though ท้ายประโยค: คุณกำลังดูกระทู้
การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกระบวนวิชา
ENG
1002
ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Choose the correct answer,
Table of Contents
Advertisement
Part I Structure
1. At present, my dad ______ happy with his life.
Advertisement
(1) seems (2) seemed (3) will seem (4) has seemed
ตอบ 1 หน้า 39 – 40 กริยาต่อไปนี้ไม่สามารถใช้ในรูปของ Present Continuous Tense (s. + is/am/are + v.ing) แต่จะนิยมใช้ในรูปของ Present Simple Tense (s + V.1 ผันตาม s.) ได้แก่
Advertisement
agree
concern
forget
observe
realize
smell
appreciate
consist
hear
owe
recall
sound
assume
contain
hold
own
recognize
taste
believe
expect
matter
perceive
see
think
belong
feel
notice
possess
seem
understand
หน้า 2 – 3 : การใช้ V.1 ผันตาม s.
Advertisement
– เมื่อ s. คือ he, she, it, n. เอกพจน์ V.1 ต้องเติม “s/es”
– เมื่อ s. คือ I, they, you, we, n. พหูพจน์ V.1 ไม่ต้องเติม “s/es”
Advertisement
หมายเหตุ “dad” เป็นคำนาม (n.) เอกพจน์ V.1 จึงต้องเติม “s”
2. Tomorrow you______to see me, can you ?
(1) came (2) come (3) had come (4) is coming
ตอบ 2 หน้า 9 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) แสดงเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ และค่อนข้างแน่นอน หรือตารางเวลาที่วางไว้ล่วงหน้า เช่น ตารางเวลาการเดินทาง โดยมักมีคำ หรือวลีบอกเวลา เช่น in a second/minute, in two days, tonight, tomorrow
3. Frank_______here since he was born.
(1) has been (2) will be (3) is (4) was
ตอบ 1 หน้า 68 ใช้ Present Perfect Tense (s. + has/have + V.3) กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ได้แสดงเจตนาแน่นอนว่าจะดำเนินต่อไป ในอนาคตหรือไม่ โดยมักมีคำแสดงเวลา เช่น since + วันเวลา/อนุประโยค (ตั้งแต่), for + ระยะเวลา (เป็นเวลา), so far (เรื่อยมาจนถึงบัดนี้), yet (ยัง), How long… (นานแค่ไหน)
4. My niece is not a singer, but she wishes she_______.
(1) is (2) were (3) had been (4) has been
ตอบ 2 หน้า 147 การใช้ wish แสดงความปรารถนาในประโยคสมมุติ มีโครงสร้างดังนี้
1. ตั้งความปรารถนาในปัจจุบัน ในสิ่งซึ่งตรงกันข้ามกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน หรือ ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงตามปกติวิสัยหรือโดยธรรมซาติ
s. + wish (es) 4 (that) + s, + V.2 (ถ้าเป็น V. to be ให้ใช้ were กับ s. ทุกตัว)
2. ตั้งความปรารถนาในปัจจุบันในสิงซึ่งตรงกันข้ามหรือแทบเป็นไปไม่ได้ในอนาคต
s. + wish (es) + s. + would/could/should/might + V.1 (ไม่ผัน)
3. ตั้งความปรารถนาในปัจจุบัน ในสิ่งซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต
s. + wish (es) + (that) + s. + had + V.3
4. ตั้งความปรารถนาในอดีต ในสิ่งซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต
s. + wished + (that) + s. + had -t V.3 หรือ would/could/should/might + have + V.3
5. The department head requires that students_____the basic course.
(1) took (2) had taken (3) take (4) will take
ตอบ 3 หน้า 148 – 149 ประโยคหลักที่มี V. พิเศษ (advise, ask, beg, demand, desire, insist, ordain, order, prefer, recommend, request, require, suggest, urge) V. ในประโยคย่อย จะต้องอยู่ในรูปของ V1 (ไม่ผัน)” ซึ่งอาจจะมีกริยา‘ช่วย “should / could / might” ด้วยก็ได้
s. + V. พิเศษ + (that) + s. + (should / could / might) + V.1 (ไม่ผัน)
6. My friend got ______in the train accident last week.
(1) hurts (2) hurting (3) hurt (4) to hurt
ตอบ 3 หน้า 163 โครงสร้างต่อไปนี้เป็นรูปแบบหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในประเภท Passive เพราะประธาน ของประโยคเป็นผู้ที่ได้รับผลของการกระทำ
s. + get/got + V.2
หมายเหตุ hurt (v.1) —» hurt (v.2) —» hurt (v.3)
7. I think it would be a good idea if you_____back tomorrow.
(1) will come (2) come (3) have come (4) came
ตอบ 4 หน้า 148 การใช้โครงสร้าง Subjunctive ที่เป็นคำ วลี และประโยคต่อไปนี้จะทำให้ V. ในประโยคย่อยเป็น Past Simple (v.2) เสมอ
If only… (ถ้า…ละก็)
It is (high/about) time (that)… (ถึงเวลาแล้วที่ …)
s. + would (’a) rather… (…อยากจะ …)
s. + think it would be a good idea if … (…คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีถ้า …)
+ )v2 (ถ้าเป็น v. to be ใช้ “were” กับ s. ทุกตัว)
หมายเหตุ come (v.1) -» came (v.2) -» come (v.3)
8. That woman acts as if she _____the manager.
(1) was (2) have been (3) had been (4) were
ตอบ 4 หน้า 147 – 148 การใช้กริยาในประโยคที่มีโครงสร้าง “as if / as though (ราวกับว่า)”
ความหมาย
ประโยคหลัก
ประโยคย่อย
ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน ไม่เป็นจริงในอดีต
s. + v.1 (ผันตาม s.)
s. + v2 (*)
as if/ as though
+ s. +
V2.
(*)
+ s. + had_ + v.3
ถ้า V.2 เป็น V. to be จะใช้ were กับประธานทุกตัว)
9. _______did you buy that ring ?
(1) Who (2) Where (3) What (4) Whose
ตอบ 2 หน้า 172 – 173 ใช้ Where ขึ้นต้นประโยคคำถามประเภท wh–question ทำหน้าที่ ขยายกริยาของประโยค แปลว่า ที่ไหน
10. This house______by my father.
(1) owns (2) is owning (3) is owned (4) will own
ตอบ 3 หน้า 160 ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบ Passive Construction ในรูปของ Present Simple Tense (is/am/are + V.3) เพื่อให้ความหมายว่า ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
หมายเหตุ own (v. 1) owned (v.2) owned (v.3)
11. Bill _____ just a new book.
(1) will; read (2) is; reading (3) has; read (4) had; read
ตอบ 3 หน้า 69 Present Perfect Tense (s. + has/have + v.3)ใช้แสคงเหตุการณ์หรือการกระทำ” ที่เพิ่งสิ้นสุดลง และยังคงเห็นผลของการกระทำต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน‘ โดยมักจะมีคำกริยาวิเศษณ์ (adv.) บอกเวลา เช่น already, just, lately, recently
หมายเหตุ read (v.1) -» read (v.2) -» read (v.3)
12. My parents always _____ a walk in the evening.
(1) take (2) took (3) will take (4) are taking
ตอบ 1 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.l ผันตาม s.) แสดงเหตุการณ์หรือการกระพา ที่เป็นปกติวิสัยหรือการกระทำสม่ำเสมอ ซึ่งมักมีคำกริยาวิเศษณ์ (adv.) ต่อไปนี้อยู่ในประโยค เช่น usually, often, always, frequently, normally, sometimes, every/on + วัน/เวลา, twice/once + a + เวลา
13. If only the dog _____her.
(1) bites (2) bit (3) had bitten (4) would bite
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 7.
หมายเหตุ bite (v.1) -> bit (v.2) -» bitten, bit (v.3)
14. I guess she______here soon.
(1) will be (2) was (3) is (4) has been
ตอบ 1 หน้า 104 ใช้ Future Simple Tense (s. + will /shall /be going to + v.1 (ไม่ผัน)) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจมีคำกริยาวิเศษณ์ (adv.) บอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next month/year, tonight, in a few minutes/half an hour, this afternoon, later
15. It’s about time she ______complaining.
(1) had stopped (2) stops (3) must stop (4) stopped
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 7.
หมายเหตุ stop (v.1) —> stopped (v.2) —> stopped (v.3)
16. Bill______his job for over three years.
(1) does (2) did (3) will do (4) has done
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 3.
หมายเหตุ do (v.1) did (v.2) done (v.3)
17. Phuket_____a famous tourist city in Thailand for a long time.
(1) has been (2) will be (3) was (4) is
ตอบ. 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 3.
18. _____ were you doing at 9 o’clock last night ?
(1) Which (2) When (3) Who (4) What
ตอบ 4 หน้า 172 ใช้ What ขึ้นต้นประโยคคำถามประเภท Wh-question ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค และเป็นกรรมของประโยค แปลว่า อะไร
19._______ children have to obey their parents ?
(1) May (2) Do (3) Ought (4) Must
ตอบ 2 หน้า 172 – 174 คำถามประเภท Yes-No Question คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วยV. to be (is/are/was/were) หรือกริยาช่วยอื่น (do/does/did) โตยให้ย้าย V. to be หรือกริยาช่วยไปวางไว้หน้าประธาน ซึ่งคำตอบจะเป็นในลักษณะใช่ (Yes) หรือไม่ใช่ (No) เท่านั้นโดยถ้าถามด้วยกริยาช่วยคำไหนก็ให้ตอบด้วยคำนั้น
20. He swims as if he______a fish.
(1) is (2) be (3) were (4) being
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 8.
21. She is right,______?
(1) is she (2) isn’t she (3) is her (4) isn’t her
ตอบ 2 หน้า 175, (คำบรรยาย) ในประโยคคำถามเสริม (Question-tags) ถ้าข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ส่วนต่อท้ายต้องเป็นกริยาช่วยปฏิเสธแบบรูปย่อ (Negative Tag) ซึ่งคั่นด้วยเครื่องหมาย comma (,) แต่ถ้าข้างหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ส่วนต่อท้ายต้องเป็นบอกเล่า(Positive Tag) และใช้สรรพนามรูปประธานเท่านั้น
22. He______since morning, but she didn’t come.
(1) had been waiting (2) was waiting
(3) waited (4) waits
ตอบ 1 หน้า 89 ใช้ Past Perfect Continuous Tense (s. + had + been + v.ing) เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน โดยไม่ขาดตอน ณ ช่วงเวลาหนึ่งในอดีต
23. The train______in a minute.
(1) came (2) comes (3) would come (4) has come
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 2.
หมายเหตุ “The train” เป็นคำนามเอกพจน์ V.1 จึงต้องเติม “s.”
24.Here ______the ugly cat!
(1) is
(2) was
(3) will be
(4) has been
ตอบ 1 หน้า 7 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) ในประโยคอุทาน
(Exclamations) ซึ่งจะมีโครงสร้าง “Here/There
หน้า 3 การใช้ V.1 ที่เป็น V. to be (ผันตาม s.)
– ถ้า s. เป็น he, she, it และ n. เอกพจน์ —-► V. to be’
– ถ้า s. เป็น I -» V. to be ใช้ “am”
– ถ้า s. เป็น you, we, they และ n. พหูพจน์ –> V. to be ใช้ “are”
หมายเหตุ ะ s. ของประโยค คือ “the ugly cat” ซึ่งเป็นคำนามเอกพจน์ V. to be จึงใช้ “is”
25. The water______for over three hours because I forgot to turn off the valve.
(1) has been flowing (2) had been Rowing
(3) Rowed (4) Rows
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 22.
26. Since 1 p.m., the boy_______.
(1) had been crying (2) has been crying (3) cried (4) cries
ตอบ 2 หน้า 72 ใช้ Present Perfect Continuous Tense (s. + has/have + been + v.ing) เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและค่อนข้างแน่นอนว่าจะดำเนิน ต่อไปในอนาคต โดยมักมีคำบอกเวลา “for / since / all + เวลา ‘ How long…”
27. Sri _______at the Faculty of Law since 2009.
(1) studies (2) studied (3) will study (4) has been studying
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 26.
28. Every time it_______, my dog likes to play in the ram.
(1) will rain (2) was raining (3) rains (4) rained
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 12.
29. Nowadays, a heart transplant ______quite common to US.
(1) is (2) was (3) will be (4) has been
ตอบ 1 หน้า 7 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) แสดงความเป็นจริงหรือข้อเท็จจริง สิ่งที่เป็นขนบธรรมเนียมและประเพณี รวมทั้งเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นจริง ในปัจจุบัน ซึ่งมักจะมีคำบอกเวลาปัจจุบัน เช่น today, now, nowadays (ปัจจุบันนี้ /ทุกวันนี้)
30. If I retire, what_____I______?
(1) would; do (2) have; done
(3) will; do (4) had; done
ตอบ 3
31. God______our nation.
(1) blesses (2) had blessed (3) will bless (4) bless
ตอบ 4 หน้า 149 เมื่อ God/Lord เป็นประธานของประโยคที่มีที่มาจากคำกล่าวของพระในพิธีกรรมในโบสถ์ หรือใช้ในการให้พร ขอพร หรือขอสิ่งดีงามให้เกิดแก่บุคคลที่เราปรารถนาดี กริยาของประโยคจะเป็น “V.1 (ไม่ผัน)”
32. Somebody informed me that Peter_____already home.
(1) has; gone (2) had; gone (3) will; go (4) goes; blank
ตอบ 2 หน้า 86 ใช้ Past Perfect Tense (s + had + v.3) ในประโยค Reported speechเพื่อแสดงว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก่อนเวลาที่พูดหรือรายงาน
33. Jane had her apartment _______
(1) renovated (2) renovating
(3) being renovated (4) renovates
ตอบ 1 หน้า 163, (คำบรรยาย) โครงสร้างต่อไปนี้เป็นรูปแบบหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในประเภท Passiveเพราะประธานของประโยคเป็นผู้ที่ได้รับผลของการกระทำ
s+ have/has/had + (something) + V.3
หมายเหตุ renovate (v.1) —> renovated (v.2) —> renovated (v.3)
34. My son______accompany me if I ask him.
(1) will (2) have (3) was (4) had
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกันข้อ 30.
35. That woman behaves as if she_______a child.
(1) were (2) is (3) has been (4) had been
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 8.
36. It is raining heavily; we’d rather_______.
(1) not going out (2) not go out
(3) to not go out (4) not to go out
ตอบ 2 (คำบรรยาย) ใช้ would rather (’d rather) + v.1 (ไม่ผัน) แสดงถึงความชอบมากกว่า หรืออยากมากกว่า โดยเมื่อทำเป็นปฏิเสธให้เติม not หน้า V.1 (ไม่ผัน) ——> would rather (’d rather) + not + v.1 (ไม่.ผัน)
37. Two years ago, I______Chinese.
(1) will study (2) would study (3) have studied (4) studied
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense (s. + V.2) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความจริงหรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดลงแล้ว โดยมักมีคำบอกเวลา เช่น yesterday, once, ago, in + ค.ศ., Last night /week /month /year หรืออนุประโยคที่แสดงถึงเวลาในอดีต หมายเหตุ study (v.1) —> studied (v.2) —» studied (v.3)
38. What____you______last night ?
(1) do; do (2) did; do (3) will; do (4) have; done
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37.
หน้า 172 – 173, (คำบรรยาย) ในประโยคคำถามทั่ว ๆ ไปที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-questions เช่น What, When หากอยู่ในรูป Past Simple Tense ให้ตามด้วย “did” แล้วเปลี่ยน V. แท้ เป็น V. 1 (ไม่ผัน)
39. The match______because of the storm.
(1) has cancelled (2) was cancelled
(3) cancelled (4) be cancelled
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37.
หน้า 160 ประโยคนี้ใช้โครงสร้างแบบ Passive Construction ในรูปของ Past Simple Tense (was/were + v.3) เพื่อให้ความหมายว่า ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ หมายเหตุ cancel (v.1) -> cancelled (v.2) —> cancelled (v.3)
40. Jane _____her kitchen before she left.
(1) has cleaned (2) had cleaned (3) will clean (4) is cleaning
ตอบ 2 หน้า 85 – 86 ใช้ Past Perfect Tense (s. + had + v.3) คู่กับ Past Simple Tense (s. + v.2) เพื่อแสดงถึงลำดับก่อนหลังของ 2เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นก่อน จะใช้ Past Perfect Tense ส่วนเหตุการณ์หรือ การกระทำที่เกิดขึ้นทีหลังจะใช้ Past Simple Tense โดย 2 เหตุการณ์มักจะมีคำเชื่อม บอกเวลาด้วย เช่น before, after, as soon as, until หมายเหตุ clean (v.1) -> cleaned (v.2) -> cleaned (v.3)
leave (v.1) -» left (v.2) —> left (v.3)
41. She left her phone number because no one __ her ring yet.
(1) had found (2) will find (3) has found (4) find
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 40.
หมายเหตุ find (v.1) -> found (v.2) -» found (v.3)
42. There______a snow storm tomorrow.
(1) will be (2) were (3) are (4) be
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 14.
43. Did you have your car ______ ?
(1) fixing (2) fixed (3) be fixed (4) fix
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 33.
หมายเหตุ fix (v.1) -> fixed (v.2) –> fixed (v.3)
44._______that boy my son, I ______ sorry for him.
(1) Were; would be (2) If; will be
(3) Unless; will be (4) Had; would be
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 30.
หน้า 131 – 132 ในประโยคแสดงเงื่อนไขแบบที่ 3 สามารถละ “If” ได้โดยการใช้
“were (เป็น/อยู่/คือ)” หรือ “were to (จำเป็นต้อง)” ขึ้นต้นประโยค แล้วตัด “If” ออก
Were / Were to + s. , s. + would/could/should/might + V 1 (ไม่ผัน)
45. It is_______the meeting was postponed.
(1) saying (2) to be said (3) to say (4) said
ตอบ 4 หน้า 162 ใช้ V. พิเศษต่อไปนี้ในโครงสร้างประโยคแบบ Passive Construction(v. to be + v.3) เพื่อใช้ในการรายงาน ได้แก่ suppose, assume, consider, claim,think, believe, say, report, know, expect, allege, understand ฯลฯ
It + V. to be + V. พิเศษ (v.3) + that (clause)
หมายเหตุ say (v.1) —-> said (v.2) —-» said (v.3)
46. Did you get your ticket________?
(1)changes (2) changing (3) changed (4) to change
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 6.
หมายเหตุ change (v.1) -» changed (v.2) —> changed (v.3)
47. He____the guitar while I_____the piano.
(1) was playing; play
(2) is playing; was playing
(3) was playing; am playing
(4) was playing; was playing
ตอบ 4 หน้า 54 ใช้ Past Continuous Tense (s + was/were + v.ing) เพื่อเน้นว่าเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในอดีตกำลังเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน
หน้า 52 การใช้ V.2 ที่เป็น V. to be (ผันตาม s.)
– ถ้า s. เป็น I, he, she, it และ n. เอกพจน์ –» V. to be ใช้ “was”
– ถ้า s. เป็น you, we, they และ n. พหูพจน์ –> V. to be ใช้ ‘ were”
48. A big storm_____in a few minutes.
(1) come
(2) came
(3) is coming
(4) has come
ตอบ 3 หน้า 38- 39 ใช้ Present Continuous Tense (s, + is/am/are + v.ing) แสดงเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้และค่อนข้างแน่นอน โดยมักมีคำบอกเวลาแสดงอนาคต เช่น tomorrow, soon, tonight, on Friday, in a few minutes, next week
49. Silver_____not as valuable as gold.
(1) has been (2) will be (3) was (4) is
ตอบ 4 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) กับข้อความที่เป็นจริง ตามธรรมชาติหรือโดยทั่ว ๆ ไป รวมถึงข้อความที่เป็นสุภาษิตและคำพังเพย
หมายเหตุ “Silver” เป็นคำนามเอกพจน์นับไม่ได้ V. to be จึงใช้ “is”
50. Prevention _____ better than cure.
(1) was (2) is (3) will be (4) has been
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 49.
หมายเหตุ “Prevention” เป็นคำนามเอกพจน์นับไม่ได้ V. to tie จึงใช้ “is”
51. If he sold his old car, he______a new one.
(1) bought (2) had bought
(3) would buy (4) have bought
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 30.
52. Yesterday I______a large sum of money.
(1) had been given (2) would be given (3) was given (4) be given
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37. และ 39.
หมายเหตุ give (v.1) —» gave (v.2) —> given (v.3)
53. My boss said the letter______by this evening.
(1) has sent (2) must be sent (3) was being sent (4) should send
ตอบ 2 หน้า 158 – 159 ใช้โครงสร้าง Passive Construction (v. to be + v.3) เพื่อให้ ความหมายว่า ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
หน้า 161 สามารถใช้กริยาช่วยต่าง ๆในประโยค Passive ได้ ใดยวางกริยาช่วยไว้หน้า V. to be โดย V. to be ไม่ต้องผันตามประธาน
should /ought to /must /has to /may /can + be f V.3
หมายเหตุ send (v.1) —» sent (v.2) —> sent (v.3)
54. When my son comes home, he_____surprised.
(1) would (2) going to (3) will (4) will be
ตอบ 4 หน้า 7-8 ใช้ Future Simple Tense (s. + will/shall + v.1 ไม่ผัน)ในประโยคหลัก คู่กับ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) ขึ้งเป็นประโยคย่อยเกิดเป็นเงื่อนไข ซึ่งกันและกัน โดยประโยคย่อยนี้มักจะขึ้นต้นด้วย when, whenever, as soon as, before, till, until, if, unless, every time
55. james_____the story about the accident because it happened a long time ago.
(1) didn’t remember (2) doesn’t remember
(3) won’t remember (4) hasn’t remembered
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37.
หมายเหตุ เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธ ให้เติม did not (didn’t) หน้า V. ทั่ว ๆ ไป แล้วเปลี่ยน V. นั้น ให้เป็นรูปของ V. 1 (ไม่ผัน) –» did not (didn’t) + V.1 (ไม่ผัน)
56.______the truth, she would not have been glad.
(1) If she knew (2) Had she known
(3) Have she known (4) If she has know
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 30.
หน้า 131 นประโยคแสดงเงื่อนไขแบบที่ 4 สามารถละ “If” ได้โดยการใช้ “had”
ขึ้นต้นประโยค แล้วตัด “If” ออก
Had + s. + v.3, s. + would/could/should/might +. Have+v3
หมายเหตุ know (v.1) —» knew (v.2) —> known (v.3)
57. When I went to England. I _____ Tom.
(1) met (2) meet (3) have met (4) will meet
ตอบ 1 หน้า 54 ใช้ Past Simple Tense (s. + V.2) เพื่อแสดงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อเนืองกัน ซึ่งจะใช้ Past Simple Tense ทั้งคู่ โดยอาจจะมีคำเชื่อมบอกเวลาอยู่ด้วย เช่น as soon as, as, when
หมายเหตุ go (v.1) —> went (v.2) —> gone (v.3)
meet (v.) -» met (v.2) –> met (v.3)
58. Usually children______ protecting.
(1) have needed (2) will need (3) needed (4) need
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 49.
หมายเหตุ “children” เป็นคำนามพหูพจน์ V.1 จึงไม่ต้องเติม s
59. Henry_____Bangkok when he visited it last year.
(1) likes ตอบ 3 (2) will like (3) didn’t like (4) hadn’t liked
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวข้อ 37. และ 55.
60. He said that he ______it on purpose.
(1) does (2) did (3) will do (4) has done
ตอบ 2 หน้า 187. (คำบรรยาย) ใช้ “said/told/thought/asked” ในประโยคหลักคู่กับประโยค ย่อยที่เป็น Past Simple Tense (s. + V.2) แสดงถึงการบอกกล่าว (หรือถาม) ว่าเหตุการณ์หนึ่ง (ในประโยคย่อย) เกิดขึ้นจริงหรือเป็นข้อเท็จจริงในอดีตขณะที่พูดหรือรายงาน
61. She told me that she _____her motorcycle.
(1) sold (2) will sell (3) has sold (4) had sold
ตอบ 4 หน้า 86, (คำบรรยาย) ใช้ “ said/told/thought/asked ” ในประโยคหลักคู่กับประโยค ย่อยที่เป็น Past Perfect Tense (s. + had + V.3) แสดงถึงการบอกกล่าว (หรือถาม)ว่าเหตุการณ์หนึ่ง (ในประโยคย่อย) ได้เกิดขึ้นแล้วในอดีตก่อนที่พูดหรือรายงาน
หมายเหตุ sell (v.1) -> sold (v.2) —> sold (v.3)
62. A few minutes ago he_______the courage to do that.
(1) didn’t have (2) doesn’t have (3) hasn’t had (4) won’t have
ตอบ 1 คำอธิบายเช่นเดียวข้อ 37. และ 55.
63. I ______here for 35 years by next year.
(1) would live (2) will live
(3) live (4) will have been living
ตอบ 4 หน้า 112 ใช้ Future Perfect Continuous Tense (s. + will/shall + have been + v.ing) ในการเน้นความต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดเว้นระยะเวลาของเหตุการณ์หรือการกระทำว่าเมื่อถึงอนาคตที่ระบุไว้ เหตุการณ์หรือการกระทำนั้นได้ทำมาเป็นระยะเวลานานเท่าไร โดยมักจะมีคำ บอกเวลาที่ขึ้นด้นด้วย “by…” และมี “for + ระยะเวลา” เพื่อแสดงความต่อเนื่องของ เหตุการณ์หรือการกระทำนั้น
64.______did you come back ?
(1) What (2) Who (3) Why (4) Which
ตอบ 3 หน้า 173 ใช้ Why ขึ้นต้นประโยคคำถามประเภท Wh-question ทำหน้าที่เป็นกรรมของ ประโยค แปลว่า ทำไม
65. In a few minutes the game_______.
(1) start (2) has started (3) will be started (4) will start
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 14.
66. Yesterday we______Suda driving a new TOYOTA car.
(1) see (2) saw (3) will see (4) had seen
ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37.
หมายเหตุ see (v.1) —> saw (v.2) –> seen (v.3)
67. Last week we______to a beach.
(1) had been (2) will go (3) went (4) go
ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 37.
หมายเหตุ go (v.1) -> went (v.2) –> gone (v.3)
68. Everyday as I_____TV, my husband____his e-mail.
(1) am watching; checked (2) watched; is checking
(3) was watching; checks (4) am watching; checks
ตอบ 4 หน้า 39 ใช้ Present Continuous Tense (s. + is/am/are + v.ing) คู่กับ Present Simple Tense (s. + v.1 ผันตาม s.) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของ 2 เหตุการณ์ทีเกิดขึ้น คาบเกี่ยวกันในปัจจุบัน โดยมีเหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่หรือกำลังเกิดขึ้น (Present Continuous Tense) และมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Present Simple Tense)
69. Next week, my best friend’s birthday ________
(1) come (2) came (3) is coming (4) has come
ตอบ3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 48.
70. At the moment. Pam______on her new cushion.
(1) is sitting (2) will sit (3) sat (4) sits
ตอบ1 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense (s. + is/am/are + v.ing) กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะพูด ซึ่งมักจะมีคำบอกเวลาแสดงปัจจุบัน เช่น now, right now, at this/the time, at this/the moment, at present
71. Jim_______me yesterday: I_______in the Dark.
(1) saw; was walking
(2) saw; am walking
(3) sees; am walking
(4) sees; was walking
ตอบ1หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense (s. + was/were + v.ing) คู่กับ Past Simple Tense (s. + V.2) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาบเกี่ยวกัน ในอดีต โดยมีเหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ก่อน (Past Continuous Tense) และมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense) ซึ่งอาจจะมีคำเชื่อมบอกเวลาอยู่ด้วย
72. As a doe_______. a cat______past it.
(1) ate; runs (2) eats; ran (3) is eating; ran (4) was eating; ran
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกันข้อ 71.
หมายเหตุ run (v.1) —> ran (v.2) –» run (v.3)
73. At this moment, my husband to_____the radio.
(1) listens (2) listened (3) has listened (4) is listening
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 70.
74. Let’s go dancing._________?
(1) will you (2) will we (3) shall we (4) shall US
ตอบ 3 หน้า 174 – 175 ในประโยคคำถามเสริม (Question-tags ประโยคที่มีกริยาช่วยต่อท้าย ประโยค ซึ่งคั่นด้วยเครื่องหมาย comma (,)) ถ้าข้างหน้าเป็นประโยคคำสั่ง ส่วนต่อท้าย ประโยคให้ใช้ will you ? และถ้าข้างหน้าเป็นประโยคชักชวนที่ขึ้นต้นด้วย Let’s ส่วนต่อท้าย ประโยคจะใช้ shall we ?
75. If he ___go upcountry. he would tell his wife.
(1) must (2) is going to (3) has to (4) were to
ตอบ4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 30.
หน้า 132 ในประโยคแสดงเงื่อนไขแบบที่ 3 v. to be จะใช้รูป were กับประธานทุกตัว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ were to + v.1 ซึ่งมีความหมายว่า “จำเป็นต้อง” ได้ด้วย โดยมี รูปแบบโครงสร้างประโยคดังนี้
If + s. + were .to + v.1 (ไม่ผัน), s. + would /should /could /might v.1(ไม่ผัน)
Part II Vocabulary
76. James______his guests with warmth.
(1) greeted (2) dedicated (3) raised (4) overlooked
ถาม เจมส์_____แขกของเขาด้วยความอบอุ่น
ตอบ 1 (บทที่ 1 หน้า 13)
1. ทักทาย 2. อุทิศตน 3. ยกให้สูงขึ้น 4. มองข้าม
77. The result of the_____was useful to consumers who use the product.
(1) theory (2) analysis
(3) carefulness (4) examination
ถาม ผลลัพธ์ของ _____ มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่ใช้สินค้า
ตอบ 2 (บทที่ 9 หน้า 153)
1. ทฤษฎี 2. การวิเคราะห์ 3. ความระมัดระวัง 4. การสอบ
78. He had to go through many_____before being accepted as one of our staff.
(1) diseases (2) appliances
(3) treatment (4) processes
ถาม เขาต้องผ่าน______มากมายก่อนที่จะได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในคณะผู้ร่วมงานของพวกเรา
ตอบ 4 (บทที่ 3 หน้า 45)
1.โรค, เชื้อโรค 2. เครื่องมือ, เครื่องใช้ 3.การรักษา 4.กระบวนการ,ขั้นตอน
79. We can’t tell our leader_____what he should do.
(1) variously (2) precisely
(3) effectively (4) automatically
ถาม เราไม่สามารถบอกหัวหน้าของพวกเราได้______ว่าเขาควรทำอะไร
ตอบ 2 (บทที่ 1 หน้า 14)
1. ต่าง ๆ กัน 2. อย่างถูกต้อง 3. อย่างมีประสิทธิภาพ 4. โดยอัตโนมัติ
80.________is still important to Thais.
(1) Balance (2) Existence (3) Seniority (4) Fright
ถาม _______ยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อคนไทย
ตอบ 3 (บทที่ 1 หน้า 13)
1. ความสมดุล 2. การดำรงอยู่ 3. ระบบอาวุโส 4. ความหวาดกลัว
81. Jim likes to______his eyebrow when he doesn’t understand anything.
(1) place (2) nod (3) shake (4) raise
ถาม จิมชอบที่จะ______คิ้วของเขาขึ้นเมื่อเขาไม่เข้าใจอะไรก็ตาม
ตอบ 4 (บทที่ 1 หน้า 13)
1. วาง 2. พยักหน้า 3. เขย่า 4. เลิก (คิ้ว)
82. The abundance of mice is the ______that makes them good samples.
(1) test (2) factor (3) character (4) limitation
ถาม จำนวนมากมายของหนูเป็น______ที่ทำให้พวกมันเป็นตัวอย่างทดลองที่ดี
ตอบ 2 (บทที่ 10 หน้า 167)
1. การทดลอง 2. ปัจจัย 3. ลักษณะ 4. ขีดจำกัด
83. On this special _______we should visit our parents.
(1) level (2) convention (3) equal (4) occasion
ถาม ใน______พิเศษนี้ พวกเราควรไปเยี่ยมพ่อแม่ของพวกเรา
ตอบ 4 (บทที่ 5 หน้า 78)
1. ระดับ 2. ธรรมเนียม 3. สิ่งที่เท่าเทียมกัน 4. โอกาส
84. There will be a new ______park for everyone in this community.
(1) plentiful (2) remote (3) opulent (4) public
ถาม ที่นั่นจะมีสวน______ใหม่สำหรับทุกคนในชุมชนนี้
ตอบ 4 (บทที่ 3 หน้า 47)
1. มากมาย 2. ห่างไกล 3. มั่งคั่ง 4. สาธารณะ
85.SARS is not a/an______disease.
(1) native (2) inherited (3) huge (4) abominable
ถาม โรคซาร์ไม่ใช่โรคที่______
ตอบ 2 (บทที่ 2 หน้า 29)
1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. ถ่ายทอดทางพันธุกรรม 3. ใหญ่โต 4. น่ารังเกียจ
86. Jim is going to ______the story to his boss.
(1) affect (2) improve (3) control (4) report
ถาม จิมจะ______เรื่องราวไปยังหัวหน้าของเขา
ตอบ 4 (บทที่ 5 หน้า 77)
1. มีผลต่อ 2. ทำให้ดีขึ้น, แก้ไข 3. ควบคุม 4. รายงาน
87. Last night there was a_______ in this area.
(1) crime (2) scene (3) vehicle (4) treatment
ถาม เมื่อคืนมี______ ในพื้นที่นี้
ตอบ 1 (บทที่ 6 หน้า 93)
1. อาชญากรรม 2. สถานที่เกิดเหตุ 3. พาหนะ 4. การรักษา
88. You have to_____ your struggle.
(1) claim (2) continue (3) emphasize (4) cover
ถาม คุณต้อง ความพยายามของคุณต่อไป
ตอบ 2 (บทที่ 5 หน้า 78)
1. กล่าวอ้าง 2. ดำเนินต่อไป 3. ย้ำ, เน้น 4. ปกคลุม
89. He was at the ______of the accident.
(1) coincidence (2) scene (3) gift (4) offspring
ถาม เขาอยู่ที่______ของอุบัติเหตุ
ตอบ 2 (บทที่ 6 หน้า 93)
1. เหตุบังเอิญ 2. สถานที่เกิดเหตุ 3. พรสวรรค์ 4. ลูกหลาน
90. In western countries, they _____ hands as the way of greeting.
(1) hold (2) shake (3) touch (4) clean
ถาม ในประเทศตะวันตก พวกเขา_____มือกันเป็นวิธีหนึ่งของการทักทาย
ตอบ 2 (บทที่ 12 หน้า 214)
1. กุม, กำ 2. จับ 3. สัมผัส 4. ทำความสะอาด
91. Victims need urgent_____like medicines as soon as possible.
(1) belongings (2) products (3) essentials (4) stuff
ถาม ผู้เคราะห์ร้ายต้องการ______ฉุกเฉิน อย่างเช่น ยา เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ตอบ 3 (บทที 11 หน้า 179)
1. ทรัพย์สมบัติ 2. สินค้า 3. สิงที่จำเป็น 4. สิ่งของ
92. He is _______for being in the mafia.
(1) notorious (2) related (3) bereaved (4) healthy
ถาม เขา_____ในฐานะที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มมาเฟีย
ตอบ 1 (บทที่ 2 หน้า 29)
1. มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี 2. เกี่ยวข้อง 3. สูญเสีย 4. มีสุขภาพดี
93. Show me the_____. If not, I won’t believe you.
1) fright (2) reconciliation (3) evidence (4) behavior
ถาม แสดง_____ให้ฉันดู ถ้าไม่เช่นนั้น ฉันจะไม่เชื่อคุณ
ตอบ 3 (บทที่ 5 หน้า 78)
1. ความหวาดกลัว 2. การคืนดี 3. หลักฐาน 4. พฤติกรรม
94. Jim was a suspect in a______.
(1) murder (2) gift (3) power (4) distance
ถาม จิมเป็นผู้ต้องสงสัยใน________
ตอบ 1 (บทที่ 6 หน้า 92)
1. ฆาตกรรม 2. พรสวรรค์ 3. อำนาจ 4. ระยะทาง
95. The little girl got a reward for good_____from her family.
(1) behavior (2) trait (3) correctness (4) sincerity
ถาม เด็กหญิงตัวน้อยได้รับรางวัลเนื่องจาก_____ที่ดีจากครอบครัวของเธอ
ตอบ 1 (บทที่ 10 หน้า 168)
1. ความประพฤติ 2. คุณสมบัติเฉพาะ 3. ความถูกต้อง 4. ความจริงใจ
96. My sister is a chef; she has a/an_____for cooking.
(1) present (2) gift (3) intelligence (4) brain
ถาม น้องสาวของฉันเป็นเชฟ หล่อนมี_____ในด้านการทำอาหาร
ตอบ 2 (บทที่ 8 หน้า 137)
1. ของขวัญ 2. พรสวรรค์ 3. ความเฉลียวฉลาด 4. สมอง
97. Her talent in music is ______; she’s got many awards.
(1) outstanding (2) remarkable (3) huge (4) 1 & 2 are correct.
ถาม พรสวรรค์ในทางดนตรีของหล่อนนั้นช่าง______เธอได้รับรางวัลมากมาย
ตอบ 4 (บทที่ 12 หน้า 213)
1. โดดเด่น 2. โดดเด่น 3. ใหญ่โต 4. ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง
98. The ______was founded for the benefit of everybody.
(1) function (2) nomination (3) intention (4) foundation
ถาม _______ได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของทุก ๆ คน
ตอบ 4 (บทที่ 9 หน้า 153)
1. หน้าที่ 2. การแต่งตั้ง 3. ความตั้งใจ 4. มูลนิธิ
99. The writer was______for his interesting style.
(1) plentiful (2) related (3) famous (4) healthy
ถาม นักเขียน _______เพราะวิธีการเขียนที่น่าสนใจของเขา
ตอบ 3 (บทที่ 2 หน้า 29)
1. มากมาย 2. เกี่ยวข้อง 3. มีชื่อเสียง 4. มีสุขภาพดี
100. Exercise can improve_______ ability.
(1) genetic (2) body (3) physical (4) active
ถาม การออกกำลังกายสามารถทำให้ความสามารถ ______ดีขึ้น
ตอบ 3 (บทที่ 11 หน้า 179)
1. เกี่ยวกับพันธุกรรม 2. ร่างกาย 3. ทางร่างกาย 4. ว่องไว, คล่องแคล่ว
101. The cat. moving slowly,_______ at the bird on the bush.
(1) watched (2) saw (3) gazed (4) active
ถาม แมวเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ_____ไปที่นกบนพุ่มไม้
ตอบ 3 (บทที่ 8 หน้า 138)
1. เฝ้า, ดู 2. เห็น 3. จ้อง, เพ่งมอง 4. ทำให้แน่น, ติด
102. His thesis ______all the main points.
(1) claimed (2) covered (3) continued (4) convinced
ถาม วิทยานิพนธ์ของเขา _______ประเด็นสำคัญทั้งหมด
ตอบ 2 (บทที่ 5 หน้า 77)
1. กล่าวอ้าง 2. ครอบคลุม 3. ดำเนินต่อไป 4. ทำให้เชื่อ
103. That old lady _____the boy who unintentionally hurt her.
(1) swore (2) started (3) forgave (4) refused
ถาม หญิงชราคนนั้น_____เด็กชายที่ทำให้หล่อนบาดเจ็บโดยไม่เจตนา
ตอบ 3 (บทที่ 9 หน้า 154)
1. สาปแช่ง 2. เริ่ม, เริ่มต้น 3. ให้อภัย 4. ปฏิเสธ
104. Runners try to_____their technique of running.
(1) check (2) control (3) develop (4) show up
ถาม นักวิ่งแข่งพยายามที่จะ_____เทคนิคในการวิ่งของพวกเขา
ตอบ 3 (บทที่ 7 หน้า 118)
1. ตรวจสอบ 2. ควบคุม 3. พัฒนา 4. ปรากฏ, แสดงตัว
105. The letter was wrongly_____and caused a lot of trouble.
(1) inspired (2) arranged (3) construed (4) renovated
ถาม จดหมายได้รับการ_____อย่างไม่ถูกต้องและทำให้เกิดปัญหามากมาย
ตอบ 3 (บทที่ 8 หน้า 138)
1. ดลใจ 2. จัดการ 3. ตีความ 4. ปรับปรุงใหม่
106. This old castle, famous for its _____about ghosts, interests tourists.
(1) story (2) play (3) news (4) legend
ถาม ปราสาทเก่าหลังนี้มีชื่อเสียงในเรื่อง_____เกี่ยวกับภูตผีซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสนใจ
ตอบ 4 (บทที่ 9 หน้า 154)
1. เรื่องราว 2. ละคร 3. ข่าว 4. ตำนาน
107. Her dress was not_____for the grand party.
(1) suitable (2) correct (3) appropriate (4) All are correct.
ถาม ชุดของหล่อนไม่____สำหรับงานเลี้ยงที่หรูหรา
ตอบ 4 (บทที่ 10 หน้า 168)
1. เหมาะสม 2. เหมาะลม 3. เหมาะสม 4. ถูกทุกข้อ
108. People who are clever may not be sincere.
(1) smart (2) pointed (3) beautiful (4) genius
ถาม คนที่ฉลาดอาจจะไม่จริงใจ
ตอบ 1 (บทที่ 8 หน้า 137)
1. ฉลาด 2. ขี้ 3. สวยงาม 4. อัจฉริยะบุคคล
109. Rice fields are plentiful in the central region of Thailand.
(1) abundant (2) plenty (3) in great supply (4) All are correct.
ถาม นาข้าวมีจำนวนมากในภาคกลางของประเทศไทย
ตอบ 4 (บทที่ 7 หน้า 117)
1. มากมาย 2. มากมาย 3. มากมาย 4. ถูกทุกข้อ
110. Tigers are wild beasts.
(1) creatures (2) evidences (3) occasions (4) expeditions
ถาม เสือเป็นสัตว์ที่ดุร้าย
ตอบ 1 (บทที่ 5 หน้า 77)
1. สัตว์โลก 2. หลักฐาน 3. โอกาส 4. การเดินทาง
111. The political situation in Thailand now is very complex.
(1) difficult (2) estimated (3) complicated (4) profitable
ถาม สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยในขณะนี้ยุ่งยากมาก
ตอบ 3 (บทที่ 11 หน้า 179)
1. ยาก, ลำบาก 2. ประมาณ 3. ยุ่งยาก, ซับซ้อน 4. ที่มีกำไร
112. Her ability in singing is awesome.
(1) impressive (2) prosperous (3) wonder (4) surprised
ถาบ ความสามารถในการร้องเพลงของหล่อนนั้นดีเยี่ยม
ตอบ 1 (บทที่ 12 หน้า 214)
1. ดีเยี่ยม 2. เจริญ, รุ่งเรื่อง 3. สงสัย 4. รู้สึกประหลาดใจ
113. The company has established the fund for helping poor employees.
(1) made up (2) showed (3) set up (4) found
ถาม บริษัทได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานที่ยากจน
ตอบ 3 (บทที่ 10 หน้า 168)
1. สร้างขึ้น 2. แสดง 3. ก่อตั้ง, ตั้ง 4. ค้นพบ
114. Animal flesh is difficult to digest.
(1) evidence (2) expedition (3) beast (4) meat
ถาม เนื้อสัตว์ยากแก่การย่อย
ตอบ 4 (บทที่ 4 หน้า 57)
1. หลักฐาน 2. การเดินทาง 3. สัตว์โลก 4. เนื้อ
115. During these recent years, he has been working hard.
1) current (2) elderly (3) public (4) lower
ถาม ในระยะไม่กี่ปีเมื่อไม่นานมานี้ เขาทำงานหนัก
ตอบ 1 (บทที่ 3 หน้า 46)
1. เมื่อไม่นาน 2. มีอายุ 3. สาธารณะ 4. ลดลง
116. In the next ten years, water will be scarce.
(1) secure (2) dangerous (3) affected (4) insufficient
ถาม ในระยะอีกสิบปีข้างหน้า น้ำจะขาดแคลน
ตอบ 4 (บทที่ 7 หน้า 117)
1. ปลอดภัย 2. อันตราย 3. มีผลต่อ 4. หายาก, ขาดแคลน
117. The victim was sent to the hospital.
(1) sufferer (2) . neighbor (3) activity (4) connection
ถาม ผู้เคราะห์ร้ายถูกส่งตัวโปยังโรงพยาบาล
ตอบ 1 (บทที่ 6 หน้า 93)
1. เหยื่อ, ผู้เคราะห์ร้าย 2. เพื่อนบ้าน 3. กิจกรรม 4. ความเกี่ยวข้อง
118. Forests are a great boon to human beings.
(1) flesh (2) advantage (3) garnish (4) variation
ถาม ป่าไม้เป็นข้อดีที่ยิ่งใหญ่ต่อความเป็นมนุษย์
ตอบ 2 (บทที่ 4 หน้า 58)
1. เนื้อ 2. ข้อดี, ข้อได้เปรียบ 3. สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร 4. ความหลากหลาย
119. We are pleased to welcome you to our country.
(1) wonder (2) delighted (3) glad (4) surprised
ถาม พวกเรารู้สึกยินดีในการต้อนรับคุณสู่ประเทศของเรา
ตอบ 2 (บทที่ 12 หน้า 213)
1. สงสัย 2. พอใจ, ถูกใจ 3. ดีใจ 4. รู้สึกประหลาดใจ
120. The crowd applauded as the football team walked into the hall.
(1) shouted (2) roared (3) cheered (4) smiled
ถาม ฝูงชนโห่ร้องขณะที่ทีมฟุตบอลเดินผ่านไปยังห้องโถง
ตอบ 3 (บทที่ 12 หน้า 214)
1. ตะโกน 2. คำราม 3. โห่ร้อง 4. ยิ้ม
Advertisement
[Update] สรุปให้แล้ว! through tough thorough thought though เขียนคล้ายจนตาลายแต่ความหมายต่าง | though ท้ายประโยค – NATAVIGUIDES
“English can be weird. It can be understood
through tough thorough thought, though.”
สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D ทุกคน มีใครอ่านเจ้าประโยคด้านบนได้บ้างไหมคะ? สารภาพเลยว่าครั้งแรกที่อ่าน พี่ปลื้มนี่ลิ้นพันกันไปหมดแล้ว แถมยังขมวดคิ้วไล่ดูทีละคำว่าเอ๊ะ! ความหมายต่างกันยังไงนะ สรุปก็คืองงกับศัพท์เซ็ตนี้มากค่ะ 5555 แต่น้องๆ ไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้พี่ได้รวบรวมวิธีออกเสียง รวมถึงความหมายมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ (แถมมีมากกว่าคำด้านบนด้วย) มาเช็กกันเถอะว่าน้องๆ ใช้คำไหนถูกบ้าง
Photo credit: Language Memes/www.reddit.com
ก่อนที่เราจะแยกไปดูแต่ละคำ พี่อยากให้น้องๆ มาดูเรื่องการออกเสียง /th/ ก่อนค่ะ เพื่อเพิ่มความเข้าใจมากขึ้น วิธีการอ่าน /th/ ที่ถูกต้องเราจะต้องเอาลิ้นมาแทรกระหว่างฟันบนกับล่าง (อย่ากัดลิ้นนะคะ) แล้วค่อยออกเสียง ใครกลัวออกเสียงผิดไม่เป็นไรค่ะ เพราะพี่เอาวิธีการที่ถูกต้องจาก youtube ช่อง mmmEnglish มาให้น้องๆ ได้ลองฝึกตามเรียบร้อยแล้วค่ะ
ทีนี้พอเข้าใจกับเสียง /th/ บ้างแล้ว เราก็ไปลุยกันต่อเล้ยยย
Tough vs. Though
แค่เติม h เสียงเปลี่ยน ความหมายเปลี่ยน!
Tough (adj.) แข็งแรง/ทน/โหด
Tough อ่านว่า ‘ทัฟ’ (tuff) ทำหน้าที่เป็น Adjective นอกจากแปลตามความหมายด้านบนได้แล้วยังสามารถแปลได้อีกหลายความหมาย ขึ้นอยู่กับบริบทของประโยคค่ะ เช่น
tough (แข็งแกร่ง)
ตัวอย่างประโยค:
- A is a
tough
guy. He is a great fighter.
เอเป็นคนแข็งแกร่ง เขาเป็นนักสู้ที่ดี
tough (ยุ่งยาก)
ตัวอย่างประโยค:
- I know things are
tough
right now but you’ll pull through.
ฉันรู้ว่าตอนนี้เรื่องต่างๆ กำลังยุ่งยาก แต่คุณจะผ่านมันไปได้
tough (ดุ/ใจร้าย)
ตัวอย่างประโยค:
- I’m sorry that I had a bit
tough
on you.
ฉันขอโทษที่ฉันใจร้ายกับเธอไปหน่อย
Note: พี่ขอแนะนำให้ท่องคำศัพท์ที่หน้าตาคล้ายๆ กันเอาไว้ จะช่วยให้น้องๆ จำได้ง่าย และไม่สับสนเวลาออกเสียงนะคะ ยกตัวอย่างคำ เช่น
– rough (รัฟ) ขรุขระ, ไม่เรียบ, ไม่เป็นระเบียบ
– enough (อีนัฟ’) เพียงพอ
– slough (สะ’รัฟ) คราบ, ลอกคราบ
Though (conj.) แม้ว่า/แต่
คำต่อมาเกิดจากเอาตัว h มาแทรก คำว่า Tough เลยอ่านว่า ‘โด’ (tho) ในภาษาแชตจะเห็นย่อเหลือแค่ tho ทำหน้าที่เป็น Conjunction หรือคำเชื่อม เราจะใช้กับประโยคที่มีใจความขัดกัน ซึ่งมีความหมาย 2 แบบค่ะ
Though (แม้ว่า, ถึงแม้ว่า, ทั้งๆ ที่) บางคนสงสัยว่า อ้าว! มันต่างกับ although และ even though ยังไง? คำตอบคือไม่ต่างค่ะ สามารถใช้แทนกันได้ทั้ง 3 ตัวเลย
ตัวอย่างประโยค:
- He failed the exam,
though/although/even though
he tried really hard.
เขาสอบตก ทั้งๆ ที่เขาพยายามอย่างหนัก -
Though/Although/Even though
he was tired, he worked.
แม้ว่าเขาจะเหนื่อย เขาก็ยังทำงาน
Though (แต่) เจ้าตัวนี้สามารถห้อยไว้ท้ายสุดของประโยคได้ค่ะ แต่นิยมใช้ในภาษาพูดมากกว่า
ตัวอย่างประโยค:
- I think he is Thai. I am not sure
though
.
ฉันคิดว่าเขาเป็นคนไทย แต่ฉันก็ไม่มั่นใจนะ - I hate you. I love you,
though
!
ฉันเกลียดเธอ แต่ฉันก็รักเธอนะ!
Note: Though สามารถวางไว้หลังประโยคได้แค่ตัวเดียวนะคะ although กับ even though ไม่สามารถใช้ได้ค่ะ
สรุปย้ำอีกรอบ
Tough อ่านว่า ทัฟ มีความหมายว่า แข็งแรง/ทน/โหด
Though อ่านว่า โด มีความหมายว่า แม้ว่า/แต่ และเป็นคำใช้เชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน
Via Giphy
Through vs Throughout vs Thorough
แฝดสามสนามปราบเซียน!
Through (perp.) ผ่าน/ทะลุ
คำนี้อ่านว่า ‘ธรู’ (throo) ค่ะ เกิดจากการเอา r ไปแทรกคำว่า though เป็นอีกคำที่พี่คิดว่าน้องๆ น่าจะเห็นบ่อยผ่านการซื้อของแบบ Drivethru (Drive-through) ที่เราสามารถขับรถผ่านไปรับของได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องลงจากรถ เพราะฉะนั้น Drive คือขับ ส่วน through ก็ต้องแปลว่า ผ่านไป, ทะลุจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง นั่นเองค่ะ
คำนี้ทำหน้าที่เป็น preposition (คำบุพบทไว้ใช้เชื่อมคำ) ฉะนั้นด้านหน้าต้องมีกริยาหรือ Verb อยู่ก่อนนะคะ ซึ่งเมื่อมี Verb อยู่ด้านหน้าแล้วคำแปลก็อาจจะแปลต่างไปจากเดิมค่ะ ดูจากบริบท เช่น
Through (ผ่าน, ทะลุ)
ตัวอย่างประโยค:
- The sun is
shining through
the window.
ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสงผ่านมาทางหน้าต่าง - A man tried to
drive
his car
through
the crowd.
ชายคนหนึ่งพยายามขับรถฝ่าฝูงชน
Through (ตลอด, จาก…ถึง, ผ่านพ้น)
ตัวอย่างประโยค:
- I
study
Chinese Tuesday
through
Sunday
ฉันเรียนภาษาจีน จากวันอังคารถึงวันอาทิตย์ - B
shows
her bags
through
the internet.
บีโชว์กระเป๋าของเธอผ่านอินเตอร์เน็ต
Through (ฝ่าฟันให้ผ่านไป, ผ่านเข้ามา, ผ่านไป)
ตัวอย่างประโยค:
- We’ll
get through
today!
พวกเราจะผ่านวันนี้ไปให้ได้! - Excuse me. May I
get through
?
ขอโทษนะครับ/คะ ฉันขอผ่านทางนี้ได้ไหม?
Via Giphy
Throughout (prep./adv.) โดยตลอด/ทั่วทุกที่
คำนี้เอา Through + out ค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะอ่านว่า ‘ธรู’เอ้าท์’ (throo-out) แยกการใช้ได้เป็น 2 แบบค่ะ
Throughout (prep.) ทุกส่วน, ตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวอย่างประโยค:
- They searched
throughout
the house
พวกเขาค้นหาทั่วทุกที่ในบ้าน - The rumor is abroad
throughout
the town.
ข่าวลือนี้ลือกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว - He was bored
throughout
the game.
เขารู้สึกเบื่อตั้งแต่ต้นเกมจนจบเกม
Throughout (adv.) โดยตลอด, ทุกเวลา, ทั้งหมด
ตัวอย่างประโยค:
- She cried
throughout
the night.
เธอร้องไห้ตลอดทั้งคืน - A traveled
throughout
the land.
เอเดินทางไปทั่วทุกที่
Thorough (adj.) อย่างละเอียด/ถี่ถ้วน
เอาล่ะค่ะ มาถึงคำสุดท้ายที่ออกเสียงยากอีกคำนึงเลย ออกเสียงแยก tho-rough แต่จะไม่ออกเป็น โธรัฟ นะคะ คำนี้ออกเสียงเป็น ‘เธอ’โร’ (ther-o) ค่ะ //อย่าเพิ่งกำหมัดนะคะ5555 มาดูตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ
ตัวอย่างประโยค:
- If he is lying, he’s being
thorough
about it.
ถ้าเขากำลังโกหก เขาก็คงทำมันได้ละเอียดมาก (หรือโกหกเนียนมากนั่นเอง) - Our hypothesis is based on
thorough
experiments.
สมมติฐานของเราขึ้นอยู่กับการทดลองอย่างละเอียด - Have you ever had a
thorough
examination before?
คุณเคยได้รับการตรวจอย่างจริงจังมาก่อนหรือเปล่า
สรุปย้ำอีกรอบ
Through อ่านว่า ธรู มีความหมายว่า ผ่าน/ทะลุ
Throughout อ่านว่า ธรู’เอ้าท์ มีความหมายว่า โดยตลอด/ทั่วทุกที่
Thorough อ่านว่า เธอ’โร มีความหมายว่า อย่างละเอียด/ถี่ถ้วน
Via Giphy
Taught กับ Thought เสียงคล้ายแต่ความหมายต่างสุดขั้ว!
Taught (v.) สอน
มาที่คำว่า Taught อ่านว่า ‘ทอท’ (tot) คำนี้ทำหน้าที่เป็น Past Simple (v.2) กับ Past Participle (v.3) ของคำว่า Teach ที่แปลว่า สอน
Tip: ตัวสระ au จะออกเสียงสระออ เช่นคำว่า Fault, Sauce, Naughty
ตัวอย่างประโยค (Past Simple) :
- She
taught
me how to spell the word.
เธอเคยสอนฉันเรื่องวิธีการสะกดคำ
ตัวอย่างประโยค (Past Participle) :
- She has
taught
me how to spell the word.
เธอสอนฉันเรื่องวิธีการสะกดคำ (ตอนนี้ก็ยังสอนอยู่)
Thought (v./n.) คิด
Thought อ่านว่า ‘ธอท’ (thot) คำนี้ก็มาจาก though (แม้ว่า) แล้วเติมตัว t ลงท้ายนั่นเองค่ะ ทำหน้าที่เป็น Past Simpleกับ Past Participle ของคำว่า Think ที่แปลว่า คิด
Thought (v.) มาดูในกรณีทำหน้าที่เป็น verb กันก่อนค่ะ บางคนงงว่าเมื่อไหร่ต้อง thought ล่ะเนี่ย ง่ายๆ เลยคือเราจะใช้ thought ก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่เราเคยคิดว่าจะเป็นแบบโน้นแบบนี้แต่มันดันไม่ใช่ค่ะ และเราก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วด้วยในปัจจุบัน
ตัวอย่างประโยค:
- I
thought
he liked me.
ฉันเคยคิดว่าเขาชอบฉัน (แต่มารู้ความจริงว่าคิดไปเองคนเดียว) - She
thought
she could pass this exam.
เธอคิดว่าเธอจะทำข้อสอบนี้ผ่าน (แต่ความจริงแล้วไม่ผ่าน)
Thought (n.) เป็นคำนาม แปลว่า ความคิด ค่ะ
ตัวอย่างประโยค:
สมมุติว่ามีคนมาเสนอไอเดียบางอย่างแล้วเราชอบ เราก็พูดไปว่า
- Your
thought
is not bad. Not a few people had that
thought
.
ความคิดของเธอไม่เลวเลย มีแค่ไม่กี่คนเองนะที่มีความคิดแบบนั้น
สรุปย้ำอีกรอบ
Taught อ่านว่า ทอท เป็น v.2 และ v.3 ของ Teach มีความหมายว่า สอน
Thought อ่านว่า ธอท (เสียง th) เป็น v.2 และ v.3 ของ Think มีความหมายว่า คิด หรือ ความคิดค่ะ
Via Giphy
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเซ็ตคำศัพท์ชวนงงเซ็ตนี้ ใครอ่านถูกหรือแปลถูกกี่คำบ้างเอ่ย ส่วนใครที่ยังสับสนว่าคำศัพท์คำนี้อ่านแบบนี้จริงไหมนะ พี่แนบ youtube จากช่อง Chris the English Teacher มาให้ลองฟังที่ด้านล่างแล้วค่ะ
ก่อนจบบทความนี้ เรามาอ่านและลองแปลกันอีกสักรอบค่ะ เริ่ม! “English can be weird. It can be understood through tough thorough thought, though.”
“แม้ภาษาอังกฤษจะดูประหลาด แต่ก็สามารถเข้าใจได้ด้วยการคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน” ทุกคนเห็นด้วยกับประโยคนี้ไหมคะ ^^?
สุดท้ายแล้วถ้าน้องๆ มีเซ็ตคำศัพท์ไหนที่สับสน หรือน่าสนใจ สามารถเอามาแชร์กันได้นะคะ พี่จะรออ่านเลย! สำหรับวันนี้พี่ปลื้มต้องขอโบกมือลาไปก่อน เจอกันบทความหน้าค่ะ บ๊ายบายยย
Sources :- data
Although, Though, Even Though [Advanced English Vocabulary]
In this video, learn how to use \”even though\” \”although\” and \”though\” so you can improve your advanced English vocabulary and sound fluent in English.
\”Even though\” \”although\” and \”though\” are all used as transition words to show contrast between two ideas. You can think of them as formal versions of \”but\”.
\”even though\” \”although\” and \”though\” have the same meaning. \”Although\” is the most formal, followed by \”even though\” and then \”though\”.
\”Even though\” \”although\” and \”though\” also have the same sentence structure. They can be used at the beginning of a sentence or in the middle of the sentence.
\”Though\” can also be used at the end of a sentence. This is done conversationally and is very common in real English by native English speakers.
You’ll feel confident using \”even though\” \”although\” and \”though\” by the end of this lesson.
Watch the lesson now…
Please subscribe for more videos to help you learn English and sound like a native English speaker!
Let’s Connect:
Facebook Page: https://www.facebook.com/JForrestEnglish
Twitter: https://twitter.com/JForrestEnglish
LinkedIn: https://www.linkedin.com/in/jenniferforrest
Website: http://www.jforrestenglish.com/
Free Speaking Guide How To Speak English Fluently and Confidently in 6 Easy Steps.
https://jforrestenglish.com/freeguide/
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
ครั้งสุดท้าย/สบู่ | นนท์ ธนนท์ [ SingสิBro EP 2 ]
nonttanont nontfam
SingสิBro : Recorded LIVE at Spoonful Zakka Cafe
IG: spoonfulzakkacafe
ผมเห็นนนท์มาตั้งแต่วันแรกในรายการ The Voice จนถึงวันนี้ผ่านมา 8 ปีแล้วนะ
แอบได้เจอนนท์บ้าง ได้ฟังเพลงของนนท์ ได้ดูโชว์ของนนท์บ้างตามวาระต่างๆ
ก็รู้สึกเหมือนกับที่หลายๆคนรู้สึกครับว่าเด็กคนนี้เก่งจริงๆ
เราเคาะเพลงนี้กันหน้างานแล้วนนท์ก็แจมเพลงนี้กับเจนมือเปียโนเลย
ไปฟังความร้ายกาจของเขากันครับ
ครั้งสุดท้าย | นนท์ ธนนท์
Piano Janpat Montrelerdrasme
Mixed Wutrock
Camera team
Niti Wangsaroj
Chutipat Thiapairat
Nutthapat Kulariyawong
Wasu Buapet
Though,Tho ท้ายประโยค คืออะไร ใช้ยังไง | 4 วิธี การใช้ Tho ง่ายๆ | ภาษาอังกฤษหยาบๆ EP 48
Though หรือ tho ที่ฝรั่งใช้กันมันใช้ยังไง คำว่า Though เห็นกันบ่อยมากในหนังหรือในแชท หลายคนก็ยังไง งงอยู่ วันนี้วิดีโอนี้ อธิบายง่ายๆฟังแล้วเข้าใจเลย ไม่ต้อง งง กันอีกต่อไป นำไปใช้เก๋ๆ แบบฝรั่งเลยค่ะ ถ้าเข้าใจหลักการใช้ง่ายๆนี้อย่าลืมคอมเม้นบอกด้วยน้า
วิดีโอนี้จัดทำขึ้นเพื่อความบันเทิงและการศึกษาเท่านั้น หากมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ควรมีผู้ปกครองชมอยู่ด้วย
Like share comment subscribe
IG: turktk
FB: it’s English
tiktok: turk_tk
ภาษาอังกฤษหยาบๆ สายฝอ tho though การใช้tho
เคยได้ยินไหม ทำไมฝรั่งชอบ (พูด) \”though\” ท้ายประโยค I Kru Oat Channel
นั่นนะสิ ทำไม ฝรั่งชอบพูด โด่ ท้ายประโยค ไม่สุภาพเลย เอ้ย ไม่ใช่แระ \”though\” ตัวนี้ มีวิธีใช้ในบทสนทนา อย่ารอช้า รีบไปดูกันเร็ว 🙂
เรียนภาษาอังกฤษ แบบสนุกๆ กับครูโอ๊ต ชาแนลกันครับ
สนใจติดต่องานสอน งานบรรยาย วิทยากร พิธีกรสองภาษา
Contact: 0989234554 (Work Only)
Email: [email protected]
English KruOat though
Though and Although l ENGLISH Level up เติมพลังอังกฤษ (12 ธ.ค. 63)
วันนี้ครูพี่นุ่นกับครูพี่แนทจะมาชวนน้อง ๆ มารู้จักกับการใช้ Though แปลว่าแต่หรือแม้ว่า ใช้แสดงความขัดแย้งของประโยคและ Although และตำแหน่งการใช้ though ที่เป็นคำเชื่อมหรือ conjunction ส่วนตัวอย่างของ although ที่วางไว้กลางประโยค เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นและเทคนิคต่าง ๆ ไปเรียนรู้กับครูพี่แนทและครูพี่นุ่นกันเลย
ติดตามชมรายการ ENGLISH Level up เติมพลังอังกฤษ ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 11.00 11.30 น. ทาง ALTV ทีวีเรียนสนุก ช่องหมายเลข 4
📌 รับชมได้ทาง ENGLISHLevelup ALTV ช่อง4ทีวีเรียนสนุก ช่องหมายเลข4
หรือรับชมทางออนไลน์
Website: http://www.ALTV.tv
YouTube : http://www.youtube.com/ALTV4
Facebook : http://www.fb.com/ALTV4
เพิ่มเพื่อนทาง LINE : http://www.ALTV.tv/AddLINE
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ though ท้ายประโยค