกมาก คุณต้องดูมันนะ) 

have to

have to ใช้ในกรณีที่สถานการณ์เป็นตัวบังคับให้เราจำเป็นต้องทำ ซึ่งเราอาจจะไม่อยากทำ อาจเป็นกฎหรือข้อบังคับให้ทำ โครงสร้างคือ have to + verb infinitive (กริยาช่อง1) เช่น

I have to stop smoking.
(ฉันจำเป็นต้องเลิกสูบบุหรี่ : หมออาจจะสั่งให้เลิกสูบ)

I have to go to supermarket today. Because my mom asked me to buy something.
(ฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตวันนี้ เพราะแม่บอกให้ซื้อของบางอย่าง) 

Doctors sometimes have to work on Sunday.
(บางครั้งบรรดาคุณหมอก็ต้องทำงานวันอาทิตย์ : เป็นกฎในอาชีพที่ต้องทำ) 

She has to go to the hospital.
(เธอต้องไปโรงพยาบาล)

ข้อสังเกต : ประธาน I, You, We, They และประธานพหูพจน์อื่น ๆ ใช้ have to
               ประธาน He, She, It และประธานเอกพจน์อื่น ๆ ใช้ has to
               รูปอดีตใช้ had to

สรุปความแตกต่างของ Must กับ Have to

Must

Have to

     1. ใช้ในกรณีที่เป็นความต้องการของเราเอง

     1. ใช้ในกรณีที่เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำ อาจเป็นกฎหรือข้อบังคับ

     2. โครงสร้าง must + verb infinitive (V.1)

     2. โครงสร้าง have to + verb infinitive (V.1)

     I must go to supermarket today. Because cosmetic sale finishes today.
     (ฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตวันนี้ เพราะเครื่องสำอางลดราคาวันนี้วันสุดท้ายแล้ว)

     I have to go to supermarket today. Because my mom asked me to buy something.
     (ฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตวันนี้ เพราะแม่บอกให้ซื้อของบางอย่าง)

     I must stop smoking.
     (ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่ : ตัวเราต้องการเลิกเอง)

     I have to stop smoking.
     (ฉันจำเป็นต้องเลิกสูบบุหรี่ : หมออาจจะสั่งให้เลิกสูบ)

     I must buy a new mobile phone.
     (ฉันต้องซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ : ต้องการซื้อเอง)

     I have to buy a new mobile phone.
     (ฉันจำเป็นต้องซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ : อาจมีเหตุจำเป็นหรือมีใครแนะนำให้ซื้อ

ในรูปประโยคบอกเล่าและคำถาม must กับ have to มีความคล้ายกัน แต่เมื่อเป็นประโยคปฏิเสธจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

mustn’t (must not)

mustn’t หมายถึง “ต้องไม่…”  ซึ่งเป็นกฎหรือข้อบังคับว่า “ห้ามทำ” โครงสร้างคือ mustn’t + verb infinitive (V.1) เช่น 

You mustn’t drink if you’re going to drive.
(คุณต้องไม่ดื่มเหล้าถ้าคุณจะขับรถ : เพราะผิดกฎหมาย)

You mustn’t take photos here.
(คุณต้องไม่ถ่ายรูปที่นี่ : เพราะเป็นกฎห้ามถ่าย) 

You mustn’t cross the road when there is a red light.
(คุณต้องไม่ข้ามถนนเมื่อมีสัญญาณไฟแดง)

In football you mustn’t touch the ball with your hands.
(ในกีฬาฟุตบอลคุณต้องไม่ให้มือของคุณสัมผัสโดนลูกบอล : เพราะเป็นกฎของกีฬาฟุตบอล) 

don’t have to/doesn’t have to

don’t have to/doesn’t have to หมายถึง “ไม่จำเป็นต้อง…” นั่นคือจะทำหรือไม่ทำก็ได้ โครงสร้างคือ don’t have to/doesn’t have to + verb infinitive (V.1) เช่น  

He doesn’t have to wear a suit to work but he usually does.
(เขาไม่จำเป็นต้องใส่สูทไปทำงานก็ได้ แต่เขาก็ใส่ไปเป็นปกติ)

I don’t have to clean my room every day.
(ฉันไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดห้องทุกวัน) 

Teachers don’t have to work on Sunday.
(บรรดาคุณครูไม่จำเป็นต้องทำงานวันอาทิตย์) 

You don’t have to hurry, but you mustn’t be late.
(คุณไม่จำเป็นต้องรีบก็ได้ แต่คุณห้ามสายนะ) 

 


💡ฝึกแบบนี้แต่แรก ป่านนี้พูดคล่องไปแล้ว🇬🇧


สาธิตเรียนแต่งประโยคเทคนิคครูส้ม
พื้นฐานน้อยมาก อยากพูดเป็น ฝึกที่นี่ !
____________
➟ 🇬🇧 คอร์สภาษาอังกฤษ 🇬🇧 www.englishfitandfirm.net
➟ ตัวอย่างสไตล์การสอนครูส้ม
https://www.youtube.com/watch?v=bwu778BTcMw\u0026list=PLQDByO7h40Pr3mGPhfHzruLF2zQdmII5\u0026ab_channel=EnglishFitandFirm
➟ คลิปบทเรียนสั้นๆสไตล์ครูส้ม
⟿ ✨Facebook:
https://www.facebook.com/EnglishFitandFirm/
⟿ ✨IG:
https://www.instagram.com/eng_som_o/?hl=en
⟿ ✨YouTube:
https://www.youtube.com/channel/UCKoHHFMpTvk84IdG3GoNnfQ

ฝึกแต่งประโยค คิดภาษาอังกฤษ เรียนเพื่อสื่อสาร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

💡ฝึกแบบนี้แต่แรก ป่านนี้พูดคล่องไปแล้ว🇬🇧

have got กับ have แปลว่า ‘มี’ เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔


have got กับ have แปลว่า ‘มี’ เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔
📌ใครดูจบอย่าลืมตอบคำถามท้ายคลิปกัน เดี๋ยวฝ้ายจะตรวจให้นะคะ ❤

ติดตามฝ้ายทาง Youtube ได้ที่: http://bit.ly/2S6QBJu
อย่างลืมกด subscribe กันไว้ด้วยนะคะ 💕
Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish

have got กับ have แปลว่า 'มี' เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔

Has Have Had ใช้ยังไง | Tina Academy Ep.22


Has Have Had ใช้ยังไง บางทีมันก็ไม่ได้แปลว่ามีนะจ้ะ
Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchanel
Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
กล้องที่ใช้: https://goo.gl/xxAi9H
ไฟที่ใช้: https://goo.gl/SFguUQ

Has Have Had ใช้ยังไง | Tina Academy Ep.22

Need, Want, Must, Have To, กับ Gotta ใช้ต่างกันอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

Need, Want, Must, Have To, กับ Gotta ใช้ต่างกันอย่างไร

Have the Runs ไม่ใช่แปลว่า ต้องวิ่ง !! แปลว่า ท้องเดิน ต่างหาก !!


สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ https://lin.ee/uVp0whL (@ajarnadam) หรือโทร 02 612 9300
รายละเอียดคอร์ส https://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
ภาษาอังกฤษ อาจารย์อดัม AjarnAdam

Have the Runs ไม่ใช่แปลว่า ต้องวิ่ง !! แปลว่า ท้องเดิน ต่างหาก !!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ have to แปล ว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *